ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

เจดีย์ยุทธหัตถี อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี

พฤหัสบดี ที่ 6 ธันวาคม 2516



พัฒนาการของเจดีย์ยุทธหัตถี อ. พนมทวน​

 

วัดบ้านน้อย

ภาพวัดบ้านน้อย เมื่อปี 2516 ถ่ายภาพโดย ครูสมจิต มาลาพงษ์ บัณฑิตเก๋า ชาว มธก (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง) หนึ่งในนักสู้ผู้ยืนหยัดคัดค้านความพยายามของคนและหมู่คนบางคณะ บางองค์กรที่พยายามทำลายความเป็นพระเจดีย์ยุทธหัตถีของเจดีย์ที่พนมทวนองค์นี้

​

 

อนุโมทนา สาธุครับ เรื่องราวที่ผมได้นำมาโพสต์ค้างไว้และกำลังจะดำเนิน

ต่อไปดูจะสอดคล้องต้องกันโดยมิได้นัดหมายกันกับคุณทางสายธาตุแต่

อย่างใด ติดตามกันเลยนะครับ

......ตามคติจึงถือว่าพระพุทธชินราช เป็นพระคู่บุญบารมีของพระนเรศวร

ซึ่งพระองค์กราบไหว้มาตั้งแต่เกิด และกราบทุกครั้งที่เดินทัพผ่านพิษณุโลก
มีอยู่ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระนเรศวรกราบแล้วเห็นน้ำตาไหลอาบแก้มพระพุทธชินราช ทหารทุกคน เงียบกริบเหมือนมีลางร้าย
เป็นการกราบครั้งสุดท้าย เพราะหลังยกทัพไปหงสาวดีคราวนั้น ท่านสิ้นพระชนม์ที่เมืองหาญ ชายแดนไทย - พม่า ปัจจุบันคือ เมืองงาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พระชนมายุสิริได้ 55 พรรษา
ถึงตรงนี้กรบอกว่า เกิดเป็นคนไทย ต้องไปให้ครบ 4 ที่ บารมีสมเด็จพระนเรศวรจะคุ้มครอง
หนึ่ง - จังหวัดพิษณุโลก ที่ประสูติ
สอง - จ.พระนครศรีอยุธยา กรุงเก่าเคยครองราชย์
สาม - จ.กาญจนบุรี กระทำยุทธหัตถีที่บ้านดอนเจดีย์ อ.พนมทวน
และสี่ - อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่สิ้นพระชนม์ ....


๐๐๐ธรรมะฉบับ "กร ทัพพะรังสี" Welcome To Korn Thapparansi's Web Site​

 

"ส่วนที่สุพรรณบุรีใครจะไปกราบเจดีย์ยุทธหัตถี ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าศึกษาอย่างที่ผมศึกษาคือ สี่แห่งนี้ ความผูกพันของพลังจิตของพระองค์ที่มีต่อสถานที่เหล่านี้ เป็นพลังจิตที่แรงกล้ามาก"
ไม่ได้มีแต่สมเด็จพระนเรศวรฯเท่านั้น ที่กรถวายศรัทธาในเชิงกษัตริยาธิราชเจ้าบารมี ยังมีพระเจ้าตากสิน พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปิยมหาราช พระศรีสุริโยทัย รวมทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลปัจจุบัน ที่บารมีแผ่ปกให้ประเทศไทยสงบสุข
"ผมอาจจะอยู่ในแผ่นดินไทยนี้มาหลายร้อยครั้งแล้วในความเป็นมนุษย์ หรือไม่เป็นมนุษย์ก็ได้ 400 กว่าปีก่อนผมอยู่อยุธยา หรือเมื่อ 700 กว่าปี อยู่ปราสาทหินพิมาย เราไม่รู้หรอก เพียงแต่ว่าต้องยอมรับก่อนว่า "วิญญาณของเราซึ่งมีอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นชาติเดียวซึ่งเรา เกิดในแผ่นดินไทย" ...


<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 2985973" vAlign=top><TD class=alt1>

๐๐๐ธรรมะฉบับ "กร ทัพพะรังสี" Welcome To Korn Thapparansi's Web Site​

</TD></TR><TR><TD class=thead colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

"วัดบ้านน้อย : คุณค่าไม่น้อยที่ใกล้ดับสูญ"

พี่จงรักภักดีคิดเหมือนหนูไหม หนูว่าเป็นประสงค์ของเทพที่ท่านมีพระประสงค์

ให้เปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ เพราะหนูเจอเรื่องเจดีย์นี้โดยบังเอิญเมื่อสักครู่

โดยเอาชื่อพี่น้ำฝน ทองอินทร์ หาแล้วก็ปรับเป็น เจดีย์ยุทธหัตถี อ.พนมทวน ก็พบข้อมูล

-----------------------------------------------------------------------

วัดบ้านน้อย : คุณค่าไม่น้อย ที่ใกล้ดับสูญ<O</O​

<O</O

สว.บ้านดอกไม้<O</O​

<O</O

เมื่อกลางเดือนมิถุนายน ๒๕๕๐ ผ่านมานี้ ผมมีโอกาสได้มาสำรวจเส้นทางยุทธหัตถีกับศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมสัญจร ตั้งแต่เมืองสุพรรณมายังเมืองกาญจน์ มีปรากฏการณ์หนึ่งที่ผมมิอาจนิ่งเฉย ที่จะต้องกระจายข่าวและขอความร่วมแรงร่วมใจกันกล้าทำอะไรบางอย่างเพื่อยับยั้งไม่ให้โบราณสถานของเราพังลงมา วัดร้างหรือโบราณสถานแห่งนี้อยู่ใกล้กับดอนเจดีย์ที่บ้านทวน (อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี)

จากการพินิจรูปแบบของหมู่พระเจดีย์ทำให้ทราบว่าเป็นรูปแบบในสมัยอยุธยา และยังแสดงถึงความหลากหลายของรูปแบบที่ชี้ให้เห็นถึงช่วงเวลาการก่อสร้างที่ไม่ใช่เวลาเดียวกันครั้งเดียว หมู่พระเจดีย์นี้ล้วนมีองค์ประกอบและสัดส่วนงดงาม หากเป็นฝีมือช่างท้องถิ่นก็ถือว่าฝีมือไม่ใช่ธรรมดาเลย ( อาจกล่าวได้ว่าเป็นผลงานของกลุ่มสกุลช่างพนมทวน ทั้งนี้สามารถพบได้จากระเบียบของรูปแบบในเชิงช่างที่มีลักษณะเดียวกันตามบริเวณวัดใกล้เคียง) หมู่พระเจดีย์เหล่านี้ในสมัยที่

อาจารย์ประยูร อุรุชาฏะ (น. ณ ปากน้ำ)และคณะ ได้เคยมาสำรวจและลงในบันทึกพร้อมถ่ายภาพในนิตยสาร “ชาวกรุง เมษายน ๒๕๑๖”ชี้ให้เห็นชัดว่าเจดีย์มีความเอียงเซมานานแล้ว ปัจจุบันเจดีย์ในภาพของ อาจารย์ประยูรที่สมบูรณ์ที่สุดได้ล้มลงเหลือแต่ฐาน (ดูก็รู้แล้วว่าเมื่อเจดีย์ล้มส่วนที่สมบูรณ์ของเจดีย์เมื่อฟาดกับพื้นก็ไม่เหลืออะไรแล้ว น่าเสียดายและรันทดใจจริงๆ)

<O</O
ในวันนี้พระเจดีย์ที่ผมกำลังชี้ให้เห็นถึงความน่าเป็นห่วงนี้ เป็นเจดีย์ที่มีสภาพความสมบูรณ์ใกล้เคียงกับภาพของอาจารย์ประยูร กล่าวคือไม่มีปล้องไฉนเหมือนก่อน แต่วันนี้องค์ระฆังถูกโจรใจบาปมารศาสนารังแกลับหลังชาวประชาในสภาพเหมือนถูกผ่าอก เพื่อควักเอาหัวใจ(ธาตุ)ไปขาย แต่เจดีย์องค์ดังกล่าวก็ยังสู้ทนยืนท้าลมแดดฝนแถมเอียงเซแต่ไม่ยอมล้มลงง่ายๆ มาถึงนาทีนี้ผมไม่แน่ใจว่าวันที่ท่านได้อ่านและรับทราบเรื่องราวอยู่นี้จะยังสู้ทนยืนเซอยู่หรือไม่ เพราะช่วงนี้ก็หน้าฝน ฐานเจดีย์ก็ทรุดลงไปกว่าเดิมมากเมื่อเทียบกับระยะ๑๐ปีก่อนที่ผมได้เคยมาสำรวจกับทีมนักวิชาการท้องถิ่นและนักวิชาการจากกรุงเทพฯ ความสำคัญของหมู่พระเจดีย์ที่วัดบ้านน้อยนี้ไม่ใช่มีคุณค่าเพียงแค่ความงามทางศิลปะ

สถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อยู่ไม่น้อย ที่ผมกล้ายืนยันเช่นนี้เป็นเพราะวัดบ้านน้อยอยู่ห่างจากเจดีย์ยุทธหัตถี (ดอนเจดีย์ จ.กาญจนบุรี) รัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตร ในระหว่างเส้นทางยังมีเจดีย์โบราณกระจัดกระจายอยู่มากมาย อาทิ วัดพังตรุ , วัดทุ่งสมอ ,วัดโบสถ์ เลยไปจนถึงวัดหนองขาว ฯลฯ รายทางไปถึงเมืองกาญจน์(เก่า) ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพระเจดีย์เก่าสมัยอยุธยาที่มีรูปแบบหลากหลายต่างช่วงเวลาแทบทั้งสิ้น เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะบริเวณแนวเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางคมนาคมโบราณมาตั้งแต่สมัยก่อนอยุธยา ซึ่งมีบันทึกตำนานท้าวอู่ทองมาถึงสมัยอยุธยา และเกิดชุมชนขึ้นมากมายตามรายเส้นทางคมนาคม ก่อให้เกิดการสร้างวัดวาอาราม สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ เป็นเส้นทางเดินทัพที่สำคัญของพม่าและสยาม เพื่อที่จะรุกรานและป้องกันของแต่ละฝ่าย

<O</O
วัดบ้านน้อยถือเป็นหนึ่งในชุมชนเก่าที่มีเรื่องราวทั้งจากประวัติศาสตร์ส่วนกลางและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่ควรค่าแก่การศึกษาเรียนรู้ โดยมิควรปล่อยให้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ต้องเข้าคิวสูญสลายไปเป็นอดีตที่เรียกกลับคืนมาไม่ได้ดังที่เกิดบทเรียนครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนที่พระเจดีย์ที่เอียงยิ่งกว่าหอเอนของเมืองใดๆ องค์นี้ต้องล้มไปอีกองค์ ซึ่งนั่นหมายความว่าเราจะไม่เหลือหลักฐานความสำคัญของวัดบ้านน้อยที่ค่อนข้างสมบูรณ์และสวยงามทางสถาปัตยศิลป์ที่เหลือเพียงองค์นี้องค์เดียวอีกต่อไป<O</O<O</O

​

ภาพที่ ๑<O</O
ภาพถ่ายของ อาจารย์ประยูร อุรุชาฏะ ที่บันทึกไว้ใน “ชาวกรุง เมษายน ๒๕๑๖” ชี้ให้เห็นถึงโบราณสถานของวัดบ้านน้อยที่ยังคงหลักฐานที่องค์พระเจดีย์อย่างชัดเจน ในวันนี้องค์ขวามือที่แลสมบูรณ์ที่สุดล้มลงเหลือแต่ฐานแล้ว ส่วนองค์กลางในวันนี้ใกล้ล้มแล้ว อีกไม่นานเถอะ
<O</O​

<O<O</Oภาพที่ ๒<O</O​

ฐานพระเจดีย์ที่เห็นเกือบกลางภาพเหลือเพียงฐานที่เอียงเมื่อเทียบกับภาพของอาจารย์ประยูร อุรุชาฏะเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๖ มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด<O</O​

</O

​

ภาพที่ ๓ <O</O
พระเจดีย์องค์นี้ยังคงมีสภาพใกล้เคียงกับเมื่อ ปีพ.ศ.๒๕๑๖ ทว่าช่วงฐานได้ทรุดโทรมไปมาก ทำให้ทรุดเอียงมากขึ้น หากฐานล้มส่วนองค์เจดีย์ ก็จะหักแตกเมื่อกระแทกกับพื้น <O</O​

​

ภาพที่ ๔<O</O
ฐานองค์พระเจดีย์ที่ถึงแม้ว่ากำลังจะล้ม ก็ยังเผยให้เห็นถึงรูปแบบความคมชัดของลวดบัว แข้งสิงห์ที่ได้สัดส่วนงดงาม แจ่มแจ้ง ทรงพลัง ตามอัตลักษณ์ของศิลปะสมัยอยุธยาโดยแท้<O</O​

ภาพที่ ๕<O</O
ร่องรอยที่ถูกเดรัจฉานชนผ่าที่องค์ระฆังเรื่อยมาถึงบริเวณฐานพระเจดีย์ (อนาจใจ) ​

สรุป: ถึงแม้จะมีหน่วยงานบางหน่วยมาช่วยปรับสภาพแวดล้อมให้แล้ว ซึ่งทำให้ดูสะอาดเรียบร้อยขึ้น ทว่าองค์พระเจดีย์นี้ก็ยังคงเอียงเสื่อมสภาพตามกาลเวลา พร้อมร่องรอยการถูกผ่าอกบริเวณองค์ระฆังดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาบูรณะให้แข็งแรงตามหลักวิชาเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการล้มครืนลงมาก็เท่านั้น

ทัศนะส่วนตัวแล้วหากมัวรอแต่หน่วยงานราชการผู้รับผิดชอบมาแก้ไขดูแลพระเจดีย์นี้จะทันการหรือไม่ องค์กรท้องถิ่นท่านคิดเห็นประการใดในฐานะที่ท่านอยู่ตรงนั้น หรือได้แค่มองตาปริบๆรอวันล้มขององค์พระเจดีย์แห่งนี้ เกือบจะเลยเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมด้วยช่วยกันเพื่อไม่ให้พระเจดีย์องค์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์องค์นี้ต้องล้มลงดังใบไม้ที่เตรียมร่วงลงดินในอีกเวลาไม่นานนับจากนี้


ș?¬ȔŻЇѲ??Ã?ѭ?à- Inspire Sight

 

พระบรมรูป สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

สร้างอัญเชิญประดิษฐาน ฐานทหารชายแดน กองกำลังสุรนารี จังหวัดศรีสะเกษ​

 

​

 

<TABLE style="DISPLAY: none" cellSpacing=0 cellPadding=3 width=600 border=0><TBODY><TR><TD align=right> สั่งพิมพ์หน้านี้ | ส่งต่อให้เพื่อน </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#07587a><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" bgColor=#b1f1f0 border=0><TBODY><TR><TD align=left width="89%" height=23>แปลกใจ ทำไมไม่มีสถานที่นี้ใน อสท </TD><TD align=right width="11%"><INPUT class=button_front60 onclick="document.RequestForm.QAID.value='961'; document.RequestForm.TypeID.value='Question'; ShowDataPicker('divDataPicker',-230,-150)" type=button value=แจ้งลบ name=RequestDel></TD></TR><TR><TD bgColor=#07587a colSpan=2 height=1></TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD align=left>พยายามหาหลายครั้งในอสทว่าเอ่ยถึงเจดีย์ยุทธหัตถี ที่พนมทวน กาญจนบุรีบ้างไหม หาไม่พบ ทั้งๆที่เคยทราบว่าอธบดีกรมศิลปากรได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 25 ธันวา 38 ให้เป็นโบราณสถานเจดีย์ยุทธหัตถี ผ่านมา 14 ปีเต็มแล้ว แต่กลับถูกเพิกเฉยจากแทบจะทุกส่วน ใกล้ๆกันยังมีเจดีย์สมัยสมเด็จพระนเรศวรที่หลงเหลือแห่งเดียวที่วัดบ้านน้อย ในหลวงเคยเสด็จโดยลำพังพระองค์เองโดยทรงขับรถยนต์พระที่นั่งไปถามหาทางไปเจดีย์จนนำมันหมด แวะเติมที่หนองขาว เมื่อปี2510 เมื่อครั้งเสด็จเขื่อนวชิราลงกรณ์(แม่กลอง) จึงแปลกใจ ทำไมไม่มีสถานที่นี้ใน อสท จะต้องให้รออีกกี่ยุคสมัย รอมาแล้วสิบสี่ปีที่ทำใจ จะต้องรออีกเท่าใดใคร่ขอรู้ ประวัติศาสตร์หน้าสำคัญในวันโน้น เราทุกคนคนทุกเหล่าก็รู้อยู่ ว่าอาจกลายเป็นคนอกตัญญู ที่ลบหลู่ไม่รู้คุณกษัตรา องสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกู้ชาติกู้ไทยกู้ศาสนา ให้พ้นจากเงื้อมมือเหล่ามารา เลิกเป็นทาสของพม่าด้วยพระองค์(เอง)


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right colSpan=2 height=30>By : ศรีสยาม วันที่ 1 ก.ย. 2552 , 22:43 น. Email : bbb_137@hotmail.com IP : 125.25.145.215 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="89%" height=23>ความคิดเห็นที่ 1 วันที่ 2 ก.ย. 2552 , 00:33 น.</TD><TD align=right width="11%"><INPUT class=button_front60 onclick="document.RequestForm.QAID.value='14146'; document.RequestForm.TypeID.value='Answer'; ShowDataPicker('divDataPicker',-230,-150)" type=button value=แจ้งลบ name=RequestDel></TD></TR><TR><TD bgColor=#632800 colSpan=2 height=1></TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD align=left>20 สิงหาคม 2515 สมเด็จพระเทพรัตนฯเสด็จพร้อมฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ทอดพระเนตรเจดีย์ยุทธหัตถี พนมทวน และกลุ่มเจดีย์โบราณ



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right colSpan=2 height=30>By : ศรีสยาม Email : bbb_137@hotmail.com IP : 125.25.145.215 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="89%" height=23>ความคิดเห็นที่ 2 วันที่ 2 ก.ย. 2552 , 00:51 น.</TD><TD align=right width="11%"><INPUT class=button_front60 onclick="document.RequestForm.QAID.value='14148'; document.RequestForm.TypeID.value='Answer'; ShowDataPicker('divDataPicker',-230,-150)" type=button value=แจ้งลบ name=RequestDel></TD></TR><TR><TD bgColor=#632800 colSpan=2 height=1></TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD align=left>อาทิตย์ที่14 มกรา 2516 สมเด็จพระสังฆราชฯเสด็จบำเพ็ญกุศลถวายภัตตาหารและสังทานพระสงฆ์ สามเณร 500รูป อุทิศกุศลถวายองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและนักรบทหารหาญโบราณเมื่อ 400 ปีที่แล้ว ณ บริเวณเจคีย์ยุทธหัตถี



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right colSpan=2 height=30>By : ศรีสยาม Email : bbb_137@hotmail.com IP : 125.25.145.215 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="89%" height=23>ความคิดเห็นที่ 3 วันที่ 2 ก.ย. 2552 , 01:03 น.</TD><TD align=right width="11%"><INPUT class=button_front60 onclick="document.RequestForm.QAID.value='14150'; document.RequestForm.TypeID.value='Answer'; ShowDataPicker('divDataPicker',-230,-150)" type=button value=แจ้งลบ name=RequestDel></TD></TR><TR><TD bgColor=#632800 colSpan=2 height=1></TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD align=left>จันทร์ที่ 15 มกรา 2516 อ.ประยูร อุลุชาฎะ น. ณ ปากน้ำ นักโบราณคดี ศิลปินแห่งชาติ ฯลฯ พร้อมคณะได้มาสำรวจ ถ่ายภาพ วิเคราะห์วิจัยอย่างละเอียด ที่เจดีย์ยุทธหัตถี- ปรางค์ประธานและกลุ่มเจดีย์โบราณ รวมทั้งกลุ่มเจดีย์ระฆังปากคอดที่วัดบ้านน้อย(สร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวร) สรุปฟันธงโดยเอาเกียรติยศและศักดิ์ศรีของท่านเป็นประกันในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะสมัยอยุธยาตอนกลาง(สมัยสมเด็จพระนเรศวร) ว่าเจดีย์ร้างกลางทุ่งนาบ้านดอนเจดีย์ พนมทวนองค์นี้ คือเจดีย์ยุทธหัตถีอย่างแน่นอน ภาพถ่ายที่ท่านถ่ายไว้ด้วยตนเองนี้ ศูนย์ข้อมูลเมืองโบราณเป็นผู้เอื้อเฟื้อภาพให้ทางพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระนเรศวร พนมทวน



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right colSpan=2 height=30>By : ศรีสยาม Email : bbb_137@hotmail.com IP : 125.25.145.215 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="89%" height=23>ความคิดเห็นที่ 4 วันที่ 2 ก.ย. 2552 , 01:18 น.</TD><TD align=right width="11%"><INPUT class=button_front60 onclick="document.RequestForm.QAID.value='14151'; document.RequestForm.TypeID.value='Answer'; ShowDataPicker('divDataPicker',-230,-150)" type=button value=แจ้งลบ name=RequestDel></TD></TR><TR><TD bgColor=#632800 colSpan=2 height=1></TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD align=left>ครูสมจิต มาลาพงษ์บัณฑิต มธก หนื่งในชาวดอนเจดีย์รุ่นแรกๆ ที่มีบทบาทสำคัญยิ่ง เช่นเดียวกับอีกหลายท่านในการร่วมผลักดันให้ช่วยกันอนุรักษ์องค์พระเจดีย์ที่สำคัญที่สุดในการกู้ชาติรักษาเอกราชสยามประเทศ ได้ถ่ายภาพกลุ่มเจดีย์ระฆังปากคอดและโบสถ์โบราณวัดบ้านน้อยภาพนี้ไว้ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นวัดที่พระนเรศวรโปรดเกล้าให้บูรณะจากวัดครุฑ(ร้าง)เดิม(หรือวัดเครงในจดหมายเหตุของฟอน ฟลีต หรือ วัน วลิต) เพื่อให้ทหารหาญใช้เป็นที่บวชล้างบาปหลังเสร็จสิ้นสงครามยุทธหัตถี ดังปรากฎมีตุ่มน้ำก่ออิฐพอกด้วยปูนตำ(สูตรโบราณ) ปรากฎอยู่ในสภาพสมบูรณ์ กลางพระอุโบสถวัดบ้าน้อยแห่งนี้



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right colSpan=2 height=30>By : ศรีสยาม Email : bbb_137@hotmail.com IP : 125.25.145.215 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="89%" height=23>ความคิดเห็นที่ 5 วันที่ 2 ก.ย. 2552 , 01:24 น.</TD><TD align=right width="11%"><INPUT class=button_front60 onclick="document.RequestForm.QAID.value='14152'; document.RequestForm.TypeID.value='Answer'; ShowDataPicker('divDataPicker',-230,-150)" type=button value=แจ้งลบ name=RequestDel></TD></TR><TR><TD bgColor=#632800 colSpan=2 height=1></TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD align=left>เจดีย์ระฆังปากคอดที่ยังคงหลงเหลือแห่งเดียวในไทย เปรียบเทียบกับภาพพระเจดีย์ศรีจุฬามณีที่วาดในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ( ประมาณ 100 ปีหลังสมัยสมเด็จพระนเรศวร) ที่ปรากฎในสมุดข่อยไตรภูมิพระร่วง ฉบับกรุงธนบุรี หาจุดต่างไม่พบแม้แต่นิดเดียว



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right colSpan=2 height=30>By : ศรีสยาม Email : bbb_137@hotmail.com IP : 125.25.145.215 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="89%" height=23>ความคิดเห็นที่ 6 วันที่ 2 ก.ย. 2552 , 01:32 น.</TD><TD align=right width="11%"><INPUT class=button_front60 onclick="document.RequestForm.QAID.value='14153'; document.RequestForm.TypeID.value='Answer'; ShowDataPicker('divDataPicker',-230,-150)" type=button value=แจ้งลบ name=RequestDel></TD></TR><TR><TD bgColor=#632800 colSpan=2 height=1></TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD align=left>เจดีย์ระฆังคอดอีกองค์หนึ่งที่โบสถ์เก่าวัดบ้านน้อย ถูกปล่อยปะละเลยจนใกล้หมดสภาพ ดังอ่านพบได้ในบันทึกของ สว. บ้านดอกไม้ is-trip.com ศูนย์ศิลปtวัฒนธรรมสัญจร(วัดบ้านน้อย คุณค่าไม่น้อยที่ใกล้ดับสูญ)



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right colSpan=2 height=30>By : ศรีสยาม Email : bbb_137@hotmail.com IP : 125.25.145.215 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="89%" height=23>ความคิดเห็นที่ 7 วันที่ 2 ก.ย. 2552 , 01:39 น.</TD><TD align=right width="11%"><INPUT class=button_front60 onclick="document.RequestForm.QAID.value='14154'; document.RequestForm.TypeID.value='Answer'; ShowDataPicker('divDataPicker',-230,-150)" type=button value=แจ้งลบ name=RequestDel></TD></TR><TR><TD bgColor=#632800 colSpan=2 height=1></TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD align=left>พฤหัสบดี 6 ธันวาคม 2516 หลังจากเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจที่อ.บ่อพลอย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพร้อมสมเด็จพระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระเทพฯ ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ทอดพระเนตรองค์พระเจดีย์ยุทธหัตถีและกลุ่มเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ด้วยความสนพระทัยยิ่ง



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right colSpan=2 height=30>By : ศรีสยาม Email : bbb_137@hotmail.com IP : 125.25.145.215 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="89%" height=23>ความคิดเห็นที่ 8 วันที่ 2 ก.ย. 2552 , 01:46 น.</TD><TD align=right width="11%"><INPUT class=button_front60 onclick="document.RequestForm.QAID.value='14156'; document.RequestForm.TypeID.value='Answer'; ShowDataPicker('divDataPicker',-230,-150)" type=button value=แจ้งลบ name=RequestDel></TD></TR><TR><TD bgColor=#632800 colSpan=2 height=1></TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD align=left>การเสด็จครั้งนั้น ยังความปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้ต่อพสกนิกรชาวดอนเจดีย์และชาวกาญจน์ทั้งมวลโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เคยฝ่าฟันต่อสู้เพื่อให้สังคมยอมรับในข้อเท็จจริงเรื่องเจดีย์ยุทธหัตถีองค์นี้ และผลที่ตามมาอีกประการคือ จากนั้นเพียง 6 เดือนหลังการเสด็จฯ การบูรณะปฎิสังขร โดยกรมศิลปากรก็แล้วเสร็จ



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right colSpan=2 height=30>By : ศรีสยาม Email : bbb_137@hotmail.com IP : 125.25.145.215 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="89%" height=23>ความคิดเห็นที่ 9 วันที่ 2 ก.ย. 2552 , 02:02 น.</TD><TD align=right width="11%"><INPUT class=button_front60 onclick="document.RequestForm.QAID.value='14158'; document.RequestForm.TypeID.value='Answer'; ShowDataPicker('divDataPicker',-230,-150)" type=button value=แจ้งลบ name=RequestDel></TD></TR><TR><TD bgColor=#632800 colSpan=2 height=1></TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD align=left>25 ธันวาคม 2516 อธิบดีกรมศิลปากรได้ลงนามในประกาศกำหนดเขตโบราณสถานฯในราชกิจจานุเบกษากำหนดให้เจดีย์ร้างกลางทุ่งนาแห่งบ้านดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรีองค์นี้ เป็น"โบราณสถานเจดีย์ยุทธหัตถี" พร้อมกับสระมอญ-ปรางค์ประธาน/กลุ่มเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ในบริเณใกล้กันก็ถูกประกาศเป็นโบราณสถานด้วย



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right colSpan=2 height=30>By : ศรีสยาม Email : bbb_137@hotmail.com IP : 125.25.145.215 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="89%" height=23>ความคิดเห็นที่ 10 วันที่ 2 ก.ย. 2552 , 02:05 น.</TD><TD align=right width="11%"><INPUT class=button_front60 onclick="document.RequestForm.QAID.value='14159'; document.RequestForm.TypeID.value='Answer'; ShowDataPicker('divDataPicker',-230,-150)" type=button value=แจ้งลบ name=RequestDel></TD></TR><TR><TD bgColor=#632800 colSpan=2 height=1></TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD align=left>สามารถสังเกตุเห็นสระมอญและ กลุ่มเจดีย์อยู่ด้านทิศใต้ของเจดีย์ยุทธหัตถี



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right colSpan=2 height=30>By : ศรีสยาม Email : bbb_137@hotmail.com IP : 125.25.145.215 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="89%" height=23>ความคิดเห็นที่ 81 วันที่ 14 ก.พ. 2553 , 12:19 น.</TD><TD align=right width="11%"><INPUT class=button_front60 onclick="document.RequestForm.QAID.value='38295'; document.RequestForm.TypeID.value='Answer'; ShowDataPicker('divDataPicker',-230,-150)" type=button value=แจ้งลบ name=RequestDel></TD></TR><TR><TD bgColor=#632800 colSpan=2 height=1></TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD align=left>ยินดีครับ


เมื่อเมษายน 2516 ทีมสำรวจของน. ณ ปากน้ำ หรืออาจารย์ประยูร อุลุชาฎะ ผู้เคยกินนอนกลางซากอิฐปูนที่โบราณสถานในอยุธยาเป็นเวลา 5 เดือนเต็ม ในการวิจัยศิลปและโบราณสถานสมัยอยุธยา

ได้มาสำรวจตรวจสอบเจดีย์ร้างที่พนมทวน ดังกล่าวมาแล้วแต่แรก

และท่านได้กล้ายืนยัน โดยเอาเกียรติยศและศักดิ์ศรีของท่านเป็นประกัน ว่าเจดีย์องค์นี้ คือเจดีย์ยุทธหัตถีที่แท้จริง ที่สมเด็จพระนเรศวรทรงสร้าง เพื่อรำลึกถึงชัยชนะทีมีเหนือพระมหาอุปราชาในสงครามยุทธหัตถี

ภาพจากศูนย์ข้อมูลเมืองโบราณ 2 ภาพนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ น. ณ ปากน้ำได้ถ่ายไว้ด้วยตัวท่านเองด้วยกล้องขนาดฟิล์ม 120 ยี่ห้อ Mamiya RB 67 แสดงให้เห็นถึงการทำงานของทีมสำรวจว่าตรวจสอบแผ่นอิฐและเจดีย์อย่างละเอียดถี่ถ้วน

ขอกราบคารวะ อาจารย์ น. ณ ปากน้ำมาด้วยความเคารพอย่างสูง


และขอขอบคุณ ศูนย์ข้อมูลเมืองโบราณที่เก็บต้นฉบับฟิล์มไว้อย่างดียิ่งและเอื้อเฟื้อภาพให้กับพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระนเรศวร ดอนเจดีย์ พนมทวน



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right colSpan=2 height=30>By : ศรีสยาม Email : bbb_137@hotmail.com IP : 125.25.113.234 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="89%" height=23>ความคิดเห็นที่ 82 วันที่ 14 ก.พ. 2553 , 12:21 น.</TD><TD align=right width="11%"><INPUT class=button_front60 onclick="document.RequestForm.QAID.value='38296'; document.RequestForm.TypeID.value='Answer'; ShowDataPicker('divDataPicker',-230,-150)" type=button value=แจ้งลบ name=RequestDel></TD></TR><TR><TD bgColor=#632800 colSpan=2 height=1></TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD align=left>อีกภาพหนึ่ง



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right colSpan=2 height=30>By : ศรีสยาม Email : bbb_137@hotmail.com IP : 125.25.113.234 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

กว่าที่เจดีย์ยุทธหัตถีที่ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี จะได้รับการยกย่องว่าเป็นโบราณสถานเจดีย์ยุทธหัตถี ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ก็ใช้เวลานาน วัดวรเชษฐ์(นอกเกาะ) คงต้องได้รับการรณรงค์กันนานเช่นกัน กว่าที่จะยอมรับจากกรมศิลปากร ว่าเป็นวัดป่าแก้วแห่งกรุงศรีอยุธยา แต่ที่พนมทวนก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้ประจักษ์เห็น พระกฤษดานุภาพอันมิอาจบดบังแห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

http://www.osotho.com/th/webboard/a...chFrom=&searchTo=&PageShow=1&TopView=&QID=961

 

อนุโมทนาและขอบคุณ คุณทางสายธาตุที่นำเรื่องเจดีย์ยุทธหัตถี ที่พนมทวน

กาญจนบุรี มาโพสต์ให้สังคมได้รับทราบกัน เชื่อว่ายังมีผู้ไม่ทราบอีกมากรวม

ทั้งตัวผมเองด้วย ได้รู้ได้เห็นอย่างนี้แล้วบอกกับตัวเองแล้วว่าจะต้องไปกราบ

ไหว้สถานที่แห่งนี้ พร้อมทั้งถือโอกาสทำความรู้จักกับพี่น้ำฝน เสียเลยในคราว

เดียวกัน

 

<TABLE class=tborder id=post2988582 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 12:00 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พระที่12<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2988582", true); </SCRIPT>
นักบวช



วันที่สมัคร: Nov 2006
สถานที่: -
ข้อความ: 1,346
Groans: 0
Groaned at 26 Times in 22 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 11,874
ได้รับอนุโมทนา 21,893 ครั้ง ใน 1,660 โพส
พลังการให้คะแนน: 423


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2988582 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER><!-- google_ad_section_start -->ร่วมเป็นกำลังใจให้ "น้องกัน" คนเล็กหัวใจใหญ่ผู้ปรารถนาพระโพธิญาณ<!-- google_ad_section_end -->

</CENTER>
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-2576485761337625";/* 250x250, created 31/01/09 */google_ad_slot = "7252767143";google_ad_width = 250;google_ad_height = 250;//--> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 250px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 250px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 250px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 250px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><IFRAME id=google_ads_frame1 style="LEFT: 0px; POSITION: absolute; TOP: 0px" name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-2576485761337625&output=html&h=250&slotname=7252767143&w=250&lmt=1266457801&flash=0&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff13%2F%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89-%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93.227933/&dt=1266457801812&correlator=1266457801828&frm=0&ga_vid=668065031.1264312857&ga_sid=1266457802&ga_hid=817878603&ga_fc=1&ga_wpids=UA-7034934-1&u_tz=420&u_his=30&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=967&bih=535&ref=http%3A%2F%2Fwww.palungjit.org%2F&fu=0&ifi=1&dtd=47&xpc=gz8cJkpndP&p=http%3A//palungjit.org" frameBorder=0 width=250 scrolling=no height=250 allowTransparency></IFRAME></INS></INS>

ชมคลิ๊ป น้องกัน จากรายการ"คนค้นคน"

http://vdo.palungjit.org/video/176920/ชีวิตที่นับถอยหลังของ-“กัน”-และ-“กี้”​

หรือกดดูทีวีย้อนหลังรายการ คนค้นคน 16 กุมภาพันธ์ 2553

หรือกดhttp://video.mthai.com/player.php?id=6M1266404537M0

ถ้าหากเราสามารถล่วงรู้เวลาที่เหลืออยู่ของชีวิต เราจะจัดการกับวันเวลาที่มีอยู่อย่างไร เราจะมีชีวิตอยู่อย่างไร ทำใจกับทุกวินาทีที่ลดลงไปอย่างไร มีผู้คนบนโลกใบนี้ที่กลายเป็นผู้เจ็บป่วยด้วยโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ สิ่งที่ทำได้อย่างมากที่สุด คือ การรอเวลาที่จะจากไป ความเจ็บป่วย อาจเป็นทุกข์แสนสาหัสก่อนเสียชีวิตของใครบางคน ขณะที่ สำหรับบางคน ความเจ็บป่วย อาจเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาได้พบกับอะไรบางอย่างที่อาจไม่สามารถพบได้ใน เงื่อนไขของสภาพร่างกายที่ปกติ

สองพี่น้องผู้ป่วยด้วยโรค “พันธุกรรมเมตาบอลิก” หรือโรคที่เกิดจากยีนบกพร่อง ซึ่งเป็นความผิดพลาดตั้งแต่กำเนิดของเมตาบอลิซึ่ม หรือระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายบกพร่อง เมื่อระบบต่าง ๆ ในร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงส่งผลให้เกิดการตกค้างของสารอาหารที่รับประทานเข้าไป และกลายเป็นสารพิษในที่สุด ความผิดปกติที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดทางกายภาพจะเห็นได้เมื่อเวลาผ่านไประยะ หนึ่ง สภาพร่างกายของเด็กที่ป่วยด้วยโรคนี้ จะเริ่มแสดงอาการ ดังนี้ หน้าตาจะเริ่มผิดรูปผิดร่างไม่เหมือนเด็กปกติทั่วไป ขนตายาว คิ้วดก ดั้งจมูกแบน ลิ้นจุกปาก ตับ และม้ามโต ท้องป่อง ตัวเกร็ง หลังแอ่น ดวงตาปูดโปน โรคที่ว่านี้ แม้ไม่ได้พบอย่างแพร่หลายในประเทศไทย แต่ก็มีผู้ป่วยด้วยโรคนี้อยู่จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

“กัน” หรือ ทรงเสถียร ท้าวทัญ อายุ 17 ปี เด็กชายผู้ป่วยด้วยโรคที่ว่านี้ ปัจจุบันเขาไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้อีกต่อไป ทุกวันนี้ “กัน” มีเพียงร่างที่ยังมีลมหายใจ และความเจ็บปวดทรมานทุกลมหายใจเข้า-ออก ในช่วงเวลาที่รู้สึกตัวและลืมตาตื่นของ “กัน” คือ การเปิดซีดีธรรมะ เพื่อทำความเข้าใจชีวิต เรียนรู้และสร้างความสงบให้เกิดขึ้นในจิตใจ​

<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พระที่12 : วันนี้ เมื่อ 12:48 AM
</TD></TR></TBODY></TABLE>


สาธุ ขออนุโมทนากับพระคุณเจ้า พระที่12 ด้วยขอรับ

 

แต่ที่พนมทวนก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้ประจักษ์เห็น พระกฤษดานุภาพอันมิอาจบดบังแห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ พระกฤษดานุภาพแห่งสมเด็จพ่อพระนเรศเป็นเจ้านั้นยิ่งใหญ่และมิอาจบดบังได้ครับ และความจริงอย่างไรเสียก็ต้องปรากฏไม่ช้าก็เร็วครับ ใครจะปิดก็ปิดไม่ได้ตลอดหรอกครับ

 

โมเย ได้ส่งซีดีเพลง พระนเรศวรมหาราช

ไปยัง พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ. พนมทวน

เพื่อร่วมประกาศพระเกียรติ ขอพระบารมีแผ่ไพศาล คุ้มครองผืนแผ่นดินไทยนี้ให้ร่มเย็น เป็นสุข

และเพื่อให้ได้ใช้เป็นประโยชน์แก่พิพิธภัณฑ์ ต่อไป

คุณพี่ น้ำฝน ทองอินทร์ แจ้งมาว่าได้รับเรียบร้อยแล้ว

และขออนุโมทนาบุญมา ณ. ที่นี้ด้วย

 

ได้พบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพี่น้ำฝน ขออนุญาตคัดลอกจากเว็บ PANTIP

มาฝากเผื่อใครจะไปเยี่ยมชมจะได้ติดต่อขอใช้บริการของพี่น้ำฝนกันนะครับ

..
..ที่น่าประทับใจคือมีผู้บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ โดยชาวบ้านท้องถิ่นที่บ้านดอนเจดีย์ โดย คุณลุง น้ำฝน ทองอินทร์ บริการด้วยน้ำใจจริงๆ ไม่ต้องเสียค่าบริการใดๆ ด้วยน้ำเสียงลีลาท่าทางที่ตื่นเต้นเร้าใจเสียงดังฟังชัด หากมาเป็นหมู่คณะควรจะแจ้งล่วงหน้า เพราะจะได้เตรียมการเปิดสไลด์ และพระราชประวัติที่ห้องฉายหนังที่เป็นอาคารที่อยู่ติดกัน รายละเอียดติดต่อที่เบอร์โทรฯ 086 170 0509)


<TABLE cellSpacing=5 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top noWrap width=75>จากคุณ</TD><TD>: <!--MsgFrom=12-->Red Fox </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=75>เขียนเมื่อ</TD><TD>: <!--MsgTime=12-->10 ก.ค. 52 22:46:44 </TD></TR></TBODY></TABLE><!--MsgFile=12-->


ขอขอบคุณ PANTIP.COM : E8067858 * * * ��������鹷ҧ�ط��ѵ�� ��边��ǹ ....* * * [�ѹ�֡�ѡ��Թ�ҧ]

 

...สถานที่ที่ถูกกล่าวอ้างถึง คือบ้านดอนเจดีย์ ต.หนองสาหร่าย อ.พนมทวน สถานที่ที่ชาวเมืองกาญจน์ รวมทั้งนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์บางท่านเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ตั้งของเจดีย์ ยุทธหัตถี สถานที่ซึ่งสมเด็จพระนเรศวรกระทำยุทธหัตถี หรือการรบบนหลังช้างกับสมเด็จพระมหาราชา แม่ทัพฝั่งพม่า ซึ่งต่อมาเป็นการชนช้างที่ถูกกล่าวอ้างถึงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยจนถึงทุกวันนี้ (โปรดคอยติดตาม ภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาคที่ 3 ซึ่งได้ยินว่ากำลังเตรียมการถ่ายทำ)

ข้อกล่าวอ้างนี้ บางท่านอาจจะรู้สึกว่าดูขัดแย้งกับสิ่งที่เราเรียนรู้กันมาในวิชาประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยชั้นประถม มัธยม ที่บอกว่าอนุสรณ์ดอนเจดีย์ ตั้งอยู่ที่สุพรรณบุรี

แต่สำหรับที่ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี นี้ มีหลักฐานหลายสิ่งที่หากจะบอกไป ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการรับรู้รับฟังเองด้วยเช่นกัน เพราะว่าความเชื่อที่ทั้งชาวบ้าน ราชการ รวมถึงนักวิชาการต่างพากันยอมรับนับถือกันก็มีทั้งหลักฐานที่เป็นเชิงประวัติศาสตร์ เชิงศิลปศาสตร์ รวมทั้งเชิงลี้ลับศาสตร์อธิบายเหตุผลได้ยากปนอยู่ด้วย

เอาเป็นว่า สถานที่บริเวณที่ชาวพนมทวนเชื่อกันว่าเป็นเจดีย์ยุทธหัตถีของแท้ เพราะมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์คือมีการค้นพบเครื่องอาวุธยุทโธปกรณ์อยู่เป็นจำนวนมาก เครื่องม้าทรง ช้างทรง หอก ดาบ คม ทวน ธนู เครื่องมือเครื่องใช้ในการศึกสงคราม รวมทั้งเศษกระดูกมนุษย์อยู่เป็นจำนวนมากที่นี่ ซึ่งมีการจัดแสดงอยู่ในห้องนิทรรศการสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งก็คือพิพิธภัณฑ์ที่ทางกรมศิลปากรจัดสร้างขึ้น ณ สถานที่นี้นั่นเอง นอกจากนี้แล้วก็ยังมีเจดีย์ร้างตั้งอยู่กลางทุ่งอีกองค์หนึ่งตามลักษณะที่ถูกบรรยายในพงศาวดารอีกด้วย อีกทั้งสถานที่นี้ แม้แต่ในหลวง พระราชินี และสมาชิกเจ้านายหลายพระองค์ก็เคยทรงเสด็จมาที่นี่ รวมทั้งมาร่วมศึกษาหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์และเสด็จมาร่วมจัดตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

ยังมีเรื่องเล่าที่ชวนอัศจรรย์ใจอีกเรื่องหนึ่งด้วย กล่าวคือ เมื่อวันที่มีพิธีการเปิดพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการ มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาต่อความรู้สึกของบรรดาข้าราชการระดับสูงและทุกคนที่เข้าร่วมพิธี คือไฟฟ้าในหอแสดงการฉายภาพยนตร์เกิดดับสนิท ในนาทีที่สำคัญที่สุด ที่ประธานในพิธีกำลังจะกดปุ่มเปิดการฉายสไลด์มัลติวิชั่น แสดงเรื่องราวของสมเด็จพระนเรศวรนั้นเอง ถึงกับทำให้ทุกคนงงงวยกันเป็นแถว และความรู้ทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ก็ช่วยแก้ไขไม่ได้ จึงต้องมีการจุดธูปบอกกล่าวขออนุญาตต่อองค์สมเด็จพระนเรศวร ข่าวเล่าว่าธูปยังไม่ทันหมดดี ไฟฟ้าก็ติดขึ้นมาใหม่ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นอกจากนี้ ในวันนั้น เหตุมหัศจรรย์อีกประการหนึ่งคือในวันที่มีพิธีนั้น ตอนแรกฟ้าโปร่งกระจ่าง แต่พอถึงเวลาทำพิธีขึ้นมา ก็มีผู้สังเกตบวกกับจินตนาการเห็นก้อนเมฆเรียงตัวกันเป็นรูปสมเด็จพระนเรศวรประทับอยู่บนหลังช้าง และเมฆอีกก้อนหนึ่งเป็นรูปกะโหลกช้าง แล้วท้องฟ้าก็กลับพลันครึ้ม มีลมเย็นและมีละอองฝนโปรยปรายลงมา รายงานกล่าวว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเฉพาะบริเวณที่มีพิธีเท่านั้นเอง

สิ่งเหล่านี้ จึงเป็นหลักฐานและความเชื่อชี้ชัด ที่ทำให้ชาวบ้านพนมทวน จ.กาญจนบุรี เชื่อมั่นกันว่า เจดีย์ยุทธหัตถีที่นี่เป็นของแท้ สร้างตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั่นเลยทีเดียว

สำหรับเจดีย์นั้น ก็ยังมีสมมติฐานถึงสาเหตุของการสร้างอีกด้วยว่า เจดีย์นี้พระนเรศวรท่านอาจสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงสมเด็จพระมหาอุปราชา ทั้งเพื่อเป็นการขอขมาต่อเพื่อนซึ่งเคยเล่นหัวกันมาครั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ หรือสมมติฐานอีกข้อหนึ่งคือ เจดีย์นี้สร้างขึ้นเพื่อประกาศชัยชนะที่มีต่อพม่าในครั้งนั้น

อย่างไรก็ดี แม้จะมีหลักฐานทั้งทางประวัติศาสตร์ ศิลปศาสตร์ โบราณคดีหรือเรื่องเหลือเชื่อมากมายประการใด แต่เป็นที่น่าเสียดาย ที่งบประมาณของทางการไม่เคยมีพอที่โฆษณาออกไปเพื่อทำให้คนสนใจได้ ทำให้ไม่ค่อยมีคนรู้จักและไปเยือนที่นี่มากนัก นอกจากคนที่สนใจเรื่องราวทางประวัติศาสตร์จริงๆ แม้แต่วันที่พวกเราไปเยือนกันก็มีแต่รถของเราคันเดียวเท่านั้นเอง

แต่สำหรับข้าพเจ้าที่ได้มีโอกาสไปเยือนมาแล้ว ก็อยากจะชวนท่านที่คิดว่าอยากจะไปเที่ยวดูกองถ่ายทำภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอันสุดอลังการ อยากแนะนำให้ไปทำความรู้จักสถานที่เกิดเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์เผื่อว่าการเที่ยวย้อนรอยของคุณจะมีความหมายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

Source:

๐๐๐ ขอขอบคุณ songwut 110 : www.osknetwork.com

ปล.ขอเพิ่มเติมข่าวสารเจดีย์ยุทธหัตถี ที่อ.พนมทวน กาญจนบุรี ครับ

 

กำลังหาโอกาศไปถวายสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ เจดีย์ยุทธหัตถีที่พนมทวนเหมือนกันค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลใน พันทิพย์ ด้วยค่ะ เอารูปเขามาใช้ลืมใส่ลิ้งค์กำกับไว้ด้วย ^^

 

ลีลาคชยุทธพระนเรศวรมีชัย ท่าที่ ๑ นาคีพันหลัก

​

 

ลีลาคชยุทธพระนเรศวรมีชัย ท่าที่ ๒ หักด่านลมกรด

​

 

ลีลาคชยุทธพระนเรศวรมีชัย ท่าที่ ๓ องคตควงพระขรรค์

​

 

ลีลาคชยุทธพระนเรศวรมีชัย ท่าที่ ๔ คชสารสะบัดงวง

​

 

ลีลาคชยุทธพระนเรศวรมีชัย ท่าที่ ๕ ทะลวงประจัญบาน

​