วิธีหล่อพระแก้วให้คมชัด(จบในกระทู้เดียว)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

กระทู้ วิธีหล่อพระแก้วให้คมชัด(จบในกระทู้เดียว)

อุทิศส่วนบุญกุศลแก่สรรพสัตว์ทั่วทั้งสากลจักรวาล

วิทยาทานกระทู้นี้อาจเป็นกระทู้สุดท้ายแล้ว เพราะนี่คือวิทยาทานให้คนสามารถสร้างพระพุทธปฏิมาจากแก้วที่เป็นสุดยอดของวิชาในยุคนี้

 

สำรองพื้นที่

 

สารบัญ 1.

 

สารบัญ 2.

 

สารบัญ 3.

 

ประวัติอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้กับผม ท่านทั้ง 2 (สามีภรรยา) ทั้งคู่เป็นช่างแก้วชาวจีนที่เก่งมากแล้วจากจีน เข้ามาในประเทศไทยประมาณปี พ.ศ. 2497 หรือ 98 เพื่อเป็นช่างใหญ่ให้กับนายทุนจีนรายหนึ่งที่ต้องการเปิดโรงงานหลอมแก้วในไทย แต่ไม่มีความรู้ตั้งแต่การสร้างเตาหลอมแก้วและอื่นๆ ฯลฯ

วัตถุประสงค์ในการสร้างโรงงานหลอมแก้วในสมัยนั้นเพื่อผลิตชิ้นงานแก้วทุกชนิด ทุกขนาด ทุกสี เช่น โคมไฟฟ้า, ตาไฟรถยนต์, แก้ว, จาน, ชาม, แจกัน รวมถึงพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษทุกขนาดซึ่งสมัยนั้นมีสำนักสร้างพระบูชาหลายสำนักมาก ต้องการสร้างพระแก้วทุกขนาด(รวมถึงพระแก้วห้อยคอ)ทุกสีพร้อมทั้งบริวาร เช่น บาตรแก้ว, โกฏแก้ว, แจกันและเครื่องบูชาอันได้แก่กระถางธูปแก้ว, เชิงเทียนแก้วและอื่นๆอีกมาก

 

อาจารย์ 師父 師母 ทั้ง 2 เป็นช่างแก้วมือปืนรับจ้างให้โรงงานแรกกระทั่งสำเร็จ สร้างชิ้นงานแก้วได้ทุกอย่าง รวมทั้งพระแก้ว 25 ศตวรรษทุกขนาดแล้ว(เมื่อเสร็จศึก ก็ ...) แต่คนเก่งย่อมมีคนอยากสร้างโรงหลอมแก้วอีกหลายแห่งเชิญท่าน และคราวนี้ไม่ใช่สร้างทีละโรง ท่านทั้งสองจึงมีรายได้ดีมาก เพียง 10 ปี ท่านก็สามารถสร้างโรงงานหลอมแก้วเป็นของท่านเองได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2508

หมายเหตุ
ทุกโรงงานที่ท่านสร้างและเซ็ทระบบ ท่านได้สอนลูกศิษย์ช่างแก้วไว้เพื่อดูแลโรงงานนั้น รวมแล้วหลายร้อยหรืออาจถึงหลายพัน เพราะสมัยก่อนโรงหลอมแก้วแต่ละแห่งคนงานนับร้อยหรือหลายร้อยคน

 

ช่างแก้วคู่ขนานกับท่านที่ฝีมือดีในการสร้างพระแก้ว 25 ศตวรรษที่มาจากจีนในเวลาใกล้เคียงกัน (พ.ศ. 2497) คือไท้ยิป ซึ่งต่างยกย่องซึ่งกันกับอาจารย์ผม ต่อมาไท้ยิปมีทายาทสืบทอดกิจการ และได้เลิกกิจการเมื่อ พ.ศ. 2560 (เนื่องจากขายที่ดินอันเป็นโรงงานแก้วเจษฏา) และทายาทซึ่งอายุในปี 2560 ท่านเลข 7X แล้ว

ตอนปี พ.ศ. 2548, 49, 50 ผมเคยไปเยี่ยมท่าน ท่านยังสร้างพระแก้วขนาดห้อยคอด้วยเครื่องฉีดอินเจ็คชั่นไดคาสติ้งอยู่เลย และดูเหมือนปี พ.ศ. 2550 ที่ท่านฝากฝีมือสร้างพระแก้วหน้าตัก 5 นิ้วเนื้อตันไว้ในพระพุทธศาสนา ปิดตำนานไท้ยิป

 

ที่ผมกล่าวมา 2 สายอาจารย์ที่สร้างพระแก้ว 25 ศตวรรษในไทย

ส่วนอีก 3 - 4 สายผมไม่ขอกล่าว หากแต่จะขอบอกไว้ว่า จากประมาณ 5 - 6 สายอาจารย์ตั้งแต่ประมาณ 2497 - 2516 มีการแตกออกไปอีกหลายสาย คาดว่าไปหยุดการแตกสายอาจารย์ คือสร้างคนจนเป็นอาจารย์แก้วที่สามารถสร้างพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษประมาณ พ.ศ. 2522 - 2525

ทุกวันนี้ยังมีโรงงานแก้วที่สร้างได้เหลืออยู่ และยังสร้างอยู่จริงแค่ 2 - 3 โรงงานจากยุคที่มากๆหลายสิบโรงงาน

 

กระผมนายสมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล นายช่างแก้วที่เริ่มต้นเรียนการสร้างชิ้นงานแก้วทุกชนิดทุกขนาดรวมถึงพระแก้ว 25 ศตวรรษเมื่อปี พ.ศ. 2516 ขณะนั้นผมอายุ 17 ปี นับว่าเป็นนายช่างที่มีอายุน้อยที่สุดคนหนึ่ง จึงยังพอมาเล่าให้ทุกท่านไหว

เพื่อนๆช่างส่วนมากแก่ตายไปหมดแล้ว (นอกจากมีลูกหลานสืบทอด)

 

*********

เริ่มต้นวิทยาทานนะครับ

*********

 

เทคนิควิธีการขึ้นรูปพระแก้วที่ผมกล่าวในกระทู้นี้ แบ่งออกเป็นขนาด

1. ขนาดห้อยคอ
1.1 ลอยองค์ห้อยคอจัมโบ้
1.2 ลอยองค์ห้อยคอขนาดปกติ
1.3 ศิลปะนูนสูงจัมโบ้
1.4 ศิลปะนูนสูงขนาดปกติ
1.5 ศิลปะนูนต่ำจัมโบ้
1.6 ศิลปะนูนต่ำขนาดปกติ
1.7 เหรียญจัมโบ้
1.8 เหรียญขนาดปกติ

2. พระบูชาหน้าตัก 2 นิ้ว

3. พระบูชาหน้าตัก 3 นิ้ว

4. พระบูชาหน้าตัก 4 นิ้ว

5. พระบูชาหน้าตัก 5 นิ้ว

6. พระบูชาหน้าตัก 6 นิ้ว

7. พระบูชาหน้าตัก 7 นิ้ว

8. พระบูชาหน้าตัก 8 นิ้ว

9. พระบูชาหน้าตัก 9 นิ้ว

10. พระบูชาหน้าตัก 10 นิ้วขึ้นไปเนื้อตัน

11. พระบูชาหน้าตัก 10 นิ้วขึ้นไปเนื้อกลวง

12. พระพุทธปฏิมากรรมขนาดใหญ่พิเศษ
12.1 เนื้อตัน
12.2 เนื้อกลวง

 

ผมจะกล่าวเฉพาะเทคนิควิธี Lost Wax Glass ล้วนๆ (อาจมีเทคนิคเสริมใน Lost Wax Glass)

ส่วนเทคนิคอื่นๆที่ต้องใช้เครื่องจักรกดปั๊มหรือปั๊มไฮโดรลิคจะไม่ได้กล่าวในกระทู้นี้

สาเหตุที่เผยแพร่เฉพาะเทคนิค Lost Wax Glass เพราะใช้เงินซื้ออุปกรณ์เครื่องมือน้อยสุด คนธรรมดาทำงานได้ด้วยคนเพียงคนเดียวหรือน้อยคนที่สุด หากใช้เครื่องจักรนั้นต้องใช้เงินแพงมาก จำนวนช่างก็ต้องมาก

 

ด้านล่างจากตรงนี้ไป จะได้กล่าวถึงการสร้างพระแก้วขนาดห้อยคอ

โปรดติดตามครับ

 

1. พระแก้วขนาดห้อยคอทุกชนิดทุกขนาดให้รวมอยู่ในข้อนี้นะครับ เพราะมีขนาดเล็กมาก ขนาดตั้งแต่ประมาณกว้างครึ่ง ซ.ม. ถึงประมาณ 1นิ้วเศษในจัมโบ้

 

วัสดุอุปกรณ์เครื่องมือที่ต้องใช้มีดังนี้

1. เตาหลอมและอบในตัวเดียวกัน ขนาดภายในแล้วแต่ว่า ท่านจะใส่ชิ้นงานมากหรือน้อย ถ้าสร้างครั้งละองค์ สององค์ให้ใช้เตากว้างแค่ฟุต คูณฟุต แต่ส่วนสูงอาจเกินฟุตได้ ยิ่งสูงยิ่งดี เพราะเทคนิคนี้ เราจะใช้แรงโน้มถ่วงของโลกให้เป็นประโยชน์ครับ

แต่ถ้าสร้างครั้งละมากๆ เตาให้ใหญ่กว่าจำนวนที่สร้าง ยิ่งใหญ่ไว้ยิ่งดี

 

คำถามที่มักพบ และมักเป็นปัญหาเรื่องยี่ห้อเตานั้น พบว่ายี่ห้อดีมากๆมักราคาสูงมาก เป็นแสนหรือหลายแสนบาทได้(ในขนาดเล็กถึงกลางด้วยนะที่หลายแสนบาท) ยังไม่ต้องพูดถึงยี่ห้อดังแล้วขนาดใหญ่

ปัญหานี้อาจปล่อยวางได้ ใช้ยี่ห้อธรรมดาก็ได้ เพราะขนาดเล็กนี้ ถ้าไม่หนาเกิน 12 ม.ม. ท่านยังใจเย็นได้ครับ เอาที่ทนและถูกก็ได้ เพียงแต่ขอให้สามารถลดอุณหภูมิตามตาราง annealing process 12 mm ได้เป็นพอครับ

 

2. ปูนปลาสเตอร์ชนิดทนร้อนได้เกินกว่าจุด working point ของแก้วแต่ละยี่ห้อ เช่น ถ้าก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อยี่ห้อ A (สมมุติ) ว่า จุด working point อยู่ที่ 700C ปูนฯยี่ห้อที่ท่านจะใช้ทำแม่พิมพ์ควรต้องทนได้เกินนั้น ยิ่งมากยิ่งดี

ปัจจุบันปูนฯทำแม่พิมพ์ระดับงานเจเวลรี่มักทนได้ไม่เกิน 900C แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ อาจมีบางยี่ห้อทนได้เกิน 1,000C ซึ่งไม่มีความจำเป็นครับ แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้วสำหรับชิ้นงานที่ใช้เวลาอบไม่เกิน 1 วัน

 

3. ลวดเหล็กใหม่ๆขนาดเบอร์ 18 หรือเบอร์ 16 ความยาว 2 ฟุตต่อ 1 แม่พิมพ์ขนาดห้อยคอ

 

4. คีมเหล็กที่ใช้สะดวกเมื่อสวมถุงมือกันความร้อนสูง 600 - 900C