ความเห็นเกี่ยวกับการแจกพระธาตุ

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย นายตถาตา, 16 กรกฎาคม 2010.

  1. กระจก6ด้าน

    กระจก6ด้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +65
    ช่วยกันรณรงค์ให้งดส่งและงดรับพระบรมฯทางไปรษณีย์
    ผู้ที่ต้องการบูชาพระบรมสารีริกธาตุขอให้มาอัญเชิญยังสถานที่เท่านั้น


    เพราะการส่งพระบรมฯทางไปรษณีย์ก่อให้เกิดการปรามาสพระโดยไม่เจตนาหลายต่อ บาปมากทั้งผู้ให้และผู้รับ
    ผู้ให้มีเจตนาเป็นกุศลในการแจกพระบรมฯ ในส่วนนี้เป็นบุญ
    แต่ การปรามาสพระองค์ท่านโดยไม่เจตนาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์อันนี้เป็นกรรมหนัก กรรมหนักในพระพุทธศาสนาหนึ่งในนั้นคือการก้าวล่วงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า(แม้โดยไม่เจตนาก็เป็นอกุศลกรรมและต้องรับผลของกรรมแน่นอนไม่มีผู้ใดหลีกหนีผลของกรรมได้)
    ดังนั้นการทำงานนี้โดยประมาท(เช่นการบรรจุพระบรมฯใส่ถุงซิปส่งทางไปรษณีย์)

    อกุศลกรรมจะมากกว่าบุญที่ได้รับ
    บางท่านอาจจะบอกว่ามีเจตนาบริสุทธิ์และได้กราบขอขมาท่านแล้วแต่บุญก็คือบุญ บาปก็คือบาปต้องแยกจากกันปนกันไม่ได้
    ต้องแยกกันนะครับอย่าเอามาปนกันไม่งั้นจะสับสน
    ระหว่าง
    1.นามธรรม คือกุศลจิตกับ
    2.รูปธรรมคือปรามาสโดยไม่เจตนาซึ่งก่อให้เกิดอกุศลกรรมทั้งผู้ให้และผู้รับ

    ต้องวิเคราะห์ให้ชัดเจนนะครับว่า การที่เราจะเป็นผู้ให้ เราได้ให้อะไรกับผู้รับบ้างบุญหรือบาปหรือทั้ง 2 อย่าง
    =========================
    ขอออกความเห็นบ้างนะครับ

    [FONT=&quot]การทำงานแจกพระบรมในภาพรวมมีองค์ประกอบ3ส่วนคือผู้ให้ ผู้รับและพระบรมสารีริกธาตุ[/FONT]
    [FONT=&quot]ในครั้งนี้จะพูดถึงในส่วนของผู้ให้ก่อน[/FONT]

    [FONT=&quot]1.ผู้ให้มีเจตนาเป็นกุศลในการแจกพระบรมฯ ในส่วนนี้เป็นบุญ[/FONT]

    [FONT=&quot]แต่ การปรามาสพระองค์ท่านโดยไม่เจตนาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์อันนี้เป็นกรรมหนัก กรรมหนักในพระพุทธศาสนาหนึ่งในนั้นคือการก้าวล่วงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า[/FONT]([FONT=&quot]แม้โดยไม่เจตนาก็เป็นอกุศลกรรมและต้องรับผลของกรรมแน่นอนไม่มีผู้ใดหลีกหนีผลของกรรมได้[/FONT])

    [FONT=&quot]ดังนั้นการทำงานนี้โดยประมาท[/FONT]([FONT=&quot]เช่นการบรรจุพระบรมฯใส่ถุงซิปส่งทางไปรษณีย์[/FONT])

    [FONT=&quot]อกุศลกรรมจะมากกว่าบุญที่ได้รับ[/FONT]

    [FONT=&quot]บางท่านอาจจะบอกว่ามีเจตนาบริสุทธิ์และได้กราบขอขมาท่านแล้ว[/FONT]

    [FONT=&quot]แต่ บุญก็คือบุญ บาปก็คือบาปต้องแยกจากกันปนกันไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่นเวลาเราทำร้ายหรือล่วงเกินพ่อแม่ พ่อแม่ ก็ไม่เคยโกรธและอโหสิกรรมให้เราแต่กฎของกรรมเราต้องรับไหม[/FONT]?

    [FONT=&quot]เราจะคิดเองเออเองไม่ได้ ต้องพิจารณาไปตามธรรม เพราะทุกอย่าง ในโลกธาตุอยู่ใต้กฎของกรรมหมด[/FONT]([FONT=&quot]แม้ขอขมาพระแล้วแต่อกุศลกรรมนั้นที่เกิดขึ้นโดยไม่เจตนาเราก็ต้องรับอยู่ดีเพราะกราปรามาสเกิดขึ้นแล้วจริงไหม[/FONT]?[FONT=&quot] และเกิดเพราะใครเป็นต้นเหตุล่ะถ้ามิใช่ผู้ส่ง แม้บอกว่าเจตนาบริสุทธิ์ แต่ต้องแยกกันเพราะการกระทำที่เกิดขึ้นแล้วนำไปสู่การปรามาสโดยไม่เจตนาก็ อีกส่วนหนึ่ง[/FONT])

    [FONT=&quot]ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าเราเคยทำอกุศลกรรมอะไรไว้แค่กราบขอขมากรรมทุกอย่างในอดีตชาติถึงปัจจุบัน[/FONT]

    [FONT=&quot]อกุศลกรรมที่เราเคยทำมาตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบันก็จบอย่างนั้นหรือ เราจะไม่ต้องรับกรรมที่เราเคยทำไว้อย่างงั้นหรือ[/FONT]

    [FONT=&quot]การ ที่คนส่วนใหญ่ที่ส่งพระบรมฯ ผ่านไปรษณีย์กราบขอขมาพระทุกครั้งนอกจากเหตุผลที่เคารพท่านแล้วมักบอกว่า เป็นการขอขมาที่ล่วงเกินพระโดยไม่เจตนา แสดงว่ายอมรับว่ามันมีส่วนที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้นกลัวพลาดเพราะความไม่มั่นใจ[/FONT]([FONT=&quot]คือปรามาสโดยไม่เจตนานั่นเอง[/FONT])

    [FONT=&quot]ต้องแยกกันนะครับอย่าเอามาปนกันไม่งั้นจะสับสน[/FONT]
    [FONT=&quot]ระหว่าง[/FONT]
    [FONT=&quot]1.นามธรรม คือกุศลจิตกับ[/FONT]
    [FONT=&quot]2.รูปธรรมคือปรามาสโดยไม่เจตนาซึ่งก่อให้เกิดอกุศลกรรมทั้งผู้ให้และผู้รับ[/FONT]

    [FONT=&quot]ต้องวิเคราะห์ให้ชัดเจนนะครับว่า การที่เราจะเป็นผู้ให้ เราได้ให้อะไรกับผู้รับบ้างบุญหรือบาปหรือทั้ง 2 อย่าง[/FONT]

    [FONT=&quot]พิจารณานะครับว่าการที่เรามาอัญเชิญพระบรมฯ[/FONT] [FONT=&quot]และใส่ผอบบูชาท่านด้วยตนเองเราได้อะไรบ้าง[/FONT]
    [FONT=&quot]1.อย่างแรกเราได้พระบรมกลับไปบูชาที่บ้านด้วยความเคารพ[/FONT]([FONT=&quot]ได้สะสมบุญก้าวหนึ่งแล้วด้วยการใช้ความพยายามลงแรงอย่างอุตสาหะ[/FONT])
    2.[FONT=&quot]เราจะได้บุญบารมีที่สูงขึ้น เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ท่านเป็นของหนัก [/FONT]([FONT=&quot]ได้บุญๆก็หนัก ได้บาปๆก็หนัก[/FONT])
    3.[FONT=&quot]การที่พุทธศาสนิกชนมาอัญเชิญพระบรมด้วยตนเองส่วนมากจะต้องผ่านอุปสรรคหรือวิบากซึ่งจะต้องใช้กำลังใจอย่างมาก[/FONT]([FONT=&quot]ซึ่งก็คือการเร่งบารมีด้วยการต้องใช้กำลังใจอย่างมากนี่เอง[/FONT])

    [FONT=&quot]ใน อีกมุมมองของคนที่ได้เห็นและรับรู้เรื่องนี้ ในส่วนของคนในพระศาสนาถ้าเรามีพิธีการที่เหมาะสมที่จะไปอัญเชิญพระบรมฯคน ส่วนมากจะเกิดปีติและโมทนาบุญกับเราด้วย ในแง่กลับกันถ้าเขาเห็นเราใส่ถุงซิปส่งทางไปรษณีย์คนจะคิดอย่างไรถ้าเขาเห็น[/FONT]

    [FONT=&quot]ท่าน ที่ไม่ค่อยได้ส่งสิ่งของทางไปรษณีย์อาจมองไม่เห็นภาพ ณ สถานการณ์จริงเวลาส่งพัสดุมันจะต้องมีการโยนพัสดุลงพื้นเพื่อคัดแยกอยู่แล้ว ผมเคยเห็นมาด้วยตนเองมีคนข้ามไปข้ามมา พัสดุกองทับๆกันบางทีมีของที่ไม่เหมาะสมกองอยู่ข้างๆเช่น รองเท้าแตะ ผ้าอนามัยเป็นต้น[/FONT]

    [FONT=&quot]เคยถามพนักงานที่ ไปรษณีย์ว่า การส่งพัสดุเป็นเช่นนี้ทุกครั้งหรือ พนักงานไปรษณีย์ตอบว่าใช่เพราะมันเป็นธรรมชาติของการส่งพัสดุไม่ว่าส่งอะไร มา [/FONT]Process[FONT=&quot]ก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้วคือ[/FONT]
    [FONT=&quot]1.มีการคัดแยก โดยกองพัสดุ ลงพื้น และแบ่งจดหมาย[/FONT]
    [FONT=&quot]2.การเดินข้ามไปมาเป็นเรื่องปรกติเพราะงานเขาต้องแข่งกับเวลา[/FONT]
    [FONT=&quot]3.มีของทุกชนิดที่ไม่อันตรายกองอยู่ด้วยกัน[/FONT]([FONT=&quot]แน่ นอนว่าของที่ไม่เหมาะสมจะวางข้างพระบรมฯก็มีอยู่แล้ว ถึงไม่มีก็ไม่ควรวางท่านที่พื้นหรือเอาของทั่วไปวางทับ บางท่านว่าซีเรียสไปหรือเปล่าแต่เรา
    ไม่ได้ซีเรียสแต่ต้องให้เกียรติพระองค์ท่านนะครับเพราะพระบรมฯก็เป็นส่วนหนึ่งของท่าน[/FONT])
    [FONT=&quot]ผมได้เห็นขั้นตอนการส่งพัสดุ[/FONT]([FONT=&quot]เพราะขอเขาเข้าไปดูข้างในด้วยตนเอง[/FONT])[FONT=&quot]แล้วสะเทือนใจมากๆ[/FONT] [FONT=&quot]เพราะ เวลานี้มีคนส่งพระบรมฯโดยใส่ถุงซิปส่งทางไปรษณีย์เป็นจำนวนมาก การปรามาสพระโดยไม่เจตนาจึงเกิดขึ้นเรื่อยๆด้วยความไม่รู้เท่าทันนั่นเอง[/FONT]


    [FONT=&quot]ผมเคยถามคนทั่วไปที่เข้าวัดปฎิบัติว่าสมมุติ[/FONT]
    [FONT=&quot]บ้านเกิดพ่อแม่เขาอยู่ไกลเช่นเชียงใหม่แต่มา ณาปนกิจที่วัดแถวกรุงเทพ[/FONT]([FONT=&quot]เพราะต้องมาเข้าโรงพยาบาล[/FONT])[FONT=&quot] เขาจะส่งอัฐิพ่อแม่กลับบ้านเกิดผ่านทางไปรษณีย์จากกรุงเทพไปบ้านเกิดหรือไม่ คนทั้งหมดตอบว่าไม่ทำแน่นอนเพราะไม่อยากให้มีคนเอาอัฐิของพ่อแม่ไปวางที่ พื้นและมีคนข้ามไปข้ามมาขืนทำเขาต้องโดนญาติพี่น้องต่อว่าอย่างรุนแรงแน่นอน เพราะไม่สมควร[/FONT]

    [FONT=&quot]แต่นี่เราจะส่งพระบรมฯโดยใส่ถุงซิปส่งทางไปรษณีย์กระนั้นหรือ[/FONT]!?[FONT=&quot]สมควรแล้วหรือไม่

    [/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้ามองในมุมของคนต่างศาสนาผมเคยเล่าเรื่อง การส่งพระบรมฯโดยใส่ถุงซิปส่งทางไปรษณีย์ ให้เขาฟังร้อยทั้งร้อยพวกเขาฟังด้วยความตกใจ[/FONT]

    [FONT=&quot]เพราะ ว่าศาสนาของเขาถ้ามีผู้ทำกับส่วนนึงของพระศาสดาเขาอย่างนี้ ต้องเป็นเรื่องราวกันใหญ่โตแน่ๆเพราะถือเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นกันอย่างรุนแรง และอภัยให้ไม่ได้[/FONT]

    [FONT=&quot]และเขาก็มีความรู้สึกสงสัยในศรัทธาของพุทธศาสนิกชน และสงสัยในปัญญาและวิธีการบูชาพระศาสดา ของเราและเขาก็บอกอย่างตรงๆ[/FONT]([FONT=&quot]แบบฝรั่ง[/FONT])[FONT=&quot]ว่าคาดเดาได้ว่าถ้าทำแบบนี้กันเรื่อยๆการเสื่อมของศาสนาเราคงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแน่ๆเพราะความเคารพพื้นฐานยังไม่มีกันเลย[/FONT]


    [FONT=&quot]ดังนั้นการทำบุญในพระศาสนาโดยเฉพาะการอัญเชิญพระบรมฯขอให้ใช้ปัญญาพิจารณากันให้มากๆนะครับ[/FONT]

    [FONT=&quot]ควร ใช้หลักเหตุและผล การควรไม่ควรและพิจารณาในหลักธรรมด้วย ขอความกรุณาอย่าคิดโดยยกตนเองเป็นที่ตั้งว่ารู้รอบแล้ว ไม่ต้องฟังคำท้วงจากใครหรือจากกัลยาณมิตรใดๆ[/FONT]


    [FONT=&quot]ใน การทำงานเกี่ยวกับพระบรมฯ อยากขอให้ทุกท่านเจริญศรัทธา กำลังใจปัญญาบนแนวทางที่ถูกต้อง ให้ผู้รับได้ประโยชน์เต็มที่ และเห็นถึงอานิสงค์ที่พึงจะได้รับด้วย
    เพื่อที่จะได้ทำการปฎิบัติบูชาและสักการะพระบรมฯในแนวทางที่ถูกต้อง สืบต่อกันไปในพระศาสนา [/FONT]

    [FONT=&quot]บาง คณะ หรือบางคนมีความตั้งใจ ที่จะยอมลงนรกในการทำงานครั้งนี้ โดยขอให้ผู้ที่ได้รับพระบรมฯทางไปรษณีย์รอด เรื่องนี้คงไม่ต้องขอเพราะลงอยู่แล้วลึกด้วย และนานด้วย เพราะการส่งพระบรมฯทางไปรษณีย์ก่อให้เกิดการปรามาสพระโดยไม่เจตนาหลายต่อ และสิ่งที่เกิดด้วยความไม่รู้ นี้ [/FONT]([FONT=&quot]ตัวหลง[/FONT])[FONT=&quot] จะพลอยทำให้คนอื่นลงนรกตามอีกด้วย เพราะเกี่ยวเนื่องกันท่านอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาจิตยืนยันว่าการส่งพระบรมฯทาง ไปรษณีย์ ก่อให้เกิดการปรามาสพระโดยไม่เจตนาและบาปมากทั้งผู้ให้และผู้รับ[/FONT]

    [FONT=&quot]ถ้า ท่านเป็นผู้ขอรับพระบรมฯทางไปรษณีย์ขอให้ท่านพิจารณาให้ดี ได้บุญพร้อมบาปที่มากกว่าหลายสิบเท่าตัวท่านพร้อมจะเสี่ยงหรือไม่สู้มา อัญเชิญพระบรมฯด้วยตนเองได้บุญล้วนๆไม่ดีกว่าหรือ ลำบากหน่อยช้าหน่อย แต่ปลอดภัยและเป็นการเพิ่มบารมีเราเองด้วยเพราะต้องตัดใจใช้กำลังใจอย่างมาก[/FONT]

    [FONT=&quot]สำหรับท่านที่ยังส่งพระบรมฯทางไปรษณีย์อยู่ต้องคิดหนักๆนะครับ

    เพราะนอกจากบาปที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ[/FONT]([FONT=&quot]มากกว่าบุญที่ได้[/FONT])[FONT=&quot]ผ่านการปรามาสพระโดยไม่เจตนาพวกคุณยังต้องตามไปปรับความคิดและทัศนคติ ของทุกคนที่คุณทำให้หลงและลงนรกอีกด้วย [/FONT]([FONT=&quot]ต้องตามเขาไปเกิดเพื่อปรับความคิดและทัศนคติ ให้ถูกต้องครบทุกคน[/FONT])และท่านเคยถามคนที่เขารับหรือไม่ว่าพร้อมหรือยังที่จะรับกรรมปรามาสพระที่สุดแสนจะหนักมากกว่าบุญที่ได้รับหลายเท่าไปพร้อมกับท่าน

    [FONT=&quot]คุณ จะต้องตามไปเก็บกี่ภพกี่ชาติกันครับลองนับดูเถิด มันนานน่าดูเชียว อย่าคิดว่าการทำงานแบบง่ายๆแบบนี้จะได้บารมีมากๆอย่างเดียวอันนี้คิดผิดนะ ครับการดูููว่าใครเป็นผู้มีบารมีมากดูง่ายๆที่ ปัญญา [/FONT]


    [FONT=&quot]ปัญญาบารมีในทางธรรมมาก ก็คือผู้ที่มีบารมีสร้างสมมามาก[/FONT]

    [FONT=&quot]ผลของการทำงานโดยเอาง่ายเข้าว่า[/FONT]([FONT=&quot]เช่นการส่งพระบรมฯทางไปรษณีย์ [/FONT])[FONT=&quot] แสดงว่าบารมียังอ่อนอยู่ ยังต้องสั่งสมอีกมากและการส่งพระบรมฯทางไปรษณีย์ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ ยังเป็นการทำลายพระศาสนาโดยตรงอีกด้วยเพราะทำให้คนในพระศาสนาหลงด้วยความไม่ รู้ ทำให้เขาตกนรกกับตนเองด้วย และทำลายผู้ที่กำลังมีศรัทธาหรือมีศรัทธาแล้วที่จะเข้ามานับถือพระพุทธศาสนา เพราะผลของการกระทำที่มิควรเช่นนี้

    [/FONT][FONT=&quot]สรุปนะครับ ในเรื่องที่ผมไม่เห็นด้วยกับการส่งพระบรมฯทางไปรษณีย์[/FONT]

    [FONT=&quot]1 บางท่านว่าซีเรียสไปหรือเปล่า[/FONT]
    [FONT=&quot]เราไม่ได้ซีเรียสแต่ต้องให้เกียรติพระองค์ท่านนะครับเพราะพระบรมฯก็เป็นส่วนหนึ่งของท่าน[/FONT]
    [FONT=&quot]2.ผู้ให้มีเจตนาเป็นกุศลจริงแต่ต้องแยกกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะการการส่งพระบรมฯทางไปรษณีย์ ที่เกิดขึ้นแล้วนำไปสู่การปรามาสโดยไม่เจตนา ต้องรับอกุศลกรรมที่เกิดขึ้นแน่นอน[/FONT]

    [FONT=&quot]3.บางคนบอกว่าถ้าการส่งพระบรมฯทางไปรษณีย์เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องแล้วเหตุใดพระบรมฯยังคงเสด็จมาหาเขาอยู่[/FONT]
    [FONT=&quot]ขอเรียนให้ทราบนะครับว่า[/FONT]
    [FONT=&quot]บุญกับบาปแยกกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]คุณอาจจะเคยทำกรรมดีที่มีความเกี่ยวข้องกับการแจกจ่ายพระบรมฯเลยสามารถอัญเชิญพระบรมมาได้อยู่ เพราะผลบุญนั้นๆ[/FONT]
    [FONT=&quot]แต่เพราะ[/FONT][FONT=&quot]บุญกับบาปแยกกัน[/FONT][FONT=&quot]อกุศลกรรมที่ปรามาสพระโดยไม่เจตนาด้วยการส่งพระบรมฯทางไปรษณีย์ เกิดแล้วคุณก็ต้องรับกรรมอันเป็นอกุศลนั้นๆอยู่ดีจะพูดสรุปง่ายๆไม่ได้นะครับ[/FONT]

    [FONT=&quot]4.ถ้า รู้สึกไม่ดีผิดบาปแค่ขอขมาพระก็ไม่ต้องรับอกุศลกรรมที่ปรามาสพระโดยไม่เจตนา แล้วก็ไม่จริงเพราะองค์ประกอบของกรรมที่เป็นอโหสิกรรม จะต้องเป็นกรรมที่ตั้งใจมั่นว่าเราจะไม่ทำกรรมนั้นๆอีกต่อไป[/FONT]

    [FONT=&quot]แต่ถ้ามีการส่งพระบรมฯทางไปรษณีย์อยู่เรื่อยๆแล้วกรรมนั้นๆจะเป็นอโหสิกรรมได้อย่างไร[/FONT]

    [FONT=&quot]และ องค์ประกอบของกรรมที่เป็นอโหสิกรรมอีกอย่างคือผู้ขอขมาต้องมีความสำนึกผิดใน อกุศลกรรมนั้นๆที่เกิดขึ้นแม้ว่าไม่เจตนาก็ตามแต่ถ้ายังมีการส่งพระบรมฯทาง ไปรษณีย์อยู่เรื่อยๆแล้วจะเรียกว่าสำนึกผิดได้อย่างไร


    [/FONT] [FONT=&quot]หมายเหตุข้อธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]การปรามาสพระ คือ ไม่เคารพไม่เชื่อถือพระรัตนตรัย[/FONT]

    [FONT=&quot].มีอบายภูมิ 4 คือ สัตว์นรก-เปรต-อสุรกาย-สัตว์เดรัจฉานเป็นที่ไปหลังตาย สำหรับคนที่ทำการปรามาสพระรัตนตรัย[/FONT]

    [FONT=&quot]สิ่ง ที่ดีที่สุดที่คุณควรทำการแก้ไขหลังจากปรามาสพระ คือ ขออโหสิกรรมต่อพระ และอธิษฐานจิต ตั้งใจว่าจะไม่ทำผิดศีล 5 กุศลกรรมบถ 10 อีกต่อไปในทุกๆวันเพื่อป้องกันบาปกรรม[/FONT]

    [FONT=&quot]วิธีแก้ไขอกุศลกรรม ให้กลายเป็นอโหสิกรรม[/FONT]
    “[FONT=&quot]บาป[/FONT]” [FONT=&quot]จะเป็นอโหสิกรรม ได้หรือไม่ [/FONT]?
    “[FONT=&quot]อกุศลกรรม[/FONT]” [FONT=&quot]จะแก้ไข ไม่ให้มีโอกาสส่งผล จนกลายเป็นอโหสิกรรม ได้หรือไม่ [/FONT]?

    [FONT=&quot]ผู้ ที่มีความเชื่อในเรื่องกรรม และผลของกรรม ย่อมจะไม่กล้าทำบาป ก็จริงอยู่ แต่ในบางคราว อาจมีการพลั่งเผลอกระทำกรรมชั่วลงไป หรือจะโดยเจตนาก็ตาม เช่น มีการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เป็นต้น ด้วยอาศัยกิเลสต่างๆ มี โลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น และเมื่อได้กระทำลงไปแล้ว ก็รู้สึกกลัวในการที่จะต้องได้รับผลแห่งการกระทำอกุศลของตนนั้น ทำให้เกิดความเสียใจ กลุ้มใจยิ่งขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้อกุศลเพิ่มขึ้น และมีกำลังมากยิ่งขึ้น จนสามารถส่งผลได้โดยแน่นอน ทั้งในภพนี้และภพหน้า ตลอดจนภพต่อๆ ไปอีกด้วย[/FONT]


    [FONT=&quot]ดัง นั้น การกระทำอกุศลกรรรมของบุคคลเช่นนี้ ก็ย่อมไม่มีโอกาสที่จะกลายเป็นอโหสิกรรมไปได้เลย วิธีแก้ไขอกุศลกรรม ที่ตนได้กระทำไปแล้ว ให้กลายเป็นอโหสิกรรมได้นั้น คือหลังจากที่ตนได้กระทำอกุศลกรรมไปแล้ว และมีความรู้สึกสำนึกผิดเกิดขึ้น จะต้องกระทำเหตุ ๓ ประการ ดังนี้ :-[/FONT]

    [FONT=&quot]๑)ต้องทำการอธิษฐานใจตนเองว่า [/FONT][FONT=&quot]เราจะไม่กระทำทุจริต ไม่เหมาะไม่ควรเช่นนี้ อีกต่อไป[/FONT]

    [FONT=&quot]๒)ต้อง ไม่หวนกลับไปคิดถึง เรื่องนั้นอีกเพราะเป็นการตอกย้ำเรื่องราวนั้นให้เป็น [/FONT]“[FONT=&quot]อกุศลอาจิณณกรรม[/FONT]” [FONT=&quot]ทางมโนทวาร (เช่น ทางกายทำไปเพียงครั้งเดียว แต่ทางใจที่หวนคิดคำนึงถึงบ่อยๆ นั้น เป็นการทำบาปทางใจที่ไม่มีจบสิ้น)[/FONT]

    [FONT=&quot]๓)พยายาม สร้าง [/FONT]“[FONT=&quot]กุศลอาจิณณกรรม[/FONT]” [FONT=&quot]ให้ เกิดขึ้นอยู่เสมอๆ เช่น มีการเรียนการสอนปริยัติธรรม อ่านหนังสือธรรมเสมอๆ ฟังธรรมเนื่องๆ สวดมนต์ไหว้พระ ใส่บาตร อุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตา หรือรักษาศีล ๕ หรือถือบวชเนกขัมมะ เป็นผ้าขาว เป็นชี เป็นเณร เป็นพระ หรือมีการเจริญภาวนา ได้แก่ การเจริญสมถกรรมฐาน หรือเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่เนืองๆ


    [/FONT]ส่วนเรื่องของท่านโทนพราหมณ์;เครื่องบินข้ามหัว ;แขวนพระ อันเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าเข้าตึก;คนแขวนพระลอดสะพาน ทั้งหลายนี้ก็ขอให้เปิดเป็นกระทู้อื่นไปแล้วกันครับเพราะไม่ตรงประเด็น

    เพราะประเด็นของกระทู้นี้คือ
    ช่วยกันรณรงค์ให้งดส่งและงดรับพระบรมฯทางไปรษณีย์
    ผู้ที่ต้องการบูชาพระบรมสารีริกธาตุขอให้มาอัญเชิญยังสถานที่เท่านั้นนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2010
  2. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +4,558
    สาธุๆ



    สวัสดีครับคุณกระจก6ด้าน ^_^
    ทางนี้ถ้าจะวุ่นวายกันน่าดู แต่ผมก็เห็นด้วย ในเรื่องไม่สมควรส่งทางไปรษณีย์ ที่พลาดส่งไปแล้วก็พลาดไป เพราะเราไม่มีเจตนาในทางร้าย แต่ถ้ารู้แล้วก็ไม่ทำ ผู้มีปัญญาต้องรู้จักปรับปรุงตัว ไม่ยึดมั่น ถือมั่น อันไหนเป็นประโยชน์ เราก็ทำ อันไหนเป็นโทษเราก็หลีกเลี่ยง เว้นเสีย

    การถวายพระบรมฯนี้ก็เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
    เจตนาเพื่อป้องกันเหตุภัยพิบัติ ให้หนักเป็นเบา หรือถ้าไม่เกิดเลยยิ่งดี จะได้มีโอกาสสร้างบุญกุศลกันมากๆ ^_^

    ______________________________
    hello9
    กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์
    กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์มาทำงานกัน

    โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัดฯ ทั่วภาคเหนือตอนล่าง
    โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัด สำนักสงฆ์สำนักปฏิบัิติธรรม ทั่วภาคเหนือตอนล่าง<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  3. sart sawangsin

    sart sawangsin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +76
    ขออนุโมทนาบุญด้วยอย่างยิ่ง
    คงได้บุญกุศลมากนะครับ
    สาธุสาธุสาธุ
     
  4. ณัฐธัญพงษ์

    ณัฐธัญพงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +237
    โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ,[FONT=Salmah_Teen]<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>[/FONT]
    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น พระองค์ใด, เป็นพระอรหันต์, ดับเพลิงกิเลส เพลิงทุกข์สิ้นเชิง, ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง<o:p></o:p>
    สาธุ โน ภันเต ภะคะวา[FONT=Salmah_Teen] [/FONT]สุจิระปะรินิพพุโตปิ
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ, พระผู้มีพระภาคเจ้า แม้ปรินิพพานนานแล้ว, ทรงสร้างคุณอันสำเร็จประโยชน์ไว้แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย
    [FONT=Salmah_Teen]<o:p> ปัจฉิมา ชะนะตานุกัมปะมานะสา </o:p>[/FONT]
    [FONT=Salmah_Teen]<o:p></o:p>[/FONT][FONT=Salmah_Teen]<o:p>ทรงมีพระหฤทัยอนุเคราะห์แก่พวกข้าพเจ้า, อันเป็นชนรุ่นหลัง
    อิเม สักกาเร[FONT=Salmah_Teen]
    ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ,
    ขอพระผู้มีพระภาคเจ้า จงรับเครื่องสักการะ, อันเป็นบรรณาการของคนยากทั้งหลายเหล่านี้[FONT=Salmah_Teen]<o:p></o:p>[/FONT]
    อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ[FONT=Salmah_Teen]<o:p></o:p>[/FONT]
    เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ตลอดกาลนานเทอญ ฯ.[FONT=Salmah_Teen]<o:p></o:p>[/FONT]
    [/FONT]</o:p>[/FONT]
    ขออนุโมทนาด้วยครับ ควรเดินทางไปน้อมอัญเชิญองค์พระบรมสารีริกธาตุ ด้วยตนเองแม้หนทางจะไกลหากเรามีความเพียร จิตตั้งมั่นต่อองค์พระศาสดา
     
  5. กระจก6ด้าน

    กระจก6ด้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +65
    โมทนากับคุณ anoldman

    ด้วยนะครับที่เห็นด้วยจริงๆก็เป็นตรรกะที่ไม่ยากน่ะครับ

    ถ้าเรามีความศรัทธาต่อพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง

    แค่เราชวนคนมาอัญเชิญพระบรมด้วยตนเองมันไม่เกินความสามารถและกำลังใจที่แรงกล้าของเราอยู่แล้วครับ

    ทำให้ถูกต้องและได้บุญล้วนๆไม่ดีกว่าเหรอครับ
     
  6. Igiko_L

    Igiko_L เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,407
    ค่าพลัง:
    +2,836
    :cool: หนูก็เป็นคน1 ที่แจกพระบรมสารีริกธาตุ ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นด้วยคนคะ
    หนูแจกพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมหนังสือ"การฝึกมโนยิทธิ" ยอมรับว่า พอได้จดหมายขอ ทุกครั้งที่หยิบพระบรมสารีริกธาตุ ก็จะรู้สึกว่า สมควรไหม ที่จะส่งไปแบบนี้ ถามใจตัวเอง แต่ก็ได้คำตอบว่า"จำได้ไหม ตอนที่มีคนส่งพระบรมสารีริกธาต และพระธาตุของพระอาจารย์มาให้ ตอนนั้น เราดีใจแค่ไหน น่าจะแบ่งปัน ให้คนที่อยู่ไกล มารับไม่ได้ มีโอกาส ได้บูชาบ้าง" หนูก็จะอธิฐาน ขออนุญาติกับองค์พระบรมสารีริกธาต แล้วพระบรมสารีริกธาตุที่แจกๆไป กลับไม่เคยลดลงเลย ยังมีเท่าเดิมมากเหมือนเดิม และ ยิ่งมากขึ้นสำหรับพระอรหันต์ ที่หนูเลือกมอบให้ผู้มีพระคุณ หนูจึงคิดว่า น่าจะส่งได้ เพราะใจคนส่ง และใจคนรับ มีใจบุชาที่องค์พระธาตุ เหมือนกัน คะ
    อนุโมทนา สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2010
  7. กระจก6ด้าน

    กระจก6ด้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +65
    สวัสดีครับคุณIgiko_L

    ผู้ให้มีเจตนาเป็นกุศลในการแจกพระบรมฯ ในส่วนนี้เป็นบุญ

    แต่ การปรามาสพระองค์ท่านโดยไม่เจตนาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์อันนี้เป็นกรรมหนัก กรรมหนักในพระพุทธศาสนาหนึ่งในนั้นคือการก้าวล่วงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า(แม้ โดยไม่เจตนาก็เป็นอกุศลกรรมและต้องรับผลของกรรมแน่นอนไม่มีผู้ใดหลีกหนีผล ของกรรมได้)
    ดังนั้นการทำงานนี้โดยประมาท(เช่นการบรรจุพระบรมฯใส่ถุงซิปส่งทางไปรษณีย์)

    เอาง่ายๆครับคือ[FONT=&quot]สถานการณ์จริงเวลาส่งพัสดุมันจะต้องมีการโยนพัสดุลงพื้นเพื่อคัดแยกอยู่แล้วมีผู้วาง[/FONT][FONT=&quot]พัสดุที่บรรจุพระองค์ท่านลงพื้นเพราะเราเป็นเหตุ[/FONT] ถือว่าปรามาสพระองค์ท่านโดยไม่เจตนาหรือเปล่าครับ

    [FONT=&quot]บางท่านอาจจะบอกว่ามีเจตนาบริสุทธิ์และได้กราบขอขมาท่านแล้ว[/FONT]

    [FONT=&quot]แต่ บุญก็คือบุญ บาปก็คือบาปต้องแยกจากกันปนกันไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่นเวลาเราทำร้ายหรือล่วงเกินพ่อแม่ พ่อแม่ ก็ไม่เคยโกรธและอโหสิกรรมให้เราแต่กฎของกรรมเราต้องรับไหม[/FONT]?

    [FONT=&quot]เราจะคิดเองเออเองไม่ได้ ต้องพิจารณาไปตามธรรม เพราะทุกอย่าง ในโลกธาตุอยู่ใต้กฎของกรรมหมด[/FONT]([FONT=&quot]แม้ขอขมาพระแล้วแต่อกุศลกรรมนั้นที่เกิดขึ้นโดยไม่เจตนาเราก็ต้องรับอยู่ดีเพราะกราปรามาสเกิดขึ้นแล้วจริงไหม[/FONT]?[FONT=&quot] และเกิดเพราะใครเป็นต้นเหตุล่ะถ้ามิใช่ผู้ส่ง แม้บอกว่าเจตนาบริสุทธิ์ แต่ต้องแยกกันเพราะการกระทำที่เกิดขึ้นแล้วนำไปสู่การปรามาสโดยไม่เจตนาก็ อีกส่วนหนึ่ง[/FONT])

    ดังนั้นการบรรจุพระบรมฯใส่ถุงซิปส่งทางไปรษณีย์
    อกุศลกรรมจะมากกว่าบุญที่ได้รับ(คือบุญก็ได้แต่บาปมากกว่า)
    บางท่านอาจจะบอกว่ามีเจตนาบริสุทธิ์และได้กราบขอขมาท่านแล้วแต่บุญก็คือบุญ บาปก็คือบาปต้องแยกจากกันปนกันไม่ได้
    ต้องแยกกันนะครับอย่าเอามาปนกันไม่งั้นจะสับสน
    ระหว่าง
    1.นามธรรม คือกุศลจิตกับ
    2.รูปธรรมคือปรามาสโดยไม่เจตนาซึ่งก่อให้เกิดอกุศลกรรมทั้งผู้ให้และผู้รับ

    ต้องวิเคราะห์ให้ชัดเจนนะครับว่า การที่เราจะเป็นผู้ให้ เราได้ให้อะไรกับผู้รับบ้างบุญหรือบาปหรือทั้ง 2 อย่าง

    [FONT=&quot]ท่าน ที่ไม่ค่อยได้ส่งสิ่งของทางไปรษณีย์อาจมองไม่เห็นภาพ ณ สถานการณ์จริงเวลาส่งพัสดุมันจะต้องมีการโยนพัสดุลงพื้นเพื่อคัดแยกอยู่แล้ว ผมเคยเห็นมาด้วยตนเองมีคนข้ามไปข้ามมา พัสดุกองทับๆกันบางทีมีของที่ไม่เหมาะสมกองอยู่ข้างๆเช่น รองเท้าแตะ ผ้าอนามัยเป็นต้น[/FONT]

    [FONT=&quot]บางคนบอกว่าถ้าการส่งพระบรมฯทางไปรษณีย์เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องแล้วเหตุใดพระบรมฯยังคงเสด็จมาหาเขาอยู่[/FONT]
    [FONT=&quot]ขอเรียนให้ทราบนะครับว่า[/FONT]
    [FONT=&quot]บุญกับบาปแยกกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]คุณอาจจะเคยทำกรรมดีที่มีความเกี่ยวข้องกับการแจกจ่ายพระบรมฯเลยสามารถอัญเชิญพระบรมมาได้อยู่ เพราะผลบุญนั้นๆ[/FONT]
    [FONT=&quot]แต่เพราะ[/FONT][FONT=&quot]บุญกับบาปแยกกัน[/FONT][FONT=&quot]อกุศลกรรมที่ปรามาสพระโดยไม่เจตนาด้วยการส่งพระบรมฯทางไปรษณีย์ เกิดแล้วคุณก็ต้องรับกรรมอันเป็นอกุศลนั้นๆอยู่ดีจะพูดสรุปง่ายๆไม่ได้นะครับ[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2010
  8. กระจก6ด้าน

    กระจก6ด้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +65
    ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นแล้วช่วยกันรณรงค์ให้งดส่งและงดรับพระบรมฯทางไปรษณีย์เถอะครับ
    ผู้ที่ต้องการบูชาพระบรมสารีริกธาตุขอให้มาอัญเชิญยังสถานที่เท่านั้น


    จริงๆก็เป็นตรรกะที่ไม่ยากน่ะครับ

    ถ้าเรามีความศรัทธาต่อพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง

    แค่เราชวนคนมาอัญเชิญพระบรมด้วยตนเองมันไม่เกินความสามารถและกำลังใจที่แรงกล้าของเราอยู่แล้วครับ

    เรามีความศรัทธาในพระรัตนตรัยจริงหรือไม่ล่ะครับแค่เสียสละเวลาและกำลังเพิ่มเพื่อให้คนมาอัญเชิญพระบรมอย่างถูกต้อง
    คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกกระมังครับ

    ทำให้ถูกต้องและได้บุญล้วนๆไม่ดีกว่าเหรอครับ
     
  9. หมอเป่า

    หมอเป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +687
    ป่วยการที่จะพูดผมได้รับทางไปรฯเหมือนกันใหญ่ขึ้นด้วยเวลาผมทำอะไรก็จะขอขมาตลอด
    ตอนผมฝากคนไปถามอ.ไก่ท่านก็บอกว่าถ้าไม่สะบายใจให้ขอขมาพระรัตนไตรถ้าทำด้วยความเคารพก็ไม่เป็นไรเเต่ไม่เหมือนบ้างคนที่เอาไปขายประมูลดีไหมก็ไม่ดีเเต่นี่เราส่งไปเเจกฟรีๆเเพร่กระจายไปเยอะๆคนมากราบไหว้ก็ดีป้องกันภัยพิบัติได้อีกเพื่อดำรงศาสนาพุทธให้อยู่ถึง๕,๐๐๐ปีทำเเบบนี้ก็เหมือนช่วยนะครับ หากข้อความนี้เป็นการปรามาสลบหลู่ดูเเคลนสิ่งใดข้าพเจ้าขอขอขมาขอโปรดงดโทษล่วงเกินด้วยเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2010
  10. กระจก6ด้าน

    กระจก6ด้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +65
    ตอบน้องหมอเป่านะครับข้างล่างเป็นข้อมูลที่พี่สืบหามาจากพระอรรถกถาจารย์แล้วมีระบุไว้เป็นหลักเกณฑ์ที่แน่นอนในเรื่องของกรรมที่จะเป็นอโหสิกรรมนะครับลองอ่านดู


    [FONT=&quot]รู้สึกไม่ดีผิดบาปแค่ขอขมาพระก็ไม่ต้องรับอกุศลกรรม ที่ปรามาสพระโดยไม่เจตนา แล้วก็ไม่จริงเพราะองค์ประกอบของกรรมที่เป็นอโหสิกรรม จะต้องเป็นกรรมที่ตั้งใจมั่นว่าเราจะไม่ทำกรรมนั้นๆอีกต่อไป[/FONT]

    [FONT=&quot]แต่ถ้ามีการส่งพระบรมฯทางไปรษณีย์อยู่เรื่อยๆแล้วกรรมนั้นๆจะเป็นอโหสิกรรมได้อย่างไร[/FONT]

    [FONT=&quot]และ องค์ประกอบของกรรมที่เป็นอโหสิกรรมอีกอย่างคือผู้ขอขมาต้องมีความสำนึกผิดใน อกุศลกรรมนั้นๆที่เกิดขึ้นแม้ว่าไม่เจตนาก็ตามแต่ถ้ายังมีการส่งพระบรมฯทาง ไปรษณีย์อยู่เรื่อยๆแล้วจะเรียกว่าสำนึกผิดได้อย่างไร


    [/FONT] [FONT=&quot]หมายเหตุข้อธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]การปรามาสพระ คือ ไม่เคารพไม่เชื่อถือพระรัตนตรัย[/FONT]

    [FONT=&quot].มีอบายภูมิ 4 คือ สัตว์นรก-เปรต-อสุรกาย-สัตว์เดรัจฉานเป็นที่ไปหลังตาย สำหรับคนที่ทำการปรามาสพระรัตนตรัย[/FONT]

    [FONT=&quot]สิ่ง ที่ดีที่สุดที่คุณควรทำการแก้ไขหลังจากปรามาสพระ คือ ขออโหสิกรรมต่อพระ และอธิษฐานจิต ตั้งใจว่าจะไม่ทำผิดศีล 5 กุศลกรรมบถ 10 อีกต่อไปในทุกๆวันเพื่อป้องกันบาปกรรม[/FONT]

    [FONT=&quot]วิธีแก้ไขอกุศลกรรม ให้กลายเป็นอโหสิกรรม[/FONT]
    “[FONT=&quot]บาป[/FONT]” [FONT=&quot]จะเป็นอโหสิกรรม ได้หรือไม่ [/FONT]?
    “[FONT=&quot]อกุศลกรรม[/FONT]” [FONT=&quot]จะแก้ไข ไม่ให้มีโอกาสส่งผล จนกลายเป็นอโหสิกรรม ได้หรือไม่ [/FONT]?

    [FONT=&quot]ผู้ ที่มีความเชื่อในเรื่องกรรม และผลของกรรม ย่อมจะไม่กล้าทำบาป ก็จริงอยู่ แต่ในบางคราว อาจมีการพลั่งเผลอกระทำกรรมชั่วลงไป หรือจะโดยเจตนาก็ตาม เช่น มีการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เป็นต้น ด้วยอาศัยกิเลสต่างๆ มี โลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น และเมื่อได้กระทำลงไปแล้ว ก็รู้สึกกลัวในการที่จะต้องได้รับผลแห่งการกระทำอกุศลของตนนั้น ทำให้เกิดความเสียใจ กลุ้มใจยิ่งขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้อกุศลเพิ่มขึ้น และมีกำลังมากยิ่งขึ้น จนสามารถส่งผลได้โดยแน่นอน ทั้งในภพนี้และภพหน้า ตลอดจนภพต่อๆ ไปอีกด้วย[/FONT]


    [FONT=&quot]ดัง นั้น การกระทำอกุศลกรรรมของบุคคลเช่นนี้ ก็ย่อมไม่มีโอกาสที่จะกลายเป็นอโหสิกรรมไปได้เลย วิธีแก้ไขอกุศลกรรม ที่ตนได้กระทำไปแล้ว ให้กลายเป็นอโหสิกรรมได้นั้น คือหลังจากที่ตนได้กระทำอกุศลกรรมไปแล้ว และมีความรู้สึกสำนึกผิดเกิดขึ้น จะต้องกระทำเหตุ ๓ ประการ ดังนี้ :-[/FONT]

    [FONT=&quot]๑)ต้องทำการอธิษฐานใจตนเองว่า [/FONT][FONT=&quot]เราจะไม่กระทำทุจริต ไม่เหมาะไม่ควรเช่นนี้ อีกต่อไป[/FONT]

    [FONT=&quot]๒)ต้อง ไม่หวนกลับไปคิดถึง เรื่องนั้นอีกเพราะเป็นการตอกย้ำเรื่องราวนั้นให้เป็น [/FONT]“[FONT=&quot]อกุศลอาจิณณกรรม[/FONT]” [FONT=&quot]ทางมโนทวาร (เช่น ทางกายทำไปเพียงครั้งเดียว แต่ทางใจที่หวนคิดคำนึงถึงบ่อยๆ นั้น เป็นการทำบาปทางใจที่ไม่มีจบสิ้น)[/FONT]

    [FONT=&quot]๓)พยายาม สร้าง [/FONT]“[FONT=&quot]กุศลอาจิณณกรรม[/FONT]” [FONT=&quot]ให้ เกิดขึ้นอยู่เสมอๆ เช่น มีการเรียนการสอนปริยัติธรรม อ่านหนังสือธรรมเสมอๆ ฟังธรรมเนื่องๆ สวดมนต์ไหว้พระ ใส่บาตร อุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตา หรือรักษาศีล ๕ หรือถือบวชเนกขัมมะ เป็นผ้าขาว เป็นชี เป็นเณร เป็นพระ หรือมีการเจริญภาวนา ได้แก่ การเจริญสมถกรรมฐาน หรือเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่เนืองๆ

    [/FONT]สรุปคือขอให้เคารพในหลักธรรมเป็นหลักนะครับถ้าองค์ประกอบไม่ครบการขอขมาครั้งนั้นๆก็ไม่เข้าหลักของอโหสิกรรมนะครับลองศึกษาพระไตรปิฎกประกอบไปด้วยจะเข้าใจมากขึ้นครับ
     
  11. กระจก6ด้าน

    กระจก6ด้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +65
    จริงๆก็เป็นตรรกะที่ไม่ยากน่ะครับ

    ถ้าเรามีความศรัทธาต่อพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง

    แค่เราชวนคนมาอัญเชิญพระบรมด้วยตนเองมันไม่เกินความสามารถและกำลังใจที่แรงกล้าของเราอยู่แล้วครับ

    เรามีความศรัทธาในพระรัตนตรัยจริงหรือไม่ล่ะครับแค่เสียสละเวลาและกำลังเพิ่มเพื่อให้คนมาอัญเชิญพระบรมอย่างถูกต้อง
    คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกกระมังครับ

    ทำให้ถูกต้องและได้บุญล้วนๆไม่ดีกว่าเหรอครับ

    ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นแล้วช่วยกันรณรงค์ให้งดส่งและงดรับพระบรมฯทางไปรษณีย์เถอะครับ
    ผู้ที่ต้องการบูชาพระบรมสารีริกธาตุขอให้มาอัญเชิญยังสถานที่เท่านั้น

    ไม่ได้ห้ามแจกนะครับแต่การมาอัญเชิญด้วยตนเองไม่เหลือวิสัยที่มนุษย์จะกระทำได้หรอกครับขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำหรือไม่เท่านั้น


    ถ้าเรามีความศรัทธาต่อพระรัตนตรัยอย่างแท้จริงมีศรัทธาที่กล้าแกร่งและกำลังใจที่เข้มแข็งแค่การเดินทางไกลด้วยตนเองขวางเรามาอัญเชิญพระสรีรธาตุไม่ได้หรอกครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2010
  12. Anndiw

    Anndiw Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +80
    ความจริงแล้วผมไม่อยากจะยุ่งเรื่องของชาวบ้านหรอกนะครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องของพุทธศาสนาแล้ว ผมปล่อยวางไม่ได้จริง มีคำพูดหลวงปุ่ชาว่า "อุเบกขาควาย ๆ" หมายถึง ปล่อยวางแบบโง่ ๆ เช่น หลังคารั่วก็ไม่ยอมซ่อม ฯลฯ แต่นี้เป็นเรื่องของการปรามาสพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นบาปหนัก

    ผมไม่เห็นด้วยเลยที่จะมีการปิดกระทู้ เพราะว่าเป็นการสนทนากันด้วยธรรมล้วน ๆ ด้วยมีเหตุอันใดต้องรีบปิดกระทู้ล่ะครับ เป็นการตักเตือนกันมากกว่า

    กระทู้ พจนานุกรม ฉบับเฉลิมพระเกียรติ พ.ศ. ๒๕๓๐ หมายถึง หัวข้อ, ข้อความ, เค้าเงื่อน, หลัก, ข้อถามในสภาผุ้แทนราษฎร เป็นต้น

    ผมได้อัญเชิญพระบรมฯ ไปถวายพระท่าน ทราบไหมครับว่าท่านบอกกับผมว่าอย่างไร ท่านบอกว่า "มีศรัทธาแล้ว แต่ไม่มีปัญญา" การที่มีศัทธานั้นดีแล้ว แต่ศรัทธาต้องคู่กับปัญญาด้วย ใช้ปัญญาเท่าที่มีอยู่พิจารณา อันไหนถูก อันไหนผิด อันไหนควร อันไหนไม่ควร

    ผมจะยกตัวอย่างของผมให้ฟัง ผมได้รับข่าวจากเพื่อนของผมคนหนึ่งว่า มีพระบรมฯจะให้อัญเชิญไปถวายยังวัดที่ศรัทธา จึงได้นัดวัน และเวลากัน แต่แล้วก็ไม่เป็นไปตามนัด เพราะว่าทั้งผู้รับ และผู้ให้ไม่สามารถมาเจอกันได้ตามที่ตกลงกันไว้ และจะได้เจอกันอีกในเวลาประมาณ ๓ เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นเวลานานเกินไป เพราะผมอยากที่จะถวายเร็ว ๆ (ใจร้อน) ผมจึงได้เดินทางออกจากที่ทำงานโดยรถจักยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเมท ๑๑๑ ซึ่งเป็นรถเก่า และสภาพไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไรนัก การเดินทางนั้น ไกลถึง ๙๐ กม. และถนนในขณะนั้นกำลังก่อสร้างระยะทางประมาณ ๒๕ กม. กว่าจะไปถึงที่สถานที่ก็มืดพอดี และจะต้องกลับบ้านแม่อีก(นอนบ้านแม่) ถึงบ้านประมาณ ๒๑.๐๐ น. เช้าตรู่ผมต้องขับรถคันเดิม เพื่อที่จะไปทำงานอีก ๕๐ กม. เส้นทางเดิม ขอบอกว่ามันเหนื่อยสุด ๆ เลย แต่เหนื่อยแค่กาย ใจเราเต็มไปด้วยปิติ และต้องใช้กำลังใจมาก ๆ
    ขอถามหน่อยนะว่าการที่ผมมารับด้วยตัวเองกับรอรับสบาย ๆ อยู่ที่บ้านพัก อันไหนได้บุณมากกว่ากัน อันไหนได้บาปมากกว่ากัน อันไหนได้พิสูจน์ตัวเอง อันไหนใช้กำลังใจมากว่า

    ขอคัดบทความจากหนังสือชื่อ "ทำบุญ ... ให้ได้บุญ" ซึ่งเป็นหนังสือที่ดีมาก มาให้อ่านกันดังนี้

    มีคนบอกเหมือนกันว่า ทำบุญอย่าคิดมาก ถ้าเรามีเจตนาดี ทำไปยังไงก็ได้บุญ ยิ่งไปคิดมาก จิตมัวหมอง เราก็จะได้บุญน้อยลง แต่ปัญหาคือ บางทีเวลาที่เราทำไปโดยไม่รู้ แล้วมีคนมาบอกว่า ทำอย่างนี้ได้ไง มันผิดนะ เราก็จะตกใจ เศร้า อ้าว เราทำบาปหรือเปล่า บุญที่เราทำก็หายหมด ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ทำไมเราไม่หาความรู้ ตั้งแต่ก่อนจะทำบุญ และหลังจากทำบุญแล้ว ทีนี้ได้บุญแน่ ๆ

    อีกอย่างนะครับ การที่จะใครจะส่งพระบรมฯมาให้ผมทางไปรษณีย์นั้น ผมไม่ต้องการเลย ก็ทราบกันดีว่า ไปรษณีย์ไทยนั้นเป็นอย่างไร สู้เราไปรับด้วยตัวเองดีกว่า

    เห็นด้วยกับคุณกระจก6ด้าน และคุณแสงส่องทาง ของทุกอย่างมีเจ้าภาพ ถ้าเจ้าภาพ, ครูบาอาจารย์ไม่ต้องการให้ทำ ยังไงก็ควรที่จะทำตามไม่ใช่หรอครับ

    ผมทราบมาว่าการขอขมานั้น ทำเพื่อขอละโทษจากการกระทำโดยตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี เมื่อขอขมาแล้วก็ไม่กระทำอีก ทำอะไรควรคิดด้วยว่าอะไรควร อะไรไม่ควร จะทำอะไรก็ควรที่จะรู้จริง ไม่ใช่สัตย์แต่ว่าทำ กรุณาใช้สมองอันน้อยนิดคิดหน่อยนะครับ อย่าได้เชื่อตาม ๆ กันทำตาม ๆ กันเลย ได้โปรดน้อมนำเอา "กามาละสูตร" มาใช้กันหน่อย ขนาดผมเป็นเด็กยังรู้เลยว่าอะไรควรไม่ควร

    ผมบอกไม่ได้ว่าการ "การไปรับพระธาตุด้วยตัวเองนี่เป็นบุญใหญ่มากนะโดยเฉพาะเรื่องความคล่องตัว" นั้นจริงไหม แต่บอกได้คำเดียวว่า การไปอัญเชิญมาด้วยตัวเองนั้น เกิดปิติอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
    ท่านพระมหาบัว (หลวงตาบัว) วัดป่าบ้านตาดท่านบอกไว้ว่า "พวกที่ทำลายศาสนาคือพวกเทวทัต"

    พวกท่านมีธรรมอยู่เต็มหัวใจ อย่างเปี่ยมล้น แต่ทำไมปล่อยให้มีมิจฉาทิฐิล่ะ ลด ๆ อัตตาลงบ้างนะ อย่ายึดติดเลย รึว่าต้องการที่จะเอาชนะกันแน่

    ทีมงานเพชรบูรณ์ ไม่มีการส่งทางไปรษณีย์หรอกนะ แม้แต่จะฝากให้กันยังไม่มีเลย ไม่มีอยู่ในความคิดเลยด้วยซ้ำ มือต่อมืออย่างเดียว
    ผมทราบมาว่าประวัติผู้ป่วย ที่เขียนด้วยลายมือแพทย์ แพทย์ยังไม่ยอมให้ส่งทางไปรษณีย์เลย

    ลองคิดดูเล่น ๆ นะ พวกท่านจะส่งอัฎฐิของบิดา มารดาของพวกคุณผ่านทางไปรษณีย์ไหม ถ้าเป็นผมตอบได้อย่างไม่ต้องคิดเลย แล้วนี้อะไรวัตถุที่มาจากพระศาสดาของเราแท้ ๆ ยังทำแบบนี้ได้

    ถ้าไม่พอใจอะไรโทรหาผมได้นะครับ ตลอดเวลาเลย ๐๘-๖๙๓๘-๖๓๒๓, อีเมลล์Anndiw_Fishery@hotmail.com ดิว.

    อย่าคิดนะครับว่า ท่านปู่พระยายมราช ท่านจะหักลบกลบนี้ให้ "หว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้นครับ"
     
  13. หมอเป่า

    หมอเป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +687
    มนต์พิธี๑๐เล่มเเล้วตามมาครับ
     
  14. กระจก6ด้าน

    กระจก6ด้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +65
    สรุปเพิ่มเติมนะครับจากกัลยาณมิตร

    ผู้ที่ลงชื่อรับพระบรมสารีริกธาตุทางไปรษณีย์

    ลองไปกราบเรียนถามพระอริยเจ้าที่ท่านเป็นผู้รู้ถามท่านดูนะครับว่าการส่งพระบรมทางไปรษณีย์ควรหรือไม่ควร

    ผู้ที่ลงชื่อรับพระบรมทางไปรษณีย์ทุกท่านพร้อมจะเสี่ยงแล้วหรือกับการได้บุญส่วนนึง

    แต่ได้อกุศลจากการปรามาสพระ(แม้โดยไม่เจตนา)ซึ่งมากกว่าบุญที่ได้มากมายนัก

    และน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งเพราะกรรมปรามาสพระจะส่งผลที่เราอย่างรุนแรง
     
  15. กระจก6ด้าน

    กระจก6ด้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +65
    ในส่วนของผู้ที่ว่า
    เจตนาดีเป็นสำคัญลองขยายความดูนะครับ
    จาก
    พระอภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๘

    ในเรื่องของปฏิจจสมุปบาทธรรม

    สังขาร ( เจตนา = กรรม )

    ในการส่งพระบรมไปรษณีย์มี2เจตนาด้วยกันคือกุศลเจตนาอยากให้ผู้อื่นได้บุญกับเจตนาหมายที่จะส่งทางไปรษณีย์ต้องแยกแยะนะครับว่าการส่งครั้งนึงมี2เจตนาซ้อนกันอยู่


    1.เจตนาดีที่เป็นกุศลอยากให้คนบูชาพระบรมได้บุญ

    2.เจตนาหมายที่จะส่งทางไปรษณีย์ก็เป็นเจตนาอย่างนึงใช่หรือไม่เพราะการกระทำทุกสิ่งอย่างต้องมีเจตนาเป็นที่ตั้ง
    มีเจตนาที่จะส่งพระบรมไปรษณีย์
    เป็นการร่วมกระทำกรรมการปรามาสพระโดยไม่เจตนาใช่หรือไม่ ก่อให้เกิดเป็นอกุศลกรรมที่ต้องรับใช่หรือไม่

    ที่ว่าปรามาสโดยไม่เจตนาดูที่อะไรก็ย้อนมาอธิบายได้2ประเด็นว่า

    1.การวางซองจดหมายพัสดุที่บรรจุพระบรมลงที่พื้นเพื่อคัดแยกมีของกองทับๆกันและมีการเดินข้ามไปมา

    เป็นการปรามาสพระโดยไม่เจตนาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเปล่า

    2.ระหว่างส่งมีการโยนกระแทกซองที่บรรจุพระบรมไปมาอย่างแรงในรถขนไปรษณีย์
    เป็นการปรามาสพระโดยไม่เจตนาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเปล่า


    การกระทำใดที่แม้ไม่มีเจตนาแต่ทำไปแล้วย่อมเกิดผล เช่นขับรถเหยียบตะปู ถึงไม่เจตนาก็ทำให้ยางแบน

    กรรมย่อมมีวิบากหรือผลที่เกิดจากการกระทำ ไม่ว่าดีหรือชั่ว ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    กรรมและวิบากสัมพันธ์กันในลักษณะใดนั้นยากที่ปุถุชนจะหยั่งได้ทั่วถึง เพราะผลที่เกิดขึ้นจากกรรมนั้นอาจจะออกมาในลักษณะที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจ ก็ได้

    ขนาดเวลาไปปฎิบัติที่วัดเวลามีพระผู้ใหญ่นั่งอยู่เรายังต้องเดินเลี่ยงๆเลย นี่เป็นธรรมเนียมที่รู้กันการเดินแม้เฉียดท่านเราก็ไม่ทำเพราะเราเคารพท่าน

    พระบรมก็เป็นส่วนนึงของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นเลิศในไตรภพเป็นพระบรมศาสดาที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกองค์เคารพท่านเช่นกัน
    เราควรให้ความเคารพในการส่งพระบรมสถานใดพึงพิจารณาดู
     
  16. กระจก6ด้าน

    กระจก6ด้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +65
    ผู้ที่ลงชื่อรับพระบรมสารีริกธาตุทางไปรษณีย์

    ท่านพร้อมจะเสี่ยงแล้วหรือกับการรับอกุศลกรรมจากการปรามาสพระโดยไม่เจตนา

    ที่จะส่งผลที่เราอย่างรุนแรงในอนาคต

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2010
  17. หน่องหก

    หน่องหก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +81
    เห็นด้วยกับคุณกระจกนะคะ
     
  18. ่่jomthailand

    ่่jomthailand Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +83
    ใจเราก็ใจกายเราก็ใจคิดเราก็ใจหยั่งรู้ด้วยใจจะถูกหรือจะผิดก็ใจการกระทำก็ใจรู้เองแจ้งเองก็ใจไม่ต้องไปบอกใครว่าเราดีรู้เองด้วยใจเถียงกันไปก็ใจอุเบกขาดีที่สุดนิ่งเลยเสียก็ใจใจสงบก็ใจไม่ปฏิบัติก็ไม่เกิดใจได้แต่คิดได้แต่อ่านได้แต่กระทำก็ใจแล้วใจเธออยู่ตรงไหนคิดว่าใจอยู่ตรงไหนสาธุ
     
  19. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    ใจสบายๆกันนะครับทุกคน:cool:
     
  20. อ๊อดเอง

    อ๊อดเอง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +19
    เห็นด้วยว่าไม่ควรส่งพระบรมสารีริกธาตุทาง ไปรษณีย์

    เห็นว่ามีหลายท่านแจกพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยเพราะมีเจตนาที่ดีอยากให้ท่านที่ยังไม่มีได้ไว้บูชา
    ดีแล้วชอบแล้ว ข้อพิจารณา เรื่องกระบวนการอัญเชิญ ความเห็นส่วนตัวนะครับ
    ประเดนหลักใหญ่อยู่ที่เรื่องการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่เหมาะสม คำว่าเหมาะสมในการอัญเชิญ
    พระบรมสารีริกธาตุ ต้องคำนึงถึงสภาพรอบข้าง ธรรมเนียม วัฒนธรรม สังคม สิ่งที่คนหมู่มากให้ความเคารพ มีความยิ่งใหญ่ทางจิตใจควรค่าแก่การกราบไหว้บูชา การอัญเชิญก็ควรทำให้สมกับพระเกียรติ แตกต่างกันก็มีที่ต่างกันที่กำลังทรัพย์ของผู้อัญเชิญ และความศรัทธา
    พระพุทธเจ้าเป็นโอรส กษัตย์ การอัญเชิญควรจะดำเนินการอย่างไร
    พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาเอกของโลก การอัญเชิญควรจะดำเนินการอย่างไร

    ผู้ที่จะอัญเชิญควรปฏิบัติอย่างไร มีข้อจำกัดกันที่กำลังทรัพย์ ข้อนี้แต่ละคนก็คิดเห็นต่างกันไป ผู้มอบบอกส่งไปรษณีย์เพื่อให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลได้รับพระบรมสารีริกธาตุไว้บูชาโดยเสียค่าใช้จ่ายน้อย บางท่านบอกต้องมาบูชาด้วยตนเองเพื่อไม่เป็นการปรามาส และให้สมพระเกียรติ
    การแสดงแดงออกต่อสิ่งที่ควรเคารพอย่างยิ่งหาที่เปรียบมิได้ควรทำอย่างไร ด้วยศรัทธา ไปรับด้วยมือตัวเอง ดีกว่านั่งรออยู่บ้านให้ไปรษณีย์มาส่งให้ ฐานะกำลังทรัพย์ อยากจน ไม่สามารถมารับได้อยู่ห่างไกล ปัจจัยนี้ไม่เกินวิสัยของผู้ที่มีกำลังศรัทธาแรงกล้า การมารับด้วยมือตัวเองเป็นการแสดงออกถึงความเคารพอย่างสูงต่อพระบรมสารีริกธาตุ คนทั่วไปที่กรรมบังตาไม่มีทางที่จะมีโอกาสแม้เพียงสักการะพระบรมสารีริกธาตุเยอะแยะ ตัวอย่าง วันที่ผมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุใส่พระอบว่างบนพานทองเดินเข้าบ้าน เพื่อนบ้านยืนคุยกันอยู่หน้าประตูบ้านผมแท้ๆ ยังไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ผมอัญเชิญเข้าบ้านคือพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ถาม ไม่สงสัย ไม่ทัก ว่าคืออะไร ได้แต่ยืนคุยกัน สิ่งใด ทำไม เขาเหล่านั้นถึงไม่สนใจในสิ่งที่เป็นมงคลอย่างยิ่งที่ได้ไว้บูชากราบไหว้ที่ว่างอยู่บนพานสีทอง จนทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าบ้านผมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไว้บูชา
    สภาพปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนาแบบตามกันมา มีในทะเบียนบ้าน ไม่รู้ถึงวิถีแห่งความเป็นพุทธ จิตใจเสื่อมถอยห่างจากพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก สิ่งที่เราท่านทั้งหลายควรกระทำ คือการนอบน้อมให้ความเคารพ หาที่สุดมิได้ต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าท่านทั้งหลายคิดเหมือนกันว่าชีวิตนี้ขออุทิศให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว กระทู้แบบนี้จะไม่เกิดขึ้น เพระท่านทั้งหลายจะมีจิตใจความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน มีความเคารพอย่างยิ่ง

    ข้อเสนอแนะ เห็นควรให้ท่านที่มีจิตเป็นกุศลทั้งหลายที่จะแจกพระบรมสารีริกธาตุ จับมือกันเป็นกลุ่มก้อน ทำงานถวายสมเด็จท่านด้วยใจบริสุทธิ์ ลงชื่อ และภูมิลำเนา เมื่อท่านสาธุชนทั้งหลายมีข้อมูลว่าใครแจกพระบรมสารีริกธาตุ อยู่จังหวัดไหน อำเภออะไร ท่านสะดวกมารับที่จังหวัดไหน อำเภอไหน ก็เลือกเอาตาม อัธยาศัยของตน และวิสัยที่จะกระทำได้ตามกำลังศรัทธา
    อยู่เหนือก็ไปรับกับตัวแทนภาคเหนือ อยู่ใต้ก็ไปรับกับตัวแทนภาคใต้ อยู่กลางก็ไปรับกับตัวแทนภาคกลาง อยู่จังหวัดไหนก็ไปรับกับตัวแทนจังหวัดนั้น เรื่องนี้ก็เป็นอันสิ้นสุดไป เอาเวลาที่เหลือจากการคิดโต้แย้งกันไปปฏิบัติธรรมเจริญรอยตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กันดีกว่า
    เจริญทั้งทางโลกและทางธรรมกันทุกคน
     

แชร์หน้านี้

Loading...