เมื่อใดที่ข้าพเจ้าสร้างบารมีครบ 80 อสงไขย์ แสนมหากัปป์แล้ว

เมื่อใดที่ข้าพเจ้าสร้างบารมีครบ 80 อสงไขย์ แสนมหากัปป์แล้ว
เมื่อได้มาเกิดในชาติสุดท้ายที่จะตรัสรู้เป้นพระพุทธเจ้า
ขอให้เกิดในตระกูลกษัตริย์มีชื่อว่า..มหาพรหมราชา..
และเมื่อออกผนวชจนได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ก็ขอให้มี ..พระนามว่า..สมเด็จพระมหาพรหมราชาสัมมาสัมพุทธเจ้า..เทอญ.

 

ดีแล้วก็ทำต่อไปนะครับ....

 

ท่าทางจะอีกนาน

 

ขอให้สมปรารถนาโดยดีงามครับ

 

หนทางยังอีกยาวไกล...
หากทำได้ ท่านก็จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ได้อีกมาก อนุโมทนาครับ

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ และขอให้บุญนี้ส่งผลให้ข้าพเจ้าสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนาทั้งการเรียน การงาน และความรักค่ะ

 

เมื่อใดที่ข้าพเจ้าสร้างบารมีครบ 80 อสงไขย์ แสนมหากัปป์แล้ว
เมื่อได้มาเกิดในชาติสุดท้ายที่จะตรัสรู้เป้นพระพุทธเจ้า
................................................................................
อนุโมทนาในความตั้งใจจริง จขกท. ครับ
อาจเร็วกว่า ๘๐ อสงไขยนั้นก็ได้นะครับ จะได้มาโปรดสัตว์
แต่ไม่ต่ำกว่า ๔ อสงไขย
ตามพระสูตรข้างล่างนี้ครับ


อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕]
<CENTER><BIG>อรรถกถา ขุททกนิกาย สุตตนิบาต อุรควรรค</BIG> <CENTER class=D>ขัคควิสาณสูตร
ฯลฯ</CENTER></CENTER>
ท่านพระอานนท์นั้นทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความปรารถนาเป็นพระ<WBR>พุทธ<WBR>เจ้า<WBR>ทั้งหลายควรนานเท่าไร.
พระองค์ตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ ความปรารถนาเป็นพระ<WBR>พุทธ<WBR>เจ้า<WBR>ทั้งหลายควรนานโดยการกำหนดอย่างต่ำที่สุดถึงสี่อสงไขยและแสนกัป โดยกำหนดปานกลาง แปดอสงไขยและแสนกัป. โดยการกำหนดอย่างสูง สิบหกอสงไขยและแสนกัป. ประเภททั้ง ๓ นั้น พึงรู้ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธเจ้าผู้ปัญญาธิกะ ผู้สัทธาธิกะและผู้วิริยาธิกะ.
จริงอยู่ พระพุทธเจ้าผู้ปัญญาธิกะมีศรัทธาน้อย แต่มีปัญญามาก. ผู้สัทธาธิกะมีปัญญาปานกลาง แต่มีศรัทธามาก. ผู้วิริยาธิกะมีศรัทธาและปัญญาน้อย แต่มีความเพียรมาก.
ก็ข้อที่ บุคคลให้ทานเช่นกับด้วยทานของพระเวสสันดรทุกๆ วันก็ดี สั่งสมบารมีธรรมมีศีลเป็นต้น อันสมควรแก่ญาณนั้นก็ดี ยังไม่ถึงสี่อสงไขยแสนกัปแล้ว จักเป็นพระพุทธเจ้าในระหว่าง นั่นไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้
เพราะเหตุไร
เพราะญาณยังไม่ตั้งท้อง ยังไม่ถึงความไพบูลย์ ยังไม่ถึงความแก่รอบ เปรียบเหมือนข้อที่ข้าวกล้าจะออกรวงได้ โดยล่วงไป ๓ เดือน ๔ เดือน หรือ ๕ เดือน ไม่ถึงกาลนั้นๆ แล้ว บุคคลจะปรารถนาวันละแสนครั้งทุกๆ วันก็ดี รดน้ำวันละแสนครั้งทุกๆ วันก็ดี จะให้ออกรวงได้โดยภายใน ๑ ปักษ์ หรือ ๑ เดือน นั่นไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้
เพราะเหตุไร
เพราะข้าวกล้ายังไม่ตั้งท้อง ยังไม่ถึงความไพบูลย์ ยังไม่ถึงความแก่รอบ ชื่อฉันใด.
ข้อที่บุคคลให้ทานเช่นกับด้วยทานของพระ<WBR>เวส<WBR>สัน<WBR>ดร<WBR>ทุกๆ วันก็ดี สั่งสมบารมีธรรมมีศีลเป็นต้น อันสมควรแก่ญาณนั้นก็ดี ยังไม่ถึงสี่อสงไขยแสนกัปแล้ว จักเป็นพระพุทธเจ้าในระหว่าง นั่นไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้
......................................................................
ถามว่า ก็การปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายควรนานเท่าไร?
ตอบว่า การปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายควรนานถึงสองอสงไขยและแสนกัป ต่ำกว่านั้นไม่ควร
..................................................................................

ถามว่า ก็การปรารถนาเป็นพระสาวกทั้งหลายควรนานเท่าไร.
ตอบว่า การปรารถนาเป็นพระอัครสาวกทั้งสอง ควรนานหนึ่งอสงไขยและแสนกัป การปรารถนาเป็นพระอสีติมหาสาวกควรนานแสนกัป ความปรารถนาเป็นพระมารดาพระบิดา อุปัฏ<WBR>ฐาก<WBR>และ<WBR>พระโอรสของพระพุทธเจ้า ควรนานแสนกัปเหมือนกัน ต่ำกว่านั้นไม่ควร
..................................................................................
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต

ลำดับที่ 1 / 2.
๓. ขัคควิสาณสูตร


http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_line.php?B=25&A=6971

อรรถกถา


http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=296

 

อนุโมทนาสาธุครับ คิดแล้วทำให้น้ำตาร่วงได้เลยสำหรับผู้ที่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ต้องรักษาสัจจะที่เอ่ยแล้วนะครับ

 

เห็นมีหลายกระทู้ครับที่ให้ความมหายของการบําเพ็ญ 4 - 8 - 16 อสงไขย

ขอยกตัวอย่างสายปัญญานะครับ 4 อสงไขย 1000000 กัลป์
1.เวียนว่ายตายเกิดนับไม่ถ้วน(บารมี)
2.ได้พบพระสัทธรรมและกําลังใคร่ครวญถึงความปรารณาพุทธะ 4 อสงไขย 100000 กัลป์(อุปบารมี)
3.พบพระพุทธองค์ความใคร่ครวญหมดไป เริ่มเข้าสู่อธิษฐานจิต 4 อสงไขย 100000 กัลป์(ปรมัตถบารมี) ขั้นที่ 3 นี่ความปรารถนาไม่เปลี่ยนแปลงความเป็นพุทธเจ้าก็ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นนิยตพุทธะ พุทธธรรมนายจะเกิดช่วงนี้
หรือแบบนี้
๑.ตั้งความปรารถนาในใจ เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้ามาแล้ว อย่างน้อย ๗ อสงไขย
๒.เปล่งวาจาประกาศความมุ่งมั่น ที่จะเป็นพระพุทธเจ้า อย่างน้อย ๙ อสงไขย
๓.เปล่งวาจาและแสดงออกด้วยกาย(บำเพ็ญบารมี) เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า อย่างน้อย ๔ อสงไขยแสนกัป

ขยายความดังกล่าวผิดพลาดขออภัยนะครับ

 

กราบอนุโมทนาด้วยนะครับ สาธุๆๆๆๆ

ด้วยบุญกูศลที่ข้าพเจ้าได้ บูรณะพระพุทธรูปด้วยกาวตราช้าง มากกว่า ๘๐๐ องค์(และที่จำไม่ได้)นี้
และ ได้เอาธูปหอมกลิ่นไม้แก่นจันทร์บูชาพระรัตนตรัย " บูชาองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ปัจจุบัน บูชาองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลายที่อุบัติขึ้นในอดีตกาลนานแสนนานจนนับประมาณมิได้ บูชาพระสัพพัญญูตญาณขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ปัจจุบัน บูชาพระสัพพัญญูตญาณขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลายที่อุบัติขึ้นในอดีตกาลนานแสนนานจนนับประมาณมิได้ ซึ่งเป็นพระญาณขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งเกิดจากพระบารมีทั้ง ๓๐ ทัศน์ขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งเป็นพระญาณขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าซึ่งหาขอบเขตและความสามารถอันประมาณมิได้ บูชาพระธรรม บูชาพระสงฆ์ " ทุกๆๆๆวันนี้
จงสำเส็จแด่ท่าน จขกท...ด้วยเทอญ ขอให้ท่าน จขกท..จงมีจิตใจที่มั่นคงต่อ สัพพัญญูตญาณ ตลอด ๘๐ อสงไขยกับเศษอีก ๑๐๐,๐๐๐ มหากัปป์ด้วยเทอญ สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สำเร็จแล้วมาโปรดผมมั้งนะครับ สาธุๆๆๆ

 

สาธุนะท่าน ขอเป็นกำลังใจให้ท่านสำเร็จสมปรารถนาทุกประการเทอญ อย่าได้เลิกล้มความตั้งใจที่จะทำให้ถึงจุดมุ่งหมาย ขอให้ท่านเจริญยิ่งๆขึ้นไปเทอญ....

 

โมทนาสาธุนะครับ ขอจงสมความปรารถนาในพระโพธิญาณในอนาคตกาล

ขอพระบารมีตั้งแต่สมเด็จองปฐมเป็นต้นลงมา จนถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน
และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะมีอุบัติขึ้นในอนาคตกาลเป็นอันมากประมาณไม่ได้นั้น
จงโปรดสงเคราะห์คุ้มครองเป็นพระประทีปแก้วส่องนำทางพระโพธิญาณ ของคุณมหาพรหมราชาตลอดไปเทอญ

 

โฮ... ปรารถนา ทั้งพุทธภูมิ...จะเอาทั้งมหาพรหม เอาทั้งมหาราชา

อย่างนี้ ๘๐ อสงไขยแสนมหากัป นั้นยังน้อยไปนะครับ แต่เอ...อันที่ทำมานี้เพิ่งจะเริ่มต้นนี่ครับ...

จะเริ่มเข้านับจริงๆอีกตาม ๔-๘-๑๖ อสงไขยแสนมหากัป นั้นก็ต่อเมื่อได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งแล้ว...

ที่ปรารถนาไว้มาแล้วจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ไม่มีจำกัดหรอกครับว่าเท่าไหร่...อาจจะต้องทำสร้างสมบารมีกันก่อนถึง ๘๐ คูณ ๑๐ ยกกำลัง ๑๔๐ อสงไขย กับอีก แสนมหากัป ก็ได้นาครับ...

พยายามต่อไปครับ...ขอให้โชคดี...(แบบวิริยะธิกะ...มั้งแบบนี้)

 

นึกว่าจะขออยู่ต่อไปอีก... จะอย่างไรก็อนุโมทนาสาธุการ

พุทธภูมิจะอยู่ได้ก็ด้วยปณิธาน และการรักษาสัจจ์
เมื่อตั้งปณิธานไว้แล้ว ก็จะรักษาสัจจ์ในปณิธาน เพียรไปจนกว่าจะล่วงลุ
นี้เป็นเหตุให้ไม่พรากจากหนทางพุทธภูมิ หากย่อหย่อนหรือตึงในกำลังใจเกินไป
ก็จะไม่สำเร็จ ลาจากหนทางนี้ไปก่อน ด้วยความหย่อนในกำลังใจ หรือตึงเครียดเกินไป

 

dangsticker

สาธุๆๆๆๆ เส้นทางอันโหดร้ายแห่งโลก ยังมีศรัทธา และ ความมุ่งมั่น เสียสละ ขอให้สำเร็จดังใจต้องการนะครับ

 

ขอโมทนาด้วยครับ
ขอให้สำเร็จสมความตั้งใจทุกประการ
สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 

ขออนุโมทนาครับ
ข้าพเจ้าเป็นหนึ่งในการที่ได้ตั้งจิตอธิฐานไว้ เมื่ออธิฐานแล้วขอให้จบแล้ววางเสีย แล้วทำเหตุให้ตรงตรงพระโพธิญาณ ไม่ต้องไปกำดลหรอกครับว่าอยากเป็นพระพุทธเจ้าแบบไหน
เมื่อก่อนผมเคยอธิฐานว่าขอเป็นพระพุทธเจ้าแบบปัญญาธิกะเหมือนองค์สมณโคดม เพราะปฎิบิติไปแล้วจึงพบว่า แท้จริงคุณของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้นยิ่งใหญ่ หาประมาณไม่ได้ จนไม่สมควรมาแบ่งว่าเป็นอย่างไหน การบำเพ็ญบารมีที่ถูกต้องในความคิดเห็นตรงหน้า คือมีเหตุอะไรเฉพาะหน้า ให้เริ่มใช้เลย คือ ใช้ ทาน สติ ปัญญา สมาธิ วิรยะ ขันติ และอื่น เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเต็มกำลัง คือการบำเพ็ญบารมี 30 ทัศน์ที่ครบถ้วน

 

โมทนากับสหายร่วมทางเดินพุทธภูมิด้วยกันทุกท่านครับ ข้อให้พุทธภูมิทุกท่านและผมประสบตามความมุ่งมาตรปราถนาได้บรรลุพระโพธิญานทุกๆท่านครับ

 

สาธุ กราบอนุโมทนาด้วยนะครับ
พี่กรเอง ท่านก็เคยกล่าวแบบนี้ให้ผมฟังเหมือนกันนะครับ

 

ผมนิพพานเลยดีกว่าครับรอนานสู้เป็นกำลังใจให้เเล้วกัน