เสียงธรรม หมีเล่อเจินจิง

ในห้อง 'บทสวดมนต์' ตั้งกระทู้โดย janepat2549, 4 ตุลาคม 2008.

  1. janepat2549

    janepat2549 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,963
    ค่าพลัง:
    +1,285
    สัจคาถาพระเมตไตยโพธิสัตว์...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. จีระศักดิ์ แซ่หลอ

    จีระศักดิ์ แซ่หลอ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณครับเพราะมากๆๆ
     
  3. T_lonelyboy

    T_lonelyboy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +0
    เบื้องบนเมตตา
     
  4. janepat2549

    janepat2549 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,963
    ค่าพลัง:
    +1,285
    สาธุ...เบื้องบนเมตตาหาที่สุดมิได้...ขอบคุณพระอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆองค์ที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักความเป็นที่สุดแห่งธรรมชาติ...ทำให้เข้าพเจ้ารู้จักจิตเดิมแท้...
     
  5. LiFeHouSe

    LiFeHouSe Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +80
    janepat2549สาธุ...เบื้องบนเมตตาหาที่สุดมิได้...ขอบคุณ พระอาจาร ย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆองค์ที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักความ เป็นที่สุดแห่งธรรมชาติ...ทำให้เข้าพเจ้ารู้จักจิตเด ิมแท้...
    <!-- / message --> <!-- sig --> __________________
    อนุโมทนา
     
  6. marty

    marty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +439
    พี่ขออนุญาตน้องเจน ลงบทสวดพร้อมคำแปลนะคะ
    ขอบพระคุณเบื้องบนเมตตา

    ผู้ใด อ่านคำแปลของ หมีเล่อเจินจิง จนจบ จะสามารถเข้าใจ วิถีอนุตตรธรรม หรือ การปรกโปรดสามโลกครั้งนี้ได้ดีขึ้น
    ----------------------------------------------
    ก่อนสวดบทนี้ ควรทานอาหารเจก่อน หรือ หากมิได้ทานเจ ควรจะล้างปากให้สะอาดเสียก่อน แล้วทำจิตใจให้สงบ น้อมระลึกถึงพระศรีอาริย์
    ก่อนสวด ให้กราบขอประทานอนุญาตจากพระอนุตตรธรรมเจ้า ด้วยการ กราบ10 กราบ

    สวดให้ครบสามจบ เมื่อสวดจบแต่ละจบ ให้ กราบ 10 กราบ

    หมายเหตุ: หากใครมีคนไข้ที่ป่วยใกล้หมดลมหายใจ หรืออาการทรุดหนัก ให้รีบล้างปาก กายใจสะอาด ระลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์ใดก็ได้ แล้วสวดให้คนไข้ฟัง เมื่อเขาฟังแล้ว จิตจะไปสู่สุคติ หรือ อาจฟื้นไข้ขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ได้ค่ะ เพาะเมื่อสวด พระยายมที่จะมารับวิญญาณ อาจจะต้องยืนเคารพโองการฟ้าประกาศิต รอให้สวดจบก่อน

    นโม หมีเล่อฝอ

    บทสวดคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ
    彌 勒 真 經 หมี เล่อ เจิน จิง

    (ศุภนิมิตแปล) ผู้ที่จะสวดคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ จะต้องถือศีลกินเจตลอดชีวิต จึงจะมีพุทธานุภาพที่ยิ่งใหญ่ หรือถ้าใครที่ยังไม่กินเจ หรือกินบ้างเป็นบางครั้ง ก่อนที่จะสวดก็ขอให้ท่านกินเจก่อน อย่างเช่น ถ้าวันนี้จะสวดคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ ก็ขอให้กินเจในวันนี้แล้วจึงจะสวด

    ฝอซัวหมีเล่อจิ้วขู่จิง
    : พระพุทธองค์ได้โปรดแสดงธรรมว่าด้วยคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะอันสามารถเปลื้องทุกข์ได้ กล่าวคือ
    หมีเล่อเซี่ยซื่อปู้เฟยชิง
    : อันว่า พระเมตเตยยะโปรดแบ่งพระภาคอุบัติมาในกาลครั้งนี้ เพื่อเจริญปณิธานโปรดสามโลก มนชั้นเทพเทวา มนุศย์ และผี เพื่อการแปรเปลี่ยนโลกวุ่นวายให้เป็นเอกภาพ สมานฉันท์เป็นหนึ่งเดียวกัน การอุบัติมาของพระองค์ในครั้งนี้ จึงมิใช่เรื่องเล็กน้อยธรรมดา
    หลิ่งเป่าฉีหลู่หลิงซันตี้
    : พระองค์สนองรับพระโองการล้ำค่าหาใดเสมอเหมือน ดุจดั่งรัตนะวิเศษสุดจากอนุตตรพระแม่องค์ธรรมฯ พระเมตเตยยะแบ่งพระภาคอุบัติมา ณ เมือง ฉีหลู่ มณฑล ซันตง ดินแดนวิเศษแห่งภูเขาศักดิ์สิทธิ์
    เหนี่ยนฮวาอิ้นเจิ้งเข่าซันเฉิง
    : เป็นเรื่องเดียวกันกับที่ผู้มีพระภาค เคยประจงจับดอกไม้ชูขึ้นตรงพระพักตร์ แสดงปริศนาธรรมให้ประจักษ์จุดตรัสรู้ ขั้นสูงระดับญาณที่สาม แด่สงฆ์สาวกหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบรูป ณ เชิงเขาคิชกูฏ
    ลั่วไจ้จงเอวี๋ยนซันซิงตี้
    : ใจกลางต้นกำเนิดแห่งอารยะประเทศของโลก คือ ประเทศจีน ใจกลางต้นกำเนิดแห่งกายสังขาร คือ จุดสถิตพุทธจิตธรรมญาน เป็นดินแดนวิเศษที่อยู่เหนือดินแดนสามดาว หมายถึง หัวใจที่ก่อเกิดอารมณ์ โลภ โกรธ หลง
    ต้าเจิ้งซื่อชวนอวั๋งเถาซิน
    : ประจักษ์หลักฐานครั้งยิ่งใหญ่ ปรากฏในมณฑล เสฉวน ณ สวนดอกไม้อวั๋งเถาซิน
    เทียนเจินโซวเอวี๋ยนกว้าเซิ่งเฮ่า
    : พระวิสุทธิอาจารย์แห่งธรรมกาลยุคขาวสุดท้ายทั้งสองพระองค์ คือ พระธรรมาจารย์เทียนหยาน และพระธรรมจาริณี ซู่เจิน (พระธรรมจาริณีจื่อซี่ หรือ อริยมาตาจงฮว๋า) สมัยที่ ๑๘ สุดท้ายยุคหลัง ทั้งสองพระองค์สนองรับพระธรรมโองการ ถ่ายทอดสัจธรรม จากฟ้าสู่สาธุชน เก็บงานสมบูรณ์ผล คือ เก็บจิตวิญญานกลมใสบริสุทธิ์ของผู้บำเพ็ญดี จารึกในทะเบียนอริยะ
    เติ่งไต้สือจื้อเตี่ยนเสินปิง
    : เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ก็จะเป็นวาระคัดเลือก รวมพลญานวิเศษ และเทพเทวา
    อวิ๋นเหลยเจิ้นไคอู้จี๋ถู่
    : พระธรรมจาริณีซึ่งมีพระธรรมธาติ เช่น เมฆ เช่น น้ำ หรือเช่น ดวงจันทร์ พระธรรมาจารย์ซึ่งมีพระธรรมธาตุ เช่น อัศนี เช่น ไฟ หรือเช่น ดวงอาทิตย์ จะแสวงพระบุญญาธิการ เปิดวาระธรรมยุคขาว ในใจกลางแผ่นดินจีน ด้วยการถ่ายทอด เปิดจุดสถิตจิตญาน ณ ใจกลางร่างกายคน เป็นมหาวาระแห่งมหาธรรมปฏิบัติ อันสะเทือนฟ้า สะเทือนดิน ซึ่งมิเคยปรกโปรดแต่ก่อนใดมา
    เทียนเซี่ยเสินกุ่ยปู้อันหนิง
    : ใต้หล้าฟ้านี้ เทพเทวผีสางต่างตื่นกระหนกกระวนกระวายไม่สงบสุข เพราะถึง ยุคสุดท้ายมหันตหภัยจะกวาดล้างทั้งสามโลก แต่เบื้องบนปรกโปรดประทานหนทางรอด แก่ชีวิตจิตญาน ที่จะเก็บไว้เป็นกุศลพันธุ์ต่อไปในกาลข้างหน้าได้ ทุกชีวิตจิตญาน จึงต่างวุ่นวาย
    ใฝ่หาพระวิสุทธิอาจารย์ผู้นำทาง
    ชินไจ้เหยินเทียนจงฮว๋าหมู่
    : ทุกชีวิตจิตญาน จึงต่างปรารถนาจะสนิทชิดใกล้ฟ้าอันการุณ กลับคืนไปยังอนุตตรธรรมมารดา จึงต่างใคร่รู้ธรรมญานอันเจิดจรัสในฅูนย์กลางกายแห่งตน อีกนัยหนึ่ง คือ ต่างปรารถนาชิดใกล้ พระอริยมาตาจงฮว๋า พระผู้ทรงรับพระภาระเก็บจิตวิญญาณอันเจิดจรัส ของผู้บำเพ็ญดีทุกคน เรียกว่า เก็บงานสมบูรณ์ผล ช่วงสุดท้ายในการปรกโปรดครั้งนี้
    จิ่วเหลียนเซิ่งเจี้ยวกุยซั่งเฉิง
    : ทุกชีวิตจิตญานต่างปรารถนาจะปฏิบัติบำเพ็ญในศาสนา อันอาจบรรลุมรรคผลแห่อริยะ กลับไปยังยานระดับสูงประทับบนบัลลังค์บัวเก้าระดับ
    เทียนฮวาเหลาหมู่ฉุยอวี้เซี่ยน
    :ทุกชีวิตจิตญาน จะมีโอกาสสนิทชิดใกล้อุบลสวรรค์บัลลังค์บัวด้วย “พระอนุตตรธรรมเจ้า พระแม่องค์ธรรม” โปรดหย่อนสายบุญบริสุทธิ์สูงส่งเป็นมงคล ดั่งหยกดั่งทองลงมา นำพาพุทธบุตรดั้งเดิม อันเป็นกุศลพันธุ์
    โซวเอวี๋ยนเสี่ยนฮว่าไจ้ก่ ูตง
    : เพื่อการเก็บงานสมบูรณ์ผล นำพาชีวิตจิตญานพุทธบุตร สาธุชนกลับคืนเบื้องบน พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด การนี้จะปรากฏพุทธานุภาพให้ประจักษ์จริงในโลกมนุษย์ ณดินแดนประเทศเก่าก่อนโบราณ (ประเทศจีน) เพื่อการเก็บงานสมบูรณ์พูนผล ชีวิตจิตญานที่ตกต่ำเสียหาย จะได้รับการฟื้นฟูชูชุบ ณ จุดญานทวาร ผู้ที่ผ่านการจุดเบิกจากพระวิสุทธิอาจารย์ แล้วจะผันแปรเปลี่ยนจิตใจ และบำเพ็ญให้ได้ในที่สุด
    หนันเป่ยเหลี่ยงจี๋เหลียนจงซวี่ : ธรรมปฏิบัติที่แตกต่างห่างไกลกัน ดังฝ่ายใต้ฝ่ายเหนือสองขั้ว เช่น พระธรรมาจารย์ ฮุ่ยเหนิง (เว่ยหล่าง) ที่บำเพ็ญแนวทาง “นิรรูป“ ฉับพลัน แต่ศิษย์ผู้พี่ คือ พระอาจารย์ เสินซิ่ว บำเพ็ญแนวทาง “รู้รูป” ค่อยปลงรูป หรือการปฏิบัติบำเพ็ญในแนวทางอื่นๆ แต่ละศาสนาลัทธินิกายในธรรมกาลยุคขาวสุดท้ายนี้ ทุกแนวทางปฏิบัติบำเพ็ญจะประสานกัน คืนกลับต้นสายตระกูลเดิม
    ฮุ่นเอวี๋ยนกู่เช่อไจ้จงอยัง
    : ตั้งแต่บรรพกาลมา รูปแบบของมนุษย์ที่องค์ธรรมมารดา ซึ่งเป็นพระผู้สร้างได้กำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนเก่านั้น คือ จุดสถิตพุทธจิตธรรมญานของกายสังขาร อยู่ที่ศูนย์กลางกาย (ศีรษะ)
    เหลาหมู่เจี้ยงเซี่ยทงเทียนเชี่ยว
    : ศูนย์กลางกายที่ศีรษะ จุดนี้องค์ธรรมมารดาพระผู้สร้าง ได้โปรดประทานให้เป็นประตูทางผ่านให้ชีวิตจิตญานกลับคืนไปยังฟ้า กลับสู่สุญัตตา หรือ วิมุตติภาวะแต่เดิมทีของตน
    อู๋อิ่งซันเฉียนตุ้ยเหอถง
    : หลังจากพระวิสุทธิอาจารย์ เบิกจุดญานทวาร ตรงศูนย์กลางกาย อันเป็นประตูทางผ่านไปยังฟ้า ซึ่งอยู่ใกล้กับเบื้องหน้า ภูเขา ไร้รูปเงานั้นแล้ว การกลับคืนเบื้องบนไปของผู้ได้รับการถ่ายทอดวิถีธรรมแล้ว ยังจะต้องแสดง”ลัญจกร”ตราประทับของพระพุทธะ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์สูงส่งของจิตใจที่ไม่ผิดเพี้ยนเอนเอียง ไม่แบ่งเขา แบ่งเรา ซึ่งเป็นสภาวะธรรมอันสมานฉันท์ในจิตของตนอีกด้วย
    อิงเอ๋อเหย้าเสี่ยงกุยเจียชวี่
    : พุทธบุตรผู้มีจิตบริสุทธิ์โปร่งใสดั่งทารกน้อย หากคิดที่จะคืนกลับสู่บ้านเดิม (บรรลุธรรม)
    ฉือเนี่ยนตังไหลหมีเล่อจิง
    : พึงประคองท่องคัมภีร์เมตเตยยะ อันได้มาแต่เดิมทีไว้ให้ดี จึงแฝงปริศนาไว้ หมายถึง ดวงธรรมญานอันบริสุทธิ์โปร่งใส อันเป็นสุญญตาภาวะแผ่ไพศาลจนประมาณขอบเขตมิได้ อีกทั้ง เมื่อรวมศูนย์ไว้จะ “สงบหาย” จนเหมือนไม่มีสิ่งเล็กละเอียดใดๆแทรกอยู่ภายในได้ เลย “ประคองท่องจำ” คือ รำลึกกำหนดรู้ สภาวธรรม ความเป็นอยู่ของธรรมญานตน นั่นคือ บำเพ็ญจิตทุกขณะเวลา ให้ตรงต่อความหมายของคำว่า พระคัมภีร์เมตเตยยะ อันได้มาแต่เดิมที
    ย่งซินฉือเนี่ยนฝอไหลจิ้ว
    : หากประคองท่องจำกำหนดรู้ในความเป็นอยู่ของธรรมญาน อันบริสุทธิ์โปร่งใส ด้วยจิตใจละเอียดประณีตลึกซึ้งสุขุมดีแล้ว เมื่อนั้นพระพุทธะจะมาโปรด เมื่อพุทธะภาวะแห่งตน “มุ่งหมาย” “ใกล้เคียง” “ตรงต่อ” หรือ”เข้าสู่”กระแสธรรมของพระพุทธะพระโพธิสัตว์ พระองค์ในในหมื่นโลกธาติได้ พุทธภาวะแห่งตน ก็ยังอาจบังเกิดพุทธานุภาพเป็นที่พึ่งแห่งตนได้
    ตั๋วตั่วจินเหลียนชวี่เชาเซิง
    : ที่สุดบัวทองของทุก ๆ ดอก คือ ผู้บำเพ็ญจริงทุกคนในธรรมกาลยุคขาว จะสามารถล่วงพ้นจากวัฏสงสาร
    ซึเต๋อซีไหลไป๋หยังจื่อ
    : เพราะเราได้เข้าใจ ได้รู้จักดวงธรรมญานในตน แต่เดิมทีที่มาจากฟากฟ้าตจะวันตก อันเป็นดินแดนพุทธเกษตร อีกทั้งยังเข้าใจได้ รู้ว่าเรา คือ พุทธบุตรแห่งพระอนุตตรธรรมมารดา เราก็คือ ผู้บำเพ็ญในธรรมกาลยุคขาวสุดท้ายนี้
    เซี่ยงเอ๋อเตี๋ยนเถี่ยฮว่าเฉิงจิน: พุทธบุตรที่มาจากฟากฟ้า มาจากพุทธเกษตร อันเป็นบ้านต้นกำเนิดก่อนเกิดกาย เมื่อได้รับวิถีธรรมก็จะสะดุดใจได้ฉุกคิด บังเกิดจิตสำนึก เมื่อพระวิสุทธิอาจารย์ได้โปรดจรดนิ้วลงบนจุดสถิตจิตญาน ซึ่งแม้จิตดวงนั้นในบัดนี้จะพอกพูนด้วยโลกียวิสัยมาหลายชาติ จนแข็งกระด้างดังเหล็กหนา ก็อาจแปรเปลี่ยนเป็นดวงจิตขาวบริสุทธิ์ดังเดิมได้
    เหม่ยยื่อจื้อซินฉังฉือเนี่ยน
    : ต่อจากนั้นประกอบกับตนเองมุ่งใจหมายมั่น ประคองท่องจำกำหนดรู้สัจธรรมในพระคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ ประคองท่องจำ กำหนดรู้สัจธรรมในพุทธภาวะ ของดวงจิตชีวิตธรรมญานตน
    ซันไจปานั่นปู้ไหลชิน
    : เมื่อกำหนดรู้อยู่เสมอ ภัยจาก โลภ โกรธ หลง ในตน และภยันตรายจากน้ำ ไฟ ลมภายนอกจะไม่อาจให้ร้าย ความทุกข์เกิดจากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย จาก พราก อยากใคร่ ผิดหวัง คั่งแค้น และขันธ์ทั้ง 5 จะไม่อาจให้ทุกข์ อีกทั้ง วินาศภัยจากน้ำท่วม ไฟไหม้ หอก ดาบ มีดพร้า ศาตราภัย สงครามย่ำยี แห้งแล้ง อดหยาก จมน้ำตาย ไร่นาเสียหาย พืชผล ล้มเหลว ความวิบัติเหล่านี้ก็จะไม่ก่อทุกข์ให้
    เหย้าเสี่ยงเฉิงฝอฉินหลี่ไป้
    : หากคิดจะบรรลุพุทธะ จงหมั่นน้อมกราบพุทธะ ผู้ไปดีแล้ว จากการบำเพ็ญเพียรของพระองค์เอง และเจริญรอยตามแบบอย่างของพระองค์ให้จงได้ หากคิดจะบรรลุพุทธะ จงหมั่นน้อมกราบพุทธภาวะแห่งตน ซึ่งตนจะรู้ดีกว่าใครอื่นว่า ตนนั้นสูงส่งดีงาม สมควรได้รับการกราบไหว้จากตนเองและผู้อื่นเพียงไร
    ฉังฉือชงหมิงจื้อฮุ่ยซิน
    : หากหมั่นประคองรักษาพุทธภาวะอันบริสุทธิ์ โปร่งใส ในตนไว้เสมอ หู ตา จะสว่างแจ่มชัด กว้างไกล ปัญญาล้ำเลิศจะเกิดแก่จิต หมั่นประคองท่องจำคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะไว้เสมอ พุทธานุภาพในพระคัมภีร์จะช่วยให้หูตาสว่างแจ่มชัด กว้างไกล ปัญญาญาน อันล้ำ เลิศจะเกิดตามมา
    ซิวทิงเสียเหรินหูซัวฮว่า
    : จงหยุด อย่าได้เชื่อคำยุแหย่ ยกยอ หยาบหยาม หรือคำชักนำ อันเป็นมิจฉาวาจา จากมิจฉาบุคคล”ภายนอก”ทั่วไป จงหยุด อย่าได้ฟังคำยุแหย่ ยกยอ หยาบหยาม หรือคำชักนำ อันเป็นมิจฉาวาจา จากมิจฉาบุคคล”ภายใน” คือ กายของตนเองที่พูดจาเหลวไหลไม่ตรงต่อหลักสัจธรรมความเป็นจริง
    เหลาซวนอี้หม่าเนี่ยนอู๋เซิง
    : จงล้อมคอกความคิดจิตกระเจิงไว้ เหมือนคล้องคอม้าพยศให้สงบหยุดนิ่งลงได้ จงมุ่งหมายท่องจำกำหนดรู้ อยู่ที่องค์ธรรมมารดา พุทธบุตรจากองค์มารดา คือ ธรรมญานตน จงคล้องใจพุทธบุตรไว้มิให้ความคิด เกิดดับ เกิดดับ สับสนเรื่อยไป
    เหลาหมู่เจี้ยงเซี่ยเจินเทียนโจ้ว
    : องค์ธรรมมารดาปรกโปรด ประทานสัจจคาถาจากฟ้า นั่นคือ “ดวงธรรมญาน” ไว้ในรูปกายสังขาร ดวงธรรมญานหรือสัจจคาถาจากฟ้า จึงมีความศักดิ์สิทธิ์พร้อมแล้วอยู่ในตัว
    ย่งซินฉือเนี่ยนโหย่วเสินทง
    : พึงตั้งใจประคองท่องจำ สำนึกรู้ในสัจจคาถาจากฟ้า คือ ดวงธรรมญานของตนไว้เรื่อยไป จนกว่าจะเข้าถึงความศักดิ์สิทธิ์ เกิดปัญญาระลึกรอบรู้ได้
    หมั่นเทียนซิงโต่วโตวเซี่ยซื่อ
    : บัดนี้ เทพสถิตประจำดวงดาวทุกหมู่เหล่า ต่างมุ่งลงมาสู่โลก บ้างเกิดกาย บ้างแฝงกาย เพื่อเสริมส่งธรรมปฏิบัติในยุคสุดท้ายนี้
    อู่ฟังเลี่ยเซียนเซี่ยเทียนกง
    : เซียนทุกระดับจากทิศตะวันออก ตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ และศูนย์กลาง ต่างลงจากปราสาททิพยวิมานในชั้นฟ้า
    เก้อฟังเฉิงหวงไหลตุ้ยเฮ่า
    : พระกาฬประจำเมืองแต่ละด้าน ต่างรีบเร่งทำการตรวจสอบ เลขที่ บัญชีรายชื่อของผู้อยู่อาศัยในเมือง ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองดูแลของท่านว่า ใครได้รับการถอนชื่อ เพื่อถวายขึ้นในบัญชีอริยะ (รับธรรมะ) พ้นจากหน้าที่ปกครองของท่านแล้วบ้าง
    เป้าซื่อหลิงถงฉาเตอชิง
    : การนี้ยังมีทิยพ์กุมาร สื่อสารอีกมากมาย ร่วมทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชีรายชื่อ ให้ตรงกับบุคคลนั้น ๆ อย่างแน่ชัด เพื่อถวายรายงานต่อ
    ซันกวนต้าตี้ฉือเปยจู้
    : มหาราชเจ้าทั้งสามพระองค์ ที่ทรงโปรดทำหน้าที จารึก รายชื่อ ถวายขึ้นไปในบัญชีอริยะเบื้องบน
    เซ่อจุ้ยซันเฉาจิ้วจ้งเซิง
    : เป็นบุญวาระสุดท้ายที่เบื้องบนทรงโปรดฉุดช่วยมวลชีวิตจิตญาน เทพ เทวา มนุษย์ ผี ที่ได้รับการฉุดช่วยทั้งสามโลกในครั้งนี้ จะได้รับการอภัยโทษ ผ่อนผัน เป็นการเฉพาะจากองค์ธรรมมารดา
    จิ้วขู่เทียนจุนไหลจิ้วซื่อ
    : เมื่อพระเมตเตยยะจะจเริญมหาปณิธานมาปรกโปรด เพื่อปลดเปลื้องความทุกข์ให้ชาวโลกในครั้งนี้
    ชินเตี่ยนเหวินปู้เจียตี้เสิน
    : พระองค์ทรงคัดเลือก กำหนดหมายด้วยพระองค์เอง ให้พระอริยะพระโพธิสัตว์ฝ่ายบุญญฤทธิ์ ซึ่งเข้าถึงจิตของสาธุชน ดั่งดวงตะวันจันทรา สว่างฟ้าทั่วหล้า ทั่วสกล คือ พระพุทธะจี้กง และ พระโพธิสัตว์จันทรปัญญา ให้ทรงทำหน้าที่ วิสุทธิอาจารย์ เบิกจุดสถิตจิตพุทธะ ให้แก่ ผู้ขอรับวิถีธรรม
    ปาต้าจินกังไหลฮู่ฝ่า
    : พระองค์ทรงคัดเลือกกำหนดหมายวัชรเทพผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรอีกแปดฝ่าย อีกทั้ง ท้าวจตุมหาโลกบาลทั้งสี่ อันประกอบด้วย พระวัชรอัสนี พระวัชรวายุ พระวัชรพยัคฆา และพระวัชรนาคา พร้อมกันมาพิทักษ์ธรรม
    ซื่อเว่ยผูซ่าจิ้วจ้งเซิง
    : อีกทั้งยังมีมหาโพธิสัตว์ทั้งสี่ คือ พระโพธิสัตว์กวนอิม พระโพธิสัตว์จันทรปัญญา พระโพธิสัตว์มัญชุศรี พระโพธิสัตว์สมันตภัทร ทรงค้ำชูงานถ่ายทอดเบิกธรรม ทรงฉุดช่วยคุ้มครองรักษาเหล่าเวไนยฯ
    จิ๋นหลิ่งซันสือลิ่วเอวี๋ยนเจี้ยง
    : เมื่ออาราธนาหรือสวดท่องพระคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ พระองค์จะนำพาจอมทัพฟ้าและเทวาอารักษ์น้อยใหญ่อีกสามสิบหกพระองค์ ลงมายังโลกมนุษย์อย่างเร่งรีบประชิดตัว
    อู๋ไป่หลิงกวนจิ่นสุยเกิน
    : อีกทั้งนำพาทิพยมนตรีอีกห้าร้อยพระองค์ ตามติดประชิดมา เพื่อทรงร่วมคุ้มครองรักษาสาธุชน และสอดส่องความเป็นไปในสามโลก
    ฝูจู้หมีเล่อเฉิงต้าเต้า
    : ทุกพระองค์ทรงร่วมทำหน้าที่ ประคองรองรับการอุบัติของพระเมตเตยยะ เพื่อบรรลุมหาอริยมรรคเป็นสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป อีกนัยหนึ่ง คือ ประคองรองรับเมตเตยยะองค์น้อย ๆ คือ พุทธบุตรผู้ปฏิบัติบำเพ็ญในธรรมกาลยุคขาวนี้ ให้ได้บรรลุธรรมในภายภาคหน้า
    เป่าอิ้วเซียงเอ๋อเต๋ออันหนิง
    : คุ้มครองพุทธบุตรจากบ้านเดิม คือ ผู้ปฏิบัติบำเพ็ญทั้งหลาย ให้ได้รับความสงบสุข เพื่อจะได้ตั้งหน้าตั้งตาเจริญธรรมกันให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
    เป่ยฟังเจินอู่เหวยเจี้ยงไซว่
    : งานคุ้มครองป้องภัยนี้มี “เป่ยฟังเจินอู่”เทพเจ้าผู้ทรงฤทธิ์แห่งทิศอุดรเป็นนายทัพนำกอง
    ชิงเหลี่ยนหงฝ่าเสี่ยนเสินทง
    : “เป่ยฟังเจินอู่” ผู้ทรงฤทธิ์ พระองค์มีพระพักตร์สีเขียว พระเกศาสีแดง มีฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ ผู้บำเพ็ญธรรมกาลในยุคสุดท้ายนี้ ก็เช่นกัน ท่านอุปมาให้เป็นเช่นทหารกล้า สำแดงฤทธานุภาพฝ่าฟันอุปสรรคในการฉุดช่วยผู้คน ใช้ปัญญาฟาดฟันกิเลสมารในจิตตน ให้พ่ายแพ้มลายสูญดุจเดียวกับพระองค์ “เป่ยฟังเจินอู่” ผู้ทรงฤทธิ์
    เฉอฉี่เจ้าฉีเจอยื่อเอวี้ย
    : ความห้าวหาญของพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ยิ่งใหญ่ ถึงขนาดคว้าเอาธงดำ มาบดบังตะวันเดือนได้
    โถวติ่งเซินหลัวชีเป่าซิง
    : บุญญาธิการในพระองค์ ส่องแสงสว่างกระจ่างฟ้า ดั่งมีดวงดาวรัตนะทั้งเจ็ดประดับไว้รายรอบพระเศียร เป็นอุปมาให้ผู้บำเพ็ญ เสริมสร้างบารี เปล่งรัศมีธรรม กำจัดภัยมืดเพื่อตน และเพื่อทุกชีวิต
    เวยเจิ้นเป่ยฟังเหวยไซว่โส่ว
    : อิทธิฤทธิ์ความน่าเกรงขามของพระองค์ สะเทือนเลือนลั่นไปทั่วทิศอุดร พระองค์เป็นใหญ่ เป็นผู้นำทางทิศอุดร
    ซู่ฉิ่งจูเอ้อกว้าเจี่ยปิง
    : พระองค์เร่งรัด ขอให้หมู่มารร้าย แขวนเกราะพลรบ หยุดการก่อกวนราวี ผู้บำเพ็ญดีในวิถีอนุตตรธรรม ซึ่งอาจบรรลุมรรคผลได้ในภายหน้า หยุดก่อกวนราวี ผู้ที่ตั้งใจสวดท่องคัมภีร์สัจคาถาเมตเตยยะนี้
    ตาจิ้วเอวี๋ยนเหรินเซียงเอ๋อหนวี่: พระองค์ยังทรงเป็นสื่อทอดสะพานบุญ ฉุดช่วยคนเดิมที่มาจากเบื้องบน คือ สาธุชน หญิงชายผู้ที่ได้รับวิถีธรรมที่ปฏิบัติบำเพ็ญจริง
    หั่วกวงลั่วตี้ฮว่าเหวยเฉิน
    : แม้แสงไฟเพลิงจะตกลงมาสู่พื้นแผ่นดิน ก็มิให้เป็นอันตรายแก่สาธุชนคนดี ผู้ที่ได้รับวิถีธรรม แต่ให้กลับกลายแปรเป็นเถ้าธุลีดิน
    ซื่อไห่หลงอวั๋งไหลจู้เต้า
    : พญานาคาทั้งสี่คาบสมุทรใหญ่ ก็ให้มาร่วมช่วยเสริมสร้าง งานถ่ายทอดวิถีธรรมให้มาร่วมช่วยคุ้มครองป้องก้นภัยแก่ผู้ได้รับวิถีธรรม และสาธุชนคนดี
    เก้อเจี้ยเสียงอวิ๋นชวี่เถิงคง
    : เพื่อให้ผู้ปฏิบัติบำเพ็ญเจริญธรรมเรื่อยไปได้อย่างราบรื่น ดุจได้ประทับนั่งอยู่เหนือเมฆมงคล เพื่อทะยานตนให้พ้นโกลีย์ สูงส่งขึ้นไป บนสุญญตานภากาศ
    สือฟังเทียนปิงฮู่ฝอเจี้ย
    : เทวดาอารักษ์ทั้งสิบทิศก็ให้มาร่วมคุ้มครองพุทธบาทพระเมตเตยยะ ให้บรรลุมหาปณิธานในอันที่จะตระเตรียมกุศลพันธุ์ไว้ในพุทธกาลหน้าต่อไป
    เป่าอิ้วหมีเล่อชวี่เฉิงกง
    : ปกป้องรักษาพระเมตเตยยะ เพื่อให้ได้บรรลุผลในมหาปณิธาน ที่จะแปรเปลี่ยนโลกวุ่นวาย ให้กลายเป็นวิสุทธิดินแดนอันใสสด งดงามดังดอกบัวบาน อีกทั้ง ปกป้องรักษาเมตเตยยะน้อยๆ คือ ผู้บำเพ็ญในธรรมกาลยุคขาวนี้ให้สำเร็จมรรคผล
    หงหยังเหลี่ยวเต้ากุยเจียชวี่
    : เมื่อยุคกาลของธรรมกาลยุคแดงล่วงเลยไป ผู้บำเพ็ญในธรรมกาลยุคแดง ต่างก็บรรลุธรรม กลับคืนบ้านเดิมเบื้องบนไปแล้ว
    จ่วนเต้าซันหยังหมีเล่อจุน
    : บัดนี้ย่างเข้าสู่ธรรมกาลยุคที่สาม พระศรีอารยะเมตไตรย จะปกครองธรรมกาลต่อไป หนึ่งหมื่นแปดร้อยปี
    อู๋ฮวั๋งเชื่อลิ่งจี้เซี่ยเซิง
    : ธรรมกาลยุคสุดท้ายนี้ พระอนุตตรธรรมเจ้า พระแม่องค์ธรรม จึงโปรดบัญชาประกาศิตให้ พระพุทธะพระโพธิสัตว์ เทพพรหมห องค์อินทร์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกันสนองธรรมโองการ รับหน้าที่ฉุดช่วยเหล่าพุทธบุตร ที่จุติฝากเกิดกายไว้ในโลกต่ำ
    โซวฝูหนันเอี๋ยนกุยเจิ้งจง
    : ให้ทุกพระองค์ร่วมกันทำหน้าที่ ตามหาพุทธบุตร ที่หลงเวียนว่ายอยู่ในโลกมนุษย์ เก็บรวบรวมมาไว้ กำราบด้วยพุทธานุภาพ ให้คืนกลับสู่ต้นตระกูล คือ กลับสู่อนุตตรพระแม่องค์ธรรมเป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกชาติภาษา ทุกศาสนา ทุกคน
    ไหลอวั่งเจ้าเซี่ยเจินเอี๋ยนโจ้ว
    : การจุติเกิดการในโลก คือ “มา” ถึงกาลเก็บงานสมบูรณ์ผลบัดนี้ คือ “กลับ” พุทธบุตร จะต้องกลับคืนบ้านเดิมเบื้องบนในครั้งนี้ ด้วยดวงธรรมญานอันบริสุทธิ์โปร่งใส พระอนุตตรพระแม่องค์ธรรมได้โปรดประทานสัจจคาถา ทั้งเที่ยวมา (เกิดกาย) และเที่ยวกลับ (หลุดพ้น)
    ฉวนเซี่ยตังไหลต้าจั้งจิง
    : พระอนุตตรพระแม่องค์ธรรมได้โปรดประทานพุทธจิตธรรมญาน อันได้มีมาจากเบื้องบนแต่เดิมที พุทธจิตธรรมญาน อันได้มีมาจากเบื้องบนแต่เดิมทีนั้น เปรียบได้ดั่งมหาธรรมปิฎกที่สมบูรณ์พร้อมด้วยแก่นแท้แห่งธรรมสาระ
    อิงเอ๋อช่าหนวี่ฉังฉือเนี่ยน
    : หากแม้นประคองท่องจำ “คัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ” อยู่เสมอ หากแม้นประคองท่องจำ รำลึกในความเป็นพุทธจิตธรรมญานอันบริสุทธิ์ โปร่งใส ดั่งทารกน้อยกำหนดจิต ไม่สอดส่ายไปจากฐานเดิม ดั่งกุลสตรีที่อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนสำรวมระวังตนอยู่เสมอ
    เสียเสินปู้กั่นไหลจิ้นเซิน
    : เทพอัปมงคลสิ่งเลวร้ายภายนอกและมิจฉาทิฐิในตน จะไม่กล้าแสดงความชั่วร้าย ไม่กล้ากล้ำกรายเข้าใกล้ตัว
    ฉือเนี่ยนอี๋เปี้ยนเสินทงต้า
    : ประคองท่องจำนำลึกคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ หนึ่งรอบ ประคองท่องจำรำลึกในความ เป็นพุทธจิตธรรมญานอันบริสุทธิ์ โปร่งใส ไว้ได้รอบหนึ่ง ปัญญาญานในตน จะศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่
    ฉือเนี่ยนเหลี่ยงเปี้ยนเต๋อเชาเซิง
    : ประคองท่องจำรำลึก คัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ ด้วยจิตบริสุทธิ์ โปร่งใส สองรอบ จิตจะสงบนิ่ง ไม่สอดส่ายวุ่นวาย จิตจะไม่เกิดตายไปตามความคิดดำริ หรืออารมณ์ เท่ากับจิตล่วงพ้นการเวียนเกิดเวียนตาย
    ฉือเนี่ยนซันเปี้ยนเสินกุ่ยพ่า
    : ประคองท่องจำรำลึกสามรอบ พุทธานุภาพคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ จะปรกแผ่คุ้มครองรักษา จากเทพเทวา ผีสางต่างเกรงกลัว ประคองท่องจำรำลึกสามรอบ ด้วยจิตมั่นคงเที่ยงตรง มีพลังเทพเทวา ผีสางต่างเกรงกลัวในผู้นั้น
    อวั่งเหลี่ยงเสียหมอฮว่าเหวยเฉิน
    : เมื่อพุทธจิตธรรมญานในตน สำแดงคุณศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่ ขณะสวดท่องคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ พุทธานุภาพจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ อีกทั้ง พุทธานุภาพในตนจะปกป้องภัยจากผีป่า ผีน้ำทุกแห่งหน มารอัปมงคลทั้งหลายเข้าใกล้มาเมื่อไหร่ พุทธานุภาพ ก็จะดลบันดาลให้กลับกลายแปรเปลี่ยนเป็นผงธุลีดิน
    ซิวฉือเจี๋ยเน่ยสวินลู่จิ้ง
    : ท่ามกลางภัยพิบัติทุกข์เข็ญ จงบำเพ็ญจิตมั่นคงไว้มิให้หวั่นไหว ขณะเดียวกัน คือ กำหนดหาแนวทางที่จิตญาน จะผ่านพ้นอุปสรรคทั้งปวง
    เนี่ยนฉี่เจินเอี๋ยนกุยฝอลิ่ง
    : เมื่อกำหนดแนวทางของจิตได้แล้ว ท่องสัจจคาถากำหนดจิตเดิมแท้ไว้ที่จุดญานทวาร โน้มนำจิตเดิมแท้ให้เข้าถึงพุทธคุณแห่งพระนามพระพุทธะที่สวดท่องนั้น

    หนันอู๋เทียนเอวี๋ยนไท่เป่าอาหมีถัวฝอ
    : สวดท่อง พระคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ จบลงแล้ว ให้ตั้งจิตระลึกถึงพระนามของพระพุทธองค์ ซึ่งจะอุบัติมากอบกู้กุศลพันธุ์ในกาลต่อไป คือ “พระเมตเตยยะพระศรีอารยเมตไตรย “เทียนเอวี๋ยนไท่เป่าอาหมีถัวฝอ”พระองค์ทรงเป็น อมิตาพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ซึ่งพิทักษ์ธรรมจักวาลเบื้องต้น ตั้งแต่ปฐมกาลแห่งฟ้าเบื้องบน.
     
  7. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ขอบคุณครับ



    .
     
  8. LiFeHouSe

    LiFeHouSe Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +80
    ขอบพระคุณเบื้องบนเมตตา และ นักธรรมอาวุโสทั้งหลาย

    ขออนุโมทนา สาธุ กับ คุณ marty ด้วยครับ

    ผู้ใด อ่านคำแปลของ หมีเล่อเจินจิง จนจบ จะสามารถเข้าใจ วิถีอนุตตรธรรม หรือ การปรกโปรดสามโลกครั้งนี้ได้ดีขึ้น
    ----------------------------------------------
    ก่อนสวดบทนี้ ควรทานอาหารเจก่อน หรือ หากมิได้ทานเจ ควรจะล้างปากให้สะอาดเสียก่อน แล้วทำจิตใจให้สงบ น้อมระลึกถึงพระศรีอาริย์
     
  9. สังสารวัฏ

    สังสารวัฏ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +5,382
    ขอบพระคุณเบื้องบนเมตตา และ นักธรรมอาวุโสทั้งหลาย

    ผู้ถ่ายทอดเบิกธรรมของทุกทุกคนคือใคร
    ของเราคือ อ.หล่อเที่ยนฉือซือ
     
  10. สังสารวัฏ

    สังสารวัฏ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +5,382
    ก่อนจะกราบ10กราบต้องผูดว่าอะไร(หมิงหมิงซั้งตี้ หรือ หมีเลอจู่ซือ)
    เเล้วค่อยสือโคว้ยสัว
     
  11. อาก๋ง

    อาก๋ง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +0
    โฮะๆๆ บทนี้เพราะดีจริงๆๆ ฟังแล้วสบายใจนะ
    ใครกำลังมีทุกข์ บทนี้จะช่วยคลายทุกข์ได้นะ
    โฮะๆๆ
     
  12. oattza

    oattza สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณครับ
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เมตตา
     
  13. talkjoss

    talkjoss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2010
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ขอน้อมนอบรับด้วยจิตใจครับ (^_^)
     
  14. bytoomtoom

    bytoomtoom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +201
    กราบ ขอบพระคูณ มาก นะ คร๊าฟฟ

    สาธุ.......อนุโมทนา บุญ ด้วยทุกประการ
     
  15. eMuay

    eMuay Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +99
    กราบขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนทุกพระองค์.....
    ผู้น้อยได้ตั้งปณิธาน(ใจ) ไว้แล้วว่าจะทานเจตลอดชีวิตค่ะ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...