จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    [​IMG]

    มหัศจรรย์แห่งพระบุพพาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    "กำลังใจ"

    ประมาณ พ.ศ. ๒๔๘๗ เป็นปีที่คณะเสรีไทยกำลังโด่งดังมาก บ้านหนองผือก็เป็นอีกแห่งที่คณะเสรีไทยเข้าไปตั้งค่าย เพื่อฝึกอบรมคณะครูและประชาชนชายหนุ่ม ให้ไปเป็นกองกำลังทหารต่อสู้ขับไล่ทหารญี่ปุ่น คุณครูหนูไทย สุพลวานิช เป็นผู้หนึ่งที่ถูกเกณฑ์ให้ไปฝึกอบรมในค่ายนี้ ท่านเกิดที่บ้านหนองผือนี่เอง เป็นธรรมดาสัญชาตญาณของคนเรา เมื่อตกอยู่ในภาวะเหตุการณ์เช่นนี้ จึงทำให้แสวงหาสิ่งพึ่งพิงทางใจยามคับขัน ช่วงเวลาว่างจากการฝึกก็นั่งพักผ่อนพูดคุยสรวลเสเฮฮากับหมู่เพื่อน จนกระทั่งมาถึงเรื่องของดีของขลังของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะมาถึงตัว มีเพื่อนคนหนึ่งในจำนวนนั้นได้พูดขึ้นว่า “ ท่านพระอาจารย์ใหญ่ ในวัดป่าบ้านหนองผือ ทราบข่าวว่าท่านเป็นพระดีองค์หนึ่ง พวกเราจะไม่ลองไปขอของดีกับท่านดูบ้างหรือ ” ด้วยคำพูดของเพื่อนทำให้คุณครูหนูไทยนำไปคิดเป็นการบ้าน วันต่อมาคุณครูหนูไทยหาแผ่นทองมาได้แผ่นหนึ่ง มาตัดเป็นสี่แผ่นเล็กๆวางใส่จานขันธ์ห้า แล้วให้โยมผู้เฒ่าทายกวัดที่เป็นญาติซึ่งไปจังหันตอนเช้านำแผ่นทองไปถวายหลวงปู่มั่น เพื่อให้ท่านทำหลอดยันต์ให้แต่โยมผู้ที่นำแผ่นทองไปนั้นไม่กล้าเข้าไปหาพระอาจารย์มั่นโดยตรง จึงให้พระอุปัฏฐากเข้าไปลองถามท่านดูก่อนท่านพระอาจารย์มั่นได้ตอบว่า “เขาอยากได้กะเฮ็ดให้เขา” รออยู่ประมาณสามวันพระอุปัฏฐากก็นำหลอดยันต์นั้นมาให้

    วันหนึ่ง คุณครูหนูไทยเห็นเพื่อนสามถึงสี่คนกำลังทำอะไรกันอยู่ข้างสนามจึงเดินไปดู เห็นพวกเขากำลังทดลองจะยิงเขี้ยวหมูตันด้วยอาวุธปืน เมื่อเขาทดลองยิงแล้วปรากฏว่า เขี้ยวหมูตันซึ่งถือว่าเป็นของขลังและศักสิทธิ์นั้นแตกกระจายไปคนละทิศละทางเพื่อนคนที่เป็นเจ้าของเขี้ยวหมูตันนั้นหน้าถอดสีไปหมดเพื่อนๆจึงหันมาถามคุณครูหนูไทยว่า “ มีของดีอะไร มาลองบ้างเพื่อน ” คุณครูหนูไทยจึงตอบไปว่า “ มีอยู่ ” เพื่อนจึงเอามือล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อของคุณครูหนูไทยวัตถุสิ่งนั้นจึงติดมือเพื่อนคนนั้นไป เขาก็นำตะกรุดยันต์นั้นไปวางไว้ระยะห่างประมาณ ๓-๔ วา แล้วยกปืนเล็งไปที่ตะกรุดนั้นเพื่อนทุกคนที่อยู่ที่นั่นเงียบกริบ ต่างคนก็ต่างเอาใจไปจดจ่อที่จุดเดียวกัน สักครู่คนยิงจึงเหนี่ยวไกปืนเสียงดัง “ แชะ แชะ ” แต่ไม่ระเบิด ทั้งหมดที่อยู่ที่นั่นต่างตกตะลึง ครั้งที่สามเขาลองหันปลายกระบอกปืนขึ้นฟ้าแล้วลองเหนี่ยวไกอีกครั้งปรากฎว่าเสียงปืนกระบอกนั้นดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ

    ภายหลังต่อมามีคนทราบข่าวจึงไปขอกับพระอาจารย์มั่นที่วัดต่อมาไม่นานพระอาจารย์มั่นคงเห็นว่ามากจนเกินไปท่านจึงบอกว่า สงครามเขาจะสงบแล้วไม่ต้องเอาก็ได้ ของเหล่านี้เป็นของภายนอกสู้เอาคาถาบทนี้ไปบริกรรมไม่ได้ให้บริกรรมทุกเช้าค่ำจนขึ้นใจ แล้วจะปลอดภัย อันตรายต่างๆจะไม่มากล้ำกรายตัวเราได้เลยคาถาบทนั้นมีดังนี้ “ นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา ”

    ที่มา : จากหนังสือบูรพาจารย์ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
    ลูกขอน้อมกราบหลวงปู่ด้วยเศียรเกล้าคะ
     
  2. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    เอามาฝาก "คนน่ารัก" แถวนี้ :)

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2013
  3. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    สติเป็นธรรมเครื่องตื่นอยู่ในโลก​

    สติ แปลว่า ความระลึกได้ เป็นเครื่องเตือนใจให้ตื่นอยู่เสมอในการกระทําทั้งหมด บุคคลผู้มีสติเป็นผู้ตื่นตัวอยู่เสมอ...ทําอะไรก็ไม่ผิดพลาด เพราะมีสติคอยเตือนให้ตื่นอยู่เสมอ คือ เตือนให้ทําแต่สิ่งดีที่มีประโยนช์ ไม่ให้ผิดพลาดไปในที่ชั่วเสื่ิอมเสียได้ ดังนั้นบุคคลผู้มีสติจึงประสบแต่สิ่งดีที่มีประโยนช์เสมอ...และจะได้รับความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม เมื่อเจริญสติอยู่แล้วไม่ว่าการงานทางโลกหรือทางธรรมก็จะบรรลุผลได้และจะเจอแต่สุขนั้นเอง...
    ที่มาหนังสือ นักธรรมและธรรมศึกษา
     
  4. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอโมทนาสาธุกับคุณเพ็ญUKด้วยครับ ที่นำรูปหลวงปู่มั่นฯมาลง
    ลูกและคนในกระทู้นี้ ขอน้อมจิตก้มกราบแทบเท้าหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ด้วยเศียรเกล้า..สาธุๆๆ
    _/l\_ _/l\_ _/l\_

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มีนาคม 2013
  5. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    เอามาฝาก "คนน่ารัก" แถวนี้ :)
    เอามาฝาก "คนน่ารัก" แถวนี้ :) เหมือนกันฯ
    ตกลงคนน่ารัก(แถวนี้)ของเธอ ใครเหยอ!


    ปื๊ดดด เอ๊ย..ป๊าดดดๆๆๆๆๆ มีด้วยหรอนี่! คนที่น่ารักตามหลักพระพุทธศาสนา
    ไปขุดที่ไหนมาจ๊ะเนี๊ย!
    พี่ภูไม่มีเลยสักข้อ แต่ถ้าน่ารักจริงๆนะ คนที่เคยรักกัน ห่วงใยกัน(อดีต)
    ไม่มาทิ้งลอยแพกันหรอก..อิอิ หรือว่าเราไปขัดใจ
    เอ๊ยมีด้วยหรอ เป็นถึงอริยบุคคล ยังมีคำว่าพอใจ ไม่พอใจ? (ขอโทษนะตะเอง)
    เห็นมีแต่คุณพี่พอใจ นามสกุล..น่าร๊ากกที่ซู๊ดดด..อิอิ

    นี่ไงเล่า! สงสัยข้อนี้แน่ๆ คือ พูดมากจนเขาเบื่อ..อิอิ
    ...ว่ามั๊ยน้องดาวของพี่ไคร้!
    (วันนี้และวันหน้าพี่ภูจะแก้ไขตนเองให้ดีกว่านี้นะจ๊ะๆๆ)

    หมู่นี้ ถ้ำใคร ถ้ำมันเลยนะ
    ไม่ค่อยจะออกมาเพ่นพ่านเหมือนแต่ก่อนแร๊ะ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มีนาคม 2013
  6. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    เว้นวรรค แกรนด์ พรรณวรท
    https://www.youtube.com/watch?v=oyfuQ5yCxmw
    มาแร๊ะ เพลงคั่นรายการ "ธรรมะ"

    NO NO NO !!!นะยังก่อน ยังรักใครได้ลำบาก
    (เพลงนะ ฟังเฉยๆ อย่าเพิ่งเม้า)

    ปล.ผู้ปฎิบัติธรรมก็ฟังเพลงได้นะ ฟังจบแล้ว ก็วางตรงนั้น วางเดี๋ยวนั้น
    ห้ามนำไปปรุงแต่ง เดี๋ยวฟุ้งซ่าน ผลลัพธ์ก็คือ ทุกข์
    อย่าฟังเฉยๆ หรือบิ้วไปตามอารมณ์ อันนั้นเสร็จแน่ คือสอบไม่ผ่านนะ
    แต่ถ้าจิตผู้ใดเป็นอริยบุคคล เขาจะทราบทันที เอาให้ต่างจิตปุถุชนหน่อย
    ฝากกันแค่นี้ก่อน ผลัดกันเตือนนะ แล้วก็อย่าลืมมาเตือนพี่ภูบ้างนะ..
     
  7. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089

    ธรรมชาติ พุทธจิตลูกนี้ของจริง กายขันธ์ห้า ร่างกายนี้ของปลอม ลูกรักเอย อย่าห่วงใย ในกายปลอม อย่าเศร้าหมองหลงรักใคร ตายแน่นอน จิตสดชื่นเบิกบานเป็นนิพพานแน่ จิตเดิมแท้ จิตพุทธะนั่น จิตสดชื่นกว่าสวรรค์ จิตอันใดไม่เทียบทัน จิตพระอรหันต์เป้นสุขจริง เมื่อไหร่หนอใจลูกงาม แสงทิพย์นิพพานสาดส่อง ภาวนาคุณพระคุ้มครอง นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ อวิชชา ตัญญาก่อนนั้น ไม่มี จิตลูกนี้งามสดใสใจแก้ว งามเพริดแพร้วพรรณราย ใจพุทธะ จิตอริยะ พระนิพพานไม่นานเกินรอ ลูกรักเอย พ่อไม่เคยทอดทิ้งเจ้า ลูกอย่าหลงกายเราเขาเชื่อพ่อ กายเหม็นเน่าสกปรกไม่งดงาม จิตลูกตามพระพุทธองค์ตรงนิพพาน เมื่อจิตลูกงามมีนิพพานอยู่ จิตผู้รู้ ผู้เบิกบาน ผู้ตื่น ให้ลูกนั้นภาวนา จิตบางเบา มีปัญญา งามยิ่งแล้ว จิตนิพพาน เมื่อใดหนอใจลูกดี พุทธบารมีคลุมใจ แผ่เมตตาไป นะมะพะธะ คุณพระสัมปะจิตฉามิ จิตอริยะไม่มีมานะทิฏฐิ มีเมตตาอุเบกขาเต็มเปี่ยม ไม่สงสัยในนิพพาน ไม่หลงไหล ไม่กลัวตาย จิตสบายไปนิพพาน
     
  8. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089

    ล้านถ้อยคำเตือน พุทธาพร่ำบอก เจ้าอาจมองเพียง ละครเท่านั้นชี้บอกวิธี มากมาย ทางตรง ไม่เชื่อกัน ปล่อยตน วนอยู่ กลางน้ำหลงท่องพนา ไม่เจอทางออก ครั้นบอกทางเดิน ก้าวตามหลักธรรม เจ้าแค่รับรู้ ไม่ตื่นจากหลับ ไม่ยอมทำ ตัณหาพาใจเฉยชา *รู้ธรรม ทำบ้างไหม พูดธรรม ทำบ้างไหม ใจปุถุชน ยากโปรดให้พ้นควันหมอก ใจชนดั่งดินแข็ง เวรกรรมช่างซับซ้อน ไม่ยอมบำเพ็ญ ขอพรฟ้าช่วยได้ไหม นอกรีตมากมาย ไม่ใช่ทางออก รู้จิตเดิมแล้ว ชัดเจนวิถี **เมื่อไหร่ใจชนนั้นพร้อม ดินอ่อนสมบูรณ์ดี ศึกษาเข้าใจธรรมในแก่น (ซ้ำ*,**)
     
  9. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    จะเอาชนะอะไรสักอย่างนึง ​
    เราต้องใช้สติปัญญา คือ การเข้าถึงสภาวะธรรมชาตินั้นๆ ให้ได้ก่อน
    เช่น
    การเอาชนะกิเลส ก็คือ การปล่อยกิเลสอยู่กับธรรมชาติของเขา
    การเอาชนะอารมณ์จิต ก็คือ การปล่อยอารมณ์อยู่กับธรรมชาติของเขา

    เพราะฉะนั้น
    หนึ่ง เรา(จิต)อย่าไปยุ่งกับสภาวะธรรมชาติที่เกิดขึ้น
    สอง แต่ถ้ายุ่งไปแล้ว ให้นำจิตเราออกมาจากสภาวะตรงนั้นเสีย(ให้ไว)
    สาม กว่าเรา(จิต)จะไปทำแบบนั้นได้ เราต้องอาศัยการฝึกสติ ฝึกจิตให้เป็นสมาธิ(อุปจารสมาธิเป็นอย่างต่ำ)

    คนเราส่วนใหญ่เป็นทุกข์กัน นอกจากไม่เข้าใจทุกข์ เข้าไม่ถึงธรรมะแล้ว
    ทุกวันนี้ พวกเรามีแค่สติ สติธรรมดาๆเท่านั้น ไม่พอสำหรับจิตที่จะไปรู้เท่าทันสภาวะต่างๆดังที่กล่าวไปแล้ว
    สิ่งสำคัญที่จะเข้าใจ โดยเฉพาะเข้าถึงสภาวะธรรม จิตต้องมีปัญญา เท่านั้น
    และปัญญาต้องเป็นปัญญาทางธรรม มิใช่ปัญญาทางโลก
    การเข้าถึงพระธรรมหรือคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ได้นั้น มีวิธีเดียว ก็คือ
    เจริญกรรมฐานหรือการปฎิบัติธรรมหรือการทำจิตให้สงบเป็นสมาธิ
    อย่างต่ำอุปจารสมาธิ(เฉียดฌาน) หรืออัปปนาสมาธิ(ฌาน)

    เมื่อผู้ใดปฎิบัติได้แล้ว ต่อไปจะต้องหมั่นทบทวนศีลตนเอง หมั่นเจริญสติภาวนาเป็นนิจ(วสี)
    แล้วนำจิตมาเดินอริยมรรค หรือมรรคมีองค์ ๘ ให้ครบทุกข้อด้วย
    แล้วจิตท่านจะเพียบพร้อมด้วยมหาสติ มหาสมาธิ มหาปัญญา
    ธรรมทั้งสามอย่างนี้ จะรวมอยู่ที่จิตตัวเดียว เรียกว่า ปัญญาญาณหรือญาณ
    เมื่อท่านเจริญมรรคมีองค์ ๘ ครบทุกข้อ
    แล้วญาณที่ว่านี้ จะเป็นผู้นำพาจิตหรือดวงจิตเข้าสู่ความเป็น "วิมุุตติ" ในที่สุด


    ปล. ผิด-ถูกอย่างไร ยินดีรับทั้งคำ ติ-ชม
     
  10. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [​IMG]

    ไม่มีเรา ในโลกนี้ หรือโลกหน้า
    ไร้อัตตา ในระหว่าง โลกทั้งสอง
    ก็จะถึง นิพพาน ตามที่ปอง
    ทุกข์ทั้งผอง สิ้นสุด วิมุติจริง...

    พระอรหันต์ ไม่ต้องดับ และไม่ก่อ
    สุขจริงหนอ ไฟหยุดเผา ความเศร้าหาย
    ไม่ต้องพัก ไม่ต้องเพียร แสนผ่อนคลาย...


     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มีนาคม 2013
  11. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=eB9-BOBJ89s]พระโอวาท เพลงดอกบัวงามเมื่อบำเพ็ญ - YouTube[/ame]

    จิตบุญ จิตงาม เบิกบานเหมือนดอกบัว..งดงาม..ทั้งผู้รับ..และผู้มอบ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มีนาคม 2013
  12. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    ขออนุโมทนาบุญ กับ คุณอ๊อด จิตบุญ ดวงที่ 135 และ ครูผู้สอนทุกท่าน ค่ะ สาธุ
     
  13. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    [
    หมู่นี้ ถ้ำใคร ถ้ำมันเลยนะ
    ไม่ค่อยจะออกมาเพ่นพ่านเหมือนแต่ก่อนแร๊ะ[/LEFT]

    [/COLOR][/SIZE][/CENTER][/QUOTE]
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=j5D8zISiQVE]จำอวดหน้าม่าน ตอนแยกวง. - YouTube[/ame]:cool::cool::cool:
     
  14. เ่ต่าโบราณ

    เ่ต่าโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    713
    ค่าพลัง:
    +3,624
    เอ๊า! พวกเราอย่าช้า รีบเร่งบำเพียรบุญบารมีแห่งตน
    อย่าช้าๆ เพราะตอนนี้ครูสอนจิตเกาะพระหายไปหมดแย๊ววว..
    ก่อนที่จะหมดโอกาสมีดวงตาเห็นธรรม
    เพราะตอนนี้เหลือแต่ครูเกษคนเดียว(มั้ง)..อิอิ

    พูดแบบนี้มีหวังคงจะเหลือครูเกษคนเดียวแน่ๆ เดี๋ยวครูท่านอื่นแอบน้อยใจ
    จึงขออนุญาตแก้ข่าวใหม่ว่า..ยังพอมีครูท่านอื่น(แอบ)สอนอยู่หลายท่านเหมือนกัน


    @นาวาเกษไม่มีจม เพราะทอดสมอบนบก เห่อๆ
    [/QUOTE]

    ขอเป็นกำลังใจให้ครูทุกท่านนะคะ... และก็ขอขอบคุณในความเอื้ออารีของครู...
     
  15. urairatvi

    urairatvi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,401
    ขออนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่ 135 คุณอ๊อด และครูผู้สอน และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านคะ
    ขอให้ท่านเจริญในธรรม ยิ่งๆขึ้นไปนะคะ
     
  16. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,085
    ค่าพลัง:
    +10,246
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ ภิกษุสงฆ์ยังจะหวังอะไรในเราเล่า
    ธรรมอันเราได้แสดงแล้ว กระทำไม่ให้มีในมีนอก กำมืออาจารย์ในธรรมทั้งหลาย
    มิได้มีแก่ตถาคต ผู้ใดจะพึงคิดอย่างนี้ว่า เราจักบริหารภิกษุสงฆ์ หรือว่าภิกษุสงฆ์
    จะเชิดชูเราดังนี้ ผู้นั้นจะพึงปรารภภิกษุสงฆ์แล้วกล่าวคำอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นแน่
    ดูกรอานนท์ ตถาคตมิได้มีความดำริอย่างนี้ว่า เราจักบริหารภิกษุสงฆ์ หรือว่า
    ภิกษุสงฆ์จักเชิดชูเรา ตถาคตจักปรารภภิกษุสงฆ์แล้ว กล่าวคำอย่างใดอย่างหนึ่ง
    ในคราวหนึ่ง ดูกรอานนท์ บัดนี้ เราแก่เฒ่าเป็นผู้ใหญ่ล่วงกาลผ่านวัยมาโดย
    ลำดับแล้ว วัยของเราเป็นมาถึง ๘๐ ปีแล้ว เกวียนเก่ายังจะใช้ไปได้ เพราะการ
    ซ่อมแซมด้วยไม้ไผ่ แม้ฉันใด กายของตถาคต ฉันนั้นเหมือนกัน ยังเป็นไปได้
    ก็คล้ายกับเกวียนเก่าที่ซ่อมแซมด้วยไม้ไผ่ ฯ

    ดูกรอานนท์ สมัยใด ตถาคตเข้าถึงเจโตสมาธิ อันไม่มีนิมิต เพราะ
    ไม่ทำไว้ในใจซึ่งนิมิตทั้งปวง เพราะดับเวทนาบางเหล่าแล้วอยู่ สมัยนั้น กายของ
    ตถาคตย่อมผาสุก เพราะฉะนั้น พวกเธอจงมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง มิใช่
    มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือจงมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง มิใช่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง
    อยู่เถิด ฯ

    ดูกรอานนท์ อย่างไรเล่า ภิกษุจึงจะชื่อว่า มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง
    มิใช่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือจงมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง มิใช่มีสิ่งอื่นเป็น
    ที่พึ่งอยู่ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณาเห็นเวทนา
    ในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ เป็นผู้มี
    เพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลก อย่างนี้แล
    อานนท์ ภิกษุจึงจะชื่อว่า มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง มิใช่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง
    คือมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง มิใช่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่ ดูกรอานนท์
    ผู้ใดผู้หนึ่งในบัดนี้ก็ดี โดยที่เราล่วงไปแล้วก็ดี จักเป็นผู้มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็น
    ที่พึ่ง มิใช่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง มิใช่มีสิ่ง
    อื่นเป็นที่พึ่งอยู่ ภิกษุของเราที่เป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษาจักปรากฏอยู่ในความเป็น
    ยอดยิ่ง ฯ

    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=10&A=1888&Z=3915
     
  17. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    สิ่งที่ดึ่งดูดที่มีความเหนียวแน่นและทําให้สัตว์มาเกิดมาตายและทุกข์มากนั้น ก็คือ "ราคะตัณหา"ที่พาเราๆท่านๆเป็นทุกข์นั้นเป็นกิเลสตัวรุนแรงมาก...เราตัองใช้สติตัวรับรู้เป็นเครื่องแก้ เพราะความกําหนัดยินดีในกามราคะตัณหานั้นยิ่งกําลังทางกายมีมาก...กามราคะก็ยิ่งมากพอถอดถอนตัวนี้ได้จิตจะสงบและเบาไปเป็นขั้นๆ เพราะตัวราคะตัณหานี้เป็นตัวเชื้อที่พาให้สัตว์โลกมาเกิดมาตายเพราะจิตหมุนหาตัวนี้อย่างรุนแรงที่สัตว์โลกติดได้ง่าย...ท่านจึงให้เราเจริญกรรมฐานให้ดูซากศพหรือความตายแต่ให้มีสติคิดว่าเราจะต้องตายแน่นั้นแหละจะทําให้ราคะตัณหาตัวนี้อ่อนกําลังลงได้...เพราะจะทําได้อย่างนี้ก็ต้องปฏิบัติเท่านั้นเพราะปฏิบัติลงไปที่ใจของเรานี่แหละ จะได้เห็นความหลุดพ้นไปเป็นขั้นๆและผู้รู้เห็นได้ก็ต้องปฏิบัตตามรอยของพระศาสดาท่านชี้บอก...และตามรอยของพระอริยะเจ้าผู้รู้เห็นตามพระพุทธเจ้านั้นเอง...
    ที่มาจากเทปธรรมะขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    ลูกขอน้อมกราบองค์หลวงตาด้วยเศียรเกล้าค่ะ
     
  18. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    สาธุค่ะ ครูพี่ภู นี่ท่านชังสรรหาสิ่งมาทดสอบผู้ปฏิบัติผู้จะก้าวเดินเพื่อความพ้นทุกข์ได้เป็นอย่างดี...ท่านผู้ปฏิบัติฟังเพลงนี้จบแล้วท่านเห็นความแตกต่างของจิตท่านไหม?เพราะไฟราคะตัณหาที่ว่านั้นมันจะเกิดขึ้นกับสิ่งที่มายั่วยุนั้นก็คือ"กามราคะตัณหา"เพราะถ้าท่านไม่มีสติท่านก็อาจจะปรุงแต่งไปตามสิ่งนั้นๆที่ท่านได้เห็นคือ"รูป เสียง กลิ่น รส โผสัมผัส นั้นเอง...ทําให้เกิดเป็นตัวอุปทานเพราะมีขันธ์ ๕ นั้นเองผู้ปฏิบัติที่เห็นแล้วฟังแล้ว ก็ต้องน้อมมาดูตัว คือ"พิจารณาสิ่งที่เห็นสักแต่เห็นสิ่งที่รู้สักแต่รู้และถ้ายังไม่สามารถดับมันได้ก็ขอแนะนํา"กรรมฐาน๔๐กอง"นั้นแหละเป็นทางสายปราบมารได้ด้วยดีเพราะมารที่มาก็มาได้ทั้งทางหู ตา จมูก สิ้น กาย ใจ นั้นเอง... จึงขออนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  19. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    การปฏิบัติธรรมนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และไม่ใช่เรื่องที่ผู้ปฏิบัติจะทําแค่เวลามีทุกข์เท่านั้นเพราะถ้าท่านเห็นว่าท่านมีทุกข์แล้วจึงมาปฏิบัติพอท่านมีสุขแล้วก็ลืม...คือลืมว่าเคยทุกข์ก็เลิกปฏิบัติไปเพราะคิดว่าเวลามีทุกข์แล้วค่อยปฏิบัติ...นั้นท่านก็มีความเห็นผิดแล้วเพราะผู้ปฏิบัติเวลาทุกข์ก็ปฏิบัติจนพ้นจากทุกข์และเวลาสุขก็ปฏิบัติเพราะเขามีความเชื่อว่าการปฏิบัตินั้นทําให้เขาพ้นจากทุกข์นั้นเอง...และบุคคลประเภทนี้ก็จะเจริญในธรรมของเขายิ่งๆขึ้นไปหรือมีจิตใจสูงขึ้นเป็นลําดับจนถึงขั้นหลุดพ้นไปจากทุกข์นั้นเอง...จึงเป็นการปฏิบัติบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากกว่า การปฏิบัติเพื่อจะถูกตามใจของท่าน...เพราะการปฏิบัติที่ไม่หวังผลตอบแทนใดๆนั้นแหละเป็นการปฏิบัติเพื่อความถูกต้องดีงามและเป็นการเดินไปสู่มรรคผลนิพพาน...สาธุ
     
  20. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    คนที่รู้เท่าทันความคิด ชีวิตจะเปลี่ยน!
    เพราะไม่มีผู้ใด สามารถไปเปลี่ยนความคิดตนเองหรือผู้อื่นได้
    เราแค่เจริญสติภาวนา จนนิ่งจิต จิตเป็นสมาธิเท่านั้นเอง ปัญญาเราก็เกิดแล้ว
    สรุปว่า ปัญญาจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อ จิตของคนเรานิ่งเป็นสมาธิ นี่เอง

    ปัญญาของเรานี้ ที่จะทำให้เรา(จิต)รู้เท่าทันการเกิด-ดับของจิต หรือกิเลสต่างๆ
    เมื่อเรามีปัญญา เราก็จะเป็นผู้ดูที่ดี ก็คือ ใจเป็นกลาง โดยไม่นำจิตไปยึดหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งใดๆ
    และเรา(จิต)จะปล่อยวางได้ง่ายๆ ก็ต่อเมื่อ จิตเรารู้ เข้าใจและเข้าถึงทุกสภาวะธรรมที่เกิดขึ้น ทั้งหมด


    ปล.เปลี่ยนแต่สี ใจมิมีแปรเปลี่ยน..สัจจะยังเหมือนเดิม
     

แชร์หน้านี้

Loading...