การสูบบุหรี่ของพระอรหันต์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย โกมีนัม, 29 กรกฎาคม 2012.

  1. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    การเป็นพระอริยะท่านให้ดูลงที่ความประพฤติทางกาย วาจา ใจ ทางกายเช่น ทิ้งขยะให้ถูกที่ การอ่านหนังสือด้วยความมีสมาธิ การขับรถอย่างปลอดภัย ทางวาจาเช่น พูดเพราะ พูดน่าฟัง พูดคำที่ตัวเองและผู้อื่นไม่เดือดร้อน อย่าติดพูดเล่นถ้าไม่ใช่กลุ่มของเรา ดูตาม้าตาเรือเวลาพูดในสังคม ไม่มีเจตนาจะพูดเท็จด้วย ทางใจคือต้องฝึกจากการทำสมาธิ ถ้าจิตไม่นิ่งแสดงว่าสมาธิยังใช้ไม่ได้ อย่างน้อยควรจะได้อุปจาระสมาธิน๊ะจ๊ะ อย่างเวลาเราอ่านหนังสือนี่จัดเป็นขณิกะสมาธิหรือบางคนอุปจาระสมาธิ ถ้าเก้าขึ้นอีกขั้นก้อัปปนาสมาธิ ที่หลวงปู่เทศก์(ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น) ท่านใช้คำว่ามิคสมังคี ความจริงในระดับจตุตถฌาณ รูปฌาณขั้น 4 ก็จัดเป้นมิคสมังคีได้เหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันในด้านความละเอียดของอารมณ์ คนเราเกิดมาควรจะเป็นสัมมาทิฏฐิหมายถึงมีความเห็นถูกเห็นตรงตามธรรมะ หรือคำสอนของพระพุทธเจ้า อยากให้อ่านมงคล 38 ของพระพุทธเจ้าด้วยนะครับ รับรองว่าถ้าคุรๆได้อ่านจะต้องชอบ มงคล 38 เมื่อจิตใจปรกติเป้นสัมมาทิฏฐิแล้วนะครับ คุณต้องได้สติด้วย ลองอุทานเบาๆว่าได้สติก็ได้ บางทีอนัตตามันเกาะเราอยู่ทำให้เราเผลอไม่รู้ตัว ตัวอนัตตานี่แหละเอาออกให้หมด ให้หมดจากจิต เช่น โลภะ โทสะ โมหะ เอาออกด้วยปัญญาภาวนาและสมาธิ การเจริญวิปัสสนาเป้นการแก้อวิชชา การเจริญสมถะเป้นการดับกาม นอกจากนั้นให้มีจิตใจเป็นบุญเป้นกุศลในการทำบุญ จะทำอะไรก็ตามแต่ให้มีสติ มีปัญญา มีศรัทธาในธรรม และไม่ประมาท บางคั้งต้องแกล้งโง่หรือแกล้งเป็นคนไม่ค่อยพูดอันนี้ลึกซึ้งนะ คนเราเกิดมาพร้อมกับขันธ์ 5 ที่มีเรามาครอง ทำเราให้สะอาด บริสุทธิ์ สว่าง งดงาม ประเสริฐ อย่าเศร้าโศกกับอดีต อย่ากังวลอนาคตเกินไป ให้อยู่กับปัจจุบัน ภาวนาพุทธ-โธ อยู่เสมอ มีปัญญาตามทันบทความธรรมะที่เราอ่าน พยายามกำจัดรัก โลภ โกรธ หลง ด้วยปัญญา ปัญญาเกิดจากสมาธิ คือต้องทำสมาธิด้วย ให้มีความศรัทธาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ อย่าโง่ในลัทธิตน เขามาชักจูงอะไรก้ไปตามเขา ให้รู้จักรุกรู้จักรับ ให้อ้างเพื่อน เพื่อนคนที่ถูกอ้างสนิทหรือไม่สนิทให้รับไว้ก่อน เรื่องนี้เข้าใจไหม อย่าหักหน้ากันในหมู่เพื่อนฝูงเวลาอยู่ในสังคม อย่ากราบโดยไม่มีเหตุผล นี่เขาเรียกว่าคนโง่ อย่าทำร้ายกันเอง อย่าเข้าข้างศรัตรูของคนที่คุณรักหรือแฟนคุณ พยายามฝึกใจให้ประเสริฐ ไอ้พวกอนัตตาราคะ โทสะ โมหะเอาออกให้หมดด้วยการใช้สติปัญญาเพ่งพินิจพิจรณานี่แหละ ให้เข้าใจขันธ์ 5 ว่ารูปกายคือเสปิร์มของฝ่ายพ่อ วิญญาณคือไข่ของฝ่ายแม่ เราคือเรา รูปกายและวิญญาณเป้นอนัตตา มีอันแตกกระจัดกระจายเป็นธรรมดา เราคือที่มีอนัตตาเช่น รัก โลภ โกรธ หลง มันจรเข้ามาที่จิต เราก้เอามันออกเสียด้วยหลักมรรค 8 และเมื่อทำสมาธิให้จับจุดอารมณ์ในขณะนั้นๆ ว่านั่นแหละเราขั้นนั้นขั้นนี้ เราจะรู้ตัวของเราเอง ไม่ต้องถามใคร คบใครดูจิตใจมากกว่ารูปร่างหน้าตาน๊ะจ๊ะ บางคนหล่อสวยหน้าตาดี แต่เคยฆ่าพ่อฆ่าแม่มาก่อนก้เคย คนอย่างนี้ก็มีนะ อย่าหลงในว่าเขาหล่อ องคชาติเขาใหญ่ ขนรักแร้เขาน่าเลีย เป้นต้น อย่าหลง ใครหลงเป้นเรื่องพูดยาก วิธีดับก้คือเจริญกาคตายะสติหรือท่องกายนครน่ะแหละ ทั้งกายเราและกายคนอื่น ทำบ่อยๆให้กามมันดับสนิท ช่วงเป้นมรรคช่วยตัวเองได้แต่ไม่หมกมุ่น บางครั้งช่วยตัวเองก้ไม่ต้องคิดถึงใคร และทำซัก 1 นาทีไม่ถึงจุดไคลแม็กซ์เราก้เอาแค่นั้นแหละ กามมันจะค่อยๆดับ ถ้ากามดับสนิทก้อรหันต์ อนาคามีนี้ยังต้องไม่ประมาทนะ เข้าใจไหม ต่อไปสรุป ปฏิบัติตตนในทาน ศีล ภาวนา ข้อศีลต้องไม่กินเหล้า ตายเป้นตายให้มันลงแดงตายไปเลยถ้างดเหล้าไม่ได้น่ะ อย่าเอาเรื่องสันติมหาอำมาตย์ในสมัยพุทธกาลมาอ้าง นั่นเพราะพระพุทธเจ้าท่านเป้นคนโปรดจึงบรรลุได้ การภาวนาให้รู้ว่ารูปกายเราเป้นอนัตตา คือความไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเรา ส่วนเราคือจิต จิตทีมีโลภะ โทสะ โมหะ จัดเป้นจิตอนัตตา ถ้าจิตเราบรสุทธิ์พ้นจาก โลภะ โทสะ โมหะ จิตเราเป้นอัตตา ก้เราก้คือจิต ท่องว่าจิตๆๆๆๆ ก้ได้เวลาภาวนา ทีนี้สังโยชน์ข้อ 10 อวิชชา ก็คือไม่มีความไม่รู้จักจิตนั่นแหละเมื่อรู้แล้วว่าจิตเราบริสุทธิ์เราก็ไม่หลงตัวเอง จิตคือความไม่หลงตัวเอง ในขณะเดียวกันนั้น มานะและอุทธัตจกุกุจจะ ก้จะหายไป จิตเราก็ว่าง สบายๆ และเราก้อยู่เป็นสุขทุกเมื่อนั่นเอง เพราะเราไม่หลงตัวเอง จิตเราก็นิพพานก็คือเราก็นิพพานน่ะแหละแค่ไม่หลงตัวเองนี้แหละ(อ้างอิงจากคำสอนของหลวงตาบัว ที่วัดป่าบ้านตาด อุดร) และเมื่อบรรลุธรรมแล้วก้ปฏิบัติในส่วนของ ศีล สมาธิ ปัญญา ให้มีสติและปัญญาอยู่เสมอ ปัญญาคือความเห้นตามความเป็นจริง...
     

แชร์หน้านี้

Loading...