วัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย น้ำหนาว, 21 พฤษภาคม 2020.

  1. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +3,303
    รายการที่ 292 สมเด็จเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551 พิเศษหลังจารด้วยยันต์คาถาโภคทรัพย์ตำหรับวัดชายนา

    "ผงเยี่ยวชะนี" ฟังจากชื่อแล้วไม่น่าที่จะนำมาสร้างวัตถุมงคลได้ แต่ความจริงแล้วผงเยี่ยวชะนีเป็นยาเสน่ห์ชนิดหนึ่ง เป็นตำราที่ได้รับถ่ายทอดกันมาในหมู่ชนชาติลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำแห่งหมู่บ้านเขากระจิว บ้านเกิดของหลวงพ่อตัดนั่นเอง ยาเสน่ห์ชนิดนี้สร้างขึ้นจากส่วนผสมหลายชนิดเช่น ยอดสวาท ยอดรักซ้อน ดอกกาหลง และมวลสารลี้ลับอีกหลายอย่าง นำมาผสมตามตำรา จนสำเร็จเป็นผงเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัดจึงให้นำผงชนิดนี้ใส่ไปในพระเครื่องเพียงบางรุ่น เพื่อให้เกิดผลทางมหาเสน่ห์ ลุ่มหลง เป็นเมตตามหาละลวย นอกจากนั้น ในการเสกพระเครื่องที่ให้ผลทางเมตตา หลวงพ่อตัด ท่านจะเสกหนุนด้วยมนต์จินดามณีด้วยเสมอ อันมนต์จินดามณีของวัดชายนานั้น เคยสอบทานแล้วไม่ซ้ำกับสำนักใด เป็นมนต์จินดามณีที่มีแรงครูแรงมาก สอบสายครูย้อนไปจนถึงแม่นางพันธุรัตน์ ขอบารมีให้ช่วยน้อมนำมาซึ่งลาภสักการะ โชคลาภแก้วแหวน เงินทองทั้งหลาย เปรียบเหมือนเป็นมนต์ที่แม่มีเมตตาต่อลูก เปรียบดังแก้วสารพัดนึกจึงเรียกว่า "มนต์จินดามณี" มนต์บทนี้ต้องได้รับการประสิทธิ์ประสาทที่ถูกต้อง แรงครูท่านจึงจะเมตตาช่วยเหลือได้เต็มที่ ด้วยเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยว่า พระผงของวัดชายนาชุดที่มีส่วนผสมของผงเยี่ยวชะนีไม่ว่าจะเป็นสมเด็จเยี่ยวชะนีหรือขุนแผนเยี่ยวชะนีจะมีประสบการณ์อย่างมากมาย ทั้งเรื่อง เสน่ห์ เมตตามหาละลวย และโชคลาภ ท่านว่าปรารถนาสิ่งใด ลองตั้งใจอธิษฐาน หากไม่มีกรรมมาขวาง ก็จะสำเร็จได้ด้วยพรของมนต์จินดามณี

    ด้วยประสบการณ์ต่างๆที่ศิษย์เจอก็ได้กำเนิดวลีในหมู่ศิษย์ที่ว่า "ด้านตะวันออกมีผงพราย(หลวงปู่ทิม) ด้านตะวันตกต้องผงเยี่ยวชะนี"

    ชุดที่ลงแบ่งปันนี้คัดสวยแชมป์มาให้แล้วในราคาเบาๆครับ หน้าตาติดชัด
    หลังยันต์ 3 รูปแบบ องค์นี้เป็นยันต์คาถาโภคทรัพย์จารโดยพระอาจารย์ทินครับ

    มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

    5908A5A3-02D5-4FEB-B675-5F875F886D68.jpeg
    8A6BAEDA-300E-4EC5-946A-6651F12ADA29.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2022
  2. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +3,303
    รายการที่ 293 สมเด็จเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551 พิเศษหลังจารด้วยยันต์นะเศรษฐี ตำหรับวัดชายนา

    "ผงเยี่ยวชะนี" ฟังจากชื่อแล้วไม่น่าที่จะนำมาสร้างวัตถุมงคลได้ แต่ความจริงแล้วผงเยี่ยวชะนีเป็นยาเสน่ห์ชนิดหนึ่ง เป็นตำราที่ได้รับถ่ายทอดกันมาในหมู่ชนชาติลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำแห่งหมู่บ้านเขากระจิว บ้านเกิดของหลวงพ่อตัดนั่นเอง ยาเสน่ห์ชนิดนี้สร้างขึ้นจากส่วนผสมหลายชนิดเช่น ยอดสวาท ยอดรักซ้อน ดอกกาหลง และมวลสารลี้ลับอีกหลายอย่าง นำมาผสมตามตำรา จนสำเร็จเป็นผงเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัดจึงให้นำผงชนิดนี้ใส่ไปในพระเครื่องเพียงบางรุ่น เพื่อให้เกิดผลทางมหาเสน่ห์ ลุ่มหลง เป็นเมตตามหาละลวย นอกจากนั้น ในการเสกพระเครื่องที่ให้ผลทางเมตตา หลวงพ่อตัด ท่านจะเสกหนุนด้วยมนต์จินดามณีด้วยเสมอ อันมนต์จินดามณีของวัดชายนานั้น เคยสอบทานแล้วไม่ซ้ำกับสำนักใด เป็นมนต์จินดามณีที่มีแรงครูแรงมาก สอบสายครูย้อนไปจนถึงแม่นางพันธุรัตน์ ขอบารมีให้ช่วยน้อมนำมาซึ่งลาภสักการะ โชคลาภแก้วแหวน เงินทองทั้งหลายเปรียบเหมือนเป็นมนต์ที่แม่มีเมตตาต่อลูกเปรียบดังแก้วสารพัดนึกจึงเรียกว่า "มนต์จินดามณี" มนต์บทนี้ต้องได้รับการประสิทธิ์ประสาทที่ถูกต้อง แรงครูท่านจึงจะเมตตาช่วยเหลือได้เต็มที่ ด้วยเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยว่า พระผงของวัดชายนาชุดที่มีส่วนผสมของผงเยี่ยวชะนีไม่ว่าจะเป็นสมเด็จเยี่ยวชะนีหรือขุนแผนเยี่ยวชะนีจะมีประสบการณ์อย่างมากมาย ทั้งเรื่อง เสน่ห์ เมตตามหาละลวย และโชคลาภ ท่านว่าปรารถนาสิ่งใด ลองตั้งใจอธิษฐาน หากไม่มีกรรมมาขวาง ก็จะสำเร็จได้ด้วยพรของมนต์จินดามณี

    ด้วยประสบการณ์ต่างๆที่ศิษย์เจอก็ได้กำเนิดวลีในหมู่ศิษย์ที่ว่า "ด้านตะวันออกมีผงพราย(หลวงปู่ทิม) ด้านตะวันตกต้องผงเยี่ยวชะนี"

    ชุดที่ลงแบ่งปันนี้คัดสวยแชมป์มาให้แล้วในราคาเบาๆครับ หน้าตาติดชัด
    หลังยันต์ 3 รูปแบบซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นยันต์ทางด้านเมตตามหานิยมโดยเฉพาะ องค์นี้เป็นยันต์นะเศรษฐีจารโดยพระอาจารย์ทินครับ

    มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

    278EB9E3-E34E-4F5E-A7D4-F5FF9F0A47F0.jpeg FAFA4051-B3F1-4BE4-B17D-8869DF344565.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2022
  3. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +3,303
    รายการที่ 294 สมเด็จเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551 พิเศษหลังจารด้วยยันต์นะเมตตาเต็มสูตร ตำหรับวัดชายนา

    "ผงเยี่ยวชะนี" ฟังจากชื่อแล้วไม่น่าที่จะนำมาสร้างวัตถุมงคลได้ แต่ความจริงแล้วผงเยี่ยวชะนีเป็นยาเสน่ห์ชนิดหนึ่ง เป็นตำราที่ได้รับถ่ายทอดกันมาในหมู่ชนชาติลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำแห่งหมู่บ้านเขากระจิว บ้านเกิดของหลวงพ่อตัดนั่นเอง ยาเสน่ห์ชนิดนี้สร้างขึ้นจากส่วนผสมหลายชนิดเช่น ยอดสวาท ยอดรักซ้อน ดอกกาหลง และมวลสารลี้ลับอีกหลายอย่าง นำมาผสมตามตำรา จนสำเร็จเป็นผงเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัดจึงให้นำผงชนิดนี้ใส่ไปในพระเครื่องเพียงบางรุ่น เพื่อให้เกิดผลทางมหาเสน่ห์ ลุ่มหลง เป็นเมตตามหาละลวย นอกจากนั้น ในการเสกพระเครื่องที่ให้ผลทางเมตตา หลวงพ่อตัด ท่านจะเสกหนุนด้วยมนต์จินดามณีด้วยเสมอ อันมนต์จินดามณีของวัดชายนานั้น เคยสอบทานแล้วไม่ซ้ำกับสำนักใด เป็นมนต์จินดามณีที่มีแรงครูแรงมาก สอบสายครูย้อนไปจนถึงแม่นางพันธุรัตน์ ขอบารมีให้ช่วยน้อมนำมาซึ่งลาภสักการะ โชคลาภแก้วแหวน เงินทองทั้งหลายเปรียบเหมือนเป็นมนต์ที่แม่มีเมตตาต่อลูกเปรียบดังแก้วสารพัดนึกจึงเรียกว่า "มนต์จินดามณี" มนต์บทนี้ต้องได้รับการประสิทธิ์ประสาทที่ถูกต้อง แรงครูท่านจึงจะเมตตาช่วยเหลือได้เต็มที่ ด้วยเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยว่า พระผงของวัดชายนาชุดที่มีส่วนผสมของผงเยี่ยวชะนีไม่ว่าจะเป็นสมเด็จเยี่ยวชะนีหรือขุนแผนเยี่ยวชะนีจะมีประสบการณ์อย่างมากมาย ทั้งเรื่อง เสน่ห์ เมตตามหาละลวย และโชคลาภ ท่านว่าปรารถนาสิ่งใด ลองตั้งใจอธิษฐาน หากไม่มีกรรมมาขวาง ก็จะสำเร็จได้ด้วยพรของมนต์จินดามณี

    ด้วยประสบการณ์ต่างๆที่ศิษย์เจอก็ได้กำเนิดวลีในหมู่ศิษย์ที่ว่า "ด้านตะวันออกมีผงพราย(หลวงปู่ทิม) ด้านตะวันตกต้องผงเยี่ยวชะนี"

    ชุดที่ลงแบ่งปันนี้คัดสวยแชมป์มาให้แล้วในราคาเบาๆครับ หน้าตาติดชัด
    หลังยันต์ 3 รูปแบบซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นยันต์ทางด้านเมตตามหานิยมโดยเฉพาะ องค์นี้เป็นยันต์นะเมตตาเต็มสูตรจารโดยพระอาจารย์ทินครับ

    มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

    A5622124-68A7-453C-AB67-00E9F4AFDA73.jpeg 3E37454C-C49E-4DBA-A9AF-4188164DFF84.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2022
  4. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,129
    ค่าพลัง:
    +5,418
    ขอจองครับ
     
  5. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,129
    ค่าพลัง:
    +5,418
    ขอจองครับ
     
  6. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,129
    ค่าพลัง:
    +5,418
    ขอจองครับ
     
  7. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +3,303
    รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ
     
  8. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +3,303
    รายการที่ 295 ขุนแผนเยี่ยวชะนี รุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2548 หลวงพ่อตัดจาร

    “ผงเยี่ยวชะนี” เป็นยาเสน่ห์ชนิดหนึ่ง เป็นตำราที่ได้รับการถ่ายทอดกันมาในหมู่ชนชาติลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำแห่งหมู่บ้านเขากระจิว จ.เพชรบุรี บ้านเกิดของหลวงพ่อตัดนั่นเอง ได้รับการขนานนามในฉายาว่า “ยาเสหน่ห์ตำรับลาวโซ่ง”

    ยาสเน่ห์ชนิดนี้มิได้เอาเยี่ยวชะนีตรงๆ แต่จะนำใบไม้ไปรองไว้ จะนำใบไม้ต่างๆหลายชนิด เช่น ยอดสวาท ยอดรักซ้อน ยอดมะยม ดอกกาหลง และมวลสารลึกลับอีกหลายอย่าง นำมาผสมตามตำราจนสำเร็จเป็นผงเยี่ยวชะนี
    หลวงพ่อตัดจึงนำผงชนิดนี้ใส่ไปในพระเครื่องเพียงบางรุ่นเพื่อให้เกิดผลทางมหาสเน่ห์ ลุ่มหลง เป็นเมตตามหาละลวย และหลวงพ่อท่านจะปลุกเสกด้วยวิชาทางเมตตาต่างๆ เช่น วิชานะมหาอ่อนใจ วิชาขุนแผนชมตลาด วิชาประสบเนตร ซึ่งคนเก่าแก่ท่านบอกว่าหากได้สบสายตาแล้ว บ้านก็ยังยกให้ได้ และยังมีวิชามนต์จินดามณี(เกร็ดเพิ่มเติมมี แต่เกรงว่าจะยาวเกินไป) ซึ่งมนต์นี้มีแรงครูแรงมาก ใช้ทางเรียกลาภสักการะ แก้วแหวนเงินทอง วิชานี้ต้องได้รับการประสิทธิ์ประสาทที่ถูกต้อง แรงครูท่านจะได้ช่วยเหลือได้เต็มที่ ท่านว่าปรารถนาสิ่งใด ลองตั้งใจอธิษฐาน หากไม่มีกรรมมาขวาง ก็จะสำเร็จได้ด้วยพรของมนต์จินดามณี

    จากที่กล่าวมาข้างต้น จึงเป็นเหตุผลที่พระผงของวัดชายนาที่ผสมด้วยเยี่ยวชะนีจะมีประสบการณ์ต่างๆมากมาย ทั้งเรื่องเมตตามหานิยม มหาสเน่ห์ โชคลาภและโภคทรัพย์อีกด้วย

    พระพิมพ์ขุนแผนเยี่ยวชะนีพิมพ์นี้จะจัดสร้างไว้หลักๆ 2 ปี คือ ปี 2548 และ ปี 2550

    ในส่วนของปี 2548 จะถือว่าเป็นรุ่นแรก มี 3 โซนเนื้อ แต่จัดสร้างรวมๆแล้วประมาณ 2-300 องค์

    ในส่วนของปี 2550 จะมีหลากหลายโซนเนื้อ มีทั้งเนื้อผงเยี่ยวชะนี เนื้อว่านผสมเยี่ยวชะนี เนื้อผงพรายกุมาร ทั้งหลังยันต์ และหลังเรียบ(ชุดผงพรายกุมารจะอยู่ในชุดหลังเรียบ) รวมทุกแบบทุกเนื้อของปี 2550 จัดสร้างไว้ราวๆไม่เกิน 2000 องค์

    องค์นี้เป็นขุนแผนเยี่ยวชะนี รุ่นแรก เนื้อแก่ผงเยี่ยวชะนี ถือเป็นอีกหนึ่งโซนเนื้อที่ได้รับความนิยมครับสร้างไว้น้อยมากและมีมวลสารจากผงเยี่ยวชะนีและผงวิเศษอื่นๆเข้มข้นมากๆ ปัจจุบันขุนแผนเยี่ยวชะนีปี 2548 มีการไต่ระดับราคาขึ้นมาเรื่อยๆเนื่องจากมีเป็นพิมพ์ที่มีประสบการณ์เป็นอันดับต้นๆของวัตถุมงคลหลวงพ่อตัด วัดชายนาและจัดสร้างไว้น้อยมาก เพียง 2-300 องค์เท่านั้น ซึ่งเนื้อโซนนี้เทียบกับโซนอื่นๆในยุคเดียวกันจะพบเจอน้อยมากๆ

    สำหรับชุดแก่ผงนี้ทำไว้น้อยมากอื่นๆครับ
    จึงทำในนานๆจะมีออกมาหมุนเวียนเปลี่ยนมือสักองค์
    สำหรับชุดของปี 2548 นี้เรียกว่าใส่ผงมวลสารเยี่ยวชะนีกันแบบไม่ยั้งครับ หากผู้ศรัทธาต้องการจะหาพระตระกูลผงเยี่ยวชะนีมาแขวนมาอาราธนาบูชา ผมเองก็ต้องขอแนะนำชุดปี 2548 เพราะมีผงเยี่ยวชะนีที่เข้มข้นมากๆ ทั้งพิมพ์สมเด็จและขุนแผนครับ ปัจจุบันนี้สมเด็จพิมพ์มาตรฐานที่สร้างในระยะเวลาใกล้ๆกันทะลุหลักหมื่นบาทไปจนถึงหลายๆหมื่นแล้ว คิดว่าอีกไม่นานพิมพ์ขุนแผนพิมพ์นี้จะตามไปอย่างแน่นอนครับผม

    องค์นี้พิเศษที่หลวงพ่อตัดจารหมึกด้วยนะเมตตาและเสกกำกับให้อีกรอบ หาองค์ต่อไปไม่ง่ายแน่นอนครับ จัดว่าเป็นลิมิเต็ดเลยครับ

    มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

    F8871D34-4FDD-48B6-83FE-A35B5D28A3FC.jpeg C15112FF-965F-471C-94A1-AB920E39C15A.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2022
  9. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +3,303
    รายการที่ 296 สมเด็จสามชั้นรุ่นแรก ปี 2505 เนื้อโซนยุคแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา (รายการนี้หายากมากครับ)

    ประวัติพระสมเด็จสามชั้นรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา

    เริ่มสร้างราวๆปี 2497 หลวงพ่อทดลองทำโดยออกแบบพิมพ์เองผสมเนื้อและผงเอง กดพิมพ์ไว้จำนวน 57 องค์ ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธนั่งสมาธิบนฐาน 3 ชั้น ด้านหลังจารมือตัวนะ รุ่นแรกนั้น เนื้อจะออกขาวอมแดง พิมพ์คมชัดละจารด้ายเหล็กลงในเนื้อพระ ส่วนผสมจะมีผง ว่าน ข้าวสุก แป้งมัน กล้วยสุก หลังจากนั้นท่านก็สร้างต่อมาเรื่อยๆ ไม่มีบันทึกจำนวนการสร้างไว้ แต่พอแยกเนื้อในยุคแรกๆได้ จะเป็นพระเนื้ออกสีขาว หรืออมเหลือง หรือเนื้อแก่ว่าน เนื้อแดงน้ำตาลไหม้ผสมผงใบลานเก่า

    ต่อมา ปี 2505 ก็มีข้อมูลการจัดสร้างอีกครั้งจากคำบอกเล่าของชาวบ้านและลูกศิษย์หลวงพ่อตัดในยุคแรกหลายๆท่าน ที่รวบรวมมาได้ และข้อมูลจากผู้ที่ช่วยหลวงพ่อกดพระพิมพ์นี้คือคุณลุงทับ สุมกระจิว ซึ่งบวชในยุคนั้น และจำพรรษาที่วัดชายนาในปี 2507 ปัจจุบันท่านก็อายุแปดสิบเศษแล้ว พระชุดนี้จัดสร้างยุคแรกราวๆปี 2505 มีด้วยกัน 2 พิมพ์ พิมพ์พระรอด พิมพ์สมเด็จ 3 ชั้น พิมพ์พระรอดคาดการว่ามีประมาณ 500 องค์ พิมพ์สมเด็จฐาน 3 ชั้น มีราวๆ 10 บาตรพระหรือประมาณ 1,500 องค์ จะเป็นเนื้อแดงผสมกระเบื้องหลังคาโบสถ์และอิฐกำแพงวัด เนื้อเหลืองผสมว่านที่หลวงพ่อตัดท่านหามาเอง บางองค์จะมีรอยจารด้วยดินสอซึ่งหลวงพ่อเป็นผู้จารเองทั้งหมด พิมพ์สมเด็จมีกดพิมพ์ 2 หน้าก็มี ปั้นเป็นทรงเล็บมือก็มี

    เริ่มสร้างตั้งแต่ ปี 2505 ถึง ปี 2507 ปลุกเสกอยู่หลายพรรษาด้วยกันกว่าจะนำมาออกแจกจ่ายให้ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดในช่วงนั้น พระผงชุดนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ศิษย์รุ่นเก่าๆของหลวงพ่อทอง วัดเขากระจิว บางคนยังนึกว่าเป็นพระของหลวงพ่อทองด้วยซ้ำ พระชุดนี้ประสบการณ์ด้านเมตตาแคล้วคลาดโดดเด่นมาก เมตตาโชคลาภก็ดีเยี่ยม จัดว่าเป็นพระเพียงรุ่นเดียวที่หลวงพ่อตัดท่านหามวลสารเองและกดพิมพ์ที่วัดทั้งหมด เป็นปฐมบทของวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ที่มีข้อมูลหลักฐานแน่ชัดถึงที่มาที่ไปที่สุดรุ่นหนึ่ง จึงทำให้ในปัจจุบันนี้เป็นที่เสาะแสวงหาแก่ผู้ศรัทธาหลวงพ่อตัดอย่างมาก



    บทสัมภาษณ์ ลุงทับ สุมกระจิว บันทึกไว้เมื่อวันนี้วันที่ 3 พ.ค.2557

    ลุงทับ บวชที่วัดเขากระจิว ปี 2507 แต่ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดชายนา เป็นหนึ่งในพระที่ช่วยหลวงพ่อกดพระชุดปี 2507 ในพรรษา

    ผู้ถาม : หลวงพ่อตัดท่านมีนิสัยอย่างไรในยุคสมัยนั้น ดุหรือไม่ครับ ?

    ลุงทับ : ไม่ดุ แต่เป็นคนตรงไปตรงมา โผงผางเคร่งในพระธรรมวินัย เป็นคนไม่หวงของ เวลาจะแจกอะไรให้ใครก็ให้เป็นถุงๆ แล้วก็บอกว่า “เอาไป เอาไปแจกให้หมด“

    ผู้ถาม : หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังไหมว่าไปเรียนวิชาจากที่ไหนมาบ้างครับ ?

    ลุงทับ : ไม่เคยบอก แต่ก็พอรู้ แรกๆเริ่มเรียนไสยศาสตร์จากหมอชาวบ้าน ไปเรียนดูที่ทางปลูกบ้านจากหลวงพ่อเทพ วัดถ้ำรงค์ เรียนทำปลัดจากหลวงพ่อไท วัดไทรย้อยด้วย

    ผู้ถาม : สมัยก่อน หลวงพ่อทำตะกรุด ปลัดขิกหรือยังครับ ?

    ลุงทับ : ตอนนั้นตะกรุดยังไม่ได้ทำ แต่ปลัดขิกทำแล้ว สมัยนั้นรูปทรงไม่สวย มาเริ่มยุคหมอหอมจะสวย หลังๆก็มีช่างไม้เก่ามารับจ้างแกะ ก็จะสวยขึ้นมาอีก

    ผู้ถาม : สมเด็จสามชั้น หลวงพ่อเป็นคนดำริให้ทำเองหรือเปล่าครับ ?

    ลุงทับ : ใช่ท่านทำเอง แต่ไม่รู้ใครเป็นคนแกะบล็อกมา เป็นบล็อกหินมีดโกน มีอยู่สองบล็อก

    ผู้ถาม : หลวงพ่อเป็นคนหามวลสารมาเองหรือเปล่าครับ ?

    ลุงทับ : ใช่ หลวงพ่อหามาเองทั้งหมด เป็นพวกผงว่าน108,เกสรดอกไม้,ผงพุทธคุณ มาตำผสมข้าวสุก กับกล้วย มีหลายสี สีน้ำตาล สีแดง สีเหลืองอ่อน สีขาวก็มี

    ผู้ถาม : ทำไมสีถึงต่างกันครับ ?

    ลุงทับ : สีต่างๆมันมาจากผง จำพวกไขโบสถ์,กระเบื้องหลังคาโบสถ์,ผงใบลานที่เป็นคัมภีร์เก่าจากวัดเขากระจิว เอามาเผา เนื้อจะสีออกน้ำตาลดำๆเนื้อ นี่จะมีน้อยที่สุด หายากมีไม่กี่ร้อยองค์ ไม่ค่อยสวยนัก สีเหลืองๆขาวๆจะเยอะที่สุด รองมาก็สีแดง

    ผู้ถาม : มีพิมพ์อะไรบ้างครับ ?

    ลุงทับ : สมเด็จสามชั้น,พระรอด สองพิมพ์ หนักไปทางสมเด็จ พระรอดสร้างน้อย

    ผู้ถาม : ทำเยอะไหมครับ ?

    ลุงทับ : ก็หลักพัน ทำทุกวันในพรรษานั้น เช้าเรียนพระวินัย ช่วงบ่ายว่างก็ไปกดพระกัน ใครว่างก็มากด วันหนึ่งก็ได้เป็นร้อย แต่ท่านเอาไปไว้ไหนบ้างก็ไม่รู้ได้ จะฝังกรุไหนก็ไม่รู้ บ้างก็ว่าเอาใส่ในบาตรไปฝังไว้ในป่าช้า

    ผู้ถาม : ท่านปลุกเสก หรือให้เกจิอื่นเสกด้วย?

    ลุงทับ :ท่านเสกของท่านเองทุกคืน ในห้องท่านจะมีสายสิญจน์โยงเต็มไปหมด กดพระเสร็จก็เอาไปตาก พอแห้งก็เอาเข้าห้องไปปลุกเสก ยังไม่ได้แจกในตอนนั้น แต่เอาออกมาแจกช่วงงานทำบุญผูกพัทธสีมา เมื่อปี 2525 ซะเยอะ

    บทสัมภาษณ์ลุงทับทั้งหมดถอดจากคลิปอัดเสียง แล้วข้อมูลประกอบเพิ่มเติมจากลูกศิษย์ยุคเก่าของหลวงพ่อตัดที่ได้รับมอบพระชุดนี้ไป บางองค์มีจารดินสอเดิมๆ บางองค์หลวงพ่อก็เมตตาให้หมึกจารให้ในภายหลัง จึงเป็นข้อสรุปที่แน่ชัดได้ว่าพระชุดนี้หลวงพ่อท่านสร้างเองเสกเองเพื่อมอบให้ลุกศิษย์ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดในยุคแรกๆอย่างแท้จริง

    ศิษย์ยุคเก่าหลายๆคนก็บอกว่าหลวงพ่อท่านใช้สีในการจำแนกพุทธคุณ เช่นแดง ไปทางแคล้วคลาดคงกระพัน เหลืองแก่ใบว่านก็จะไปทางเมตตามหานิยม แต่ก็ไม่มีใครยืนยันได้ อย่างแน่ชัดเป็นเพียงแต่ข้อสันนิษฐานจากประสบการณ์ที่บอกเล่าต่อกันมาเท่านั้น

    องค์นี้เป็นโซนเนื้อยุคแรกที่หายากมากๆครับ บางข้อมูลคนเก่าคนแก่ก็ได้บอกว่าหลวงพ่อตัดท่านได้ผสมว่านและผงเยี่ยวชะนีลงไปด้วย ก็ต้องบอกตามตรงว่าเนื้อโซนนี้จะหาเจอยากมากๆ
    ส่วนตัวผมเอง 10 ปีที่ผ่านมา โซนนี้ผ่านมือผมมาไม่ถึง 10 องค์ครับ ด้านหน้าองค์นี้สวยมาก

    มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

    DC58BC20-D1DD-4544-BD59-226FD16184CE.jpeg ADCBB36C-D0A8-4E4B-B3E5-589655FB9606.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2022
  10. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +3,303
    รายการที่ 297 สมเด็จสามชั้นรุ่นแรก ปี 2505 หลวงพ่อตัด วัดชายนา (รายการนี้หายากมากครับ)

    ประวัติพระสมเด็จสามชั้นรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา

    เริ่มสร้างราวๆปี 2497 หลวงพ่อทดลองทำโดยออกแบบพิมพ์เองผสมเนื้อและผงเอง กดพิมพ์ไว้จำนวน 57 องค์ ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธนั่งสมาธิบนฐาน 3 ชั้น ด้านหลังจารมือตัวนะ รุ่นแรกนั้น เนื้อจะออกขาวอมแดง พิมพ์คมชัดละจารด้ายเหล็กลงในเนื้อพระ ส่วนผสมจะมีผง ว่าน ข้าวสุก แป้งมัน กล้วยสุก หลังจากนั้นท่านก็สร้างต่อมาเรื่อยๆ ไม่มีบันทึกจำนวนการสร้างไว้ แต่พอแยกเนื้อในยุคแรกๆได้ จะเป็นพระเนื้ออกสีขาว หรืออมเหลือง หรือเนื้อแก่ว่าน เนื้อแดงน้ำตาลไหม้ผสมผงใบลานเก่า

    ต่อมา ปี 2505 ก็มีข้อมูลการจัดสร้างอีกครั้งจากคำบอกเล่าของชาวบ้านและลูกศิษย์หลวงพ่อตัดในยุคแรกหลายๆท่าน ที่รวบรวมมาได้ และข้อมูลจากผู้ที่ช่วยหลวงพ่อกดพระพิมพ์นี้คือคุณลุงทับ สุมกระจิว ซึ่งบวชในยุคนั้น และจำพรรษาที่วัดชายนาในปี 2507 ปัจจุบันท่านก็อายุแปดสิบเศษแล้ว พระชุดนี้จัดสร้างยุคแรกราวๆปี 2505 มีด้วยกัน 2 พิมพ์ พิมพ์พระรอด พิมพ์สมเด็จ 3 ชั้น พิมพ์พระรอดคาดการว่ามีประมาณ 500 องค์ พิมพ์สมเด็จฐาน 3 ชั้น มีราวๆ 10 บาตรพระหรือประมาณ 1,500 องค์ จะเป็นเนื้อแดงผสมกระเบื้องหลังคาโบสถ์และอิฐกำแพงวัด เนื้อเหลืองผสมว่านที่หลวงพ่อตัดท่านหามาเอง บางองค์จะมีรอยจารด้วยดินสอซึ่งหลวงพ่อเป็นผู้จารเองทั้งหมด พิมพ์สมเด็จมีกดพิมพ์ 2 หน้าก็มี ปั้นเป็นทรงเล็บมือก็มี

    เริ่มสร้างตั้งแต่ ปี 2505 ถึง ปี 2507 ปลุกเสกอยู่หลายพรรษาด้วยกันกว่าจะนำมาออกแจกจ่ายให้ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดในช่วงนั้น พระผงชุดนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ศิษย์รุ่นเก่าๆของหลวงพ่อทอง วัดเขากระจิว บางคนยังนึกว่าเป็นพระของหลวงพ่อทองด้วยซ้ำ พระชุดนี้ประสบการณ์ด้านเมตตาแคล้วคลาดโดดเด่นมาก เมตตาโชคลาภก็ดีเยี่ยม จัดว่าเป็นพระเพียงรุ่นเดียวที่หลวงพ่อตัดท่านหามวลสารเองและกดพิมพ์ที่วัดทั้งหมด เป็นปฐมบทของวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ที่มีข้อมูลหลักฐานแน่ชัดถึงที่มาที่ไปที่สุดรุ่นหนึ่ง จึงทำให้ในปัจจุบันนี้เป็นที่เสาะแสวงหาแก่ผู้ศรัทธาหลวงพ่อตัดอย่างมาก



    บทสัมภาษณ์ ลุงทับ สุมกระจิว บันทึกไว้เมื่อวันนี้วันที่ 3 พ.ค.2557

    ลุงทับ บวชที่วัดเขากระจิว ปี 2507 แต่ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดชายนา เป็นหนึ่งในพระที่ช่วยหลวงพ่อกดพระชุดปี 2507 ในพรรษา

    ผู้ถาม : หลวงพ่อตัดท่านมีนิสัยอย่างไรในยุคสมัยนั้น ดุหรือไม่ครับ ?

    ลุงทับ : ไม่ดุ แต่เป็นคนตรงไปตรงมา โผงผางเคร่งในพระธรรมวินัย เป็นคนไม่หวงของ เวลาจะแจกอะไรให้ใครก็ให้เป็นถุงๆ แล้วก็บอกว่า “เอาไป เอาไปแจกให้หมด“

    ผู้ถาม : หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังไหมว่าไปเรียนวิชาจากที่ไหนมาบ้างครับ ?

    ลุงทับ : ไม่เคยบอก แต่ก็พอรู้ แรกๆเริ่มเรียนไสยศาสตร์จากหมอชาวบ้าน ไปเรียนดูที่ทางปลูกบ้านจากหลวงพ่อเทพ วัดถ้ำรงค์ เรียนทำปลัดจากหลวงพ่อไท วัดไทรย้อยด้วย

    ผู้ถาม : สมัยก่อน หลวงพ่อทำตะกรุด ปลัดขิกหรือยังครับ ?

    ลุงทับ : ตอนนั้นตะกรุดยังไม่ได้ทำ แต่ปลัดขิกทำแล้ว สมัยนั้นรูปทรงไม่สวย มาเริ่มยุคหมอหอมจะสวย หลังๆก็มีช่างไม้เก่ามารับจ้างแกะ ก็จะสวยขึ้นมาอีก

    ผู้ถาม : สมเด็จสามชั้น หลวงพ่อเป็นคนดำริให้ทำเองหรือเปล่าครับ ?

    ลุงทับ : ใช่ท่านทำเอง แต่ไม่รู้ใครเป็นคนแกะบล็อกมา เป็นบล็อกหินมีดโกน มีอยู่สองบล็อก

    ผู้ถาม : หลวงพ่อเป็นคนหามวลสารมาเองหรือเปล่าครับ ?

    ลุงทับ : ใช่ หลวงพ่อหามาเองทั้งหมด เป็นพวกผงว่าน108,เกสรดอกไม้,ผงพุทธคุณ มาตำผสมข้าวสุก กับกล้วย มีหลายสี สีน้ำตาล สีแดง สีเหลืองอ่อน สีขาวก็มี

    ผู้ถาม : ทำไมสีถึงต่างกันครับ ?

    ลุงทับ : สีต่างๆมันมาจากผง จำพวกไขโบสถ์,กระเบื้องหลังคาโบสถ์,ผงใบลานที่เป็นคัมภีร์เก่าจากวัดเขากระจิว เอามาเผา เนื้อจะสีออกน้ำตาลดำๆเนื้อ นี่จะมีน้อยที่สุด หายากมีไม่กี่ร้อยองค์ ไม่ค่อยสวยนัก สีเหลืองๆขาวๆจะเยอะที่สุด รองมาก็สีแดง

    ผู้ถาม : มีพิมพ์อะไรบ้างครับ ?

    ลุงทับ : สมเด็จสามชั้น,พระรอด สองพิมพ์ หนักไปทางสมเด็จ พระรอดสร้างน้อย

    ผู้ถาม : ทำเยอะไหมครับ ?

    ลุงทับ : ก็หลักพัน ทำทุกวันในพรรษานั้น เช้าเรียนพระวินัย ช่วงบ่ายว่างก็ไปกดพระกัน ใครว่างก็มากด วันหนึ่งก็ได้เป็นร้อย แต่ท่านเอาไปไว้ไหนบ้างก็ไม่รู้ได้ จะฝังกรุไหนก็ไม่รู้ บ้างก็ว่าเอาใส่ในบาตรไปฝังไว้ในป่าช้า

    ผู้ถาม : ท่านปลุกเสก หรือให้เกจิอื่นเสกด้วย?

    ลุงทับ :ท่านเสกของท่านเองทุกคืน ในห้องท่านจะมีสายสิญจน์โยงเต็มไปหมด กดพระเสร็จก็เอาไปตาก พอแห้งก็เอาเข้าห้องไปปลุกเสก ยังไม่ได้แจกในตอนนั้น แต่เอาออกมาแจกช่วงงานทำบุญผูกพัทธสีมา เมื่อปี 2525 ซะเยอะ

    บทสัมภาษณ์ลุงทับทั้งหมดถอดจากคลิปอัดเสียง แล้วข้อมูลประกอบเพิ่มเติมจากลูกศิษย์ยุคเก่าของหลวงพ่อตัดที่ได้รับมอบพระชุดนี้ไป บางองค์มีจารดินสอเดิมๆ บางองค์หลวงพ่อก็เมตตาให้หมึกจารให้ในภายหลัง จึงเป็นข้อสรุปที่แน่ชัดได้ว่าพระชุดนี้หลวงพ่อท่านสร้างเองเสกเองเพื่อมอบให้ลุกศิษย์ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดในยุคแรกๆอย่างแท้จริง

    ศิษย์ยุคเก่าหลายๆคนก็บอกว่าหลวงพ่อท่านใช้สีในการจำแนกพุทธคุณ เช่นแดง ไปทางแคล้วคลาดคงกระพัน เหลืองแก่ใบว่านก็จะไปทางเมตตามหานิยม แต่ก็ไม่มีใครยืนยันได้ อย่างแน่ชัดเป็นเพียงแต่ข้อสันนิษฐานจากประสบการณ์ที่บอกเล่าต่อกันมาเท่านั้น

    องค์นี้เป็นเนื้อเหลือง สภาพสวยมาก สภาพนี้หายไปจากสายนานมากๆแล้วนะครับ ไม่พบเจอง่ายๆแล้วพระรุ่นแรกที่หลวงพ่อท่านลงมือทำเองหามวลสารเอง

    มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

    CFFE59FF-114C-423E-94A5-B4EDECDDCE2C.jpeg 6D180824-B1CE-4133-A9DA-8EC88F5F7A0C.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2022
  11. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,129
    ค่าพลัง:
    +5,418
    ขอจองครับ
     
  12. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,129
    ค่าพลัง:
    +5,418
    ขอจองครับ
     
  13. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,129
    ค่าพลัง:
    +5,418
    ขอจองครับ
     
  14. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +3,303
    รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ
     
  15. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +3,303
    สวัสดีปีใหม่ 2565 ทุกท่านครับ
    ขอนำพรปีใหม่ที่พระอาจารย์ทินได้เขียนอวยพรให้ผู้ศรัทธาในองค์หลวงพ่อตัดมาให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะครับ

    2A1AA7C0-E7CD-4958-8FD0-39836972519C.jpeg
     
  16. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +3,303
    รายการที่ 298 ลูกสวาทอุดผงพระกริ่งรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2543

    เป็นลูกสวาทชุดที่สร้างก่อนชุดทาทองที่เคยลงแบ่งปันผู้ศรัทธาไป เป็นชุดที่หายากและนิยมที่สุดของหลวงพ่อตัดครับ
    ด้วยลูกสวาทที่หลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกมีฤทธิ์ทางเมตตามหานิยมเป็นเอกอุอยู่แล้ว และพระอาจารย์ทินก็กำชับศิษย์ที่เคยได้รับไปว่ามีอะไรให้อธิษฐานขอกับลูกสวาทและนึกถึงหลวงพ่อตัดเอา สำหรับลูกสวาทชุดนี้จะพิเศษตรงอุดด้วยผงที่ใช้อุดพระกริ่งรุ่นแรก ซึ่งเป็นผงทางเมตตาล้วนๆ ประกอบด้วย

    - ผงว่าน 400 ชนิดของหลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร
    - ผงเก่าวัดชายนา
    - ผงพุทธคุณ 350 คณาจารย์จากอาจารย์ตั้ว วัดซับลำไย
    และสีผึ้ง หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกการามณ์

    กล้าพูดว่าในรอบเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา สำหรับลูกสวาทชุดปี 2543 ที่ออกมาแท้ๆ ดูง่ายๆแบบนี้ผ่านตายังไม่ถึง 10 ลูกครับ
    เล็กดีรสโต น่าขึ้นคอบูชามากๆครับ

    มีผู้บูชาแล้วครับผม

    D973F279-4261-44F6-B40E-80EDD4A8B118.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2022
  17. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +3,303
    รายการที่ 299 ขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา พิมพ์แขนตรง ปี 2546 เนื้อดำสนิทนิยมสุด

    ไม่ต้องบรรยายมากกับวัตถุมงคลที่ทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อตัดเป็นที่รู้จัก เนื่องจากขุนแผนรุ่นแรก ของหลวงพ่อตัดนั้นประสบการณ์หนาหูแบบปากต่อปาก สมาชิกเว็บ 10 ปีขึ้นไปที่เคยติดตามกระทู้ "แนะนำขุนแผนฯ" นั้นจะรู้จักกันดี

    องค์ที่นำมาแบ่งปันนี้เป็นขุนแผนรุ่นแรก พิมพ์แขนตรง ก่อนที่จะแก้บล็อคเป็นพิมพ์แขนอ่อนที่เห็นกันในปัจจุบัน ซึ่งชุดนี้มีการผสมผงวิเศษต่างๆเข้าไปในเนื้อดินก่อนจะเผาเป็นจำนวนมากกว่าพิมพ์แขนอ่อนครับ องค์นี้เนื้อดำสนิทธรรมชาติ หน้าตาติดชัด หายากมากๆ ถ้าเทียบกับพิมพ์แขนอ่อนปกติแล้วพิมพ์แขนตรงนี้จะทำออกมาได้เพียงหลักร้อยองค์ เนื่องจากจะแตกหักไปเยอะ เพราะผสมผงมากเกินจะทำให้องค์พระแตกได้ง่าย ในขณะที่พิมพ์แขนอ่อนนั้นจะสร้างอยู่ที่หลักพัน ปัจจุบันขุนแผนรุ่นแรกของหลวงพ่อตัดแทบไม่มีออกมาหมุนเวียนในท้องตลาดแล้วครับ ยิ่งสภาพที่หน้าตาติดชัดนี้ รังใหญ่กวาดเข้ากรุหมด ถือว่าเป็นวัตถุมงคลที่ศิษย์เก่าศิษย์ใหม่ หรือแม้กระทั่งศิษย์วัดอื่นๆได้ให้ความมั่นใจมากว่าขุนแผนรุ่นแรกของหลวงพ่อตัดนั้น ดีจริง

    มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

    83C14694-9FCE-459B-8AC6-925F9289839E.jpeg F01A4AB8-84F7-4F32-A08A-A27360F2F69D.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2022
  18. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +3,303
    รายการที่ 300 ปลัดขิกไม้มะขามผูกคอตาย(เจ๊หนู) หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550 ขนาดเล็กพิเศษ สภาพสวยมาก

    ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...

    โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี
    ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกที่ดีที่สุดในประเทศครับผม

    ถามว่าไม้ผูกคอ มีอะไรต่างจากไม้มงคลหรือไม้อื่นๆ?

    เคยมีคนนำเรื่องนี้ไปถามหลวงพ่อตัดท่านเหมือนกัน
    หลวงพ่อตัดท่านตอบเป็นนัยๆมาว่า เป็นเคล็ดมาแต่โบราณ คือ “นะจังงัง” หรือ “ไม้เหลียวหลัง” เรียกว่าขนาดเดินเลยไปแล้วยังต้องหันกลับมามอง อะไรแบบนั้นเลยทีเดียว
    วิชานี้ถือว่าเป็นวิชาที่ส่งต่อมาทางสาย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีที่พยายามจะเลียนแบบเคล็ดวิชานี้ของหลวงพ่อตัด แต่ทว่ายังไม่มีสายไหนเสกได้ ทำได้ขลังเท่าของสายวัดชายนา ปัจจุบันนี้ปลัดขิกไม้ผูกคอหายไปจากท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ไม้ว่าจะถูกเก็บไว้โดยผู้ศรัทธา หรือถูกส่งออกไปต่างประเทศก็มากมายแล้ว ส่งผลให้ปลัดขิกไม้ผูกคอตายเหลือหมุนเวียนในประเทศน้อยเต็มทีแล้ว

    ปลัดขิกไม้มะขามผูกคอตาย(เจ๊หนู) เป็นอีกหนึ่งไม้ผูกคอมาตรฐานที่คนถามมาเยอะมากครับ แต่หาของออกมาหมุนเวียนไม่ได้ สร้างน้อยกว่าไม้ยอดนิยมอย่างไม้ประดู่เจ๊แมวพอสมควรเลย ใครกำลังมองหาปลัดขิกไม้ผูกคอไว้บูชาอย่าพลาดครับ ซึ่งไซส์ที่นำมาแบ่งปันนี้เป็นไซส์เล็กพิเศษด้วย ยาวเพียง 1.1 นิ้วเท่านั้น ไม่พบเจอง่ายๆครับ จารหมึกทั้งตัว ตัวนี้สภาพสมบูรณ์ 100% ครับ

    มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

    F65ED1EB-06D6-42D0-9954-0A75FF256150.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2022
  19. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +3,303
    รายการที่ 301 ปลัดขิกไม้คูณผูกคอตาย หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550

    ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...

    โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี
    ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกที่ดีที่สุดในประเทศครับผม

    ถามว่าไม้ผูกคอ มีอะไรต่างจากไม้มงคลหรือไม้อื่นๆ?

    เคยมีคนนำเรื่องนี้ไปถามหลวงพ่อตัดท่านเหมือนกัน
    หลวงพ่อตัดท่านตอบเป็นนัยๆมาว่า เป็นเคล็ดมาแต่โบราณ คือ “นะจังงัง” หรือ “ไม้เหลียวหลัง” เรียกว่าขนาดเดินเลยไปแล้วยังต้องหันกลับมามอง อะไรแบบนั้นเลยทีเดียว
    วิชานี้ถือว่าเป็นวิชาที่ส่งต่อมาทางสาย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีที่พยายามจะเลียนแบบเคล็ดวิชานี้ของหลวงพ่อตัด แต่ทว่ายังไม่มีสายไหนเสกได้ ทำได้ขลังเท่าของสายวัดชายนา ปัจจุบันนี้ปลัดขิกไม้ผูกคอหายไปจากท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ไม้ว่าจะถูกเก็บไว้โดยผู้ศรัทธา หรือถูกส่งออกไปต่างประเทศก็มากมายแล้ว ส่งผลให้ปลัดขิกไม้ผูกคอตายเหลือหมุนเวียนในประเทศน้อยเต็มทีแล้ว

    ปลัดขิกไม้คูณผูกคอถือเป็นอีกหนึ่งตำนานครับ เนื่องจากทำออกมาได้เพียงหลักร้อยต้นๆเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งไม้มาตรฐานที่หายากมากๆครับ หลายๆปีจะออกมาหมุนเวียนสักตัวนึง โดยตัวนี้จารหมึกแน่นทั้งตัว สภาพสวยสมบูรณ์ไม่ผ่านการใช้ยาว 3.6 นิ้ว ตอกโค๊ด ต รัศมี อีกหนึ่งไม้ที่แนะนำให้เก็บไว้อาราธนาบูชาครับ

    มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

    4A2FB2D6-03DF-499F-91E5-66412490998D.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2022
  20. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,129
    ค่าพลัง:
    +5,418
    ขอปิดครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...