สุขภาพจิต คำทำนาย

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 26 มกราคม 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    [​IMG]"เมื่อมองถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นที่เฮติ อยากให้มองว่าเป็นสัญญาณเตือนให้คนหันมาใส่ใจในความปลอดภัยของตนเองและสังคมมากขึ้น รวมทั้งมองเห็นถึงความเอื้ออาทรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ของคนทั่วโลก ที่สะท้อนให้เห็นว่าคนเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก ในความมืดยังมีสิ่งที่สวยงาม ความรัก ความเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์ ทำให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้” ...เป็นการระบุของ นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมสุขภาพจิต ต่อกรณีเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในปี 2553 นี้ ที่ดูจะสอดคล้องกับ “คำทำนายทายทัก” ของหมอดูหลาย ๆ คน

    จนอาจทำให้บางคนเกิด “วิตกจริต-จิตตก”

    และจะไม่เป็นผลดีทั้งต่อตนเอง-คนรอบข้าง

    ทั้งนี้ อธิบดีกรมสุขภาพจิตบอกว่า... ความเชื่อเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องเชื่อโดยมีพื้นฐานอยู่บนเหตุผล มองอย่างรอบด้าน 360 องศา และต้องไม่ทำให้ตนเองและคนรอบข้างเดือดร้อน

    “คนเราให้ความสนใจในเรื่องการทำนายทายทัก เพราะมีความสุขน้อยลง ขาดที่พึ่งทางใจ จึงจำเป็นต้องหาที่ยึดเหนี่ยว ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ทั้งนี้ อยากให้มองว่า ความเชื่อมีทั้งข้อดีและข้อเสีย”

    อธิบดีกรมสุขภาพจิต บอกต่อไปว่า... ถ้ามองในภาพรวมของสังคม ก็อาจมองได้ว่า การทำนายทายทักในทางลบ แล้วบอกให้คนเข้าวัด ทำบุญ ฟังธรรม หรือสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตรงนี้ก็นับว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่จะทำให้ศาสนาเข้ามาอยู่ในจิตใจของคนในสังคมได้มากยิ่งขึ้น ตรงนี้ก็ต้องถือว่าเป็นข้อดี

    ส่วนในระดับบุคคล สามารถมองได้ว่า การทายทักในทางลบเป็นการช่วยเตือนให้ต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิต ให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด ต้องไม่เชื่อมากจนทำให้ความคิด อารมณ์ พฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม

    “กลายเป็นความหวาดกลัว ตื่นตระหนก ไม่กล้าที่จะทำอะไร ทำให้เสียหน้าที่การงาน จนเปิดโอกาส จนเป็นช่องทางให้ผู้ประสงค์ ร้ายเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากเรา ทำให้ตนเองและครอบครัวต้องเดือดร้อน ซึ่งจะยิ่งทำให้ความทุกข์เข้ามาแทนที่อย่างไม่สิ้นสุด” ...อธิบดีกรมสุขภาพจิตระบุ

    และทิ้งท้ายว่า... ถ้าเรายึดมั่นในการทำความดี มีจิตใจเอื้อเฟื้อช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน และรู้จักวิธีสร้างขวัญกำลังใจให้ตนเอง ซึ่งทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ ถ้าเรารู้จักมองวิกฤติให้เป็นโอกาส เราก็จะหาทางออกให้กับตนเองได้ทุกสถานการณ์ โดยคำทำนายก็จะเป็นส่วนเสริมให้เราดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท

    “เสริมให้เราดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท ทั้งด้านลบและด้านบวก” ...นพ.ชาตรีว่าอย่างนี้

    ทางด้าน นพ.เทอดศักดิ์ เดชคง จิตแพทย์ประจำกรมสุขภาพจิต ให้ข้อคิดเห็นในทิศทางเดียวกันว่า... คนเราให้ความสนใจการทำนายทายทัก เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งภายใต้ความไม่รู้ และความอยากรู้ ทำให้คนเราพยายามหาข้อมูล เพื่อจะทำให้สบายใจขึ้น โดยความเชื่อและคำทำนายต่าง ๆ มีทั้งด้านบวกและด้านลบ

    ด้านบวกคือ ทำให้เราเกิดกำลังใจ มีที่พึ่งในแง่จิตวิทยา การที่เรารู้ว่ามีทางออกในชีวิตจะช่วยสร้างความหวังกำลังใจให้เกิดขึ้นได้ ถ้ามองในแง่นี้คำทำนายที่เกิดขึ้นก็จะเป็นเรื่องที่ดี และส่งเสริมสุขภาพจิตได้ด้วย

    “แต่ถ้าบางครั้งคำทำนายเป็นไปในลักษณะสร้างความตื่นตระหนกจนเกินไป หรือแบบที่มองไม่เห็นทางออก เช่น การทำนายถึงวันสิ้นโลก การไปเชื่อคำทำนายแบบนี้จะทำให้เรารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำตอนนี้สูญเปล่า ไม่มีความหวัง ถือเป็นความเชื่อที่ไม่สร้างสรรค์”

    จิตแพทย์ประจำกรมสุขภาพจิต ระบุต่อไปอีกว่า... เราควรแยกแยะให้ออกว่า ความเชื่อลักษณะใดเป็นความเชื่อที่ทำให้เกิดขวัญกำลังใจ ซึ่งถ้าขวัญกำลังใจดีเราก็จะสามารถเอาชนะปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ได้ สามารถวางแผนชีวิตของตนเองได้ สามารถทำความดีและทำสิ่งดี ๆ ให้กับคนที่เรารัก รวมถึงมีกำลังใจที่จะทำงานให้เต็มกำลัง เราก็จะได้รับผลดี ดังนั้น เราจึงควรจะแยกแยะให้ออกว่าควรจะเชื่อแบบใด เพื่อให้เกิดประโยชน์

    สำหรับคำทำนายที่ทำให้รู้สึกหดหู่จนเกินไป แถมยังทำอะไรไม่ได้ จิตแพทย์ประจำกรมสุขภาพจิตบอกว่า... ก็อาจต้องมีการจัดการตนเอง โดยรับรู้ให้น้อยลง หรือหาวิธีอื่นที่ทำให้สบายใจขึ้น โดยตั้งอยู่บนความสมเหตุสมผล

    “เช่น ถ้าเรามีเคราะห์ แล้วทำบุญ ทำทาน สร้างพระ ปล่อยนก ปล่อยปลา ถือว่าสมเหตุสมผล แต่ถ้าต้องสะเดาะเคราะห์ มีพิธี กรรมหรือมีการบูชายัญที่ต้องสูญเสียเงินทองจนทุกข์ใจมากยิ่งขึ้น ถือเป็นความเชื่อที่เป็นหนทางเพิ่มทุกข์และทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น” ...นพ.เทอดศักดิ์ ระบุทิ้งท้าย


    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...