จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    เอาละ ศิษย์ท่านใด หายๆหลุดๆหยุดๆหนีๆ
    หากเข้ามาตรงนี้ ก็ขอให้ทราบว่า ครูไม่ได้ทิ้ง
    นะจ๊ะ แต่ครูก็ต้องไปต่อเช่นกันจ๊า
    ครูเกษคอนเฟร์ม
    โมทนาสาธุครูเกษ
     
  2. kantinanna

    kantinanna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +1,819
    สาธุ สาธุ สาธุึค่ะ
     
  3. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ธรรมะสำหรับผู้เดินเล่นอยู่ภายนอก
    หรือผู้ปฎิบัติที่ติดๆดับๆ

    อันธรรมนั้นมีอยู่จริง...
    ทั้งภายในภายนอก ทั้งเปลือกแก่น ทั้งสมถะวิปัสสนา ทั้งบาปบุญ ทั้งชายหญิง ทั้งสงฆ์ฆราวาส ทั้งอามิสปฎิบัติ ทั้งทุกข์สุข ทั้งโลกมนุษย์โลกทิพย์ ทั้งนรกนิพพาน ทั้งหลงไม่หลง

    ผู้ที่เดินเล่นอยู่ภายนอกนั้น จึงเปรียบได้ดั่งเปลือกไม้เท่านั้น จึงไม่สามารถเข้าถึงการปฎิบัติที่แท้จริง หรือปฎิบัติแต่ไม่จริงจัง เพราะว่ากำลังใจ(บุญหรือบารมี)ยังไม่มากพอ ที่จะนำไปสู่การปฎิบัติธรรม

    เพราะฉะนั้นแล้ว ยังหลงไปวิ่งหนีทุกข์วิ่งหาสุข หลงมาเวียนว่ายตายเกิด หลงทำแต่บุญภายนอก หลงหาทางกลับบ้านเก่าไม่เจอ หลงทำแต่สมถกรรมฐานเท่านั้น หลงตำหนิด่าว่าผู้อื่น หลงติดสุขทางโลก หลงตามกระแสโลก หลงกายหลงตนเอง หลงสิ่งสมมุติทั้งหลายทั้งปวง หลงไปยึดโลกธรรมแปด หลงไปรักโลภโกรธหลง หลงทางเข้าหาธรรมปฎิบัติ หลงคิดหลงฟุ้งซ่าน หลงมายาหลอกลวง หลงตนมีปัญญาทางโลก หลงจิตไม่นิ่งดีกว่าจิตนิ่ง หลงดูกายหลงอย่างอื่นที่ไม่ใช่จิต หลงวันหลงคืน หลงเผลอสติ หลงไปยึดเอาของผู้อื่น หลงเป็นผู้รับดีกว่าผู้ให้ หลงผิดเป็นถูก หลงมิจฉาทิฎฐิว่าเป็นสัมมาทิฎฐิ หลงอวิชชาว่าเป็นวิชา หลงฤทธิ์เดชหลงอภิญญา หลงเกิดมาแต่ลืมตาย หลงเพศหลงวัย หลงมีอยู่เป็นกับสิ่งสมมุติ หลงกิเลสนึกว่าบุญนึกว่าสุข ฯลฯ

    สำหรับผู้ปฎิบัติธรรม..
    หลงดูจิตผู้อื่น หลงดูจริยาผู้อื่น หลงปฎิบัติ หลงฌาน หลงนิมิต เพราะสติไม่เพียงพอ
    หรือสติเกิดไม่ต่อเนื่อง เป็นผลทำให้จิตไม่นิ่ง จิตไม่เป็นสมาธิหรือจิตไม่ทรงฌาน ปัญญาของตนจึงไม่มี ไม่เกิด

    แต่ถ้าผู้ปฎิบัติเข้าใจว่าตนเองบรรลุธรรม ให้ดูที่ผลของการปฎิบัติ ว่าที่ปฎิบัติมาทั้งหมดนั้น เราสามารถละ ปล่อย วางกับสิ่งมมุติทั้งหลายทั้งปวงได้มากน้อยแค่ไหน

    เพราะการบรรลุธรรมนั้นมีหลายชั้น หลายระดับ ขึ้นอยู่ที่ความละเอียดของจิต ได้แก่ พระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี หรือพระอรหันต์ แต่อาจจะแยกเป็นอริยบุคคลฝ่ายสงฆ์หรือฆราวาส ขอให้ดูภายใน(ดวงจิต)ของผู้ปฎิบัติเป็นหลัก มิใช่แค่ภายนอกหรือเครื่องนุ่มห่มเท่านั้น

    หรือสังเกตุดูที่จิตเรามีศีลละเอียด มีธรรมละเอียดขึ้นไหม เช่น สำรวมจิต เยือกเย็น สงบสงัด สว่างโล่งโปร่งใส ไร้ทุกข์ไร้สุข ชอบปลีกวิเวกหรือรักสงบ หลีกหนีผู้คนหมู่มาก จิตนิ่งเมื่อเจอสิ่งกระทบทุกอย่าง ละสังโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหน จิตยิ้มหรืออิ่มทิพย์(ตรงนี้ถ้าไม่เข้าใจให้ไปถามครูเพ็ญ ครูดัช ครูเกษ ครูแนท ครู..) เป็นต้น

    ปล. ดูจิต(ตนเอง)ได้ความจริง ได้ความสงบสงัด
    หมั่นสร้างสติ ปัญญาก็เกิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 ตุลาคม 2012
  4. แสงจันทร

    แสงจันทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +2,618
    โมทนาสาธุกับจิตบุญ๙๔ และครูผู้สอนทุกท่านด้วยค่ะ .... สาธุ
     
  5. แสงจันทร

    แสงจันทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +2,618
    โมทนาสาธุ...ค่ะ ครูภู
     
  6. แสงจันทร

    แสงจันทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +2,618
    โมทนาสาธุ...ค่ะ เป็นจริงดังนั้นแล ครูภู
     
  7. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    หลงทางเสียเวลา.....หลงอภิญญาจะเสียมรรคผลนะค่ะ

    ทางเดินมรรค....เราควรอย่างยิ่งต้องเดิ<WBR>นอยู่บนถนนเส้นกลางเท่านั้น มันอาจจะเยือกเย็ก สงบ เงียบสงัดไปสักหน่อย จนใครหลายๆคนไม่อยากที่อยู่บนเส้นทางนี้ ส่วน 2 ข้างทางที่ต้องพบเจอนั้น..มันคือสุขและทุกข์ <WBR>ให้เดินมองมันไปเฉยๆ สุขก็เห็น...ทุ<WBR>กข์ก็เห็น แต่เราไม่<WBR>ปรารถนาอะไรและให้ผ่านมันไปอย่<WBR>างเดียว เราต้องการความสงบอย่<WBR>างเดียว อย่าได้แวะเชียวนะค่ะ ถ้าแวะมันจะเป็นทุกข์หลายๆ เด้อ หายสงสัยเสีย ปล่อยวางมันเสีย แม้กระทั่งข้<WBR>อธรรมะปฏิบัติก็ต้องปล่<WBR>อยวางไปซะ อย่าแบกไปด้วย...<WBR>มรรคผลถึงจะเกิด ปล่อยวางทุกอย่างลงได้แล้วก็จะ โล่ง โปร่ง สบายจริงๆค่ะ...เชื่อดาวเต่อะ

    (ปล. เห็นพี่ภูบ่นงุ๊บงิบๆ มาสองวันแล่ะ ขอเข้ามาช่วยย้ำให้สบายใจหน่อยนะค่ะ ^_^ )

    ดาว
    จบ. 92
     
  8. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    ระวังเจอหมัดพี่ภูนะครับ เดี๋ยวนี้หมัดหนักด้วย ( พี่ภูหลับไปหรือยังหว่า หลบก่อนเดี๋ยวโดน )
     
  9. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    คุณกุ้งส่งการบ้านหน่อยเร้ว ครูๆเขาเป็นห่วงนะ ปล่อยวางลงซะ ถือไปก็หนักนะครับ
     
  10. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ให้ยึดธรรมเป็นที่พึ่งเทอญ และ ตั้งอยู่ในศีลเจริญภาวนา ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์คับ ไปเรื่อยๆคับ
     
  11. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    อ่านการบ้านคุณกุ้งแล้วอยากให้นายท่าเรือครูวิทย์มาเปลี่ยนจากเรือเกลือเป็นเรือด่วนหน่อยครับ 55555555
     
  12. klangprai

    klangprai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    5,167
    ค่าพลัง:
    +6,057
    ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงใหม่และคุณครูผู้สอนทุกท่านด้วยค่ะ
     
  13. klangprai

    klangprai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    5,167
    ค่าพลัง:
    +6,057
    มีคำถามจากคนที่บ้านค่ะ เอ๋อ่านเวบเรื่อยแล้วก็บอกเค้าว่าวันนี้มีจิตยกอีกแล้วค่ะ
    เค้าถามว่า "จิตยก"คืออะไร
    เอ๋ตอบไม่ถูกค่ะ เพราะตัวเองก็ยังปฎิบัติแบบจำพวกติดๆดับๆแบบที่ครูภูฯ
    กล่าวมาข้างบนเหมือนกันค่ะ เลยไม่กล้าตอบเค้าค่ะ ขอคำตอบหน่อยนะคะ
    จะเอาไปอ่านให้เค้าฟังค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2012
  14. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    ผมขอตอบก่อนเลยนะครับ ตามความเข้าใจของผมคือจิตยกเหนือขันธ์5 นะครับ
    ที่ต้องพูดแบบนี้คือถ้าไปพูดว่าจิตอรหันต์ บางคนเขาอาจจะปรามาสพากันไปทัวร์หาพระเทวทัศได้น่ะครับ
     
  15. klangprai

    klangprai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    5,167
    ค่าพลัง:
    +6,057
    ขอบคุณค่ะ อ่านให้ฟังแล้วค่ะ ยังมีข้อโต้แย้งกับเอ๋อยู่ค่ะ พิมพ์ไม่ไหวค่ะ รออ่านจากท่านอื่นๆด้วยนะคะ
     
  16. phai-put

    phai-put เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +306
    จิตยก คือ จิตสอบผ่าน สอบผ่านอารมณ์ต่างๆที่เราเรียนรู้มา
    สอบผ่านการจัดการกับอารมณ์ต่างๆเหล่านั้น จิตจึงไม่เอา ไม่
    เกาะอะไรทั้งสิ้น อันล้วนแล้วเป็นสิ่งสมมุติของโลกใบนี้ ไม่ว่าสุข
    หรือทุกข์ จิตอยู่เหนือกิเลส เหนืออารมณ์ต่างๆ จิตทรงอยู่ในความสงบ
    นิ่ง ว่าง โปร่ง สบาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2012
  17. klangprai

    klangprai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    5,167
    ค่าพลัง:
    +6,057
    ขอบคุณค่ะ เอ๋เข้าใจค่ะ
     
  18. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    ขออนุโมทนาบุญคุณจุ๋ม จิตบุญ ดวงที๙๔ และครูจิตบุญทุกท่านค่ะ สาธุ
     
  19. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    อุปาทาน

             อุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่น เพื่อความพึงพอใจของตัวของตน เป็นสําคัญในสิ่งใดๆทุกๆสิ่ง  อันท่านตรัสว่า อุปาทาน มี ๔
                    ๑. กามุปาทาน  คือการยึดมั่นพึงพอใจติดพันในกาม ในสิ่งที่อยากได้หรือไม่อยากได้ ในกามหรือทางโลกๆ เช่นใน รูป, รส, กลิ่น, เสียง, โผฏฐัพพะ(สัมผัส)
                    ๒. ทิฏฐุปาทาน  คือการยึดมั่นถือมั่นด้วยกิเลสหรือความพึงพอใจของตัวของตน ในความเชื่อ, ความเข้าใจ(ทิฏฐิ), ทฤษฎี, ความคิด, ลัทธิของตัวของตน. อันมักมีความอยากให้เป็นไป หรือไม่อยากให้เป็นไปตามที่ตนเชื่อ, ตามที่ตนยึดถือ, หรือตามที่ตนยึดมั่น, ตามที่ตนเข้าใจ   ถ้าผิดไปจากที่ตนพึงพอใจยึดถือหรือเข้าใจ ก็จะไม่เห็นด้วยหรือต่อต้าน โดยไม่รู้ถูกรู้ผิดตามความเป็นจริงของธรรม
                    ๓. สีลัพพตุปาทาน  คือการยึดมั่น ถือมั่น ยินดียินร้ายในศีล(ข้อบังคับ)และพรต(ข้อปฏิบัติ) อันมักเติมแต่งด้วยกิเลสหรือตัณหาอย่างเข้าใจผิดๆ หรืออย่างงมงาย หรือตามความเชื่อที่สืบต่อตามๆกันมาแต่ไม่ถูกต้อง เช่น การทรมานกายเพื่อให้บรรลุธรรม,  ถือคีลหรือทําแต่บุญอย่างเดียวแล้วจะพ้นทุกข์หรือบรรลุธรรมจึงขาดการวิปัสสนา,  เชื่อว่าขลังว่าศักสิทธิ์,  เชื่อว่าปฏิบัติสมาธิอย่างเดียวจนแก่กล้าแล้วปัญญาบรรลุมรรคผลจักเกิดขึ้นเองจึงไม่จําเป็นต้องปฏิบัติวิปัสสนา(พิจารณาธรรม)จนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง(สัมมาญาณ),  ทําบุญเพื่อไปสวรรค์แต่ฝ่ายเดียว,  กราบพระหรือสิ่งศักสิทธิ์หรือทําบุญเพื่อบนบานหวังความสุข ขอทรัพย์ ขออย่าให้มีทุกข์ โศก โรคภัย เสนียดจัญไรต่างๆมาแผ้วพาน, การบนบาน ฯลฯ.  อันล้วนเกิดขึ้นแต่อวิชชา คือยังไม่รู้ไม่เข้าใจตามความเป็นจริง  จึงไปยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆก็เพื่อเป็นที่ยึด ที่วางจิต คือให้เป็นกำลังจิตเป็นกำลังใจโดยไม่รู้ตามความเป็นจริงด้วยอวิชชา
                    ๔. อัตตวาทุปาทาน  คือความยึดมั่นในวาทุ หรือวาทะ(ถ้อยคํา,คําพูด)ของตนเอง คือเกิดการยึดมั่นถือมั่นเป็นที่สุดว่าเป็นของตนของตัวโดยไม่รู้ตัว เหตุเนื่องมาจากคําพูดหรือถ้อยคำที่ใช้ในการสื่อสารเพื่อแสดงความเป็นตัวตน,ของตน,หรือของบุคคลอื่น   อันเป็นเพียงแค่สื่อถ้อยคําอันจำเป็นเพื่อให้เกิดความเข้าใจในการสื่อสารซึ่งกันและกันในสังคม  แต่ก็ก่อกลายให้เกิดเป็นความหลงผิดขั้นพื้นฐาน ที่เกิดในชีวิตประจําวันอย่างสมํ่าเสมอจนเป็นสังขารความเคยชินหรือการสั่งสมอันยิ่งใหญ่โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว,   เนื่องเพราะความจําเป็นที่ต้องใช้ในการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นๆนี้เองโดยทางวาจาหรือถ้อยคํา และยังต้องมีการช่วยเสริมด้วยถ้อยคําภาษาสมมุติต่างๆเพื่อใช้สื่อสารต่อกันและกันเพื่อความเข้าใจอย่างละเอียดละออถูกต้องในชีวิตประจําวัน  จึงก่อให้เกิดการสั่งสม  การหลง ความเคยชิน อันก่อเป็นความจำอย่างอาสวะกิเลสแล้วยังเป็นสังขารในปฏิจจสมุปบาทนั่นเอง,   ทําให้เกิดการมองเห็นสิ่งต่างๆเกิดการแยกออกจากกันและกัน คือก่อตัวก่อตนขึ้นตามคําพูดนั้นๆโดยไม่รู้ตัว  ทําให้เกิดความจำว่าเป็นของตัวของตน, ของบุคคลอื่นเด่นชัดขึ้นในจิตโดยไม่รู้ตัว เป็นประจําทุกขณะจิตที่สื่อสารพูดคุยกัน  จึงก่อให้เกิดความหลงผิดหลงยึดถือด้วยความเคยชินตามที่สั่งสมโดยไม่รู้ตัว ดังเช่น ของๆผม, ของๆคุณ, บ้านผม, รถฉัน, ลูกฉัน, เงินฉัน, สมบัติฉัน, นั่นของคุณ, นี่ของผม, นี่ไม่ใช่ของผม ฯลฯ. จนเกิดการไปยึดถือ, ยึดติด, ยินดียินร้ายหรือพึงพอใจตามภาษาที่ใช้สื่อสารกันนั้นโดยไม่รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา ในทุกขณะจิตในชีวิตประจําวัน โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีสังคมและการแข่งขันสูง และการสื่อสารที่ทันสมัย   


    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุสวัสดี
     
  20. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    โมทนาสาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...