อาวุธทิพย์ในกายทิพย์ของโพธิสัตว์และเหล่าเทพ มีอานุภาพปานใด?

มาทัศนากันครับ...

 

ตรีศูล


ตรงตามชื่อครับ ตรี คือ สาม (ภพ) ศูล ก็ดับสูญได้เลย
อานุภาพของตรีศูลนี้ ร้ายกาจที่สุดในอาวุธทั้งปวง ทำ
ได้ถึงสร้างสามภพ และทำลายล้างสามภพ


สำหรับผู้ที่จะครองตรีศูลได้ต้องบำเพ็ญให้ได้ตั้งแต่องค์
ศิวะ ขึ้นไปจนถึงองค์โพธิสัตว์


สำหรับบรดาตรีศูลทั้งมวลที่มีอานุภาพร้ายกาจที่สุดในตอนนี้
เป็นตรีศูลขององค์ "อวโลกิเตศวรตัสสะ" ซึ่งเพิ่งนิพพานไป
ไม่นานครับ (พ.ศ. 51)

 

จักร


ขึ้นชื่อว่า "จักร" แล้ว เด่นทางด้าน "ความเร็ว" ครับ
แค่คิดก็แล่นไปเลย ถ้าเกิดความระแวงใครขึ้นมา ครู่
เดียวเท่านั้น เศียรก็ขาดได้ แต่ทำได้แค่ตัด ไม่รุนแรง
แบตรีศูลครับ ท่านที่ครองได้ก็ตั้งแต่พวกอสูรก็มีกัน
แล้ว องค์นารายก็มี จักรนี้มีหลากหลายประเภทนัก


จักรที่มีฤทธานุภาพมาก คือ "ธรรมจักร" เป็นของทิพย์
ระดับมหาโพธิสัตว์องค์ใหญ่ๆ ขึ้นไปครับ

 

แก้วมณี


เป็นของพื้นฐานที่มีกันทั่วไป ตั้งแต่เทวดาชั้นที่หนึ่ง เช่น
พวกนาคก็บำเพ็ญได้แก้วมณีกันแล้ว ทว่าแก้วมณีมีคุณ
สมบัติที่แตกต่างหลากหลายเหลือประมาณได้


แก้วมณีที่ขึ้นชื่อที่สุด น่าจะเป็น "มณีไวฑูรยประภา" ของ
องค์ไภษัชยคุรุพุทธเจ้าครับ เพราะบำเพ็ญได้ยากที่สุดแล้ว

 

ห่วงคู่


ของนาจา หรือผู้บำเพ็ญเซียนแบบนาจา ซึ่งมี
ฤทธานุภาพรองจากกระบองทองของซุนหงอคง
(กระบองทองนั้น ทำได้ล้างได้มากถึง 2 ภพ)
แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีนาจาองค์หนึ่ง ไปบำเพ็ญ
กับองค์ยูไล (ที่สำเร็จยูไลในกายมนุษย์บนโลก)
แล้วสำเร็จ ห่วง 4 ชนิด คือ ห่วง ดิน, น้ำ, ลม,
ไฟ แต่ละชนิดมีฤทธิ์ทำลายล้างได้ถึง 3 ภพ ก็
นับว่ารุนแรงที่สุดเท่าที่ปรากฏมาครับ


ห่วงนั้น เมื่อมีสอง จะแปลงกายเป็นหงส์คู่ได้
แต่เมื่อมี 4 จะแปลงกายเป็นกายเทพ 4 องค์
ถือ ตรี, คฑา, จักร, สังข์ ประจำสี่ทิศครับ

 

สังข์ทิพย์


หามีอยู่ในกายทิพย์ของผู้ใด ผู้นั้นสามารถแปลงพลังดำเป็นขาวได้
พบในกายทิพย์ของผู้บำเพ็ญ "ทองเลน" ที่สำเร็จขั้นสูงครับ สังข์
ทิพย์เป็นของหายาก บำเพ็ญได้ยาก ไม่ค่อยมีปรากฏแพร่หลายนัก


ท่านที่ได้ครองสังข์ทิพย์มักสำเร็จกายทิพย์โพธิสัตว์ขึ้นไป

 

จีวรทิพย์


ที่เคยได้สัมผัสเป็นของ "หลวงพ่อเงิน" ซึ่งสำเร็จพระโพธิสัตว์
ในกาย "มหาสถามปราบต์" จีวรนี้ มีฤทธานุภาพ คลุมปกป้อง
คุณไสย์ต่างๆ ได้ คาดว่าได้จีวรวิเศษนี้ด้วย "ศีลบารมี" ครับ

 

ปะคำ

ถ้าพูดถึงปะคำ ต้องนึกถึงเจ้าแม่กวนอิม สำหรับผู้บำเพ็ญ
ด้วยลูกปะคำบ่อยๆ จะได้ของทิพย์เป็นปะคำทิพย์ ปะคำ
ทิพย์นี้เก็บพลังวัตรได้ บำเพ็ญได้ 5 ปีต่อ 1 เส้น (เจ้า
แม่บอกมาอย่างนั้น) ปะคำมีสีต่างๆ กันไป แล้วแต่วิธี
บำเพ็ญ ปกติ ของเจ้าแม่เราจะถวายสีขาวไข่มุกครับ


สำหรับปะคำอีกแบบคือปะคำมือ เป็นขององค์ศรีอาร์ฯ ครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=766 border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=379 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

บาตรทิพย์


สำหรับบาตรทิพย์นี้ พบได้ในผู้บำเพ็ญถึงกายยูไลครับ
สำหรับโพธิสัตว์องค์อื่นๆ ไม่แน่ใจว่าบำเพ็ญได้บาตร
ได้ไหม (เพราะไม่เคยเห็น) บาตรนี้มีฤทธิ์มากทีเดียว
ใช้ขังสัตว์ร้ายได้ แบบที่พระพุทธเจ้าใช้จับนาคครับ


สำหรับผู้ที่บำเพ็ญได้แล้วก็มี ยังเป็นมนุษย์อยู่ครับ

 

พัดเหล็ก (ทิพย์)


ขึ้นชื่อนี้ คงคิดถึง "องค์หญิงพัดเหล็ก" ที่เขาได้ชื่อนี้
ก็เพราะบำเพ็ญจนได้พัดเหล็กทิพย์อันี้แหละครับ
อานุภาพก็ร้ายกาจพอดู ใช้ในกิจบางชนิดครับ

 

อนึ่ง "ของทิพย์" พวกนี้ สายขาวจะบำเพ็ญบารมีจนได้มาครองครับ
จะไม่พบในกลุ่มเล่นของที่เป็น "ของไสย์ดำ" ของแบบนั้น เป็นของ
ต่ำ ไม่ได้มีอะไรดีนักครับ สู้กันแล้วก็สู้ของทิพย์ของโพธิสัตว์ไม่ได้


แต่ที่พลาดก็ พวกเล่นไสย์ดำ ชอบเอาทีเผลอน่ะครับ ...

 

วิธีเรียกใช้ "ของทิพย์"


ใช้ "มโนมยิทธิ" คือ กำหนดด้วยใจเลย เช่น ถอดกายทิพย์ออกมา
แล้วพูดว่า "อาวุธทิพย์" ของข้าพเจ้า ชนิดนี้ๆๆ จงปรากฏ แล้วนำ
มาใช้ปราบพวกเล่นไสย์ดำได้ พวกไสย์ดำ สู้ไม่ได้แน่ครับ อย่ากลัว

 

ทราบได้อย่างไรว่าเราจะมีของทิพย์?


ท่านที่บำเพ็ญแบบนาราย อาจจะบำเพ็ญได้ของทิพย์คือจักรแล้ว
แต่ไม่เคยเรียกใช้ ไม่เคยเอามาใช้ เฉกเช่นท่านที่บำเพ็ญพระศิวะ
ท่านไหนที่บำเพ็ญแบบใด ก็มักได้ของทิพย์แบบนั้น ลองเรียกมา
ใช้ดูสิครับ

 

ก็แค่เครื่องมือประกอบเท่านั้นแหละ ก็เท่านั้น

 

มีอาวุธนะดี ใช้ปราบสิ่งอัปมงคลได้ แต่ก็ต้องรู้จักใช้ให้เหมะสม

 

...เอาน่า...อย่างไร..สำหรับผมแล้ว....มีสักอันยังดีกว่าไม่มี....เสียดายก็แต่ ...ของวิเศษที่แสดงมาทั้งหมดนี้...ผมยังไม่เคย ได้เลยซักอัน.....รอลุ้นอยู่เนี่ย....จะมีหวังใหม? กิเลสอีกแล้วละซีเรา....เฮ้อ

 

มันส์ งั้นว่ามั่ง



ถ้วยชาเปล่า เป็นอาวุธสำคัญในการรองรับธรรมาจาก
พระสัมมาสัมพุทธองค์ก่อนหน้า สำหรับคำพยากรณ์
คือจะต้องเป็นคนที่มีความว่างจาก 3 ภพเป็นลักษณะ
ในขณะที่เจอพระสัมมาสัมพุทธะ

ถ้าเป็นสาวกภูมิ การมีถ้วยชาเปล่าเนืองๆ จะทำให้
สะสมบารมีได้เร็ว เพียงพอต่อการเป็นผู้ทำได้ตาม
พระสัมมาสัมพุทธะฯ ในกาลนั้นๆ ก็เรียกได้ว่าเป็น อนุพุทธะ

 

ฮ่าว งั้นรับไป

จักรวิเศษ ไว้ปราบมาร
วัชระไข้วคู่ ไว้ปราบกิเลส
ธรรมจักร ไว้หมุนธรรมสู่ประทับจิต
สังข์เหวัชระ ไว้ส่งสัญญาณทั้งสามภพและขจัดสิ่งอัปมงคลทั้งหลาย

พอแล้วๆ มีเยอะเกินไป ใช้ไม่ถูก

 

เอกวีร์ ระวังชาจะล้นถ้วยนะครับ

 

หา...อ้อ! ระวังแล้ว

ถึงได้เอา ถ้วยชาเปล่า มาแสดงไง เปรียบปริยัติก็เรียกว่า สังขารุเบกขาญาณ

นี่ต้องเอาปริยัติกำกับ เดี๋ยวหาว่าเราเล่น มุข เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ แต่ถ้าว่าง
ไปเป็น ไมฝึกไว้ก่อน เดี๋ยวไม่ได้รับพยากรณ์นะเอ้า !!