ความรู้เรื่องพุทธศาสนาช่วยผมได้หรือไม่

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย bazcifer, 3 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ต้องค่อยเป็นค่อยไปครับ อยู่ดีๆ จะผลิกจากนักนวัตกรรม(วัตถุนิยม) กระโดด
    มาทางด้าน จิตวิญญาณ นั้นมันจะฝืนมาก

    จากเดิมอาจจะมองอะไรที่เกี่ยวกับเรื่อง ปรัชญาชีวิต เรื่องศาสนาจากที่เราเห็นว่า
    เป็นเพียงสิ่งธรรมดา สำคัญน้อยกว่าเรื่องการคิดค้นหาสิ่งใหม่ให้กับโลก หรือเพื่อ
    ดำรงค์ตนในโลก

    แต่เมื่อประสบปัญหา จิตมันว้าวุ่น ไม่สงบ ก็จะหันมาถามถึงคำว่า ศาสนา จะช่วย
    อะไรได้บ้าง ถ้าเป็นแบบนี้ ยากครับที่จะฟังธรรมะแล้วจะเข้าใจได้ในช่วงเริ่มๆ เพราะ
    ธรรมะนั้นโดยเนื้อแท้แล้วต้องเข้ามาปฏิบัติให้เห็นผล ไม่ใช่ลำพังอาศัยเพียงการฟัง

    แต่อยู่ดีๆจะให้เข้ามาปฏิบัติได้เลยก็จะยาก เพราะต้องอาศัยศรัทธา และ การหมั่นสดับ

    ที่ต้องหมั่นสดับ ก็เพราะต้องปรับทิฏฐิ(ความคิด)ให้ชอบใจในเรื่องจิตวิญญาณก่อน

    ไม่ทราบว่า จขกท เคยอ่านหนังสือของ หลวงวิจิตรวาทการณ์ ไหมครับ ผมว่าลอง
    หาหนังสือของท่านมาอ่านก่อน หลายเล่มทีเดียวที่เป็นปรัชญาชีวิตสำหรับนักคิด
    นักประดิษฐ์ คือ เมื่ออ่านแล้วก็ได้ทั้งปรัชญาการดำเนินชีวิต และยังได้แนวคิด
    การแบ่งแยกเอาชนะ การคิดค้น การตัดสินใจ ซึ่งเมื่ออ่านแล้วก็จะทำความเข้าใจ
    ได้ง่ายกว่า แต่เนื่องจากท่านได้สอดแทรกปรัชญาชีวิตไว้ด้วย ทำให้มีส่วนของ
    วิญญาณนามธรรมให้อ่าน เพื่อปรับทิฏฐิให้ตรง(ทิฏฐิชุกรรม) หลังจากนั้นหากยัง
    สนใจศาสนาอยู่ เมื่อมาสดับธรรมแล้วจะเข้าใจ และเห็นว่าจะเอาปฏิบัติได้อย่าง
    ไรให้เกิดผล ซึ่งมันสำคัญจริงๆครับที่ ต้องปฏิบัติธรรมให้เห็นผล ไม่ใช่จะใช้แค่
    การน้อมใจเชื่อ

    ระหว่างนี้ก็

    สู้ๆ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2009
  2. bazcifer

    bazcifer Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +30
    ขอบคุณพี่นิวรณ์หนังสือน่าสนใจดีครับคิดว่าจะหามาอ่านอยู่

    ตอนนี้วางแนวทางใหม่ไปที่ส่วนที่จำเป็นที่สุดของงานนี้ว่าทำมันขึ้นเพื่ออะไร
    เป้าหมายของงานนี้คือผลงานที่เสร็จสิ้นเป็นหลัก

    หลายๆอย่างในการสร้างมันขึ้นมาคือผลพลอยได้ ก่อนหน้านี้ผมไปให้น้ำหนักในส่วนของผลพลอยได้มากเกินไป

    ทำให้ไม่ได้พิจรณาความเป็นจริงว่ามันเป็นสิ่งที่ฝืนตัวเอง คือเราไม่ได้มีความชำนาญในส่วนนี้มากมาย

    เลยวิตกมากกับการคาดหวังในตัวเองว่าเรานั้นเก่งพอที่จะทำทุกอย่างที่คนอื่นๆทำได้ แต่เอาเข้าจริงแล้วทำไม่ได้

    เพระมองข้ามความจริงที่ว่าการเรียนรู้มันต้องใช้เวลาและการฝึกฝน จากการมองข้ามนี้ ทำให้ตนเองให้เวลากับสิ่งนี้น้อยเกินไป

    สรุปว่าก่อนหน้าที่จะคิดได้เรามันไอ้โง่ชัดๆ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆแล้วงานนี้ผมจะต้องใช้เวลาในการทำเท่าไร มีหลายอย่างตกหล่นไปในขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้

    มันไม่จริงเลยที่ผมบอกว่าผมไม่มีความสามารถในการเรียนรู้พอ เพราะความสามารถในการเรียนรู้ที่ผมคาดหวังไว้นั้นมันเกินระดับที่จะทำได้ในตอนนี้

    สรุปแล้วปัญหาจริงๆของผมคือผมไม่รู้จักตัวเอง และอ่อนไหวต่อสิ่งเร้า

    ก่อนนี้ผมตามหาความสมบูรณ์แบบ

    ขณะนี้ผมอยากศึกษาตัวเอง และการสร้างความหนักแน่นคงที่ในกระแสความคิด เพื่อจัดกระบวนความคิดให้มีระบบ เพื่อประเมินคุณค่าสิ่งต่างๆได้อย่างแม่นยำ

    ก่อนที่จะเข้าสู่ความสมบูรณ์แบบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...