สงสัยการนับเวลาในการบำเพ็ญบารมี

ที่นับกันเป็นหลายๆอสงไขยแสนกัป จะนับเฉพาะช่วงที่มาเกิดเป็นมนุษย์
หรือนับตั้งแต่ปรารถนาทั้งเวลาที่ตกอบายภูมิ เวลาที่มาเกิดเป็นมนุษย์กับเวลาที่เสวยสุขในสภาวะทิพย์ด้วย ขอความกระจ่างในข้อนี้ด้วยครับท่านทั้งหลาย
เพราะผมเคยเจอบางท่านโพสโดยอ้างว่าพระองค์หนึ่งที่ท่านเป็นพระโพธิสัตว์เต็มขั้นและก็เป็นครูของพระที่ผมนับถือมากด้วยว่าการบำเพ็ญบารมีเพื่อพระโพธิญาณนั้นนับเฉพาะช่วงที่ลงมาเกิดเป็นมนุษย์บำเพ็ญบารมีไม่นับในเวลาที่เสวยสุขในเทวโลกและพรหมโลกและไม่นับในช่วงที่ตกอบายภูมิทั้ง4อันได้แก่สัตว์นรก เปรต
อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉาน (เจ้าชายภูริทัต พญานาคที่เป็นนาคงูก็เป็นเดรัจฉานนะครับถึงจะกลายร่างได้อย่างมนุษย์ก็ตาม) ส่วนตัวผมเองคิดว่านับเวลาในการบำเพ็ญตั้งแต่ที่ใจปรารถนาพระโพธิญาณจนบารมีเต็มนั้นแหละครับไม่ว่าพระโพธิสัตว์ผู้นั้นจะไปบังเกิดในภพภูมิใดก็ตาม:z16

 

คหสต

ผมคิดว่าต้องนับเวลากลางครับ ถือเวลาในโลกมนุษย์ ถึงแม้พระโพธิสัตว์ จะไปอยู่เทวโลก พรหม หรือนรก ที่เวลาไม่ตรงกับโลกก็ตาม

 

อจินไตย

 

ระยะเวลาในการบำเพ็ญบารมี จริง ๆ ไม่ได้คิดว่า รวม หรือไม่รวม ภพชาติที่เป็นพรหม ( หรือ ลงนรก)

แต่มาคิดอีกที อายุของพรหมนานมากกก

ก็ไม่น่าจะรวมนะ

 

นับ ชาติ ครับ

เกิดเป็น ยุง 7 วันตาย ก็ ชาติยุง นึงละครับ

 

บารมีเต็ม

ถาม : คำว่าบารมีเต็ม เป็นอย่างไร ?
ตอบ : บารมีเต็ม แปลว่า ทำจนถึงที่สุดของกำลังใจแล้ว บารมีก็คือกำลังใจ มีอยู่ ๓ ระดับ ๙ ขั้น

๑. สามัญบารมี กำลังใจขั้นต้น ประกอบไปด้วย หยาบ กลาง ละเอียด
๒. อุปบารมี กำลังใจขั้นกลาง ประกอบไปด้วย หยาบ กลาง ละเอียด
๓. ปรมัตถบารมี กำลังใจขั้นสูงสุด ประกอบไปด้วย หยาบ กลาง ละเอียด เหมือนกัน

ถ้าหากว่าถึงปรมัตถบารมีขั้นละเอียดก็แปลว่ากำลังใจเต็ม พร้อมที่จะเข้าพระนิพพานได้ คราวนี้จะวัดจากตรงไหนได้ สามัญบารมี ให้ทานได้ บอกให้รักษาศีลก็จะไม่ไหว อุปบารมีให้ทานได้ รักษาศีลได้ บอกให้ภาวนาไม่ไหว ถ้าหากว่ากำลังใจพร้อมทั้ง ทาน ศีล ภาวนา ตั้งมั่นว่าจะทำเพื่อพระนิพพาน อันนี้ถือเป็นปรมัตถบารมีเต็มแล้ว พร้อมที่จะไปแล้ว


ถาม : ถ้าในชาตินี้เราให้ทานประจำ รักษาศีลก็ได้ ภาวนาได้ ?
ตอบ : แสดงว่ากำลังใจของเราอยู่ระดับปรมัตถ์แล้ว เพียงแต่จะหยาบ จะกลาง จะละเอียดเท่านั้น ถ้าถึงปรมัตถบารมีนี้มีสิทธิ์ไปพระนิพพานได้แน่ อย่างแย่ ๆ ก็เป็นดอกบัวกลางน้ำ พร้อมที่จะโผล่พ้นน้ำมาบานในวันต่อไป

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๕

ttp://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2703

 

กติกาบังคับของพระโพธิสัตว์เขา

 

เนื่องจาก ยุคนี้ อายุขัยเฉลี่ยของ มนุษย์ยุคนี้ น้อยมาก ๆ คือแค่ 75 ปี คนอายุร้อยปี ก็นับว่าอายุยืนมาก
ดังนั้นคนในปัจจุบัน หากมีคนอ้างถึง เวลา 1 ล้านปี ก็จะรู้สึกว่ามันนาน มากๆ
แต่หากท่านได้ไปเกิดในช่วงที่อายุ ขัยเฉลี่ยของ มนุษย์ อยู่ที่ 100 ล้านปี ก็จะรู้ว่า 1 ล้านปี มันไม่นานเท่าไหร่
หน่วยนับในการสร้างบารมี ของพระโพธิสัตว์ จะใช้การอ้างถึง จักรวาลที่เราอยู่นี้ เกิดขึัน ตั้งอยู่ พังทลายไป 1 ครั้ง เท่ากับนับ 1 ( หรือที่เรึยกว่า 1 มหากัป )
คำว่า 20 อสงไข แสน มหากัป ก็คือ จักรวาลที่เราอยู่นี้ เกิดขึัน ตั้งอยู่ พังทลายไป เป็นจำนวน 20 อสงไข ครั้งกับเศษอีก แสน ครั้ง
แค่ จักรวาลที่เราอยู่นี้ เกิดขึัน ตั้งอยู่ พังทลายไป 1 ครั้ง ก็นานจนคาดไม่ถึงแล้ว
คนที่จะเข้าใจ จริงๆ ในความยาวนานนี้จึงมีไม่มากนัก
เวลาในการสร้างบารมีก็จะนับตั้งแต่ เริ่มตั้งสัจในใจว่าจะเริ่มสร้างบารมี และนับต่อเนื่องไป

 

ท่านว่าเริ่มนับหลังจากได้รับพระพุทธพยากรณ์ และนับเฉพาะกาลที่เกิดเป็นมนุษย์เท่านั้น
หลวงตามหาบัวท่านเทศน์เอาไว้ว่า อสงไขยนึงก็ประมาณล้านกัปป์ กัปป์นึงก็ประมาณว่ามีกล่องใบนึง กว้างxยาวxสูง ด้านละ 1 โยชน์(1โยชน์ เท่ากับ16 กม.)ร้อยปีเอาเม็ดผักกาดมาหย่อนลงกล่องเม็ดนึง จนเม็ดผักกาดเต็มพอดีปากกล่อง นับเป็นหนึ่งกัปป์ นานนนนนนมากครับ ต้องเกิดกันเป็นแสนๆชาติครับ

 

นับตาม กัป ปัจจุบัน ครับ

ขืนไปนับ กัป 80000 ปี นี่ พระพุทธเจ้าองค์อื่น คงไม่ได้ได้ บำเพ็ญ แน่ๆ ครับ

คงไม่ได้ลงมา ประกาศศาสนาพุทธ แน่ๆ ครับ