แจ้งด่วน..หลวงปู่มา ญาณวโร (สายธรรม ลป.มั่น) มรณภาพแล้ว วัดสันติวิเวก จ.ร้อยเอ็ด

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย แดนโลกธาตุ, 2 พฤศจิกายน 2009.

  1. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    แจ้งด่วน..พระมงคลญาณเถระ หรือ หลวงปู่มา ญาณวโร
    (สายธรรม ลป.มั่น) มรณภาพแล้วด้วยอาการสงบของวันนี้ 2 พฤศจิกายน 2552 เวลา 10.59 น ณ วัดสันติวิเวก ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
    สิริอายุหลวงปู่ 97 ปี
    พรุ่งนี้ 3 พ.ย. 52 จะมีพิธีน้ำหลวงสรงศพ
    ขอเรียนเชิญร่วมงานหลวงปู่โดยพร้อมเพรียงกันจึงแจ้งมาให้ทราบ
    กำหนดการดังกล่าวจะแจ้งต่อไปครับ


    ประวัติหลวงปู่มา ญาณวโร
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=8922
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2009
  2. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    หลวงปู่มา' พระดังร้อยเอ็ดละสังขาร

    [​IMG]
    "เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี" หลวงปู่มา ถาวโร พระสายวิปัสสนากรรมฐาน และเกจิอาจารย์ชื่อดังของ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งอาพาธมาหลายเดือน ได้ละสังขาร เมื่อเวลา 10.59 น. อายุ 97 ปี..

    [​IMG]

    เมื่อวันที่ 2 พ.ย. พระมงคลญาณเถระ หรือ หลวงปู่มา ถาวโร "เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี" พระสายวิปัสสนากรรมฐาน และเกจิอาจารย์ชื่อดังของ จ.ร้อยเอ็ด หัวหน้าคณะสงฆ์วัดสันติวิเวก บ้านดอนคำ ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งอาพาธมาหลายเดือน ได้ละสังขาร เมื่อเวลา 10.59 น. อายุ 97 ปี

    ต่อมานายธวัชชัย ฟักอังกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมศิษยานุศิษย์ และผู้เลื่อมใสศรัทธา จากหลายจังหวัด พากันไปเคารพศพ ก่อนตกลงกันว่าจะไม่ทำพิธีฌาปนกิจ แต่จะเอาศพบรรจุไว้ในโลงแก้ว เพื่อสักการะต่อไป

    [​IMG]

    ด้านนายเจริญ ธงทอง อายุ 68 ปี อดีตนายอำเภอ ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดกับหลงปู่มา เปิดเผยว่า หลวงปู่มาบรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุได้ 8 ขวบ จากนั้นอายุครบ 20 ปี จึงบวชเป็นพระ ไม่เคยลาสิกขา กระทั่งอายุได้ 97 ปี ระหว่างที่หลวงปู่มามีชีวิต เป็นพระสงฆ์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่ปฏิบัติเคร่งในสายวิปัสสนากัมมัฏฐาน เป็นเกจิอาจารย์ที่โด่งดังรูปหนึ่งของภาคอีสาน วัตถุมงคลที่หลวงปู่มาสร้างคือ "พระเศรษฐีนวโกฏิ" ศิษยานุศิษย์นำติดตัวไปต่างประเทศทำให้ชาวต่างประเทศ เช่น ชาวอเมริกันหลายคนอยากมีไว้ในความครอบครอง แต่หลวงปู่มาได้สอนไว้ว่า วัตถุมงคลจะดีนั้น ขึ้นอยู่กับผู้มีไว้ในความครอบครัวปฏิบัติตัวดีหรือไม่มีศีลปฏิบัติธรรมหรือไม่ เพราะสิ่งมีชิวีตทุกสิ่ง ย่อมเวียนว่าย ตายเกิดไปตามกฎแห่งกรรม และวัฏสงสาร

    หลวงปู่มาได้นำศิษยานุศิษย์สร้างสถานพยาบาล จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ สร้างสถานศึกษา สร้างสิ่งสาธารณประโยชน์อย่างมากมาย ฝึกอาชีพให้ชาวบ้าน แต่หลวงปู่มาไม่ต้องการประชาสัมพันธ์ผลงาน และชอบทำงานแบบปิดทองหลังพระ จึงทำให้ผู้เคารพศรัทธาเรียกท่านว่า "เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี" ศพของหลวงปู่มาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดสินติวิเวก บ้านดอนคำ ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    ส่วนสาเหตุที่หลวงปู่อาพาธหนักอย่างรวดเร็ว นายเจริญ ธงทอง ให้ความเห็นเช่นเดียวกับศิษยานุศิษย์คนอื่นว่า เพราะก่อนหน้านี้ หลวงปู่มา ต้องคอยดูแลช่างก่อสร้างศาลาทรงไทยแบบล้านนา จำนวน 2 หลัง ต้องกรำแดดกรำฝน และยืนหายใจเอาฝุ่นละอองจากสิ่งก่อสร้างเป็นระยะเวลานาน แพทย์บอกว่าเป็นสาเหตุทำให้หลวงปู่ซึ่งอายุมากแล้ว ขาดการผักผ่อน ต้องเป็นโรคปอดติดเชื้อ ซึ่งศิษยานุศิษย์นำเข้ารักษาตาม รพ.หลายแห่ง แต่ระหว่างอยู่ใน รพ.ได้บ่นอยากออกไปอยู่วัด เพราะต้องการให้งานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ จึงเป็นเหตุให้การอาพาธทรุดหนักอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมรณภาพในที่สุด

    'หลวงปู่มา' พระดังร้อยเอ็ดละสังขารแล้ว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  3. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    กราบนมัสการองค์หลวงปู่มา ญาณวโร
     
  4. พิราบดำ

    พิราบดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    438
    ค่าพลัง:
    +288
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ครับ
     
  5. ลูกหลานลิง

    ลูกหลานลิง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +26
    กราบหลวงปู่ครับ สังฆังนะมามิ
     
  6. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,795
    สุคโต

    กราบพระสงฆ์เนื้อนาบุญของโลกครับ
     
  7. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    พระนวโกฎิเศรษฐีของท่านดังมาก...ขอกราบนมัสการพระเดชพระคุณท่าน
     
  8. พุทโธ ภควา

    พุทโธ ภควา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    567
    ค่าพลัง:
    +1,772
    กราบหลวงปู่ครับ
     
  9. ผงธุลี

    ผงธุลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    476
    ค่าพลัง:
    +2,494
    กราบนมัสการหลวงปู่มา ถาวโร

    ขอหลวงปู่สู่แดนนิพพาน
     
  10. jaroenthai

    jaroenthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    913
    ค่าพลัง:
    +3,962
    กราบนมัสการพ่อแม่ครูบาอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า ..
     
  11. Lacuna

    Lacuna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    3,132
    ค่าพลัง:
    +250
    กราบนมัสการพระอาจารย์
     
  12. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    กราบนมัสการ หลวงปู่มา ญาณวโร
     
  13. arnupa.palavatana

    arnupa.palavatana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +48
    ขอกราบนมัสการหลวงปู่ครับ
     
  14. โตเมืองต่ำ

    โตเมืองต่ำ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +18
    ขอหลวงปู่สู่นิพพาน กราบหลวงปู่ครับ
     
  15. Karnta

    Karnta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,239
    ค่าพลัง:
    +1,098
    สาธุ นิพพานปัจจโย โหตุ

    ขอโมทนาบุญกุศลที่หลวงปู่ได้ทำไว้ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันค่ะ สาธุ<!-- google_ad_section_end -->

    กราบไว้อาลัยหลวงปู่มา ญาณวโร ค่ะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. Nijaree

    Nijaree เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +172
    ขอกราบ กราบ กราบ หลวงปู่เจ้าค่ะ
     
  17. nantapong

    nantapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    913
    ค่าพลัง:
    +2,154
    กราบหลวงปู่ครับ
     
  18. greenice

    greenice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +1,390
    ขอกราบหลวงปู่ด้วยความเคารพอย่างยิ่งครับ
     
  19. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่มา ญาณวโร

    วัดสันติวิเวก ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    ๏ อัตโนประวัติ

    “พระมงคลญาณเถร” หรือ “หลวงปู่มา ญาณวโร” ประธานสงฆ์แห่งวัดสันติวิเวก บ้านโนนคำ

    ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พระเกจิอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐานชื่อดังแห่งภาคอีสาน

    ที่ผู้คนต่างรู้จักดีถึงกับมีการขนานนามท่านว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี”

    หลวงปู่มา มีนามเดิมว่า มา วรรณภักดี เกิดเมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๖

    ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล ณ บ้านโนนคำ ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ

    จ.ร้อยเอ็ด โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายคูณ และนางตั้ว วรรณภักดี

    ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๕ คน

    ท่านเป็นบุตรคนที่ ๔ มีชื่อตามลำดับดังนี้

    ๑. นางโฮม วรรณภักดี

    ๒. นายสม วรรณภักดี

    ๓. นายทา วรรณภักดี

    ๔. หลวงปู่มา ญาณวโร

    ๕. นางสุดตา อุ่นทรวง

    ๏ การบรรพชา

    สาเหตุที่ทำให้ต้องบวช หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อวัยเยาว์ พอท่านอายุย่างเข้า ๘ ขวบ

    โยมมารดาของท่านก็มาเสียชีวิต ตามประเพณีแล้วเมื่อบิดามารดา ญาติพี่น้อง

    หรือผู้มีพระคุณเสียชีวิต จะต้องมีการบวชหน้าศพ โดยลูกหรือหลานๆ ของผู้ที่เสียชีวิต

    แล้วนำศพไปเผา เช่นเดียวกัน ในงานศพของโยมมารดาของท่านนั้น พวกญาติๆ

    จึงเลือกให้หลวงปู่บวชหน้าศพ หลวงปู่บอกว่า ท่านยังจำคำพูดของโยมมารดาท่านได้

    เมื่อโยมมารดากำลังป่วยอยู่ได้พูดกับท่านว่า “เมื่อแม่ตายแล้ว ให้บักน้อยบวชให้แม่เด้อ”

    ยังจำได้จนบัดนี้ เมื่อโยมมารดาเสียชีวิตแล้ว ท่านก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร

    ณ วัดดอนประดิษฐาราม บ้านดอนน้อย ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ โดยมีพระอธิการสอน อุตฺตโม เป็นพระอุปัชฌาย์

    พอตอนบ่ายพวกญาติๆ และชาวบ้าน ก็ได้นำศพโยมมารดาไปสู่ป่าช้าดอนหมากเหลื่อม

    ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือหมู่บ้าน ห่างประมาณกิโลเศษ หลวงปู่ก็ได้เดินนำหน้าศพโยมมารดา

    ตั้งแต่บ้านถึงป่าช้า เมื่อทำพิธีเผาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กลับบ้าน ตอนเย็นโยมบิดา พี่ชาย

    และพี่สาว ก็ออกมาหาที่วัด ถามว่า “จะสึกไหม” ท่านก็บอกว่า “ยังไม่สึก

    เพราะก่อนตายแม่สั่งไว้ว่าให้น้อยบวชให้แม่ น้อยจะอยู่ไปก่อน” ท่านว่าพอคิดจะสึก

    ก็ให้นึกถึงคำพูดของโยมมารดา ก็เลยไม่สึกอยู่มาจนทุกวันนี้

    ๏ วิทยฐานะและการศึกษาพระปริยัติธรรม

    หลังจากบรรพชาเป็นสามเณร ได้ประมาณ ๒๐ กว่าวัน ทางราชการก็ได้มีหมายเกณฑ์ให้หลวงปู่

    ไปเข้าโรงเรียน เพราะอายุย่างเข้า ๘ ปีแล้ว การเรียนสมัยนั้นยังไม่ได้ใช้กระดาษ

    แต่ใช้กระดานหินแทนกระดาษ และดินสอหิน หลวงปู่ท่านก็เดินข้ามทุ่งไปเรียนหนังสือร่วมกับ

    เด็กๆ ทั้งชาย หญิง ทั้งที่ท่านก็เป็นสามเณร ที่โรงเรียนวัดบ้านดอนน้อย ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ

    จ.ร้อยเอ็ด บ้านเกิดของท่าน หลวงปู่นั้นท่านเป็นผู้ที่โชคดีกว่าทุกคนที่ไปเรียนด้วยกัน

    เพราะตอนที่ท่านอายุได้ ๔ ขวบ โยมบิดาได้นำท่านไปฝากไว้กับหลวงลุงดอน

    ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดบ้านโนนคำ ให้เรียนหนังสืออยู่ที่นั่น เนื่องจากว่าหลวงลุงดอนท่านนี้

    เป็นผู้ที่รู้หนังสือไทยดีคนหนึ่ง คนในสมัยนั้นน้อยคนที่จะรู้หนังสือไทย

    เมื่อหลวงปู่อยู่กับหลวงลุงดอน หลวงลุงดอน ก็เอาหนังสือแบบเรียนเร็วมาให้หัดเขียน

    หัดอ่านตั้งแต่ ก ข ค ฆ ง แล้วผสมสระ พยัญชนะ อ่านเป็นเสียงได้ หลวงปู่บอกว่า

    ท่านอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง มีใจความว่า ตาดีมือแป ตาสาอีแป๊ะ

    หนังสือนิทานอีสปนกกระสาหมาจิ้งจอก เรียนอยู่ไม่นาน ครูประจำชั้นก็ให้ท่านเป็นหัวหน้า

    นำนักเรียนในกลุ่มเดียวกันอ่านหนังสือ ตลอดจน นับเลข ตั้งแต่หนึ่งถึงร้อย ถึงพัน

    ท่านก็เรียนอยู่ ๒ ปี ครูเลยให้ขึ้นไปอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จนกระทั่งจบการศึกษา

    ขั้นสูงสุดในสมัยนั้นคือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๖

    ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระบามสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ พ.ศ. ๒๔๖๖

    ได้ลาออกจากโรงเรียนบ้านดอนน้อย ไปเรียนต่อที่วัดคำครตา ต.ดงมะไฟ อ.ยโสธร (ในสมัยนั้น)

    จ.อุบลราชธานี มีพระสา ซึ่งเป็นญาติๆ กันจะไปจำพรรษาที่นั่น

    จึงได้ติดตามเป็นลูกศิษย์ไปด้วย ณ วัดคำครตาแห่งนี้ มีพระเถระองค์หนึ่งเคยรับราชการ

    เป็นเจ้านายคนไทย รู้หนังสือไทยดี มาอยู่ที่นี่ได้เรียนสูตรสิบสองตำนาน เรียนสวดไชยน้อย

    ไชยใหญ่ การเรียนต้องเรียนต่อคำ ไม่ต้องจับหนังสือท่องบ่นเหมือนในสมัยนี้

    เรียนเทศน์มหาชาติ อยู่ที่นี้ได้ไม่นานนัก (พ.ศ. ๒๔๖๖-๒๔๖๗)

    พ.ศ. ๒๔๖๘ ก็ได้กลับมาจำพรรษาที่วัดตาล (วัดศรีทองนพคุณ) ต.กลาง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    พ.ศ. ๒๔๗๐ พระครูอุตตรานุรักษ์ (อินทร์ อินฺทสาโร) เจ้าคณะแขวงเสลภูมิ (ในสมัยนั้น)

    ได้มีหนังสือเรียกตัวให้เข้ามาอยู่ที่วัดกลาง (วัดมิ่งเมือง) ต.กลาง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    พ.ศ. ๒๔๗๑-พ.ศ. ๒๔๗๓ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก

    ณ สำนักเรียนวัดกลาง (วัดมิ่งเมือง) สามารถสอบไล่ได้ ๓ ปีติดต่อกัน

    หลังจากที่สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอกแล้ว ตั้งใจว่าจะไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ฯ

    เพราะอยากเป็นมหากับเขาบ้าง สามเณรรุ่นเดียวกันเขาไปเรียนได้เป็นมหา เป็นเจ้าคุณ

    เป็นสมภารเจ้าวัด ก็หลายองค์ หลวงปู่ท่านบอกว่า เรามันไม่มีบุญจะได้เป็นมหากับเขา

    เป็นเพียงพระที่อาศัยอยู่ตามวัดบ้านนอกอย่างที่เห็นอยู่นี่แหละ <!-- / message --><!-- attachments -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]
    </FIELDSET>
     
  20. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>หลวงปู่มา ญาณวโร <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    พระมงคลญาณเถร หรือ หลวงปู่มา ญาณวโร ประธานสงฆ์แห่ง วัดสันติวิเวก บ้านโนนคำ ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ชื่อนี้อาจจะไม่เป็นที่รู้จักของคนภาคกลางเท่าใดนัก แต่ถ้าเป็นคนในภาคอีสาน
    โดยเฉพาะใน จ.ร้อยเอ็ด ขอนแก่น นครพนม มหาสารคาม ต่างรู้จักกันดีว่า ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐานชื่อดังแห่งภาคอีสาน มักจะได้รับนิมนต์ให้ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลบ่อยครั้ง ส่วนกรุงเทพฯ และจังหวัดในภาคกลางนั้น ท่านจะได้รับนิมนต์ให้มานั่งปรกเฉพาะพิธีมหาพุทธาภิเษกใหญ่ๆ ผู้คนต่างรู้จักดี ถึงกับมีการขนานนามท่านว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี”
    อย่างไรก็ตาม เมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ต้องคดีซุกหุ้น เมื่อปี ๒๕๔๐ นั้น นอกจากใช้การต่อสู้ด้านกฎหมาย เพื่อให้หลุดพ้นข้อกล่าวหาแล้ว การทำบุญสะเดาะเคราะห์ ก็ยังเป็นอีกทางหนึ่ง <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    โดยในครั้งนั้น นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ทั่วภาคอีสาน มาทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ในครั้งนั้นหลวงปู่มาเป็นตัวแทนพระเกจิอาจารย์ทั้งหมด ในการผูกข้อมือนายกฯ ทักษิณด้วยด้ายสายสิญจน์
    สำหรับที่มาของฉายา "เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี" นั้น พระครูอุดมธรรมานุกูล เจ้าอาวาสวัดภูพานอุดมธรรม หนึ่งในพระลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด บอกว่า หลวงปู่มา เป็นพระเถระผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั่วไป และทั่วทั้งภาคอีสาน เกียรติคุณของท่านเป็นที่ทราบโดยทั่วไป หน่วยงานราชการและประชาชนต่างหลั่งไหลเข้ามาขอให้ท่านช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก ซึ่งท่านก็ได้บริจาคและให้ความช่วยเหลือด้วยดีมาโดยตลอด
    ชื่อของหลวงปู่จึงปรากฏอยู่ตามสถานที่ราชการ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล และหน่วยงานต่างๆ มากมาย ทั้งนี้ โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม ได้รับความเมตตาจากท่าน ในการสร้าง “หอสมุดเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก” เป็นจำนวนเงิน ๗.๕ ล้านบาท เพื่อให้ลูกหลานชาวเสลภูมิ ได้ศึกษาหาความรู้ ซึ่งชาวเสลภูมิพิทยาคมสำนึกในพระคุณของหลวงปู่อย่างที่สุด <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    นอกจากนี้แล้ว ชีวิตที่เต็มไปด้วยการอุทิศตนเพื่อประโยชน์สุข ยังนำความเจริญที่กลมกลืนกับหลักพุทธธรรมหยิบยื่นให้ชาวอีสาน จนทำให้ประชาชนดำรงชีพ ยืนหยัดอยู่ได้ด้วยลำแข้ง ประกอบสัมมาอาชีพบนความถูกต้องและชอบธรรม
    ตลอดจนท่านยังเป็นพระนักทำงาน และทำจริง อะไรที่จะเป็นประโยชน์ก่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้า ทั้งต่อมวลประชา และฝ่ายคณะสงฆ์ ท่านจะรีบเร่งทำอย่างรวดเร็ว โดยมิรั้งรอ ทุกขณะทุกลมหายใจของท่านเปี่ยมล้นไปด้วยความดีที่จีรัง และไม่มีอะไรมาจำกัดขอบเขตคุณความดีที่แผ่กระจายออกไป ประจักษ์แจ้งในหมู่คณะสงฆ์ คงอยู่ในใจชาวลุ่มน้ำชีมาเกือบศตวรรษ
    สาเหตุที่ทำให้ต้องบวช หลวงปู่มา เล่าให้ฟังว่า เมื่อวัยเยาว์ อายุย่างเข้า ๘ ขวบ โยมมารดาเสียชีวิต ตามประเพณีแล้ว เมื่อบิดามารดา ญาติพี่น้อง หรือผู้มีพระคุณเสียชีวิต จะต้องมีการบวชหน้าศพ โดยลูกหรือหลานๆ ของผู้ที่เสียชีวิต แล้วนำศพไปเผา <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    ในงานศพของโยมมารดาของท่าน พวกญาติๆ จึงเลือกให้หลวงปู่บวชหน้าศพ เป็นสามเณร ณ วัดดอนประดิษฐาราม บ้านดอนน้อย ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๔๖๔ โดยมี พระอธิการสอน อุตฺตโม เป็นพระอุปัชฌาย์
    พอตอนบ่าย พวกญาติๆ และชาวบ้าน ได้นำศพโยมมารดาไปสู่ป่าช้าดอนหมากเหลื่อม ทางทิศเหนือของหมู่บ้าน ห่างประมาณกิโลเมตรเศษ หลวงปู่ได้เดินนำหน้าศพโยมมารดา ตั้งแต่บ้านถึงป่าช้า
    เมื่อทำพิธีเผาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กลับบ้าน ตอนเย็นโยมบิดา พี่ชาย และพี่สาว มาหาที่วัด ถามว่า “จะสึกไหม” ท่านบอกว่า “ยังไม่สึก เพราะก่อนตายแม่สั่งไว้ว่า ให้น้อยบวชให้แม่ น้อยจะอยู่ไปก่อน” <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    ท่านบอกว่า พอคิดจะสึก ก็ให้นึกถึงคำพูดของโยมมารดา เลยไม่สึก และอยู่มาจนทุกวันนี้
    อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ที่ ๑๘ พฤษภาคม นี้ คณะสงฆ์ จ.ร้อยเอ็ด คณะสงฆ์ จ.นครพนม ร่วมกับพุทธศาสนิกชนศิษยานุศิษย์ ทั้ง ๒ จังหวัด ได้กำหนดจัดงาน พิธีแสดงมุทิตาสักการะหลวงปู่มา เนื่องในวาระเจริญอายุวัฒนมงคล ๙๖ ปี ณ วัดภูพานอุดมธรรม อ.นาแก จ.นครพนม
    เกจิ...เทพเจ้า <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    "คม ชัด ลึก" ได้รวบรวมข้อมูลพระเกจิอาจารย์ ทั้งที่มีชีวิตอยู่ และมรณภาพไปแล้ว ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "เทพเจ้า" ซึ่งมีอยู่หลายรูป เช่น เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด คือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พระสงฆ์ผู้มีแต่ให้ กิตติคุณแห่งอำนาจ บารมีของหลวงพ่อคูณที่ร่ำลือระบือไกลแทบจะทั่วโลกก็ยังรู้จัก
    เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำโขง คือ พระสุนทรธรรมากร หรือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอปลาปาก อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม เป็นพระเถระวิปัสสนากรรมฐานของภาคอีสาน มีความสามารถทั้งทางด้านวิปัสสนาธุระ และคันธะธุระ และเป็นที่เคารพรักของลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศ
    เทพเจ้าแห่งดอน (โคก) ยายหอม คือ พระราชธรรมาภรณ์ หรือ หลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ วัดดอนยายหอม ต.ดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม ในอดีตที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้น หลวงพ่อเป็นผู้นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ดอนยายหอม เป็นที่รักเคารพอย่างสูงส่ง ของชาวดอนยายหอม ท่านได้ช่วยปกป้องคุ้มครองภัย และช่วยให้ชาวดอนยายหอมพ้นจากความหายนะ หรือภัยร้ายจากโจร ที่เข้ามาทำลายทรัพย์สิน
    เทพเจ้าของชาวชุมพร คือ หลวงปู่สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร บรรดาลูกศิษย์ลูกหาญาติโยมทั้งหลายมักจะมาชุมนุมกันที่ศาลา ในช่วงเวลาเช้าก่อนไปทำงานเป็นประจำ เพื่อขอวาจาสิทธิ์ของท่าน ถ้าท่านกล่าวคำใดกับใคร จะเป็นความจริงตามนั้นเสมอ
    เทพเจ้าแห่งเมืองพิจิตร หรือ เทพเจ้าแห่งโพทะเล คือ หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร แม้ว่าท่านจะมรณภาพไปเกือบ ๑๐๐ ปีแต่บารมีของท่านยังแผ่ไพศาลยิ่งกว่าช่วงท่านยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีวัดใดในพิจิตร ที่ไม่สร้างพระหลวงพ่อเงิน
    เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี คือ พระอุดมประชานาถ หรือที่รู้จักกันดีในนาม หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ท่านได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์มาตั้งแต่ท่านยังเป็นเด็ก ท่านมีโอกาสร่ำเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก สุพรรณบุรี ซึ่งหลวงพ่อแดง ก็เป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน
    เทพเจ้าแห่งความเมตตา คือ หลวงพ่อจง พุทธัสสโร วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระเถราจารย์ที่มีวิทยาคมแก่กล้า ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมจากหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ อ.บางบาล และหลวงพ่อปั้น วัดพิกุล จ.พระนครศรีอยุธยา พระอาจารย์ทั้งสองท่านนี้ ก็เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เช่นกัน เทพเจ้าแห่งความเมตตาแห่งอีสานใต้ คือ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ หรือ พระครูปราสาทพรหมคุณ สุสานทุ่งมน (วัดเพชรบุรี) อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ชาวบ้านทุกคนเคารพรักหลวงปู่เสมือนเป็นเทพของพวกเขาทีเดียว เพราะมิใช่ว่าหลวงปู่จะป้องกันภัยให้พวกเขาได้อย่างเดียว แต่หลวงปู่ได้แผ่เมตตาปล่อยสัตว์ ขุดบ่อ ขุดสระ สร้างฝายน้ำล้น ปลูกป่า ปล่อยช้าง วัว ควาย เต่า งู ตะขาบ สัตว์ทุกชนิด และสั่งห้ามมิให้ชาวบ้านทำลายป่าไม้
    0 เรื่อง / ภาพ ไตรเทพ ไกรงู 0

     

แชร์หน้านี้

Loading...