ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. kratium

    kratium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +3,670
    สาธุ อนุโมทนาด้วยค่ะ เพราะเก็บใบโอนเงินที่ได้ร่วมบุญต่างๆไว้ หลายใบ จะนำมาทำตามวิธีที่พี่พันวฤทธิ์ แนะนำค่ะ นอกจากได้อานิสงส์บุญตามที่พี่โพสท์แล้ว ยังทำให้นึกถึงว่าตัวเราสามารถฝึกตนเองในเรื่องการสละออกซึ่งทรัพย์ แล้วทำให้มีกำลังใจดีด้วยค่ะ ขอบคุณที่ให้แนวทางค่ะ
     
  2. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    สิ้นเดือนธันวาคมนี้จักโอนร่วมด้วยคนครับ

    มีความสุขจริงๆ ที่จะใกล้สิ้นเดือนครับ สร้างบุญสร้างกุศลครับ

    สาธุครับ

    ขออนุโมทนายิ่ง
     
  3. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    มีสิ่งละอันพันละน้อยจากน้อง kratium ส่งมาให้ น่าสนใจดี ใกล้ปีใหม่แล้ว อ่านแล้วสบายใจดีเหมือนกัน



    <CENTER>




    <TABLE bgColor=white><TBODY><TR><TD>
    <CENTER>[SIZE=+1]ปีใหม่ขอให้จิตใหญ่กว่าเดิม [/SIZE]
    พระไพศาล วิสาโล
    กลุ่มจิตวิวัฒน์
    </CENTER>

    </TD></TR><TR><TD width=800>


    มิตรผู้หนึ่งได้เล่าว่า ระหว่างที่เธอไปอภิปรายที่สถาบันทางวัฒนธรรมแห่งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ มีผู้ฟังตั้งคำถามขึ้นมาว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2007
  4. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096

    อยากให้ได้บุญและกุศลมากยิ่งขึ้น ต้องมาให้เห็นกับตาด้วย ประเคนท่านด้วยสองมือ แล้วจะเข้าใจกฏแห่งไตรลักษณ์ได้ดียิ่งขึ้น ขอเรียนเชิญล่วงหน้า จะได้พร้อมด้วยใจ และสติปัญญา
     
  5. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    ท่านผู้มาเยี่ยมชมใหม่ อย่าลืมขอพระพิมพ์ไว้เพื่อเป็นกำลังใจในการทำความดีด้วยครับ และขอถือเป็นการสวัสดีปีใหม่ ของคณะทำงาน ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ด้วยครับ pm. ไปที่คุณโสระผู้ใจดีที่ควักเงินส่วนตัวส่งพระพิมพ์ให้ ได้รับพระพิมพ์แล้ว ขอให้นึกตั้งใจทำความดี เอาท่านเป็นพยานบุญ เป็นกำลังใจ ของดีอย่างนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆ ปิดทอง เก็บรักษาท่านไว้ให้ดี แล้วมาเยี่ยมในกระทู้บ่อยๆ มีสิ่งละอันพันละน้อย ก็โพสท์มาได้เลย ยิ่งเป็นธรรมทาน ข้อเตือนใจให้ทำความดี ยินดีทุกโพสท์ครับ เพราะให้คณะทำงาน หาเรื่องราวมาลง บางครั้งจนแต้มเหมือนกัน
     
  6. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    ต้องรู้อยู่ตลอด

    ต้องรู้อยู่ตลอด

    โ ด ย : พระโพธิญาณเถร หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ อุบลราชธานี

    ถ้าหากว่า เราเผลอไปนาทีหนึ่ง ก็เป็นบ้านาทีหนึ่ง เราไม่มีสติสองนาที เราก็เป็นบ้าสองนาที
    ถ้าไม่มีสติครึ่งวัน เราก็เป็นบ้าอยู่ครึ่งว้น เป็นอย่างนี้
    สตินี้คือความระลึกได้ เมื่อเราจะพูดอะไร ทำอะไร ต้องรู้ตัวเราทำอยู่ เราก็รู้ตัวอยู่ ระลึกได้อยู่
    อย่างนี้คล้ายๆกับเราขายของอยู่ในบ้านเรา เราก็ดูของของเราอยู่คนจะเข้ามาซื้อของ หรือขโมย
    ของของเรา ถ้าเรา สะกดรอยมันอยู่เสมอเราก็รู้เรื่องว่าคนๆนี้ มันมาทำไม เราจับอาวุธ ของเราไว้
    อยู่อย่างนี้ คือเรามองเห็นพอขโมยมันเห็นเรา มันก็ไม่กล้าจะทำเรา อารมณ์ก็เหมือนกัน ถ้ามีสติรู้
    อยู่ มันจะทำอะไรเราไม่ได้อารมณ์มันจะทำให้เรา ดีใจอยู่อย่างนี้ตลอดไปไม่ได้ มันไม่แน่นอน
    หรอก เดี๋ยวมันก็หายไป จะไป ยึดมั่นถือมั่นทำไม อันนี้ฉันไม่ชอบ อันนี้ก็ไม่แน่นอนหรอก...
    ถ้าอย่างนี้ อารมณ์นั้นก็เป็นโมฆะเท่านั้น เราสอนตัวของเราอยู่ เรามีสติอย่างนี้เราก็รักษาอย่างนี้
    เรื่อยๆ ไป ตอนกลางวัน ตอนกลางคืน ตอนไหนๆ ก็ตาม
     
  7. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    อิทธิพลของสมาธิ

    อิทธิพลของสมาธิ

    โ ด ย : พระราชสังวรญาณ ( พุธ ฐานิโย ) วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา

    ขณะใดที่เราภาวนา แล้วจิตของเราสงบ นิ่ง สว่าง หรือไปรู้สึกนิ่งแจ่มๆ อยู่ในจิตในใจก็ตาม

    นั่นแสดงว่า จิตใต้สำนึกของเรากำลังเริ่มตื่นขึ้นแล้ว ทีนี้เมื่อเราฝึกต่อเนื่องกันทุกวัน จนคล่อง
    ชำนิชำนาญ เราสามารถทำจิตให้สงบได้ ตามที่เราต้องการ เมื่อจิตสงบลงนิดหน่อย เราจะน้อม
    ไปใช้ประโยชน์ในทางไหนก็ได้ อยากจะเป็นหมอรักษา คนไข้ ก็สำรวมจิต อธิษฐานแผ่เมตตา
    ให้คนไข้ แม้เพื่อนฝูงของเราเจ็บไข้ อยู่ในที่ห่างไกล เรานั่งสมาธิสำรวมจิต แล้วอธิษฐานจิตแผ่
    เมตตาให้เพื่อนของเราที่กำลังป่วยไข้ ก็สามารถที่จะหายได้
     
  8. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    ต้องอย่างนี้สิน้องโอ๊ต มาช่วยกันเผยแพร่ธรรมทาน หากแม้นมีผู้ที่เข้าใจจากร้อยแม้เพียงหนึ่ง ก็ได้บุญใหญ่แล้ว สมดังที่มีคำกล่าวว่า การให้ธรรมเป็นทาน ถือว่าเป็นยอดของทานทั้งปวง และยิ่งให้ผู้รับมีดวงตาเห็นธรรมด้วยแล้ว ยิ่งมีบุญใหญ่ และหากเป็นผู้มีพระคุณเช่นพ่อแม่ด้วยแล้ว บุญตามส่งนับชาติไม่ถ้วนเชียวละน้องเอ๋ย ให้คนอื่นแล้ว อย่าลืมพ่อแม่และผู้มีคุณตามแต่ละโอกาสด้วยน๊ะ พี่ขอสาธุกับเราล่วงหน้าด้วย....
     
  9. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    ในวันนี้ ณรงค์เวทย์ หรือน้องโอ๊ต ได้จุดประกายเรื่องธรรมทาน เชื่อมโยงไปถึงผู้ที่มีพระคุณ ซึ่งในเบื้องต้นทำให้นึกถึง พ่อแม่ ผู้ซึ่งเลี้ยงดูเรามา และนับเป็นผู้ที่มีพระคุณคนแรกของเรา ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ ขอให้อ่านบทกลอนตรงนี้ก่อน


    ความหวัง ของแม่


    พ่อแม่ทุกคน ที่เลี้ยงลูกมา ไม่เคยต้องการอะไรจากลูก
    ขอเพียงให้ลูกเป็นคนดี ประสบความสำเร็จในชีวิต
    พ่อแม่ ก็มีความสุขแล้ว
    พ่อแม่เลี้ยงลูกมา ไม่เคยต้องการอะไรจากลูก
    ไม่เคยอยากได้จากลูก เป็นหัวใจที่บริสุทธิ์ เสียสละ และมีแต่ให้
    ต้องการเห็นลูกได้ดี มีคุณภาพ มีความสุข เท่านั้น พอใจแล้ว

    เมื่อลูก ๆ เติบโตกันหมดแล้ว พ่อแม่ ก็เริ่มแก่ชรา
    ในช่วงนี้ พ่อแม่ แอบหวังลึก ๆ ไว้ในใจ 3 ประการ
    ลองคิดดูซิว่า จริงหรือไม่จริง
    3 ประการที่ว่านี้ มีอะไรบ้างครับ

    1. ยามแก่เฒ่า หวังเจ้า เฝ้ารับใช้
    ตอนที่ท่านยังหนุ่ม ยังสาว
    สามารถทำงานได้ ช่วยเหลือตัวเองได้

    แต่พอแก่
    เคยพายเรือขายขนม เคยหาบขนมขาย ทำไม่ไหวแล้ว
    แขนขา ก็อ่อนกำลัง ใช้งานไม่ค่อยได้
    ขึ้นบันได ก็ตกบันได
    อาบน้ำ ก็ล้มในห้องน้ำ
    เดิน ก็เซ ช่วยตัวเองไม่ได้
    พอหมดเรี่ยวหมดแรงแล้วนี่ จะพึ่งใคร
    หวังพึ่ง ลูก
    ลูก คนที่เราเคยเลี้ยง เคยทะนุถนอม
    เคยเหน็ดเหนื่อย หล่อหลอมมาด้วย 2 มือของเรา
    จนได้ดิบได้ดีในวันนี้
    หวังให้ลูก มาช่วยประคับประคอง ดูแล
    หาอาหาร ให้กิน เตรียมที่ ให้นอน ประคอง ขึ้นบันได

    คนอื่น เขาเป็นคนไกล ใคร เขาจะดูแลให้
    ก็หวังแต่ลูกในไส้ จะแทนคุณ
    รอ ลูกยอดกตัญญู มาดูแล
    มีลูก 5 คน มีแค่คนเดียว ก็ชื่นใจแล้ว
    อีก 4 คนไม่มา ก็ช่าง ไม่เป็นไร
    คนเดียว ก็พอแล้ว

    แต่ที่พวกเราเจอ ส่วนใหญ่ เป็นยังไง
    ลูก 5 คน ไม่มีสักคน ที่กตัญญู
    ซื้อลอตเตอรี่ 5 ใบ ไม่ถูกสักใบ

    ไปดูที่บ้านพักคนชราบางแคซิ เห็นภาพชัดเจน
    ทิ้งยายแก่ ตาแก่ เต็มไปหมด
    มีลูก 4 คน 5 คน แต่ลูกไม่เลี้ยง
    เขามีครอบครัว มีลูกมีเต้า เขาก็ดูแลครอบครัวของเขา
    เรา ก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่
    แต่ถึงจะไม่ค่อยมีความหวัง
    วันปีใหม่ วันสงกรานต์ วันพ่อวันแม่ ก็อดหวังไม่ได้
    แอบชะเง้อ ชะเง้อ ดูว่า จะมีลูกมาเยี่ยมสักคนหนึ่งไหม
    ปีหนึ่ง มาครั้งเดียว ก็ชื่นใจแล้ว

    แต่ตาแก่ยายแก่ที่ชะเง้อรอ ส่วนใหญ่ ชะเง้อแล้ว
    ผิดหวัง
    5 คน ไม่มาสักคน
    หัวใจห่อเหี่ยว ใจแฟบ แบนเป็นกระดาษ
    น่าสงสาร<O:p</O:p


    หลังจากนั้นตามเข้าไปอ่านใน..

    http://larndham.net/index.php?showtopic=24205&st=121


    อ่านได้ความอย่างไร แล้วช่วยบอกความรู้สึกกันบ้างน๊ะ
     
  10. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    พี่ครับตามที่ผมได้แจ้งเรื่องช่วยค่าส่งน่ะครับ
    ผมมีเลขบัญชีพี่โสระเมื่อคราวร่วมทำบุญคราวที่แล้ว
    ผมโอนเข้าบัญชีนั้นได้ไหมครับ
     
  11. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    คำอธิษฐานของหลวงปู่เกษม เขมโก

     
  12. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    เมื่อพระวินัยยังดำรงอยู่ พระพุทธศาสนา ชื่อว่าดำรงอยู่ตราบนั้น

    ครั้งหนึ่ง ท่านสารีบุตรไปในที่สงัดหลีกเร้นอยู่ ได้เกิดความรำพึงขึ้นมาในใจว่า

     
  13. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    ธรรมที่จะทำให้เป็นพระพุทธเจ้า

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top><HR>
    [​IMG]

    พุทธการกธรรม
    ธรรมที่จะทำให้เป็นพระพุทธเจ้า


    ๏ อัฏฐธรรมสโมธาน

    ความถึงพร้อมด้วยธรรม ๘ ประการ

    พระโพธิสัตว์ คือ ผู้ตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้า ความปรารถนานี้จะสำเร็จหรือไม่นั้น สิ่งหนึ่งที่จะบอกได้ คือ การได้รับพุทธพยากรณ์ ในชาติที่พระโพธิ์สัตว์จะได้รับพุทธพยากรณ์ (ครั้งแรก) นั้น นอกจากจะต้องบำเพ็ญบารมีมามากพอแล้ว ในชาตินั้นยังจะต้องถึงพร้อมด้วยธรรม ๘ ประการคือ

    ๑. เกิดเป็นมนุษย์

    ๒. เกิดเป็นชาย

    ๓. สามารถสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้ในชาตินั้น

    ๔. ได้พบพระพุทธเจ้า

    ๕. ได้ออกบวช

    ๖. สมบูรณ์ด้วยสมาบัติ ๘ อภิญญา ๕

    ๗. ยอมสละชีวิตตนเพื่อพระพุทธเจ้าได้

    ๘. มีฉันทะ วิริยะ อุตสาหะ แสวงหาอย่างใหญ่ เพื่อประโยชน์แก่พุทธการกธรรมทั้งหลาย


    ๏ พุทธการกธรรม

    พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ หลังจากที่ได้รับพุทธพยากรณ์ครั้งแรกว่า ท่านจะได้เป็นพระพุทธเจ้าแน่แท้ในอนาคต แล้วก็จะพิจารณา พุทธการกธรรม (ธรรมที่ทำให้เป็นพระพุทธเจ้า) ซึ่งพระโพธิ์สัตว์องค์ก่อนๆ ได้บำเพ็ญมาแล้ว ว่ามีอะไรบ้าง และจะต้องบำเพ็ญหรือปฏิบัติต่อข้อธรรมแต่ละข้ออย่างไร

    พระโพธิสัตว์จะพิจารณาพุทธการกธรรมทีละข้อๆ เมื่อพิจารณาจบแต่ละข้อ ก็จะหาต่อไปว่า ยังมีธรรมข้ออื่นที่ต้องบำเพ็ญอีกหรือไม่ ถ้าพบว่ายังมีอีก ก็จะพิจารณาต่อไปอีก จนครบทั้งหมด ๑๐ ข้อ ซึ่งก็คือ บารมี ๑๐ หรือ ทศบารมี นั่นเอง

    พุทธการธรรมที่พระโพธิสัตว์พิจารณา และเห็นว่าเป็นธรรมที่ต้องบำเพ็ญเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า มีดังนี้

    ๑. ทานบารมี ในข้อนี้พระโพธิ์สัตว์จะตั้งใจว่า นับแต่นี้ไป เราพึงบำเพ็ญทานบารมี เหมือนอย่าง หม้อน้ำที่มีน้ำเต็มแล้วคว่ำลง หม้อน้ำนี้ย่อมคายน้ำออกจนหมดสิ้นฉันใด เราก็พึงให้ทานแก่ยาจก โดยไม่มีส่วนเหลือฉันนั้น

    ๒. ศีลบารมี ในข้อนี้พระโพธิสัตว์จะตั้งใจว่า นับแต่นี้ไป เราพึงบำเพ็ญศีลบารมี เหมือนอย่าง จามรี ชื่อว่าจามรีย่อมไม่อาลัยแม้ชีวิต รักษาพวงหางของตนฉันใด เราก็พึงรักษาศีล โดยไม่อาลัยแม้ชีวิตฉันนั้น

    ๓. เนกขัมมบารมี ในข้อนี้พระโพธิสัตว์จะตั้งใจว่า นับแต่นี้ไปเราพึงบำเพ็ญเนกขัมมบารมี เหมือนอย่าง นักโทษ ที่ถูกขังและได้รับทุกข์ทรมานในเรือนจำเป็นเวลานาน เขาผู้นั้นย่อมไม่อยากอยู่ในเรือนจำ ต้องการพ้นออกไปฉันใด เราก็พึงเห็นภพทั้งปวงเป็นเสมือนเรือนจำ อยากพ้นไปจากภพทั้งปวงด้วยการมุ่งสู่เนกขัมมะฉันนั้น

    ๔. ปัญญาบารมี ในข้อนี้พระโพธิสัตว์จะตั้งใจว่า นับแต่นี้ไป เราพึงบำเพ็ญปัญญาบารมี เหมือนอย่าง พระภิกษุ พระภิกษุเมื่อออกบิณฑบาตโดยไม่เลือกตระกูลว่าจะมีฐานะสูง ต่ำ หรือปานกลาง ย่อมได้อาหารเพียงพอแก่อัตภาพฉันใด เราก็พึงเข้าไปหาบัณฑิตทุกท่าน เพื่อถามปัญหาฉันนั้น

    ๕. วิริยะบารมี ในข้อนี้พระโพธิสัตว์จะตั้งใจว่า นับแต่นี้ไป เราพึงบำเพ็ญวิริยะบารมี เหมือนอย่าง พญาราชสีห์ ชื่อว่าพญาราชสีห์ย่อมมีความเพียร ไม่ย่อหย่อนในอิริยาบถทุกเมื่อฉันใด เราก็พึงมีความเพียรอันมั่นคงในภพทั้งปวงฉันนั้น

    ๖. ขันติบารมี ในข้อนี้พระโพธิสัตว์จะตั้งใจว่า นับแต่นี้ไป เราพึงบำเพ็ญขันติบารมี เหมือนอย่าง แผ่นดิน ชื่อว่าแผ่นดินย่อมทนได้ต่อสิ่งของที่มีผู้ทิ้งลงไป ไม่ว่าจะสะอาดหรือสกปรกฉันใด เราก็พึงเป็นผู้อดทนต่อการยกย่องและการดูหมิ่นของคนทั้งปวงได้ฉันนั้น

    ๗. สัจจบารมี ในข้อนี้พระโพธิสัตว์จะตั้งใจว่า นับแต่นี้ไป เราพึงบำเพ็ญสัจจบารมี เหมือนอย่าง ดาวประกายพรึก ชื่อว่าดาวประกายพรึกย่อมไม่หลีกออกไปทางอื่น โคจรอยู่เฉพาะในทางของตนฉันใด เราก็พึงไม่ก้าวล่วงจากวิถีในสัจจะ พูดแต่ความจริงฉันนั้น

    ๘. อธิษฐานบารมี ในข้อนี้พระโพธิสัตว์จะตั้งใจว่า นับแต่นี้ไปเราพึงบำเพ็ญอธิฐานบารมี เหมือนอย่าง ภูผาหิน ชื่อว่าภูผาหินย่อมตั้งมั่นอยู่ได้ ไม่หวั่นไหวด้วยแรงลมฉันใด เราก็จงเป็นผู้ตั้งมั่นไม่คลอนแคลนในอธิฐานบารมีฉันนั้น

    ๙. เมตตาบารมี ในข้อนี้พระโพธิ์สัตว์จะตั้งใจว่า นับแต่นี้ไป เราพึงบำเพ็ญบารมี เหมือนอย่าง น้ำ ชื่อว่าน้ำย่อมทำให้รู้สึกและชำระฝุ่นผงทั้งแก่คนดีและคนไม่ดีเสมอกันฉันใด เราก็พึงแผ่เมตตาทั้งแก่คนที่ทำประโยชน์และคนที่ไม่ได้ทำประโยชน์เสมอกันฉันนั้น

    ๑๐. อุเบกขาบารมี ในข้อนี้พระโพธิสัตว์จะตั้งใจว่า นับแต่นี้ไปเราพึงบำเพ็ญอุเบกขาบารมี เหมือนอย่าง แผ่นดิน ชื่อว่าแผ่นดินย่อมวางเฉย ไม่รู้สึกยินดียินร้ายต่อสิ่งของที่มีผู้ทิ้งลงไป ไม่ว่าจะสะอาดหรือไม่สะอาดฉันใด เราก็พึงเป็นผู้วางเฉย มีใจเสมอกันทั้งในความสุขและความทุกข์ฉันนั้น

    เมื่อพิจารณาจนเห็นพุทธการกธรรมทั้ง ๑๐ ข้อนี้แล้ว พระโพธิสัตว์ก็รู้ว่าธรรมทั้งหลายที่พระโพธิสัตว์องค์ก่อนๆ ได้บำเพ็ญ มาแล้ว เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้ามีเพียงเท่านี้ ไม่มีข้ออื่นอีก และธรรมเหล่านี้ ก็ไม่ได้มีอยู่แม้ในอากาศหรือในทิศใดๆ เลย

    "แต่ว่าตั้งอยู่ในใจของเราเท่านั้น เราพึงตั้งใจมั่นในบารมีเหล่านี้ทั้งหมด"

    พระโพธิ์สัตว์จะพิจารณาพุทธการกธรรมทั้ง ๑๐ ข้อนี้ทั้งอนุโลมและปฏิโลม คือจากต้นไปยังปลาย และจากปลายย้อนกลับมายังต้น เมื่อพระโพธิสัตว์พิจารณาอยู่อย่างนี้อยู่หลายรอบ แผ่นดินก็ไหว เกิดเสียงกัมปนาท

    มนุษย์และเทวดาที่อยู่ในที่นั้น ต่างพากันมาบูชาพระโพธิสัตว์ด้วยดอกไม้ และของหอม เป็นต้น กล่าวสดุดีพระโพธิ์สัตว์ว่า "วันนี้ท่านปรารถนา ความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ ขอความปรารถนานั้นจงสำเร็จแก่ท่าน"


    ๏ มหาวิโลกนะ

    มหาวิโลกนะ "การตรวจดูอันยิ่งใหญ่" ข้อตรวจสอบพิจารณาที่สำคัญ หมายถึง สิ่งที่พระโพธิสัตว์ทรงพิจารณาตรวจดู ก่อนจะตัดสินพระทัยประทานปฏิญาณรับอาราธนาของเทพยดาทั้งหลาย ว่าจะจุติจากดุสิตเทวโลก ไปบังเกิดในพระชาติสุดท้ายที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า มี ๕ อย่าง (นิยมเรียกว่า ปัญจมหาวิโลกนะ) คือ

    ๑. กาล คือ อายุกาลของมนุษย์จะต้องอยู่ระหว่าง ๑๐๐ ถึง ๑ แสนปี (ไม่สั้นกว่าร้อยปี ไม่ยาวเกินแสนปี)

    ๒. ทีปะ คือ ทวีป จะอุบัติแต่ในชมพูทวีป

    ๓. เทสะ คือ ประเทศ หมายถึงดินแดน จะอุบัติในมัธยมประเทศและทรงกำหนดเมืองกบิลพัสดุ์เป็นที่พึงเกิด

    ๔. กุละ คือ ตระกูล จะอุบัติเฉพาะในขัตติยสกุล หรือในพราหมณสกุล และทรงกำหนดว่า เวลานั้นโลกสมมติว่าตระกูลกษัตริย์ประเสริฐกว่าตระกูลพราหมณ์ จึงจะอุบัติในตระกูลกษัตริย์ โดยทรงเลือกพระเจ้าสุทโธทนะเป็นพุทธบิดา

    ๕. ชเนตติอายุปริจเฉท คือ มารดา และกำหนดอายุของมารดา มารดาจะต้องมีศีลห้าบริสุทธิ์ ไม่โลเลในบุรุษ ไม่เป็นนักดื่มสุรา ได้บำเพ็ญบารมีมาตลอดแสนกัลป์ ทรงกำหนดได้พระนางมหามายา และทรงทราบว่าพระนางจะมีพระชนม์อยู่เกิน ๑๐ เดือน ไปได้ ๗ วัน

    หมายเหตุ : พุทธบิดาและพุทธมารดาในข้อ ๔ และข้อ ๕ หมายถึงพุทธบิดาและพุทธมารดาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ถ้าเป็นของพระพุทธเจ้าองค์อื่น จะมีชื่อและตระกูลต่างกัน

    (สรุปตามแนวอรรถกถาชาดก)

    (จากหนังสือพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตโต) หน้า ๒๒๓ - ๒๒๔)


    ขอขอบพระคุณข้อมูลจากเว็บพุทธวงศ์

    http://www.phuttawong.net



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    ถ้าเป็นความตั้งใจก็ได้ครับ บัญชีเดิมโอนแล้วผมจะนำเข้ารวมเป็นส่วนที่ผมจะทำบุญกับทุนนิธิฯในเดือนมกราคมครับ

    ส่วนพระนั้นผมส่งให้แล้ววันนี้แต่ไม่ได้พิมพ์ละสององค์นะน้องเอ เพราะพระหมดต้องรอไปรับเพิ่มกับพี่พันวฤทธิ์แล้วจะจัดส่งให้ใหม่
     
  15. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    วันนี้ได้จัดส่งพระให้กับผู้ทีต้องการในกลุ่มแรกส่วนที่เหลือคงต้องรวบรวมยอดประมาณปลายเดือนจะจัดส่งให้ทุกท่านครับ ส่วนท่านใดต้องการกรุณาส่งข้อความส่วนตัวมาที่ผมเพราะถ้าโพสต์ไว้ในกระทู้รายชื่ออาจไม่ครบได้ครับ ผมจะจัดส่งตามที่อยู่ในpmครับ

    รายชื่อที่จัดส่งแล้ว
    1. mea
    2. thanyaka
    3. Choke mu-7
    4. asies 2497
    5. noom_bua
    6. newcomer
    7. เพชร
    8. พุทธันดร
    9. กุ้งมังกอน
    10.ตั้งจิต
    11.นว
     
  16. ศ.รุ่งเรือง

    ศ.รุ่งเรือง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +719
    วันนี้ได้โอนเงินร่วมทำบุญจำนวน 300.- ณ ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารนครหลวงไทย ขอร่วมทำบุญกับพระภิษุกสงฆ์อาพาธด้วยครับ
     
  17. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    โมทนาบุญด้วยครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    น้องโอ๊ต
     
  18. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    เก็บไว้ให้ดีน๊ะครับ ถือว่าเป็นสิ่งตอบแทนที่ได้เข้ามาอ่านในกระทู้ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริจาคหรือไม่ก็ตามคณะทำงานขอมอบให้ด้วยใจจริง ขอมอบให้เนื่องในการ เปิดกระทู้ และเป็นของขวัญปีใหม่ 2551 คุณโสระชาตินี้บุญเยอะ มีทุนส่วนตัวเยอะ อาสาออกค่าส่งให้ ขอขอบใจน้องอีกครั้ง เราไม่มีคำพูดใดดีกว่าการส่งพระพิมพ์ให้เพื่อเป็นกำลังใจในการทำความดี กระทู้นี้ แม้เพียงเริ่มต้น มีเงินเพียง 5,000.-บาท รวบรวมกันมาเพื่อก่อตั้งและเปิดบัญชี แต่ในงวดที่ 1 เราทำบุญไปแล้ว มากกว่าที่เริ่มต้นอีก ศรัทธา อยู่ที่ใจของผู้บริจาคนี่ล่ะ มิได้อยู่ที่ไหนเลย เราตักบาตรพระเราก็หวังเพียงท่านโมทนาบุญให้ เช่นเดียวกัน เราช่วยพระสงฆ์ที่นอนอาพาธหรือป่วยบางองค์แทบลุกไม่ไหว ยกได้แต่เพียงมือเดียวมารับประเคนเรา เราหวังเพียงท่านพยักหน้ารับก็พอแล้ว ไม่ต้องมีเงินถุงเงินถังไปกองให้ท่าน แค่ดวงตาท่าน กับดวงตาเรา สบตากัน ได้เห็นรอยยิ้มท่านในดวงตา อยากจะควักเงินให้อีกด้วยซ้ำไป ยิ่งนำสมุดไปให้ครูอาจารย์เราดู ท่านโมทนา ก็ถามกับตัวเองเหมือนกันว่าทั้งหลวงปู่อ่อนศรี ทั้ง อ.ประถมฯ ที่โมทนาสมุดบัญชีที่บริจาค ท่านหวังอะไรอีกล่ะ ท่านก็ปูนนี้กันแล้ว ทำให้เราคณะทำงานมีกำลังใจ และรู้ว่าต้องเดินหน้ากันต่อ แม้เดือนนึงอาจจะมีผู้บริจาคที่คุ้นหน้าคุ้นตา คุ้นรายชื่อแค่ไม่กี่คนก็ตาม หากเบื้องบนท่านมีจริง ท่านคงไม่ทิ้งเราเองนั่นแหละ....คณะทำงานเราก็คิดได้เพียงแค่นั้นจริง ก็ศรัทธา มันอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของใจสุดแท้แต่ว่าเจ้าของจะใช้มันอย่างไรเท่านั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2007
  19. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    น้องเอ ค่าส่งน๊ะ พี่ขอมาถวายพระแทนก็แล้วกัน หรือพี่ขอไว้เพื่อซื้อของถวายพระในงานบุญครั้งที่ 2 และพี่ขออีกอย่าง ขอให้น้องเอ มาประเคนสิ่งที่น้องเอหามาได้ด้วยแรงกายตนเองกับมือพระที่อาพาธ น้องเอ จะได้ภูมิใจมากกว่าให้คุณโสระเป็นร้อยเท่า
     
  20. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    พระชุดแรกที่จัดส่งข้างต้นมีจำนวนประมาณ 30 กว่าองค์ ได้รับแจ้งจากคุณโสระว่าหมดแล้ว ไม่เป็นไร ยังมีอีก แต่กว่าจะเจอกับคุณโสระ และคณะทำงานเพื่อกำหนดเป้าหมายการทำบุญใหม่ต้องรออีก 2-3 อาทิตย์ หรือต้องรอให้คุณโสระกับจากอินเดียก่อน คงส่งให้หลังปีใหม่ไปแล้ว ดังนั้น หากใครขอพระมาในช่วงนี้ รอหน่อยครับ แต่รอไม่ให้รอเปล่า คณะทำงานอาจจะเพิ่มอะไรให้อีกก็ได้ ขอพิจารณาก่อนครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...