*อธิษฐานจิต จุดเริ่มต้นเจอคนที่ใช่*

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมกรรมดี, 26 ตุลาคม 2015.

  1. ธรรมกรรมดี

    ธรรมกรรมดี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +56
    เรื่องจริงของคู่รักคู่หนึ่ง ผู้ชายทำธุรกิจส่วนตัว ผู้หญิงเป็นแพทย์และเป็นอาจารย์แพทย์ ทั้งคู่ทำงานหนัก บ่อยครั้งที่ภรรยาต้องทำงานตรวจคนไข้จนถึงดึกดื่น

    คืนหนึ่งขณะที่สามีเพิ่งเคลียร์งานในวันนั้นเสร็จตอน 4-5 ทุ่ม รู้สึกเหนื่อยมาก กำลังจะล้มตัวลงนอน ภรรยาโทร.มาบอกว่า วันนี้ขับรถกลับไม่ไหวแล้ว ทำงานเหนื่อยมาก ช่วยมารับหน่อยได้ไหม แม้สามีจะเหนื่อยมากอยู่เช่นกัน แต่ก็มีแรงลุกจากเตียงได้ทันที แล้วรีบบึ่งรถไปรับภรรยา

    ทำไมบางคนมีแฟนแล้วรู้สึกว่าต้องฝืนทำสิ่งต่างๆตามใจแฟน ไม่มีกำลังใจจะทำอะไรดีๆให้ หรือทำไปงั้นๆ รู้สึกเฉยๆ

    แต่มีบางคน บางคู่ ที่เขาและเธอรู้สึกเต็มใจทำสิ่งต่างๆให้กันอย่างมีความสุข เหนื่อยกายแต่ข้างในรู้สึกมีพลัง

    อะไรที่ทำให้เขาสามารถทำอย่างนั้นได้

    เวลาที่เหนื่อยมากๆ ไม่มีใครมีสมองมาคิดได้หรอกว่า ทำไมต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่มันมีใจได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้สมองคิดในการเลือกกระทำ ทั้งนี้ไม่ได้แปลว่า ไม่มีเหตุที่ทำให้มีกำลังใจอย่างนี้ได้อัตโนมัติ

    ที่มาของกำลังใจนี้ก็คือ ฝ่ายชายเป็นคนที่ฝึกให้ฝึกเสียสละเพื่อความสุขของผู้อื่นมาก่อนมากๆ

    จุดเริ่มต้นที่ผู้ชายคนนี้เริ่มเป็นผู้ให้แก่ผู้อื่นก็คือ ในช่วงชีวิตหนึ่งเขาเคยมีความทุกข์เรื่องความรักมากๆจนหาทางออกไม่ได้ เขาเล่าว่า ตัวเองรู้เหนื่อยกับการตามหาความรักแล้ว จึงตั้งใจอธิษฐานจิตว่า

    "ขอให้มีคู่ที่เหมาะสมกัน และเติบโตทางจิตวิญญานร่วมกันไปพร้อมๆกัน"

    การอธิษฐานในที่นี้ หมายถึงกำหนดความตั้งใจไว้ กำหนดเป้าหมายไว้ไม่ใช่การสวดขอพระให้ประทานอะไรมาให้ลอยๆ

    หลังจากอธิษฐานจิตแล้ว เขาก็ได้มีโอกาสสร้างเหตุ คือกรรมดีที่จะส่งผลให้เขาได้เจอคู่แบบที่เขาอธิษฐาน โดยเริ่มจากมีคนมาขอปรึกษาปัญหาเรื่องความทุกข์

    แล้วเขาก็สังเกตและสัมผัสได้ว่า การให้ผู้อื่น ช่วยผู้อื่น มันทำให้เขามีความสุขไปด้วย หลังจากนั้นมาก็เลยเริ่มช่วยคนอื่นมากขึ้น มีคนมาขอคำปรึกษาเรื่องความรักก็ให้คำแนะนำ และพร้อมๆกับที่ช่วยคนอื่นให้เกิดปัญญา ตัวเขาเองก็รู้สึกว่าได้ประโยชน์ด้านปัญญา คือได้เห็นปัญหาอย่างเป็นกลาง
    ช่วยคนอื่นแล้วก็ย้อนกลับมาทำให้มีปัญญาด้วยตนเองด้วย ยิ่งช่วยก็ยิ่งเป็นผลกรรมที่ก่อให้เกิดปัญญา

    การเห็นประโยชน์จากการให้ การได้สัมผัสถึงความสุขของผู้รับว่าคนที่เป็นทุกข์เรื่องความรัก บางคนกินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ เครียด ป่วย การงานและการเรียนชีวิตย่ำแย่ บางคนอาจถึงขั้นกำลังคิดสั้นอยู่ แต่เมื่อเราได้ไปสละเวลาช่วยเขา ให้กำลังใจ ให้เห็นทางออก แล้วอีกฝ่ายดีขึ้น พ้นทุกข์ เราก็รู้สึกมีความสุขไปด้วย

    จากจุดเริ่มต้นตรงนี้แหละ ที่ทำให้ฝ่ายชายเริ่มต้นให้ผู้อื่นและให้ได้อย่างเป็นสุข จากเรื่องแค่ให้คำปรึกษาก็ขยายเป็นการให้อย่างอื่นได้ต่อๆไปเช่น
    เจอคนอื่นจอดรถเสียอยู่ข้างทาง บนรถมีสายพ่วงแบตเตอรี่ก็ลงไปช่วยเขาได้

    ในชีวิตประจำวัน เราทุกคนก็มีดอกาสช่วยเพื่อนร่วมงาน ช่วยคนแปลกหน้า ช่วยคนรอบตัวได้เสมอเช่นกัน

    นอกจากงานประจำคือธุรกิจส่วนตัว งานเสริมของชายคนนี้คือการช่วยคน เมื่อมีเวลาก็จะเข้าไปตอบคำถามช่วยคนที่มีความทุกข์เรื่องความรักในเว็บไซต์ที่รู้จัก และเพราะเขามีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์จึงมักอาสาช่วยทำและดูแลเว็บไซต์ธรรมะของหลายวัด

    ส่วนฝ่ายหญิงก็ช่วยเหลือผู้อื่นเช่นเดียวกัน ฝ่ายหญิงเป็นแพทย์ เธอตั้งใจทำงานเพื่อช่วยเหลือคน ดูแลคนไข้ด้วยใจ ด้วยความตั้งใจเต็มที่มีจิตใจคิดจะให้ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ทั้งกายและใจเป็นหลัก ไม่ใช่ทำงานไปตามหน้าที่

    ทั้งสองคนมีพื้นฐานจิตใจที่จะให้ เสียสละ ทำสิ่งต่างๆเพื่อความสุขของผู้อื่น ไม่ได้คิดถึงตนเองเหมือนกัน

    ทั้งสองคนรู้จักกันดีว่า อีกฝ่ายเป็นอย่างไร ฝ่ายชายก็เห็นว่าภรรยาเป็นคนอย่างไร ทำให้ทั้งสองคนศรัทธากัน เคารพกัน ยินดีในความดีของกันและกัน

    การได้ทำเพื่อคนอื่นอย่างมีความสุขนี่แหละที่คนส่วนใหญ่ยังรู้จักกันน้อย อย่างมากคนส่วนใหญ่อาจจะมีความพอใจยินดี ทำสิ่งต่างๆให้กันเฉพาะช่วงแรกๆที่คบ แต่พอรู้จักกันไปนานๆ หากเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ทำสิ่งใดที่ดี ที่มีคุณค่า และยิ่งถ้าไม่มีความดีใดๆเพิ่มขึ้น แล้วยังทำสิ่งที่ไม่ดีให้รู้สึกอยู่ร่วมกันแล้วทุกข์ร้อน ไม่สบายใจมากกว่า เช่น เอาแต่เรียกร้องแม้อีกฝ่ายยังทำอะไรให้ ก็ทำแบบฝืนใจหรือไม่มีความสุข สุดท้ายใจเขาก็รู้สึก "ไม่ไหวแล้ว" ไปในที่สุดได้

    ความดีที่ว่านี้ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่ความดีต่อสาธารณะ แต่หมายถึงความเป็นคนดี มีน้ำใจ เป็นผู้ให้ ไม่ใช่เห็นแก่ตัว เพราะความดี ความมีน้ำใจ ความไม่เห็นแก่ตัวนี่แหละที่เป็นเหตุเพื่มความรู้สึกน่ารัก ทำให้มีคุณค่า

    จุดเริ่มต้นของความรักที่มีความสุข เกิดจากการที่แต่ละคนรู้จักทำตนให้มีคุณค่าด้วยการเป็นผู้ให้แก่ผู้อื่น เต็มใจช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าจะด้านใดๆเท่าที่ตนจะทำได้และทำเต็มที่กำลัง
    เพื่อให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มีสุขขึ้น แล้วผลของกรรมดีนั้น นอกจากให้ผลในปัจจุบันคือเป็นสุขทางใจแล้ว ผลต่อมาก็คือจะเป็นตัวช่วยส่งให้ได้เจอคนแบบเดียวกันได้ แล้วก็มีปัญญาที่จะเห็นคุณค่าแบบเดียวกัน เพราะจิตเราเลือกคนตามกรรม

    นี่เป็นความรักที่ไม่ได้มีแต่ความรัก แต่ยังมีความเคารพกัน อยากช่วยเหลือ สนับสนุนกันจากใจ สามารถรักอีกฝ่ายได้จากความซาบซึ้งในความดีงามที่เราเองก็มี เพราะเป็นผู้ให้ผู้อื่นมาก่อน จากการฝึกให้เสมอๆและซาบซึ้งในความดีงามที่มีอยู่จริงในใจของเขา คือเห็นคุณค่าในสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ

    อ้างอิง : หญิง-ณัฎฐ์ณัณญา, หนังสือ แน่ใจแล้วหรือว่านี่คือความรัก, หน้า 99-103

    ติดตามเพจ Facebook เหตุเกิตจากความรัก : https://www.facebook.com/เหตุเกิดจากความรัก-143880702292459/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...