องค์นี้บูชามานานหลายปีก่อนโน้นแล้วครับ วันนี้ฤกษ์ดีนึกอยากอาราธนามาห้อยคอ หวังผลด้านการป้องกันสารพิษต่างๆ และ การพูดลื่นไหลเป็นของแถมครับ...
สำหรับผมตื่นปั๊บมีสติ นึกภาวนาอิติปิโสต่อด้วยนึกถึงหลวงพ่อดู่แผ่บุญออกเลยครับ นั่นคือสิ่งแรกที่ผมทำในทุกๆวัน
ความรู้หรืออาการต่างๆที่เกิดขณะเราภาวนามันเป็นเรื่องเฉพาะของบุคคลนะช่วงเวลานั้นๆด้วย ความรู้ที่อ่านมา จำมา เขาบอกมา ตัวนั้นแหละตัวขวางชั้นยอด...
คุณยังไม่รู้ตัวหรือว่า คุณกำลังสงสัยในผลที่คุณทำว่ามันเป็นอะไรยังไงถูกผิดหรือเปล่านะโน่นนี่ ผมเคยไปถามหลวงพ่อมาหมดแล้วเรื่องพวกนี้...
สมัยตอนที่บวชอยู่วัดป่าแห่งหนึ่ง หลวงพ่อแนะนำสั้นๆว่า ให้ภาวนา "พุทโธ" ๆๆๆ ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องอยากรู้อยากเห็น อยากได้โน่นได้นั่น...
ส่วนอาการของคุณผมไม่รับรองว่าเป็นแบบผมหรอกนะเพียงแต่เล่าให้ฟัง ว่าขนาดบวชอยู่ห่มผ้าเหลืองอยู่นั่งสมาธิอยู่ ผียังเข้ามาแฝงได้เลย...
ไม่แปลกครับ ตอนสมัยผมบวชผมนั่งสมาธินานเกิน 2 ชม.ในป่าช้า จากที่ปวดไปทั้งตัวขาชา แต่ทนเอาจนอาการปวดหายสนิทตัวเบาใจเบา...
การทำไปเรื่อยๆนี้มันก็ดีอย่างนะครับ ผมพูดได้เต็มปากว่าทำบุญเพื่อสร้าง ไม่ได้ทำบุญเพื่อละ เพราะมันยังไม่ถึงเวลาจะต้องละ...
เอาปัจจุบันนี้ก็ได้พบกันแล้วนี่ 55 ของแบบนี้มันไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือมาวัดกันได้เนาะว่าใครจะหลุดก่อนหลุดหลัง จะช้าจะเร็ว...
ถ้าเป็นสมัยเมื่อก่อนนะครับ ตอนที่ผมยังไม่รู้ไม่เข้าใจว่าทำไมเพราะอะไร ผมนี่อิจฉาชาวบ้านเลยล่ะ แบบว่าใครรวยๆนี่อิจฉามันจัง เรานี่ทำไมเกิดมาจนนักหนา...
ถ้าจะให้พูดแบบง่ายๆชาวบ้านๆ ก็ต้องพูดว่าชอบอันไหนให้ทำอันนั้นครับ แล้วอีก 9 อย่างมันจะค่อยๆพ่วงมาหากันอีกที...
ผมว่าการสร้างบารมี ถ้าเราทำแบบจดจ่อเร่งเคร่งเครียดเพื่อหวังสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ได้สมประสงค์โดยไว แบบนี้ก็รู้สึกว่าจริตผมก็ไม่รับอีกล่ะครับ...
แผ่บุญแห้งๆ คือเราใช้กำลังจักรยานของเราพาเขาจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ดีไม่ดีไม่ถึงไหน หึหึ ถ้าแผ่บุญให้ชุ่มฉ่ำ...
ไหนๆก็เป็นผลการบันทึกก็ขออนุญาตเล่าไป เมื่อก่อนผมก็สวดมนต์แผ่บุญตามแบบปกตินะครับ แต่ในความเหมือนมีความต่างอยู่ การที่เราสัพเพสัพตาเอง...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา