เสียงธรรม เพลงบทสวดและธารณีมนตร์ต่างๆ#8

ในห้อง 'บทสวดมนต์' ตั้งกระทู้โดย tammychee, 30 พฤษภาคม 2012.

  1. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    1. พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าหฤทัยธารณี
    Medicine Buddha Mantra 药师佛心咒

    [​IMG]

    om beikajei beikajei mohobeikajei laza samugade soha
    โอม เบคาเจ เบคาเจ มหาเบคาเจ ราชา สมุทคเต โซหะ

    Om, Bhaishaye Bhaishaye Maha-Bhaishaye Raja Samudgate, Svaha.
    โอม ไภษัชเย ไภษัชเย มหาไภษัชเย ราชา สมุทคเต สวาหา


    ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตปูรวปณิธานสูตร

    วีดีโอ (ไทย)
    พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า 2/7 - YouTube
    พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า 3/7 - YouTube
    พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า 4/7 - YouTube
    พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า 5/7 - YouTube
    พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า 6/7 - YouTube
    พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า 7/7 - YouTube



    (มีต่อด้านล่าง...)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2012
  2. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    [​IMG]

    Om Bekandze Bekandze Maha Bekandze Radza Samudgate Soha

    โอม เบกาเจ เบกาเจ มหาเบกาเจ ราชา สมุทคเต โซหะ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2012
  4. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2012
  5. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    พระโพธิสัตว์ตาราเขียว
    绿度母心咒 Green Tara Mantra

    [​IMG]

    1000 handed, 11 faced sitting Avalokiteshvara also starring White Tara, Amitabha, Green Tara, Manjushri and Vajrapani.
    พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร(พระโพธิสัตว์กวนอิม)ปางพันเนตรพันกรและเอกทศพักตร์
    พระภาคตาราของพระโพธิสัตว์กวนอิม คือ พระโพธิสัตว์ตาราขาวและตาราเขียว
    พระอมิตาภะพุทธเจ้า(กลางบน) พระโพธิสัตว์มัญชุศรี(ซ้ายล่าง) พระโพธิสัตว์วัชรปาณิ(ขวาล่าง)

    มหาโพธิสัตว์อารยาตารา ภาษาทิเบต: เจซูน เตรอมา ภาษาสันสกฤตคือ ตารา (มีรากศัพท์เดียวกับคำว่า ดารา) หมายถึง "ผู้นำทางไปสู่การหลุดพ้น" เป็นพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตากรุณา ทรงกำเนิดจากน้ำพระเนตรของพระอวโลกิเตศวร เมื่อครั้งที่ทรงพระกรรแสงเนื่องจากทรงไม่สามารถช่วยเหลือสัตว์ทั้งโลกทั้งหลายให้พ้นจากความทุกข์ได้ พระโพธิสัตว์ตาราทรงเป็นที่รักและกราบบูชาของชาวพุทธในทิเบต หิมาลัยและมองโกเลีย พวกเขามักสวดคาถาหัวใจ "โอม ตาเร ตุตาเร ตุเร โซฮา" และสวดบทสรรเสริญตารา ๒๑ องค์
    (http://www.facebook.com/note.php?note_id=10150169014270501)


    ต้นกำเนิดของพระนางทารานั้นมีที่มาจากหลายตำนานทั้งในอินเดียและทิเบต แต่ตำนานหนึ่งที่เป็นที่เล่าขานถึงมากที่สุดก็คือเรื่องที่ว่า พระนางอุบัติขึ้นจากน้ำพระเนตรของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรที่หลั่งลงมาด้วยความเวทนาในความทุกข์ยากของสรรพชีวิต เมื่อทรงทอดพระเนตรลงมาจากสวรรค์สู่โลกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยาก และหยดน้ำพระเนตรที่หลั่งลงมาก็บังเกิดเป็นพระนางทาราสองพระองค์ ซึ่งก็คือพระนางทาราขาวผู้เปี่ยมไปด้วยสันติสุขจากพระเนตรซ้าย และพระนางทาราเขียวผู้คร่ำเคร่งจากพระเนตรขวา มักกล่าวกันว่าพระนางทารานั้นก็คือพระชายาของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ด้วยเหตุนี้พระนางทาราเขียว และพระนางทาราขาวจึงเป็นที่เคารพนับถือที่สุด ในฐานะพระโพธิสัตว์ผู้ขจัดความทุกข์ยาก

    พระนางทาราเขียว หรือ “กรีนทารา” คือภาคของพระนางทาราที่ทรงอิทธิฤทธิ์ที่สุด สีของพระนางเป็นสัญลักษณ์ของพละกำลังและความมีชีวิตชีวาในวัยแรกรุ่น ซึ่งความหมายว่าพระนางคือพระแม่แห่งการกระทำนั่นเอง พระนางมักจะอยู่ในปางประทับนั่งโดยเหยียดพระบาทข้างขวาออกมาข้างหน้า ซึ่งสื่อความหมายว่าพระนางพร้อมที่จะลุกออกไปปฏิบัติภารกิจนั่นเอง ส่วนพระบาทซ้ายพับไว้ในปางสมาธิบนปัทมอาสน์ (ฐานดอกบัว) ดังนั้นลักษณะของพระบาททั้งสองจึงเป็นสัญลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างศิลป์และปัญญา พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในปางโปรดสัตว์ โดยถือก้านดอกปทุมสีขาบ (สีน้ำเงินเข้ม) โดยที่ช่อดอกลอยอยู่เหนือพระอังสาข้างซ้ายเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และอำนาจ ส่วนพระหัตถ์ขวาอยู่ในปางประทานพร

    พระนางทาราเขียวผู้ปัดเป่าอุปสรรคและความทุกข์
    “โอม ทาเร ทุทาเร ทุเร โสหะ”
    (มนตราบูชาพระแม่ทาราอย่างย่อ)

    ผู้เลื่อมใสในพระนางทาราเขียวเชื่อว่าอำนาจวิเศษของพระนางจะช่วยเอาชนะภยันตราย ความหวาดกลัว และความวิตกกลัดกลุ้ม และพระนางจะประทานพรต่างๆ ให้สมปรารถนา และยังเชื่อกันว่าพระนางจะช่วยให้ผู้ที่บูชาพระนางข้ามพ้นห้วงทุกข์และอุปสรรคต่างๆ ไปสู่ความปลอดภัย และความสุขได้

    ความเป็นอิสตรีในตัวพระนางทำให้พระนางเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนและเมตตากรุณา พระนางคือตัวแทนแห่งความเมตตาอันทรงพลัง และอิทธิฤทธิ์ในการฟันฝ่าสถานะการณ์ที่ยากลำบากต่างๆ ของพระนางก็เป็นที่เคารพบูชาเป็นพิเศษ ดังที่องค์ดาไล ลามะ พระองค์แรกได้ทรงกล่าวถึงว่า เพียงแค่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ พระนางก็จะรีบรุดไปช่วยเหลือผู้ที่เชื่อศรัทธาในพระนางให้พ้นจากการถูกโจมตีจากหายนะ 8 ประการ (อัษฏมหาภัย) ในทันที อันได้แก่ ความทิฐิลำพอง ความเขลา ความอาฆาตพยาบาท ความอิจฉาริษยา ความเห็นผิด ความโลภ ความยึดติด และความเคลือบแคลงสงสัย(http://www.wofs.co.th/article_view.asp?arid=530)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มิถุนายน 2012
  6. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    <TABLE style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff" border=0 cellSpacing=3 borderColor=#ffffff cellPadding=3 width=1000>
    <TBODY><TR>
    <TD>观音行愿曲

    大慈观世音大悲观世音
    南无救苦救难观世音菩萨
    观世音菩萨 为了救众生
    无处不现身 观世音菩萨

    悲愿宏深寻声救苦
    有求必应 观世音菩萨
    三十二应身 随缘说法
    普渡众生 千处祈求千处应

    观世音菩萨 悲愿宏深
    布施无畏 救度众生 观世音是救星
    劝大众一心恭敬
    常念大慈大悲救苦救难观世音菩萨

    大慈大悲观世音菩萨
    南无救苦救难观世音菩萨
    观世音菩萨 为了救众生
    无处不现身 观世音菩萨
    </TD>
    <TD>[​IMG]
    </TD>
    </TR>
    </TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2012
  7. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
  8. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ (大勢至菩薩 ต้าซื่อจื้อผูซ่า)
    Mahasthamaprapta Bodhisattva, the Great Strength Bodhisattva

    [​IMG]
    พระโพธิสัตว์มหาสถามปราปต์ พระอมิตาภะพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์กวนอิม


    乌苏波置楼陀罗尼(词︰释迦牟尼佛,曲:朱云嵩)
    Description: 為大勢至菩薩所說陀羅尼之名。意譯作救諸病苦。此咒可拯濟群生出於三界,令諸行人得從萬行。
    (พระพุทธองค์ตรัสชื่อธารณีที่ตรัสโดยพระโพธิสัตว์มหาสถามปราปต์)

    阿纳嘎螭咨啰。巴喇堤嘎螭咨啰。
    匝嘛达哈拉咨嘎螭咨啰。
    阿刷达哈喇尼嘎螭咨啰。
    乌苏巴咨纳嘎螭咨啰。
    乎噜巴匝纳巴咨啰。
    匝斡餔巴咨啰。匝乌哩咨巴咨啰。
    匝嘎螭餔乎哩纳巴咨啰。
    匝乌阿匝餔哩低纳娑诃。

    วีดีโอ (ไทย) พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ 1/3 觀世音 - YouTube
    1) ตอนที่พระอมิตาภะพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์กวนอิม และพระโพธิสัตว์มหาสถามปราปต์ทรงตั้งมหาปณิธาน
    2) และอีกครั้งที่พระโพธิสัตว์กวนอิม และพระโพธิสัตว์มหาสถามปราปต์ทรงตั้งมหาปณิธาน​


    -----------------------------------------------------------------------------------------
    《陀羅尼雜集卷第一》大正藏第1336
    http://www.zenheart.hk/viewthread.php?tid=5495&extra=page%3D3
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2012
  9. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    โอมมานีเปเมฮง
    黄思婷《自由》
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2012
  10. phak

    phak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    473
    ค่าพลัง:
    +458
    Thank you. Annumo..tana..satu..naka.
     
  11. bzbeer

    bzbeer สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +0
    เมื่อไหร่เพลงบทสวดและธารณีมนตร์ต่างๆ#9จะมาโพส
     
  12. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    พระโพธิสัตว์ตาราเขียว (พระภาคหนึ่งของพระโพธิสัตว์กวนอิม)
    Green Tara Mantra 绿度母心咒

    om tare tuttare ture soha
    โอม ตาเร ตุตาเร ตุเร โซฮา
    嗡 达列 都达列 都列 梭哈

    天空中出现一个焦点 以优美姿态 在空中盘旋
    有时短暂在空中 有时随风滑翔 寻找一个梦想
    它是我心里浅藏的力量 未曾发现的宝藏
    菩提种子在心里发芽
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  13. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    了凡偈語

    三年學了凡 真作得心安 ซาน เหนียน เสวีย เหลี่ยว ฝาน , เจิน จั้ว เต๋อ ซิน อัน
    心安而理得 理得則迷破 ซิน อัน เอ๋อร์ หลี่ เต๋อ , หลี่ เต๋อ เจ๋อ มี๋ พว่อ
    迷破方看透 看透復看破 มี๋ พว่อ ฟาง คั่น โท่ว , คั่น โท่ว ฟู่ คั่น พว่อ
    看破自放下 放下得自在 คั่น พว่อ จื้อ ฟั่ง เซี่ย , ฟั่ง เซี่ย เต๋อ จื้อ ไจ้
    自在即隨緣 隨緣心清淨 จื้อ ไจ้ จี๋ สุย เยวี๋ยน , สุย เยวี๋ยน ซิน ชิง จิ้ง
    清淨念彌陀 彌陀隨時應 ชิง จิ้ง เนี่ยน มี๋ ถัว , มี๋ ถัว สุย สือ อิ้ง

    sān nián xué liǎo fán , zhēn zuò dé xīn ān
    xīn ān ér lǐ dé , lǐ dé zé mí pò
    mí pò fāng kàn tòu , kàn tòu fù kàn pò
    kàn pò zì fàng xià , fàng xià dé zì zai
    zì zai jí suí yuán, suí yuán xīn qīng jìng
    qīng jìng niàn mí tuó, mí tuó suí shí yìng


    http://buddha.goodweb.cn/music/musicdownload_all/musicdownload12/了凡偈語4.mp3

    http://buddha.goodweb.cn/music/musicdownload_all/musicdownload12/了凡偈語5.mp3

    http://buddha.goodweb.cn/music/musicdownload_all/musicdownload12/了凡偈語1.mp3


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    โอวาทสี่ของท่านเหลี่ยวฝาน
    (ข้อที่สาม วิธีสร้างความดี...)

    การทำความดีต่อผู้อื่นนั้น ก็จะต้องแล้วแต่โอกาส จังหวะเวลาก็มีความสำคัญเช่นกัน การช่วยเหลือผู้อื่นนั้น มีวิธีการมากมาย ประมวลแล้วก็สามารถแยกออกได้ ๑๐ วิธีด้วยกัน คือ

    ๑. ช่วยเหลือผู้อื่นทำความดี
    ๒. รักและเคารพทุกคนอย่างเสมอหน้า
    ๓. สนับสนุนผู้อื่นให้เป็นผู้มีความดีพร้อม
    ๔. ชี้ทางให้ผู้อื่นทำความดี
    ๕. ช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในความคับขัน
    ๖. กระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
    ๗. ไม่ทำตนเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ หมั่นบริจาค
    ๘. ธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมะ
    ๙. เคารพผู้มีอาวุโสกว่า
    ๑๐. รักชีวิตผู้อื่นดุจรักชีวิตตนเอง


    ข้อ ๑ การช่วยเหลือผู้อื่นทำความดีนั้นเป็นอย่างไร

    เมื่อครั้งท่านตี้ซุ่น ยังมิได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินจีน สมัยโบราณ (ก่อน พ.ศ. ๑๗๑๒-๑๖๖๕) ท่านไปยังหนองน้ำแห่งหนึ่ง เห็นชาวบ้านกำลังจับปลากันอยู่ คนที่แข็งแรงก็พากันไปยังที่ๆ มีน้ำลึกปลาชุม ส่วนพวกที่ไม่แข็งแรงและผู้ชรา ถูกกันให้ไปจับปลายังที่ๆ มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว และที่มีน้ำตื้น ซึ่งปลาจะไม่ชอบมาในบริเวณนั้น ทำให้จับปลาไม่ได้ ท่านตี้ซุ่นเห็นดังนั้น ก็บังเกิดความสงสารจับใจ ท่านจึงเข้าไปช่วยคนที่ไม่แข็งแรง และผู้ชราหาปลา ใครที่เห็นแก่ตัว ชอบแย่งที่น้ำลึกท่านก็นิ่งเสียไม่ไปว่าเขา ใครที่ไม่เห็นแก่ตัว ท่านก็จะนำพฤติกรรมของเขาไปสรรเสริญจนทั่ว ท่านเองก็ทำตัวอย่างอันดี ให้เป็นที่ปรากฏอยู่ทุกวันๆ จนกาลเวลาได้ผ่านไปหนึ่งปี ชาวบ้านพากันสำนึกในความเห็นแก่ตัวของตน ต่างก็ทำดีต่อกันและกัน ในที่นี้ พ่อจะต้องบอกให้ลูกรู้ว่า พ่อไม่สนับสนุนในเรื่องการจับปลามาเป็นอาหาร เพราะการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตนั้นเป็นบาปอย่างยิ่ง แต่ที่พ่อยกเรื่องนี้มาเป็นอุทาหรณ์ ก็เพื่อให้ลูกเข้าใจว่า การช่วยให้ผู้อื่นทำความดีนั้น ต้องใช้ความอดทนพยายามเพียงไร ท่านตี้ซุ่นนั้น เป็นผู้ฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก เพียงแต่ท่านใช้คำพูดกล่อมเกลาจิตใจ ผู้คนก็จะเชื่อท่าน เพราะต่างก็มีความเคารพท่านอยู่แล้ว แต่ท่านอุตส่าห์ใช้เวลาถึงหนึ่งปีเต็ม ก็เพื่อจะให้ทุกคนกลับตัวกลับใจได้หมด และจะไม่กลับไปเป็นคนเห็นแก่ตัวอีก ไม่ว่าในกรณีใด และเป็นไปด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่ด้วยบังคับหรือขอร้อง ให้ทุกคนตระหนักถึงความดี ที่ต้องกระทำร่วมกัน เพื่อความผาสุกของพวกเขาเอง พ่อจึงสรรเสริญในความอุตสาหะของท่านยิ่งนัก

    พ่อและลูก ต่างก็มีชีวิตอยู่ในยุคแห่งความมืดมน ผู้คนไม่ค่อยมีศีลธรรม เหมือนดังยุคก่อน เพราะฉะนั้น ลูกจะต้องเจียมเนื้อเจียมตัว อย่าได้อวดดี ว่าวิเศษกว่าผู้อื่น อย่านำความสามารถของลูก ไปข่มผู้อื่นที่ด้อยกว่า ให้เขาได้อาย จงเก็บความรู้ ความสามารถของเจ้าไว้ในใจ อย่าได้แสดงออกให้ปรากฏแก่สายตาผู้อื่น ใครพลาดพลั้งล่วงเกินลูก ก็จงรู้จักให้อภัย อย่าได้แพร่งพรายความไม่ดีออกไป เพื่อให้โอกาสเขากลับตัวกลับใจ และเมื่อไม่มีใครรู้ และก็ทำให้เขา ไม่กล้ากำเริบเสิบสาน เพราะทุกคนย่อมรักหน้ารักตา ไม่อยากเป็นคนเสียชื่อเสียง จึงไม่วิจารณ์ ให้ความลับของเขาเป็นที่เปิดเผยออกไป เขาจึงไม่กล้าที่จะทำผิดอีก บางคนนั้น เมื่อมีคนรู้ว่าเขาเป็นคนไม่ดีเสียแล้ว เขาก็ทำตัวเหลวแหลกยิ่งขึ้น เมื่อเป็นคนดีไม่ได้ก็ยอมเป็นคนชั่วเสียเลย คนเช่นนี้ มีให้เห็นๆ อยู่ ลูกจะต้องคอยสังเกต ว่าผู้อื่นนั้นเขามีความสามารถอะไรบ้าง ถ้าเป็นสิ่งที่ลูกยังไม่มี จงรีบรับเอาความดีนั้นมาใส่ตนเถิด อย่าได้รีรอเลย ลูกจะต้องรู้จักชมเชยสรรเสริญความดีงาม ความสามารถของผู้อื่นให้แผ่ไพศาลไป อย่าได้มีจิตริษยา ในชีวิตประจำวันของลูก ไม่ว่าจะพูดสักคำ จะทำอะไรสักอย่าง จงอย่าทำเพื่อประโยชน์ตนเอง ต้องถือประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ลูกจงจำไว้ให้ดี


    ข้อ ๒ รักและเคารพทุกคนอย่างเสมอหน้านั้นเป็นอย่างไร

    ผู้ดีนั้น คือคนที่มีคุณงามความดี และกระทำแต่คุณงามความดีอย่างสม่ำเสมอ ส่วนคนเลวนั้น บางทีก็ซ่อนอยู่ในคราบของผู้ดี ปะปนกันจนบางทีก็ดูไม่ออก แต่ถ้าลูกสังเกตให้ดีแล้ว ก็จะเห็นความแตกต่าง ราวกับขาวและดำทีเดียว ผู้ดีที่มีข้อแตกต่างจากคนทั่วไปนั้น คือมีน้ำใจรักและเคารพทุกคน อย่างเสมอหน้ากัน ธรรมดา คนที่เราได้พบเห็นในชีวิตประจำวันนั้น บางคนเราก็เคยใกล้ชิดด้วย บางคนก็ห่างเหินกันไป บางคนสูงศักดิ์ บางคนต่ำต้อย บางคนฉลาดหลักแหลม บางคนโง่เขลาเบาปัญญา บางคนมีคุณธรรมประจำใจ บางคนก็ร้าย จนได้ชื่อว่าเป็นคนพาล แม้ทุกคนจะมีสถานภาพและจิตใจไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนก็เป็นเพื่อนมนุษย์ ที่ต้องเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน นักปราชญ์ทั้งปวง จึงไม่ชอบให้คนเกลียดกันดูถูกกัน ต้องรักกันเคารพกันอย่างเสมอหน้า จึงจะมีสันติสุขเกิดขึ้นได้


    ข้อ ๓ สนับสนุนผู้อื่นให้เป็นผู้มีความดีพร้อมนั้น อย่างไร

    หยกนั้นย่อมมาจากหินชนิดหนึ่ง ถ้าเราทิ้งขว้าง ไม่สนใจ ก็เป็นเพียงหินธรรมดาก้อนหนึ่ง แม้ภายในจะมีหยกเร้นอยู่ ก็ไม่สามารถปรากฏความมีค่าของมันได้ แต่ถ้ามนุษย์นำมาเจียระไน เอาความเป็นหยกออกมาจากหิน และสลักให้สวยงาม ก็จะเป็นของมีค่าสำหรับฮ่องเต้ และขุนนาง กลายเป็นสัญลักษณ์ ที่จะต้องติดตัวไว้แสดงถึงความบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ยามที่ฮ่องเต้ออกขุนนาง ก็ต้องมีหยกไว้แสดงความเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ขุนนางเข้าเฝ้าฮ่องเต้ ก็ต้องถือหยกพระราชทานไว้ในมือ เพื่อแสดงความเคารพ และจงรักภักดีต่อฮ่องเต้ หยกยังนำมาใช้ในพิธีกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ลูกต้องอย่าลืมว่าหยกมีความงาม และความสำคัญขึ้นมาได้ เพราะฝีมือของมนุษย์เอง คนก็เช่นกัน ถ้ามีคนคอยช่วยเหลือให้คำแนะนำที่ดี คนธรรมดาๆ ก็จะกลายเป็นคนดีพร้อมไปได้ เพราะฉะนั้น ลูกจงใส่ใจในคนที่รักดี มุ่งมั่นจะเป็นคนดี ลูกจงให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน ให้กำลังใจ ประคับประคองเพื่อให้เขาเป็นคนดีพร้อมให้ได้ แม้เขาจะถูกผู้คนปรักปรำ จงช่วยชี้แจง ปกป้อง และยอมรับข้อปรักปรำนั้นว่า ลูกก็มีส่วนผิดอยู่ด้วย เพื่อผ่อนคลายความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นกับตัวเขา จนกว่า เขาจะยืนอยู่บนขาของเขาเองได้แล้ว ก็นับว่า ลูกได้พยายามจนถึงที่สุดแล้ว
    คนดีคนเลวนั้น มักจะคบหากันไม่ได้ คนดีย่อมคบกับคนดี คนชั่วก็ชอบมั่วสุมกับคนชั่ว คนชั่วมักเกลียดชังคนดี ยิ่งในชนบทที่ห่างไกลความเจริญด้วยแล้ว คนชั่วมีมากกว่าคนดี ชอบข่มเหงคนดีอยู่เสมอ จนตั้งตัวไม่ติด คนดีมักจะเป็นคนตรง และไม่กลัวตาย ไม่ชอบการแต่งตัวที่หรูหรา ไม่ชอบมีความเป็นอยู่ที่ฟุ่มเฟือย จึงมักตกเป็นขี้ปากคนชั่ว ที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์คนผิดๆ เพราะฉะนั้น เมื่อลูกพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ก็จงช่วยปกป้องคนดี และช่วยชี้ทาง ให้คนชั่วกลับใจเป็นคนดีเสีย นี่เป็นมหากุศลที่ลูกจะต้องทำให้ได้


    ข้อ ๔ ชี้ทางให้ผู้อื่นทำความดีนั้นอย่างไร

    เกิดมาเป็นมนุษย์ทุกคน ย่อมมีศีลธรรมประจำใจอยู่บ้าง มากบ้างน้อยบ้าง ที่จะไม่มีเลยนั้นคงหายาก นอกจากมนุษย์จะมัวสาละวน อยู่กับการแสวงหา ลาภยศเงินทองชื่อเสียง โดยไม่คํานึงถึงศีลธรรม ทำให้ต้องตกอยู่ในความหายนะ ถ้าลูกพบคนเช่นนี้ ลูกจงพยายามช่วยเขา ฉุดเขาให้พ้นจากความหายนะให้จงได้ ดุจคนฝันร้าย ลูกปลุกเขาให้ตื่นจากความฝัน ให้ความรู้ความคิดที่ดีงามแก่เขา เขาก็จะตื่นจากฝันร้าย กลายเป็นคนดีได้เมื่อครั้งราชวงศ์ถัง (พ.ศ. ๑๑๖๑-๑๔๕๐) มีขุนนางท่านหนึ่ง ท่านเขียนหนังสือสอนใจคนได้ดีมาก เป็นที่แพร่หลายไปทั่วประเทศจีน ชาวจีนมีความเคารพนับถือท่านมาก เมื่อท่านถึงแก่อนิจกรรมยังได้รับเกียรติยศอันสูงส่ง ได้รับการสถาปนาจากฮ่องเต้ให้เป็นที่ "เอวิ๋น" เป็นการเชิดชูผลงาน อันมีทั้งร้อยแก้วร้อยกรองที่เยี่ยมยอดนั่นเอง ชาวบ้านพากันเรียกท่านว่า "หานเอวิ๋นกง" ท่านเคยกล่าวไว้ว่า การตักเตือนผู้อื่นด้วยคำพูดนั้น ไม่ช้าก็จะถูกลืมเลือนไป ผู้อยู่ไกล ก็ไม่สามารถได้ยินคำเตือนนั้นได้ หากบันทึกไว้เป็นหนังสือ แม้สักร้อยชั่วคน คําสอนนั้นก็ยังคงอยู่ สามารถแพร่ไปไกลกว่าพันลี้หมื่นลี้เสียอีก ข้อที่หนึ่ง พ่อได้ยกตัวอย่าง ให้ช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยการทำตนเป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้อื่น นานวันเข้า ก็จะมีคนตามอย่างโดยไม่รู้ตัว ส่วนข้อนี้พ่อขอยกตัวอย่างให้ใช้คำพูด ใช้หนังสือเป็นตัวอย่าง ลูกก็จะต้องใช้ให้เหมาะสม มิฉะนั้นก็จะไม่ได้ผลเลย ดุจดั่งคนป่วย ถ้าได้ยาตรงกับโรค ก็จะหายวันหายคืน เหมือนคนที่มีนิสัยแข็งกระด้าง ถ้าเราใช้คำพูดตักเตือน เขาจะไม่เชื่อโดยง่าย พูดไปก็เสียเวลาเปล่า ถ้าเป็นคนที่มีนิสัยอ่อนโยน การตักเตือนด้วยคำพูดมักจะได้ผล ลูกไม่ควรพลาดโอกาสอันดีนี้เสีย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ ลูกต้องดูคนเป็น ต้องอ่านนิสัยได้ถูกต้อง แล้วจึงจะวินิจฉัยได้ว่า คนเช่นไร สมควรตักเตือนด้วยคำพูด คนเช่นไร สมควรให้เขาอ่านหนังสือ เพื่อแก้ไขตัวเขาเอง


    ข้อที่ ๕ จะช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในความคับขันได้อย่างไร

    เคราะห์กรรมย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่ากับใครๆ หากลูกพบเห็นคนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก ลูกจะต้องเข้าช่วยเหลือให้ทันท่วงที และจะต้องช่วยแก้ไขสถานการณ์ ด้วยสติปัญญาของลูกอย่างรอบคอบ เพื่อให้การช่วยนั้น ประสบความสำเร็จ ท่านชุยจื่อ ซึ่งเป็นขุนนางในราชวงศ์หมิง ในปลายสมัยพระเจ้าเซี่ยวจงฮ่องเต้ (พ.ศ. ๒๐๓๑-๒๐๔๘) ท่านกล่าวไว้ว่า การช่วยเหลือนั้น ไม่ควรคำนึงว่า จะได้บุญได้คุณสักเพียงไร ขอให้ช่วยให้ได้ทันท่วงทีจึงจะควร ช่างเป็นคำพูดที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาการุณย์เสียนี่กระไร


    ข้อที่ ๖ กระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ อย่างไร

    ไม่ว่าลูกจะอยู่ในชนบทเล็กๆ หรือในเมืองใหญ่ๆ หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ประโยชน์สุขของส่วนรวมแล้ว ลูกจะต้องไม่ท้อถอยในการเป็นอาสาสมัคร เช่น ขุดคูส่งน้ำ เพื่อไว้ใช้ในนายามหน้าแล้ง หรือสร้างทำนบเพื่อป้องกันน้ำท่วม หรือซ่อมสะพานที่ชำรุด เพื่อให้การสัญจรไปมาสะดวก และปลอดภัยยิ่งขึ้น หรือให้ทานอาหารแก่คนอดอยาก หรือให้น้ำแก่คนกระหายแล้ว ลูกก็ควรชักชวนชาวบ้าน ให้ร่วมแรงร่วมใจกันกระทำความดีร่วมกัน ใครมีเงินก็ออกเงิน ใครมีแรงก็ออกแรง ผนึกกำลังให้เข้มแข็ง จะได้ช่วยเหลือคนได้มากขึ้น หากใครมาว่าร้าย ลูกก็จงอย่าใส่ใจ ถ้าเราทำดีโดยสุจริตแล้ว ใครๆ ก็ย่อมเข้าใจ และช่วยป้องกันลูกเสียอีก ลูกจงอย่าท้อถอยไม่ว่าจะประสบอุปสรรคใดๆ อย่าได้วางมือเป็นอันขาด


    ข้อ ๗ ไม่ทำตนเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ หมั่นบริจาค อย่างไร

    คำสอนในพระพุทธศาสนานั้นมากมาย พระผู้มีพระภาค ทรงแนะนำให้รู้จักให้ทานเสียก่อน การให้คือการเสียสละ ท่านที่บรรลุธรรมแล้ว ท่านเสียสละได้หมด ทั้งอายตนะภายใน (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) และอายตนะภายนอก (รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธัมมารมณ์) ก็สิ่งที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นชีวิตท่านยังเสียสละได้ เรื่องทรัพย์สินเงินทองของนอกกาย ไฉนจักเสียสละไม่ได้ ถ้าเราสามารถเสียสละได้ทุกอย่างเช่นนี้แล้ว เราก็จะรู้สึกว่า เรามิได้แบกภาระอันใดไว้ทำให้จิตใจปลอดโปร่ง ไม่ห่วงหน้ากังวลหลัง ใครทำของเราเสีย ใครขโมยของเราไปก็ไม่เดือดร้อนเลยแม้แต่นิด เพราะเราเสียสละได้หมดจริงๆ ผู้ที่ไม่สามารถเสียสละได้ทั้งหมด ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการให้ทานบริจาคทรัพย์เสียก่อน คนในโลกนี้ เห็นว่าปัจจัยสี่นั้นเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต และเงินเท่านั้น ที่จะบันดาลให้ได้มาซึ่งปัจจัยสี่ เพราะฉะนั้น คนส่วนมาก จึงให้ความสำคัญแก่เงินเท่าชีวิต หาได้คิดสักนิดไม่ว่า หากยังมีลมหายใจก็ดีอยู่หรอก ถ้าหมดลมเมื่อใด มีใครเคยเอาอะไรติดตัวไปได้บ้าง ผู้ที่รักเงินยิ่งชีวิต จึงควรฝึกตนให้รู้จักการบริจาคทรัพย์ให้ทานเสียบ้าง ใหม่ๆ จะเกิดความเสียดาย เพราะคนรักเงินยิ่งชีวิตมักเป็นคนตระหนี่ ใจคอคับแคบ แต่ถ้าหมั่นบริจาคก็จะเกิดเป็นนิสัยอันดีงามขึ้น สามารถบริจาคได้มากขึ้น และไม่นึกเสียดายดังแต่แรก


    ข้อ ๘ ธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมได้อย่างไร

    ธรรมะคือประทีปที่ส่องวิถีทางแห่งชีวิต เมื่อหนทางข้างหน้าสว่างไสว ชีวิตย่อมดำเนินไปตามทิศทางอันถูกต้อง ดุจดั่งคนที่มีนัยน์ตาดี ย่อมสามารถเลือกทางเดินที่สะดวกที่สุด และดีที่สุดได้ โบราณท่านจึงว่า ธรรมะคือการธำรงไว้ซึ่งฟ้าดินและมนุษย์ ให้เกิดความสมดุล ผสมผสานกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะขาดไปแม้แต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดก็หามิได้ ต้องเป็นปัจจัยอิงอาศัยซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดสรรพสิ่งด้วยธรรมะ ธรรมะทำให้ชีวิตหลุดพ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ มีอิสระเสรีที่จะอยู่ในโลกต่อไปก็ได้ จะไปให้พ้นโลกเสียก็ได้ ฉะนั้น เมื่อลูกเห็นศาลที่บูชานักปราชญ์ราชบัณฑิต หรือเห็นคัมภีร์โบราณ ที่เป็นธรรมะอันสูงส่ง ลูกจะต้องถนอมด้วยความเคารพ หากมีสิ่งขาดตกบกพร่อง ลูกจะต้องซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีดังเดิม เพื่อเป็นประโยชน์แก่อนุชนรุ่นหลังต่อไป ลูกจะต้องเผยแผ่ธรรมะ ธำรงไว้ซึ่งธรรมะ ปฏิบัติตนด้วยธรรมะ สอนให้ผู้อื่นรู้จักธรรมะ จึงจะเรียกว่าเป็นพุทธศาสนิก ที่รู้ซึ้งในพระกรุณาคุณ พระปัญญาคุณ และพระบริสุทธิคุณ ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ถ้าลูกทำได้เช่นนี้ จึงจะได้ชื่อว่า เป็นผู้รู้พระคุณของพระผู้มีพระภาคอย่างแท้จริง และได้ถวายความกตัญญูกตเวทีแด่พระองค์อย่างถูกต้องแล้ว


    ข้อ ๙ เคารพผู้มีอาวุโสกว่าอย่างไร

    ในครอบครัว ย่อมมีบิดามารดา พี่ชายพี่สาว ที่มีอาวุโสกว่าเรา เราต้องเคารพรักรู้จักปรนนิบัติเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุข ให้ความสุขความสำราญแก่ท่าน ให้ความสนิทสนมกลมเกลียว ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าหากัน พูดจากันด้วยวาจาอันไพเราะ นานไปก็จะเป็นผู้มีนิสัยอันดีงาม
    ในประเทศ ย่อมมีฮ่องเต้เป็นประมุข ที่เราจะต้องแสดงความจงรักภักดี รับราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รักษากฎหมายยิ่งกว่าชีวิตของลูกเอง อย่าอวดดีทำผิดโดยคิดว่าพระองค์จะไม่ทรงทราบ การลงโทษคน โดยอาศัยอํานาจของกฎหมาย อย่าเมาอำนาจจนตัดสินโทษด้วยอารมณ์ อย่านึกว่าพระองค์ไม่ทรงทราบ แล้วทำไปด้วยความลำพองใจ โบราณท่านว่า การรับใช้ฮ่องเต้ ก็คือการรับใช้สวรรค์ สวรรค์ย่อมประทานความเจริญ ความสุขสมบูรณ์ให้ ถ้าลูกทำดีพอ


    ข้อ ๑๐ รักชีวิตผู้อื่นดุจรักชีวิตตนเองอย่างไร

    มนุษย์จักทรงความเป็นมนุษย์อยู่ได้ ด้วยจิตที่มีเมตตากรุณา การเอาชนะสิ่งที่ยากที่สุดคือใจของตนเอง ต้องเริ่มปลูกฝังจิต ให้มีเมตตากรุณาก่อน การสั่งสมคุณธรรมใดๆ ก็ต้องเริ่มที่จิตอันกอปรด้วยเมตตากรุณาเช่นกัน ในสมัยราชวงศ์โจวนั้น (ก่อน ค.ศ. ๑๑๐๐-ก่อน ค.ศ. ๗๗๑) ท่านโจวกง ซึ่งเป็นไจเสี่ยง ของพระเจ้าเฉิงอ๋อง ได้แต่งหนังสือขึ้นเล่มหนึ่งให้ชื่อว่า โจวหลี่ อันเป็นต้นตำรับที่ราชวงศ์ต่อๆ มา ถือเป็นแบบฉบับว่าด้วยการบริหารประเทศ หน้าที่ความรับผิดชอบของข้าราชการ กฎหมายและจารีตประเพณี รวมทั้งพิธีกรรมต่างๆ มีอยู่ข้อหนึ่งท่านกำหนดไว้ว่า เดือนแรกของปี เป็นเวลาที่พืชพันธุ์ธัญญาหารมีโอกาสเจริญเติบโต ง่ายแก่การตั้งครรภ์ของสรรพสัตว์ ฉะนั้น การเซ่นสรวงบูชาในเดือนนี้ จึงห้ามฆ่าสัตว์ตัวเมีย เพราะเกรงว่า อาจจะกำลังตั้งครรภ์อยู่ นี่ก็เป็นความเมตตากรุณาของท่านโจวกง ท่านนักปราชญ์เมิ่งจื๊อได้กล่าวไว้ว่า ผู้ดี ย่อมอยู่ห่างไกลจากโรงครัว ที่มีการฆ่าสัตว์ เพราะเพียงแต่ได้ยินเสียงผู้อื่นฆ่าสัตว์ ก็ทำให้จิตใจหดหู่เศร้าหมองได้ ท่านผู้ใหญ่แต่กาลก่อน จึงไม่ยอมบริโภคเนื้อสัตว์สี่ประเภท คือ
    ๑. สัตว์ที่ได้ยินเสียงเขาฆ่า
    ๒. สัตว์ที่เห็นเขากำลังฆ่า
    ๓. สัตว์ที่เลี้ยงอยู่เอง
    ๔. สัตว์ที่เขาจงใจฆ่าเพื่อให้เราบริโภค

    ลูกเห็นใครที่ไม่อยากบริโภคเนื้อสัตว์ แต่ยังทำไม่ได้ทันที ก็จงแนะนำเขา ให้เริ่มไม่แตะต้องเนื้อสัตว์สี่ประเภทนี้ ให้ได้เสียก่อน
    เริ่มฝึกเสียแต่เดี๋ยวนี้ ความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมย่อมติดตามมา เมื่อกระแสจิต ได้ถูกฝึกฝนให้เจริญด้วยเมตตาธรรม และกรุณาธรรมแล้วไซร้ ก็จะไม่นึกอยากฆ่าสัตว์ สัตว์ทั้งมวลล้วนมีชีวิตจิตใจเช่นเราเหมือนกัน การนำตัวไหมลงไปต้มในน้ำร้อนๆ เพื่อทำเครื่องนุ่งห่มที่นิยมกันว่า สวยงามมีค่ามาก ที่แท้เป็นบาปกรรมโดยไม่รู้ตัว ความจริงผ้าไหม มิใช่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์ เราน่าจะใช้ผ้าฝ้าย ที่ไม่ต้องเบียดเบียนสัตว์จะมิดีกว่าหรือ แม้กระทั่งการถางดินฆ่าหนอน ก็ล้วนแต่เป็นบาปกรรมทั้งสิ้น ดูดูมนุษย์เกือบทั้งหมด ล้วนแต่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เพื่อความมีชีวิตของตนเอง ต้องทำปาณาติบาตอยู่ตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่ แม้กระทั่งมือที่ตบยุงบี้มด เท้าที่เหยียบลงไปบนตัวสัตว์โดยไม่เจตนา ก็ไม่รู้ตัวว่าวันหนึ่งๆ ได้ทำไปกี่ครั้ง ลูกจงระวังให้ดี ป้องกันให้ได้ นอกจากจะสุดวิสัยจริงๆ มีโคลงโบราณอยู่บทหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ประทับใจพ่อจนบัดนี้ ท่านว่าไว้ว่า เพราะรักหนูจึงเก็บข้าวไว้ให้กิน เพราะสงสารแมลง จึงไม่จุดตะเกียงในยามค่ำคืน ดูเถิดว่า คนโบราณนั้น ท่านมีเมตตากรุณาเพียงไร

    การทำความดีนั้นไม่มีที่สิ้นสุด อธิบายเท่าไรก็คงไม่หมด จงถือหลักสิบประการนี้แล้ว ลูกก็จะแผ่ขยายการทำดีให้กว้างขวางออกไปเอง การสั่งสมคุณธรรม ให้ครบหนึ่งหมื่นครั้ง ก็จะอยู่เพียงแค่เอื้อม


    -----------------------------------------------------------------------
    โอวาทสี่ของท่านเหลี่ยวฝาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2012
  14. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    [​IMG]

    โศลกว่าด้วยนิรรูป พระธรรมาจารย์เว่ยหล่าง(ฮุ่ยเหนิง)

    心平何劳持戒? 行直何用修禅?
    恩则孝养父母,义则上下相怜。
    让则尊卑和睦,忍则众恶无喧。
    若能钻木取火,淤泥定生红莲。
    苦口的是良药,逆耳必是忠言。
    改过必生智慧,护短心内非贤。
    日用常行饶益,成道非由施钱。
    菩提只向心觅,何劳向外求玄?
    听说依此修行,天堂只在目前。​


    ผู้มีใจเที่ยงธรรม การรักษาศีลไม่เป็นของจำเป็น​

    ผู้มีความประพฤติตรงแน่ว การปฏิบัติในทางฌานมันจะมีมาเอง (แม้จะไม่ตั้งใจทำ)​

    สำหรับหลักแห่งการกตัญญูกตเวทีนั้น เราอุปัฏฐากบิดามารดา รับใช้ท่านอย่างฐานลูก​

    สำหรับหลักแห่งความเป็นธรรมนั้น ผู้ยิ่งใหญ่กับผู้ต่ำต้อยยืนเคียงข้างอาศัยกันและกัน (ในคราวคับขัน)​

    สำหรับหลักแห่งความปรารถนาดีต่อกันนั้น ผู้อาวุโสกับผู้อ่อนอาวุโส ต้องสมัครสมานกัน​

    สำหรับหลักแห่งขันตินั้น เราไม่ให้มีการทะเลาะเบาะแว้ง แม้จะตอกอยู่ในท่ามกลางของหมู่อมิตรอันกักขฬะ​

    ถ้าเรามีความเพียร รอคอยจนได้ไฟอันเกิดจากการเอาไม้มาสีกัน​

    เมื่อนั้น บัวสีแดง(พุทธภาวะ) ก็จะโผล่ออกมาเองจากตมสีดำ(ความมืดมนก่อนตรัสรู้)​

    สิ่งที่มีรสขม ย่อมถูกใช้เป็นยาดี​

    สิ่งที่ฟังแล้วไม่ไพเราะหู นั้นคือคำตักเตือนอันจริงใจของผู้เตือนที่แท้จริง​

    จากการแก้ไขความผิดให้กลับเป็นความถูก เราย่อมได้รับสติปัญญา​

    โดยการต่อสู้เพื่อรักษาความผิดของตัวไว้ เราแสดงนิมิตแห่งความมีจิตผิดปรกติออกมา​

    ในวันหนึ่งๆที่ชีวิตล่วงไปเราควรปฏิบัติความไม่เห็นแก่ตัวอยู่ตลอดเวลา​

    แต่ว่าพุทธภาวะนั้น ไม่มีหวังที่จะได้มาจากการให้เงินเป็นทาน​

    โพธิปัญญานั้น หาพบได้เฉพาะจากภายในใจของเราเองและไม่มีความจำเป็นที่จะเสาะหาความจริงอันเด็ดขาดของพระศาสนาจากภายนอก​

    ผู้ซึ่งได้ฟังโศลกนี้แล้ว นำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง จะประสบแดนสุขาวดีอยู่ตรงเบื้องหน้าเขา นั่นแล.​


    พระสูตรเว่ยหล่าง




     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2012
  15. แม้ว แม้ว

    แม้ว แม้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +230
  16. รวีวัลย์

    รวีวัลย์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +39
    สาธุค่ะ
    ขอบคุณที่แบ่งปัน
     
  17. bzbeer

    bzbeer สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +0
    เมื่อไหร่จะมีธารณีมนต์ต่างๆ#12
     

แชร์หน้านี้

Loading...