*** โลกุตตระธรรม ... บทสวดฆราวาส ****

ในห้อง 'รวมบทสวดมนต์และคาถา' ตั้งกระทู้โดย หนุมาน ผู้นำสาร, 23 พฤศจิกายน 2006.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *****************************
    โลกุตตระธรรม
    บทสวดฆราวาส…
    *****************************

    " จงเจริญด้วยธรรมเที่ยง "
    ---------------------------------------------------------------------------
    *** บทถวาย สัจจะ ****

    นะโม เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า (๓ จบ)
    ทังสีริทัง เยวะหัง ศาสนา บุพพะลัง จัตตุ อุลุสัทฐัง นิพพานัง เหติ ฯ
    ข้าพเจ้า ขอนอบน้อม สักการบูชา
    ต่อองค์โลกุตตระ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    พระธรรมคำสั่งสอน และพระอัครสาวก ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    พร้อมด้วยกาย วาจา ใจ

    ข้าพเจ้าขอพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
    โปรดนำแก้วสามประการนี้ สู่นิพพาน

    ข้าพเจ้าขอขมาต่อองค์โลกุตตระ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    สิ่งอันใดที่ข้าพเจ้า เคยกระทำผิดพลาดไป
    ด้วยกาย วาจา ใจ อันเป็นสิ่ง ที่ไม่สมควรที่แล้วมา
    ข้าพเจ้าขอขมา ขอได้โปรดรับ คำขมาของข้าพเจ้า

    ด้วย ณ สถาน สักการะนี้
    ต่อเบื้องพักตร์องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ข้าพเจ้าขอ ถวาย สัจจะ ว่า............ ตั้งแต่...........ถึง..........

    ขอองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดรับคำถวายสัจจะของข้าพเจ้าด้วย
    ขอดินฟ้าอากาศ จงรับรู้รับแจ้ง เป็นสักขีพยาน แก่ข้าพเจ้า

    ขอพระธรรมคำสั่งสอน ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    โปรดน้อมนำอุทิศส่วนบุญกุศลทั้งหมดนี้ แผ่รอบครอบจักรวาล
    วิมารพรหม ยมโลก รอบครอบจักรวาลสันดานมนุษย์
    อุทิศส่งให้คุณบิดามารดา ผู้อุปการะ ผู้อุปถัมภ์
    เจ้ากรรมนายเวร รอบครอบจักรวาล

    ข้าพเจ้าปรารถนาขอบรรลุ มรรค ๔ ธรรม ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑

    ----------------------------------------------------------------
    *** บทอาราธนาผู้ตาม ****
    ธรรมนี้ตอนพระพุทธเจ้ารักชีวิตของตน
    ค้นหาการกระทำต่อไป

    รัตตะนะสุเมตตา โพจะมานะสา เทตะรา ผัสสะ
    สัญญะ จะภูโต โสทะโส นิพพาโว โหตะ ฯ
    ---------------------------------------------------------------------------
    *** บทนมัสการพระพุทธเจ้าเฝ้าพระพุทธองค์ ****

    สาริสะ อาระหะตัง สัทถัง บัททะนัง อุลุมจะ มัยหัง
    เอกตะนี ปะชัง มัยหัง มัยหัง สัญญัง เหตะ เนมารัง สีระอิน
    ปะชัง สุขขัง สุขขัง มานะสะ บัพพะเก ตะยัง โอหัง เอกทะ
    เอโชตะรัง คมหัง คุมหัง ตานี มาลากันตัง สัญญา เรหัง
    เวททะนัง บัพพะขันติ คิริตตัง สัญญัง นิพพานัง เหติ ฯ
    ---------------------------------------------------------------------------
    *** จัตทะ อนุรง ****
    ตอนพระพุทธเจ้าตรัสรู้แก่ตนเองเพื่อพิจารณา

    บัททะกรุณา จัตตะ วิมุตสา อัตฐะ ปุริกะเทวา มะโนทะศึกษา
    อัตฐะปริญญา โสวะจะสา จันตุ อุปาทา ไสยะ สุเมตตา
    อัตฐะปุริสา รัตตะนะสุมาลา อุโปทะวะสา จิตานะจะ รัตตะนะ
    อมุทิตา โพธิจะสา มะโนทะมาลา โภคคะอุเบกขา โสตัด
    ปริญญา อะเสขะ อุปปะการา โสตัดมานัสสา ไสยะจะ มุทิตา
    อุลุจโทรม มานัสสา โภคคะกรุณา มะโนทะศึกษา อุปาทาสุขขา
    นิพพารา เขติ ฯ
    ----------------------------------------------------------------
    *** พร เขตะ ****

    สันทะอุปปะการา โภคคะจะสา มะโนทะจิตา รัตตะนะวะหา
    จัตตุอุปปาทา โพธิจะจะสา อัตฐะ สมมุติ วิหัชชะนา สัญญาวะสา
    เกตะรามา โมฆะ อุลุจวิสัทฐา โบกคะระณียา โสวะจะสา
    กันทิกา สันทะปุริสา โชติทะกิราชา มะโนทะศึกษา โพธิทะรา
    สุขขา กิริยา โหตุ ฯ
    ----------------------------------------------------------------
    ขันติมะยัง สันทิตะรูพัง อุเบกคะภูตัง สันหัง กัตตะพัง
    สีริตนิลตะปะชัง บัพพะภูตัง กันตะนัง สันหัง บัพพะชา ตุมหัง
    สุขโขทินนัง รัตตะโนมายัง สันหังเรจะ บัพพะชะ อรุณวะหัง
    อุเบกคะจะภูตัง อุลุมจะ สัททะ มานะ สุขขัง กันตะนัง โหตุ ฯ
    ----------------------------------------------------------------
    *** บันทิกัง อาระหัน ****
    ธรรมหมวดนี้ ตอนพระพุทธเจ้าแยกธาตุของสัตว์โลก

    ทังสีริทัง เยวะหัง ศาสนาอุตตะกัง เสวะสังสัญญานะจะ
    ผัสสะ วิมุติสัง เอคะนะตัง สันหัง ภาวะกิ สมมุติจิตัง มะโนทะสัง
    โชติทะปุทิยัง เสวะสัง สัญญานะจะ ผัสสะ อาระหะจะมุมทัง
    เสวะกัตตะมัง ปัตชานะจะ สัมมะวิมุติสัง เกตะมัง เอทะวิมุติสัง
    เจตะยัง อาระหังจิโต สันทุโนโส เอทะบุคคะโล อภิญโญ เสวะโส
    บุคคะโต อรุโณ เสวะโส โพธิทะโร จัตตุปะวิมุติโส กันตะโน
    สุขโข โพธิทะโร จันตุโต สุขโข โหตุ ฯ
    ----------------------------------------------------------------
    *** ธรรมหมวดนี้ตอนพระพุทธได้แก้วพระนิพพาน บริหารแก่ตนเอง ****

    พุทธมาสักกาเสจะ โชติทะกรุณา สมานะจะ เอทะบุคคะลา
    สมาเสจะ ไสยะ สมมุตติตา สมาเรจะกันทะบุคคะลา อุปาเสจะ
    พุทธะกรุณา สมาเสจะ เอทะบุคคะลา ตุมาสุขขา ไสยะสุเมตตา
    อัตฐะ วิมุตสา โชติทะตะรา อุปาทะวะสา ไสยะบุคคะลา ตุเมวิมุตสา
    โชติทะตะรา อุปาทะวะสา จันตุปาทา สมมุติอุเบกขา โชติทะกิราชา
    จัตตุตุมัสสา โชติทิทะรา อุปาทะวะสา กันตุ วิอัชชะยา โชติทะ
    กรุณา อุโปทะวะสา ไสยะกรุณา สันทะอุเบกขา โพธิทะรา
    อุปาทะวะสา สุขขานะจะ สัญญะมุมหิ อุปาทานะจะ ผัสสะ มุมหิ ฯ
    ----------------------------------------------------------------
    *** ธรรมหมวดนี้ ตอนพระพุทธเจ้า พิจารณาชีวิตของตน
    ค้นคว้าหาตัวกระทำ ยังไม่พบตน ****

    สันทะสิมาลา วาตะวิมุตสา อุเบกคะจะภูตา โสตะมานะสา
    สุคคะตะ รัตตะนะ สุเมตตาโพโพจะชีวะสา สุกันจะ ผัสสะกรุณา
    สัญญะปุริสา โสตัดสุมาตรา โพธะปุริสา โรทะมาลา
    อนุมาชะวะสา เกตะรา อิตฐะ อาระหะจิโต มะโนทะโส
    โพธิทะโร สุขโข โต เตติ ฯ
    --------------------------------------------------------------------------
    โบคคะระณีโย โพจะมานะโส เกตะโร อนุมาวิมุตโส
    สุเมนตุ อุลุวิสัทโฐ โพธิทะโร อนุมาวิรัจโส เกตะโร
    โสตะรัตตะนะ สุเมตโต โพจะมานะโส เกตะโร อิตฐะ
    อาระหะจิตัง มะโนทะสัง โพธิทะรัง สมามัง สุขขัง กิริยัง
    สุขขัง อุปปะมัง สุขขัง เกตะยัง มาติ ฯ
    --------------------------------------------------------------------------
    ผัสสะมานะสัง บุคคะละสุกันตัง วาตะจะโพสัง เกตะรัง
    อัตฐะ สัญญะจะภูโต โสตะปุระโส สุคคะตะ จะเทโว สันทิโส
    โพธิทะโร อนุมาวิมุตโส เกตะโร โสตะรัตตะนะ สุเมตโต
    โพจะทะโร โสทะโส สุคคะโต สันติโส โพธิทะโร จัตติมา
    วิระโส เกตะโร โสตะรัตตะนะ ชีวิโส อุเบกคะจะภูโต โสทะโส
    นิพพาโว โส โต เตติ ฯ
    --------------------------------------------------------------------------
    *** พระคาถาป้องกันสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล ****

    มันทิกะภูมิสัง โยชทะเทวัง เสวะจักหัง กันทุกะ
    สมณะวิบัติชัยยัง เสวะสัง จันตุปาทา วิกัตตัง สันธะสุขขัง
    โชติทิทะรัง เสวะสังโสนะ วิกัตชัยยัง มันธะตะมนัสสัง ขันธิยัง
    เสวะสุขขัง พรหมจะชัยยัง มันธิตะ สุขขัง กัตตะมัง โหตุ ฯ
    --------------------------------------------------------------------------

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2010
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    โลกุตตระ คือ พระไตรปิฎก
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    ธูปเจ็ดดอก สัญญาลักษณ์การสักการะต่อ โลกุตตระธรรม และ พระไตรปิฎก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2006
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    เมื่อถึงเวลา...ความจริงจะปรากฏ
    ขอให้ทุกท่านเป็นผู้มี "สัจจะ"
    และ กำหนด "สัจจะ" นำชีวิตตนเองทุกวัน
    วันละอย่าง วันละข้อ
    ตั้งใจลดนิสัยไม่ดีของตนเอง วันละข้อ
    ปฏิบัติให้เป็น "ประจำวัน"
    สิ่งที่ท่านทำได้ ไม่ตาย ไม่สูญสลาย และมีผลตอบแทน
    เป็นไปตาม "หลักสัจจะธรรม" ที่พระพุทธเจ้าค้นพบ คือ
    "ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน"
    ทุกการกระทำที่เราทำไปแล้ว เสมือนรูปถ่ายวีดีโอบันทึกไว้
    สมัยพุทธกาลเรียกว่า "ตัวกระทำ" ซึ่งจะติดตัวไปตลอดกาล
    และคอยจัดสรรชีวิตให้กับตัวเราตลอดไป

    ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
    คือ เกิดเป็นมนุษย์ ต้องพึ่งการกระทำของตนเองที่ได้ทำไปแล้ว
    สุดท้ายแล้ว ก็ต้องพึ่งตนเองกันทุกคน

    อดีตไม่สามารถย้อนมาเป็นปัจจุบัน รีบสะสมการกระทำเพื่อวันข้างหน้า
    การกระทำทุกย่างก้าว ย่อมมีผลตอบแทน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2006
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** พระไตรปิฎก **** คือ รวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** พรโปรดมวลมนุษย์ จาก โลกุตตระ ****



    ถึง ผู้มีอำนาจทั้งหลายทั่วโลก


    " เราขอประกาศไว้ว่า.......
    สถานที่นี้ เอาหลักธรรมของ โลกุตตระ มานำสัตว์ให้หลุดพ้น
    เพราะฉะนั้น ผู้มีอำนาจทั้งหลาย ขอให้ตั้งอยู่ในความสงบ
    อย่าได้เอาท้องฟ้านี้ เป็นสนามรบ


    ถ้าฝ่าฝืน ประเทศใดประเทศหนึ่งฝ่าฝืนโองการของ โลกุตตระ
    .......ฟ้าจะต่ำลงมา "




    วันเสาร์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๐
    "หนุมาน ผู้นำสาร"
    ผู้บันทึก
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** อย่าเอาท้องฟ้า มาเป็นสนามรบ ****



    หมายถึงว่า...เรื่องพื้นดิน นั้น.... แล้วก็แล้วไป
    ประเทศต่างๆ อเมริกา รัสเซีย จีน อินเดีย อิหร่าน เกาหลี ญี่ปุ่น ไทย พม่า ลาว เขมร และ ประเทศอื่นๆ
    ที่เคยครองสิทธิ ที่ดิน นานมาแล้ว...ก็แล้วไป


    ทุกชนชาติ...ไม่ควรเอาท้องฟ้าเป็นสนามรบ
    ให้เป็นโอกาสของดวงวิญญาณ ที่เขาจะมา


    หากไม่เชื่อ...รบกันแล้ว
    จะไม่มีใครเสีย....ใครสูญ
    มันระส่ำระสาย
    ไม่มีใครเสียหาย แต่ทำให้ปั่นป่วน


    เวลานี้...แต่ละประเทศ
    ถ้ากดปุ่มอาวุธนำวิถีเมื่อไหร่....มันจะเป็นไปทั้งหมด
    มันจะเกิดความผิดพลาด...ไปหมด
    แต่นี้...แน่นอนหรือไม่ ???
    ของเหล่านี้จูนระบบ...นำร่องด้วย "แสง"
    แต่ แสงหักเหได้
    มันอาจหักเหได้...ไปตกประเทศอื่น
    จะลุกลามใหญ่
    หลายประเทศ จะเอาข้อมูลไม่เป็นเรื่องมาอ้าง


    ดังนั้น...เรื่องภัยพิบัติโลกาวินาศ
    จะเกิดขึ้น หรือ ไม่
    ขึ้นอยู่กับ...ความคิด การตัดสินใจของผู้นำแต่ละประเทศ


    หาก...มีประเทศหนึ่ง ประเทศใด
    กดปุ่มยิงขีปนาวุธขึ้น
    โลก...จะเปลี่ยนแปลง...อย่างฉับพลัน !!!!
    จึงขอฝากไว้...ถึง ผู้มีอำนาจของแต่ละประเทศ


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** พรโปรดผู้นำ ****



    ควรเป็นธุระ เห็นใจเขาบ้าง
    มี "เมตตา กรุณา"....
    ให้ออกมาก ๆ...ไม่ใช่ออกน้อย


    อย่าลิดรอน ผู้อื่น...
    " ต้นไม้ ไม่ทันโต....ถูกคมมีดแล้ว "


    ขอร้องให้มี... "เมตตา กรุณา"....ที่อยู่ในส่วนลึกสุด
    อย่า...โกรธเขา
    อย่า....อิจฉาเขา
    อย่า...เอาเรื่องส่วนตัว ไปวิพากษ์วิจารณ์
    อย่า....ทำตัวเป็นนักข่าว
    ที่พูดนี้...ดูจากสภาพที่เป็นอยู่


    " ขึ้นต้นไม้สูงสุดแล้ว จะไปรบกับใครที่ไหนอีก "
    เมตตา กรุณา....ทำใจเห็นเขาบ้าง


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** โลกุตตระ ****



    คือ พระไตรปิฎก เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** โลกุตตระ คือ... ****



    องค์โลกุตตระ
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** โลกอ่อนไหว ****



    บุรุษ...ผู้มีสติพระพุทธเจ้า....
    ได้ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ โลกุตตระ ....นำ "น้ำ" มาเติมบนโลกให้เต็ม
    ตามสัดส่วนที่หายไป ๑๖ ส่วน
    มนตรีพระ...ผู้ดูแลจักรวาล ทั้ง ๓๒ องค์ ร่วมประชุมกันและเห็นด้วย

    จึงเริ่มจัดสรร น้ำ จำนวนมากจากทางช้างเผือกแหล่งน้ำของจักรวาล
    ก้อนน้ำแข็งจากทางช้างเผือก...ถูกลำเลียงมาตาม กระแสลมจักรวาล....มาสู่โลก
    เมื่อเข้าใกล้โลก...ก้อนน้ำแข็ง เสียดสีจนเล็กลง ....โดยมีบริเวณ ไซบีเรีย เป็นแหล่งรองรับ
    ซึ่งกระบวนการนี้ได้เริ่มต้นมาหลายปีแล้ว
    เกิดปรากฏการณ์ ที่เขาเรียก...ฝนดาวตก....ไม่เป็นภัยอันตรายต่อโลก...
    ซึ่งต่างจากฝนเหล็ก...ที่มีอันตรายยิ่ง

    เมื่อเสร็จสิ้น...โลกมนุษย์เรา....จะเข้าสู่ยุคใหญ่ ที่สมบูรณ์เหมือนในอดีตกาล
    น้ำจะเพิ่มมากขึ้น...ทุกอณูของสรรพสิ่งบนโลก จะมีน้ำครบส่วน คือ เข้ายุคพระศรีอารย์

    เมื่อถึงเวลาเหมาะสม...บุรุษ ผู้มีสติพระพุทธเจ้า....
    กาย เป็นพระพุทธเจ้า...จิตใจ เป็นโลกุตตระ
    จะลุกออกมาโปรด...ธรรมของโลกุตตระ เพื่อนำสัตว์ให้หลุดพ้น

    แต่...ชะตาฟ้าลิขิต มนุษย์ทุกคน จะต้องระส่ำระสาย...
    จากภัยอาวุธร้ายจากฟากฟ้า...ที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
    ก่อน....ที่มนุษย์ กำลังก้าวเดินถึงจุดนี้...
    โลกุตตระ...ทรงเมตตา....ให้พรโปรดมวลมนุษย์ ประกาศว่า
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** ช่วยกันโปรดสัตว์ นำสัตว์ให้หลุดพ้น ****

    สงครามกำลังจะเกิด....การใช้อาวุธนิวเคลียร์ ใกล้จะเป็นจริง
    หาก สารนี้กระจายไปทั่วโลก...จะสามารถช่วยหยุดยั้ง "สงครามนิวเคลียร์" ได้
    ทุกข้อความของข้าพเจ้า....ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ที่จะเผยแพร่
    เพราะ ทุกข้อความ...คือ ธรรมะ ความจริงที่มีประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
    โลก ...กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น....
    "หลักสัจจะธรรม" ปรากฏแล้ว
    มนุษย์ จึงควรหยุด "การกระทำที่โหดร้าย" เข่นฆ่ากัน
    ศาสนาต่างๆ กำลังจะรวมกันเป็นหนึ่ง....คือ ศาสนศาสตร์ของโลก
    ที่มานำสัตว์...หมายถึง มนุษย์ให้หลุดพ้นจากความทุกข์....สู่สรวงสวรรค์ที่ทุกคน ทุกศาสนาปรารถนาไว้

    ขอให้ผู้ที่รู้ตัว และ ผู้ที่เพิ่งเริ่มรู้สึกตัวว่าเป็น หน่อพุทธภูมิ โพธิสัตว์ มหาโพธิสัตว์...นำพา "หลักสัจจะธรรม" และ "การปฏิบัติสัจจะ" ออกสู่มวลมนุษย์ ต่อไป...เพื่อเป็นการสานต่อพระพุทธศาสนาในช่วงหลังกึ่งพุทธกาล ที่แก่นสารของศาสนาขาดหายไป

    มนุษย์ ที่ยังอยู่ในศาสนาอื่นๆ ...กำลังรอคอย สารที่ข้าพระพุทธเจ้านำมา
    จึงขอให้ช่วยกันอย่างเต็มกำลัง....อย่าให้เสียชาติที่มากำเหนิดในครั้งนี้...ทำให้เต็มที่
    โปรดนำ....ธรรมจากข้าพระพุทธเจ้า ไปโปรดมนุษย์ต่อไป
    กองทัพธรรม เริ่มก้าวออกเดินแล้ว...

    -" หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** สิ่งที่ไม่ตาย ไม่สูญสลาย คงอยู่ชั่วกัปชั่วกัลป์ ****

    พระพุทธองค์...กล่าวว่า
    " ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน "

    ประโยคนี้...เพียงประโยคเดียว....ครอบคลุมทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น ทั่วทั้งจักรวาล
    เพราะ....ประโยคนี้ คือ "หลักเดียวที่สูงสุด" ... ปักไว้มั่นคง นิ่ง ไม่กระดุกกระดิก
    นั่นคือ... "หลักสัจจะธรรม"
    สิ่งที่มนุษย์มุ่งค้นหากัน
    ซึ่ง พระพุทธเจ้าค้นพบมานานแล้ว ... แต่เมื่อถึงยุคปัจจุบัน กลับสูญหายไป
    ไม่มีผู้ใดอธิบายได้ว่า "หลักสัจจะธรรม" คือ อะไร หมายถึงอะไร

    ดังนั้น...ผลจากการกระทำ ที่เกิดขึ้นจาก "สัจจะ"...จึงเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ประมาณค่ามิได้ !!!
    ผลที่เกิดขึ้น คือ "ตัวกระทำ"....ที่จะติดตัวไปกับจิตวิญญาณของเรา ตลอดไป
    และ นี้คือ หนทางเดียวเท่านั้น...ที่จะช่วยให้ มนุษย์สามารถเดินทางหลุดพ้นจากความทุกข์ ...เพื่อไปพบกับพระผู้เป็นเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาลได้

    อย่า...มัวหลงการปฏิบัติที่ขัดกับ "หลักสัจจะธรรม" อยู่อีกเลย
    เวลา...ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอดีตที่ผิดพลาดได้
    วันนี้...และวันต่อๆ ไป...ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
    ดำเนินชีวิตด้วย "สัจจะ"....กำหนดสิ่งที่ดี ตั้งใจทำ วันละข้อ วันละหนึ่งชั่วโมง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** กรรม กำลังมา จะทำอย่างไรดี ? ****

    กรรม กำลังปรากฏชัดขึ้นเรื่อย
    ณ เวลานี้
    "การกระทำ" ....เป็นสิ่งสำคัญที่สุด มีคุณค่าประเมินค่ามิได้
    เราจะหลบหลีกจากกรรม ที่จะมาถึงได้....ต้องอาศัย ..."ผลจากการกระทำ"

    การกระทำที่ดีที่สุด...คือ "การกระทำที่สร้าง กรรมเที่ยง"
    คือ "การกระทำที่เกิดจาก สัจจะ" ... และเป็นสัมมาทิฐิ
    การปลด ปลิด ละ เลิก ...สิ่งไม่ดีในชีวิต
    กิเลส นิสัย.... ที่ยังคงมีอยู่ในจิตใจของเรา

    เราจึงต้องพึ่ง "สัจจะ"...เป็นผู้นำให้กับเรา
    นำให้เกิด ...."การกระทำใหม่"
    นำให้เกิด...สิ่งที่ยังไม่เคยทำ สิ่งที่ยังไม่ได้ทำ และสิ่งที่ดีที่ยังทำไม่ได้

    เราจึงควรระลึกอยู่เสมอว่า...
    "สัจจะ เป็นที่พึ่งตลอดชีวิต"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** หลักปฏิบัติสัจจธรรม ****

    พระโลกุตตระเขตะมารัจจะ ท่านกล่าวสอนไว้ว่า......

    สาธุชนทั้งหลาย ควรตั้งอยู่ในศีลในธรรม และมีสัจจธรรม โดยมีหลัก 3 ประการ คือ ต้องมี"ใจ"อันสัจจธรรม มี"ปาก"อันสัจจธรรม และ"ปฏิบัติ"อันสัจจธรรม.....

    1.ใจอันสัจจธรรม-เมื่อใจนึกในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามใจที่เป็นสัจจธรรม อย่าให้ออกนอกลู่นอกทาง คือ ไม่ให้เกิดกิเลส โลภ-หลง และไม่ให้ถืออาฆาตพยาบาทกับผู้ใด เมื่อผู้อื่นทำให้เราไม่พอใจ เราก็ถือใจสัจจธรรมว่า ไม่โต้ตอบ จะได้บรรลุศีลอันบริสุทธิ์ถึงขั้นอรหันต์ แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามใจสัจจธรรม ที่ได้มุ่งมั่นไว้ ก็จะทำให้เราลดบารมีศีลไป

    2.ปากอันสัจจธรรม-เมื่อเราลั่นวาจาออกมาแล้วในวาจาระหว่างนี้ เป็นวาจาสัจจธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อพูดว่า"ไป"ก็ต้องไป ถ้าเราพูดว่า"ไม่" ก็ต้องไม่ อย่าพูดออกมาโดยไม่ตรงกับใจ ซึ่งเป็นการผิดไปจากสัจจธรรม เช่น เมื่อเราตั้งใจว่า วันนี้จะขอสุขกายสุขใจ แต่เมื่อพบสิ่งไม่พอใจเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้ปากไม่สงบ คือ ผิดไปจากปากอันเป็นสัจจธรรม จะหลั่งวาจาอันไม่สมควรฟังออกมาแก่ผู้อื่น ถ้าเราถือใจสัจจธรรมและปากสัจจธรรมแล้ว จะต้องตั้งอยู่ในสมาธิ ให้ถือขันติ มีมานะอดทน มีมุทิตา มีอุเบกขา จะได้เป็นการคล้องจองกับการถือใจสัจจธรรม ปากสัจจธรรม และปฏิบัติสัจจธรรม.....

    3.ปฏิบัติอันสัจจธรรม-ต้องให้คล้องจองกับปากและใจ เช่น เมื่อใจคิดว่าสวดมนต์หนึ่งเล่มธูป ปากก็ได้สวดมนต์ ในการกระทำ ก็ต้องกระทำให้ครบเล่มธูป เป็นการคล้องจองไป จะได้มีบุญบารมีสะสมไว้ใจสัจจธรรม ปากสัจจธรรม และปฏิบัติสัจจธรรม ถ้าสามสิ่งนี้ ขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ก็ถือว่า"ขาดศีล"ในชีวิตครอบครัว ภรรยาเป็นหลักหนึ่งที่ช่วยค้ำจุนองค์สัจจธรรม เมื่อสามีปฏิบัติสิ่งใด ภรรยาควรใช้สายตาตรวจชี้ในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าสามีจะออกนอกลู่นอกทาง ภรรยาก็ควรช่วยเตือนสติปัญญา ให้เขากลับมา แต่ภรรยาจะต้องถือใจปฏิบัติสัจจธรรม ปากถือปฏิบัติสัจจธรรม และตัวปฏิบัติถือสัจจธรรม จึงจะได้ผล อย่าโมโหโกรธา หน้าบึ้งหน้าบูดหน้าเบี้ยว เป็นกิริยาที่ไม่น่าดูไม่น่าชม แทนที่จะเป็นหลักช่วยกระตุ้นเตือนให้สามี กลับเป็นน้ำมันราดในกองเพลิงให้มันลุกช่วงโชติขึ้นมา เป็นการผิดนอกลู่นอกทางของสามี มิได้เป็นการเสริมสร้างบารมี แต่เป็นการทำลายบารมีของภรรยาเอง ผู้ใดปฏิบัติสามประการนี้ได้ ก็จะเป็นศรีภรรยาตามหลักขององค์สัจจธรรม ลูกหลานจะได้เจริญรุ่งเรือง อุปมาเหมือนปากกับท้อง ดังนี้ คือ :-

    สามีทั้งหลาย ให้ถือว่าเป็น"ปากเป็นเสียง" ภรรยา ให้ถือว่าเป็น"ท้อง" เมื่อสามีใช้ปากดำเนินกิจการต่างๆ ปฏิบัติงานต่างๆ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีพเลี้ยงครอบครัว ภรรยาก็เป็นท้องสำหรับรองรับ เมื่อสามีปฏิบัติตามในหลักธรรมที่ถูกต้อง คือ หาเลี้ยงชีพอย่างสุจริตชน ไม่โกงเขา ไม่โลภหลง เงินทองที่ทำมาหามาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย สร้างความภูมิใจ เท่ากับว่า เป็นอาหารอันโอชา เมื่อเงินทองที่ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ ก็เป็นอาหารทิพย์ เมื่อเอามาเลี้ยงท้อง ท้องก็จะอยู่ดี รับด้วยความสบาย มีพลังเข้าถึงหลักธรรมได้ ปากกับท้องนี้ ต้องอยู่คู่กันไปตลอดชาติ เมื่อท้องแข็งแรง ปากก็ดี ก็พลอยให้จิตใจของเราดีไปด้วย เมื่อจิตใจเราดี ผู้นั้นย่อมเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันสิ้นสุด

    เมื่อปากที่ให้สมมุติฐานว่าเป็นสามี ได้เงินได้ทองมาในสิ่งที่ผิดๆ เมื่อเอามาเลี้ยงท้องแล้ว ก็จะเกิดเป็นพิษ เมื่อท้องปวดท้องเจ็บ ก็ต้องอุทธรณ์ให้สามีเลิกปฏิบัติการในสิ่งที่ผิด เมื่อปากปฏิบัติถูกต้องแล้ว ท้องก็จะอยู่เย็นเป็นสุข ปากก็จะอยู่เป็นสุข ไม่เป็นพิษไม่เป็นภัยถ้าภรรยาซึ่งเป็นท้อง กินทุกสิ่งทุกอย่าง โลภไม่มีวันหยุด หลงไม่มีวันหยุด ก็พลอยให้ปากผิดไปด้วย ถ้าสามียึดมั่นอยู่ในธรรมะ ก็จะไม่ปฏิบัติตามท้อง ท้องก็จะอาละวาด ทำให้ครอบครัวไม่มีความร่มเย็นเป็นสุข แต่ถ้าสามีที่เป็นปากนี้ เกิดไปหลงผิดตามท้อง หาในสิ่งที่ไม่ดีไม่งามมาป้อนให้ท้องได้สบอารมณ์หมาย แต่ในบั้นปลายผลรับจะเป็นอย่างไร ผลรับนี้ ก็จะทำให้เสียทั้งปากทั้งท้อง

    การปฏิบัติใดๆ ถ้ามีธรรมะ เมื่อเกิดหลงผิดแล้ว ก็ยังมีทางที่จะชำระได้
    บุญ- หมายถึง สิ่งอันบริสุทธิ์สดใส
    กรรมชั่ว-หมายถึง สิ่งที่ดำมืด ไม่มีให้ความสว่าง

    ขอให้สาธุชนทั้งหลาย ค่อยๆศึกษา ค่อยๆปฏิบัติกันไป ให้บรรลุถึงใจสัจจธรรม ปากสัจจธรรม และปฏิบัติสัจจธรรม ให้ครบสามประการ สิ่งใดที่เห็นว่าไม่ถูกต้อง จงใช้อารมณ์เย็นเข้าลูบ เมื่ออารมณ์เย็นเข้าสู่ร่างกายของเราแล้ว ก็จะเกิดสติปัญญาขึ้น และจะมีความสดใสชั่วกาลนาน.........

    http://www.oknation.net/blog/print.php?id=89717

    -
     

แชร์หน้านี้

Loading...