จะฝึก กายคตาสติ ต้องตัดคำภาวนาทุกชนิดทิ้งครับ ยกเว้น..?

มาๆ ลุงแมว มาเยินยับ มั่ง
จะได้ไม่กลัวตาย ตอนอายุขัยหมด..
มีเงินจองเฟส นิพพาน กะเขาหรือเปล่า..ตายไป อดไปนิพพานนา
อิอิ..แมวแก่ กลัว..

 

NOPPAKAN..ไอ้รั่ว ไบโพลา..ส่งหลังไมด์มาหาผมทำไมครับ ขนาดหน้าไมด์คุณยังโกหกได้ สด สด ..ผมกลายเป็นคนผิดไปทั้งที่เป็นฝ่ายถูก สมองคุณเป็นแผลรึไม่นี่..ผมไม่คุยกับคนอย่างคุณหรอกครับ

ข้อความส่วนตัวและสนทนา

1. 
   สวัสดีครับ
   With: nopphakan, ใครบรรลุธรรม
   โพสต์ล่าสุดโดย nopphakan, เมื่อวาน เวลา 13:44

ส่งข้อความสนทนาใหม่ แสดงทั้งหมด...

 

วันนี้เปิด ทำมาส กันมะครับ
มีส้มตำแบบมะวานป่าว555

 

วันพระงดดราม่า
ทำบุญทำกุศลกันดีกว่า อิอิ

 

HOMELESS....หากคุณสามารถ ระลึก การรู้สึกตัวทั่วพร้อมได้ตลอดต่อเนื่อง-หรือแบบติดๆดับๆก็ได้ ทรงให้ได้นานที่สุด จิต.. ธรรมชาติของเขาจะเกิด-ดับ-ตลอด24ชม. หากคุณชนะเขา คุณก็ดึงมาที่กายให้เร็วที่สุด-กายเป็นจุดโฟกัสที่ใหญ่ที่สุดของจิต-การเดินอาณาปานสติ กายสังขารระงับก็รู้ว่ากายสังขารระงับ คุณจะง่ายครับ ใช้เขาเป็นที่ตั้งไปเรื่อย ผม ขน เล็บ แขน ขา ทำความรู้สึกอยู่ภายในกายยยนี้ให้นานนน

 

..คุณทำได้ผมมั่นใจจากหลายๆคำถามของคุณ -ให้กายสัมผัสกับลมหรืออะไรก็ได้ ที่มาสัมผัสเขาในปัจจุบัน หรือรู้สึก "สัมผัส" ตลอดเวลา..ย้ำใช้"กาย" ทั้งตัว

 

..ไล่จิตเป็นไหมครับ ค่อยๆทำแล้วคุณจะตั้งจิตในความรู้สึกตัวทั่วพร้อมได้-ในไม่นาน- นานเท่าไหร่นั่นอีกเรื่องครับ..จิตเสพได้ทีละอารมณ์-เขาจะวิ่งไปไหน-มาไหน-คุณตั้งความรู้สึกให้อยู่ที่ กาย-กาย-กายเท่านั้น ตรงไหนก็ได้แต่อยู่ที่ กายยยยครับ
จิตคุณดึงเขาไว้ที่"กาย-ใช้ทั้งกายดึงไว้ครับ"..การรู้สึกตัวทั่วพร้อมจะเกิดกับคุณ เมื่อสมาธิพัฒนาแข็งแรงขึ้น..เดิน-ยืน-นั่ง-นอน-ทั้งกายคุณจะทำจนเป็นอัตโนมัตครับ นี่คือการทรงสติปัฎฐานสี่ ไปในตัวด้วย.. ไม่นานหรอกครับยากตรงตั้งต้นเท่านั้น

 

..แค่ลมพัดผ่าน กาย..หรือวิ่งไปสัมผัสลม-ไป มา นั่นคือ ร่างกายได้กระทบสัมผัสกับลมแล้วทั้งกาย ส่วนไหนเท่านั้นที่คุณรู้สึกถึงครับ ..การรู้สึกตัวทั่วพร้อม เกิดกับคุณแล้วครับ-ต้องมีสติจับความรู้สึกให้ได้..นานไปๆๆๆคุณรู้ได้ด้วยตนเองครับ

 

ไล่จิต ไม่เป็นอ่ะ ไล่พี่เกิดเป็น ชิ่วๆ 555

 

HOMELESS..เชื่อไหมครับ..เมื่อคุณรู้สึกตัวทั่วพร้อมได้แล้ว จิตคุณอีกส่วนหนึ่ง ก็ยังสามารถสื่อสาร-ได้ปกติทุกอย่าง มันเหมือนจิตถูกแบ่งเป็น2 ส่วน
..ส่วนหนึ่งจะเกาะกายทั้งตัวแบบแนบแน่น-รู้สึกตัวทั่วพร้อม-แต่เบาสบาย-ไม่หลุด ไม่ต้องคอยจับจ้อง- อีกส่วนหนึ่งจะแบ่งไปทำงานตามปกติของชาวโลก เราตามอายตนะ6..ไปเสพ แต่ไม่บีบคั้น บังคับหรือจดจ่อ ยึดมั่นแบบอุปทาน ไม่มีเครียด-ในอะไรนานเลย ตรงข้ามกลับใช้อายตนะแบบรู้ เข้าใจ เบาสบาย..เบาสบายยยย..ไม่ยึดติดแค่รู้ เขาจะปล่อยหรือสัมผัสนานเท่าใด ตามที่จิตเป็นไปเองครับ
นานไป สติสมาธิจะแน่นไปเองแบบเบาสบาย เขาเป็นของเขาเอง ไม่ต้องไปตั้งเรื่องบังคับเขาครับ-เขาจะเป็นไปตามสภาวะเอง..สติจะกล้าแกร่ง-แต่เหมือนถูกแบ่งเป็น2 จนเป็นสมาธิที่ไม่เครียด-แนบแน่น..ผมทำมาแล้ว ระลึกปั๊บจิตจะเกาะกายทั่วพร้อมทั้งตัว ทันทีครับนานตามกำลังจิตที่ทำได้-แต่ติดๆดับๆ-ปัจจุบันนี้ผมก็ทำได้ ผมจำ.."เส้นทางนี้ของผมได้ชัดเจน".. และปฏิบัติทุกเมื่อที่จิตระลึกได้ทันครับ..ไม่ได้โม้้เลยยยยยยยจริงงงงงงงงงครับ.

 

HOMELESS..สำคัญที่สุด-มูลฐานจิต..พื้นฐานจิต- คุณต้องสะสมมาดีครับ-มายาสาไถย์-ปลิ้นปล้อน-เล่ห์เหลี่ยมในจิต-ตรงไหนมีผลประโยชน์ต้องแจ้งให้ชัดถ้าผู้อื่นมีส่วนร่วม- ต้องทิ้งให้หมด ทำให้ได้ หากเผลอก็ตั้งต้นใหม่ คุณจะมีแต่เสียจำไว้นะครับ มีแต่เสียหากต้องอยู่ในสังคมนี้..-แต่คุณจะเข้าใจคำว่า ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม-คุ้มกับจิตที่ได้มา "ดี" ครับ
...ทำแต่ความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว..

 

ไล่จิต..ไม่ยากเลยพี่ปราบ ความคิดจับจมูก-ปาก-คาง-วนรอบใบหน้า-หู-ผม-ยิ่งไล่นาน สติก็เกาะความคิดนั้นๆ..จิตก็เกาะความคิดนั้นๆไปด้วย-คิดตรงไหนจิตก็เกิดตรงนั้น นี่พุทธวจน ครับ ..การไ่่ลความคิดนี้นานนนนเท่าไหร่ จิตก็..ตามเราไปนานเท่านั้น...เห็นไหมครับ "ตั้งสติไว้เฉพาะหน้า" อาณาปนสติ ลองอ่านดูซิครับ

 

ความคิด คือโมน-วิญญาณ-เมื่อ ไปกระทบ-หรือเสพ-อารมณ์(ฉาก)..การรู้แจ้งจึงเกิด(จิต) เช่น ตามองไปที่แก้วจนรู้แจ้งว่าเป็นแก้ว-สัญญา สังขาร จะร่วมปรุงแบบสายฟ้าแล็บว่าเป็นสีอะไร แก้วชนิดไหนก็ตาม เมื่อ "รู้แจ้ง" แล้วเรา เรียกว่า "จิต".พุทธวจนครับ จะได้ไม่งง.

 

จิต-โมน-วิญญาณ-ความคิด-เขาทำงานกันแบบ.."อิทัปปัจยตา" เห็นไหมครับ การเกิด แบบอาศัยกันและกันเป็นปัจจัย-ในการเกิด-..ไม่เคยมีพระองค์ไหนในประเทศไทยนำมาสอนเราแบบนี้..นอกจากเราจะเข้าใจการทำงานของ..วงจร "ปฏิจจสมุปบาท-อิทัปปัจจยตา"..ครับ

 

..รออะไรอยู่.กราบธรรมที่ผมแสดงซิครับ..สาธุ..ผมเรียกพวกภูมิจิต-วิปลาสนะครับ อิอิ

 

ตรงนี้ ผมเห็นแย้งครับ พี่ปราบจะไปติด นามธรรม-พุทธรูป-จิตงงต้องแปรสัญญา คำที่ใช้ ภาวนาอีก- เสียเวลาทั้งชีวิตเผลอๆครับ..

 

ผมค้านครับ ถ้าติดคำบริกรรม จะได้แค่สมาธิครับ-แต่ถ้าติดกายคตาสติ-จะต่อยอดได้อีกมหาศาลครับ ส่วนคำบริกรรม..เผลอๆปิดยอด ชิตังเม รวยยยยยยยยยโป้งๆอิอิ

 

ท่านขาจอน..
ตับอ่อน-ตับแข็ง-หัวใจ-สมองทุกซีก-ของผมทำงานปกติครับ..แต่ไอ้ไรั่ว-ไบโพลา นั่นสมองมันเป็นแผล..ครับ ว่างๆผมจะร่ายยาวถึงอาการมันให้อ่านกันชัดๆนะครับ ได้ทบทวนความรู้กันสนุกแน่

 

ด่าเกินจริงครับ ผมค้าน..ปัจจุบัน "วรณ์นิ" ยังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้บางครั้งต้องเขวี้ยงสากกะเบือใส่ก็ตาม -ยังก็ตาม ผมว่าด่าเกินจริงแน่นวล..คนอะไรจะร้ายปานนั้น

 

เหม่ๆ..มันบังอาจ มาว่าผม สติวิปลาส-ขนาดผมแอบๆบังๆไว้แล้วนะ-มันยังรู้ได้..รอผมทำงานวิจัยก่อนครับ จะได้มีเปเปอร์เป็นหลักฐาน จะออกเร็วๆนี้ ได้ทุนจาก ฮาไม่หวาดไม่ไหวมา ทำวิจัยเรื่อง.. "จิตวิปลาส" ครับท่านขาจอน.