ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เซี่ยมหล่อนั๊ง

    เซี่ยมหล่อนั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +665
    คราวหน้า ต้องไม่พลาด แล้ว อย่าลืมแจ้งบ่าวด้วย นะครับ
     
  2. เทพบุตรชาวดิน

    เทพบุตรชาวดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +1,901

    ข่าวแว่วมาจากอาจารย์บุญน้อยว่าของแจกคำรบสองนี่เยอะกว่าคำรบแรกซะอีกนะเจ๊ไอย ...:VO
     
  3. เทพบุตรชาวดิน

    เทพบุตรชาวดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +1,901
    ภาพบรรยากาศงานไหว้ครูอาจารย์บุญหนาเมื่อวันที่ 15-3-52

    ภาพบรรยากาศตอนเช้าก่อนงานเริ่ม

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01684.jpg
      DSC01684.jpg
      ขนาดไฟล์:
      356.4 KB
      เปิดดู:
      430
    • DSC01730.jpg
      DSC01730.jpg
      ขนาดไฟล์:
      219.5 KB
      เปิดดู:
      379
    • DSC01739.jpg
      DSC01739.jpg
      ขนาดไฟล์:
      227.9 KB
      เปิดดู:
      24
    • DSC01768.jpg
      DSC01768.jpg
      ขนาดไฟล์:
      240.4 KB
      เปิดดู:
      26
  4. ukrin

    ukrin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +1,463
    ยิ่งได้รับเยอะ แสดงว่าต้องเอามาแจกจ่ายให้คนอื่นต่อๆกันอีกเยอะ งานเข้าซิครับ

    (เพราะเอามาเพื่อใช้ในการประสานงาน)

    เท่าที่ได้รับมาจากอาจารย์ หมดแล้วในพริบตา

    ท่านใดที่ยังมีไว้ในครอบครอง

    ระวัง

    ระบบ

    นี่ไม่ใช่คำเตือน

    แต่เป็นคำขู่

    คิก คิกๆๆๆๆๆ..

    hello8​
     
  5. เทพบุตรชาวดิน

    เทพบุตรชาวดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +1,901
    ทีมที่มาจากบึงบอระเพ็ดมาถึงงานในตอนเช้า ก็เข้าพบปะพูดคุยกับอาจารย์บุญหนา

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01743.jpg
      DSC01743.jpg
      ขนาดไฟล์:
      400.7 KB
      เปิดดู:
      312
    • DSC01746.jpg
      DSC01746.jpg
      ขนาดไฟล์:
      299.9 KB
      เปิดดู:
      31
    • DSC01763.jpg
      DSC01763.jpg
      ขนาดไฟล์:
      227.4 KB
      เปิดดู:
      323
    • DSC01752.jpg
      DSC01752.jpg
      ขนาดไฟล์:
      240.3 KB
      เปิดดู:
      316
    • DSC01754.jpg
      DSC01754.jpg
      ขนาดไฟล์:
      256.6 KB
      เปิดดู:
      305
    • DSC01760.jpg
      DSC01760.jpg
      ขนาดไฟล์:
      242.1 KB
      เปิดดู:
      30
  6. เทพบุตรชาวดิน

    เทพบุตรชาวดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +1,901
    แจกวัตถุมงคลและหนังสือสวดมนต์เป็นที่ระลึก

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01857.jpg
      DSC01857.jpg
      ขนาดไฟล์:
      231.4 KB
      เปิดดู:
      297
    • DSC01869.jpg
      DSC01869.jpg
      ขนาดไฟล์:
      276.3 KB
      เปิดดู:
      25
    • DSC01870.jpg
      DSC01870.jpg
      ขนาดไฟล์:
      242.7 KB
      เปิดดู:
      289
    • DSC01872.jpg
      DSC01872.jpg
      ขนาดไฟล์:
      266.8 KB
      เปิดดู:
      287
    • DSC01874.jpg
      DSC01874.jpg
      ขนาดไฟล์:
      232 KB
      เปิดดู:
      280
  7. เทพบุตรชาวดิน

    เทพบุตรชาวดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +1,901
    เวลาประมาณเที่ยงพิธีไหว้ครูจึงเริ่มขึ้น

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01883.JPG
      DSC01883.JPG
      ขนาดไฟล์:
      589.8 KB
      เปิดดู:
      277
    • DSC01886.JPG
      DSC01886.JPG
      ขนาดไฟล์:
      583.1 KB
      เปิดดู:
      283
    • DSC01887.JPG
      DSC01887.JPG
      ขนาดไฟล์:
      607.3 KB
      เปิดดู:
      25
    • DSC01888.JPG
      DSC01888.JPG
      ขนาดไฟล์:
      578.5 KB
      เปิดดู:
      287
    • DSC01890.JPG
      DSC01890.JPG
      ขนาดไฟล์:
      541 KB
      เปิดดู:
      271
    • DSC01893.JPG
      DSC01893.JPG
      ขนาดไฟล์:
      600.6 KB
      เปิดดู:
      270
  8. เทพบุตรชาวดิน

    เทพบุตรชาวดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +1,901
    พระอาทิตย์ทรงกลดเป็นรูปแปลกๆขณะทำพิธี

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMGA0687.JPG
      IMGA0687.JPG
      ขนาดไฟล์:
      110 KB
      เปิดดู:
      288
    • IMGA0688.JPG
      IMGA0688.JPG
      ขนาดไฟล์:
      109 KB
      เปิดดู:
      279
    • IMGA0689.JPG
      IMGA0689.JPG
      ขนาดไฟล์:
      110.1 KB
      เปิดดู:
      285
    • IMGA0690.JPG
      IMGA0690.JPG
      ขนาดไฟล์:
      111.1 KB
      เปิดดู:
      280
    • IMGA0691.JPG
      IMGA0691.JPG
      ขนาดไฟล์:
      109.7 KB
      เปิดดู:
      273
  9. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ขออนุโมทนา กับภาพสวย ๆ ของช่างภาพทุกท่าน ที่เริ่มจะเป็นช่างภาพมืออาชีพเข้าไปทุกขณะแล้วในตอนนี้

    ภาพที่ออกมาสวยงามมาก ในทุก ๆ ภาพ ในทุก ๆ กิจกรรม

    ทีมที่ 2 ได้เดินทางไปประสานงานที่ลพบุรี มีช่างภาพมือฝีมือดีไปถึง 4 ท่าน เพื่อน ๆ สมาชิกจึงได้ชมภาพสวย ๆ ในงานไหว้ครูที่ลพบุรี อย่างละเอียดแทบจะทุกแง่ทุกมุมเสมือนเดินทางไปเองเลยทีเดียว

    ทีมที่ 1 ที่เดินทางไปบึงบอระเพ็ด ก็ไม่น้อยหน้า ได้ช่างภาพฝีมือยอดเยี่ยมอย่าง คุณ ณ. คุณวิจิตร คุณยุทธนา คุณ Fleurdelis ไปทำหน้าที่บันทึกภาพที่บึงบอระเพ็ด ภาพจึงออกมาสวยงามมาก โดยเฉพาะของคุณ ณ. ที่นำมาลงแต่ละภาพสวยงามสมกับเป็นมืออาชีพจริง ๆ

    พี่สุดใจ จึงขอนำภาพสวย ๆ เหล่านั้น รวบรวมมาจากหลาย ๆ กล้อง ทำ MV ประกอบเพลงมาฝากเพื่อน ๆ ฟังเพลงเพราะ ๆ ชมภาพสวย ๆ ในบรรยากาศยามเย็นที่บึงบอระเพ็ด

    ในครั้งนี้ไม่มีภาพเคลื่อนไหวมาให้ชม เนื่องจากคุณ ukrin ช่างกล้องวีดีโอ เดินทางไปกับทีมที่ 2 ที่ลพบุรี ทีมที่ 1 จึงไม่มีกล้องวีดีโอบันทึกภาพเคลื่อนไหวในครั้งนี้

    คุณ Digital เห็นว่าทางกลุ่มฯ มีกล้องวีดีโอไม่เพียงพอใช้งาน จึงแจ้งว่า จะบริจาคกล้องวีดีโอให้กับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ไว้ใช้ในการประสานงานอีกชุดหนึ่ง โดยจะส่งตรงมาจากอเมริกาเร็ว ๆ นี้

    ในการแยกทีมครั้งหน้า อาจจะมีภาพเคลื่อนไหวที่คมชัดมาให้ได้ชมกัน ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ แม้จะแยกทีมกันไปประสานงานคนละสถานที่ก็ตาม

    ต้องขอขอบคุณ และขออนุโมทนาบุญกับคุณ Digital ด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ แม้จะอยู่ห่างไกล แต่ก็ยังห่วงใยและเอื้ออาทรต่อทุกคนเสมอมา

    ซึ่งคงจะต้องหาช่างกล้องวีดีโอมารับหน้าที่บันทึกภาพเพิ่มขึ้นอีก 1 ท่าน ใครชำนาญกล้องวีดีโอเตรียมตัวได้เลยค่ะ

    ในตอนนี้ คงต้องนำภาพนิ่งที่สวยงามมาทำ MV ให้ชมก่อนนะคะ

    ขอขอบคุณช่างภาพฝีมือยอดเยี่ยมทุก ๆ ท่านค่ะ


    [VDO]http://palungjit.org/attachments/a.541686/[/VDO]​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2009
  10. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451

    ยินดีอย่างยิ่งค่ะ ที่ได้มีโอกาสพบ สนทนา และทำความรู้จักกับอาจารย์ pkanlaya และ อาจารย์ Bizan ที่ตั้งใจเดินทางมาจากจังหวัดพิษณุโลกเพื่อมาพบเจอกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)โดยตรง

    และขอขอบคุณอย่างยิ่ง ที่ได้อ่านข้อมูลจากกระทู้นี้มาอย่างต่อเนื่องด้วยความสนใจในเนื้อหาที่มีแต่ธรรมะ หรือกฏของธรรมชาติเสียเป็นส่วนใหญ่ มิใช่มีแต่เรื่องของมนุษย์ต่างดาว อย่างที่หลาย ๆ ท่านเข้าใจ

    ภาพลักษณ์ของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) มองจากกิจกรรมภายนอก อาจจะมองดูเหมือนไร้สาระ หาความเป็นแก่นสารไม่ได้ แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะลองเข้ามาดูว่า แท้จริงแล้วกลุ่มนี้ทำอะไร ปฏิบัติอย่างไร แล้วทำไมผู้ที่ได้เข้ามาพบเจอ มาสนทนา มารับรู้วิชชาที่ระบบได้ถ่ายทอดไว้นั้น สามารถทำความเข้าใจได้โดยง่าย และปล่อยวางจากอุปทานขันธ์ห้าได้อย่างรวดเร็ว

    จะมีสักกี่คนที่จะลองมาทดสอบ ทดลอง มาศึกษาดูว่าสิ่งที่ระบบของมนุษย์ต่างดาวมาบอก มาสอนให้รู้เท่าทันอุปาทานขันธ์ห้านั้น จะสามารถทำให้พ้นทุกข์ได้จริงหรือ ?

    แต่.... สิ่งที่อาจารย์กล่าวไว้ด้านบนนั้นว่า

    ...............

    แม้จะเป็นระยะเวลาเพียงช่วงสั้นๆ แต่คุณค่าที่ได้รับช่างยิ่งใหญ่ เปรียบเหมือนคนที่กำลังเดินทางอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง แต่จู่ๆก็มีผู้มาชี้แนะว่าทางนี้นะที่จะนำเราไปสู่ที่หมายได้


    และที่สำคัญมันช่างตรงกับจริตของเราเสียจริงๆ สั้นๆ เรียบง่าย ไม่มีพิธีรีตรอง

    ไม่สำคัญนักหรอกว่าเราจะปฏิบัติธรรมมานานแค่ไหน ถ้าไม่ใช่หนทางที่ถูกและตรงก็จะหาทางออกไม่เจออยู่ดี

    กลับมาจากบึงบรเพ็ดในวันแรก ก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เสมือนหนึ่งมีครูที่มองไม่เห็นมาคอยกำกับบทอยู่ตลอดเวลา สติมีความฉับไวในการนั่งมองความเปลี่ยนแปลงของขันธ์ 5

    ขอบคุณระบบที่ได้จัดสรรให้เจอหนทางนี้


    ..............

    เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า .... มันไม่ได้ยากเกินไปอย่างที่เข้าใจกัน

    จะมีซักกี่คน ที่จะกล้ามาทดสอบ ทดลอง ยอมเสี่ยงที่จะมารับฟังสิ่งที่คนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ไม่ได้มีชื่อเสียง ไม่ได้มีรูปแบบให้น่าศรัทธา แล้วก็ไม่น่าที่จะมีอะไรที่พอจะเรียกได้ว่า รู้จริง... พูดให้ฟัง

    แต่เพราะอาจารย์ทั้งสองท่านได้ไตร่ตรอง ได้เทียบเคียง ได้พิจารณา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้ปัญญาในการเทียบเคียงอย่างยิ่ง กว่าที่จะมองข้ามรูปแบบที่ลวงตาเหล่านั้นมาได้

    เมื่อผ่านรูปแบบที่ปิดบังอำพรางไว้ได้ ก็จะรู้ว่า ..... การออกจากวัฏฏสงสาร....มันกลับง่ายกว่าที่คิด ....

    เพียงแค่ทำความเข้าใจให้ตรงจุด ตีให้ตรงตัวอุปาทานขันธ์ห้า ชำแหละมันออกมาเป็นชิ้น ๆ แล้วเรียนรู้กลไกที่มันเชื่อมโยงกันไว้เหมือนเป็น "ตัวเรา"

    ก็จะรู้ว่า.... มันไม่ได้มีอะไรยากเกินไปเลย ไม่ได้มีกลไกอะไรซับซ้อนนักหนา และไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะจัดการกับมันได้

    อาจารย์ทั้งสองท่าน ปฏิบัติธรรมะอย่างถูกตรง อย่างแน่วแน่มามากแล้ว แค่ปรับความเห็นให้ตรงเท่านั้น อาจารย์ก็จะสามารถละวางจางคลายจากการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้าได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วอย่างแน่นอน

    แค่ได้สนทนากันเพียงระยะเวลาช่วงสั้น ๆ แค่ปรับพื้นฐานความเข้าใจ อาจารย์ก็สามารถนำไปใช้ได้ทันที และเห็นผลจากการปฏิบัติในทันทีเช่นกัน

    นั่นคือ มีสติที่เฉียบคม รู้เท่าทันทุกข์ รู้เท่าทันอุปาทานขันธ์ห้า ที่มันเป็นตัวก่อให้เกิดความยึดมั่นว่าเป็นตัวเราของเรา

    ขออนุโมทนากับอาจารย์ pkanlaya และ อาจารย์ Bizan ด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ ที่เริ่มรู้เท่าทันขันธ์ห้า และพบหนทางที่จะออกจากวัฏฏสงสารกันเสียที

    หวังอย่างยิ่งว่าคงมีโอกาสได้พบกันอีก และคงมีเวลาได้สนทนากันได้มากกว่านี้ค่ะ


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2009
  11. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451


    ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาเช่นกันค่ะ อาจารย์ Bizan

    โอกาสหน้า หากกลุ่มประสานงานฯ มีภารกิจผ่านไปทางพิษณุโลก คงได้มีโอกาสพบเจอ และร่วมสนทนากับอาจารย์ทั้งสองท่านอีกครั้งค่ะ

    ขอขอบคุณในไมตรีจิตที่มีให้กับสมาชิกกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ในครั้งที่ผ่านมาค่ะ

     
  12. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    เบญจขันธ์ หรือ ขันธ์ 5<O:p</O:p


    <O:p</O:p

    เบญจขันธ์ หมายถึง กองแห่งรูปธรรมและนามธรรมห้าหมวดที่ประชุมกันเข้าเป็นชีวิต<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขันธ์ 5 ประกอบด้วย รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์

    <O:p</O:p1. รูปขันธ์ กองรูป ส่วนที่เป็นรูป ร่างกาย พฤติกรรม และคุณสมบัติต่าง ๆ ของส่วนที่เป็นร่างกาย ส่วนประกอบฝ่ายรูปธรรมทั้งหมด
    <O:p</O:p
    2. เวทนาขันธ์ กองเวทนา ส่วนที่เป็นการเสวยรสอารมณ์ ความรู้สึก สุข ทุกข์ หรือเฉย ๆ<O:p</O:p
    เมื่อรับรู้เกิดความพอใจ มนุษย์เรียกว่า สุข เมื่อรับรู้เกิดความไม่พอใจ มนุษย์เรียกว่า ทุกข์ เมื่อรับรู้แล้วไม่ทุกข์ไม่สุข เรียกว่า อุเบกขา
    <O:p</O:p
    3. สัญญาขันธ์ กองสัญญา ส่วนที่เป็นความกำหนดหมายให้จำอารมณ์นั้น ๆได้ ความกำหนดได้หมายรู้ในอารมณ์ 6 เช่น เสียงดัง รูปสวย กลิ่นหอม รสหวาน ร้อน และดีใจ
    <O:p</O:p
    4. สังขารขันธ์ กองสังขาร ส่วนที่เป็นความปรุงแต่ง สภาพที่ปรุงแต่งจิตให้ดีหรือชั่วหรือเป็นกลาง ๆ คุณสมบัติต่าง ๆ ของจิต มีเจตนาเป็นตัวนำ ที่ปรุงแต่งคุณภาพของจิต ให้เป็นกุศล อกุศล อัพยากฤต
    <O:p</O:p
    5. วิญญาณขันธ์ กองวิญญาณ ส่วนที่เป็นความรู้แจ้งอารมณ์ ความรู้อารมณ์ทางอายตนะทั้ง 6 <O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2009
  13. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    อายตนะ แปลว่า บ่อเกิดหรือสื่อสัมพันธ์ บ่อเกิดหรือสื่อสัมพันธ์ ของอายตนะทั้งสองแล้วเกิดอารมณ์ขึ้น อายตนะมีตาเป็นต้น เมื่อสัมผัสกับรูปแล้ว ก็ติดต่อสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องถึงประสาทเข้ามาหาใจ แล้วใจก็รับเอามาเป็นอารมณ์ ถ้าดีก็ชอบใจ สนุก เพลิดเพลิน ถ้าไม่ดีก็ไม่ชอบใจ คับแค้นเป็นทุกข์โทมนัสต่อไป

    อายตนะ ประกอบด้วย อายตนะภายใน 6 และอายตนะภายนอก 6
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <TABLE class=MsoTableGrid style="BORDER-COLLAPSE: collapse; mso-yfti-tbllook: 480; mso-padding-alt: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR style="HEIGHT: 34.95pt; mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #f4f4f4; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #f4f4f4; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #f4f4f4; WIDTH: 59.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #f4f4f4; HEIGHT: 34.95pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=79>หู<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #f4f4f4; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #f4f4f4; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #f4f4f4; WIDTH: 378pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #f4f4f4; HEIGHT: 34.95pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=504>ที่เสียงดังมากระทบ เรียกว่า โสตวิญญาณ<O:p</O:p

    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 35.2pt; mso-yfti-irow: 1"><TD style="BORDER-RIGHT: #f4f4f4; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #f4f4f4; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #f4f4f4; WIDTH: 59.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #f4f4f4; HEIGHT: 35.2pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=79>ตา<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #f4f4f4; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #f4f4f4; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #f4f4f4; WIDTH: 378pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #f4f4f4; HEIGHT: 35.2pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=504>ที่เห็นวัตถุรูป เรียกว่า จักษุวิญญาณ<O:p</O:p

    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 54.15pt; mso-yfti-irow: 2"><TD style="BORDER-RIGHT: #f4f4f4; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #f4f4f4; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #f4f4f4; WIDTH: 59.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #f4f4f4; HEIGHT: 54.15pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=79>จมูก<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #f4f4f4; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #f4f4f4; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #f4f4f4; WIDTH: 378pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #f4f4f4; HEIGHT: 54.15pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=504>ที่ดมกลิ่นสารพัดทั้งปวง เรียกว่า ฆานวิญญาณ<O:p</O:p

    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 59.9pt; mso-yfti-irow: 3"><TD style="BORDER-RIGHT: #f4f4f4; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #f4f4f4; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #f4f4f4; WIDTH: 59.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #f4f4f4; HEIGHT: 59.9pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=79>ลิ้น<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #f4f4f4; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #f4f4f4; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #f4f4f4; WIDTH: 378pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #f4f4f4; HEIGHT: 59.9pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=504>ที่รับรสทุก ๆ อย่างที่มาสัมผัส<O:p</O:p
    เรียกว่า ชิวหาวิญญาณ<O:p</O:p

    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 53.7pt; mso-yfti-irow: 4"><TD style="BORDER-RIGHT: #f4f4f4; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #f4f4f4; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #f4f4f4; WIDTH: 59.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #f4f4f4; HEIGHT: 53.7pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=79>กาย<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #f4f4f4; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #f4f4f4; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #f4f4f4; WIDTH: 378pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #f4f4f4; HEIGHT: 53.7pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=504>ที่ถูกสัมผัสเย็นร้อนอ่อนแข็งอันจะรู้ได้ทางกาย เรียกว่า กายวิญญาณ<O:p</O:p

    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 5; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #f4f4f4; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #f4f4f4; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #f4f4f4; WIDTH: 59.4pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #f4f4f4; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=79>ใจ<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #f4f4f4; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #f4f4f4; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #f4f4f4; WIDTH: 378pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #f4f4f4; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=504>ความรู้สึกนึกคิดในอารมณ์นั้น ๆ เรียกว่า มโนวิญญาณ<O:p</O:p

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <O:p</O:p

    อายตนะทั้ง 6 นี้ย่อมรับทำหน้าที่แต่ละแผนก ๆ ไม่ปะปนกัน เช่นตารับทำหน้าที่แต่เฉพาะไว้ดูรูปเท่านั้น ให้หูดูแทนไม่ได้เด็ดขาด จึงเรียกว่าเป็นใหญ่ในหน้าที่นั้น
    <O:p</O:p
    ฉะนั้นเมื่อพูดถึงอายตนะภายใน 6 แล้ว ขอกล่าวถึงคู่ของอายตนะภายในไปพร้อม ๆ กัน จึงจะเห็นประโยชน์ของอายตนะ 6 ที่ว่าเป็นของอยู่ในตัวของเราเรียกว่า อายตนะภายใน สิ่งที่เป็นคู่กับอายตะภายใน เช่น
    รูปเป็นคู่กับตา เสียงเป็นคู่กับหู เป็นต้น เรียกว่า อายตนะภายนอก
    <O:p</O:p
    ถ้าอายตนะภายในตัวไม่มีคู่ เช่น มีแต่ตาอย่างเดียวไม่มีรูปให้เห็นก็ไม่มีประโยชน์อันใดเลยหรือมีแต่รูปอย่างเดียวไม่มีตาดูก็จะมีประโยชน์เช่นกัน แต่เมื่อเห็นรูปแล้วย่อมมีทั้งคุณและโทษเหมือน ๆ กับผู้รับผิดชอบการงานในหน้าที่นั้นๆ จะต้องรับผิดชอบทั้งดีและไม่ดี อายตนะภายในกับอายตนะภายนอกกระทบกันเข้านี่แหละที่ทำให้เกิดคุณและโทษก็อยู่ที่ตรงนี้
    <O:p</O:p
    ฉะนั้นอารมณ์ที่เกิดจากอายตนะทั้งสองนี้จึงเป็นเหมือนกับมิตรและศัตรูไปพร้อม ๆ กัน <O:p</O:p
    แต่มิตรไม่เป็นไรเรายอมรับทุกเมื่อ แต่ศัตรูนี้ซิ ตาเกลียดนักจึงคอยตั้งป้อมต่อสู้มัน
    <O:p</O:p
    อายตนะภายใน 6 อย่างนี้ เมื่อใครได้มาเป็นสมบัติของตนครบถ้วนบริบูรณ์ ไม่วิกลวิกาลแล้วจึงนับ ได้ว่าเป็นลาภของผู้นั้นแล้ว เพราะมันเป็นทรัพย์ภายใน อันมีคุณค่ามหาศาล ยากที่จะหาแลกเปลี่ยนซื้อขายกันในท้องตลาดได้ ทรัพย์ภายนอกจะมีมากน้อยสักเท่าไร จะดีหรือจะมีคุณค่า จะมีประโยชน์หรือไม่ หากขาดทรัพย์ภายในแล้ว ก็ไม่สำเร็จผลอะไรเลย
    <O:p</O:p
    อนึ่งทรัพย์ภายใน 6 กองนี้ มีแล้วใช้ได้ไม่รู้จักหมดสิ้นจนถึงวันตาย เป็นแก้วสารพัดนึกให้สำเร็จความปรารถนาได้ทุกสิ่ง เมื่อได้มาโดยมิต้องลงทุนหรือจะลงทุนบ้างเล็กน้อย แต่ได้ผล ล้นค่า เหมือนกับได้ทิพย์สมบัติ 6 กองอย่างน่าภาคภูมิใจด้วย หากใครได้เกิดมาในโลกนี้ไม่ได้สมบัติ 6 กองนี้ หรือได้แต่ไม่ครบถ้วน ก็เท่ากับเป็นคนอาภัพในโลกนี้ แล้วสมบัติ 6 กองนี้เป็นของผู้ที่เกิดมาในกามโลก บัญญัติธรรมเรียกว่า "กามคุณ 5"


    เพราะผู้ที่ได้ประสบอารมณ์ 5 นี้แล้วชอบใจ ติดใจ เข้าไปฝังแน่นอยู่ในใจ เห็นเป็นคุณทั้งหมด หากจะเห็นโทษของมันอยู่บ้างบางกรณี แต่ก็ยากนักที่เอาโทษนั้นมาลบล้างคุณของมัน ฉะนั้นเหมาะสมแล้วที่เรียกว่า "กามคุณ"<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สรุปแล้วขันธ์ 5 นี้ ย่อลงมาเป็น2 คือ รูป และ นาม<O:p</O:p
    รูปขันธ์จัดเป็นรูป และ 4 นามขันธ์ จัดเป็นปรมัตถธรรม 4 ได้แก่ เวทนาขันธ์ 1 สัญญาขันธ์ 1 สังขารขันธ์1 และวิญญาณขันธ์ 1 จัดเป็นจิตหรือ เป็น เจตสิก ส่วน
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    นิพพาน เป็นขันธ์วินิมุต คือ พ้นจากขันธ์ 5 สรรพสิ่งทั้งหลายในอนันตจักรวาลนั้น <O:p</O:p
    แยกประเภทได้เป็น 3 ส่วน ได้แก่
    <O:p</O:p
    1. ส่วนที่เป็นวัตถุทั้งหลาย ( รูปขันธ์ ประกอบด้วย ธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ )<O:p</O:p
    สสารและพลังงานทั้งหลาย แสง สีทั้งหลาย เสียง กลิ่น รส ความเย็น ความร้อน ความอ่อน ความแข็ง ความหย่อน ความตึง อาการเคลื่อนไหวของสิ่งต่าง ๆ ช่องว่างต่าง ๆ อากาศ ดิน น้ำ ไฟ ลม สภาพแห่งความเป็นหญิง เป็นชาย เนื้อสมองและระบบของเส้นประสาททั้งหลาย อันเป็นฐาน ให้จิตเกิด รวมทั้งอาการแห่งความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมไป ดับไปของวัตถุทั้งหลายด้วย<O:p</O:p
    ซึ่งรวมเรียกว่า รูปขันธ์
    <O:p</O:p
    2. ส่วนที่เป็นความรู้สึกและความคิดทั้งหลาย<O:p</O:p
    รวมเรียกว่านามขันธ์ คือ ปรมัตถธรรม 4 ได้แก่<O:p</O:p

    2.1 เวทนาขันธ์ คือ ความรู้สึกเป็นสุขทางกาย ทุกข์ทางกาย โสมนัส(สุขทางใจ) โทมนัส(ทุกข์ทางใจ) อุเบกขาหรือ อทุกขเวทนา อสุขเวทนา เป็นกลางๆ <O:p</O:p
    (ไม่สุขไม่ทุกข์ )<O:p</O:p


    2.2 สัญญาขันธ์ คือ ความจำได้หมายรู้ในสิ่งต่างๆ คือส่วนที่ทำหน้าที่ในการจำนั่นเอง (ไม่ใช่เนื้อสมอง แต่เป็นส่วนของความรู้สึกนึกคิด เนื้อสมองนั้นจัดเป็นรูปขันธ์ เนื้อสมองเป็นเหมือนสำนักงาน ส่วนนามขันธ์ทั้งหลายเหมือนผู้ที่ทำงานในสำนักงานนั้น)
    <O:p</O:p
    2.3 สังขารขันธ์ คือ ส่วนที่ปรุงแต่งจิต คือสภาพที่ปรากฏของจิตนั่นเอง เช่น ความโลภ ความโกรธ ความหลง ทาน(สภาพของจิตที่สละสิ่งต่างๆ ออกไป) ความเมตตา กรุณา มุทิตา สมาธิ ความฟุ้งซ่าน ความหดหู่ท้อถอย ความง่วง ความละอาย ความเกรงกลัว ความไม่ละอาย ความไม่เกรงกลัว เจตนาในการทำสิ่งต่าง ๆ ความลังเลสงสัย ความมั่นใจ ความเย่อหยิ่งถือตัว ความเพียร ความยินดี ความพอใจ ความอิจฉา ความตระหนี่ ศรัทธา สติ ปัญญา การคิด การตรึกตรอง
    <O:p</O:p
    2.4 วิญญาณขันธ์ หรือ จิต คือผู้ที่รับรู้สิ่งทั้งปวง คือรับรู้ความรู้สึกต่าง ๆ ตั้งแต่ เวทนาขัน สัญญาขันธ์ จนถึงสังขารขันธ์ และเป็นผู้รับรู้ถึงส่วนที่เป็นรูปขันธ์ทั้งหลายด้วย อันได้แก่เป็นผู้รับรู้สิ่งทั้งหลาย ที่มากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย นั่นเอง รวมถึงเป็นผู้รับรู้ในสภาวะแห่ง นิพพาน ด้วย
    <O:p</O:p
    3. นิพพาน คือ สภาวะที่พ้นจากรูปขันธ์และนามขันธ์ทั้งปวง<O:p</O:p
    หรือสภาวะจิตที่พ้นจากความยึดมั่นผูกพันในสิ่งทั้งปวง รวมถึงไม่ยึดมั่นในนิพพานด้วย
    <O:p</O:p
    นิพพาน = นิ + วาน (ในภาษาบาลีนั้น ว. กับ พ. ใช้แทนกันได้ วาน จึงเท่ากับ พาน)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นิ = พ้น
    <O:p</O:p
    วาน = สิ่งที่เกี่ยวโยงไว้ ได้แก่ ตัณหา คือ ความทะยานอยากและอุปาทาน คือ ความยึดมั่นถือมั่นนั่นเอง
    <O:p</O:p
    นิพพาน แปลตามตัวจึงหมายถึงความพ้นจากเครื่องเกี่ยวโยง(ตัณหาและอุปาทาน) นั่นเอง
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สรุปแล้วขันธ์ 5 ประกอบด้วย รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์
    <O:p</O:p
    โดยที่ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ รวมเรียกว่าเจตสิก ซึ่งแปลว่าเป็นสิ่งที่เกิดร่วมกับจิตเสมอ จิตและเจตสิกจะเกิดและดับพร้อมกันเสมอ จะแยกกันเกิดไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกันอยู่ เพียงแต่ว่าตอนนั้นนามขันธ์ตัวไหนจะแสดงตัวเด่นกว่าตัวอื่นเท่านั้นเอง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p


    จาก http://luangporsingto.com/17Kan/3kan.doc
     
  14. juksawat

    juksawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    980
    ค่าพลัง:
    +3,507
    อาจารย์บุญน้อยบอกว่าที่ไปก็เพราะระบบผลักให้ไป เพื่อเรียนรู้ในสรรพวิชชาแล้วนำมาศึกษา วิเคราะห์ และเปรียบเทียบ จะได้เป็นประโยชน์ต่อการขยายระบบในวันข้างหน้าตามภาระหน้าที่ที่รับผิดชอบ

    สิ่งที่จะเอามาฝากน้องๆ ถ้าเป็นเรื่องวัตถุธาตูหรือธาตุกายสิทธิ์ต่างๆ ก็ต้องขอบอกว่าเสียใจ เพราะอาจารย์บุญน้อยมีเยอะแล้ว ไม่เสาะแสวงหาเพิ่มเติม มีแต่จะแจกจ่ายออกไป ที่ไปหาก็เพราะต้องการธรรมะของพระพุทธองค์ ตามแนวทางปฎิบัติของหลวงปู่เทพโลกอุดรที่ผ่านทางอาจารย์บุญหนา

    ทุกสรรพวิชชา ล้วนต้องการหลุดพ้นจากวัฎฎสงสารด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น แต่มีแนวทางปฎิบัติที่แตกต่างกันออกไป ถ้าไม่ไปเรียนรู้ก็จะตอบปัญหาข้อข้องใจเขาไม่ได้ ดังนั้นจึงเป็นการเรียนเพื่อให้รู้แต่ไม่ไปเกาะไปยึดติด.........

    งั้นจะตอบเขาได้หรือว่า แนวทางปฎิบัติเพื่อการหลุดพ้นของเขากะลา เป็นแนวทางที่ตรงและสั้นที่สุด ที่ทุกคนสามารถนำไปปฎิบัติได้จริง
     
  15. juksawat

    juksawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    980
    ค่าพลัง:
    +3,507
    อาจารย์บุญน้อยบอกว่า ของที่แจกคำรบสองนี่ มีค่ามากกว่าของที่แจกคำรบแรกเสียอีก คำรบแรกเป็นการแจกวัตถุธาตุหรือธาตุกายสิทธิ์ต่างๆ และได้แจกจ่ายให้กับชุดที่กลับพร้อมป้าศจีไปหมดแล้ว ส่วนของแจกคำรบสองเป็นธรรมะของพระพุทธองค์ล้วนๆ และแนวทางปฎิบัติเพื่อการหลุดพ้นของหลวงปู่เทพโลกอุดร อาจารย์บุญหนาบอกว่า น้อยคนนักที่จะเข้ามาสนทนาในเรื่องแนวทางการปฎิบัติธรรมกับท่าน ส่วนใหญ่จะเข้ามาเปฎิบัติธรรมกับท่านพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุธาตุหรือธาตุกายสิทธิ์ บ้างก็เข้ามาเพื่อต้องการพบหลวงปู่เทพโลกอุดร การสนทนาเป็นไปอย่างเข้มข้นตลอด 4 ชั่วโมงเต็มๆ...
     
  16. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451

    ขออนุโมทนา กับข้อความด้านบนของอาจารย์ MOUNTAIN ค่ะ

    เป็นการมองด้วยความเข้าใจในกลไกของธรรมชาติ


    การมองทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้

    หากมองด้วยอวิชชา คือความไม่รู้จริง
    - จะเห็นว่าทุกสรรพสิ่ง ทุกสรรพวิชา จะมีความสำคัญทั้งหมด น่าอยากได้ใคร่ดี น่าเอา น่าเป็นไปเสียทั้งหมด ทุกศาสตร์ ทุกสิ่ง ทุกอิทธิปาฏิหาริย์มีความน่าสนใจ น่าค้นคว้า น่าจะหาเอามาเพื่อประดับอัตตาทั้งสิ้น เท่าไรก็ไม่พอ

    หากมองด้วยวิชชา ด้วยปัญญาไตร่ตรองตามคำสอนของพระพุทธองค์แล้ว จึงจะมองเห็นความเป็นเช่นนั้นเองของทุกสรรพสิ่ง มันเป็นของมันอย่างนั้นเองมานานแล้ว มันมีทุกอย่างอยู่ในกลไกของธรรมชาติ ฤทธิ์เดช อิทธิปาฏิหาริย์ มันมีมาเนิ่นนานควบคู่มากับจักรวาลทั้งปวง มิใช่ของใหม่ใด ๆ ผู้ที่มีความเข้าใจ ปฏิบัติถึงกลไกของธรรมชาติ ก็ย่อมเกิดฤทธิ์เดช เกิดอิทธิปาฏิหาริย์ขึ้นได้เสมอ ตั้งแต่ครั้งโบราณมาแล้ว ฤาษี พราหมณ์ นักพรต เก่งกว่า ปาฏิหาริย์กว่า อิทธิฤทธิ์มากกว่าเรา ๆ ผู้มาทีหลังทั้งสิ้น

    แต่ก็ยังต้องเวียนเกิด เวียนตาย อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

    ทุกอย่างมีได้ เป็นได้ แต่ยังต้องเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏสงสาร อีกเนิ่นนานเหลือเกิน

    แต่ผู้รู้ ผู้เห็นด้วยปัญญา ท่านจึงไม่สรรเสริญ ถึงมี ถึงได้ ท่านก็ไม่ยินดี ท่านมุ่งหวังที่จะออกจากวัฏฏสงสาร เข้าสู่ความเป็นผู้ไม่ต้องมาเวียนว่ายในสังสารวัฏอีกเท่านั้น

    ทุกสิ่งมีได้ และเคยมี เคยได้กันมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าฤทธิ์เดชใด ๆ มีมากันแล้วทั้งนั้นในภพชาติเอนกอนันต์ที่ผ่าน ๆ มา เรื่องอื่น ๆ เป็นเรื่องเก่า เรื่องเดิม ๆ เรื่องที่เคยมี เคยเป็นมาก่อนทั้งสิ้น จึงยังต้องมาเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่อย่างนี้

    แต่การหลุดพ้น การบรรลุธรรม เป็นเรื่องใหม่ ยังไม่เคยทำได้มาก่อน การเบาบาง การละวางจากอุปาทานขันธ์ห้า ยังไม่เคยจางคลายได้จริง

    นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องใหม่ ที่ควรจะต้องมาใส่ใจศึกษาให้รู้แจ้งเห็นจริง แล้วควรทำให้ได้ในชาติปัจจุบันนี้ .....

    จะได้ไม่ต้องเกิดมา เพื่อศึกษาขันธ์ห้ากันอีก.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2009
  17. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451

    ขออนุโมทนากับอาจารย์จักษวัชร์ด้วยค่ะ ในการเดินทางไปศึกษาธรรมในครั้งนี้

    การมองเห็นความเป็นจริงของทุกสรรพสิ่งในธรรมชาติ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะเป็นแนวทางในการปล่อยวาง จางคลาย ไม่หลงยึดในสิ่งที่จะมาพอกพูนให้เกิดอัตตาตัวตนมากขึ้น

    สิ่งที่เป็นวิชชา ที่สอนอย่างถูกต้องตรง ไม่เบี่ยงซ้าย เบี่ยงขวา วนไปวนมานั้น ก็ต้องเทียบเคียงได้ในหลักของแก่นพุทธศาสนาเท่านั้น

    อนิจจัง

    ทุกขัง

    อนัตตา

    ถ้ายังมีการนำมาเพื่อสนองให้เกิดอัตตา ส่งเสริมขันธ์ห้าให้เป็นตัวตนของตนมากขึ้นแล้ว นั่นมิใช่ทางที่ควรจะเดิน

    สิ่งที่เป็นเปลือก เป็นกระพี้ เป็นกิ่ง เป็นใบ ศึกษาให้เข้าใจแล้ววางไว้ที่เดิม

    ขอให้คัดสรรเอาแต่ธรรมะที่เป็นแก่นกลับมา จะได้จบการศึกษาเสียที

    ขออนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  18. juksawat

    juksawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    980
    ค่าพลัง:
    +3,507
    ต้องขอขอบคุณ อ.สุดใจ เป็นอย่างสูงที่เฝ้าเพียรพยายามอบรม สั่งสอนและชี้แนะแนวทางก้าวเดินที่ถูกต้อง ด้วยการขยายระบบอย่างเข้มข้นโดยไม่ย่อท้อ ให้กับผมผู้ซึ่งมีปัญญาอันโง่เขลาและหลงเดินทางผิดมาหลายร้อยหลายแสนพันล้านชาติ เพื่อแสงหาหนทางแห่งการหลุดพ้น.....

    โดยปกติผมเป็นคนไม่ค่อยจะเชื่ออะไรง่ายๆ เพราะได้รับการอบรมสั่งสอนและศึกษามาในแนววิทยาศาสตร์ จนกว่าจะสามารถพิสูจน์ได้จริงดังจะเห็นได้จากการขยายระบบทุกครั้ง ผมจะเป็นคนที่สอบถามมากที่สุดและจะสอบถามทุกแง่ทุกมุมของการปฎิบัติ เพื่อให้มีเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง และเมื่อสิ้นความสงสัยเมื่อไรแล้วผมถึงจะเชื่อ .....

    บัดนี้ ผมเชื่อแล้วว่า แนวทางก้าวเดินที่ อ.สุดใจชี้แนะ เป็นแนวทางก้าวเดินที่ถูกต้อง ตรง และสั้นมากที่สุด ที่พวกเราทุกคนสามารถนำไปปฎิบัติได้จริง เพื่อความหลุดพ้นจากวัฎฎสงสารอย่างไม่มีข้อสงสัยเลยแม้แต่น้อย

    สุดท้ายต้องขอขอบคุณผู้อาวุโสทุกท่าน ขอขอบคุณ อ.นีโม่ และเพื่อนๆทุกคน ที่ช่วยชี้แนะและเป็นกำลังใจให้มาโดยตลอด จนทำให้มีวันนี้ ......
     
  19. juksawat

    juksawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    980
    ค่าพลัง:
    +3,507
    ส่วนหนึ่งของการสนทนากับอาจารย์บุญหนา

    อ.บุญน้อย : เมื่อคืนวันที่ 14 ท่านออกมาดูกับเขาหรือเปล่า
    อ.บุญหนา : ออกมาดูครั้งเดียว
    อ.บุญน้อย : ท่านว่าเป็นจานบินหรือเครื่องบิน
    อ.บุญหนา : จานบิน
    อ.บุญน้อย : ท่านเชื่อได้อย่างไรว่าเป็นจานบิน
    อ.บุญหนา : บินระยะต่ำและกระพริบไฟไม่เหมือนกัน มันไม่เป็นจังหวะ

    ท่านมีความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวและยังถามกลับว่า กลุ่มเขากะลาทำไมถึงติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว ผมบอกกับท่านว่า กลุ่มเขากะลามีภารกิจช่วยเหลือมนุษย์ต่างดาวในการเตือนภัยให้กับเพื่อนมนุษย์เช่นเดียวกับท่าน นอกจากนี้ยังให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในด้านต่างๆอีกด้วย แต่คนที่จะทำงานกับมนุษย์ต่างดาวได้นั้น จำเป็นจะต้องมีสภาวะจิตที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ต่าวดาวจึงจะติดต่อสื่อสารกันได้
     
  20. juksawat

    juksawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    980
    ค่าพลัง:
    +3,507
    อาจารย์บุญหนาบอกว่า ท่านออกมาพูดเตือนเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับโลกมาโดยตลอด แต่ไม่มีคนเชื่อ และยังกลาวหาว่าแกเป็นบ้า ผมก็บอกกับแกว่า ถ้าผมพูดว่ามนุษย์ต่างดาวก็ออกมาเตือนภัยพิบัติเหมือนกับท่าน เขาก็หาว่าผมบ้าเหมือนกับท่านอีก.....เอาละซี มาฟังคนบ้ากับคนบ้าคุยกันต่อดีกว่า

    อ.บุญหนา : การปฎิบัติของเขากะลาเป็นแนวไหน
    อ.บุญน้อย : ลด ละ เลิก และปล่อยวาง ไม่ยึดติดในอุปทานขันธุ์ 5
    อ.บุญหนา : ลูกสาวจ่าเชิดที่ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว จะติดต่อให้จานบินมาลงจอดได้หรือไม่
    อ.บุญน้อย : อาจารย์ก็ติดต่อได้นี่ ลองกำหนดจิตคุยกับมนุษย์ต่างดาวดูซี
    อ.บุญหนา : ถ้าจะให้จานบินมาลงจอดที่นี่พืชผลจะเสียหายไหม
    อ.บุญน้อย : ก็คงจะเสียหายบ้าง แต่ที่สำคัญชาวบ้านจะแตกตื่นกันใหญ่
    อ.บุญหนา : แล้วที่เขากะลา จานบินลงจอดหรือเปล่า
    อ.บุญน้อย : ที่เขากะลา เป็นกองบัญชาการ มีจานบินลงจอดหลายลำ แต่ไม่ได้ลงจอดบนพื้นโลก จะลงจอดใต้พื้นโลกเสียมากกว่า

    ดูท่านจะให้ความสนใจในภารกิจของเรามาก เพราะภารกิจของเขากะลา มิใช่เตือนภัยเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการช่วยเหลือตั้งแต่ก่อนที่ภัยจะเกิด และช่วยเหลือผู้ประสบภัยระหว่างภัยกำลังเกิด ตลอดจนช่วยเหลือและฟื้นฟูทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจแก่ผู้ประสบภัย ภายหลังการเกิดภัย......
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...