หมดแล้ว ขอเชิญร่วมสร้างบุญมหากุศล เปิดจองวัตถุมงคลหลวงพ่อหนุน รุ่น"สร้างโบสถ์ วัดพุทธโมกข์"

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย rs83, 16 กันยายน 2013.

  1. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
     
  2. อั๋นวัดสาม

    อั๋นวัดสาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    4,259
    ค่าพลัง:
    +9,022
    ๔.๒พิมพ์พระ หลวงปู่ทวด
    (สีน้ำตาล ๑,๑๒๙ องค์)
    จำนวนสร้าง๑๒๙ องค์ ฝังตะกรุด ๓ ดอก ราคา ๒๐๐ บาท
    จำนวนสร้าง๑๐๐๐ องค์ จีวรหลวงพ่อหนุน ราคา ๕๐ บาท
    (สีดำ ๑,๑๒๙ องค์)
    จำนวนสร้าง๑๒๙ องค์ ฝังตะกรุด ๓ ดอก ราคา ๒๐๐ บาท
    จำนวนสร้าง๑๐๐๐ องค์ จีวร หลวงพ่อหนุน ราคา ๕๐ บาท


    จองอย่างละ1องค์ครับ
     
  3. THATCHAKON

    THATCHAKON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,248
    ค่าพลัง:
    +3,250
    ก่อนโอนเงินงวดแรก ของจองเพิ่มดังนี้ครับ
    เพิ่มจองประคำนเรศวรปราบหงสา

    ประคำข้อมือ เนื้อชนวนโลหะ(ตามจอง) ราคา ๑,๕๐๐ บาท จำนวน 1 เส้น
    ประคำข้อมือ เนื้อผง( ๕๐๐ เส้น) ราคา ๔๐๐ บาท จำนวน 1 เส้น
     
  4. ศิริยะ

    ศิริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +2,760
    ลำดับที่ 37 ขอเพิ่มรายการดังนี้

    พระผู้ทรงปราบมาร เนื้อนวะโลหะ 1 องค์ ครับ :cool:
     
  5. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380
    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  6. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380

    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  7. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380

    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  8. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  9. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380
    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  10. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380

    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  11. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    หลวงพ่อหนุน ได้เล่าให้พระอาจารย์สมบูรณ์ฟังว่า พิธีพุทธาภิเษกมีดฟ้าฟื้นนี้ ท่านทำให้แบบสุดๆอย่างที่ไม่เคยทำครั้งไหนมาก่อน เป็นวัตถุมงคลที่ หลวงพ่อท่านนำติดย่ามเสมอ และเดี๋ยวนี้ ของฝ่ายต่ำถูกปล่อยออกมามาก ผีต่างๆ ถูกปลดปล่อยเข้าสู่เมือง เยอะมาก แม้กระทั่งวัดสำคัญ ก็มีพวกนี้แฝงอยู่ และปล่อยคุณไสยมาทำร้าย จนต้องนิมนต์หลวงพ่อหนุน ไปทำพิธิถอนและขับไล่สิ่งชั่วร้าย เมื่อหลายวันก่อนพี่ชายที่เคารพมีโอกาสได้กราบครูบา แก้ว วัดพระธาตุตุงคำ ที่พม่า ท่านลงมางานครูบาน้อย ที่นครสวรรค์ เขาเข้าไปกราบ พอเงยหน้ามองท่าน ท่านก้บอกเลยว่า ต่อไปนี้ให้ระวัง ผีป่ามันเข้ามาในเมืองกันมาก ก่อให้เกิดโรคระบาด มันเข้าสิงใจคนให้ต้องมารบราฆ่าฟันกัน ต่อไปภายภาคหน้าน้ำจะท่วมหนัก หนักกว่าปีที่แล้วอีก และจะเกิดจราจลในเมือง เมื่อฆ่ากันแล้วจะเกิดภัยธรรมชาติเข้าโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง คนจะตายกันมาก แผ่นดินจะไหว
    สมควรจะมีของที่มีความศักดิ์สิทธิ์คู่กายกันบ้างก็ดีครับ
    นำชนวนมีดฟ้าฟืนและพระขรรค์มาใส่ในวัตถุมงคลรุ่น สร้างโบสถ์ ด้วยครับ
     
  13. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ส่วนท่านปู่ฤาษีลัดดาบส ดังมากในภาคเหนือมีเท่าไรก็ไม่พอ มีคนนำไปแขวนอธิฐานขอให้ขายที่ได้ ก้ขายได้จริงและราคาดี บางท่านมีอุปสรรคขัดข้องไม่โปร่งทำอะไรก้ติดขัด ขอบารมีท่านปู่่ฤาษีลัดดาบสไปแขวน ปัญาต่างๆแก้ไขได้และปลอดโปร่งทำกิจการรุ่งแรืองขึ้นมาทันตาเห็น หลวงพ่อบอกว่า ที่ใดเขาว่าแรงๆผีดุ อัญเชิญท่านปู่ไปด้วยไม่ต้องกังวลครับ ท่านรองรับด้วยองค์เองว่าป้องกันและแก้ไขได้ ส่วนสมเด็จองค์ปฐมชุดนี้ที่แถม อิทธิฤทธิ์นำหน้า แรงกล้า พลังรุ่นแรงมาก ท่านปู่โมคคัลลานะก็มีฤทธิ์เยอะอธิฐานขอบารมีท่านช่วยได้รวดเร็วครับ.......
    ชนวนพระฤาษีลัดดาบสและพระโมคคัลลานะก็นำมาหลอมรวมกับรุ่น สร้างโบสถ์ ด้วยครับ
     
  14. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ชุดฟ้าฟื้นนี้ได้รับการอธิฐานจิตจากหลวงพ่อหนุน จำนวน สามวาระ ด้วยกัน วาระแรก หลวงพ่อเป็นประธานเททองหล่อพระโมคคัลลานะ พระฤาษีลัดดาบส ใบมีดฟ้าฟื้น พระขรรค์ ท่านอธิฐานจิตตลอดพิธีจนหล่อเสร็จทั้งหมด

    จากนั้นนำไปขอปู่กลาง อธิฐานจิตเป็นพิเศษ
    นำเข้าพิธีปลุกเสกก่อนวันงานพิธีใหญ่ โดยหลวงพ่อหนุน ท่านก็รับรองว่าดีแล้วออกให้บูชาได้เลย จากนั้นเข้าพิธีใหญ่ ปลุกเษกกันทั้งคืน จนถึงเช้า มีคนเห็นแสงพุ่งลงมาที่หลวงพ่อ พุ่งสู่วัตถุมงคล เข้า ออก ตลอดทั้งคืน ท่านบอกว่า ท่านทำให้แบบสุดๆอย่างไม่เคยมีมาก่อน
    ชนวนมีดฟ้าฟืนและพระขรรค์
     
  15. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    เอาประสบการณ์ของโยมมาให้อ่านกันครับ
    ผมก็เอาจารลงบนหัวผมเองเหมือนกับครับ เจ็บคอ ทอลซิลอักเสบหมอจ่ายยามา 7 วันทานครบแล้วอาการไม่ดีขึ้น ผมเลยเอามีดฟ้าฟื้นขึ้นมาอาราธนาบารมีพระ พรหม เทวดา และครูบาอาจารย์ แล้วเอามีดลงบนกระหม่อมว่าคาถา ทุกขาทุกขัง ปฏิฐิตัง สัมปติฉามิ แล้วขอให้อาการเจ็บคอหาย พอตื่นเช้ามาอาการเจ็บคอหายไปประมาณ 90 %
     
  16. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    --------------------------------------------------------------------------------

    เอาประสบการณ์ของโยมมาให้อ่านกันครับ(ตอนทำมีดสายฟ้าฟืน เสร็จใหม่ๆ)
    วันนี้พระอาจารย์ไปที่สำนักแม่ชีประทุม ซึ่งได้ถวายมีดฟ้าฟื้นให้คุณแม่อี๊ดไว้หลายเล่ม คุณแม่ได้ตั้งราคาไว้ เล่มใหญ่ 10000 บาท เล่มเล็ก 5000 บาท มีผู้บูชาไปหลายท่าน หลวงพ่อกอไผ่ ท่านมาที่สำนักแม่ชี ได้สอบถามว่ามีดอะไร พอจับขึ้นมา ท่านยกขึ้นเหนือหัวแล้วนำมีดจารย์บนหัวท่านเอง เช่นเดียวกับครูบาน้อย วัดโป่งสวรรค์ ท่านจับปั๊บก็ยกขึ้นเหนือหัวและจารย์บนหัวเหมือนกัน อีกท่านหนึ่งจับแล้วสั่นไปทั้งตัว
     
  17. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    มีผู้เห็นเหตุการณ์ในขณะที่หลวงพ่อหนุนอธิฐานจิต คือมีแสงสว่างพุ่งลงมาที่พิธี เข้า-ออก ตลอด
    ผ้ายันต์นั้น มีผู้บอกผมเมื่อคืนว่า แก้ปีชงได้ กันสิ่งไม่ดี แถมเป็นมหาลาภเรียกลาภได้ ที่ใดที่แรงนำไปติดไว้แก้ได้ครับ
    ส่วนตัวครับ ตอนเห็นผ้ายันต์ โดนมาก ชอบอะ
    ปล. ตอนผมจับมีดและพระขรรค์ครั้งแรก (แกะกล่อง) ขนผมลุกไปทั้งตัวครับ เป็นมีดและพระขรรค์ชิ้นแรกในชีวิตครับ ก่อนหน้านี้จะได้ก็ไม่ได้ จะเอาก็ไม่เอา สงสัยคงรอชุดนี้นี่เอง...
    ทางศิษย์หลวงพ่อได้นำไปตรวจอิทธิคุณในวัตถุมงคลชุดนี้ บอกตรงกันว่าแรงมาก หลวงพ่อท่านบอกว่า ท่านลงให้เต็มที่ มากกว่าครั้งไหนๆ ที่เคยทำมาเลยทีเดียว
    กล่องแรกที่ผมได้รับคือกล่องพระขรรค์ 19 นิ้ว ภายในมีพระขรรค์ปากกา มีดและอื่น ๆ ที่ส่งกลับมาถึงผม ผมนำมาวางไว้ที่โต๊ะข้างหัวนอนในคืนแรกเลยที่ผมได้รับ คืนนั้นผมฝันถึงมีผู้มีคุณวิเศษที่ส่งพลังงานอย่างหนึ่งตรงเข้าสมองด้านหลังของผม ทำให้จิตใจเงียบสงบสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เรื่องนี้ผมเล่าให้คุณอจินไตยฟังแล้ว คุณอจินไตยบอกว่า วันหนึ่งคงได้ทราบว่า ผู้มีคุณวิเศษนั้นคือใคร

    อีกวันสองวันต่อมา ผมได้รับกล่องพัสดุ ภายในมีพระขรรค์และมีด 9 นิ้ว ผมนำมาไว้โต๊ะข้างเตียงทุกคืน จากที่ผมไม่เคยสวดมนต์เย็นเลยตลอดชีวิต ( ยกเว้นช่วงที่ผมเคยบวช ) ผมเริ่มอยากสวดมนต์เย็นก่อนนอน และผมสวดมนต์โดยการอ่านหนังสือสวดมนต์เย็นได้จบเล่มได้ยังไงไม่ทราบ หนังสือสวดมนต์ที่ผมพิมพ์กับวัดแทนวันดีหนาถึง 140 หน้า และสวดต่อเนื่องมาหลายคืนแล้ว

    นับว่าของดีและแรงมากที่สุดเท่าที่ผมเคยได้รับมาในชีวิตครับ ขอโมทนาทั้งหมดทั้งมวลด้วยครับ
    ผมก็เช่นกันครับตอนรับครั้งแรกจัดไปก็รู้ว่ามีมีดและพระขรรค์ 2 ด้ามพร้อมอีกทั้งของสมนาคุณเต็มที่เหมือนเดิม..ตอนเย็นหลังจากอาบน้ำและชำระร่างกายแล้วสวดมนต์...ได้เหมือนเดิม...และบางครั้งที่จับก็เหมือนกับปราณวิ่งผ่านมือเหมือนไฟช๊อตเล็กน้อย....
    สุดยอดไปเลยครับคุณพี่
    ได้รับพระ มีดและพระขรรค์ ครบเรียบร้อย สวยงามมากครับ ของเขาแรงจริงๆ^_^
    ได้รับพระขรรค์และรายการอื่นครบทั้ง 3 ชุดครับ แกะดูกล่องเดียวก่อน พอจับพระขรรค์และมีดขนลุกหมดเลยครับ ขอบคุณมากๆครับ...
    คงจะถึงหลักแสนในอีกไม่กี่ปีแน่ๆ....
    มีดฟ้าฟื้น พระขรรค์ไชยศรีปราบไพรีพินาศ พระโมคคัลลานะ พระฤาษีลัดดาบส ผ้ายันต์สมเด็จองค์ปฐม
    วัตถุประสงค์ ในการจัดทำวัตถุมงคล
    เพื่อหาปัจจัยถวายวัดพุทธโมกข์ เช่นงานระบบไฟฟ้า ชำระหนี้สงฆ์ มุงหลังคาศาลา
    เพื่อเป็นการบูชาคุณครูบาอาจารย์ มีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์สาวก
    เพื่อสร้างเสริมกำลังใจในการดำรงค์ชีวิตด้วยความไม่ประมาท มีพระเป็นเครื่องระลึก
    เพื่อป้องกันภัยจาก มนุษย์ อมนุษย์ คุณไสยสาสตร์ต่าง ภัยต่างๆ

    ชนวนโลหะที่สำคัญ ในใบมีด พระขรรค์ และพระโมคคัลลานะ พระฤาษีลัดดาบส

    1. ชนวนสมเด็จองค์ปฐมสำนักสงฆ์ถ้ำเอราวัณ ในชนวนจะประกอบไปด้วย
    1. พระกริ่งสายรกพุทธเจ้าของหลวงปู่ญาท่านสวน 4. ตะกรุดโภคทรัพย์หลวงปู่ญาท่านสวน
    2. เม็ดประคำเชียงรุ้งหลวงปู่ญาท่านสวน 5. ตะกรุดไก่แก้วหลวงปู่ญาท่านสวน
    3. แหวนปลอกมีดชนวนสายฟ้าหลวงปู่ญาท่านสวน 6. แผ่นจารยันต์ต่างๆหลวงปู่ญาท่านสวน 14 แผ่น
    2 ชนวนพระปัจเจกพุทธเจ้าถ้ำเอราวัณ ในชนวนจะประกอบไปด้วย
    1. แผ่นจารสมเด็จพระสังฆราช 26. แผ่นจารพระอาจารย์สมปอง ข้างๆท่าซุง
    2. แผ่นจารครูบาดวงดี วัดท่าจำปี 27. แผ่นจารหลวงพ่อวิชชา ตากฟ้า
    3. แผ่นจารครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล 28. แผ่นจารพระอาจารย์ชัยวัฒน์ วัดท่าซุง
    4. แผ่นจารครูบาพรชัย วัดพระพุทธบาทสี่รอย 29. แผ่นจารพระอาจารย์เดชา สมาหโต เขาชะเมา
    5. แผ่นจารครูบาวิทูรย์ วัดวังมุย 30. แผ่นจารพระอาจารย์สมบัติ ถ้ำเอราวัณ
    6. แผ่นจารหลวงปู่ทองดี วัดใหม่ปลายห้วย 31. แผ่นจารแม่ชีเพียงเดือน
    7. แผ่นจารหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ 32. แผ่นจารหลวงปู่ถม วัดเชิงท่า
    8. แผ่นจารหลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนเกด 33. แผ่นจารหลวงพ่อสายทอง วัดป่าห้วยกุ่ม
    9. แผ่นจารพระอาจารย์ทูล วัดป่าบ้านค้อ 34. แผ่นจารหลวงพ่อกาย เขมร
    10. แผ่นจารหลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมยาน 35. แผ่นจารหลวงพ่อหมึก
    11. แผ่นจารหลวงตาแตงอ่อน วัดป่าโชดไพศาล 36. แผ่นจารหลวงปู่เฉลียว วัดถ้ำพระธาตุ
    12. แผ่นจารหลวงปู่บุญพิณ วัดผาเทพนิมิต 37. แผ่นจารหลวงพ่อวิรัช วัดป่าพรหมยาน
    13. แผ่นจารหลวงปู่ขาว วัดป่าคูณคำ 38. แผ่นจารหลวงป่ต้นบุญ ร้อยเอ็ด
    14. แผ่นจารหลวงพ่อหนุน วัดป่าพุทธโมกข์ 39. แผ่นจารหลวงปู่กุหลาบ วัดถ้ำบ่อทอง
    15. แผ่นจารพระอาจารย์ชาตร๊ วัดป่าโสภน 40. แผ่นจารหลวงปู่แฟ๊บ วัดป่าดงหวาย
    16. แผ่นจารหลวงปู่สรวง วัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ 41. แผ่นจารหลวงปู่วิไล วัดถ้ำช้างเผือก
    17. แผ่นจารหลวงพ่อฟัก วัดเขาวงพระจันทร์ 42. แผ่นจารหลวงพ่อทรงพล กาญ
    18. แผ่นจารหลวงพ่อใส วัดเขาตำบล 43. แผ่นจารครูบาเณร วัดราชสิทธ
    19. แผ่นจารหลวงปูเรือง วัดเขาสามยอด 44. แผ่นจารหลวงปู่ขัน ลพบุรี
    20. แผ่นจารหลวงปู่ขาว วัดเขาตะกล้าทอง 45. แผ่นจารหลวงพ่อสารัน วัดดงน้อย
    21. แผ่นจารหลวงพ่อเสงี่ยม วัดป่าสันติธรรม 46. แผ่นจารหลวงป่เภา วัดป่าบ้านตาล
    22. แผ่นจารหลวงพ่อถังแดง สำนักสงฆ์สัจธรรม 47. แผ่นจารหลวงปู่นะ วัดหนองบัว
    23. แผ่นจารหลวงพ่อละม้าย วัดโคกกระเทียม 48. แผ่นจารหลวงปู่หงษ์ สุรินท์
    24. แผ่นจารหลวงพ่อจำรัส ลพบุรี 49. แผ่นจารครูบาวังน้ำเขียว สระแก้ว
    25. แผ่นจารหลวงปู่ละมัย สวนป่า 50. แผ่นอธิฐานแม่ชีพิมพา หนองคาย
    ชนวนเพิ่มเติม
    1.ชนวนสมเด้จองค์ปฐม วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ 2.ชนวนสมเด็จองค์ปฐม วัดพุทธโมกข์
    3. ชนวนพระกริ่งสิขีทศพลที่1 8. ชนวนแผ่นโลหะเข้าพิธีมานับไม่ถ้วน
    4. ชนวนพระกริ่งชินบัญชรเงินล้าน 9. ชนวนสมเด็จองค์ปฐม วัดป่าพุทธโมกข์
    5. ชนวนพระกริ่งจตุรพิธพรชัย 10. แผ่นจารหลวงพ่อเพี้ยน ลพบุรี
    6. ชนวนพระกริ่งปวเรศสิริวิชโย 11. แผ่นจารหลวงตาม้า วัดพุทธพรหมปัญโญ
    7. แหวนจักรพรรดิหลวงปู่ศรี มหาวีโร 12. แร่โคตรเศรษฐีแม่ชีประทุม
    13. แผ่นจารพระอาจารย์มหาสิทธิ์ หรือหลวงพ่อหม่อมอยู่อ่างทอง-สิงห์บุรี ทำตะกรุดแจกทหารไปเขมรเหยีบกับระเบิด 3 ครั้งไม่ระเบิด
    14. แผ่นจารพระอาจารย์กัณหา วัดนาเรียง บ้านแพง นครพนม ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่คำสิงห์ ภูวัว พระอาจารย์กัณหาท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆจากหลวงปู่
    คำสิงห์ เกือบหมดทั้งอย่าง ท่านสำเร็จธาตุ 4 ประคำของท่านจากธาตุหนึ่งแปรเป็นอีกธาตุหนึ่งสุดท้ายจะกลายเป็นแก้วหรือเพชรท่านบอกและยกให้ดู ธรรมมะท่านก็ไม่ธรรมดา
    15. แผ่นอธิฐานจิตของพระอาจารย์สมควร อยู่พังขว้าง สกลนคร ท่านเป็นพระปฏิบัติพระนักเทศน์ เกษาของท่านจับกันเป็นก้อนกลม
    16. แผ่นจารหลวงปู่สมดา วัดภูดานฮัง พังขว้าง สกลนคร เป็นพระปฏิบัติเสกของขลังปืนยิงไม่ออก เป็นพระที่หลวงปู่เณรคำนิมนมางานพุทธาภิเษก
    17. หลวงปู่ถังแดง อยู่พัฒนานิคม ลพบุรี เป็นพระที่มีเมตตาสูงมากๆๆเลยสำนักของท่านจะมีพวกสัตว์ต่างๆมากเป็นร้อยๆตัว ตั้งแต่วัว ควายหมูหมา ท่านจะอธิฐานไม่ขึ้นรถ

    จะเดินอย่างเดียว ลูกศิษย์ท่านเล่าว่าท่านไปเยี่ยมลูกศิษย์ที่โรงพยาบาลท่านเดินทะลุกำแพงเข้าไปเลยยังเรื่องแปลกๆ เกี่ยวกับอีกมาก อาจารย์ของท่านเป็นแม่ชีแต่ได้บรรลุ
    ธรรมขั้นสูงกระดูกเป็นพระธาตุ
    18. แผ่นจารหลวงปู่ดี วัดสร้างแก้วเหนือหรือใต้จำไม่ได้ เป็นพระปฏิบัติดีเมืองอุบลรูปหนึ่งในงานพุทธาภิเศกจะต้องมีท่านอยู่ด้วยเสมอ ท่านจารแผ่นให้ตั้งแต่ 4 พ.ย 51
    19. แผ่นจารหลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู องค์นี้หลวงปูเกลี้ยงวัดโนนเกดท่านเรียกฤาษีแห่งพิบูลมังสาหาร ท่านเป็นพระที่มีเมตตามากๆ พูดแต่น้อย พูดเสียงเบาๆเป็นศิษย์สาย
    สมเด็จลุนสายนี้แต่ละองค์ล้วนแต่สุดยอดทั้งนั้น
    20. ชนวนหล่อพระวัดสะแก ของหลวงปู่ดู่
    21. แผ่นจารหลวงปู่น้อย วัดป่าหินกอง
    22. ชนวนผงตะไบสมเด็จองค์ปฐมยอดธงพิธี เสาร์๕ ปี๒๕๕๓ วัดท่าซุง หลวงพี่สมมาศ คุณาธิโก พระอาจารย์ติ่งลี่ท่านถวายมาร่วมด้วย ในชนวนมวลสารยอดธง
    สมเด็จองค์ปฐมนี้มีมวลสารหลักเป็นชนวนสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่วัดท่าซุง เข้าพิธีพุทธาภิเษกเสาร์ ๕ ปี ๕๓ วัดท่าซุงพิธีเดียวกับสมเด็จองค์ปฐม รุ่น ๔ วัดท่าซุง
    พระยอดธงสมเด็จองค์ปฐมได้นำไปแจกทหารทางภาคใต้และก็มีประสบการณ์ช่วยชีวิตมาหลายแล้ว
    23. ชนวนมวลสารพระเหนือโลกของท่านพระอาจารย์จ่อย สิริคุตโต ศิษย์เอกหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ท่านเป็นลูกบุญธรรมของหลวงปู่ละมัยด้วย เป็นร่วมๆมวลสารต่าง ๆ
    ที่ท่านสร้างถวายครูบาอาจารย์
    24. ชนวนมวลสารที่สำคัญมาก ชนวน สมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่วัดท่าซุงที่หลวงพ่อฤาษีท่านเททองเอง แม่จำเนียนโรงหล่อพระปฐมถวายมาร่วม
    25. ชนวนหล่อพระต่างๆของหลวงพี่เอก วัดเขาแร่ 41. ชนวนหลวงปู่ทอง โสณัตโร วัดจักรวรรดิ
    26. ชนวนสมเด็จเกี่ยว 42. ชนวนพระพุทธวรญาณ วัดประยูรวงศ์
    27. ชนวนสมเด็จสมเด็จมหาธีราจารวัดชนะสงคราม 43. ชนวนหลวงปู่กอง จันทวังโส วัดสระมณฑล
    28. ชนวนครูบาอิน อินโทวัดฟ้าหรั่ง 44. ชนวนหลวงปู่หวล ภูริภัทโธ วัดพุทธไธยสวรรค์
    29. ชนวนหลวงปู่นนท์ วราโภ วัดเหนือวน 45. ชนวนหลวงพ่อสุทัศน์ โกสโร วัดกระโจมทอง
    30. ชนวนหลวงปู่ทิม อัตตสันโต วัดพระขาว 46. ชนวนเจ้าคุณไวยท์ วัดพนันเชิง
    31. ชนวนหลวงปู่โส กัสสโป วัดป่าหนองคำแคน 47. ชนวนหลวงปู่พวง สังวีโร วัดป่าปูลูสันติพัฒนา
    32. ชนวนครูบาอินตา ธนักขันโธ วัดวังทอง 48. ชนวนพระกริ่งจักรพรรดิ์ หลวงปู่เผือก ฐิตเมโธ วัดไชสถาณ
    33. ชนวนครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 49. ชนวนพระกริ่งไจยเบงชร ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหรั่ง
    34. ชนวนครูบาจันทร์แก้ว คันธสีโล วัดศรีสว่าง 50. ชนวนพระกริ่งพระราชวิทยาคม หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
    35. ชนวนหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย 51. ชนวนพระกริ่งฉลองอายุ๗ รอบ หลวงปู่ รอด ฐิตวิริโย วัดสันติกาวาส
    36. ชนวนหลวงตาม้า วิริยธโร วัดถ้ำเมืองนะ 52. ชนวนพระกริ่ง หลวงปู่นนท์ วราโภ วัดเหนือวน
    37. ชนวนครูบาตั่น ปัญโญ สำนักสงฆ์ม่อนปู่อิน 53. ชนวนหล่อสมเด็จองค์ปฐมเงิน วัดพุทธไธยสวรรค์
    38. ชนวนพระอาจารยืเปลี่ยน ปัญญาปทีโป 54. ชนวนพระกริ่งนเรศวร รุ่นบูชาคุณแผ่น ปี 2549 หลวงตาม้า
    39. ชนวนหลวงปู่พูล อัตตรักโข วัดไผ่ล้อม 55. ชนวนพระกริ่งเจ้าฟ้านเรศ ปี 2551 หลวงตาม้า
    40. ชนวนหลวงปู่เพิ่ม อัตตทีโป วัดป้อมแก้ว 56. พระขรรค์จักพรรดิ์ปราบมาร รุ่นแรก หลวงปู่ศรี มหาวีโร 3 เล่ม
    57. ชนวนพระกริ่งชินบัญชรเพชรกลับชุดนำฤกษ์ ในชนวนจะประกอบไปด้วย
    1. มีเหรียญหมุนเงินหมุนทองหลวงปู่หมุน 500 เหรียญ 2. ปรอทหลวงปู่ละมัยอธิฐานจิต
    3. ชนวนพระกริ่งหลวงปู่หมุนสายวัดป่าหนองหล่ม (กริ่งพระแก้ว กริ่งสัมฤทธิ์ผล กริ่งรวยทันใจ เนื้อเงินและเนื้อเหล็กน้ำพี้)
    4. เหรียญรุ่นแรกสายเหนือโลก หลวงปู่สรวง หลวงปู่ละมัย หลวงปู่ครูบาเที่ยงธรรม หลวงปู่ญาท่านสวน พระครูวิโรจน์(อุบล) หลวงปู่คำบุ หลวงปู่เกลี้ยง หลวงปู่สาย หลวงปู่บู่
    และอีกมากมายครับ
    5. เหรียญคณาจารย์ทั่วประเทศทุกสายหลายพันเหรียญ โลหะสำริดโบราณ พระกรุ โลหะทนสิทธิ์ต่างๆ ปรอดดำ ปรอดทะเล ปรอดป่า ปรอดใต้ธรณีอายุกว่าล้านปี ฆ้องเก่า
    ระฆังหลวงพ่อเอีย กังสะดาลโบราณ
    6. พระกริ่งหลายสาย ชนวนสายเหนือ ชนวนสายใต้ ชนวนสายอีสาน ชนวนภาคกลาง ชนวนสายตะวันออก มากครับ แผ่นยันต์จารจากพระมหาเถระอายุกว่า 100 ปี
    58. ได้รับชนวนมาอีกอย่างของคุณ มารุตพงษ์ ดอกแดง ได้มีเมตตาส่งมาร่วมเป็นลูกศิษย์สายหลวงตาม้าครับ มีทั้งชนวนโลหะ และ ผงอิฐพระสถูปเมืองหางที่บรรจุอัฐิของ
    สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าที่ หลวงตาม้าบอกว่ามีมวลของพลังมากมายไม่เชื่อลองจับพลังดูได้ท่านบอกกับลูกศิษย์ท่าน ผงพุทธคุณร่วมมากมายหลายชนิดเปลี่ยมไปด้วยคุณภาพ
    59 . แหวนเงิน กับกำไลเงิน ของหลวงพ่อเอียดวัดไผ่ล้อม คุณรับโชค ส่งมาเป็นชนวนร่วมด้วยครับ
    60. แท่งชนวนมหามงคล ที่หล่อหลอมจากเหรียญ - ตะกรุดของพระคณาจารย์ผู้ทรงวิชชา และ วิมุตติ และแผ่นจารอักขระยันต์ จากพระสุปฏิปันโนทั่วประเทศตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
    กว่า ๑,๒๕๐ รูป เช่น หลวงปู่แหวน สุจินโณ , หลวงปู่สิม พุทธาจาโร , หลวงพ่ออุตตมะ ฯลฯ แท่งชนวนมหามงคลโลหะของหลวงพี่เอก วัดเขาแร่ ท่านจารมาบนแท่งชนวนให้ด้วย
    เป็นแท่งชนวนที่ประกอบไปด้วยชนวนสร้างพระและวัตถุมงคลของวัดเขาแร่ทุกรุ่นรวมกันมีตราพระพุทธบาทอยู่บนแท่งชนวนด้วย
    61. แผ่นจารอักขระยันต์จากท่านพระอาจารย์ มีนา เตชะธัมโม ท่านมีเมตตาอย่างสูงที่จารให้ถึง 30 แผ่น 30 ชนิดของอักขระยันต์ต่างๆท่านมีส่วนที่สำคัญมากที่ช่วยสร้างวัตถุมงคล
    ให้กับ หลวงปู่ญาท่านสวน วัดนาอุดม อุบล หลายๆรุ่นด้วยกันใม่ว่าจะเป็นรุ่นกริ่งสายรก รุ่นพระชัยเชียงรุ้ง รุ่นกริ่งพระอุปคุตชนะมาร รุ่นพระกริ่งเพชรกลับ ยอดธงชัยนเรศวร ของหลวงปู่
    ญาท่านสวนและรุ่นอื่น ๆ อีก ท่านจะทำตามตำราโบราณตามที่ท่านได้ศึกษาจากครูบาอาจารย์ท่านเก่งครับองค์นี้พิบูลมังสาหาร อุบล

    แผ่นจารย์เพิ่มเติม
    1.ปู่กบหรือตาปะขาวเปลี้ยวัดป่าโนนอินแปลง ท่านถามว่าจะเอาแบบไหน ก็เลยบอกไปว่าเอาแบบที่ปู่ถนัดที่สุด ท่านก็เลยบอกว่าท่านถนัดทุกอย่าง ก็เอาทุกอย่างที่ดีที่สุด
    2.หลวงตาม้า องค์นี้ท่านสามารถเชิญพลังเหนือพลังได้
    3.ยันต์โบราณที่พบในองค์พระธาตุพนมหลวงปู่เณรคำท่านมีความศักดิ์สิทธ์มาก
    4.หลวงปู่บู่ พระผู้ที่เป็นธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเลยท่านเป็นพระผู้ใหญ่เก่งมาก
    5.ปู่พรหมภูวัว ผู้มีประวัติลึกลับ ผู้มีส่วนเกี่ยวเนื่องเมืองบาดาล ปู่เณรคำว่าท่านสำเร็จธาตุ
    6.หลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกข์ หลวงพ่อท่านเก่งจริงไม่ธรรมดาเลย
    7.หลวงปู่ขาว ภูอ่างสอ คมในฝัก หลวงปู่ญาท่านสวนท่านถ่ายทอดวิชาทำตะกรุดทองคำ สีผึ้งและอื่นๆ
    8.แผ่นอธิฐานจิตหลวงปู่ผาด วัดไร่
    9.หลวงปู่อิน วัดมงกฏ
    10.แผ่นอธิฐานหลวงปู่บุญฤทธิ์
    11.แผ่นทองจากเข้างานวัดท่าซุง เสาร์๕ ปี2553
    12.แผ่นจารหลวงปู่ผ่าน สกลนคร
    13.แผ่นยันต์พระเจ้าห้าพระองค์
    14.แผ่นจารปู่กลาง ผู้เป็นตำนาน เลยคำว่าเก่ง ไม่รู้จะใช้คำอะไรดี
    15.แผ่นจารหลวงพ่อวัฒ
    16.แผ่นจารหลวงพ่อกัณหา วัดนาเรียง
    17.แผ่นจารหลวงปู่ถังแดง ลพบุรี องค์เมตตาสูงมากๆ
    18.แผ่นจารหลวงปู่ดี อุบล มรณะภาพแล้ว เก่ง
    19.แผ่นจารหลวงพ่อเพี้ยน ลพบุรี
    20.หลวงปู่เณรคำ วัดป่าบ้านคำไฮ เก่งมีบารมีมาก
    21.หลวงปู่น้อย วัดป่าหินกอง อดีตชาติท่านเป็นมหาฤาษีแห่งภูเขาควาย
    22.หลวงปู่เสงี่ยม องค์นี้ตาท่านมองไม่เห็น แต่ตาในใสเหมือนแก้ว
    23.หลวงปุ่คำบุ ปู่เกลี้ยงวัดโนนเกดท่านเรียกว่าฤาษีพิบูลย์มังสาหาร เก่งและมีเมตตามาก
    24.หลวงปู่สมดา วัดภูดานฮัง สกลนคร เก่งเงียบ
    25.พระอาจารย์สมควร ท่านอยู่ไกล้ๆกับปู่บู่
    26.ชนวนหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมของแม่ชีประทุม
    27.มีดโบราณพบที่เขาพนมฉัตร ปู่พรหมให้มาร่วมหล่อ ท่านว่าเป็นพระขรรค์โบราณ
    28.ชนวนสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่ หลวงปูขาว แห่งภูอ่างสอ หล่อบนยอดเขา
    29.ชนวนสัมฤทธิ์โบราณบพในถ้ำแห่งหนึ่งเก่ามาก
    30.ชนวนพระกริ่งชินบัญชรเงินล้าน หลวงพ่อหนุน หลวงพ่อพระมหาสิงห์ร่วมเททองเสาร์๕
    31.เหล็กเปียกโบราณของยอดพระธาตุพนม ตกทอดมารุ่นสู่รุ่น
    32.ขวานฟ้าสัมฤทธิ์เก่า ชนวนหล่อพระบาง ที่ปู่กบ สร้าง
    33.ตะปูสังฆวานร วัดพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน พระมหาบรมธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์
    34.ชนวนตะกรุดโทนหลวงปู่บุญศรี วัดใหม่สุทธาวาส นครสวรรค์

    ชนวนมวลสารที่สำคัญเพิ่มเติม

    มีดครูของหลวงปู่อวน วัดหนองพลับ เพราะในใบมีดนั้นประกอบไปด้วย วัสดุอาถรรพ์จำนวน 61 ชนิด
    1.เหล็กยอดเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
    2.เหล็กขนันผีพราย ผีตายโหง ผีตายท้องกลม
    3.เหล็กตรึงโลงศพผีพราย ผีตายโหง ผีตายท้องกลม
    4.พระแสงดาบหัก
    5.เหล็กสลักโบถส์ สลักเพชร ปั้นลม 31.สังกะสีโบถส์เก่า
    6.ตะปูเห็ด 32.ดีบุกขาว
    7.เหล็กเบญจพรรณ 33.ทองคำ
    8.เหล็กบ้าน 34.เหล็กยอดเสมา
    9.ขี้เหล็กไหล 35.เหล็กยอดเกศพระพุทธรูป
    10.เหล็กน้ำพี้ 36.เหล็กสัก
    11.เหล็กบ่อพระแสง 37.เหล็กปืนโบราณ
    12.เหล็กกระแพงโบถส์ วิหาร วัด 38.ตะกั่วอวน
    13.เหล็กแร่บางไผ่ แร่เกาะล้าน ฯลฯ 39.ขวาน
    14.ทองสัมฤทธิ์ 40.เหล็กหม่าด
    15.นาก 41.เหล็กแหลนหลาว
    16.เงิน 42.เหล็กขอช้าง
    17.ทองแดงดง 43.ง้าว
    18.ตะปูสังฆวานร 44.ดาบ
    19.เจ้าน้ำเงิน 45.ทวน หอก
    20.เหล็กละลายตัว 46.ฉมวก
    21.เหล็กช่อฟ้าโบถส์ วิหาร 47.ค้อน
    22.เหล็กยอดฉัตร 48.เสียม จอบ
    23.บาตรเหล็ก 9 วัด 49.เลื่อย
    24.เหล็กจารหลวงปู่อวน 50.สิ่ว
    25.เหล็กทิ่มผี 9 วัด 51.มีด
    26.เหล็กฟ้าผ่า 52.ลูกปืน
    27.ชินเงิน ชินตะกั่ว 53.ขวานฟ้า
    28.ปรอท 54.เหรียญรัชกาลที่ 5ในหลุมลูกนิมิตรวัดหนองสองห้อง
    29.ตะกั่วนม 55.ถาด ขันทองเหลืองในหลุมลูกนิมิตรวัดหนองสองห้อง
    30.พลวงเงิน 56.เหล็กยอดระฆัง
    58.เหรียญคณาจารย์ต่างๆ 57.ตะกรุดเก่าหลวงปู่อวน
    59.ฐานพระพุทธรูป ชนวนมีดสายฟ้ามหาปราบไตรจักร ซึ่งต้องใช้เวลานานนับสิบปีกว่าจะหามวลสารหลักครบตามตำรากำหนดมีดังนี้
    60.ลูกระเบิด 1.ทองคำ
    61.ตะปูเจ็ดป่าช้า 2.เงิน
    3.ทองแดงเถื่อน 16.เหล็กเปียกหรือเหล็กเย็นใต้แม่น้ำโขง
    ชนวนดาบฟ้าฟื้นของวัดฤาษีนุตจรัลวงษารามทำด้วยแร่ 9 ชนิด 4.เหล็กยอดปราสาท 17.เหล็กน้ำพี้บ่อพระแสงบ่อพระขรรค์
    1.โคตรเหล็กไหล 5.เหล็กยอดเจดีย์ 18.เหล็กเบญจพรรณ
    2.เหล็กน้ำพี้ 6.เหล็กยอดธาตุ 19.เหล็กขนันผี
    3.แร่เกาะล้าน 7.เหล็กประตูโบสถ์ 20.ประแจ
    4.แร่เขาเขียว 8.เหล็กตรึงเสาเจดีย์ 21.ตะปูตอกโลงผีตายวันเสาร์เผาวันอังคาร 7 ป่าช้า
    5.แร่เขาแดง 9.เจ้าหลัก 22.เหล็กหินหรือขี้ไคลหิน
    6.ข้าวตอกพระร่วง 10.เหล็กทั้งห้า 23.น้ำตาเหล็กเป็นเหล็กหยดน้ำสีขาว
    7.ชิน 11.เหล็กเหนียว 24.ตะกั่วขี้นกเป้ง
    8.ปรอท 12.เงินพดด้วง 25.ขี้ควายเงิน
    9.ดีบุก 13.เหล็กอุกาบาต 26.ทองสำริดโบราณ
    ชนวนเหรียญตะกั่วธรรมสภาของหลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน 14.หอก ดาบโบราณที่ใช้ในสงครามศึก 27.ทองนพคุณ
    15.เหล็กบ้าน มีด จอบ เสียม 28.ทองผุดผุดจากดินซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
    29.สำริดทั้งห้า
    30.ชนวนพระขรรค์เกราะแก้วกันเพชรที่ชำรุด
    เหรียญธรรมจักรสุริยเทพจันทรเทพมหาลาภปราบอุปสรรคนำมาเป็นชนวนในการหล่อมีดฟ้าฟื้นพระขรรค์ไชยศรี
    รายละเอียดมวลสารที่ใช้ผสมลงในเหรียญคือ
    1.ดาบฟ้าฟื้นหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
    2.มีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ 5 เล่ม
    3.วัชระ
    4.มีดหมอเทพศาสตรา อาจารย์ ชุม ไชยคีรี
    5.มีดฟ้าฟื้นวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร
    6.มีดหมอหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว
    7.เหล็กยอดเจดีย์องค์พระปฐมเจดีย์ นครปฐม
    8.เหล็กจากขวานฟ้าผ่า
    9.เหล็กยอดเจดีย์ วัดสร้อยทอง
    10.แผ่นเงินไส้ตะเกียงมหารัตนประทีป
    ได้รับความเมตตาจากนักบุญผู้ไม่ออกนามได้ให้มวลสารสำคัญมาร่วมมีดังนี้
    1.พระขรรค์ศรีหชัยนาถร ท่านได้มาจากประเทศลาวอาจารย์ของท่านให้ไปเอาอยู่เจดีย์เก่า เป็นเนื้อสำริดโบราณสามารถใช้ตัดเหล็กไหลได้
    2.ขวานฟ้าได้ตอนที่ฟ้าผ่าลงมาแล้วเป็นขวานหินออกเขียวแรงน่าดูเลย
    3.เครือเขาหลงดำ
    4.ประกำช้าง อายุ 100 กว่าปี ทำจากหนังควายเผือกโดนฟ้าผ่าตาย เป็นของที่แรงมากๆศักดิ์สิทยิ์มากๆ
    5.ว่านสาวหลง
    6.แร่เหล็กน้ำพี้ 16.อังคารธาตุหลวงปู่หล้า
    7.เมฆพัส 17.อังคารธาตุหลวงปู่เทศรังสี
    8.ตาต้นคุณ เป็นเมตตา 18.แป้งเสกพร้อมจีวรหลวงปู่บุดดา
    9.วิสุทธิธาตุ เป็นธาตุของผู้ที่สำเร็จแล้ว 19.ข้าวเปลือกแรกนาขวัญฉลอง 200 ปี เหล็กไหลผงธูปบวงสรวงทั่วประเทศ
    10.เกล็ดพญานาค พลังสุดยอด 20.คำหมากฤาษี
    11.อัฐธิธาตุหลวงพ่อทูล 21.พระเจ้าห้าพระองค์ของหลวงปู่ ชอบ
    12.อัฐธิธาตุหลวงตามหาบัว 22.คตเต่า
    13.อังคารธาตุหลวงปู่เพรียง 23.แร่ทูมารีน
    14.อังคารธาตุหลวงปู่เจี้ยะ จุนโท 24.พระเครื่องแตกหลวงปู่โต๊ะหรือเจ้าคุณนร
    15.อังคารธาตุหลวงปู่บุญรอด สายหลวงปู่มั่น 25.ไม้จิกที่ใช้เผาหลวงตามหาบัว
    26.หงอนพญานาคราชมีอาถรรพ์และพลังอำนาจมากๆ 28.เหล็กไหลน้ำเงินสุดยอดของพลังงานที่มีพลังสูงกว่าเหล็กไหลที่ตัดกัน เปรียบเทียบ
    27.รังเหล็กไหลแม่น้ำโขง 29.น้ำศักดิ์สิทธิ์ 108 แห่ง ที่จะต้องเก็บตามฤกษ์และตามตำราตามสถานที่ที่กำหนด

    ได้มวลสารเพิ่มเติมดังนี้
    1.ศิลาเทวดา 8.เงินบังบด
    2.ผงปรอท 9.เหล็กไหลตาน้ำ
    3.อิ่งอ้อย 10.ทรายทอง
    4.เหล็กไหลพญานาค 11.เครือร้อยปลา
    5.พระเจ้าห้าพระองค์ 12.มะพร้าวการะเกต
    6.ว่านจั่กจั่น 13เงินบังบด
    7.คอหอย 14.ผาลไถ"

    ได้รับมวลสาร ต่างๆ หลายอย่างที่หาได้ยาก
    1.ผงกระเบื้องหลังคาโบสถ์วัดพระแก้วตอนซ้อมเมื่อปี 2525 13.อิฐพระมหาธาตุเจดีย์พุทธคยาประเทศอินเดีย
    2.ผงพระบางขุนพรหมกุรเก่า หลวงปู่ลำภู 14.อิฐกุฏิพระอานนท์
    3.ดินสังเวชนี 4 แห่งอินเดีย 15.ผงพระรอดรุ่นจงอาจศึก
    4.เมล็ดต้นศรีมหาโพธิ์อินเดีย 16.ผงพระหลวงพ่อผัน
    5.แร่เหล็กน้ำพี้ 17.ผงพระกริ่งคลองตะเคียน
    6.ผงธูปผงทองบูชารอยพระบาทสระบุรี 18.ผงพระคำหมากหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง
    7.ผงพระหลวงปู่ญาท่านสวน 19.ผงคำหมากหลวงปู่ญาท่านสวน
    8.ผงพระหลวงปู่บุญมี อุบล 20.ผงคำหมากหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
    9.ว่าน 108 21.ผงคำหมากหลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    10.อิฐธาตุหลวงปู่สาย วัดป่าหนองยาว 22.ผงคำหมากหลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี
    11.เถ้าอังคารหวงพ่อชาวัดหนองป่าพง 23.หินงอกหินย้อยถ้ำพระอรหันต์หลวงปู่เรือง
    12.พระผงหลวงพ่อแจ้วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ 24.ผงพระหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน อ่างทอง
    25.หินงอกถ้ำบารมี
    26.ผงพระหลวงปู่จันทรา วัดเขาน้อย
    27.ผงธูปบูชา วัดพระแก้ว
    28.ผงอิธิเจพระอรหันต์ อายุ 1400 ปี ปู่พรหมท่านเป็นคนไปเอามาท่านได้เล่าให้ฟังว่าพระอรหันต์ท่าน
    ได้ทำขึ้นโดยการอธิฐานจิตอธิฐานฤทธิ์มีคุณทุกด้านแล้วแต่จะอธิฐานเอามีพลังงานแรงมากๆ
    มีอยู่ด้วยกัน 5 สี ใครมีไว้จะมีพรหมเทพเทวดารักษา
    29.ผงงิ้วดำของแท้
    30.ผงแร่เหล็กไหลหลายๆชนิด
    31.สีผึ้งหลวงปู่ทองทิพย์ หายากทำยากมากของปู่พรหมท่านเล่าให้ฟังมวลสารที่นำมาทำแต่ละอย่าง
    ชาวบ้านๆธรรมดาไม่มีสิทธิ์นำออกมาทำได้เลย เพราะคนที่จะนำออกมาได้ต้องมีบุญบารมีมาก
    ต้องมีวิชาคาถา ต้องมีฤทธิ์ เช่นว่าน 529 ชนิดในป่าลึก ทั้งไทย พม่า ลาว เขมร
    เคลือร้อยปลาหรือเรียกอีกชื่อว่าเหล็กไหลตัวเมีย งิ้วดำต้นที่พระฤาษีนำมาให้พญาศรีโคตร
    กวนข้าวเคยกินจะมีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหนและของทิพย์ของอาถรรพ์อีกหลายอย่าง
    32.น้ำมันเทพรัญจวนของอาจารย์หม่อมซึ่งมวลสารที่นำมาทำนั้นหาได้ยากมากและราคาก็แพงสุดๆเช่นน้ำตาปลาพยูน
    ว่านมหามงคล 108 ว่านมหาเสน่ห์ 108 รากไม้มหามงคล 108 และเสน่ห์108 ไม้กุ๊กไก่หลง สีผึ้งนับร้อยนับพันครูบาอาจารย์
    การหุงน้ำมันว่านนั้นอาจารย์หม่อมใช้เวลานับแรมเดือนสวดคาถาตลอดการหุง
    33.กิ่งต้นกาหลงของแท้ได้จากปู่พรหมท่านจะหวงมากๆๆๆ หวงยิ่งกว่าเหล็กไหลซักอีก ท่านเล่าให้ฟังว่ากิ่งต้นกาหลงนี้เป็น
    มรดกมา 3 ชั่วอายุคนแล้วในโลกนี้มีอยู่แค่ 3 ต้นเท่านั้นไม่ว่านกหรือคนถ้าไปจับไปเกาะมีอันเสร็จ คือหลงไปไหนไม่ได้เลย
    ผู้มีบุญมีวิชาได้ไปเอามา ใครมีก็จะเก็บไม่บอกกันหรอกเป็นของดีสุดๆ มีเงินเป็นร้อยเป็นล้านก็หาไม่ได้

    34.ครีบพญานาคชื่อโพชฌงค์ปู่พรหมท่านเป็นคนลงไปเอามาเอง
    ในบรรดาพญานาคที่มีฤทธิ์เดชมากพญาโพชฌงค์เป็นหนึ่งในนั้นเป็นถึงแม่ทัพใหญ่เมืองบาดาลสรรพคุณไม่ต้องพูดถึง
    1.ผงทำพระหลวงปู่ทวดทั้งหมดตั้งแต่รุ่นแรกถึงรุ่นปัจจุบันของวัดช้างไห้ และผงตามสถานที่สำคัญๆที่เกี่ยวเนื่องของหลวงปู่ทวดทั้งหมด
    ซึ่งโยมคนที่เก็บนี้ต้องใช้ระยะเวลาในการตามเก็บถึง 6 ปีกว่า ได้สุดยอดของผงมหามงคลอีกอย่าง
    2.ผงรอดกระดานฉนวนหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก เป็นผงที่หาได้ยากยิ่งมีคุณเป็นเอนกอนันต์
    3.ผงอิฐธาตุ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก
    29.น้ำศักดิ์สิทธิ์ 108 แห่ง ที่จะต้องเก็บตามฤกษ์และตามตำราตามสถานที่ที่กำหนด
    ซึ่งก็มีที่ประเทศไทย,ประเทศลาว,ประเทศจีน,ประเทศพม่า,ประเทศทิเบต,ประเทศศรีลังกา,ประเทศเนปาล
    น้ำศักดิ์สิทธิ์108แห่งนี้ต้องเป็นน้ำที่เกิดตามธรรมชาติที่มีมวลของพลังงานความศักดิ์สิทธืที่เกิดจากแร่ธาตุ
    เกิดจากศูนย์กลางพลังงานของจักรวาล เกิดจากพรหมเทพเทวดาเนรมิตอย่างนี้เป็นต้น
    จะไม่รวมที่ครูบาอาจารย์ได้เจริญพระพุทธมนต์ตามพิธีต่างๆ งานบวงสรวงต่างๆ ที่หลวงปู่หลวงพ่อได้อธิฐานจิตให้
    น้ำมนต์ตามวัดต่างๆอีก ที่รวมจริงๆเกิน108อีก แต่ที่จะเน้นก็คือน้ำศักดิ์สิทธิ์ 108 แห่ง
    เพราะจะเป็นพลังงานที่ไม่มีเสื่อมแต่ทำให้สูงขึ้นได้ และก็จะรวมกับน้ำมนต์ต่างๆที่มีอยู่แล้วอีกจำนวนมากทั่วประเทศ
    เอาเหล็กไหลที่ตัดแล้วมากองเป็นตันพลังงานยังไม่เท่าเหล็กไหลน้ำเงินก้อนเดี่ยว
    พร้อมทั้งแผ่นอักขระยันต์อีกจำนวนมากๆแล้วมาทำพิธีตามตำราโบราณ
    แล้วชนวนที่ทางโยมชัยวิทย์จะนำมาผสมหล่อลงทำมีดฟ้าฟื้นนั้น มากๆทั้งทำให้เสร็จในเวลาที่จำกัดมาก
    ถ้าสำเร็จจะมีผลแก่ผู้มีไว้ครอบครองมากจะดวงแข็งเหนือแข็ง จะทำอะไรก็จะเหนือผู้อื่นทั้งหมด
    ดีกว่าทั้งหมด โยมก็จะนำชนวนสายฟ้าเก้าดวงมาผสมใส่ในมีดฟ้าฟื้นและพระขรรค์ไชยศรี
    ตลอดถึงชนวนหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมบรมโกฏิ พระอุปคุต หลวงปู่ทวด หลวงปู่ญาท่านสวน สมเด็จลุ่น
    พระขรรค์เทพที่ใช้เหล็กอาถรรพ์ 27 ชนิด ใช้เวลารวบรวม 7 ปีกว่าถึงจะได้ครบ นำมาตีเป็นพระขรรค์ 9 ด้าม หมดเงินไป 3ถึง5แสนกว่าบาท
    ต้องเป็นช่างตีที่รู้จักการตีมีดดาบโบราณด้วย ทางโยมชัยวิทย์ขอเวลาในการทำถ้าอยากได้ของดีก็ต้องรอหน่อยนะ และก็ยังมีมวลสารที่ยังไม่ได้บอกอีกมาก
    และขนวนพระต่างๆที่สร้างมา ตลอดถึงมวลสารพิเศษพระขรรค์วิรุณชัย
    ผงที่บรรจุในพระและมีด พระขรรค์
    1. ผงพระนอนจักรสีห์อายุ200กว่าปีมีความศักดิ์สิทธิ์มากๆ 78. ผงอิฐพระธาตุคุณคำหลวงปู่ขาวองค์เก่าท่านบอกว่าเสกจนนับครั้งไม่ถ้วนนำมาปั้นเป็นใช้ได้เลยท่านบอก
    2. ปรอทดำ และเกล็ดพญานาค 79. ผงขี้ตะไคล่รอยฝ่าพระหัตภูสิงห์หลวงปู่เณรคำว่าศักดิ์สิทธิ์มาก
    3. ปรอทสำเร็จ 80. ดินสีอรุณหลวงปู่ใสวัดเขาตำบล อยู่บนยอดเขาเป็นของพญานาคหลวงปู่บอกว่าศักดิ์สิทธิ์มาก
    4. ผงตะไบชนวนสมเด็จองค์ปฐมถ้ำเอราวัณ 81. ผงดอกไม้บวงสรวงสมเด็จองค์ปฐม
    5. ผงตะไบชนวนพระปัจเจกพุทธเจ้าถ้ำเอราวัณ 82. ผงไม้คูณไม้มะยมตายพรายกิ่งทิศตะวันออก
    6. ผงหลวงพ่อกิตติศักดิ์วัดป่าหนองหลุบ 83. ผงนาคราชสีขาวครีม
    7. ผงถ้ำเอราวัณ 84. ผงนาคราชสีเทา
    8. ผงแร่พลังหลวงปู่เณรคำ นครพนม 85. ผงนาคราชสีแดงตอนขึ้นไปเอาเจอนอนคดอยู่ไกล้ๆกับบ่อที่มีผงนาคราชอยู่อยู่บนยอดสุดของเขาเป็นถ้ำมืด
    9. เหล็กไหลบารมี 86. ทรายเสกพิธีเข้าและออกนิโรธกรรมหลวงปู่ต้นบุญร้อยเอ็ด
    10. เหล็กไหลทองคำดำ 87. ขี้เหล็กเปียกพระธาตุพนมสมัยญาคูขี้หอมหลวงปู่ขาวเป็นคนไปทำพิธีขอมา
    11. สะเก็ดดาว 88. เหล็กไหลน้ำภูควายเงิน
    12. นิล 89. ผงพระหลวงปู่แว่นวัดถ้ำพระสบายลำปาง
    13. ทรายเงินทองนิลพระธาตุพนม 90. ดินสังเวชนี 4 สถานอินเดียหลวงพ่อหนุนได้มาจากพระอาจารย์ชัยวัฒย์ท่าซุง
    14. ทรายเสกหลวงพ่อฤาษีลิงดำ 91. ผงอิธิเจผสมเกษาพระเจ้าได้จากเจ้าอาวาสวัดบ่อทองลพบุรี
    15. ผงอิฐพระธาตุพนม 92. พญาสมิงเหล็กลพบุรี
    16. ฟันพญาช้างโบราณเขมร 93. อิฐใจกลางปราสาทพนมรุ้ง 1000 กว่าปี
    17. หินใต้สะดือทะเล 94. พระผงทำน้ำมนต์หลวงปู่ศรี มหาวีโร
    18. หอยหิน 95. ไม้มณีโคตรกลายเป็นหินของหลวงปู่นรสิงห์
    19. ขวานหิน 96. รังนกธรรมชาติสร้างจากเคลือเถาหลงได้จากวัดหลวงปู่เณรคำนครพนมเจออยู่ในป่าวัด
    20. ทรายเสกหลวงปู่ขุ้ย 97. แร่สีเงินเหมือนเพชรหน้าทั่งสภาพเปียกที่ภูควายเงิน
    21. ผงพระยืนเขาพระงาม 98. หินลาวาบุรีรัมย์
    22. ผงพระหลวงพ่อพุธ 99. ผงพระประธานเนื้อไม้สักจากพม่าอายุ 100 กว่าปีได้จากหลวงปู่ต้นบุญแล้วมาสร้างแซมพระองค์นี้
    23. ผงเขี้ยวหนุมาน ผ่านการบูรณะมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 ครั้งหน้าตัก 1.5 เมตร
    24. ผงถ้ำเทวาพิทักษ์ 100. ผงไม้ตะเคียนทองหลวงปู่ขาว กุดบาก มีประสบการณ์ทั้งโยม-พระในวัดหลวงปู่ขาวเห็นว่ามาช่วยทำพระ
    25. ผงพระธาตุสีวลี หลวงปู่ขาวท่านให้มาผสมทำพระท่านว่าดี
    26. ผงเพชรหน้าทั่ง 101. พระธาตุบ่อน้ำเดือดลพบุรีวันที่ไปอัณเชิญยังไม่มีฝนตกพอเริ่มลงไปเอาฟ้าผ่าหนึ่งครั้งฝนปรอยลงมา
    27. ขี้เหล็กเปียกภูสิงห์ ตลอดจนอัณเชิญพระธาตุเสร็จฝนก็หยุดตก
    28. เหล็กไหลพญานาคหลวงปู่เณรคำ ภูเขาควายลาว 102. ผงเบ้าหล่อพระบางวัดหลวงปู่ขาวจัดพิธีใหญ่
    29. แร่ทรหดหลวงพ่อหนุนบ้านธนาประเทศลาว 103. ผงพระพุทธมนต์ 3000 กว่าวัดเหนือ ใต้ อีสาน ตก
    30. ทรายดำหลวงปู่ 104. ผงไหสมบัติเมืองลับแลได้มาตอนหลวงปู่เณรคำท่านพามุดถ้ำรอดใต้แม่น้ำโขงที่หนองคาย
    31. ด้วงหิน 105. น้ำพุทธมนต์ 3000 กว่าวัดทั่วประเทศ
    32. ข้าวสารหิน 106. น้ำมนต์ศาลหลักเมืองทั่วประเทศ
    33. ข้าวสารดำ 107. น้ำมนต์จักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่
    34. รังเพชรพญานาค 108. น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงปู่ทวดอธิฐานจิตไว้ โยมชัยวิทย์
    35. เหล็กไหลย้อย 109. ปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันธ์บูชาจากวัด
    36. เพชรประสาน 110. ข้าวสารหุ้งด้วยว่านไพลดำบูชามาจากโยมที่ตระกลูเขาสืบทอดกันมาชัยภูมิ
    37. ผงพระเขาชะเมาพระอาจารย์เดชา 111. ยาฤาษีหลวงปู่ละมัย
    38. เหล็กน้ำพี้ 112. ว่านจักจั่น
    39. ทรายคำ 113. เกษาหลวงพ่อหนุนมีลูกศิษย์ได้ไปหลายคนแปรเป็นพระธาตุก็มี กำลังแปรก็มีสำคัญครับเพราะกำลังสูงครับ
    40. ผงจักรพรรดิหลวงปู่ดู่ 114. ไม้งิ้วดำหลวงปู่ต้นบุญกลายเป็นหินท่านเล่าให้ฟังว่างิ้วดำนี้มีต้นเดี่ยวอยู่ในภูเขาควายพวกฤาษี พวกที่
    41. ผงพระหลวงพ่อสารันลพบุรี บำเพ็ญพรตตะบะและพระท่านรอให้งิ้วดำนี้หักลงมาเพื่อที่จะนำไปทำเป็นของดีต้องใช้เวลาเป็นหมื่นๆปีกว่าจะหัก
    42. แร่บางไผ่ มาซักกิ่งหนึ่งที่ได้มาหักเป็น 3 ท่อน ปู่สิงขรได้ไป 2ท่อน แบ่งให้พวกฤาษี 1 ท่อน ท่านนำไปทำเป็น
    43. แป้งเสกหลวงปู่บุดดา ไม้เท้าและประคตถวายหลวงปู่เทพโลกอุดรอีกท่อนหลวงปู่ต้นบุญไปแอบล้วงเอาจากในย่ามของปู่สิงขร หลวงปู่
    44. น้ำมันชาตรีหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ก็ให้มาทำพระส่วนที่เหลือก็ถวายคืนหลวงปู่ต้นบุญ
    45. ผงดอกไม้ ธูป วัดพระพุทธบาทสระบุรี 115. สีผึ้งหลวงปู่ต้นบุญได้มาตั้งแต่ท่านยังอยู่สกลนครท่านมีอยู่ตลับเดี่ยวขอท่านมาทำพระ
    46. ผงดำ 116. สีผึ้งหลวงปู่บุญศรี หลวงปู่ฤาษีลิงเล็ก คุณแม่อิ๊ดถวายให้มา
    47. ผงพระกอไพศาล 117. สีผึ้งหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    48. นิลตัดเหล็ก 118. สีผึ้งหลวงปู่หงษ์ ก้นกะทะเลยโยมยุทธนันท์ศิษย์ปู่หงษ์ถวายให้มาทำพระเพราะมวลสารจะอยู่ที่ก้นกะทะ
    49. ผงบัวผุดถ้ำเอราวัณ มากเมตตาดีมาก
    50. ผงพระกรุพระธาตุคุณคำหลวงปู่ขาวกุดบาก 119. สีผึ้งนารายณ์กลืนจิตหลวงปู่ญาท่านสวนโยมชัยวิทย์ถวายมาเป็นสีผึ้งที่ดีที่สุดอย่างเลยที่เดียวเพราะการทำ
    51. ผงบัวยอดบายศรีครูบาเณรแรงมาก ยากมากตามตำราโบราณ ต้นทุนสูงทำครั้งเดี่ยวใช้เงินประมาณ 200,000 บาท โยมเล่าให้ฟัง
    52. ผงทำพระแม่ชีประทุมได้จากคุณแม่อิ๊ด 120. สีผึ้งรวม 108 ครูบาอาจารย์ ตั้งแต่อายุ 100 กว่าปีลงมาของพระอาจารย์ศุภกิจอยู่เชี่ยงใหม่แต่ตอนนี้
    53. ผงตะไบแร่โคตรเศรษฐีแม่ชีประทุม คุณแม่อิ๊ด ท่านมาศึกษาวิชากับหลวงปู่หงษ์ท่านจะส่งมาร่วมสร้างพระด้วย
    54. ผงพระสมเด็จรุ่นโบสถ์น้ำหลวงปู่บุญศรี คุณแม่อิ๊ด 122. ผงของนักศึกษา ม.ขอนแก่น
    55. ลูกอมวัดป่าสกลนคร 123. ผงอิทธิเจหลวงปู่ครูบาวงศ์
    56. ชานหมากหลวงพ่อวิชชา 124. ผงพระพุทธบาทเขากะลา 3000 กว่าชนิด
    57. ชานหมากหลวงปู่เณรคำนครพนม 125. ผงลูกอมห้ารอบหลวงพ่อเกษม
    58. ชานหมากหลวงปู่ต้นบุญร้อยเอ็ด 126. สีผึ้งหลวงพ่อจำเนียร
    59. ชานหมากหลวงปู่นรสิงห์ 127. ผงธูป ผงอิฐโบสถ์หลวงพ่อเดิม
    60. ชานหมากหลวงปู่สมดาภูดานฮัง 128. ผงนำมันช้างพระโพธิสัตว์
    61. ผงพระปู่นริศ พังงา 129. ผงไม้เท้าพระโพธิสัตว์
    62. ผงพระหลวงพ่อแพ 130. ผงพระธาตุในถ้ำลึก จ.ลำปาง ในถ้ำนี้มีพระธาตุสมเด็จองค์ปฐมด้วย
    63. นิลตะโกหลวงพ่อวิชชา 131. ผงพระรอด วัดถ้ำป่าไผ่
    64. ผงรอยพระบาทพระมหากัปสปภูวัว 132. ผงมหาจักรพรรดิ
    65. เพชรไหลดำ 133. ผงแร่เยนตันศรัตรูตาย
    66. ผงยันต์เกราะเพชร 134. ผงอิฐที่พระสถูปเมืองหาง
    67. ผงทำพระหลวงปู่ดู่หลวงตาม้าสร้าง
    68. ผงพระธาตุเขาสามร้อยยอด
    69. ผงทำพระรวม 2000 แห่ง เกษาครูบาอาจารย์
    70. ผงทองพระประธานวัดป่าสกลนคร
    71. ผงกิ่งโพธิ์อินเดีย
    72. ผงธูปบูชาพระ ผงดอกไม้บูชาพระ ผงงิ้วดำ 1000 แห่ง
    73. ง้วนดิน
    74. ผงมหาราชหลวงปู่ญาท่านสวน โยมชัยวิทย์
    75. ผงศิลาธิคุณของหายากที่สมเด็จโตท่านนำมาทำพระสมเด็จ
    76. ผงแร่กายสิทธิ์ทั่วประเทศผู้มีวิชชาจึงเอามาได้ตามตำราโบราณ
    77. ผงยาจินดามณี
    135. ผงมวลสารทางวัดเขาแร่หลวงพี่เอกท่านเมตตาส่งมาร่วม ประกอบไปด้วย
    1. ผงพระคำข้าว-พระหางหมาก-ผงดินสอพองเสกไตรมาส-ทรายเสก-ผงยานัตถุ์ ของพระคุณหลวงพ่อฤาษีฯวัดท่าซุง
    2. ผงพุทธคุณ จากหลวงปู่-หลวงพ่อ พระสุปฏิปันโนทั่วประเทศ
    3. ผงตรีนิสิงเห ผงอิธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช
    4. ผงรัตนจักรชัยสิทธิ์ และ ผงยานัตถุ์ของหลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน จ.พระนครศรีอยุธยา
    5. ผงไตรรัตนจักรชัยสิทธิ์ ของ วัดเขาแร่
    6. ผงมหาลาภคำหลวง
    7. ผงเมตตาหลวง
    8. ผงมหากำบัง (มาร้ายไม่เห็น) ผงมหามงคล 9 และผงมวลสารเครื่องมงคลต่างๆที่พกพา ผงปลุกเสก ๑๐๘ ครั้ง ผงปลุกเสก ๑๖ ปี ผงสัจจะอธิฐานครบ ๖๐ ปี
    หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
    9. แป้งเสกมหานิยมของ หลวงปู่บุดดา ถาวรโร หลวงปู่ดวงดี วัดท่าจำปี หลวงครูบาตั่น สำนักม่อนปู่อิน เชียงใหม่ หลวงปู่ครูบาเผือก วัดไชยสถาน เชียงใหม่
    หลวงปู่ครูบาอินตา วัดวังทอง หลวงปู่สุภา กันตสีโล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง อุตรดิตถ์ หลวงปู่แดง วัดห้วยฉลองฯ อุตรดิตถ์
    หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก ขอนแก่น
    10. ดินสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ประเทศอินเดีย
    11. ผงหินพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า จากเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์
    12. ผงปูนกินหมาก และ ผงขมิ้นเสก ที่ได้รับการอธิฐานจีตจากพระสุปฏิปันโนทั่วประเทศ
    13. ผงพระเครื่องปี ๒๔๙๗ ของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา
    14. ผงนิโรธสมาบัติ ของแม่อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธฯ บางพลัด ก.ท.ม
    15. ผงปูนปลียอดพระธาตุนครศรีธรรมราช
    16. ทรายเงิน ทรายทอง ทรายนิล และ ผงอิฐเก่าองค์พระธาตุพนม ที่ถล่มพังเมื่อปี ๒๕๑๘
    17. ผงยาพระร่วง ผงดินกรุเครื่องสัมฤทธิ์โบราณ ๗๐๐ ปี เมืองศรีสัชนาลัย สมัยสุโขทัย
    18. ผงพระกรุเก่า ๔๐๐ ปี สมัยกรุงศรีอโยธยา
    19. ผงแร่เหล็กน้ำพี้ ดินก้นบ่อพระแสง บ่อพระขรรค์ จ.อุตรดิตถ์
    20. ผงแร่หินยอดภูเขาไฟฟูจิ ประเทศ ญีปุ่น
    21. ผงดอกไม้บูชาพระ ทองคำเปลว และ เถ้าธูปบูชาพระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากพระอุโบสถ วิหาร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทั่วประเทศ
    22. ผงว่านประเภทเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ มหาโชคโภคทรัพย์ แคล้วคลาด คงกระพัน และ เกสรดอกไม้ กว่า ๑๓๙ ชนิด
    23. เถ้าธนบัตรเงินล้าน
    24. น้ำพระพุทธมนต์ ๕๐๐ บ่อ (น้ำในรอยพระพุทธบาททั่วสกลชมพูทวีป น้ำสุคนธสาคร ที่ในหลวงทรงสรงองค์พระแก้วมรกต น้ำศักดิ์สิทธิ์ในพระราชพิธีต่างๆ น้ำมนต์ที่
    ได้รับจากหลวงปู่ครูบาอาจารย์ พระอริยเจ้า พระสุปฏิปันโนผู้ทรงคุณทั่วประเทศ น้ำมนต์จากพิธีพุทธาภิเษก เทวภิเษกที่สำคัญทั่วประเทศ น้ำมนต์จากวัด และ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
    กว่า ๕๐๐ แห่ง ทั่วประเทศ
    1.ชนวนพระกริ่งดีหลวง
    2.ชนวนพระกริ่งอายุวัฒธะโก
    3.ผงต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ทวดทั้งหมดซึ่งต้องใช้เวลารวบรวมนานหลายปี ซึ่งชนวนนี้เป็นของคุณหมอฟอร์ด
    แท่งชนวน"นวฤทธิ์"
    เป็นชนวนที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากเพราะได้รวบรวมมวลสารโลหะต่างๆมากมายรวมถึง
    เหล็กไหลที่พระธุดงค์ได้นำเอาเหล็กไหลมาร่วมหล่อย่าโม ท่านได้บอกกับแม่อิ๊ดว่าอาตมามีแต่สิ่งนี้มาร่วมหล่อ
    พอได้มาก็นำไปใส่พานวางไว้ หลวงตากอไผ่มาเห็นก็เลยบอกกับลูกศิษย์ให้ไปเอาน้ำผึ้งมาวางด้วย
    พอดีมีโยมมาเห็นว่าเหมือนมีสิ่งหนึ่งไหลออกมาจากก้อนวัตถุที่พระธุดงค์นำมาให้
    มีลักษณะเหมือนยางมาตอยหลวงตากอไผ่ท่านก็บอกว่านี้คือเหล็กไหล ก็เลยไม่มีใครกล้านำไปหล่อย่าโม
    64. ผงรอยพระบาทพระมหากัปสปภูวัว 132. ผงมหาจักรพรรดิ
    เททองหล่อพระเมื่อวันที่ 12 เดือน สิงหาคม ๒๕๕๔

    การอธิฐานจิต
    นำไปขอบารมี ปู่กลาง ผู้ทรงอภิญญาสายเหนือโลก ปลุกเสกเดี่ยว
    หลวงพ่อหนุน ทำพิธีอธิฐานจิตเดี่ยว หนึ่งคืนก่อนพิธีใหญ่
    พิธีมหาพุทธาภิเษก วัดพุทธโมกข์ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๕ ตลอดทั้งคืน โดยหลวงพ่อหนุน......
    วัตถุมงคลที่สร้างประกอบไปด้วย
    ชุดกรรการใหญ่ ประกอปไปด้วย จำนวน ๗๐ ชุด ชุดกรรการใหญ่ ประกอปไปด้วย จำนวน ๑๐๘ ชุด
    มีดฟ้าฟื้น ขนาดเก้านิ้ว มีดฟ้าฟื้น ขนาดห้านิ้ว
    พระขรรค์ไชยศรีปราบไพรีพินาศ ขนาดเก้านิ้ว พระขรรค์ไชยศรีปราบไพรีพินาศ ขนาดห้านิ้ว
    พระโมคคัลลานะเทดินไทย พระโมคคัลลานะ
    พระฤาษีลัดดาบส เทดินไทย พระฤาษีลัดดาบส
    ผ้ายันต์สมเด็จองค์ปฐมประทานพร ผ้ายันต์สมเด็จองค์ปฐมประทานพร
    สมเด็จองค์ปฐม ปี ๒๕๕๔ สมเด็จองค์ปฐม ปี ๒๕๕๔
    องค์ท่านปู่ฤาษีลัดดาบส หลวงพ่อท่านเล่าว่า มีฤทธิ์บารมีเยอะ เป็นใหญ่ในพระฤาษี ท่านสำเร็จอนาคามี แต่ยังไม่ไปนิพพาน อยู่ช่วยโลก อยู่เมืองบาดาล เป็นอาจารย์หลวงพ่อหนุน อีกท่านหนึ่งที่ หลวงพ่อเคารพมาก
    (เอาเรื่องเก่าๆมาเล่าใหม่)
     
  18. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    เมื่อสักครู่พระอาจารย์โทรมาแจ้งว่า หลวงพ่อท่านทำพิธีปลุกเสก มีดพระขรรค์และพระทั้งหมดให้ก่อนหนึ่งคืน และพระอาจารย์ได้ถวายมีดและพระขรรค์ที่ช่างทำเผื่อเสีย จำนวนหนึ่ง มีเล่มใหญ่ ๑๐ ด้าม เล่มเล็ก ๒๐ ด้าม พระขรรค์ ประมาณเดียวกัน และหลวงพ่อเปิดให้บูชาที่วัด มีดฟ้าฟื้นเล่มละ สี่พันบาท เล่มเล็ก สองพัน พระขรรค์ใหญ่เล่มละ ๓๐๐๐ บาท เล่มเล็กพันบาท ไม่ถึงชั่วโมงหมดเกลี้ยงครับ มีดแบบห้อยพวงกุญแจ ๔๕๐ ด้าม ด้ามละ ๑๐๐ บาท หมดเกลี้ยง พระฤาษีและพระโมคคัลลานะ หมดไปหลายกล่อง นี่ขนาดยังไม่ได้เข้าพิธีพุทธาพิเษกใหญ่คนยังสนใจบูชากันมาก ได้เงินแสนกว่าบาทเข้าวัด ชุดที่เราร่วมบุญจะเข้าพิธีใหญ่อีกครั้งวันที่ ๑๗ ถือว่าโชคดีเข้าพิธีถึงสองครั้งครับ
    ในงานหลวงพ่อหนุนท่านได้บอกว่าพระฤาษีลัดดาบส มีความสำคัญมากท่านเป็นใหญ่ในฤาษีฤทธิ์บารมีท่านเยอะ ที่ใดแรงๆ มีติดตัวไปป้องกันได้ทุกอย่าง ส่วนพระโมคคัลลานะท่านบอกว่า เวลาทำพิธี องค์ท่านมาก่อนเลยทำให้อย่างดี เนื้อเทดินไทย ที่เหลือจากชุดกรรมการ ท่านให้ทำบุญองค์ละสองพันบาท มีคนสนใจบูชากันอย่างต่อเนื่องเหลือน้อยแล้ว ใครอยู่ใกล้วัดรีบไปบูชาครับ มีไม่มาก สรุปแล้วชุดกรรมการที่กำหนดราคาไว้ไม่แพงอย่างที่คิดครับ สาธุ
    สมเด็จองค์ปฐม ที่สร้างปีที่แล้วเดี๋ยวนี้เป็นพระที่หายากไปแล้วครับ คงเหลือที่จะมอบให้กับชุดกรรมการ เท่านั้น การรอคอยที่คุ้มค่า คุณชัยวิทย์บอกว่าหากจะสร้างอะไรอีกบอกแต่เนิ่นๆหน่อย มีดฟ้าฟื้นนี้กว่าจะเสร็จ เล่นเอาเหนื่อยเลย เกือบไม่ทันงานครับ
    เมื่อสักครูใหญ่ คุณสุวัฒน์ โทรมาแจ้งว่า ได้คุยกับพระอาจารย์สมบูรณ์ และได้แจ้งว่า มีดฟ้าฟื้นสวยงามมาก คุณชัยวิทย์บอกว่าสวยกว่ามีดสายฟ้าเสียอีก เนื้อใบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปลอมได้ยากมาก ขณะนี้รอปู่กลาง ท่านไปฝังลาวเดินทางเกือบถึงปริมณฑลแล้ว คาดว่าขณะนี้น่าจะมาถึงแล้ว...........
    สวยงามมากเนื้อมีดฟ้าฟื้นเป็นโลหะผสมที่ออกมาแล้ว โยมชัยวิทย์ยังยอมรับว่าสวยงามมากจะสวยกว่ามีดสายฟ้าอีก ไม้ที่นำมาเป็นด้ามและปลอก ก็หายากและมีราคาแพงด้วย โยมชัยวิทย์จำชื่อไม่ได้ สีดำมัน
    (เรื่องเก่ามาเล่าใหม่ครับ)
     
  19. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ไม้ครูมี 3 ประเภท
    1.ตะกรุดไม้ครู(ทำอยู่)
    2.คฑาไม้ครู(ที่พึ่งทำไป)
    3.ไม้เท้าไม้ครู(กำลังหาไม้อยู่ ต้องที่พิเศษ)
    อานุภาพเหมือนๆกันครับจะต่างกันบ้างที่มวลสาร
    เครื่องยาใหญ่เป็นตำรับที่สร้างขึ้นมาที่จะแก้คุณไสยโดยเฉพาะ แก้ได้ครบทุกทาง เป็นตำรับสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นเครื่องยาที่ทำให้เกิดขึ้นได้ยากยิ่งมากๆๆ
    เพราะต้องใช้ทั้งความพยายามและความเสียสละทุนทรัพย์ จำนวนหลายแสนบาทเมื่อ 30 ปีก่อน อานุภาพแก้ได้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณไสย นำมาผสมกับชันโรงและผสมเป็นมวลสารทำตะกรุดไม้ครู
    แร่ตะกลูเหล็กไหลมากกว่า 30 ชนิด นำมาบดผสมเป็นมวลสารใช้อุดปากเบี้ยแก้ และ ตะกรุดไม้ครู
    ไม้อาถรรพ์ต่างๆ
    มวลสารที่มีอานุภาพสะท้อนกลับ
    1.กระท้อนตายพรายทำพิธีพลีกรรมตามแบบโบราณ
    2.ว่านตูบมูบหายากมากๆต้องขึ้นกลางตอเท่านั้น ต้องตามตำรา ถือว่าเป็นพญาว่านมีคุณป้องกันสะท้อนกลับ
    3.ตากระท้อนหน้าสุเหร่า เป็นของอาถรรพ์ป้องกันสะท้อนกลับ
    4.แผ่นผ้ายันต์ที่เกี่ยวกับอานุภาพสะท้อนกลับและป้องกัน
    ตะกรุดไม้ครู
    เริ่มจากการหามวลสารที่จะนำมารีดเป็นแผ่น ก็ต้องหาเอามวลสารที่มีพลังที่มีอยู่ในตัวมวลสารนั้น และมีคุณวิเศษ ที่ครูบาอาจารย์ยอมรับว่าดีจริง
    1.แร่โคตรเศษรฐีของแม่ชีประทุม ที่หลวงพ่อฤาษี ท่านได้บอกไว้ว่าดี ไม่ต้องเสกก็ศักดิ์สิทธิ์ ใครมีไว้บูชาต่อไปจะป็นเศษรฐี และมีใครบอกจำไม่ได้ว่าสามารถกันรังสีนิวเคลียได้
    2.เหล็กเปียกที่หุ้มยอดองค์พระธาตุพนม อันนี้ก็ถือว่าสุดยอดกันปืนกันฟ้าได้และมีคุณอย่างอื่นอีกมาก เป็นของคุณชัยวิทย์ ใส่ผสมลงไปมาก เท่ากับขวดน้ำดื่ม
    3.หัวลูกปืนที่เป็นตะกั่ว เป็นเคล็ดโบราณ ลูกไม่ฆ่าแม่ แม่ไม่ฆ่าลูก ผ่านการเสกโดยหลวงน้าสายหยุด ศิษย์หลวงปู่ดู่
    นำไปหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง
    ตะกรุดไม้ครูผ่านพิธีมาเหมือนกับไม้ครู เริ่มตั้งแต่พิธีเป่ายันต์เกราะเพชร วัดท่าขนุน
    เสาร์๕ วัดท่าซุง หลวงพ่อตุ๊มหาสิงห์ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ
    ครูบาครอง ลำปาง ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน ครูบาตั้น ตอยปู่อิน หลวงปู่เจียม กุดไห
    หลวงปู่บู่ วัดสุมังคราม หลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกข์ หลวงปู่สุภา ท่านย้ายมาอยู่ที่สกลนครแล้ว จะนำไปให้หลวงพ่อหนุน ท่านอธิฐานจิตวันเสาร์๕ที่ ๑๖ มีนาคม อีกทีพร้อมกับเบี้ยแก้มหาลาภมหาป้องกันสะท้อนกลับ
    ส่วนในเบี้ยแก้นั้น ก็ได้บรรจุยันต์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ยันต์ธงจักวาลเป็นยันต์โบราณที่มีคุณ เข้าไปได้ทุกที่ ใครที่พกเบี้ยแก้นี้ ถือเป็นคุณพิเศษ หมายความว่าที่ใดที่มีอาถรรพ์แรงก็สามารถผ่านไปได้โดยปลอดภัย โดยไม่มีอันตรายใดๆมาทำอันตรายได้เลย
    ส่วนมวลสารที่ได้นำมาบรรจุในเบี้แก้มหาลาภมหาป้องกันสะท้อนกลับและตะกรุดไม้ครูที่เหมือนกันก็มี
    1.ผงที่บรรจุสมเด็จองค์รุ่นแรกของหลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกข์
    2.ผงที่บรรจุในมีดฟ้าฟืน
    3.ผงที่บรรจุในพระขรรค์ไชยศรีปราบไพรีนาศ
    4.ผงที่บรรจุในพระฤาษีลัดดาบส
    5.ผงที่บรรจุในพระโมคลานะ
    6.ผงที่บรรจุในไม้เท้าพญายมราช-ท้าวเวรสุวรรณ
    7.ผงที่บรรจุในตะกรุดยันต์เกราะเพชร วัดถ้ำเขาวงศ์ 108-1009
    8.ผงตะไบมีดสายฟ้ามหาปราบไตรจักร ของหลวงปู่ญาท่านสวน
    9.ผงจักพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่และหลวงตาม้า
    10.ผงสมเด็จโต เช่นวัดระฆัง -วัดบางขุนพรหม-วัดเกศไชโย-พระนอนจักรสี-วัดอื่นๆ
    11.ผงรวม ๓๗ ประเทศ จำนวน 10000 กว่าชนิด (ได้มาใหม่)
    12.ผงต่างๆที่เกี่ยวกับพญานาค หายาก
    13.ผงตะไบชนวนนวะฤทธิ์ของแม่ชีประทุม
    ยังมีอีกมากครับ
    ตะกรุดไม้ครูจะผ่านพิธีมาพร้อมกับไม้ครู หลายสิบพิธีอย่างยอดเลยครับ
    ส่วนเบี้ยแก้นั้นได้นำเอาปรอทและมวลสารต่างเช่นชันโรง มวลสารที่เป็นผงรวมแล้วเข้าพิธีพร้อมกับไม้ครูครับ เพราะการทำเบี้ยมันมีหลายขั้นตอนครับ ส่วนตัวเบี้ยก็ต้องทำพิธีล้างน้ำถึง 3 น้ำด้วยกันคือ 1.น้ำเกลือ 2.น้ำส้ม 3.น้ำเหล้าใช้ถึง16 กลม ในการล้างแต่ละน้ำนั้นการต้องทำการสวดคาถากำกับไปด้วย ใช้เวลา 9 วัน หลังจากนั้นการทำพิธีสวดบังสกุล-ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ถึงจะเสร็จ 1ขั้นตอนแรก
    ตะกรุดไม้ครูจะไม่ได้บรรจุปรอทและชันโรง ขั้นตอนของการทำเบี้ยแก้จะมากกว่า
    เบี้ยแก้จะเด่นด้านป้องกันและแก้ ความพิเศษอยู่ที่ผู้ทำและผู้เสกจะกำกับอีกทีบ้างอย่างบอกได้บ้างอย่างบอกไม่ได้ เจอแล้วเดี่ยวรู้เอง ให้อ่านย้อนไปดูอีกที
    ส่วนตะกรุดไม้ครูดอกเดี่ยวคุมได้ทั้งกลุ่มทั้งบ้านด้วยบารมีของครู(พระ)มีคุณเป็นเอนกอนันต์แล้วแต่จะอธิฐานเอาเพราะเป็นของสูงครับ
    มวลสารทางโยมชัยวิทย์ที่ ในส่วนของปรอทมี
    1.ปรอทดำ
    2.ปรอทแดง
    3.ปรอททะเล
    4.ปรอทยวง
    5.ปรอทตาวัว
    6.ปรอทน้ำเน่า
    7.ปรอทเสกโดยหลวงปู่ยาท่านสวน
    8.ปรอทที่แกะจากเบี้ยแก้หลวงปู่ญาท่านสวน
    9.ปรอทสายหลวงปู่ศุข
    10.ปรอทวิท
    ของทางอาตมาที่ได้รับมามี
    11.ปรอททอง คุณสมบัติ แข็งแรง
    12.ปรอทเหล็ก คุณสมบัติเหนียว
    13.ปรอทเงิน คุณสมบัติวาสนา
    14.ปรอทดิน คุณสมบัติเย็น
    15.ปรอทไฟ คุณสมบัติเป็นพญาปรอทหายากมากเป็นปรอทของพระฤาษี
    16.ปรอทไม้ คุณสมบัติยั่งยืน
    17.ปรอทลม คุณสมบัติเป็นอาวุธของคนธรรพ์
    18.ปรอทนาค คุณสมบัติรวดเร็ว
    19.ปรอทแก้ว คุณสมบัติเป็นปรอทพิเศษคุณดั่งแก้วสารพัดนึก
    มีผงที่บรรจุดาบพระเจ้าพรหมมหาราชผสมเป็นมวลสารด้วยครับ
    วิชาแปลธาตุ (ปรอท)

    ปรอทเป็นสรรพยามีสรรพคุณมากมากจึงมีกระบวนการทำตามแบบโบราณดังนี้ใช้วิธีการดักจับปรอทตามน้ำคลำน้ำที่เน่าเหม็นปรอทจะมากินสิ่งที่เน่าเหม็นมีกรรมวิธีการดักจับหลายวีธี
    > >
    การทำปรอทให้บริสุทธิ์ >>
    นำปรอทมาใส่ในชามกระเบี้องเคลือบนำข้าวที่หุงสุกใหม่ๆทิ้งเอาไว้ให้เย็นแล้วนำมาใส่ให้ท่วมปรอทคลุกเคล้าข้าวสุกกับปรอทให้เข้ากัน ด้วยไม้หรือกระเบื้องเคลือบพยายามบี้บดให้ปรอทแตกตัวสัก 15 นาทีหรือจนปรอทแตกตัวเป็นเม็ดละเอียดจะเห็นว่าข้าวสุกจะติดสีดำมากมายสุดท้ายล้างด้วยน้ำสะอาดโดยการเทน้ำสะอาดใส่ลงไปล้างหลายๆครั้งแล้วถ่ายน้ำออกหรือเทน้ำออกให้ระมัดระวังตามสมควรเนื่องจากปรอทมีน้ำหนักมากจะไม่เกาะติดสิ่งใดๆการล้างออกจึงทำได้ไม่ยากนัก >>

    นำปรอทมาแช่น้ำปลาร้าหมั่นคนสักพักหนึ่งคนบ่อยๆทิ้งเอาไว้สัก 1 คืน รุ่งเช้าให้ล้างน้ำปรอทด้วยน้ำสะอาดเหมือนกับขั้นตอนแรกหลายๆครั้ง >>
    ให้นำเอาตะใคร้ทั้งต้นทั้งใบมาตำให้ละเอียดนำไปคลุกเคล้ากับปรอทคนให้เข้ากันทิ้งไว้อีก 1 คืนนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาดแบบเดียวกับการล้างน้ำในขั้นตอนแรก >>
    เอาปรอทมาแช่น้ำมะดันหรือมะกรูดหรือน้ำมะนาวหมั่นคนบ่อยๆทิ้งเอาไว้ 1 คืนวันรุ่งขึ้นให้นำไปล้างด้วยน้ำสะอาด>>
    เสร็จแล้วนำเอามาใส่เอาไว้ในขวดแก้วปิดฝาให้แน่นเพื่อกันมิให้ปรอทดูดเอาสิ่งที่เป็นพิษเข้ามาปะปนอีกปรอทที่ได้มานี้ยังเป็นของเหลวเชื่อกันว่าปรอทที่ผ่านวิธีการกรองเอาพิษออกแล้วนี้มีความบริสุทธิ์ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์
    การทำปรอทให้แข็งตัวแบบโบราณ

    แบบที่ 1 ให้สะกดด้วยอาคมโดยนำเอาปรอทใส่ลงในกระทะเอาไม้สนเกี๊ยะจุดไฟใส่ใต้กระทะเป็นเชื้อเพลิงจากนั้นบริกรรมเติมไฟแต่ไม่ให้ร้อนมากชั่วเวลาหนึ่งให้ใส่ทองคำลงไปเพื่อล่อให้ปรอทแทรกตัวเข้าไปอยู่ในทองคำและแข็งตัวเมื่อปรอทแข็งตัวแล้วก็จะผ่อนไฟจนกระทั่งหยุดใส่ไหและเย็นลงในเวลาต่อมา

    ขั้นตอนต่อไปเป็นการบูชาเจ้าป่าเจ้าเขาก่อนที่จะเอาปรอทแข็งตัวแล้วนำเอาไปใส่เอาไว้ในพานวางตั้งเอาไว้หน้าหิ้งพระคลุมด้วยทองคำเปลว

    แบบที่ 2 ใช้ปรอท, ดีบุก, น้ำตะใคร้, จุนสี, กัมมะถัน, น้ำประสานทองอย่งละเท่าๆกันสำหรับจุนสีและน้ำประสานทองมีพาให้ระมัดระวังหน่อยต้องนำมาให้ความร้อนให้แตกตัวก่อนเรียกว่าการฆ่าพิษนำทั้งหมดมากวนรวมกันให้เข้ากันจนเป็นสีรุ้งการหุงนำไปตั้งในเตาแก๊สก็ได้แล้วนำเอาไปเทลงในแบบพิมพ์ต่างๆเมื่อปรอทแข็งตัวได้รูปแล้วนำเอามาแต่งด้วยกระดาษทรายละเอียดและนำเอาไปใช้ตามเจตนารมณ์ต่อไป

    ข้อเสียของปรอทคือ กินทอง, กินดวงคนที่เกิดปีธาตุทองเช่นปีมะโรง,และกินคนที่มีชื่อว่าทองด้วย
    การจับปรอท
    1. องค์หลวงปู่ให้นำไข่มา ท่านนำไข่ไก่มาลงอักขระ
    1.1 ด้านบนท่านลงยันต์สวัสดิกะไว้ด้านบน
    1.2 ตรงกลางไข่ ลงคาถาไว้ โอม นะมะ พะ ทะ มานิมานะ พุทธัสสะ สวาโหม
    1.3 ด้านล่างนำผ้าแดงมาปิดไว้
    2. ท่านเจาะรูเล็กๆ โดยใช้เข็มเจาะรูด้านบนของไข่
    3. ท่านให้นำไข่ไปตากแดด ตอนเที่ยงวัน จะให้ไข่ขึ้นฟอง
    4. ท่านให้ผู้ที่จะทำหน้าที่นำไข่ไปผึ่ง ถือศีล 8
    นำไข่ไปผึ่งที่กุฏิหลวงตาสนิท จำนวน 12 ใบ
    5. ขั้นตอนในการไปฝัง เวลา 21.00 น.
    ทำการขอขมาหลวงตา ใช้ธูป 8 ดอก เทียนดอกบัว 3 ดอก กล่าวคำขอขมา
    และให้หลวงตาชอบจับพญาปรอท......ด้วย

    15 ส ค 54
    การฝังไข่เพื่อดักปรอท
    หลวงปู่มอบเทียนขาวขี้ผึ้งแท้หนัก 2 บาท จำนวน 2 แท่ง
    ลงอักขระ มงกุฏพระพุทธเจ้า 2 ด้าน และท่านได้นำเลือดของท่านมาเจิมบนอักขระทั้ง 2 ด้าน
    เมื่อเริ่มจะฝัง ท่านให้จุดเทียนก่อน และห้ามให้เทียนดับ มิฉะนั้น ปรอทจะวิ่งเข้าตัว
    รอเวลา 21.39 น. มีเวลาฝัง 19 นาที ขุดหลุมลึก ครึ่งศอก
    นำไข่ลงไปฝัง ขณะวางลงหลุมที่ขุดไว้ ให้ว่าคาถา
    “โอม นะมะพะทะ มานิมานะ พุทธัสสะ สวาโหม”
    เวลากลบดินฝัง ให้ว่าคาถาย้อนกลับ
    เมื่อทำพิธีเสร็จ ก็แผ่เมตตา เสร็จพิธีฝัง
    ในขณะประกอบพิธี ห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพิธี
    พอเสร็จพิธี พวกเราออกมาแล้ว ปรากฏว่า ลืมไข่ที่เหลือเอาออกมาด้วย
    จึงต้องย้อนกลับไปเอาไข่ออกมา
    เพราะไข่มีมูลค่า ใบละ 50,000 บาท ลืมไว้ประมาณ 10 กว่าฟอง

    28 ส ค 2554 วันพระ แรม 14 ค่ำ เดือน 9
    การกู้ไข่ที่ไปดักปรอทไว้
    1 ทุกคนรับศีล 8 องค์หลวงปู่เมตตา พรมน้ำมนต์ให้บนศาลาฝั่งตะวันตก
    และให้ว่าคาถา
    เวลากู้ประมาณ 18.00 น.
    2 ไปกู้ไข่ 2.1 ท่านให้เอาบาตรน้ำมนต์ไปด้วย
    2.2 พานพร้อมผ้าแดง (ขอขมาหลวงตาก่อน)
    3 ก่อนที่จะเริ่มกู้ ให้พวกเราพรมน้ำมนต์ และว่าคาถา
    “โอม นะมะพะทะ มานิมานะ พุทธัสสะ สวาโหม” ทุกคน
    ทำการกู้ ปรากฏว่า ได้ไข่คนละ 3 ฟอง เป็น 9 ที่เหลือ 3 ฟองแตก
    นำไข่ใส่พานและห่อด้วยผ้าแดง นำกลับไปถวายองค์หลวงปู่ เสร็จพิธี
    (ตอนหลังกลับมากู้ไข่ที่แตกอีก 3 ฟอง จะนำรายละเอียดมาเล่าทีหลัง)
    หลังจากกู้ปรอทได้ คืน 28 ส ค 54
    ขั้นตอนในการนำปรอทออกจากไข่
    ที่ห้องทำงานองค์หลวงปู่ข้างโรงยา
    องค์หลวงปู่ทำการดักปรอทเองด้วย ที่สระบัวข้างห้องทำงาน จำนวน 3 ฟอง
    (ไข่ที่ท่านนำไปฝังเสีย 1 ใบ)
    ท่านนำใบบัวมาเป็นที่รองรับ ในขณะที่จะนำปรอทออกมาจากไข่
    นำมีดที่จับปรอทมาจุ่มเลือดของท่าน
    แล้วล่อให้ปรอทออกจากไข่ เมื่อปรอทออกมาแล้ว จะใช้น้ำผสมเลือดของท่านมาล้าง
    ท่านบอกว่า ที่ต้องใช้น้ำผสมเลือด เพื่อให้ปรอทช้าลง
    จากนั้น ท่านได้เล่าการนำปรอทออกจากไข่ทั้ง 11 ใบ
    องค์หลวงปู่ให้ความรู้เกี่ยวกับปรอท
    ปรอทมีอยู่ 7 ชนิด
    ชนิด คุณสมบัติ
    1 ปรอท ทอง แข็งแรง
    2 ปรอท เหล็ก เหนียว
    3 ปรอท เงิน วาสนา
    4 ปรอท ดิน เย็น
    5 ปรอทไม้ ยั่งยืน
    6 ปรอท ลม เป็นอาวุธของคนธรรพ์
    7 ปรอท ไฟ เป็นพญาปรอท หายาก เป็นปรอทของพระฤษี
    ปรอทแก้ว เป็นปรอทพิเศษ คุณสมบัติ ดั่งแก้วสารพัดนึก
    ไข่ใบที่ 1 เป็นปรอทเหล็ก ตัวปรอทมีสีดำ คล้ายลูกเหล็กเล็กๆ เกาะกันเป็นแพ
    ใบที่ 2 เป็นปรอททอง น้ำของไข่ที่ออกมามีสีเหลืองของไข่เป็นปกติ
    เหมือนไข่ที่เรานำมาเจียว
    องค์หลวงปู่บอกว่า ปรอททองเป็นปรอทผู้ดี กินไม่มูมมาม มีสติ
    ใบที่ 3 เป็นปรอททอง ออกมาเกาะกันคล้ายไข่ปลา มีฟองอากาศอยู่ด้านบน
    ฟองเป็นสีรุ้ง คล้ายสีปีกแมลงทับ
    องค์หลวงปู่บอกว่า เป็นฟองที่ปรอทหายใจออกมา
    ใบที่ 4 เป็นปรอทดิน กลิ่นของเนื้อไข่ที่ออกมา เหม็นมากและมีสีดำ
    ตัวปรอทเองเป็นสีดำ เกาะกันเป็นแพ คล้ายปรอทเหล็ก ปรอทดินหายใจ
    แต่ปรากฏว่า ฟองอากาศก็หายใจกลับอยู่ข้างใต้ใบบัวเป็นแพ
    ไข่ใบที่ 5 เป็นปรอทเงินกับทอง วาสนาดี
    ปรอทเงินออกมาก่อน เป็นปรอทหายากมาก มีลักษณะเป็นลูกกลมๆ เงา แวววาว
    ไข่ใบที่ 6 เป็นปรอทนาค วิ่งเร็ว แข็งแรง สีของไข่เป็นสีออกแดงอ่อน
    มีแร่สัตตะโลหะติดมาด้วย
    ไข่ใบที่ 7 เป็นปรอทดินกับนาค มีกลิ่นฉุน สีของน้ำไข่ที่ออกมาค่อนข้างมีสีดำ
    มีฟองอากาศหายใจมาก และเป็นประกาย มีจำนวนพอสมควร
    ไข่ใบที่ 8 เป็นปรอท ดิน เหล็ก และไฟ เป็นพญาปรอท เป็นปรอทของพระฤาษี
    สารพัดประโยชน์ดั่งใจนึก มีเยอะมาก อ้วน สมบูรณ์ น้ำหนักดี
    ทำให้ใบบัวลู่ลงมาลึกมาก (ใบบัวกางอยู่ในชาม) มีปรอทดินมากกว่า
    และจับกันเป็นแพใหญ่ ซึ่งหายากมาก มีประกายแวววาว
    ใบที่ 9 เป็นปรอททองกับไฟ ปรอทไฟมากกว่า เป็นพญาปรอท สีของเนื้อไข่จะสุกใสเหลือง
    เป็นปรอทมีน้ำหนัก ตัวปรอทมีขนาดใหญ่มาก มีสีแวววาว (มีภาพให้ดู)
    เป็นพญาปรอท (มีภาพให้ดู) ซน ไม่ตะกละ
    ใบที่ 10 ของหลวงปู่ เป็นปรอทแก้ว จับยากมาก ต้องใช้เลือดล่ออยู่ถึง 2 ครั้ง
    มีหนอนเกาะทั่วใบไข่ หนอนเกาะอยู่ในน้ำนอกเปลือกไข่
    แต่หนอนยังมีชีวิตอยู่ได้โดยปรอทช่วยรักษาไว้
    ปรอทแก้วโดนลมจะหาย ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าของน้ำไข่ ถึงแม้จะมีหนอนขึ้นก็ตาม
    ใบที่ 11 เป็นปรอทลม เป็นปรอทที่หาได้ยากมาก แต่คุณวิเศษมาก เป็นอาวุธของพรายน้ำ
    ปรอทไม่ยอมรวมตัวกัน กลายเป็นอากาศธาตุ
    จากนั้น พวกเราเห็นว่าได้ปรอทไม่มากนัก จึงพูดคุยกันว่า จะกลับไปกู้ไข่อีก 3 ใบที่แตก มาให้ท่าน
    จึงพากันไปกู้มาให้ท่าน และแล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น
    ไข่ที่ไปกู้มาทั้ง 3 ใบ เมื่อท่านใช้น้ำเลือดของท่านล้างเอาดินที่ตกลงในไข่ออก
    ปรากฏว่า มีปรอทจับตัวกันเป็นแพใหญ่มาก แวววาว และมีขนาดใหญ่มาก
    ท่านบอกว่า มีมากกว่าทั้ง 11 ใบอีก
    ท่านพยายามจะจับพญาปรอทลงในชามที่มีเลือดอยู่ ครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่สำเร็จ
    มีครั้งหนึ่งเกือบจะจับใส่ชามได้แล้ว ปรากฏว่า ตัวปรอทแบ่งตัวออก
    เพื่อให้หลุดพ้นจากการจับของท่าน
    ท่านบอกว่า พวกมันสามารถรวมตัวและแยกตัวได้ เวลามีภัยมา
    จากนั้นท่านก็บอกว่า พอแล้ว ไม่ไหวแล้ว
    สุดท้าย ก็แยกย้ายกันกลับบ้านเวลา 22.00 น.
    เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ของพวกกระผมที่จะจดจำไปตลอดชีวิต
    พวกกระผมขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาขององค์หลวงปู่พุทธะอิสระมาก
    ที่ได้มอบประสบการณ์ทางจิตวิญญาณให้พวกกระผมในครั้งนี้
    บันทึกโดย เฮียหมู
    ปรอทสำเร็จ เป็นวิชาการทำปรอทให้แข็งตัว สมัยโบราณหลายๆท่านที่ศึกษาเรื่องปรอทนี้ก็คงจะ
    เคยได้ยินการจับปรอทในแหล่งน้ำคลำสกปรกใต้ถุนบ้านหรือตามแหล่งน้ำเน่าต่างๆ โดยการเอา
    ไข่เป็ดเจาะรูหลายๆฟองแล้วนำไปแช่ในแหล่งน้ำสกปรกดังกล่าว


    ปรอทเป็นธาตุที่ชอบกินของสกปรกเน่าเหม็นจะเข้าไปตามรูที่เจาะบนไข่นั้นแล้วพอกินเนื้อในไข่
    ปรอทจะออกจากไข่ไม่ได้ เคยมีผู้ทดลองทำมาแล้วแต่ได้ปรอทมาในปริมาณไม่มากนัก


    การทำปรอทให้แข็งตัว ในภาษาไสยศาตร์เรียกว่า "การฆ่าปรอท"ด้วยการนำว่านยาบางชนิดมา
    ใช้ฆ่าปรอทเพื่อให้ปรอทแข็งตัว เช่น ว่านเพชรหึง เหตุที่ต้องทำให้ปรอทแข็งตัวนั้นเพราะ
    จะได้สามารถพกพาปรอทไปได้ในทุกๆ ที่ ซึ่งการทำปรอทให้แข็งตัวนั้นมีหลายวิธี อีกวิธีหนึ่งคือ
    การเสาะหาสถานที่หุงปรอท นั่นคือ ถ้ำที่มืดทึบซึ่งจะต้องเป็นถ้ำที่เข้าตำราโบราณ ที่เรียกว่า
    "ถ้ำลอด-ปรอทขาว" และผู้ที่ฆ่าปรอทตายและให้แข็งตัวได้เราจะเรียกผู้นั้นว่า "ผู้สำเร็จปรอท"
    โดยอิทธิฤทธิ์ของปรอทสำเร็จมีดังนี้คือ

    ผู้สำเร็จปรอท จะสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ เดินทางไปไหนมาไหนได้รวดเร็วกว่าคนปกติ
    อีกทั้งความเหนื่อยล้าเป็นไม่มี มีความเชื่อว่าปรอทคือเครื่องสะพายแล่งของพญายมราช ดังนั้น
    ภูติผีปีศาจจึงพากันเกรงกลัวยิ่งนักหากที่ใดที่มีคนถูกผีเข้าเจ้าสิง หากนำปรอทเข้าไปใกล้ตัวคน
    ที่ถูกผีเข้าผีจะรีบหนีออกไปทันที การเลี้ยงปรอทนั้นท่านว่าให้เอาทองคำเปลว มาวางไว้ใกล้ๆ
    กับก้อนปรอทนั้น ไม่ทันไรแผ่นทองคำเปลวจะอันตรธานหายไปเองอย่างไม่ทราบสาเหตุ การให้
    ทองคำเปลวแก่ปรอทกินเป็นอาหารหากวันใดลืมให้แล้วมาให้วันต่อมาปรอทจะกินทองคำเปลวจุ
    มากคือกินแผ่นทองคำเปลวทีเดียว 2 แผ่นเลย ปรอทสามารถเตือนภัยให้กับเจ้าของได้และเตือน
    ได้ทั้งเรื่องโชคชะตาของเจ้าของว่าช่วงนั้นดีหรือร้ายเพียงใด
    และแน่นอนเรื่องป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ ให้กับเจ้าของปรอท ปรอทก็สามารถป้องกันได้เช่นกัน

    ปรอทเป็นของเหลวและไหลกลอกกลิ้งได้เช่นเดียวกับน้ำ หลักวิทยาศาสตร์ปรอทนั้นจะมี
    อาการหดตัวเมื่อถูกความเย็นและพองตัวเมื่อถูกความร้อน ตามวิชาการแพทย์ก็ต้องใช้
    ปรอทเป็นเครื่องวัดระดับความร้อนของคนไข้ หลักอุตุนิยมวิทยาก็ใช้ปรอทเป็นเครื่องวัด
    อุณหภูมิเป็นต้น

    เพราะการคุมตัวกันไม่ติดของปรอท และเป็นธาตุชนิดหนึ่งที่มีอาการประหลาดนี้เอง ใน
    โบราณกาลจึงถือว่าปรอทนั้นหากผู้ใดมีวิชาสามารถทำการคุมตัวกันได้ และประกอบพิธี
    โดยหลักไสยศาสตร์ อันถูกต้องครบถ้วนแล้ว ฤทธิ์อันเกิดจากวิทยาคมซึ่งรวมอยู่
    ในปรอทนั้นอาจจะสามารถนำผู้ที่เป็นเจ้าของให้เกิดอิทธิฤทธิ์และกระทำปาฏิหาริย์ต่าง
    ๆได้ ดังอุปเท่ห์โบราณดังนี้

    ผู้ใดอมปรอทไว้
    1.ผู้นั้นจะมีรูปร่างดังพระมหาจักรพรรดิ (หมายถึง ความมีเดช ฤทธิ์ และความงามเป็นที่
    เสน่หากระมังอันนี้รวมถึงอานุภาพที่คล้ายกับเหล็กไหลในตำนานที่เด่นเรื่อคุ้มครองป้อง
    กันภัยด้วย)

    2.เสียงไพเราะ ดังท้าวมหาพรหม (หมายถึง พูดถูกใจบุคคล เป็นเสน่ห์ พูดอะไรมีคนเชื่อ
    ถือกระมัง)
    3.ไปป่าหิมพานต์ยาม ๑ ก็ถึง (คงหมายถึงการทำปาฏิหาริย์ ล่องหน)
    4.ไป ๔ ทวีป ในนิ้วมือเดียว (เช่นเดียวกับข้อ ๓ หรืออาจหมายถึงกายทิพย์ก็ได้)
    คิดอะไรก็จะสำเร็จสมปรารถณาทุกประการณ์
    ว่านเพชรหึง

    เนื้อหาและรูปภาพจาก ว่าน สมุนไพรและไม้มงคล > ว่านเพชรหึง [Engine by iGetWeb.com]





    เป็นไม้ประดับหายาก และเป็นสมุนไพรแก้พิษงู ตะขาบหรือแมงป่องต่อย โดยนำลำต้นมาฝนกับเหล้าดื่มหรือใช้กากพอกปากแผล ช่วยถอนพิษ หรือฝนน้ำซาวข้าวทาพอกฝี เป็นยาเย็นช่วยดับพิษทั้งปวง ลำต้นกับก้านใบหั่นบางๆล้างน้ำให้สะอาดแล้วใส่โหลดองกับเหล้าไว้ดื่มเป็นประจำช่วยขับลมในลำไส้และบำรุงกำลัง ถ้ากินเป็นประจำเป็นยาอายุวัฒนะ
    ความเชื่อเมื่อออกดอกจะมีอานุภาพมาก เพราะเมื่อลมพัด ดอกที่มีลักษณะคล้ายหัวงูจะส่ายไปมา ยามที่ดอกแก่จัดใกล้หลุดร่วงจะเกิดลมพายุใหญ่ที่เรียกว่าลมเพชรหึง ซึ่งเป็นช่วงที่มีพิษร้ายแรงมาก เชื่อว่าช่อดอกอาจฉกทำให้คนตายได้ นิยมใช้ฆ่าปรอททำให้ตายเป็นกายสิทธิ์ โดยนำปรอทมาห้อยไว้ให้ดอกฉกและแทงให้ถูกปรอท ทำซ้ำจนกว่าปรอทจะแข็ง
    ขั้นตอนการทำเบี้ยแก้ของหลวงปู่ญาท่านสวน วัดนาอุดม permalink

    --------------------------------------------------------------------------------

    มวลสารและวิธีการสร้างเบี้ยแก้

    1. ตัวเบี้ย เบี้ยตามความหมายของพจนานุกรม คือ ชื่อหอยน้ำเค็มกาบเดียวมีอยู่หลายชนิดผิวแข็ง ผิวเป็นมัน หลังนูนท้องแบนเรียกรวมๆว่า

    หอยเบี้ยแต่หอยชนิดที่นำมาทำเบี้ยแก้นี้ ท่านให้เอาเบี้ยจั่น เพราะคนโบราณท่านถือว่าเป็นวัตถุกลางที่ใช้สำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งของ ก่อนการใช้เหรียญกษาปณ์หรือธนบัตรใน
    ปัจจุบันแต่คำว่าเบี้ยก็ยังเป็นคำที่ใช้ แทนสื่อความหมายของเรื่องเงินๆทองๆมาจนถึงปัจจุบันนี้ เช่นเบี้ยเลี้ยง เบี้ยบำนาญ เบี้ยหวัด เบี้ยประกัน เป็นต้น เมื่อได้เบี้ยตามต้องการแล้วก็นำ
    มาปลุกธาตุหรือปลุกเสกเพื่อเรียกวิญญาณคืน เบี้ย

    2. ปรอท เป็นธาตุโลหะลักษณะเป็นของเหลวสีเงิน สารประกอบปรอทเป็นพิษ แต่บางเบาเป็นยาโดยปริยาย หมายถึงอาการที่เป็น
    ไปอย่างรวดเร็วว่องไว ปรอทที่นำมาบรรจุในเบี้ยแก้ครั้งนี้ เป็นปรอทที่ไปดักตามธรรมชาติ ผู้ที่เดินทางไปดักปรอทธรรมชาตินี้ ท่านเป็นอาจารย์ฆารวาสที่มีอำนาจจิตสูงท่านหนึ่ง ซึ่งได้
    มีโอกาสเดินป่าอยู่เป็นประจำ อีกทั้งท่านยังได้เล่าเรียนและสืบทอดวิชา การสร้างเบี้ยแก้นี้จากครูบาอาจารย์สายอีสานแถบลุ่มแม่น้ำโขงอีก ด้วย ท่านต้องใช้ความพยายาม และวิริยะ
    อุตสาหะ อย่างยิ่งที่จะนำปรอทมาถวายหลวงปู่ญาท่านสวน ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปดักปรอทในป่านั้น จะต้องบวงสรวงเจ้าป่าเจ้าเขา เทพยาดา เทวดาผู้พิทักษ์รักษาป่าแห่งนั้นเสียก่อน จึง
    จะเข้าไปดักปรอทได้ จากนั้นจึงนำไข่มาเสกด้วยคาถาไชดักปรอท แล้วใช้เข็มเจาะรูเล็กๆ คราวนี้จะต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวสังเกตว่าที่แห่งใดจะมีปรอทอาศัยอยู่ ซึ่งส่วนมากจะ
    เป็นบริเวณที่มีซากพืชเน่าเปื่อย บริเวณที่มีปรอทจะสังเกตุเห็นเป็นพรายน้ำเรืองแสง เมื่อมั่นใจแล้วจึงนำใข่ที่เจาะรูแล้วไปฝังในดินบริเวณนั้นสัก 2-3 วัน จึงกลับมากู้ไข่ดักปรอท
    เมื่อมีปรอทอยู่ในบริเวณนั้นก็จะลงไปกินใข่เน่าแล้วจะออกไม่ได้เพราะได้ลง คาถาปิดปากไชเอาไว้ ในการดักแต่ละครั้งในไข่แต่ละฟองจะได้ปรอทเท่ากับหัวไม้ขีดสถานที่ที่ได้มา
    ของปรอทคือ ภูหางสง ภูงอย อยู่ในประเทศลาว และ ภูผักแพรว อ.ช่องแม็ก อุบลราชธานี เมื่อได้ปรอทจำนวนมากแล้วนำมาเทรวมกัน และบรรจุใส่ในกระเพาะวัวรัดปากใว้แล้วนำ
    ไปต้ม ผูกเชือกแขวนที่ปากปี๊ปสุมไฟตลอด พร้อมกันนั้นจะต้องสวดด้วยคาถาคุมปรอท ซัดว่านด้วยว่านคางคก ว่านทรหด และว่านอื่นๆ ที่ไม่สามารถนำมาเผยแพร่ได้ ทำจนปรอท
    แข็งตัวเป็นก้อน เป็นการกันไม่ให้ปรอทหนี ก่อนที่จะนำปรอทไปบรรจุในตัวเบี้ย ก็จะต้องนำปรอทที่แข็งตัวก้อนนั้นมาขยำด้วยน้ำมะนาวสด เพื่อล้างเอาขี้ปรอทออกอีกครั้ง จากนั้น
    ปรอทที่แข็งตัวก็จะกลับเป็นของเหลวกลายเป็นปรอทบริสุทธิ์

    3. ขั้นตอนการบรรจุปรอทเข้าไปในตัวเบี้ย ในขณะบรรจุปรอทต้องภาวนาคาถากำกับ เช่น พุทธังบรรจุ อธิษฐานมิ
    ธัมมังบรรจุ อธิษฐานมิ สังฆังบรรจุ อธิษฐานมิ จากนั้นจึงปิดทับด้วยชันโรง

    4. ชันโรง คือชื่อผึ้งขนาดเล็ก ซึ่งมีลำตัวยาวไม่เกิน 10 มิลลิเมตร ชอบกินน้ำหวานจากเกสร ดอกไม้มัก
    อยู่รวมกันเป็นฝูง โดยปกติแล้วตัวชันโรงจะชอบอยู่ตามที่ที่มีความเงียบสงบไม่ชอบให้ใครรบกวน เมื่อถ่ายออกมาจะเป็นสีดำ มีความเหนียว และมีกลิ่นหอมน้ำหวาน ด้วยเหตุนี้เอง
    โบราณจารย์ท่านจึงนำมาปิดปากเบี้ยเพื่อกันปรอทไหลออกมา สำหรับชันโรงที่นำมาประกอบพิธีกรรมในครั้งนี้เป็น ชันโรงเพียงดิน ซึ่งเป็นชันโรงที่อยู่กลางแจ้ง ไม่สะทกสะท้านต่อ
    สิ่งแวดล้อมต่างๆ เชื่อกันว่าชันโรงชนิดนี้มีคุณในตัวเองและหายากมาก ก่อนนำไปปิดปากเบี้ยให้นำชันโรงมาเสกด้วยเสกด้วยคาถาเดียวกันกับคาถาบรรจุ ปรอท

    5. นำแผ่นตะกั่วบางๆ
    มาลงอักขระ ด้วยยันต์นะซ่อนหัว หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่านะใต้น้ำ ล้อมรอบด้วยธาตุสี่คือ นะมะพะทะ เสร็จแล้วจึงนำไปปิดทับปากเบี้ยอีกชั้นหนึ่ง

    6. เมื่อเสร็จตามขั้นตอนดังกล่าว
    แล้วให้นำมาปลุกเสกด้วยธาตุ จนปรอทแข็งตัวเป็นเม็ดจะสังเกตุได้ว่าก่อนนำมาปลุกเสกเมื่อเขย่าจะมีเสียง ดังขลุกๆเป็นเสียงน้ำกลิ้งไปกลิ้งมา แต่เมื่อปลุกเสกสำเร็จแล้วจะมีเสียง
    แซ็กๆคล้ายดั่งเสียงเม็ดทราย หรือบางตัวเสียงค่อนข้างทึบเพราะอาจมีปรอทมากไป

    7. จากนั้นจึงนำมวลสารมาบรรจุเพิ่มเติม คือผ้าอาบน้ำของหลวงปู่ ผงปถมังที่หลวงปู่ท่านเขียนและ
    ลบเอง ชานหมาก ผงพุทธคุณต่างๆ ผงแร่ใต้น้ำ แร่บนเขา เส้นเกศา ตะกรุด 1 ดอก เข็มโลกธาตุ 1 เล่ม ยังได้อัญเชิญ พระอุปคุตเถระ (เหรียญกลีบบัว ปี2540 เป็นเหรียญสุดยอด
    ประสบการณ์) มาประดิษฐานอยู่บนตัวเบี้ย จากนั้นจึงทำการถักเชือกหุ้มตัวเบี้ย

    8. นำชันโรงแข็ง ซึ่งได้มาจากปล่องทางเดินของตัวชันโรง จากใต้น้ำและที่ขึ้นสู่อากาศ และ ชันโรง
    เพียงดินซึ่งอยู่กลางแจ้ง จะมีลักษณะแข็งคล้ายครั่ง แต่มีสีน้ำตาล นำมาตำให้ละเอียดกับตัวทำละลายให้เหลวเป็นน้ำ แล้วนำไปชุบตัวเบี้ย ผึ่งลมให้แห้ง

    9. นำเบี้ยทั้งหมดไปถวาย
    ให้หลวงปู่ญาท่านสวน อธิฐานจิต ปลุกเสกเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2547 เป็นอันเสร็จพิธี การสร้างเบี้ยแก้นั้นมีมาตั้งแต่โบราณกาล แต่จะมีเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ ใดไม่มีหลักฐานระบุอย่าง
    แน่ชัด จุดมุ่งหมายในการสร้างเบี้ยแก้ของบูรพคณาจารย์ แต่ละสำนักนั้นมีจุดมุ่งหมายอันเดียวกัน นั่นก็คือ เครื่องรางที่ใช้สำหรับป้องกันการทำคุณไสยยาสั่ง แก้เหตุร้ายให้กลับกลาย
    เป็นดี อีกทั้งยังมีพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยมอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดและป้องกันอันตรายทั้งปวง แต่สำหรับการสร้างเบี้ยแก้ของวัดนาอุดมในครั้งนี้ นอกจากจะมีจุดมุ่งหมาย
    อันเดียวกันกับสำนักต่างๆแล้ว เบี้ยแก้ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง ทำให้บังเกิดโชคลาภสักการะ เรียกทรัพย์ เรียกเงิน เรียกทอง สื่อถึงความร่มเย็นเป็นสุข อีกทั้งยังเป็น
    ตัวแก้และกัน สิ่งชั่วร้ายต่างๆ ป้องกันภูตผีปีศาจ ผีพราย ป้องกันไข้ป่า ป้องกันสัตว์มีพิษต่างๆ ป้องกันตัวทากมิให้เกาะในขณะเดินป่า โดยเฉพาะผู้เดินป่าสมัยก่อนอันตรายมาก
    ในขณะนั่งทำภารกิจส่วนตัว พวกตัวทากจะกระโดดเกาะและดูดเลือด การสร้างเบี้ยแก้ในครั้งนี้นอกจากจะสร้างตามตำราที่กำหนดโดยเคร่งครัดแล้ว ยังได้เพิ่มมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
    บรรจุในเบี้ยแก้เช่น ผ้าอาบน้ำหลวงปู่ญาท่านสวน ผงปถมังที่หลวงปู่ท่านลบเอง ผงชานหมาก ผงพุทธคุณต่างๆเส้นเกศา ผงแร่ใต้น้ำ ผงแร่บนเขาต่างๆ ตะกรุด1ดอก เข็มโลกธาตุ 1 เล่ม
    และที่สำคัญได้อัญเชิญ พระอุปคุตเถระ ผู้ปราบพญามารซึ่งเชื่อกันว่าท่านยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ และสถิตอยู่ ณ.วิมานแก้วเจ็ดชั้น ใต้สะดือทะเล ซึ่งมีกุ้งหอยปูปลาเป็นบริวาร มา
    ประดิษฐานที่ปากเบี้ยแก้ด้วยความมั่นใจและปรารถนาที่อยากให้เบี้ยแก้นี้ ทรงอนุภาพศักดิ์สิทธิ์ ปกป้องคุ้มครองและใว้เป็นสมบัติอันหวงแหนแก่ผู้ที่นำไปสักการะบูชา และจะเป็นที่
    สืบเสาะแสวงหาภายในอนาคตข้างหน้า เบี้ยแก้องค์ครู ด้านหลังปิดด้วยพระอุปคุต ตอกโค๊ตกันปลอม ถักเชือกหุ้มลงรักยางไม้ แบบนี้สร้างไว้น้อยมาก(แจกกรรมการ) มีทั้งถักแบบมี
    หูและไม่ไมีหู มักมีใช้กันเฉพาะหมู่ศิษย์ ส่วนเบี้ยแก้แบบธรรมดานั้นด้านหลังไม่มีพระอุปคุตครับถักเชือหุ้มหลังปิดหมด ฉนั้นเบี้ยแก้องค์ครูนี้ต้องห้อยคอนะครับ ห้ามแขวนเอว
    พุทธานุภาพของเบี้ยแก้ใช้ได้สารพัดยิ่งกว่าฝอยท่วมหลังช้าง เป็นโชคลาภ ดูดเงินดูดทรัพย์ ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ ป้องกันอาถรรพ์ร้ายและภูตผีปีศาจ ขึ้นชื่อว่าเบี้ยแก้ แก้ได้ทุก
    ชนิด เช่นแก้พิษ แก้ดวงตก แก้คุณไสย์ดำ ฯลฯ ยิ่งได้บารมีพระอุปคุตมาด้วยแล้วยิ่งแรงไปใหญ่ หาไว้ใช้ติดตัวเถิดดีแน่นอนครับ ไม่ต้องไปตามหาเบี้ยแก้พระเกจิดังในอดีตให้เหนื่อย
    ได้มาก็ดูไม่เป็นไม่มั่นใจ ใช้เบี้ยแก้รุ่นใหม่ของญาท่านสวนนี่แหละครับ รับรองไม่เป็นรองใคร
    ข้ออธิบายต่อไปนี้ คัดลอกจากต้นฉบับเดิมของวัดกลางบางแก้ว เพื่อให้ท่านที่มีเบี้ยแก้ได้ทราบถึงอิทธิคุณและการใช้อย่างถูกต้อง อันจะบังเกิดผลดีแก่ผู้ใช้





    เบี้ยแก้ คือ เครื่องรางชนิดหนึ่ง ซึ่งมีอุปเท่ห์การใช้มากมายหลายอย่าง ทั้งกันและแก้สิ่งชั่วร้ายเสนียดจัญไร คุณไสย คุณคน คุณผี บาเบื่อ ยาเมา ทั้งหลาย คณาจารย์ยุคเก่าที่สร้างเครื่องรางประเภทเบี้ยแก้
    เอาไว้มีด้วยกันหลายรูป แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เห็นจะมีอยู่เพียง ๒ รูปคือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว และหลวงปู่รอด วัดนายโรง

    นอกนั้นก็มีชื่อเสียงอยู่เฉพาะพื้นที่ เช่น หลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ จ.อ่างทอง , หลวงพ่อม่วง, หลวงพ่อทัต, หลวงพ่อพลอย วัดคฤหบดี บางยี่ขัน, หลวงพ่อแขก วัดบางบำหรุ, หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ, หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน จ.อ่างทอง และมีอาจารย์อื่นอีกที่สร้างได้แต่ไม่แพร่หลาย

    วิธีการสร้างเบี้ยแก้

    เมื่อหาตัวเบี้ยมาได้แล้ว (เบี้ยพวกนี้ไม่ค่อยพบในบ้านเรา สมัยก่อนต้องหาซื้อตามร้านเครื่องยาจีน เข้าใจว่าเบี้ยที่นำมาใช้นี้จะถูกนำเข้ามาพร้อมกับสินค้าจากประเทศจีนในอดีต.....) คณาจารย์ผู้สร้างก็บรรจุปรอทที่ปลุกเสกแล้วเข้าไปในตัวเบี้ย แล้วหาวิธีอุดมิให้ปรอทไหลออกมาได้ (ปรอทที่ใช้นี้เป็นปรอท หรือปรอทดินโบราณมีวิธีการจับปรอทโดยนำไข่เน่าไปทิ้งไว้ในน้ำครำไม่ช้าปรอทจะกินไข่เน่าจนเต็ม)ปรอทมีคุณสมบัติเป็นของเหลวลื่นไหลการจะนำปรอทมาบรรจุเบี้ยแก้ คณาจารย์ผู้สร้างจำต้องมีพระเวทเข้มขลัง เพราะต้องใช้พระเวทฆ่าปรอทหรือบังคับให้ปรอทรวมตัวกันอยู่ในเบี้ยบางราย ถึงกับบริกรรมพระเวทเรียกปรอทเข้าในตัวเบี้ยได้เอง การปิดปากเบี้ยเพื่อกันไม่ให้ปรอทไหลออกมาได้นั้นนิยมเอาชันโรงใต้ดิน ที่ปลุกเสกแล้วมาอุดใต้ท้องเบี้ยให้สนิทเรียบร้อย แล้วจึงหุ้มด้วยวัสดุอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ผ้าแดง แผ่นตะกั่วแผ่นทองแดง วัสดุที่ใช้หุ้มหรือปิดนี้ก็ต้องลงอักขระเลขยันต์และปลุกเสกกำกับด้วย เช่นเบี้ยแก้หลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้วจะมีลวดทองแดงขดเป็นห่วง ๓ ห่วง เพื่อให้ใช้เชือกคล้องคาดเอวเบี้ยแก้ที่ผ่านการบรรจุปรอทจนกระทั่งถักหุ้มเรียบร้อยแล้ว ก็ยังไม่ถือว่าเสร็จสิ้นขึ้นตอนกรรมวิธี เพราะคณาจารย์เจ้าผู้สร้างท่านต้องปลุกเสกกำกับอีกจนมั่นใจว่าใช้ได้จริงๆ แล้วเล่ากันว่า คณาจารย์บางรูปและสามารถปลุกเสกเบี้ยแก้จนตัวเบี้ยคลานได้เหมือนหอย



    - ป้องกันอัตวิบากกรรม แก้ภาพหลอน จิตรหลอน ภาพอุปทาน แก้อำนาจภูผีปีศาจ อาถรรพณ์เวททำให้
    มัวเมาขลาดกลัว ขนพองสยองเกล้า ลมเพลมพัด คุณไสย คุณผี คุณคนทั้งปวงอุบาทวเหตุ อุบาทวภัย
    ทั้งปวง มัวเมายาพิษ ยาสั่งทั้งหลาย ไข้ป่า ไข้ป้าง ไข่ผีป่า ผีโป่ง ผีปอบ ต้องกระทำจากภูตผี ผีพราย
    ผีตายโหง กองกอยวิกลจริต จิตวิกลวิกาล วิญญาณ อุปาทานวิกลเหมือนผีเข้าเจ้าสิงสู่ปราศจากสิ้นแล

    - ให้อธิษฐานเอาน้ำมนต์ เอาดอกพุทธรักษาดอกไม้ ดอกเข็มแดงหลากสี ตั้งขันธูปเทียน ขันห้า
    ข้าวตอก ดอกไม้แก้บาทวพิษ บาทยัก อัมพาต บาดแผล ฝีมะเร็ง ฝีคุณ หัวพิษ หัวกาฬ ทรางชัก
    รางขนพอง สันนิบาตลูกหมา ลูกนก หลังแอ่น คางแข็ง บ้าหมู ภายนอกภายใน อาบกินด้วย ตั้งจิตหน่วงลง
    ในคุณพระศรีรัตนตรัยใช้ได้แล

    - เมื่อเข้าศึกสงครามให้เอาไว้ด้านหน้าสารพัดศัตรู บีทาย่ำรุกไล่ให้เอาไว้ด้านหลัง หาเจ้าฟ้ามหากษัตริย์
    เจ้าขุนมูลนาย ให้เอาไว้ด้านข้างขวา เมื่อหาหญิง หานางพญาไว้ข้างซ้าย สารพัดศาสตรามิต้องข้างกายเลย
    ดุจฝนเสนห่า ข้าวปลาอาหารเป็นพิษ คางแข็ง เคี้ยวไม่กลืนเลยแล

    - ปลิงก็ดี ทากร้ายก็ดี มีในป่ามืด ในน้ำห้วยหนอง คลองบึง มันไม่เก่าะกินเลือดทั้งวัวทั้งควาย ช้างม้า
    ก็ดีแล แก้งูพิษ เขี้ยวขนอน แมวเซา เห่าแก้วก็ดีมิต้องกายมาขบกัดเลยแล

    หนังสือเบี้ยแก้...อิทฤทธิ์วิทยาคมแก่กล้า แห่งการปกป้อง คุ้มครอง แก้ไข้สิ่งเลวร้าย


    เบี้ยแก้..และหมากทุยในเล่มนี้ได้รวบรวมภาพไว้มากมายซึ่งน้อยนักจะได้พบจากหนังสือเล่มใด ซึ่งเบี้ยแก้น้น เป็นอาถรรพณ์วัตถุที่ทำด้วยเบี้ยจั่น มีทั้งขนาดตัวใหญ่และเล็ก ภายในบรรจุด้วยปรอทแล้วปิดสนิทด้วยชันโรง เบี้ยแก้เป็นเครื่องรางของขลังประเภทหนี่ง ที่มีการค้นพบมาตั้งแต่สมัยอยุธยาหรืออาจจะลึกกว่านั้น

    เบี้ยแก้ซึ่งได้นับความนิยมเป็นที่ยอมรับ ทั้งอิทธิฤทธิ์ และคุณค่า ในการเสาะแสวงหา นั้นมีมากมาย แต่ที่นำมาเสนอในเล่มนี้ ล้วนเป็นเบี้ยแก้ของคณาจารย์ผู้ทรงคุณ สร้างเสกเบี้ยแก้ให้เรืองอานุภาพ เป็นที่ศรัทธาประจักษ์ต่อศักดาและพลานุภาพแห่งการปกป้อง แก้ไข สิ่งเลวร้าย มิให้กล่ำกลายฉมังนัก จนเป็นที่ใฝ่หาของผู้ศรัทธาสะสม

    เบี้ยแก้สูตร วัดกลางบางแก้ว (ของหลวงพ่อเจือ) ถ้าอยากได้ ต้องไปขอบูชาที่ กุฎิหลวงพ่อโดยตรง รับกับมือหลวงพ่อเพราะได้ข่าวว่า มีบุคคลภายนอก ทำการตีเบี้ยเอง ถักเชือกเอง ลงรักเอง ตอกโค๊ดเอง เหมือนของหลวงพ่อไม่ผิด โปรดระวัง



    หลวงปู่เจือ ท่านสืบสานกันมาตามตำราโดยตลอด นับจากหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม วัสดุสำคัญที่ใช้ในการทำเบี้ยแก้ ก็คือ เบี้ยแก้ขนาดกำลังพอดี สำหรับการกรอกปรอทให้ครบน้ำหนัก หนึ่งบาท ชันโรงสำหรับอุดปากเบี้ย แผ่นตะกั่วสำหรับตีปิดหุ้มตัวเบี้ย แล้วก็ปรอทที่ใช้ในการกรอกใส่ตัวเบี้ยครับผม ในภาพคือขั้นตอนที่หลวงปู่ท่านกรอกปรอทพร้อมบริกรรมคาถา



    เมื่อตีตะกั่วหุ้มเบี้ยเรียบร้อยแล้ว ก็จะเอาเบี้ยทั้งหมดใส่ถาดมาให้หลวงปู่จารอักขระและเ สกอีกครั้งก่อนห่อเบี้ยด้วยผ้าและส่งให้คนถักด้ายและติดห่วงและ ลงรักเป็นขั้นตอนสุดท้ายครับผม ภาพหลวงปู่เจือขณะจารเบี้ย
    มีคนโบราณเขียนถึงสรรพคุณของเบี้ยแก้ไว้ว่า...

    เบี้ยแก้ตัวนี้สำคัญนัก พ่อค้าแม่ขายจักหมั่นไหว้บูชา จะไต่เต้าเจ้าสัวแสนทะนาน ลาภเต็มห้อง ทองเต็มไห ขุนนางใดมีไว้ในตัว ดีนักแล จะให้คุณเป็นถึงท้าวเจ้าพระยา พานทอง........

    เบี้ยแก้ เป็นเครื่องราง...อย่างหนึ่งของไทยที่คุ้นหูในสมัยก่อน แต่สมัยนี้ ไม่ค่อยมีคนรู้จักกันแล้ว เกจิอาจารย์ท่านสร้างจากการบรรจุปรอท ที่ปลุกเสกแล้ว เข้าไว้ในตัวเบี้ยจั่น แล้วหาวิธีอุดไว้ไม่ให้ ปรอทหนีออกมาข้างนอก

    เวลาเขย่าจะได้ยินเสียงปรอทกระฉอกไปมาเสียงดังขลุกๆ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง เสียงหนักเบาขึ้นอยู่กับปริมาณมากน้อยของปรอทที่บรรจุ

    เสียงขลุกๆของปรอท ยังขึ้นอยู่กับฤดูกาล ถ้าเบี้ยแก้ตัวที่บรรจุปรอทมาก เขย่าในฤดูร้อน มักไม่ได้ยินเสียง แต่ถ้าเขย่าในฤดูหนาว เสียงจะดังฟังชัดเจน

    เบี้ยแก้บางตัว มีเสียงขลุกไพเราะ ขลุกหลายจังหวะ มีเสียงหนักเบาสลับกันไป เหมือนนักร้องมีลูกคอหลายชั้น หรือนกเขาเสียงคู่ เสียงเอกที่มีลูกเล่นหลายชั้น

    เบี้ยแก้ที่ขึ้นชื่อ มีหลายสำนัก หนังสือเปิดตำนานเครื่องรางของขลังเมืองสยาม คุณ สมชาย โตมั่น มีรายละเอียดว่า แต่ละสำนัก มีวิธีบรรจุปรอทและวิธีอุดต่างกัน

    เบี้ยแก้ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครชัยศรี เมื่อท่านบรรจุปรอทลงในเบี้ยจั่นแล้ว ก็เอาชันโรงใต้ดินที่ปลุกเสกแล้ว อุดยาบริเวณปากร่องใต้ท้องเบี้ย แล้วจึงหุ้มด้วยผ้าแดงลงอักขระเลขยันต์

    จากนั้นก็เอาด้ายถักหุ้ม ใช้ลวดทองแดงขดเป็นห่วงไว้คล้องคอหรือร้อยเชือกคาดเอว

    เบี้ยแก้สำนักที่ขึ้นชื่อไม่แพ้หลวงปู่บุญ คือเบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง อ.ตลิ่งชัน กทม. วิธีหุ้มเบี้ยด้านดอก อาจดูคล้ายกัน แต่ ด้านในแตกต่างกัน ของหลวงปู่รอดใช้แร่ตะกั่วหุ้ม แล้วลงอักขระลงบนพื้นตะกั่วรอบตัวเบี้ย

    คุณไชยรัตน์ โมไนยพงศ์ เป็นผู้หนึ่งที่สนใจศึกษาเบี้ยแก้ รวบรวมไว้ในหนังสือเครื่องรางของขลัง เท่าที่คุณไชยรัตน์สังเกต ยันต์ที่ลงมีทั้งยันต์ที่เป็นคาถาและยันต์ตาราง ยันต์ตารางมีทั้งสี่ช่องและเก้าช่อง

    เบี้ยแก้ตัวหนึ่ง คุณไชยรัตน์มั่นใจว่า เป็นของหลวงปู่บุญ เชือกที่ถักหุ้มผุกร่อนชำรุด จนหมดสภาพ เมื่อเปิดออกจึงเห็นยันต์ที่กำกับใต้ท้อง เป็นยันต์พุทธซ้อน และยันต์ท้อรันโต

    ยันต์ท้อรันโต ดีทางคงกระพัน ยันต์พุทธซ้อน ดีทุกด้าน หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่อศุข วัดมะขามเฒ่า ใช้เป็นยันต์ครู

    นอกจาก 2 สำนักนี้แล้ว ยังมี เบี้ยแก้วัดคฤหบดี วัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามท่าเทเวศร์ คุณสมชาย โตมั่น ยังตามสืบสาวไม่ได้ชัดเจนว่าหลวงพ่อชื่อใดสร้าง

    แต่นัยว่า ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่รอด วัดนายโรง ตัวเบี้ยเล็กกว่า และเบากว่า 2 วัดรุ่นอาจารย์ เส้นด้ายที่ถักหุ้มตัวเบี้ย หยาบกว่า มีทั้งลงรัก ปิดทอง และลงยางมะพลับ

    ลักษณะการหุ้มตัวเบี้ย เป็น 2 แบบ แบบแรกถักหุ้มทั้งตัวเบี้ย แบบที่ 2 ถักเหลือเนื้อเป็นวงกลมไว้หลังเบี้ย

    เสียงขลุกของปรอท มีจังหวะและน้ำหนักต่างจากสำนักวัดกลางฯและวัดนายโรง

    วิชาทำเบี้ยแก้ไม่แพร่หลายนัก นอกจาก 3 สำนักนี้แล้ว ยังมีเบี้ยแก้อีก 3 สำนักที่อ่างทอง แต่เพราะเบี้ยแก้มีจำนวนน้อย ประวัติการสร้างจึงไม่ค่อยชัดเจน

    เบี้ยแก้วัดนางใส อยู่หลังตลาด อำเภอวิเศษชัยชาญ ประวัติเท่าที่พอสืบสาวได้ หลวงพ่อผู้สร้าง มรณภาพไปนานแล้ว เป็นพระอุปัชฌาย์หลวงพ่อโปร่ง เจ้าอาวาสวัดท่าช้าง ปัจจุบัน

    เบี้ยแก้วัดนางใสไม่ได้ถักด้ายหุ้ม อุดด้วยชันโรงใต้ดินแล้วก็ให้หุ้มเลี่ยมด้วยเงิน ทอง หรือนาก เหลือเนื้อเบี้ยเป็นวงกลมไว้ด้านหลัง

    เบี้ยแก้วัดโพธิ์ปล้ำ ต.ท่าช้าง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลวงพ่อผู้สร้างเป็นอาจารย์ หลวงพ่อโปร่งเช่นเดียวกัน

    เบี้ยแก้วัดท่าช้าง...ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลวงพ่อโปร่ง ปัญญาธโร เจ้าอาวาสปัจจุบันสร้างไว้ ลักษณะเบี้ยแก้เหมือนของ 2 อาจารย์ผู้ประสาทวิชาให้

    คุณสมชาย โตมั่น บรรยายทิ้งท้ายไว้ว่า

    เบี้ยแก้เป็นอิทธิวัตถุชั้นหนึ่ง เตือนใจให้สะดุ้งกลัวภัยที่มองไม่เห็น หากบุคคลใด

    มีไว้เป็นสมบัติ นำติดตัวโดยคาดไว้กับเอวหรือโดยประการอื่น ย่อมปกป้องภยันตรายได้ทั้งปวง

    เป็นเมตตามหานิยม แคล้วคลาด มหาอุดคงกระพันทุกประการ คุ้มกันเสนียดจัญไร คุณไสย ยาสั่งและการกระทำย่ำยี ทั้งหลายทั้งปวงได้ชะงัด...นักแล.

    "บาราย"
    ชันโรง ชันโรงใต้ดิน

    เราจะสามารถพบเห็นรังของชันโรงได้ตามโคนตันไม้ใหญ่ๆ ตามโพรงของกิ่งไม้และบริเวณดิน ชันโรงใต้ดิน ตามธรรมชาติชันโรง เป็นชื่อของผึ้งชนิดหนี่งมีรังเป็นยางเหนียว สีน้ำตาลเข้มจนถึงดำ ชันโรง ส่วนใหญ่ทำรังบนต้นไม้ ชาว เรือเอาไปอุดรอยต่อของไม้กระดานเรือ มี 2 ชนิด

    คือชันโรงบนต้นไม้และ ชันโรงใต้ดิน ซึ่งชันโรงใต้ดินเป็นของอาถรรพณ์ ปกติชันโรง ใต้ดินอยู่ที่ไหนที่นั่นจะไม่ไหม้ไฟ ชันโรงใต้ดินมีอิทธิคุณ ตามธรรมชาติเป็นมหาอุด กันไฟ กันคุณไสยได้


    ในทางวิทยาศาสตร์ก็ให้ความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเลย
    คนโบราณ จึงนำ ชันโรง ใต้ดิน มาปิดปากเบี้ยไม่ให้ปรอทหนี ความจริงชันโรงเป็นชื่อของแมลงชนิดหนึ่งที่อยู่ในตระกลูผึ้ง มีขนาดลำตัวเล็กกว่าและไม่มีเหล็กในในตัวเอง นิสัยเป็นมิตร ไม่ดุร้าย มีวิถีชีวิตคล้ายคลึงกับผึ้ง เช่น มีนางพญา มีชันโรงงาน และมีชันโรงตัวผู้สามารถผลิตน้ำหวาน และขยายเผ่าพันธ์ ในลักษณะ เช่นเดียวกันกับผึ้ง ในสมัยโบราณเราสามารถพบตัวชันโรงได้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย

    ทางภาคเหนือจะเรียกว่า แมลงขี้ตังนี หรือแมลงขี้ตึง แปลว่าแมลงที่ผลิตหรือเก็บน้ำยางได้ ทางภาคอีสานเรียก แมลงขี้สูด นิยมนำมาอุดแคน หรือถ่วงเครื่องดนตรีประเภทระนาด โปงลาง
    ทำให้เกิดเสียงไพเราะ

    ส่วนภาคใต้เรียกตัว อุง ถ้าตัวเท่าแมลงหวี่เรียกอุงแมงโลม เพราะชอบมาตอมไต่ผู้คนเวลาเดินป่า ถ้าตัวใหญ่เรียก อุงหมี นอกจากนี้ บางพื้นที่ยังรู้จักในชื่อ ตัวชำมะโรง อีกด้วย

    ชันโรงที่เป็นของดีโดยธรรมชาติ ที่ไม่ต้องปลุกเสกคือ แมลงที่ทำรังในระดับทางเดินของคน มีชื่อเรียกภาษาอีสานว่า สูดเพียงดิน หมายถึงแมลงชนิดนี้ ทำรังระดับเดียวกันกับพื้นดิน

    แล้วทำท่อขึ้นมาจากพื้นดินครับ ซึ่งปกติแล้วแมลงชนิดนี้มักจะทำรังในที่สูงครับ เช่นโพรงไม้หรือจอมปลวกครับ สูดเพียงดิน นี้ค่อนข้างจะหายากครับ ถ้าใครเจอให้เก็บไว้เลยนะครับเป็นของดีจาก

    ธรรมชาติ เมื่อพบแล้วต้องทำพิธีกรรมตามตำรา แล้วขุดลงไป บางทีต้องขุดลึกถึง 1-2 เมตร จึงจะได้ชันโรงตามที่ต้องการ ส่วนชันโรงอีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาทำวัตถุอาถรรพ์ ก็คือ
    ชันโรงที่พบในโพรงไม้ที่ยืนตายซาก โบราณท่านว่าดีนักแล

    การทำชันโรงประกอบขึ้นเป็นวัตถุมงคลนั้นถือว่าเป็นพิธีกรรมที่สืบทอดมาแต่โบราณ ผู้ทำจะต้องทรงวิทยาคุณแก่กล้า และรู้จักวิธีการ "หา" ชันโรง ที่นิยมใช้กันมาแต่โบร่ำโบราณจะเป็นชันโรงใต้พื้นดิน โดยจะต้องเริ่มสังเกตโพรงบนพื้นดินที่ยื่นขึ้นมาเป็นรูปกรวย ซึ่งตรงกลางจะกลวง กรวยดินนี้จะกระจัดกระจายอยู่ในละแวกเดียวกันหลายกรวย ซึ่งก็คือทางเข้าออกของตัวชันโรงที่อยู่ใต้ดิน ให้สังเกตบริเวณใกล้ๆ กันนั้นมักจะมีจอมปลวกขึ้นอยู่ด้วยโบราณณาจารย์นิยมนำชันโรงมาอุดก้นพระชัยวัฒน์ พระกริ่ง เนื่องจากคติความเชื่อว่าชันโรงเป็นตัวช่วยป้องกันไม่ให้วัตถุที่ลงอาคม เม็ดกริ่ง กระดาษสาเขียนยันต์ ผงใบลาน พระคาถา ที่คณาจารย์ทำพิธีและบรรจุไว้ในพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ ตลอดจนวัตถุมงคลอื่นๆ หลุดออกไปจากวัตถุมงคลหรืออุดปรอทในเบี้ยแก้ เบี้ยจั่น

    ปัจจุบันจะหาใครทำชันโรงประกอบขึ้นเป็นสิ่งมงคลได้ยากแล้ว คนที่รู้จักก็น้อยลง และรังชันโรงก็ถูกตึกรามบ้านช่องรุกราน ต้องอพยพย้ายถิ่นฐานไปอยู่ตามท่อน้ำประปา หรือรูตามเสาไฟฟ้า ต้นไม้ที่จะเก็บยางก็ไม่มี จนดูท่าชันโรงอาจจะสูญสลายหายไปในที่สุด คติโบราณท่านถือว่านอกจากชันโรงจะช่วยปกปักรักษาของดีแล้ว ด้วยความที่ชันโรงเป็นแมลงไม่ดุร้าย จึงมีเสน่ห์ทางเมตตามหานิยมอีกด้วย

    ดังนั้น หากผู้ใดได้ครอบครองวัตถุมงคลที่ประกอบขึ้นด้วยชันโรงก็นับได้ว่าผู้นั้นได้ครบถ้วนแล้วซึ่งของที่มีคุณวิเศษและเมตตามหานิยมอีกด้วย ดั้งนั้น หากผู้ใดได้ครอบครองวัตถุมงคลที่ประกอบขึ้นด้วยชันโรงก็นับได้ว่าผู้นั้นได้ครบถ้วนแล้วซึ่งของที่มีคุณวิเศษและเมตตามหานิยม

    ชันโรงใต้ดิน

    ชันโรงเป็นแมลงตัวเล็กๆคล้ายผึ้ง ชอบกินน้ำหวานจากเกสรดอกไม้เหมือนกัน ทำรังอยู่ใต้ดิน จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม และมักชอบทำรังในบริเวณพื้นที่ค่อนข้างเงียบสงบ ห่างไกลจากผู้คนและสัตว์อื่นๆ

    เมื่อเวลามันถ่ายออกมาจะมีสีดำเหนียวมีกลิ่น หอมประหลาด ซึ่งมันก็จะนำไปสร้างรังให้กับพวกมันนั่นเอง โบราณถือกันว่าชันโรง เป็นของทนสิทธิ์ ทีอาถรรพ์ลี้ลับ อานุภาพของชันโรงใต้ดินนั้นดีทางป้องกันไฟ กันคุณไสยมนต์ดำ มหาอุด แคล้วคลาด นักไสยเวทย์นิยมนำมาอุดที่หลังเบี้ยแก้ และทำเครื่องราง
    ได้สอบถามจากคุณชัยวิทย์ ชันโรงที่นำมาอุดเบี้ยนั้น ได้รวบรวมได้ทุกชนิด ถือว่าเป็นการยากที่จะหาได้ทุกชนิด มีอะไรบ้างจะนำมาบอกอีกที
    ผงมหากันหลวง เป็นผงที่ทำตามตำราโบราณสายสมเด็จลุ่น เป็นผงที่ทำได้ยากยิ่งเพราะต้องหาตามที่ตำราบอกไว้ซึ่งต้องไปเอา ตามเขา ตามป่า ตามทะเล ตามจุดที่ได้ระบุไว้ เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ใช้ทั้งทุน ใช้ทั้งแรง อาจใช้ทั้งชีวิตเลยก็ได้ เพราะของส่วนมากทั้งสือสารกับพวกที่เฝ้ารักษาเทพ พวกผี อานุภาพจึงสูง ได้ใช้ผสมรวมกับชันโรง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  20. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ในเนื้อเหล็กที่จะตีเป็นดาบสายฟ้า ก็ได้ใส่ปรอทต่างๆลงไปด้วยครับ ที่อ่านมาข้างบนและปรอทหลวงปู่ละมัยด้วยครับ
    เป็นคตปรอทและปรอทครับได้จากคุณมารุณพงครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...