จักรวาลมีจุดสิ้นสุดมั้ยครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย krasin, 24 กันยายน 2013.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    จักรวาลจะถึงที่สุด
    เมื่อท่านนำตนเองหลุดพ้นโลกได้
     
  2. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ไปสู่โลกอื่นสินะ หึๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กันยายน 2013
  3. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    เข้าใจครับ จักรวาลหุ้มจักรวาลเหมือนไข่ขาวหุ้มไข่แดง
    และก็หุ้มอีกหลาายๆชั้น
     
  4. jibakunmk2

    jibakunmk2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +146
    มีครับ เพียงแต่อีกนานมาก เพราะจักรวาลของเรายังเยาว์วัยอยู่มาก ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และปฏิกิริยา จากบิ๊กแบง ก็ยังส่งผลอยู่ครับ
    ถ้ามองในมุมของวิทยาศาสตร์นะครับ
    :cool:
     
  5. อิ๊ด

    อิ๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +551
    ไม่มีคำตอบจากสรวงสวรรค์ (ยิ้ม)
     
  6. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    จะเรียกว่า สุดขอบจักรวาลคงไม่ถูกต้องนักขอรับ ถ้าจะเรียกว่า ท้องฟ้ามีขอบเขต หรือ ท้องฟ้ามีที่สิ้นสุด คงจะถูกต้องว่า เพราะคำว่า จักรวาล หลายๆท่านหรือส่วนใหญ่อาจจะหมายถึงเพียงแค่ ดวงอาทิตย์ และดวงดาวต่างๆที่หมุนอยู่รอบดวงอาทิตย์เท่านั้น

    ท้องฟ้า มีที่สิ้นสุดขอรับ ขอบหรือที่สุดของท้องฟ้า เป็นอีกดินแดนหนึ่ง มีสิ่งมีชีวิตหลายๆอย่างอยู่ ณ.ที่นั้นด้วย มีต้นไม้ มีดอกไม้ สวยงามมาก (ข้าพเจ้าเคยเห็นแต่ต้นไม้และดอกไม้เท่านั้น) แต่ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น แต่น่าจะมี เพราะตอนที่ข้าพเจ้าไปเห็นมานั้น มันสว่างทั่้วไปหมด ด้านบนก็เป็นสีเขียวอมฟ้า ไม่เหมือนท้องฟ้าที่เรามองเห็นกันอยู่ .....ไม่ได้โม้....นะขอรับ
     
  7. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,752
    ค่าพลัง:
    +2,808
    ไม่รู้ครับไม่เคยเห็น

    คนที่รู้เค้าคงไปเห็นมาแล้วถึงได้คำตอบ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=HEheh1BH34Q]Star Size Comparison HD - YouTube[/ame]
     
  8. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    มันมีคำว่า โลกสมุทัย(เหตุเกิด) และโลกนิโรธ(เหตุดับ) หรือ เหตุเกิดของโลกและเหตุดับอยู่.........เหตุนั้นคือ อายตนะภายนอก+อายตนะภายใน+วิญญาน..........ถ้าโยนิโสมนสิการได้เข้าใจ คง ไข อะไร ได้ นะครับ...ปล.นำมาจากพระสูตร..พิจารณาเอาเอง..
     
  9. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน คำถามที่หาคำตอบไม่ได้
    ถ้าเรานั้นมัวหาคำตอบที่ไม่มีวันรู้ ก็จะไม่ได้เริ่มต้นฝึกตน
    ไม่ได้เริ่มปฏิบัติกันเสียที อายุก็สั้น จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้
    อะไรที่เราไม่สามารถทำได้ อะไรที่มันเกินขีดจำกัดของเรา
    ก็ปล่อยวางมันดีกว่าครับ เราเอาตัวเราออกไปนอกโลกเองยังไม่ได้เลย
    และยังไม่มีเครื่องมือใดพาเราไปท่องจักวาลได้แบบอิสระด้วย
    เรื่องจิตสัมผัส มันก็เป็นเรื่องของจิต จิตมนุษย์ไม่บริสุทธิ์ เจือด้วยอุปาทาน
    เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าอันไหนถูกอันไหนจริง ในเมื่อพิสูจน์เป็นรูปธรรมไม่ได้
    ก็อย่าเสียเวลาหาคำตอบเลย ปฏิบัติเอง ถึงเวลาก็รู้เอง แต่ก็บอกใครไม่ได้
    รสชาติของอาหารจะรู้ได้ มันก็ต้องชิมเองเท่านั้น ฟังเขาอธิบายไม่เข้าใจหรอก
     
  10. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เหมือนไม่สิ้นสุด แต่มีสิ้นสุด

    ปรารถนาเหมือนไม่สิ้นสุด แต่มีปรารถนาอย่างที่สุด

    ปรารถนาไม่สิ้นสุด จึงมีแต่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

    สัมผัสรู้ดูด้วยใจ

    ใจไม่ใหญ่พอไปไม่ถึง ดูเหมือนไม่สิ้นสุด

    ใจที่ใหญ่เพียงพอ ดูเหมือนเล็กเท่าฝ่ามือ

    ใจแตกต่าง ถามใคร ก่ ไม่มีใครเหมือน

    เดี๋ยวคนโน้นว่า สิ้นสุด

    เดี๋ยวคนนี้ว่า ไม่สิ้นสุด

    สุดแต่ที่ใจใคร .... เพราะใครๆ มีใจที่แตกต่าง

    รู้ได้อย่างไรว่า สิ้นสุดไม่สิ้นสุด

    รู้ได้เพราะถามผู้มีใจยิ่งใหญ่ เพียงพอ จึงรู้ได้ว่ามีสิ้นสุด และมีทั้งในและนอกมีขอบเขตกางกั้น

    หากถามผู้มีใจไม่ใหญ่พอ ก็จะรู้ได้เพียงว่า มีไม่สิ้นสุด คือ มองไม่เห็น ยังไปอีกไกล

    ความแตกต่างคือ ใจ ของผู้ใด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2013
  11. action_jai

    action_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2007
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +241
    เห็นด้วยกับท่าน phudit....

    ตราบใดที่ความสงสัยของสัตว์โลกยังไม่สิ้นสุด จักรวาลก็ยังไม่สิ้นสุด...
    ตราบใดที่ความสงสัยของสัตว์โลกสิ้นสุด จักรวาลก็มีจุดสิ้นสุด...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 ตุลาคม 2013
  12. baddog

    baddog Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +36
    ความเห็นส่วนตัว :

    ไม่มีที่สิ้นสุดครับ

    จักรวาลประกอบจากความว่างเปล่าล้วนๆ

    อนันตจักรวาล

    มนุษย์เราเกิดมา ก็มีกรอบ มีขอบให้เห็นเป็นธรรมชาติ มีห้อง มีเขตแดน ให้ยึดมั่นถือมั่น

    จึงไม่มีทางเข้าใจได้เลยว่า อนันต์หรือไม่มีที่สิ้นสุดนั้น คืออะไร

    ได้แต่รู้แบบงูๆปลาๆ ท่องจำเอา ฟังเขาเอา อ่านเอา

    มีซ้าย มีขาว มีหน้า มีหลัง มีฉัน มีเธอ มีข้างบน มีข้างล่าง

    ประกอบรวมกันขึ้นมาเป็นสมมุติ ให้สมองได้เข้าได้ตามตรรกะที่เป็นหยาบๆ

    เพื่อมิให้เราสติแตก รับไม่ได้ ว่าจริงๆแล้ว เรานั้น ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง

    มีแต่จิต ที่เป็นจิตบริสุทธ์ เพียงแต่ถูกครอบงำ ด้วยอวิชชา รอวันที่จะแตกฉาน

    หลุดพ้น ขอย้ำว่าทุกๆคน มีจิตบริสุทธ์ จิตผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน อยู่ข้างใน

    แค่รอเวลาเท่านั้น เวลาที่สำนึกได้ เวลาที่คิดเองออกได้ ว่าผ่านพ้นมาแล้วกี่แสนภพ

    กี่ล้านชาติ ทำไมถึงยังต้องมาเกิดอีก เวียนว่ายอีก เพื่ออะไร เบื่อหน่ายเพียงพอหรือยัง

    ถ้ายังคิดไม่ได้ สำนึกไม่ออก ก็เวียนว่ายต่อไป คิดได้แล้ว จึงต้องหาทาง ปฏิบัติ

    ให้หลุดพ้น จากพันธนาการต่างๆ ให้หมด ค่อยๆเป็นไป ตามธรรมชาติ และอยู่ที่ความเพียร
     
  13. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162
    จักรวาลในความหมายของกระทู้นี้น่าจะเป็นเอกภพ มีที่สิ้นสุดครับ แต่มันจะวนไปจุดเริ่มใหม่ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ขยายตัวเรื่อยๆ อยู่แล้ว มันเป็นกลไกอย่างนึงที่เป็นผลมาจากการสร้างระบบตำแหน่งของวัตถุธาตุ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการเคลื่อนที่ถึงมีผลกับช่วงเวลาที่แปรเปลี่ยนไป

    เอกภพนี้ไม่ใช่เอกภพแบบชั้นเดียว แต่เป็นแบบหลายชั้นในระบบเดียว อย่างเช่น โลกมนุษย์จะมีความซับซ้อนทางกายภาพสูงมาก แต่ถ้าไกลออกไปอย่างเข้าไปในเขตพวกเนบิวล่า หรือดาวฤกษ์ขนาดยักษ์ สภาพกฎบางข้อของระบบจะมีการเปลี่ยนแปลงไป อย่างเช่น เรื่องของมิติเวลา จะมีการเลื่อมกันของเวลาต่างกันออกไป หรือกฎแรงดึงดูดก็จะเอาค่าของอีกระบบมาใช้กับอีกที่ไม่ได้
    อย่างเขตแดนสวรรค์สามารถสร้างยานพาหนะเดินทางไปถึงได้ เพราะอยู่ในระบบเดียวกันกับเอกภพนี้ แต่ในชั้นของพรหมหรือนรกที่ละเอียดและหยาบมากๆ ไม่สามารถสร้างวัตถุธาตุ เดินทางไปถึงได้ เพราะมันอยู่กันคนละชั้นของระบบ

    จักรวาลนี้เปรียบเสมือนโปรแกรม os ขนาดใหญ่ระบบนึงเท่านั้น ซึ่งกฎต่างๆ ที่ถูกสร้างสรรขึ้นมานั้น ไม่มีใครเป็นผู้กำหนดสร้างได้ มันเกิดขึ้นจากผลของพลังงานในระดับ user เป็นผู้ส่งผลกระทบให้ระบบของ os ต่างๆ เหล่านี้ต้องออกแบบกฎเฉพาะของแต่ละ function ขึ้นมาเพื่อสร้าง output ที่ user ต้องการ ดังนั้นในเรื่องของกฎของธรรมชาติจึงเป็นกฎที่เกิดมาเพื่อรองรับผลของดวงจิต ดังนั้นเราไม่สามารถเอาเหตุผล ความเป็นเหตุเป็นผลในกฎเกณฑ์ความเข้าใจในสิ่งที่เรารับรู้ได้ในขอบเขตจำกัดนึงๆ ไปอนุมานกฎอื่นๆ ได้ทั้งหมด เพราะกฎต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้ถูกสร้างในระบบในระนาบเดียวกัน
    แต่ถูกสร้างซ้อนทับกันไปมาเรื่อยๆ ดังนั้นการศึกษาในแนวทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันถ้าจะให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกระดับก็ต้องมาวิจัยค้นคว้าเรื่องของพลังจิตแทน เพราะในระบบเดิมมันอยู่ในจุดที่สุดทางแล้ว จำเป็นต้องก้าวต่อไปในระดับชั้นที่ละเอียดไปกว่านี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...