จำเป็นไหมว่าการตรัสรู้นั้น ต้องอยู่ในสถานะการเป็นมนุษย์เท่านั้น ?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย cheedman007, 3 พฤศจิกายน 2011.

  1. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    คุณต้นละ กล่าวไว้ดีแล้ว ชอบแล้ว


    เจริญในธรรมครับ
     
  2. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603
    ไม่ว่ากันหรอกครับ ถ้าคุณต้นละชอบ ศึกษาและจำมาตั้งแต่เรียนป.1ว่าถูกต้องดีแล้ว

    แล้วไม่ต้องเปิดพระไตรปิฎกศึกษาเพิ่มเติมบ้าง คุณก็จะเท้งเต้งอยู่ที่ป. 1 นั่นแหละครับ ตามสะดวกเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2011
  3. wainkam

    wainkam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    757
    ค่าพลัง:
    +881
    อนุโมทนาสาธุ ทุกท่านครับ ที่ถกปัญหาธรรมให้กระผมผู้มีปัญญาน้อยได้รับฟัง ขอทุกท่านเจริญในธรรมจนกว่าจะถึงพระนิพาน สาธุ สาธุ สาธุ :)
     
  4. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ครับ
    ก็ตามนั้นละครับ ผมเองก็ต้องเรียนป.1 ไปก่อนนะครับ และผมก็เห็นทุกคนเรียนป.1 หมดทุกคนเลย ไม่เห็นจะมีใครเท้งเต้งนิ รึว่าคุณAVATAAR เท้งเต้งอยู่ป.1 อิอิ
    แล้วผมก็ไม่ได้บอกว่าพระไตรปิฏกนิครับ ผมบอกให้ท่านไปถามคนแปลนะครับ(สงสัยจะอ่านไม่เข้าใจเนอะ)
     
  5. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    ทำไมไม่ใช่ลิงครับ:cool:
     
  6. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603
    คุณต้นละคงจะติดอยู่ที่ป.1 จริงๆ จึงไม่มีปัญญาพอจะทราบว่าท่านใดหรือคณะใดแปลพระไตรปิฏกภาษาบาลีเป็นภาษาไทย

    การแปลพระไตรปิฎกภาษาบาลีเป็นภาษาไทย

    การแปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาไทย ได้กระทำกันมาช้านานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า ฯ ได้โปรดเกล้า ฯ ให้จัดแปลไว้เป็นจำนวนมาก ในรัชสมัยต่อ ๆ มา การแปลก็ยังคงดำเนินไปเป็นครั้งคราว ส่วนใหญ่จะแปลพระสุตตันตปิฎก พระวินัยปิฎกและพระอภิธรรมปิฎกมีน้อย สำนวนโวหารในการแปลก็ผิดกันมาก เพราะต่างยุคต่างสมัย
    ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๓
    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสสเทว) วัดสุทัศน์เทพวราราม ทรงปรารภว่า พระไตรปิฎกเป็นภาษาบาลี ผู้ใคร่ศึกษาต้องรู้ภาษาบาลีอย่างลึกซึ้ง จึงจะศึกษาได้สมประสงค์ แม้มีผู้รู้แปลสู่ภาษาไทยอยู่บ้าง ก็เลือกแปลเฉพาะบางตอน ไม่ตลอดเรื่อง ถ้าสามารถแปลจบครบบริบูรณ์ ก็จะเป็นอุปการคุณแก่ พุทธบริษัทชาวไทยอย่างใหญ่หลวง ในต่างประเทศ ได้มีนักปราชญ์อุตสาหะแปลบาลีพระไตรปิฎกฝ่ายเถรวาท ออกเป็นภาษาของเขาแล้ว สำหรับฝ่ายมหายานนั้น ได้มีการแปลพระไตรปิฎก จากฉบับภาษาสันสกฤต ออกเป็นภาษาของชาวประเทศที่นับถือลัทธิมหายาน มาแล้วช้านาน การที่นักปราชญ์ดังกล่าวจัดแปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาของเขา ก็ด้วยเห็นประโยชน์ที่มหาชนชาวประเทศนั้น ๆ จะพึงได้รับการศึกษาพระไตรปิฎกเป็นสำคัญ จึงเป็นการสมควรด้วยประการทั้งปวง ที่จะคิดจัดแปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาไทยให้ตลอดสาย จะเป็นเครื่องเฉลิมพระเกียรติแห่งพระมหากษัตริย์ และประเทศไทยให้ปรากฎไปในนานาประเทศ แต่เนื่องด้วยการนี้เป็นการใหญ่ เกินวิสัยที่เอกชนคนสามัญจะทำให้สำเร็จได้ จึงขอให้กระทรวงธรรมการ นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงมีพระราชดำริเห็นชอบ จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้รับการจัดแปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาไทย ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถวายให้สมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นประธานในการนี้ ให้กรมธรรมการเป็นผู้อำนวยการฝ่ายคฤหัสถ์ จัดพิมพ์ พระไตรปิฎกเป็นสมุดตีพิมพ์และลงในใบลาน เพื่อเผยแพร่แก่พุทธบริษัทสืบไป
    คณะกรรมการแปลพระไตรปิฎก เริ่มดำเนินการแปลตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. ๒๔๘๓ โดยแบ่งเป็น ๒ ประเภทคือ
    ๑. แปลโดยอรรถ ตามความในบาลีพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ สำหรับพิมพ์เป็นเล่มสมุด เรียกว่า "พระไตรปิฎกภาษาไทย"
    ๒. แปลโดยสำนวนเทศนา สำหรับพิมพ์ลงใบลาน เป็นคัมภีร์เทศนา เรียกว่า "พระไตรปิฎกเทศนาฉบับหลวง" แบ่งออกเป็น ๑,๒๕๐ กัณฑ์ โดยถือเกณฑ์พระอรหันต์ ๑,๒๕๐ รูป เมื่อคราวจตุรงคสันนิบาตในสมัยพุทธกาล เป็นพระวินัยปิฎก ๑๘๒ กัณฑ์ พระสุตตันตปิฎก ๑,๐๕๔ กัณฑ์ พระอภิธรรมปิฎก ๑๔ กัณฑ์ พิมพ์ลงใบลานเสร็จเรียบร้อยเป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๒
    ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๕ รัฐบาลไทยดำริจะจัดทำพิธีฉลองยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐
    คณะสังฆมนตรีพิจารณาเห็นสมควร จัดสร้างพระไตรปิฎกภาษาไทย ซึ่งคณะสงฆ์ได้ตั้งกรรมการจัดแปล และกำลังตรวจสำนวน ทำต้นฉบับสำหรับพิมพ์อยู่แล้วนั้น เพื่อเป็นอนุสาสนีย์เนื่องในงานนั้นด้วย
    จึงได้กำหนดจำนวนหนังสือที่จะพิมพ์ จากจำนวนที่กำหนดไว้เดิม ๑,๐๐๐ จบ เป็น ๒,๕๐๐ จบ เพื่อให้เหมาะสมแก่งานฉลองยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ
    ในปี พ.ศ. ๒๕๑๔ กรมศาสนาได้ดำเนินการจัดพิมพ์เป็นครั้งที่ ๒ เห็นว่าจำนวนเล่มที่พิมพ์ ครั้งแรกชุดละ ๘๐ เล่ม เพื่อให้ไม่หนาเกินไป และมีจำนวนเล่มเท่าจำนวนพระชนมายุของพระพุทธเจ้า แต่ทำให้การอ้างอิงไม่ตรงกับเล่มในฉบับบาลี ซึ่งมีอยู่ ๔๕ เล่ม ในการพิมพ์ครั้งนี้จึงพิมพ์จบละ ๔๕ เล่ม และประจวบกับปี พ.ศ. ๒๕๑๔ นับเป็นมหามงคลสมัยซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติมาบรรจบครบ ๒๕ ปี ทางราชการได้จัดพระราชพิธีรัชดาภิเษก ถวายเป็นการเฉลิมพระเกียรติ จึงตกลงเรียกพระไตรปิฎกฉบับนี้ว่า "พระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับหลวง" จัดพิมพ์จำนวน ๒,๐๐๐ จบ จบละ ๔๕ เล่ม

    ถ้าผมถามแล้วมาบอกแก่คุณต้นละมันจะมีประโยชน์อันใด ในเมื่อคุณต้นละยังยืนยันความคิดเดิมๆที่จะใช้ตำราเรียนป.1ว่าถูกต้องที่สุด
     
  7. DanaiT

    DanaiT Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +42
    งั้นพระอรหันต์ สาวกทั้งหลายก็ไม่ได้รู้แจ้ง ตามพระพุทธเจ้าอ่ะดิ่ ครับ ถ้า คำๆนี้ สงวนไว้เฉพาะ พระพุทธองค์ เท่านั้น แล้ว ที่ อรหันต์ทั้งหลาย เรียกว่าอะไรดีอ่ะ ก็ถ้าไม่รู้แจ้งซึ่งทุกข์ตามที่พระพุทธองค์ ตรัสสั่งสอน แล้วจะรู้อะไรดีอ่ะ รู้ตาม แล้วเรียกว่าอะไรอ่ะ งง อ่ะ คือโง่อ่ะ
    ช่วยอธิบายให้หน่อย ว่าพระสาวก ทั้งหลาย รู้อะไร ทำไมถึงเรียกว่า ตรัสรู้ไม่ได้ แค่สงสัย น่ะ จะตอบหรือไม่ตอบก็เรื่อง ของท่านๆ อ่ะ แต่ลองเอาไป พิจารณา ดู ว่าถ้า สาวกไม่ไ้ด้รู้แจ้ง เหมือนพระพทุธองค์ ท่านทั้งหลายก็คงไว้ซึ่งกิเลส เหมือนคนธรรมดา ? หรือ แต่จริงๆ มันไม่ใช่สาระซักเท่าไหร่ ถึงหา ความ ใช่ หรือไม่ใช่ก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่ก็แค่ว่า สงสัย ๆ
     
  8. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ผมปัญญาน้อยนะครับ คงไม่เยอะเท่าท่านAVATAARนะ คริๆๆ
    ลองใช้ปัญญาของท่าน AVATAARดูสิครับ ว่าความหมายที่แท้จริงคืออะไรนะครับ และใช้ปัญญาของท่านAVATAAR อ่านดูใหม่ต้องแต่เริ่มต้นนะครับ ว่าผมพิมพ์ครั้งแรกว่ายังงัย ผมเองยังไม่ได้ติดที่วิชาพุทธศาสนา ป.1 เลย ผมแค่บอกให้ท่านรู้ว่า ความหมายมันมีมาตั้งแต่เรียนชั้น ป.1 นะครับ(ผมเองก็เข้าใจปัญญาของท่านดีนะ) คงเข้าใจนะครับ
    ส่วนที่ท่านยกมานั้น(ตั้งแต่ พ.ศ. ไหนแล้ว ใช้ปัญญามั้งครับ) ผมเองก็ขอขอบคุณครับ แต่ไม่เป็นไรครับ ให้ท่านไปบอกหรือเอาที่ท่านยกมาไปให้ความหมายในพจนานุกรมภาษาไทยทุกๆๆเล่มทุกๆๆสำนักพิมพ์,และคนที่แต่งหนังหนังวิชาพุทธศาสนาป.1 ของคำๆนั้น ไม่ได้แปลว่ารู้เอง แต่แปลว่า รู้ตามนะครับ
    ผมก็ยังยืนยันคำเดิม ตรัสรู้ แปลว่า รู้แจ้ง รู้อย่างแจ่มแจ้ง รู้ชัดเจน ใช้เป็นคำเฉพาะสำหรับพระพุทธเจ้า เพราะความหมายนี้มีมาตั้งแต่เรียนวิชาพุทธศาสนา ป.1 และพจนานุกรมไทยทุกเล่มทุกฉบับ ก็แปลแบบนี้
    ส่วนท่าน AVATAAR ก็เข้าใจความหมายอย่างเดิมตลอดทั้งชีวิตของท่านก็แล้วกันครับ
    แล้วไม่ต้องบอกผมหรอก ผมยังยืนยันให้ท่านไปถามคนแปลนะครับ เพราะผมไม่ได้แปลความหมายที่ท่านยกมานะครับ ส่วนที่ผมยกมาก็แปลความหมายอย่างที่ผมบอกนะ
     
  9. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603


    กระทู้นี้ที่คุณcheedman007 ถามว่า จำเป็นไหมว่าการตรัสรู้นั้น ต้องอยู่ในสถานะการเป็นมนุษย์เท่านั้น ?
    แล้วเทพพรหม หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ สามารถตรัสรู้ในขณะที่เป็นเทพ พรหม ได้หรือไม่ครับ

    ผมได้แสดงทัศนะไว้แล้วในกระทู้ที่ # 2 ซึ่งมันจบไปแล้วและคงไขข้อสงสัยคนถามไปได้บ้างไม่มากก็น้อย
    มิฉะนั้นคุณcheedman007 จะมีคำถามต่อมาถ้าท่านไม่เคลียร์<O:p</O:p

    ส่วนกระทู้ที่ยืดเยื้อกันมาอยู่นี้สืบเนื่องมาจากที่คุณต้นละมีความเห็นที่จำฝังใจมาตั้งแต่ป.1ว่า<O:p</O:p
    ตรัสรู้แปลว่ารู้แจ้ง รู้อย่างแจ่มแจ้งรู้ชัดเจนใช้เป็นคำเฉพาะสำหรับพระพุทธเจ้า เท่านั้น

    ผมจึงได้ตั้งประเด็นคำถามขึ้นมาว่า
    พระอรหันต์สาวกเมื่อบรรลุธรรมชั้นสูงสุดแล้วจะเรียกว่าตรัสรู้ได้อีกหรือไม่?
    <O:p</O:p
    ผมไม่ได้สงสัยในการแปลความหมายของคำว่า ตรัสรู้ แต่คำว่า ตรัสรู้ นั้นสาวกของพระพุทธองค์ทั้งหลายเมื่อบรรลุธรรม รู้แจ้งในธรรมชั้นสูงสุดแล้ว จะเรียกว่า ตรัสรู้ ได้ด้วยหรือไม่ต่างหาก <O:p</O:p

    แล้วยกพระไตรปิฎกมาให้พิจารณาดูว่า สาวกของพระพุทธองค์ทั้งหลายเมื่อบรรลุธรรม รู้แจ้งในธรรมชั้นสูงสุดแล้วก็เรียกว่า ตรัสรู้ ได้ด้วย<O:p</O:p

    ฉะนั้นคำว่า ตรัสรู้ นั้นไม่ใช่เป็นคำใช้เฉพาะสำหรับพระพุทธเจ้าเท่านั้น พระอริยะสาวกทั้งหลายก็ใช้ได้<O:p</O:p


    สำหรับกระทู้นี้การแสดงทัศนะของผมจึงขอสิ้นสุดเพียงเท่านี้ครับ
    ขอให้ทุกท่านเจริญยิ่งขึ้นในธรรมอันประเสริฐ




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2011
  10. เนตรอิศวร

    เนตรอิศวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2011
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +425
    หากจะถามว่าการจะเข้าสู่ความเป็นพระอรหันต์ หรือผู้รู้แจ้งนั้น แท้จริงแล้วไม่ว่าจะอยู่ภพภูมิใดก็สามารถที่จะเข้าสู่ความรู้แจ้งเห็นแจ้ง หรือเข้าสู่พระอรหัตน์ได้ด้วยกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ เทวดา มาร พรหม....แต่จุดที่สำคัญมันอยู่ที่ว่า จิตของตนเองนั้นจะสามารถเข้าสู่ห้วงแห่งกระแสธรรมแห่งจิต แห่งพระอรหันต์ได้หรือป่าวนั่นเอง เหตุที่ทำให้สัตว์นั้นเข้าไม่ถึงกระแสแห่งกระอรหันต์ก็เพราะว่า ไม่สามารถรับรู้และสัมผัสอารมณ์แห่งพระอรหันต์ได้ เพราะยังอยู่ในวัฎรของสัตว์ที่จะต้องถูกการเบียดเบียนอยู่เสมอดวงจิตแห่งสัตว์จึงหนีไม่พ้นจากความกลัว และความกระเสือกกระสนเพื่อความอยู่รอด จึงไม่สามารถเข้าสู่อรหันต์ในภูมิสัตว์ได้ ....ส่วน เทวดา มาร และพรหม นั้น ยังสามารถเข้าสู่ความเป็นอรหันต์ได้ หากด้วยจิตนั้นเข้าสู่กระแสแห่งธรรมความเป็นอรหันต์ ส่วนความยากง่ายอยู่ที่ความเบาบางแห่งจิต และวิบากกรรมของแต่ละบุคคลที่จะเป็นตัวอุปสรรค์ เช่น ความยากดีมีจน ความสมประกอบของร่างกาย และทิฐิของดวงจิตที่ถูกสั่งสมและปลูกฝังมา ฉะนั้น ไม่ใช่ว่ามีแต่มนุษย์เท่านั้นที่จะเข้าสู่พระอรหันต์ได้ ไม่ว่าเทวดา มาร พรหมก็สามารถมีโอกาสที่จะเข้าสู่พระอรหันต์ได้เช่นเดียวกัน เห็นจะเข้าสู่พระอรหันไม่ได้เลยก็จะมีแต่ภูมิสัตว์เพียงเท่านั้น ...ลองพิจารณาดู....ขนาดที่ว่ามนุษย์มีโอกาสที่จะเข้าสู่พระอรหันต์ รวมถึงท่านผู้อ่านทั้งหลายด้วย แต่จะมีใครบ้างที่จะเข้าถึงกระแสห้วงแห่งพระอรหันต์ เหตุที่ทำให้ท่านท่านทั้งหลายยังเข้าไม่ถึงก็ด้วยเหตุแห่งความกลัว และความหลงในโลกอยู่ ...ความกลัวก็ได้แก่กลัวความลำบาก กลัวความเจ็บปวด กลัวความทุกข์ยาก ส่วนความหลงก็คือ หลงในรูป หลงในทรัพย์สิน หลงในโลก หลงในความชอบใจ และความไม่ชอบใจ ...ขอให้ท่านทั้งหลายจดจำไว้เถิดว่าผู้ใดปฎิบัติตามคำสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและสามารถนำดวงจิตเข้าสู่ห้วงแห่งอารมณ์ ดับนิวรณ์ทั้ง๕ ได้ด้วยมองเห็นใน ทุกข์ สมุทัย นิโร และมรรคได้ เมื่อนั้นดวงจิตแห่งพระอรหันต์จะเข้ามาสู่ท่านทั้งหลายในไม่ช้าอย่างแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2011
  11. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    สรุปเถียงกันตั้งนาน ว่าของใครดีกว่ากันงั้นต้องแข่งกัน คุณ ต้นละ ระหว่าง คุณ AVATAAR

    ในบรรลุธรรมก่อนหรือตรัสรู้ก่อนกัน คนนั้นชนะ ครับ
     
  12. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ครับผม
    ผมเองไม่ได้จำฝั่งใจนะครับ แต่ความหมายคำว่า ตรัสรู้ แปลว่าอย่างที่ผมยกมานะครับ แล้วก็มีอธิบายไว้ในตำราวิชาพระพุทธศาสนาเริ่มต้นคือป.1และพจนานุกรมทุกเล่มนะครับ ส่วนท่านAVATAAR เข้าใจความหมายเป็นแบบนั้น(ที่ยกมา)ทั้งชีวิต ก็ไม่ว่ากันนะครับ
    ส่วน ที่ท่านAVATAAR ยกเรื่อง พระสาวกตรัสรู้ตาม ... มานั้น
    จริงๆๆแล้ว พระสาวก(ผู้บรรลุโสดาบัน สกทาคามี อนาทาคามีและพระอรหันต์)ผู้รู้ตาม จะใช้ คำว่า ตรัสรู้โดดๆหรือคำเดียวไม่ได้นะครับ จะต้องมีคำตามหลัง เช่น พระสาวกบุคคลที่ตรัสรู้เนื่องด้วยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ส่วนคำว่า ตรัสรู้(คำเดียว) แปลว่ารู้แจ้ง รู้อย่างแจ่มแจ้งรู้ชัดเจนใช้เป็นคำเฉพาะสำหรับพระพุทธเจ้า

    ผมเองขอให้ท่านทั้งหลายที่อ่านกระทู้นี้ จงได้พบพระพุทธเจ้าพระศรีอาริย์ และได้ดวงตาเห็นธรรมหลังจากฟังเทศน์จากพระศรีอาริย์ด้วยเทอญๆๆๆๆ สาธุๆๆๆ
     
  13. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ครับผม
    ผมต้องขอบอกก่อนนะครับ ว่าไม่ได้เถียงกัน(ส่วนตัวผม) และก็ไม่ได้บอกว่าคำตอบของผมดีกว่าเลยนะครับ ผมแค่อธิบายให้เข้าใจความหมายภาษาไทยนะครับ ท่านแจ๊กซ์ต้องอ่านดีๆๆๆนะครับ
    ส่วนเรื่องบรรลุหรือตรัสรู้ก่อน นั้นมันเป็นเรื่องของอนาคตนะครับ(ไม่สามารถรู้ได้) ผมเองคงไม่กล้าพอจะไปแข่งกับใครหรอกครับ เรื่องสำเร็จเป็นเรื่องของการกระทำนะครับท่านแจ๊กซ์ :cool::cool::cool:
     
  14. วโรดม

    วโรดม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2011
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +47
    ผมก็คิดว่าคำว่าตรัสรู้น่าจะใช้กับพระพุทธเจ้าเท่านั้นครับ เพราะไม่เคยได้ยินว่าพระอรหันต์ตรัสรู้ มีแต่บรรลุอรหันต์ หรือเปล่า แต่ดีครับยิงถกกันยิ่งได้ความรู้ครับ ขอบคุณทั้งสองท่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...