คนที่ไม่เคยเห็นวิณญานเลย แสดงว่าเป็นคนที่บุญน้อยรึเปล่าคะ...

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย deedyangels, 11 สิงหาคม 2008.

  1. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    อันตัวพระเองนั้นทุกรูปคงไม่มีจิตคิดร้ายต่อผู้ใดมีแต่จิตที่มีเมตาแผ่ออกไป โดยมิได้้มุ่งร้ายทำลายใคร มีแต่จะพึงชนะสิ่งที่ไม่ดีด้วยความดีเท่านั้น แต่สำหรับคาถาต่างๆลองไปหาคำแปลดูครับแล้วจะไม่สงใส เพราะแต่ละบททีมีไว่ปัดลังควานต่างจะมีการสาธยาถึงความดีพระสัมมา หรือไม่ก็สาธยายถึงความดีต่าๆและมี บางบทที่เชิญเทพผู้ดูแลผีหรือที่ศักดิ์สิทรต่างลองไปหาคำแปลมาก่อนแล้วจะไม่สงใสครับ แล้วอีอย่างนึงคือสิ่งที่กันผีและคุณไสย์ตั้งแต่โบรานจะเป็นวัตถุอาถรรณ์ เช่น ยันต์ วัวธนู เบี้ยแก้ ต่างๆครับ
     
  2. slamb

    slamb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,021
    ค่าพลัง:
    +538
    ถึงตรงนี้ ผมว่า เราควรเข้าใจได้แล้วว่า..
    ท่านเป็นพระแท้ ท่านก็ตอบแบบพระ(แบบแท้ๆ) อย่าไปให้ท่านยืนยันเลยครับ
    ว่าคาถาใช้ได้จริงหรือไม่ เพราะพระพุทธเจ้าสอนหลักเมตตา ไม่เคยสอนให้พระใช้คาถากันผี
    และเท่าที่อ่านคําตอบท่านมา ผมมั่นใจว่า เป็นคําตอบคําสอนที่ถูกต้องแล้วครับ


    คาถาบทใหนๆ ผมว่าไม่สู้"พุทโธ"นะครับ เพราะคําว่า"พุทโธ" หมายรวมถึงพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
    เคยอ่านคําสอนของหลวงพ่อฤาษีฯ ท่านเคยโดนผีหัวขาดเล่นงาน(พวกเปรตหรืออสุรกาย) ท่านท่องคาถากันผีไส่ ผีกับหัวเรอะ ท่านจะหยิบไม้ตีผี ผีก็กดแขนใว้ สุดท้าย ท่านนึกถึงพระพุทธเจ้า และท่อง"พุทโธ" ผีทั้งหลายกระเดนและวิ่งหนีหายไป
    อนุโมทนาสาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2008
  3. พระไตรภพ

    พระไตรภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,067
    ค่าพลัง:
    +7,521
    สาธุ อาตมาไม่รู้เรื่องหรอกนะกับเรื่องแบบนี้ มีหลายคนที่มีอาการเหมือนโดนของ (เขาเชื่ออย่างนั้น) แต่อาตมาก็ไม่ได้ใช้คาถาอะไรเลย เพียงแต่ให้เปลี่ยนสถานที่อยู่อาสัย มาฟังคำสอนเย็นๆใจไม่กระทบกระทังจิต ดูแลเรื่องระบบขับถ่ายอาหารการกิน ให้ทานอาหารพวกผักหรืออาหารอ่อนๆ แล้วก็อบสมุนไพรขับเหงื่อของเสียในร่างกายออก

    ก็เห็นหายกันไปอยู่นะ แถมยังได้โยมที่มีน้ำใจงามเพิ่มขึ้นอีกด้วย เราไม่เกียดใครๆเขา เรารักเขา มีแต่รักเต็มหัวใจ

    เราจึงไม่เคยคิดที่จะทำร้ายใครๆเลย ใจเราจึงนอนนิ่งอยู่ได้ด้วยความเป็นสุข
     
  4. พล1207

    พล1207 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +9
    เท่าที่ผมเข้าใจนะครับ
    การที่จะสัมผัสกับวิญญาณได้ เท่าที่ได้ฟัง หากผิดพลาดต้องขออภัย มา ณที่นี้ด้วยนะครับ
    การที่จิตเราละเอียดมาก นั้นหมายถึงจิตเราเป็นสมาธิ จึงจะสามารถเห็นหรือสื่อสารกับวิญญาณได้ สมาธิบางอย่างก็ได้แค่เห็นยังไม่สามารถสื่อสารได้ ต้องมีสมาธิ ตามลำดับขั้น ของการได้มาซึ่งสมาธิ "ญาณ" ก็จะสามารถมองเห็นได้ และสามารถสื่อสารได้ครับ
    หากอยากเห็นให้กระทำดังนี้
    1. รักษาศีล 5 อย่าให้ขาดเด็ดขาด ถือศีลเป็นใหญ่
    2. ให้ทำสมาธิ อาจใช้เวลา ประมาณ 10-20 นาที แล้วแต่สะดวก แต่ดีที่สุดให้ทำก่อนนอน และตื่นนอน ตอนที่จะไปทำกิจกรรมอย่างอื่น ครับ ที่สำคัญลืมเสียมิได้คือ การละซึ่ง นิวรณ์ 5 ครับ
    ข้อที่ 1 คือ ละ กามคุณให้พิจารณาโทษของกามคุณ ครับ
    ข้อที่ 2 คือ ละ พยาบาทครับพิจารณาถึงโทษของการพยาบาท
    ข้อที่ 3 คือ พิจารณาถึงโทษของความง่วง
    ข้อที่ 4 คือ อย่าสงสัยในสิ่งที่ปฏิบัติ
    ข้อที่ 5 คือ อย่าสงสัยในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
    และที่สำคัญอีกตัวหนึ่ง คือ ละ ขันธ์ 5 มีดังนี้ครับ
    ข้อที่ 1 รูป
    ข้อที่ 2 เวทนา
    ข้อที่ 3 สัญญา
    ข้อที่ 4 สังขาร
    ข้อที่ 5 วิญญาณ
    ให้คิดว่า เราไม่ยึดถือมัน ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ครับ จากนั้น ก็ภาวนา
    3. ให้ภาวนา พุทธโธ หรือ สัมมา อรหัง หรือตามแต่สะดวก หรือจะจับการเดินของลมหายใจ ก็ได้ โดยเริ่มต้นที่ ต้นลม อยู่ปลายจมูก กลางลมอยู่อก หรือ ลิ่นปี่ แล้วปลายลม อยู่ เหนือหน้าท้องน้อย ขึ้นมาหน่อย ให้สังเกต อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ครับ

    เมื่อทำได้อย่างนี้แล้ว ต่อไปให้ฝึกการทรงพรหมวิหาร 4 ให้ได้โดยพยายามทำ ไปทีละน้อย ไม่ต้องหักโหมมาก ค่อย ๆ ทำไป ครับ และสิ่งที่จะต้องทำตลอด ก็คือ หรือ หากจิตนึกขึ้นมาได้ก็ให้ทำ นอกเหนือ จากที่กล่าวมา 3 ข้อ คือ แผ่เมตตา อาจจะเป็นการสวดมนต์ แผ่เมตตา ตามบทสวด หรือ ถ้าจำไม่ได้ ก็แผ่ไปเลยครับ แต่นึกในใจว่าจะให้ใคร หรือไม่ให้ใครแผ่ไปเรื่อย ๆ ให้จิตด้วยปรารถนาให้คนอื่น มีความสุข เมื่อทำได้ อย่างนี้ โอกาสที่จะเห็นวิญญาณ มีอย่างแน่นอน ครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับ การที่สะสมบุญหรือบารมีจากชาติก่อน และไม่ต้องไปกังวลครับถึงเรื่องนี้ให้ทำไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบร้อน แล้วเวลาอาจจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับความเพียร ของเรา แต่อย่าอาศัยความยากนะครับ ให้ละตัวนี้ด้วย ทำไปเรื่อย ๆ
    โชคดีนะครับ ในการปฏิบัติ จะเจอกับบททดสอบ แล้วแต่จิตที่ศรัทธานะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2008
  5. bigbasna

    bigbasna สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +10
    โดยส่วนตัวไม่เชื่อหลายอย่างครับ
    ศาสนาผมเชื่อว่าเป็นกลไกที่ใช้ปกครองคนหมู่มากในสมัยก่อนๆ
    ที่การคมนาคม การดูแลประชาชน ไม่ทั่วถึง สอนให้ผู้คนเป็นคนดี ไม่เบียดเบียนกัน ทำให้ปกครองคนหมู่มากได้ง่ายมากขึ้นนิดนึงก้อยังดี
    ผีก้อเช่นกัน เป็นนิยายหลอกให้คนพยายามทำดี ไม่งั้นตายไปจะเป็นผี จะตกนรก หรือหลอกให้คนไม่ออกจากบ้านเวลากลางค่ำกลางคืน เพราะอันตราย
    ไฟฟ้าก้อไม่มี มีคนโดนฆ่าตายที เจออีกทีอาจจะเจอแต่กระดูก
    ทุกอย่างอย่างที่กล่าวมาผมเชื่อว่าคนที่คิดมามีเจตนาดี แต่ผมไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ทุกอย่างเวลาล้มมันจะเหมือนโดมิโน่น่ะครับ ล้ม1ตัว ทำให้พลอยล้มไปหมด ไม่มีเรื่องจริงเลยซักอย่าง
    ยกตัวอย่างเรื่องพระเครื่องอีกเช่นกัน สมัยแรกๆ พระเครื่องนี่เวลาที่พระจะมอบให้ญาติโยมไปบูชาจะสอนสั่งอะไรตามไปด้วยเช่น "เอ็งเอาพระนี่ไปบูชานะแล้วห้ามพุดคำหยาบ" คนเอาไปบูชาก้อไม่พูดคำหยาบก้อไม่มีเรื่อง "เอ็งเอาพระนี่ไปบูชานะแล้วห้ามดื่มของมึนเมา" ไม่ดื่มของพวกนี้ก้อมีสติมีสตางค์ อุบายเหล่านี้ดีครับ
     
  6. bigbasna

    bigbasna สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +10
    จะสมมุติอีกเรื่องครับ ศาสนาพุทธถ้ารุ่งเรืองสุดขีดผู้ชายทุกคนบวชเป็นพระไม่สึก
    มนุษย์จะหมดโลกครับ เพราะไม่มีใครจะสืบพันธ์
     
  7. พระไตรภพ

    พระไตรภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,067
    ค่าพลัง:
    +7,521
    หากคนทั้งโลกมองเห็นศาสนาเป็นเพียงเครื่องมือในการบริหารโลกให้เป็นไปในทางเรียบร้อย โลกคงไม่มีคนยำเกรงบาปบุญเป็นแน่

    เรื่องอันใดหรือที่คนพร้อมทุกๆสิ่งเช่นพระพุทธองค์ จะสละออกจากทรัพย์ทั้งปวงเพียงเพื่อมาหลอกโลกให้มีศีลธรรม

    ธรรมคือเครื่องดับทุกข์ กฎแห่งกรรมคือกฎตายตัว ไม่มีผู้ใดหนีพ้นกฎกรรมได้
    ถึงจะไม่เชื่อ แต่ก็ต้องรับผลกรรมดังเดิมไม่มีทางรอด

    คนโง่ย่อมสำคัญตนว่าตนฉลาด แต่ก็ยังโชคดี ที่คนโง่ยังมีไม่มาก หรือมีมาก แต่ยังไม่สามารถครองโลกได้ หากเมื่อใดที่คนโง่ครองโลก โลกคงแหลกสิ้นไม่มีเหลือ

    สาธุ สาธุ สาธุ ขอท่านจงตื่นจากฝันอันกำลังหลอกหลอนตนเองอยู่โดยเร็วเถิด
     
  8. godman

    godman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,254
    อืม ครับๆ
     
  9. bigbasna

    bigbasna สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +10
    แล้วเรื่อสมมุตินี้เป็นไงครับ
    "จะสมมุติอีกเรื่องครับ ศาสนาพุทธถ้ารุ่งเรืองสุดขีดผู้ชายทุกคนบวชเป็นพระไม่สึก
    มนุษย์จะหมดโลกครับ เพราะไม่มีใครจะสืบพันธ์"
    มีความคิดเห็นเช่นใดกัน
     
  10. ลูกโดด

    ลูกโดด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +692
    มันเป็นสัมผัส ที่ หกครับไม่มีทุกคนครับ
     
  11. Deetom

    Deetom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +825
    ขอท่านทั้งหลายพิจารณาเถิด ด้วยเหตุใดเล่ากิเลสมนุษย์จะเห็นพร้อง พร้อมกันทั้งโลกได้

    เมื่อสมมุติ มาดังนี้ ก็ อจินไตย ก็ผมเอง ยังมีกิเลสมากมาย อยู่ ขอตอบว่า ก็ดีแล้ว จะได้มุ่งมั้น ทำความดี พร้อมเข้าสู่พระนิพพาน พร้อมหน้ากัน
     
  12. TaeyoLySiS

    TaeyoLySiS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +278
    ไม่แน่หรอก
    ถึงตอนนั้นจริงๆ
    วิธีการโคลนนิ่งอาจเจริญถึงขีดสุดก้อได้นะ
    อิอิ

    ไม่ต้องถึงตอนนั้นก็ได้
    เอาแค่ตอนนี้ สมมติผู้ชายทุกคนบวชเป็นพระไม่สึกหมดเลย
    มนุษย์ไม่มีทางสูญพันธุ์ แน่นอน เพราะปัจจุบันโลกเรามีธนาคารน้ำเชื้อ
    คริ คริ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2008
  13. พระไตรภพ

    พระไตรภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,067
    ค่าพลัง:
    +7,521
    หมดก็หมดไป ไม่เห็นจะเดือดร้อน ที่เดือดร้อนอยู่ก็เพราะเรายังไม่เบื่อโลกนี้นั่นเอง เรื่องของชีวิตมันเป็นเรื่องส่วนตัวเรา ใครไม่เห็นทุกข์ก็อยู่ในโลก

    ใครเห็นทุกข์จึงพยยามขจัดทุกข์ด้วยการพยยามเข้าถึงพระนิพพานให้ได้
    ทำไมต้องมามัวกลัวว่าโลกจะไม่มีคนดูแล ในเมื่อโลกนี้มีอยู่ก็เพราะเรายังมี

    ถ้าเราไม่มีโลกจะมีได้หรือสำหรับเรา มัวกลัวในสิ่งที่นอกเหนือประโยชน์ที่ตนจะพึงได้ในทางที่ชอบ เมื่อไหร่ตนจะพ้นภัยในวัฏฏทุกข์นีได้

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  14. bigbasna

    bigbasna สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +10
    อิอิ ตอบrep.ไหนไม่ได้เลย ไม่ค่อยตรงประเด็นที่ผมลองถาม
     
  15. bigbasna

    bigbasna สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +10
    สมมุตินะคับ
    โจรมหาชั่วคนนึง ขับรถหนีการไล่ล่าของตำรวจแหกโค้งตาย จะเป็นผีตายโหง หรือจะตกนรก?
     
  16. bigbasna

    bigbasna สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +10
    นรกในศาสนาพุทธสามารถทำโทษคนที่ทำเลวในศาสนาอื่นได้หรือไม่?
     
  17. มโนปุพพังคมา

    มโนปุพพังคมา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +92
    ....ก็ดีนะครับจะได้ไม่ต้องมาฆ่ากันทำลายล้างกัน ไม่ต้องมาร้องไห้ ไม่ต้องมาเสียใจ .......
    .....แต่คงเป็นไปได้ยากแหละขอรับ......เมืองพอไม่มีตราบใดมนุษย์ก็คงต้องมีอยู่ตราบนั้น..
    ....สาธุครับ....
     
  18. bigbasna

    bigbasna สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +10
    มนุษย์หมดโลกแล้วผีจะยังอยู่ไหมครับ?

    Domino effect ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2008
  19. TaeyoLySiS

    TaeyoLySiS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +278
    คำถามนี้ร้องเรียกให้แสดงความเห็นระหว่าง
    ความสัมพันธ์ของการมีอยู่สำหรับ มนุษย์,ผี
    ถ้ามองเป็นเรื่องของตรรกะ

    กำหนดให้ทุกเซตที่มองอยู่นี้เป็นเซตจำกัด
    A={มนุษย์} นั่นคือ เซตของมนุษย์
    B={ผี} นั่นคือ เซตของผี
    if A=เซตว่าง นั่นคือ มนุษย์หมดโลก
    then
    B ไม่รู้ว่าเป็นเซตว่างหรือไม่
    เนื่องจากไม่รู้ว่า A และ B เป็นอิสระต่อกันหรือไม่

    ถ้ามองเป็นเรื่องของตรรกะ
    บนเงื่อนไขของกฏทรงพลังงานว่า
    "พลังงานไม่สูญหายไปไหนเพียงแต่เปลี่ยนรูปไปเท่านั้น"
    นอกจากนี้ ยังมีอีกกฏ สำหรับสสารในระบบปิดก็พูดในทำนองเดียวกัน



    ขออนุญาตมองโดยใช่ภาษาสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์อย่างง่าย
    และขออนุญาตสมมติตามพื้นฐานของกฏทรงพลังงานว่า
    "สมาชิกในเซตไม่สูญหายไปไหนเพียงแต่เปลี่ยนที่อยู่ไปอยู่ในเซตใหม่ได้เท่านั้น"
    ถ้าไม่ได้มองตามสมมติฐานที่ว่านี้ ข้อความข้างล่างก็ไม่จำเป็นต้องอ่านต่อ

    มองใหม่อีกรอบ เพิ่มเงื่อนไขเข้าไป
    U คือ ระบบที่เราสนใจ ในที่นี้คือ
    U=A+B โดย (เครื่องหมาย + คือ union นะ ) U มี เซตของ A และ B เท่านั้น มีเซตของมนุษย์และผีอยู่ใน U โดยให้ A และฺ B ไม่เป็นเซตว่าง


    นอกจากนี้ A*B=เซตว่าง (เครื่องหมาย * แทน intersect นะ )
    สมาชิกที่อยู่ใน A จะไม่อยู่ใน B และ สมาชิกที่อยู่ใน B จะไม่อยู่ใน A ---**
    นั่นคือ สมาชิกที่เป็นผีจะเป็นคนในเวลาเดียวกันไม่ได้
    นอกจากนี้สมาชิกแต่ละตัวที่อยู่ใน U จะต้องสังกัดอยู่ใน A หรือไม่ก็ B
    จะไม่มีสมาชิกตัวใดใน U ที่จะไม่อยู่ใน A หรือ B เลย

    ต่อมา ให้ a เป็นสมาชิก มนุษย์คนหนึ่งใน A
    เมื่อ A-{a} แปลว่า ลบ a ออกจากเซตของมนุษย์
    a ยังอยู่ใน U และ จาก ** ทำให้ได้ว่า a ไม่ได้อยู่ใน A แต่ a ย้ายไปอยู่ใน B

    ต่อมาอีก ลบมนุษย์ทุกคน ออกจากเซตให้หมด
    จะได้ว่า ทุกๆ คนที่เคยอยู่ใน A จะไปอยู่ใน B = U หมายความว่า A เป็นเซตว่างแล้ว
    สมาชิกทุกคนที่อยู่ใน A ไม่มี แต่ย้ายไปอยู่ใน B แทน
    ทำให้ตอบ 'มนุษย์หมดโลกแล้วผีจะยังอยู่ไหม' ได้ว่า
    เมื่อ ลบสมาชิกของ A ออก หมด จนเป็นเซตว่างแล้ว สมาชิกของ A ที่ลบออกไปนั้น จะไปอยู่ใน B

    ต่อมา ขอขยายเพิ่มเติมเล็กน้อย
    ให้ A= {มนุษย์}
    และเปลี่ยนใหม่ จากเดิม เซตของ B = {ผี} กลายเป็น B={31ภพภูมิ}
    B เซตของ 31 ภพภูมิ คือ
    Bi={ภพภูมิที่ i}สำหรับ i=1 2..31 และ แต่ละ Bi ไม่เป็นเซตว่าง
    B={B1+B2+...B31} โดย B1*B2*B3*...B31=เซตว่าง
    ซึ่ง นั่นคือ สมาชิกตัวหนึ่งที่อยู่ใน B จะอยู่ใน Bi อันใดอันหนึ่งเท่านั้น
    เช่น สมาชิกอันหนึ่ง อยู่ในเซตของเทวดาชั้นดาวดึงส์ จะไม่อยู่ในเซต Bi อื่นๆ อีกเลย
    ดังนั้น U= เซตของสังสารวัฏที่เราสนใจ
    U' (อ่านว่า complement of U) คือ ไม่ใช่เซตของสังสารวัฏ
    U' = พระนิพพาน
    U=A+B นี่คือ เซตของ 32 ภพภูมิในสังสารวัฎ

    ในที่นี้ขอสนใจเพียงเงื่อนไขการถ่ายเทสมาชิกภายใน U เท่านั้น
    นั่นคือ กำหนดให้ U เป็นระบบปิด ไม่ถ่ายเทสมาชิกไปที่ U'

    พิสูจน์ในทำนองเดียวกับข้างบน
    เมื่อ ลบ สมาชิกทุกตัวออกจาก A นั่นคือ มนุษย์หมดโลก
    เนื่อง จาก U เป็นระบบปิด
    ดังนั้น สมาชิกทุกตัวที่ลบออกไปจาก A จะยังอยู่ในU นั่นคือ ทุกๆตัวจะย้ายไปอยู่ใน B หมด จะได้ไว่า B=U
    ดังนั้นตอบคำถาม 'มนุษย์หมดโลกแล้วผีจะยังอยู่ไหม' ได้ว่า
    เนื่องจาก เซตของผี อยู่ใน เซตจำนวนหนึ่งของ B นั่นคือ อยู่ใน for some Bi
    ถ้าหากว่า คำว่าผี ในที่นี้ หมายรวมถึง สัตว์นรก เปรต อสูรกาย ฯลฯ ที่อยู่ในเซตของ 31 ภพภูมิที่รวมเรียกว่า B นี้
    ดังนั้น เซตจำนวนหนึ่งของ B ที่หมายถึงผีนี้ ไม่เป็นเซตว่าง
    นอกเสียจากว่า ถ้า เซตจำนวนหนึ่งของ B ที่หมายถึงผีนี้ เซตว่างหมดเลย
    แสดงว่า สมาชิกย้ายไปอยู่ใน B-เซตจำนวนหนึ่งของ B คือ อยู่ในยังอยู่ใน B นี่แหละ
    แต่ไม่มีตัวใดเลย ที่อยู่ใน เซตจำนวนหนึ่งของ B ที่หมายถึงผีนี้


    ในทำนองเดียวกัน
    ต่อจากนี้สามารถขยายผลไปสู่
    กรณี U ไม่เป็นระบบปิด
    สมาชิกใน U สามารถย้ายไปอยู่ใน U' ได้
    แต่สมาชิกใน U' ไม่สามารถย้ายมาอยู่ใน U ได้
    ให้ N=U+U' นั่นคือ เซตของ 32 ภพภูมิ + พระนิพพาน
    ขอเรียกว่า์ N เป็นเซตของสมมุติและวิมุติ

    คำถามขยายผล
    จะมีเซต M ซึ่ง เซตของสมมุติและวิมุติจะอยู่เป็นสมาชิกของเซต M นี้หรือไม่
    N' คือ อะไร
    แท้จริงแล้ว N เป็นเซตจำกัดหรือไม่

    เหอๆ

    คำถาม
    เลียนแบบคำถาม ข้างบน "มนุษย์หมดโลกแล้วผีจะยังอยู่ไหม"
    เปลี่ยนเป็น "มนุษย์หมดโลกแล้วจำนวนเฉพาะยังจะอยู่ไหม"

    ถ้าหากคุณมองบนสมมุติฐานที่ว่า
    ผีเป็นสิ่งที่คนสมมุติขึ้นมา เพื่อให้เกิดสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายคุกคามเพื่อให้คนเกรงกลัวต่อการทำไม่ดี เป็นที่น่าสังเกตว่าผีมีลักษณะเป็นสากลพบได้ในทุกมุมโลก แต่ไม่ทุกคนที่จะเคยพบผี เฉกเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ทุกคนที่จะกลัวผี
    คุณสมบัติของผีของแต่ละคนอาจนิยามไม่ตรงกัน แต่มั่นใจได้ว่ามันมีลักษณะร่วมทำให้ทราบได้ว่าลักษณะอย่างนั้นอย่างนี้น่าจะจัดอยู่ในหมวดหมู่ที่เรียกว่าผี

    ทำนองเดียวกัน
    จำนวนเฉพาะก็เป็นสิ่งที่คนสมมุติ
    มันยังมีคุณสมบัติของมันไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือ ไม่มีจำนวนใดเลย นอกจากตัวมันเอง และ หนึ่ง หารมันได้ลงตัว

    จำนวนเฉพาะและผีเป็นสิ่งสมมุติ จำนวนเฉพาะมีคุณสมบัติที่ชัดเจน ผีก็มีคุณลักษณะที่ชัดเจนแต่อาจจะแตกต่างกันบ้างตามนิยามของแต่ละคน
    ที่กล่าวว่ามันมีคุณลักษณะสากลที่ชัดเจน เพราะจากการสังเกตุ หนังผี ทุกชาติทุกภาษาต่างมีลักษณะร่วมของผีในทำนองเดียวกันทำให้บอกได้ว่า นี่คือผี นี่ไม่ใช่ผี

    มนุษย์หมดโลกแล้วจำนวนเฉพาะยังจะอยู่ไหม ขอตอบว่า
    จำนวนเฉพาะ มันยังคงอยู่โดยคุณสมบัติของมัน มันมีลักษณะเป็นสากลของมัน
    ไม่ว่าจะมองในเลขฐานใดก็ตาม แม้ว่ามันจะจับต้องไม่ได้
    แต่หากจะมีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาใดๆ นอกเหนือมนุษย์
    ที่สามารถรับรู้ถึงคุณสมบัติของมันได้ จำนวนเฉพาะมันก็ยัง...still there
    และมันยังคงเป็นสากลในจักรวาล

    ผี ยังคง still there
    และรอให้เกิดการพิสูจน์เชิงประจักษ์

    แต่ทำไงได้ ในเมื่อวิทยาศาสตร์ เน้นแต่ประสาทสัมผัสทั้งห้าที่เป็นประสาทสัมผัสแบบหยาบ ตอนนี้ยังไม่ยอมรับสัมผัสที่หก
    รอวิทยาศาสตร์คงนาน
    ใช้สัมผัสที่หกพิสูจน์เองน่าจะเร็วกว่า
    แต่เสียอย่าง สัมผัสที่หกเป็นสิ่งที่พึงรู้ได้เฉพาะตนก็เท่านั้นเอง
     
  20. อุตสาหะ

    อุตสาหะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +89
    ;aa25สัมผัส นี้นะค่ะเราจะมีได้ก็ต่อเมื่อเราฝึกฝนนั้งสมาธิเป็นสม่ำเสมอนะค่ะ งั้นดิฉันขออนุโมทนาด้วนะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...