วัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี

รายการที่ 320 ตะกรุดมหาอุด เนื้ออลูมิเนียม ตอกโค๊ดวชน. กระโดดนิยม หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2549

ตะกรุดดอกนี้เป็นแผ่นอลูมิเนียม ความยาว 4 นิ้ว น้ำหนักเบา พกง่าย
เป็นยันต์มหาอุดเต็มสูตร ลายมือพระอาจารย์ทินมาตรฐานดูง่าย จารแน่นทั้งนอกและใน ไม่ค่อยพบเจอแล้วครับสำหรับตะกรุดจารมือ ยิ่งวัสดุพิเศษๆเช่นพวกอลูมิเนียมนี้ออกมาน้อย เนื่องด้วยพกพาสะดวก ที่ออกมาหมุนเวียนพบเจอกันบ่อยๆจะเป็นเนื้อตะกั่ว หรือแผ่นแปะตั๊งซะมากกว่า

เรื่องมหาอุดของหลวงพ่อตัด วัดชายนา โด่งดังไปทั่วประเทศแบบปากต่อปาก มิใช่แค่เพียงด้านมหาอุดล้วนๆ ยังแฝงไปด้วยแคล้วคลาดอย่างสูงสุดคือสามารถ "เตือนภัย" ได้
น่าเก็บไว้บูชาไว้สักดอก เอาไว้ติดตัวตอนเดินทางก็ดีครับ
ผมนำมาแบ่งบูชาที่ราคาสบายกระเป๋าครับดอกนี้

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบคุณครับ

 

น้อมรำลึก 91 ปี ชาตกาล
พระพุทธวิริยากร หลวงพ่อตัด ปวโร

จากบันทึกต่างๆของพระตัด ปวโรภิกขุในวัยหนุ่ม จนเป็นหลวงพ่อตัด ปวโร ด้วยความที่ท่านเป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ชอบศึกษาวิชาต่างๆ ช่างจด ช่างจำ ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงลึกล้ำในความรู้หลากหลายวิชาสุดจะหยั่งถึง ท่านมีศรัทธามั่นคงในพระศาสนา ยึดมั่นในพระรัตนตรัย

หากเราระลึกถึงวัตถุมงคลและปฏิปทาของท่าน พร้อมทั้งเพียรเดินตามทางแห่งตถาคตท่านเดิน พุทธคุณ ทิพยอำนาจ อิทธิปาฏิหาริย์ที่คาดหวังจะมาพร้อมกับปัญญา

บางคนอาจจะบอกว่า เหตุใดหลวงพ่อตัดท่านถึงสร้างวัตถุมงคลเพื่อให้คนจำนวนหนึ่งมองว่าคนที่เชื่อนั้นงมงาย?

ตอบได้เพียงว่า ศรัทธามักจะมาก่อนปัญญา ท่านใช้วัตถุมงคลดึงคนเข้าหา ศีล สมาธิ ปัญญา ดังที่ท่านสอนเสมอๆว่า จะห้อยพระก็ให้รักษาศีล หมั่นสวดมนต์ด้วยแล้วจะดี เพราะทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามกรรม อิทธิปาฏิหาริย์เป็นเพียงข้อพิสูจน์บางอย่างในเรื่องของกรรม นอกจากนี้ความจริงแห่งโลกที่มองเห็นและมองไม่เห็นนั้นมันทับซ้อนกันอยุ่เป็นเนื้อเดียวกัน เป็นเรื่องที่อธิบายได้ยาก ต้องเข้ามาสัมผัส เรียนรู้และปฏิบัติ เหมือนดั่งที่องค์หลวงพ่อตัด ปวโร ท่านได้เมตตาชี้แนะและทำให้ดูไว้เป็นตัวอย่าง จากเริ่มบวชจนกระทั่งละสังขาร ท่านเคยเคร่งครัดในพระธรรมวินัย เคยใฝ่รู้ ใฝ่เรียน เคยช่างจดช่างจำอย่างไรในสมัยหนุ่มๆ ท่านก็เพียรปฏิบัติเสมอมา

เช่นนี้แล้วก็บอกได้เพียงว่า ลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลาย แม้ศรัทธาในวัตถุมงคลหรือปฏิปทาคำสอนต่างๆ จะมีมากหรือน้อย หรือจะหมดเมื่อไหร่นั้น ไม่สามารถรับประกันให้ได้ เพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง จึงขอฝากลายลิขิตที่หลวงพ่อตัดเมตตาทิ้งไว้ให้ได้พิจารณากันดังนี้

“ศรัทธาพึงรักษาให้ตั้งมั่น ทานศีลนั้นจึงจะมี
ภาวนาดีวิเศษ ตัดกิเลสข้ามโลกีย์
ท่านทั้งหลายจงยินดี แสวงหาอย่าช้าเลย”

ตอนหนึ่งจากหนังสือชีวประวัติและวัตถุมงคล หลวงพ่อตัด ปวโร.

 

รายการที่ 321 ขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา พิมพ์แขนตรง ปี 2546 เนื้อดินผสมผง บล็อคแรก ฐานเลข ๑

ไม่ต้องบรรยายมากกับวัตถุมงคลที่ทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อตัดเป็นที่รู้จัก เนื่องจากขุนแผนรุ่นแรก ของหลวงพ่อตัดนั้นประสบการณ์หนาหูแบบปากต่อปาก สมาชิกเว็บ 10 ปีขึ้นไปที่เคยติดตามกระทู้ "แนะนำขุนแผนฯ" นั้นจะรู้จักกันดี

องค์ที่นำมาแบ่งปันนี้เป็นขุนแผนรุ่นแรก พิมพ์แขนตรง ก่อนที่จะแก้บล็อคเป็นพิมพ์แขนอ่อนที่เห็นกันในปัจจุบัน ซึ่งชุดนี้จะมีการเขียนเลข ๑ บริเวณขอบด้านล่างขององค์พระ
โดยจะมีการผสมผงวิเศษต่างๆเข้าไปในเนื้อดินก่อนจะเผา
หน้าตาติดชัด หายากมากๆถ้าเทียบกับพิมพ์แขนอ่อนปกติแล้วพิมพ์แขนตรงฐานเลข ๑ บล็อคแรกนี้จะทำออกมาได้เพียงราวๆ 200 องค์เท่านั้นครับ เนื่องจากจะแตกหักไปเยอะ เพราะผสมผงมากเกินจะทำให้องค์พระแตกได้ง่าย

ในขณะที่พิมพ์แขนอ่อนนั้นจะสร้างอยู่ที่หลักพัน ปัจจุบันขุนแผนรุ่นแรกของหลวงพ่อตัดแทบไม่มีออกมาหมุนเวียนในท้องตลาดแล้วครับ ยิ่งสภาพที่หน้าตาติดชัดนี้ รังใหญ่กวาดเข้ากรุหมด ออกไปต่างประเทศก็จำนวนไม่น้อยแล้วครับ
ถือว่าเป็นวัตถุมงคลที่ศิษย์เก่าศิษย์ใหม่ กระทั่งศิษย์วัดอื่นๆ และผู้ศรัทธาในต่างประเทศได้ให้ความมั่นใจมากว่าขุนแผนรุ่นแรกของหลวงพ่อตัดนั้น ดีจริง


มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

ขอจองครับ

 

รายการที่ 322 ตะกรุดหนุมาน เนื้อเงินแปะตั๊ง ยาว 5 นิ้ว
หลวงพ่อตัดวัดชายนาจารกำกับเพิ่มเติมและปลุกเสก ปี 2550

ตะกรุดดอกนี้เป็นตะกรุดพิเศษ ของประจำตัวของศิษย์หลวงพ่อตัดครับ โดยศิษย์ได้มีการจารยันต์หนุมานและนำไปให้หลวงพ่อตัดปลุกเสก ซึ่งหลวงพ่อตัดท่านได้เมตตาจารเพิ่มเติมอีกด้านของแผ่นโลหะเต็มๆหน้า เป็นลายมือมาตรฐานสากลนิยมและปลุกเสกกำกับให้เป็นกรณีพิเศษ

ด้วยความที่ตะกรุดลายมือหลวงพ่อตัดเองนั้นก็เป็นสุดยอดใฝ่ฝันของศิษย์วัดชายนาอยู่แล้ว ผนวกกับดอกนี้มีรูปลักษณ์ของหนุมานอีก เรียนตามตรงว่าไม่เจอดอกที่ 2 ง่ายๆแน่นอนครับเนื่องจากเป็นของประจำตัวของศิษย์ครับ

หากตามตั้งแต่ต้นกระทู้อ่านมาเรื่อยๆ ท่านจะทราบว่าหนุมานของหลวงพ่อตัดนั้นท่านก็เสกได้มีตัวตนและขลังไม่แพ้ใครครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 323 ปลัดขิกไม้กระชิดผูกคอตาย หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2536

ปลัดขิกเป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านถนัดที่สุดวิชาหนึ่ง และท่านสำเร็จวิปลัดขิกมาตั้งแต่ยังหนุ่มๆ นอกเหนือจากปลัดขิกไม้มงคลทั่วไปแล้ว ทางวัดชายนาเองก็ได้รังสรรปลัดขิกไม้ผูกคอขึ้นมาหลากหลายไม้ ซึ่งการทำปลัดขิกจากไม้ผูกคอนี้หลวงพ่อตัดท่านได้ไปเรียนกับหลวงพ่อชุ่ม วัดกุฏิ บางเค็ม โดยในสมัยที่ท่านยังอยู่ที่วัดเขากระจิว หลวงพ่อชุ่มได้รับนิมนต์มาปลุกเสกวัตถุมงคล และได้ปลุกเสกปลัดขิกจนปลัดขิกนั้นกระโดดออกนอกโบสถ์ หลวงพ่อตัดท่านเห็นดังนั้น ภายหลังจากพิธีปลุกเสกที่วัดเขากระจิวจึงไปฝากตัวเรียนกับหลวงพ่อชุ่มที่วัดกุฏิ บางเค็มจนสำเร็จ

ถามว่าไม้ผูกคอ มีอะไรต่างจากไม้มงคลหรือไม้อื่นๆ?

เคยมีคนนำเรื่องนี้ไปถามหลวงพ่อตัดท่านเหมือนกัน
หลวงพ่อตัดท่านตอบเป็นนัยๆมาว่า เป็นเคล็ดมาแต่โบราณ คือ “นะจังงัง” หรือ “ไม้เหลียวหลัง” เรียกว่าขนาดเดินเลยไปแล้วยังต้องหันกลับมามอง อะไรแบบนั้นเลยทีเดียว
วิชานี้ถือว่าเป็นวิชาที่ส่งต่อมาทางสาย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีที่พยายามจะเลียนแบบเคล็ดวิชานี้ของหลวงพ่อตัด แต่ทว่ายังไม่มีสายไหนเสกได้ ทำได้ขลังเท่าของสายวัดชายนา

ปลัดขิกที่นำมาแบ่งปันตัวนี้เป็นปลัดขิกไม้กระชิดผูกคอตาย ปี 2536 จัดว่าเป็น 1 ในไม้ผูกคอยุคต้นของหลวงพ่อตัด วัดชายนาครับ ซึ่งจะมีหลักๆคือ มะม่วงผูกคอ(แป๊ะ) ปี 2534, ไม้มะขามผูกคอ(วัลลภ)ปี 2536, และไม้กระชิดผูกคอ ปี 2536

โดยไม้กระชิดนี้มีตำหนิสำคัญคือจะมีเหมือนเป็นแก่นของไม้บริเวณหัวหรือท้ายปลัดออกสีเหลืองอ่อนหรือสีขาวต่างจากบริเวณตัวไม้อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในจุดที่ทำให้ไม้กระชิดเป็นไม้ยุคต้นที่เล่นหาและพิจารณาได้ง่ายกว่าไม้อื่นๆ

ไม้กระชิดผูกคอนี้ได้มาจากป่าละอู ไม่ทราบชื่อ ทราบแต่เพียงว่าผู้ผูกเป็นคนมีเมียมาก พระอาจารย์ทินได้บอกไว้ว่า หากใช้ดี ก็หมั่นทำบุญให้เขาด้วยก็จะยิ่งดี เหมือนดังกลอนที่หลวงพ่อตัดท่านได้เขียนไว้ ปัจจุบันไม่ค่อยพบเจอแล้วครับ

ปลัดขิกไม้กระชิดผูกคอตายตัวนี้ยาว 4 นิ้ว โดยประมาณ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 324 ผ้ายันต์เพชรพญาธร หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550

ทั้งคู่เป็นเครื่องรางที่ติดอันกับประสบการณ์หนาหูของหลวงพ่อตัด วัดชายนาครับผม

เพชรพญาธร ของหลวงพ่อตัดนี้ หลวงปู่กาหลงได้สัมผัสแล้วถึงกับต้องพูดว่า "ไม่น่าเชื่อว่าในยุคนี้ยังมีพระที่เสกเพชรพญาธรได้แรงขนาดนี้อยู่อีก" ในส่วนของประสบการณ์เองต้องบอกว่าผ้ายันต์เพชรพญาธรนั้นเป็นหนึ่งในชุดสามัญประจำบ้านครับ ศิษย์วัดชายนาเองมักจะนำไปใส่ในกระเป๋าตังกันแทบทุกคน เรื่องเมตตาโชคลาภ โภคทรัพย์ มีกินมีใช้ไม่ขาดมือเป็นที่น่าเชื่อถือได้ครับผม

มีผู้บูชาแล้วครับ

 

รายการที่ 325 ตะกรุดยันต์มหาอุด(ตะกรุดในบาตร) หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2549-2550 ตอกโค๊ด วชน. กระโดด นิยม

ตะกรุดในบาตร ถือว่าเป็นตะกรุดที่ทำให้คนทั่วประเทศรู้จักชื่อหลวงพ่อตัด วัดชายนาครับ เป็นตะกรุดที่ถือว่ามีประสบการณ์มากที่สุดในสายของวัดชายนา ส่วนตัวผมเองก็มีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดโดยตรง จึงให้ความเคารพนับถือในตัวหลวงพ่อตัดมากๆ ทุกวันนี้มีติดกระเป๋าไว้ทุกใบเพื่อกันลืมพกครับ เด่นมากทางด้านแคล้วคลาด

ตะกรุดดอกนี้ตอกโค๊ด วชน. กระโดด นิยม

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

จองจระกรุดในบาตร

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

หลายๆครั้ง ผู้ศรัทธาใหม่ๆที่เพิ่งเข้ามาอ่านประวัติ ศึกษาวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัด วัดชายนาก็มักจะลังเลว่า ควรบูชาอะไรดี ผมจึงขอนำข้อมูลที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากพี่บัณฑิต หนึ่งในศิษย์รุ่นเก่าของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ผู้ซึ่งอยู่ตั้งแต่ก่อนสมัยสร้างตะกรุดเตา หนึ่งในตะกรุดในตำนานของหลวงพ่อตัด เมื่อปี พ.ศ. 2534 โดยพี่บัณฑิตเองก็เป็นผู้ที่ซื้อแผ่นตะกั่วมาถวายหลวงพ่อเพื่อทำตะกรุดเตาในยุคนั้น โดยปัจจุบัน พี่บัณฑิตเองก็ถูกน้องๆรุ่นหลังยกเป็นคลังความรู้เคลื่อนที่ของวัดชายนาครับ

วัตถุมงคลที่อยากแนะนำ เอาไว้เป็นทางเลือกในการตัดสินใจนี้ จะเป็นวัตถุมงคลที่พระอาจารย์ทิน ศิษย์เอกหนึ่งเดียวของหลวงพ่อตัดได้"ตาม"ให้พี่บัณฑิตไปเอาไว้ จะมีอยู่ 3 รุ่นด้วยกัน ซึ่งความเห็นส่วนตัว พระอาจารย์ท่านคงเล็งเห็นอะไรสักอย่างในวัตถุมงคลรุ่นเหล่านี้ และท่านคงพิจารณาแล้วว่า"ดีจริง"

1. พระขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2546-2547

(พระขุนแผนรุ่นแรก แขนตรง ปี 2546)

ผู้ที่อยู่ในเวปพลังจิตมาเกิน 10 ปีนั้นมักจะคุ้นตากับกระทู้ "แนะนำขุนแผนที่แรง และเร็วฯ" โดยขุนแผนที่มักจะมีผู้กล่าวถึงอยู่เสมอๆนั้น จะมีขุนแผนรุ่นแรกของหลวงพ่อตัด วัดชายนาเป็นหนึ่งในนั้นด้วย

ขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา เริ่มจัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2546 โดยมีการทำเป็นพิมพ์ขุนแผนแขนตรง เนื้อดินผสมผง โดยดินนี้ก็ใช้ดินที่บริเวณวัดชายนานี่เอง หลังจากนั้นก็จึงนำไปเผา ซึ่งจะมีการจารใต้ฐานองค์พระด้วยเลข ๑เนื่องจากชุดแรกนี้ มีการเผาออกมาแล้วพระได้แตกหักเสียหายไปเยอะ เหลือออกมาเพียงราวๆไม่เกิน 200 องค์ จึงได้มีการจัดสร้างขุนแผนแขนตรงเพิ่มเติม แต่ไม่ได้เขียนด้วยเลข ๑ ที่ใต้ฐาน ซึ่งได้มีการปรับสูตร ส่วนผสมต่างๆ จึงทำให้เผาออกมาแล้วองค์พระค่อนข้างคมชัด สวยงามมากขึ้น โดยข้อมูลการจัดสร้างนั้นจะอยู่ราวๆ 900 องค์ สำหรับการจารยันต์ในขุนแผนทั้งสองชุดนี้ จะเป็นการจารด้วยยันต์ปลายศีล ซึ่งเป็นยันต์ที่ดีทางด้านเจรจาฯ


หลังจากการทำขุนแผนแขนตรงออกมาแล้วนั้น ในปี 2547 ก็ได้มีการแก้บล็อคบริเวณแขนขององค์พระให้มีความอ่อนช้อย ในหมู่ศิษย์มักจะเรียกกันว่า ขุนแผนแขนอ่อน โดยขุนแผนแขนอ่อนนี้ ได้มีการปรับสูตรส่วนผสมที่ลงตัว จึงทำให้การกดพิมพ์และเผาออกมาจะพบเจอที่สวยๆซะส่วนมาก ในส่วนของยันต์ที่ใช้ในการจารด้านหลังขององค์พระ ก็จะมีหลากหลายยันต์ โดยขอจำแนกเป็น 6 ยันต์หลัก อันมี

1.1 ยันต์นะฤาชา

1.2 ยันต์นะหน้าทอง

1.3 ยันต์นะกำเนิด

1.4 ยันต์นะปัดตลอด

1.5 ยันต์นะกะโหลกทองคำ

1.6 ยันต์ปลายศีล

ขอเรียกลำดับที่ 1.1-1.5 ว่าเป็นชุดยันต์พิเศษ

เนื่องจากในบางยันต์นั้น เช่นยันต์นะฤาชา สร้างไว้จำนวนไม่มาก เพียง 20-30 องค์ ขอเสริมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับยันต์นะฤาชาว่ายันต์นี้จะสำเร็จได้จริงก็เมื่อปลุกเสกด้วยพระเกจิที่มีอำนาจจิตขั้นสูงเท่านั้น ซึ่งหลวงพ่อตัดท่านก็เป็นหนึ่งในพระเกจิที่ทำได้จริง
ในจำนวนการสร้างยันต์พิเศษนี้ จะมีมากที่สุดก็จะเป็นยันต์นะปัดตลอดซึ่งสร้างไว้ราวๆ 200 องค์เท่านั้นครับ
สำหรับยันต์ธรรดา หรือยันต์ปลายศีลนี้ก็จะมีการสร้างไว้มากที่สุดในชุดของขุนแผนแขนอ่อน

นอกจากนี้ยังสามารถพบเจอยันต์แปลกๆอื่นๆได้เพิ่มเติมเนื่องจากมีลูกศิษย์มาช่วยจารในขุนแผนชุดนี้ด้วย โดยศิษย์ที่มาช่วยจารก็ได้เขียนไว้เป็นพิเศษ เป็นของส่วนตัวแต่มีจำนวนไม่มากนัก

รวมๆแล้ว พระขุนแผนรุ่นแรกแขนอ่อน ปี 2547 นี้ จัดสร้างไว้ทั้งหมดประมาณ 3,500 องค์(จำนวนกำหนดแน่นอนไม่ได้ เนื่องจากพระบางส่วนก็ได้มีการแตกหัก เผามาแล้วไม่เต็มบ้าง ก็มีการเก็บไว้เพื่อเป็นมวลสารทำพระต่อไป


ในส่วนของพุทธคุณและประสบการณ์นั้นเคยเล่าไปแล้วก่อนหน้าบางส่วน ก็ต้องบอกว่าครบทั้งบู๊และบุ๋น อยู่ที่ผู้ศรัทธาจะอาราธนาบอกกล่าว เปรียบกับหลวงพ่อตัดท่านให้ไฟมาแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่นำไปบูชานั้น จะเอาไป หุง อุ่น ต้ม ทอดฯลฯ
ขึ้นอยู่กับความฉลาดในการอาราธนาของแต่ละท่าน ถ้าจะว่ากันตรงๆนะครับ

สำหรับวัตถุมงคลที่พระอาจารย์ทินท่าน "ตาม" ให้พี่บัณฑิตให้ไปเอาไว้ ยังมีอีก 2 รุ่น เดี๋ยวไว้จะมาลงข้อมูลให้ผู้ศรัทธาได้ศึกษาเพิ่มเติมในคราวหน้า เผื่อเป็นทางเลือกที่แนะนำครับ

ไผ่ บ้านพุทธคุณ