ของดีราคาถูก พระหลักร้อย พุทธคุณหลักล้าน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย mayakarn, 22 กรกฎาคม 2011.

  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,497
    ค่าพลัง:
    +53,107
    [​IMG]
     
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,497
    ค่าพลัง:
    +53,107
    [​IMG] [​IMG]

    องค์นี้ พี่ชายแท้ๆ เช่าใว้ หลักร้อย (ห้าแดง แปดปีที่แล้ว) ได้ที่ 2 งานเชียงรายครั้งล่าสุด แต่วันนี้ เพิ่งโทรมาว่า เค้าตามมาขอเช่าไปแล้ว อดส่อง สิ้นเดือนนี้เลย
    :':)'(
     
  3. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,497
    ค่าพลัง:
    +53,107
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    กลับละครับ พรุ่งนี้เจอกันใหม่


    [​IMG]
     
  4. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***เนื้อ หา โดนใจ มากๆ***
     
  5. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    [​IMG]


    [​IMG]
     
  6. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    ใกล้ค่ำแล้ว ชะอำคงเริ่มอากาศเย็นนะครับพี่รุ่ง...ดูแลสุขภาพด้วยครับ


    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
     
  7. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    :cool: เหรียญนี้สวยจริงครับคุณเอ็ม
     
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,497
    ค่าพลัง:
    +53,107

    ตอนถ่ายเอง ดูไม่จืด ภาพนี้ จ้างเค้าถ่ายที่ปทุมฯ ครับพี่โญ
     
  9. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    พระหลักร้อย

    พระแม่โพสพ



    [​IMG]



    [​IMG]



    พระแม่โพสพรุ่นนี้สร้างและปลุกเสกในโอกาส จัดงานประเพณีกวนข้าวมธุปายาส ณ วัดโพธิ์ศรี ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ ๑๖ - ๑๗ พ.ค. ๒๔๙๗
    อาจารย์ สิสส. หรือ สุธีร์ สอนสลับ(เฮ็ง) ชาวลพบุรีมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ข้างวัดโพธิ์ศรี ได้ไปร่ำเรียนจนเชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ คลุกคลีอยู่ในกรุงเทพโดยเฉพาะในวงการพระสงฆ์ จนเคารพนับถือสมเด็จฯ เป็นอย่างมาก และได้นิมนต์ท่านมาเป็นประธานในพิธีกวนข้างทิพย์ที่บ้านเกิดของตน


    นโอกาสนี้ท่านสิสส. ได้สร้างพระ"แม่โพสพ" ขึ้นจากเนื้อข้าวทิพย์ และผงพุทธคุณ มวลสารอื่นๆ ที่สมเด็จฯ ประทานมาให้ ผสมกับผงขี้เถ้าธูปบูชาพระประธานในพระอุโบสถ ๑๐๘ วัดทั่วประเทศ และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) ทรงปรกปลุกปลุกเสกให้ในวาระเดียวกันนี้
    ผงพุทธคุณที่ท่านประทานให้นี้ เป็นผงพุทธคุณที่สมเด็จฯท่านได้มาจากหลวงปู่ศุข และเกจิอาจารน์ท่านอื่นๆที่ท่านสะสมมาชั่วชีวิต เพราะสมเด็จฯท่านเป็นคนชัยนาทโดยกำเนิด มีความสนิทกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า มากชนิดที่เรียกว่า เมื่อใดที่หลวงปู่ศุขมีกิจนิมนต์มาที่กรุงเทพฯ หากท่านไม่ไปพักที่วังนางเลิ้งแล้ว หลวงปู่ศุขจะต้องมาพักที่วัดอนงค์ฯ เสมอ แม้แต่พระปรกใบมะขามของสมเด็จฯนั้น หลวงปู่ศุขกับ สมเด็จฯ ก็ยังได้ปลุกเสกร่วมกัน
    พระแม่โพสพรุ่นนี้ สร้างด้วยเนื้อข้าวพิพย์เพียงสองกะทะ ได้พระทั้งหมดประมาณว่าไม่เกินสองพันองค์ มีสองวรรณะ คือเหลืองนวลจางๆ(แก่ผง) และสีเข้มออกส้ม(แก่ข้าวทิพย์) หลังเสร็จพิธีสมเด็จฯท่านได้นำพระแม่โพสพรุ่นนี้กลับไปแจกให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินร่วมทำบุญถึง ๓๐๐ บาทต่อ ๑ องค์ !

    ปัจจุบันในพื้นที่(วัดโพธิ์ศรี ลพบุรี) จะหาพระพิมพ์นี้ดูได้ยากยิ่งนัก นับได้ไม่เกินสิบองค์ เพราะพระที่แจกในวันงาน แจกให้เฉพาะพระผู้ใหญ่และกรรมการจัดงานเท่านั้น พระส่วนใหญ่ท่านนำกลับมาแจกในกรุงเทพฯ และเวลานี้พระได้กระจัดกระจายไปแบบไม่ทราบที่มา เป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก

    พุทธคุณ จากใบฝอยกำกับระบุไว้ว่า มีพุทธคุญเด่นด้านเมตตา และเจริญในโภคทรัพย์ ส่วนประสบการณ์ของผู้ที่บูชาติดตัว เกือบทุกท่านบอกว่า ทำมาหากินคล่อง เจราจาต่อรองใดมักจะได้รับความสำเร็จสมประสงค์อยู่เสมอ สรุปว่าน่าจะมีพุทธคุณเหมือนกับพระของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงคาราม รุ่นอื่นๆ เช่นกัน
    คนในพื้นที่เชื่อกันว่า เนื่องจากข้าวทิพย์เป็นอาหารมื้อสุดท้าย ที่ทำให้พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสรู้ ดังนั้นหากใครได้ทำบุญ หรือบูชาข้าวทิพย์ จึงทำให้ผู้บูชามีอานิสงค์ให้เกิดปัญญา และสามารถหลุดพ้นจากทุกภัย ตลอดจนปัญหาชีวิตต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ นอกจากนั้นบรรดดาทวยเทพเทวดาต่างๆ ที่ลงมาร่วมสร้างกุศลในพิธีกวนข้าวทิพย์ย่อมประสิทธ์ประสาทพรให้เกิดความสุข ความเจริญแก่ผู้ที่บูชาพระแม่โพสพเนื้อข้าวทิพย์นี้อีกด้วย

    ตำนานข้าวมธุปายาส
    ตำนานข้าวมธุปายาส มาจากเรื่องของ นางสุชาดา ธิดาเศรษฐี ณ หมู่บ้านเสนานี ใกล้ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม มีหญิงรับใช้ชื่อนางปุณณา นางสุชาดาได้บวงสรวงขอบุตรชายต่อเทวดาประจำต้นไทร เมื่อได้บุตรชายตามประสงค์แล้ว นางจึงให้คนตระเตรียมทำข้าวมธุปายาสเพื่อนำไปเป็นพลีแก่เทวดา ที่บันดาลให้ความหวังของนางเป็นจริง แต่ก็ได้ถวายแด่ นักบวชสิทธัตถะ ผู้ประทับนั่งใต้ร่มไทรนั้น ซึ่งเมื่อนางเห็นก็เข้าใจว่าเป็นรุกขเทวดาที่แสดงตนมาเป็นนักบวช เพราะมีลักษณะงาม นางจึงน้อมข้าวมธุปายาสนั้นเข้าไปถวาย ครั้นนักบวชสิทธัตถะได้บอกความจริงแก่นางแล้วนางก็ยิ่งมีใจศรัทธา จึงได้ถวายข้าวนั้นทั้งถาด นักบวชสิทธัตถะได้นำข้าวมธุปายาสมาแบ่งเป็น ๔๙ ก้อน แล้วฉันจนหมด จากนั้นจึงนำถาดไปอธิษฐานแล้วลอยไปในแม่น้ำเนรัญชรา เพื่อเสี่ยงทายเรื่องที่จะสามารถตรัสรู้ได้หรือไม่ ข้าวมธุปายาสของนางสุชาดาจึงนับว่าเป็นอาหารมื้อสุดท้ายก่อนที่นักบวชสิทธัตถะจะได้บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า
    วิธีเตรียมทำข้าวมธุปายาสของนางมีดังนี้ นางให้เลี้ยงแม่วัวนมไว้ในป่าชะเอมจำนวน ๑,๐๐๐ ตัว แล้วให้แม่วัวนม ๕๐๐ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๑,๐๐๐ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๒๕๐ ตัว ดื่มกินน้ำนมของแม่วัวนม ๕๐๐ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๑๒๕ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๒๕๐ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๖๓ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๑๒๕ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๓๒ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๖๓ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๑๖ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๓๒ ตัวนั้น และในท้ายที่สุดนางให้แม่วัวนม ๘ ตัว ดื่มกินน้ำนมของแม่วัวนม ๑๖ ตัวนั้น หลังจากนั้นนางก็จะนำแม่วัวนมทั้ง ๘ ตัว มารีดเอาน้ำนม และนำน้ำนมมาเคี่ยวจนข้นเป็นนมข้นหวาน ทำให้มีรสอร่อยมาก เรียกว่า "ขีรปริวรรต" และในวันที่นางให้รีดนมนั้น ลูกวัวไม่กล้าเข้าใกล้แม่วัวเหล่านั้นเลย พอนางสุชาดาน้อมภาชนะเข้าไปเท่านั้น น้ำนมก็หลั่งออกมาจากเต้านมของแม่วัวเอง นางเห็นดังนั้นก็เกิดความปิติยินดีอย่างยิ่ง เมื่อได้แล้วจึงเทน้ำนมลงใส่ภาชนะใหม่ยกขึ้นตั้งบนเตา
    ในวันที่นางปรุงข้าวมธุปายาสนั้น ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ คือ ท้าวธตรฐ ท้าวรุฬหก ท้าววิรูปักข์ และ ท้าวเวสวัณ ก็มายืนอารักขาก้อนเส้าเตาปรุงทั้ง ๔ ทิศ รวมทั้ง ท้าวมหาพรหม ก็นำทิพย์เศวตฉัตรมากางกั้นข้างบนกระทะเพื่อเป็นสิริมงคล และป้องกันธุลีบนนภากาศ สมเด็จอมรินทราธิราช เสด็จลงมาก่อไฟใส่ฟืน เทวดาเจ้าในหมื่นโลกธาตุ ก็นำทิพยโอชามารวมใส่ลงไปในหม้อปรุงนั้น ประชาชนในทวีปทั้ง ๔ และทวีปน้อย ๒,๐๐๐ ห้อมล้อม ต่างเป็นดังจักรบีบรวงผึ้งอันอุดมด้วยน้ำผึ้งใส่เข้าไปในภาชนะที่กำลังปรุงนั้น เมื่อทำดังนี้แล้วก็ได้เป็นข้าวมธุปายาส เพื่อนำไปถวายแด่พระภิกษุต่อไป
    ขอบพระคุณ Wisonin.com
    พระแม่โพสพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงคาราม กรุงเทพฯ ๒๔๙๗
     
  10. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    *** ชะอำก็เริ่มหนาวแล้วครับ ตอนนี้ เริ่มใส่เสื้อหนาๆแล้วครับ แหะ คนแก่เน้ะ เอิ๊กเอิ๊ก***
     
  11. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    เมื่อ พ.ศ.2500 คณะกรรมการแพทย์ได้มีศรัทธาบำเพ็ญพุทธบูชา จัดสร้างพระพุทธรูปชนิดต่างๆ รวม ทั้งพระเครื่องอีกหลายชนิด เป็นพิธีอันมโหฬารถูกต้องตามพุทธเวทย์ และครบถ้วนตามพิธีกรรมทุกประการ

    มี วัตถุประสงค์โดยย่อดังนี้

    1.เพื่อเป็นอนุสรณ์ในมงคลสมัยที่พระพุทธศาสนายุกาลจำเริญมาได้ครบ 2500 ปี

    2.เพื่อได้รวบรวมทุนทรัพย์จากผู้มีจิตศรัทธา สร้างพระพุทธรูปต่างๆในครั้งนี้ สำหรับตั้งเป็นทุนเพื่อวินิจฉัยค้นคว้าเกี่ยวกับวิชาการของแพทย์เพื่อเป็นประโยชน์แก่มนุษย์ชนทั่วไป

    โดยจะกล่าวแต่ที่เป็นพระเครื่องเท่านั้น ดังมีใจความดังนี้

    นายแพทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ในแต่ละจังหวัด ได้ขอผงศักดิ์สิทธิ์จากพระอาจารย์ที่ได้ลงอักขระในแผ่นโลหะสำหรับหล่อพระพุทธรูปโดยขอจังหวัดละ 10 องค์ แต่ได้ผงมาจากพระอาจารย์ทั้งหมด 709 องค์ รวมทั้งดินจากสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง.

    นอกจากนี้ยังได้ผงชินและผงศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่อีกมาก หลังจากนั้น นำผงมาประสมรวม ณ พระวิหารโรงพยาบาลสงฆ์ จากนั้นนำผงมาประสมใส่ในพระเครื่องดินเผา โดยคลุกเคล้าอย่างละเอียดทั่วทุกองค์พระที่สร้าง.

    คณะกรรมการได้สร้างพระเครื่องดินเผารวม 3 ชนิด คือ

    1.พระพุทธชินราช สำหรับประจำตัวชาย

    2.พระนางพญา สำหรับประจำตัวหญิง

    3.พระรอด สำหรับประจำตัวเด็ก

    โดยได้แยกทำ 2 แห่ง คือ

    [​IMG]

    1.พระพุทธชินราชและพระนางพญา

    ประกอบพิธีสร้างที่พระวิหารหลวง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก ประกอบพิธีสร้าง เมือ 30 และ 31 มกราคม 2500. ในวันที่ 30 ม.ค. 2500 ได้มีการนำพิมพ์พระ และผงศักดิ์สิทธิ์มาตั้งไว้ภายในพระวิหาร วงสาย สิญจน์จากองค์พระหลวงพ่อพระพุทธชินราช ลงล้อมสิ่งของเครื่องพิธีทั้งปวง โดยเริ่มจุดเทียนชัยเวลา 19.00 น. มีเจ้าคณะจังหวัดเป็นประธานเจริญพระพุทธมนต์และมีพระสงฆ์นั่งปรกบริกรรมปลุกเศกทั้งคืนโดยมีหลวงพ่อไซ้ วัดช่องลม จ.อุตรดิตถ์เป็นประธาน.รุ่งขึ้นเวลาเช้าได้ปฐมฤกษ์ท่านเจ้าคุณพระธรรมวโรดม วัดพระเชตุพน ได้พิมพ์พระเป็นปฐมฤกษ์ พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถาแล้วดับเทียนชัย แล้วทำการพิมพ์พระจนได้ครบ จำนวน

    [​IMG]



    2.พระรอด

    [​IMG]


    ประกอบพิธีสร้างที่ พระวิหารหลวง วัดพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน
    ได้ประกอบพิธีสร้างในวันที่ 31 ม.ค. 2500 โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 08.05 น.ได้มีการเจริญพระพุทธมนต์และสวด เบิกตามแบบเมืองเหนือ โดยประกอบพิธีการสร้างพระรอดแบบเก่าแต่ครั้งก่อน เสร็จพิธีแล้วได้นำผงศักดิ์สิทธิ์คลุกเคล้าลงในดินที่จะพิมพ์เป็นองค์พระ


    หลังจากนั้นจึงนำพระทั้งหมดมาเข้าพิธีพุทธาภิเษก และฉลองที่โรงพยาบาลสงฆ์ รวมเป็น 3 ครั้งด้วยกัน โดย ทำการฉลองในวันที่ 1-2 พ.ค. 2500


    [​IMG]

    โดยมีพระอาจารย์ดังนี้

    1.สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสระเกศ
    2.ท่านเจ้าคุณราชโมลี วัดระฆังโฆสิตาราม
    3.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    4.ท่านเจ้าคุณปภัสสรมุนี วัดมิงเมือง เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
    5.หลวงพ่อเมียน วัดพระเชตุพน
    6.หลวงพ่อหลาย วัดราษฎร์บํารุง ชลบุรี
    7.ท่านเจ้าคุณโสภณสมาจาร วัดหนองบัว กาญจนบุรี
    8.หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี
    9.หลวงพ่อสุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี
    10.ท่านพระครูปลัดบุญรอด นครศรีธรรมราช
    11.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
    12.หลวงพ่อ เต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
    13.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
    14.หลวงพ่อแสวง วัดกลางสวน สมุทรปราการ
    15.หลวงพ่อบุญธรรม วัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม
    16.ท่านพระครูไพโรจน์วุฒิคุณ วัดโพธินิมิต ธนบุรี
    17.ท่านพระครูวิริยกิติ วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี
    18.ท่านพระครูปลัดเกียรติ วัดมหาธาตุ พระนคร
    19. พระครูกัลยาณวิสุทธิคุณ วัดดอนยานนาวา พระนคร

    โดยรวมแล้วถือว่าเป็น วัตถุมงคลที่น่าเก็บบูชา มากเลยที่เดียว พิธีดี-มวลสารดี-วัตถุประสงค์ในการสร้างดี ตอนนี้ราคายังไม่แพง แต่อนาคตน่าจะไปไกล (ระวังของเลียนแบบนะครับ ตอนนี้เริ่มเยอะครับ)

    ขอบพระคุณแหล่งข้อมูลที่อ้างอิง
    **ข้อความนี้ท่านสามารถนำไปใช้ได้ครับ เผยแพร่ได้ ทางเว็บไม่หวง....

     
  12. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***เห็นแล้วใจละลายเลยครับ เสี่ยโญ เอิ๊กเอิ๊ก***
     
  13. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    สุดยอดเหรียญดีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ยังมีอยู่


    [​IMG]



    [​IMG]



    สร้างปีพ.ศ. 2529 วงการเล่นหาเป็นเหรียญรุ่นสองรูปเหมือนของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชท่าน ได้รับพระบรมราชานุญาตให้จำลองแบบมาจากเหรียญรุ่นแรก(พ.ศ. 2528)ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชศรัทธาออกแบบ,จัดสร้างถวายด้วยพระองค์เอง และได้พระราชทานพระปรมาภิไธยย่อภปร.มาประดิษฐานไว้ที่ด้านหลังอีกด้วย นับเป็นสิริมงคลคู่อันประเสริฐสุด ยากจะหาเหรียญรูปเหมือนพระคณาจารย์ใดเสมอเหมือนได้
    จะแตกต่างกัน ก็เพียงแต่เปลี่ยนประโยคหลังเหรียญ "3 ตุลาคม 2528" ในรุ่นแรกมาเป็น "โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย"เท่านั้น แต่ส่วนอื่น ล้วนมีความเหมือนกันในทุกประการ

    อนึ่ง เหรียญสมเด็จพระญาณสังวร ฯรุ่นร.พ.จุฬาฯ นี้ ในสายตาของคนทั่วไปอาจจะเห็นว่า มีศักดิ์ศรีและความนิยมอาจจะไม่เท่ากับเหรียญรุ่นแรก ด้วยความยึดมั่นที่ว่า เป็น"รุ่น 2" แต่หากจะมองเจาะลึกให้ถึงก้นบึ้งกันจริงๆ จะพบว่า เหรียญรุ่น 2 นี้ มีความพิเศษสุดยิ่งกว่า ซึ่งแม้เหรียญรุ่นแรกก็ไม่อาจจะบดบังรัศมีความดีเลิศได้อย่างสนิทในหลายๆประการ กล่าวคือ
    1. เหรียญรุ่น 1 รุ่น 2 ล้วนได้มาจากต้นแบบที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงออกแบบด้วยพระองค์เองและได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างเหมือนๆกัน

    2.เหรียญรุ่นแรก ปลุกเสกที่วัดบวรนิเวศวิหารเพียงครั้งเดียว ส่วนเหรียญรุ่น 2 (ร.พ.จุฬาลงกรณ์) เข้าพิธีมากกว่าและใหญ่กว่า ด้วยได้เข้าร่วมพิธีกริ่งปวเรศ2 ปี 2530 อันโด่งดังทั้งที่วัดบวรนิเวศวิหาร (2 วาระ)และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว)อีกด้วย

    3.เหรียญรุ่นแรก ปลุกเสกที่วัดบวรนิเวศวิหารเป็นการภายใน ส่วนเหรียญรุ่น 2 ปลุกเสกเป็นมหาพิธีใหญ่ มีเจ้านายชั้นสูงเสด็จประกอบพิธีถึง 2 วาระ (ในขณะที่เหรียญรุ่นแรกไม่มีเสด็จฯ) กล่าวคือ
    3.1 พิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ ๑ ในคืนวันเสาร์ที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๙ ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานประกอบพิธี สมเด็จพระญาณสังวร ประธานพิธีอธิษฐานจิต โดยมีพระคณาจารย์สำคัญร่วมนั่งปรกด้วยดังนี้
    ๑.พระญาณโพธิ (เข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร
    ๒.หลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน กรุงเทพมหานคร
    ๓.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังค์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
    ๔.พระครูอาคมวิสุทธิ (คง) วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี
    ๕.พระครูญาณวรกิจ (กล้วย) วัดหมูคุด จ.จันทบุรี
    ๖.พระรัตนคุณากร (แช่ม) วัดบ่อพุ จ.จันทบุรี
    ๗.พระครูสันติวรณาญ (สิม) วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
    ๘.พระครูเมธีธรรมสาธก (หนู) วัดสุนทรพิชิตาราม จ.นครนายก
    ๙.หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม จ.นครปฐม
    ๑๐.พระภาวนาพิศาลเถร (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา
    ๑๑. พระอาจารย์นก วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์
    ๑๑.พระครูนนทสมณวัตร (เหรียญ) วัดบางระหงษ์ จ.นนทบุรี
    ๑๒.พระครูมงคลธรรมสุนทร วัดบางนา จ.ปทุมธานี
    ๑๓.พระครูวิเศษภัทรกิจ (ทองใบ) วัดสายไหม จ.ปทุมธานี
    ๑๔.พระอาจารย์ฟัก วัดนิคมประชาสรรค์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
    ๑๕.พระวิสุทธาจารคุณ (เกตุ) วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์
    ๑๖.พระครูปลัดพรหม วัดขนอนเหนือ จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๑๗.พระอาจารย์ศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม จ.ร้อยเอ็ด
    ๑๘.พระครูอนุรักษ์วรคุณ (สง่า) วัดหนองม่วง จ.ราชบุรี
    ๑๙.พระครูสมุทรวิจารณ์ (คลี่) วัดประชาโฆศิตาราม จ.สมุทรสงคราม
    ๒๐.พระครูอาทรธรรนิเทศก์ (ทองอยู่) วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร
    ๒๒. พระครูสุนทรธรรมกิจ (หยอด) วัดแก้วเจริญ จ.สมุทรสงคราม
    ๒๓. พระครูสังวรธรรมานุวัตร (พล) วัดหนองคณฑี จ.สระบุรี
    ๒๔. พระครูสรกิจพิจารณ์ (ผัน) วัดราษฎร์เจริญ จ.สระบุรี
    ๒๕. พระครูสาธุกิจวิมล (เล็ก) วัดหนองดินแดง จ.นครปฐม
    ๒๖. หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร จ.นครปฐม
    ๒๗.หลวงพ่อพลู วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม
    ๒๘. พระครูเกษมธรรมานันท์ (แช่ม) วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
    ๒๙. พระครูนนทสิทธิการ เจ้าอาวาสวัดไทรน้อย จ.นนทบุรี
    ๓๐. พระครูวิจิตธรรมานุวัตร วัดหนองกระบอก จ.ระยอง
    ๓๑. พระวัชรธรรมาภรณ์ (สุรพงษ์) วัดตรีทศเทพ
    ๓๒. พระครูปริยัติคุณาธาร วัดชนะสงคราม
    ๓๓. พระญาณสมโพธิ (ขวัญ) วัดอรุณราชวราราม
    ๓๔. พระปริยัติมุนี (ชูศักดิ์) วัดหงส์รัตนาราม
    ๓๕. พระครูมงคลญาณสุนทร (ผ่อง) วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส
    ๓๖. พระโพธิสังวรเถร (ไพฑูรย์) วัดโพธินิมิตร

    3.2 พิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ ๒ พิธีวันวิสาขบูชา วันพุธ-พฤหัสบดีที่ ๒๑-๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๙ ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระญาณสังวร ประธานประกอบพิธี
    3.3 พิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ ๓ วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๐ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธี สมเด็จพระสังฆราช ทรงจุดเทียนชัย สมเด็จพระญาณสังวร ประธานพิธีอธิษฐานจิต และมีพระอัจฉริยคณาจารย์สำคัญจากทั่งประเทศร่วมนั่งปรกเจริญจิตภาวนาอันมี
    ๑ . สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร
    ๒. พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดพิชยญาติการาม กรุงเทพมหานคร
    ๓. พระมงคลราชมุนี วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร
    ๔. พระราชพุทธิรังษี วัดเครือวัลย์ จังหวัดชลบุรี
    ๕. พระสุนทรธรรมภาณี วัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี
    ๖. พระญาณสิทธาจารย์ วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม จังหวัดนครราชสีมา
    ๗. พระโพธิสังวรเถร วัดโพธินิมิตร กรุงเทพมหานคร
    ๘. พระอุดมสังวรเถร วัดวังก์วิเวการาม จังหวัดกาญจนบุรี
    ๙. พระภาวนาพิศาลเถร วัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา
    ๑๐.พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร วัดประชาคมวนาราม จังหวัดร้อยเอ็ด
    ๑๑.พระภาวนาโกศลเถร วัดปากน้ำ กรุงเทพมหานคร
    ๑๒.พระสุธรรมยานเถร วัดจันทาราม จังหวัดอุทัยธานี
    ๑๓.พระครูสุนทรธรรมวัตร วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร
    ๑๔.พระครูประสิทธิ์ภาวนาคุณ วัดนิคมประชาสรรค์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
    ๑๕.พระสังวรสมาธิวัตร วัดเภตราสุขารมณ์ จังหวัดระยอง
    ๑๖. พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม จังหวัดจันทบุรี
    ๑๗.พระครูสันติวรญาณ (สิม) วัดถ้ำผาปล่อง จังหวัดเชียงใหม่
    ๑๘.พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จังหวัดปัตตานี

    และก็เมื่อได้ทราบความนัยเบื้องลึกเห็นเพียงนี้ ยังจะมีผู้ใดกล้าปฏิเสธหรือมองข้ามเหรียญสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช รุ่นโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พ.ศ. 2529 อยู่อีกหรือไม่..?????


    "เหรียญนี้น่าจะเสกเดี่ยว แต่หากเป็นพิธีหมู่ ประธานในพิธีจะต้องเก่งมากๆ ที่สามารถคอนโทรลพลังที่หลากหลายให้เป็นหนึ่งเดียวได้ถึงขนาดนี้"
    "ผู้ปลุกเสกพระองค์นี้ พื้นจิตเดิมมีลักษณะใจดี มีเมตตาสูง และมีความอ่อนน้อมถ่อมตนมาก.."
    "แต่ในความใจดี มีเมตตาสูงนั้น ผู้ที่เสกนี้ยังมีความเก่งมากๆ มีบุญบารมีกว้างขวางและเข้มข้นมากๆ มีกำลังแห่งมหาสติเด่นมากๆ อีกทั้งยังเข้าถึงธาตุหรือความเป็นพุทธะอีกต่างหากด้วย..."
    หน่วยสืบราชการลับทางจิตสาย"โยคะ"

    และเมื่อหน่วยสืบราชการลับทางจิตสาย"โยคะ"ได้ทราบในภายหลังว่า พระที่ตรวจนั้น แท้จริงแล้วก็คือเหรียญสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช รุ่นโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พ.ศ. 2529 ก็แทบจะถึงแก่การตกตะลึงพรึงเพริดไปอย่างคาดไม่ถึง พลางร้องออกมาทีเดียวว่า
    "ตั้งแต่เคยตรวจเหรียญของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชมา เหรียญรุ่นนี้ พลังโดดเด่นสว่างไสวแรงกล้ามากที่สุดอย่างที่ไม่เคยพบในรุ่นใดๆมาก่อน แม้จะเป็นพิธีพุทธาภิเษกหมู่อย่างที่ว่าก็จริง แต่สมเด็จฯท่านก็สามารถคุมพลังให้เป็น UNITY ได้ทั้งหมด นึกไม่ถึงว่า สมเด็จพระญาณฯท่านจะเก่งกล้าสามารถอะไรถึงขนาดนี้เลยทีเดียว..!!!!!!"
     
  14. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***จองนะครับ ท่าน โญ ชอบอ่ะ เอิ๊กเอิ๊ก***
     
  15. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG]



    ในปี 2555 วัดสารนารถธรรมารามได้มีการจัดสร้างพระพุทโธคลัง องค์จำลองรุ่นเสาร์5 ขึ้น เพื่อให้สาธุชนได้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลและเจริญรุ่งเรืองพร้อมทั้งอุดมสมบูรณ์แก่ตนเองและครอบครัว

    ในวาระ เสาร์ 5 วันที่ 5 เดือน 5 ปี 2555 นี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่วัดสารนาถฯ จัดสร้างพระพุทโธคลังรุ่น 2 (เสาร์5) ขึ้น เพื่อให้ผู้ศรัทธาต่อคุณแม่บุญเรือนและพระพุทโธคลังได้บูชาไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นเลิศในด้านโภคทรัพย์เจริญรุ่งเรืองสืบ

    ในการจัดสร้างพระพุทโธคลังรุ่น2 นี้ ได้ทำพิธีเททองหล่อในเขตวัดสารนาถฯทั้งหมด โดยเททองหล่อในวันจักรีและประธานเททองหล่อคือ เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร ป.ธ.9)เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์

    มีพิธีพุทธาภิเษกที่วัดสารนาถธรรมารามในวันเสาร์ที่ 5 เดือน 5 ปี 2555 (ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคลด้วย มีความเป็นมงคลสูงมาก) โดยพระเกจิอาจารย์สายระยองและภาคตะวันออก

    รายการที่จัดสร้าง
    1.เหรียญพระพุทโธคลัง รุ่น 1 เนื้อทองเหลือง
    2.เหรียญพระพุทโธจอมมุนีย้อนยุค (ลพ.พุทโธใหญ่ พระประธานวัดสารนาถฯ) เนื้อทองแดง สร้าง 2,555 เหรียญ
    3.เหรียญพระพุทโธจอมมุนีย้อนยุค (ลพ.พุทโธใหญ่ พระประธานวัดสารนาถฯ) เนื้อตะกั่ว สร้าง 150 เหรียญ
    4.เหรียญพระพุทโธจอมมุนีย้อนยุค (ลพ.พุทโธใหญ่ พระประธานวัดสารนาถฯ)
    เนื้อเงินบริสุทธิ์ สร้าง 150 เหรียญ
    5.พระกริ่งพุทโธคลัง ขนาดห้อยคอ เนื้อเงินบริสุทธิ์ สร้างจำนวน 55 องค์ มีตอกโค๊ดและหมายเลข กันปลอม
    6.พระกริ่งพุทโธคลัง ขนาดห้อยคอ เนื้อโลหะผสม หล่อเบ้าดินไทยแบบโบราณ จำนวน 130 องค์ มียิงเลเซอร์โค๊ดและหมายเลข กันปลอม
    7.พระกริ่งพุทโธคลัง ขนาดห้อยคอ เนื้อนวะโลหะแก่ทองคำ จำนวน 130 องค์ มียิงเลเซอร์และหมายเลข กันปลอม
    8.พระกริ่งพุทโธคลัง ขนาดห้อยคอ เนื้อทองผสม จำนวน 2,555 องค์ มียิงเลเซอร์และหมายเลข กันปลอม
    9.พระบูชาพระพุทโธคลัง เนื้อโลหะ รมดำ ขนาด 7นิ้ว จำนวน 589 องค์

    -องค์ที่ลงนี้เป็นเนื้อทองผสม
    *พระเนื้อทองผสมมีชนวนดีๆและสำคัญสุดยอดๆ ที่กลุ่มพุทธวงศ์หวงแหนเพราะถือว่าพระพุทโธคลังเทโบราณหรือฉีดเหวี่ยงกันกลางลานวัดแบบนี้ ไม่ใช่ของที่จะทำกันได้ง่ายๆ และต่อไปภายภาคหน้า ต่อให้มีการสร้างอีกกี่รุ่น ก็จะไม่มีวาระโอกาสและพิธีการแบบนี้ได้อีกแล้ว จึงเทชนวนดีๆและสำคัญๆลงชุดนี้เกือบหมด เพื่อสร้างบุญญานุสรณ์พิเศษฝากไว้ในพระพุทธศาสนา
    -มีเรื่องคุยกันว่าพระของกลุ่มพุทธวงศ์หลายรุ่นที่เนื้อทองผสมมีพลังแรงกว่าเนื้อนวโลหะ เนื่องจากเนื้อนวโลหะใส่โลหะบางชนิดลงไปไม่ได้ จะทำให้เนื้อหลอมออกมาแล้วไม่เข้ากัน ส่วนเนื้อทองผสมสามารถใส่ได้ตามใจชอบ จึงทำให้ใส่ชนวนดีๆได้มากกว่า
    -พระหล่อได้สวย คม ชัดเจนทุกรายละเอียด
    -เนื้อพระออกกระแสทอง ดูองค์จริงจะเห็นชัดเจนแบบไม่ต้องส่องกล้อง
    -มีโค้ดเลเซอร์พร้อมกล่องเดิมจากวัด
    -พระกริ่งพุทโธคลังรุ่นแรกจะบูชายากกว่ารุ่น2 เพราะพระกริ่งพุทโธคลังรุ่นแรกเป็นรุ่นเปิดตัว สำเร็จด้วยธรรมเบื้องสูงสุด(ธรรมธาตุ) คนที่จะบูชาก็ต้องมีศีลมีธรรมอยู่ในระดับที่น่าพอใจด้วย จึงจะบูชาแล้วได้ผล(ได้ลาภ) แต่เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลใจ เพราะเบื้องบนได้"ล็อคสเป็ค"ไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าพระกริ่งชุดสำคัญนี้จะได้แก่ใครบ้าง (ซึ่งล้วนเป็นระดับคีย์แมนที่จะสืบทอดหรือเป็นกำลังส่งเสริมพระศาสนาไปในกาลอนาคตเป็นหลัก) จึงเป็นเหตุให้สร้างได้จำนวนที่น้อยมากๆ
    -ขณะที่พระกริ่งรุ่น 2 เป็นรุ่นแบบสบายๆ ลาภมาเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย แต่จะไม่โครมครามเปรี้ยงปร้างตึงตังเหมือนรุ่นแรก รุ่น2นี้เป็นรุ่นที่ใครใช้ก็ได้ แบบโปรดสรรพชีวิตทั่วไป สำเร็จด้วยอำนาจของเทวดาเป็นหลัก
     
  16. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    เหรียญ รุ่นตานใช้ตานแทน


    [​IMG]



    [​IMG]


    ครูบาท่านทำเป็นที่ระลึกในพิธีสำคัญสมัยท่านยังอยู่ เป็นพิธีชำระหนี้เจ้ากรรมนายเวร ท่านจะเป็นคนนำพวกลูกศิษย์ทำ เป็นพิธีใหญ่ที่สำคัญของวัดเลยทีเดียว เน้นทางการต่ออายุ เสริมดวงชะตา

    ขออโหสิกรรม ต่อ เจ้ากรรมนายเวร

    *** ลดเคราะห์ วิบากกรรม ทำน้ำมนต์ เสริมดวงชะตา คุ้มครอง ป้องกันภยันอันตราย **** มนต์ดำ ยาสั่ง คุณไสย ลมเพ

    ลมพัด สิ่งเร้นลับ ที่กระทำย่ำยี เหรียญตานใช้ ตานแทน ปี ๒๕๓๕ เป็นเหรียญ ที่หลวงปู่ท่านสั่งให้จัดสร้างขึ้นมา สำหรับเหรียญนี้น่าจะเรียกได้ว่า เป็นเหรียญที่อยู่คู่กับเหรียญทำน้ำมนต์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง เพราะว่า

    ด้านหลังของเหรียญทำน้ำมนต์ของหลวงพ่อฤาษีใช้ยันต์ของพระสารีบุตร ส่วนเหรียญตานใช้ตานแทนของครูบาวงศ์ใช้อักขระยันต์ของพระ โมคคัลลานะ และที่สำคัญคือเราทราบกันมาว่า เหรียญที่คลายกฎแห่งกรรมให้ลดน้อยลง ถ้ามีกรรมที่มาตัดรอนให้เรา ถึงแก่ชีวิต ก่อนอายุขัย จากเจ้ากรรม นายเวร ทั้งหลายทั้งปวง ...ด้วยพระพุทธานุภาพที่หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตให้ จะช่วยให้กรรมนั้นๆ จากหนักเป็นเบาได้ จากเบาจนไม่มีผล ทั้ง ๒ เหรียญนี้หลวงพ่อฤาษีกับครูบาวงศ์ทำเพื่อสงเคราะห์ลูกหลานโดยตรง เป็นสุดยอดเหรียญหายาก ของครูบาวงศ์ มีอานุภาพคลายกฏแห่งกรรมเช่นเดียวกับเหรียญทำน้ำมนต์ หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง ปลุกเสกในพิธีชำระหนี้
    ------------------
    ปลุกเสกด้วยคาถาไจยะเบงชรล้านนา มีเกจิร่วมปลุกเสกดังนี้

    1.หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข
    2.หลวงปู่ดาบส สุมโณ สำนักสงฆ์ไผ่มรกต เชียงราย
    3 ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ ลำพูน
    4.หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
    5.หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
    6.ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง
    7.ครูบาน้อย วัดบ้านปง
    8.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี

    == อักขระยันต์ด้านหลังของเหรียญทำน้ำมนต์
    ตานใช้ ตานแทน นี้
    เป็นอักขระยันต์ พระโมคคัลลานะ ==
    พระโมคคัลลานะเถระ เป็นพระภิกษุอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า
    เป็นพระอสีติมหาสาวกผู้เป็นเอตทัคคะในด้าน ผู้มีฤทธิ์มาก
     
  17. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    ปีใหม่จัดไว้แล้ว ลงบัญชีไว้ตรุษจีนครับพี่รุ่ง
    ...<a href="http://emoticon.ohozaa.com" target="_blank"><img src="http://emoticon.ohozaa.com/datas/emoticon/Onion/onion_ha.gif" border="0" alt="onion_ha.gif" /></a>
     
  18. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***อ่ะจ๊ากกกกกกกกกกกกกกก แซ่บๆๆๆ***
     
  19. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    [​IMG]

    ประวัติคุณนอร์ลงไว้แล้ว
    :cool:

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2013
  20. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    พระปิดตามหาลาภ จตุรพิธพรชัย หลวงปู่ดู่ วัดสะแก 2518

    [​IMG]


    ประวัติการสร้างวัตถุมงคลชุดนี้น่าสนใจมากเพียงแต่คนจะทราบรายละเอียดค่อน ข้างน้อยทำให้หลายคนมองข้ามของดีในพิธีนี้ไป

    อย่างน่าเสียดายครับ ประวัติมีอยู่ว่าเนื่องจากนายเรียน นุ่มดี ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่ดู่ วัด

    สะแก) ในสมัยนั้นท่านกำลังใกล้จะเกษียณอายุราชการและจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่ บ้านเกิดที่อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี แต่

    เนื่องด้วยวัดเขาใหญ่ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และเป็นวัดใกล้บ้านเกิดนั้นมี สภาพทรุดโทรม เสนาสนะก็ไม่ได้รับการบูรณะมานานมาก ดังนั้นนาย

    เรียนจึงมีความตั้งใจที่จะหารายได้จำนวนหนึ่งไปปฏิสังขรณ์วัดเขา ใหญ่ให้สวยงาม พร้อมทั้งสร้างวิหารจตุรพิธพรชัยขึ้นใหม่ จึงได้นำ

    ความมาปรึกษากับหลวงปู่ดู่ท่านว่าจะทำอย่างไรดี หลวงปู่ดู่ท่านจึงได้เมตตาแนะนำและให้คำปรึกษาในการจัดสร้างวัตถุมงคลตลอดจน

    การนิมนต์ครูบาอาจารย์มาร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลในพิธีนี้อย่างละเอียด โดยพิธีพุทธาภิเษกถูกหนดขึ้นที่วัดรัตนชัย (วัดจีน) อ.เมือง จ

    .อยุธยา เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2518 ส่วนพระเกจิอาจารย์ที่รับนิมนต์มาร่วมพิธีมีทั้งหมด 16 รูปคือ


    [​IMG]

    1. พระครูสังวรวิมล (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี อ.บางกอกใหญ่ จ.กรุงเทพฯ
    2. พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
    3. พระรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเรไรย์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
    4. พระโบราณคณิสสร (หลวงพ่อใหญ่) วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    5. พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี
    6. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดบ้านช้าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา
    7. พระครูกัลยานุกูล (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตร อ.ธนบุรี จ.กรุงเทพฯ
    8. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    9. พระครูอดุลวรวิทย์ (หลวงพ่อไวทย์) วัดบางซ้าย อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา
    10. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
    11. พระราชสุวรรณโสภณ วัดพนัญเชิง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    12. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
    13. พระครูสังฆรักษ์ (หลวงพ่อเฉลิม) วัดพระญาติการาม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    14. พระครูภัทรกิจโกศล (หลวงพ่อหวล) วัดพุทไธสวรรค์ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    15. หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    16. หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ (ศิษย์ก้นกุฎิของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค มาในนามของท่าน)

    พระปิดตามหาลาภ จตุรพิธพรชัย หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ปี ๒๕๑๘

    พระปิดตามหาลาภ เนื้อผงวิเศษ มีขนาดประมาณ 3 x 3.5 ซม. ด้าน หน้าเป็นองค์พระประทับนั่งขัดเพชร ด้านหลังมีอักขระเลขยันต์ของ

    ลป.ดู่ ซึ่งหลวงปู่ท่านรับเป็นธุระในการออกแบบพระให้ ตลอดจนปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม หลังจากนั้นลป.ดู่ท่านได้นำพระชุดนี้

    เข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับเหรียญจตุร พิพิธพรชัย 9 พระอาจารย์ที่วัดรัตนชัย จ.อยุธยา เมื่อปี 18 อีกครั้งหนึ่ง โดยพระเกจิอาจารย์ที่เข้า

    ร่วมในพิธีนี้นั้น ลป.ดู่ท่านได้แนะนำให้นิมนต์พระอาจารย์ที่มีชื่อเสียง
     

แชร์หน้านี้

Loading...