**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10087

    พระรูปเหมือนผงว่านชานหมากสีเหลี่ยมครูบาชัยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

    พระยุคเเรกของท่าน ที่จัดสร้างกันเองภายในวัด หลวงปู่ท่านเป็นผู้รวบรวมมวลสารเอง
    สร้างจากชานหมากที่หลวงปู่เคี้ยว ผสมผงเกสรดอกไม้ ธูปเทียน ที่หลวงปู่ใช้บูชาไหว้พระ ให้พระเณรที่วัดกด ปลุกเสกแจกให้บรรดาผู้ที่ศรัทธาในองค์ท่านได้ใช้ ถือเป็นพระอีกรุ่นที่น่าใช้มากๆ เจตนาใการสร้างบริสุทธิ์
    พุทธคุณแคล้วคลาด โชคลาภ เมตตา ครบครัน
    เข้มขลังน่าบูชามากครับ


    ราคา 1150 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    พระชานหมากครูบาชัยวงศ์ 300 a.jpg พระชานหมากครูบาชัยวงศ์  300 b.jpg พระชานหมากครูบาชัยวงศ์  300 c.jpg พระชานหมากครูบาชัยวงศ์  300 d.jpg Clip_10.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2022
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10088

    พระรอดนิรันตราย วัดพันอ้น ปี 2513 เนื้อนวะโลหะ พิมพ์ใหญ่ ตอกโค๊ตสวยเดิมๆ

    จัดสร้างปี 2513 ท่านพระครูศรีปริยัติยานุรักษ์( ครูบาไฝ ) เจ้าอาวาสวัดพันอ้นในขณะนั้น และท่านอาจารย์ไสว สุมมโน เป็นเจ้าพิธีในการจัดสร้าง
    สุดยอดพิธีมหาพุทธาภิเษกโดยพระเกจิอาจารย์ระดับประเทศ ๑๙ รูป อันกอปรด้วย
    ๑.สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์วัดสามพระยา ก.ท.ม.
    ๒.สมเด็จพุฒาจารย์( เสงี่ยม )วัดสุทัศน์ ก.ท.ม.
    ๓.พระอาจารย์ไสว สุมโน วัดราชนัดดา
    ๔.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
    ๕.หลวงพ่อบุญส่ง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
    ๖.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
    ๗.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    ๘.หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชศรีมา
    ๙.พระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญชัย ลำพูน
    ๑๐.ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน
    ๑๑.ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ลำพูน
    ๑๒.ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง เชียงใหม่
    ๑๓.ครูบาวัง วัดบ้านเด่น ตาก
    ๑๔.ครูบาคำแสน วัดสวนดอก เชียงใหม่
    ๑๕.ครูบาคำแสนน้อย วัดดอนมูล เชียงใหม่
    ๑๖.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี เชียงใหม่
    ๑๗.ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง เชียงใหม่
    ๑๘.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ก.ท.ม และ
    ๑๙.ครูบาไฝ วัดพันอ้น เชียงใหม่
    จากนั้นมีการสวดมนต์สมโภช โดยคณาจารย์อีกรวม ๑๐๘ รูป
    ระยะเวลาการปลุกเสก ๒ วันเต็ม
    การจัดสร้าง พระกริ่งรอดนิรันตราย ในครั้งนี้ นายช่างเกษม มงคลเจริญ สุดยอดช่างพระเครื่องอันดับ ๑ ของเมืองไทยเป็นผู้ออกแบบและแกะบล๊อค
    ด้านหน้าเป็นพิมพ์พระรอด
    ด้านหลังเป็นพระฤๅษีนารอด
    พระดี พิธีเยี่ยมครับ
    นาบูขามากครับ


    ราคา 3850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    cfrr.jpg ikj.jpg hg.jpg cxo.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2022
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10089

    พระรอดนิรันตราย วัดพันอ้น ปี 2513 เนื้อนวะโลหะ พิมพ์เล็กตอกโค๊ตสวยเดิมๆ

    จัดสร้างปี 2513 ท่านพระครูศรีปริยัติยานุรักษ์( ครูบาไฝ ) เจ้าอาวาสวัดพันอ้นในขณะนั้น และท่านอาจารย์ไสว สุมมโน เป็นเจ้าพิธีในการจัดสร้าง
    สุดยอดพิธีมหาพุทธาภิเษกโดยพระเกจิอาจารย์ระดับประเทศ ๑๙ รูป อันกอปรด้วย
    ๑.สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์วัดสามพระยา ก.ท.ม.
    ๒.สมเด็จพุฒาจารย์( เสงี่ยม )วัดสุทัศน์ ก.ท.ม.
    ๓.พระอาจารย์ไสว สุมโน วัดราชนัดดา
    ๔.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
    ๕.หลวงพ่อบุญส่ง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
    ๖.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
    ๗.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    ๘.หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชศรีมา
    ๙.พระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญชัย ลำพูน
    ๑๐.ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน
    ๑๑.ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ลำพูน
    ๑๒.ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง เชียงใหม่
    ๑๓.ครูบาวัง วัดบ้านเด่น ตาก
    ๑๔.ครูบาคำแสน วัดสวนดอก เชียงใหม่
    ๑๕.ครูบาคำแสนน้อย วัดดอนมูล เชียงใหม่
    ๑๖.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี เชียงใหม่
    ๑๗.ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง เชียงใหม่
    ๑๘.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ก.ท.ม และ
    ๑๙.ครูบาไฝ วัดพันอ้น เชียงใหม่
    จากนั้นมีการสวดมนต์สมโภช โดยคณาจารย์อีกรวม ๑๐๘ รูป
    ระยะเวลาการปลุกเสก ๒ วันเต็ม
    การจัดสร้าง พระกริ่งรอดนิรันตราย ในครั้งนี้ นายช่างเกษม มงคลเจริญ สุดยอดช่างพระเครื่องอันดับ ๑ ของเมืองไทยเป็นผู้ออกแบบและแกะบล๊อค
    ด้านหน้าเป็นพิมพ์พระรอด
    ด้านหลังเป็นพระฤๅษีนารอด
    พระดี พิธีเยี่ยมครับ


    ราคา 2250 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900


    vxvxy.jpg cvxvx.jpg yu.jpg cbc.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2022
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10090

    พระกริ่งพุทธบุพพาภิมงคล ภปร. ปี2519 เนื้อนวะโลหะกล่องเดิมในหลวงร9เสด็จเททอง

    จัดสร้างโดยพระครูมงคลศีลวงศ์ (ตำแหน่งในขณะนั้น ปัจจุบันท่านคือ เจ้าอาวาส วัดบุพพาราม จ.เชียงใหม่ และ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่) ในปี 2519 ทางวัดมีความต้องการจัดหาทุนในการจัดสร้างหอมณเฑียรธรรม ของวัดบุพพารามโดยในวันทำพิธีมหาพุทธาภิเศก ทางวัดได้กราบบังคมทูลเชิญองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินเททองหล่อ พระประธานประจำหอมณเฑียรธรรม วัดบุพพาราม โดยได้รับการประทานชื่อพระพุทธบุพพาภิมงคล โดย พระองค์ท่านได้พระราชทานพระนามของพระพุทธรูปว่า " พระพุทธบุพพาภิมงคล
    รายชื่อพระคณาจารย์ที่มาร่วมพิธีพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก ๔๙ องค์
    .
    ๑ . ) สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธฯ(สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 18)
    ๒ . ) สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ (สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19)
    ๓ . ) สมเด็จพระธีรญาณ วัดจักรวรรดิ์ฯ
    ๔ . ) พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดสุทัศน์ฯ
    ๕ . ) พระวิสุทธาธิบดี วัดไตรมิตร
    ๖ . ) พระธรรมวโรดม วัดประทุมคงคา
    ๗ . ) พระพุทธวงศ์มุนี วัดเบญจมบพิตร
    ๘ . ) พระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญชัย
    ๙ . ) พระเทพวิสุทธิโสภณ วัดเชียงราย
    ๑๐. ) พระเทพวิสุทธิ์ วัดเจดีหลวง
    ๑๒. )*ครูบาคำแสน อินฺทจกฺโก* วัดสวนดอก(บุปผาราม)
    ๑๓. )*ครูบาคำแสนเล็ก คุณาลงฺกาโล* วัดบ๊าดอนมูล
    ๑๓. ) ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง
    ๑๔. ) ครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    ๑๕. ) หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาบ่อง
    ๑๖. ) พรอาจารย์หนู วัดแม่ปั่ง
    ๑๗. ) ครูบาอินถา วัดเชียงมั่น
    ๑๘. ) ครูบาจันทร์แก้ว วัดดอกเอื้อง
    ๑๙. ) พระครูสิงหวิชัย วัดฟ้าฮ่าม
    ๒๐. ) ครูบาบุญมี(พระครูธรรมธร) วัดท่าส๋อย
    ๒๑. ) ครูบาคำบัน(พระครูมงคลคุณาทร) วัดหม้อคำดวง
    ๒๒. ) ครูบาปั๋น วัดกู่คำ
    ๒๓. ) ครูบาแก้ว วัดวิเวกวนาราม
    ๒๔. ) ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    ๒๕. ) ครูบาจินา วัดท่าข้าม
    ๒๖. ) ครูบาคำตันดินจืน วัดดอนจืน
    ๒๗. ) พระอาจารย์ทองบัว วัดโรงธรรม
    ๒๘. ) ครูบาดวงดี สุภัทโท วัดทุ่งจำปี
    ๒๙. ) พระประสาท สุตาคม วัดจามเทวี
    ๓๐. ) พระราชสุมนต์มุนี วัดราชบพิธ
    ๓๑. ) ครูบาจุ่ม โพธิโต วัดวังมุย
    ๓๒. ) พระญาณวีราคม วัดดอนเจดีย์
    ๓๓. ) ครูบาเมือง วัดท่าแหน
    ๓๔. ) ครูบาคำแสน วัดท่าแหน
    ๓๕. ) พระอินทวิชยาจารย์ วัดคะตึก
    ๓๖. ) ครูบาอินโต วัดบุญยืน
    ๓๗. )*หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี*
    ๓๘ . ) ครูบาหล้า วัดดอยคู่ค้าง
    ๓๙. ) พระราชรัตนมุนี วัดพระบาทมิ่งเมือง
    ๔๐. ) พระชยานันทมุนี วัดพญาภู
    ๔๑. ) พระญาณมงคล วัดมหาวัน
    ๔๒. ) หลวงพ่อแพ วัดพิกุทอง
    ๔๓. ) หลวงพ่อนอ วัดกลาง
    ๔๔. ) หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวัน
    ๔๕. ) หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    ๔๖. ) หลวงพ่อถีร วัดป่าเรไลย์
    ๔๗. )*พระอาจารย์ มหาวีระ *(หลวงพ่อฤษีลิงดำ) วัดท่าซุง
    ๔๘. )*พระอาจารย์ผั้นอาจาโร* วัดป่าอุดมพร
    ๔๙. ) พระอาจารย์สำราญ วัดเขาตะเครา
    พ ร ะ ดี พิ ธี เ ยี่ ย ม
    พร้อมรับประกันความแท้ครับ


    ราคา 3650 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    vx.jpg wqwq.jpg [[p.jpg bbv.jpg lp;'.jpg Clip_3.jpg Clip_4.jpg Clip_6.jpg Clip_7.jpg Clip_8.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2022
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10091

    วัวธนูรุ่น2ครูบาคำแสน คุณาลังกาโล วัดป่าดอนมูลตอกโค๊ต สวยกล่องเดิมครับ


    ตำนาน แห่ง สุดยอดวัวธนูโลหะยอดนิยม อันดับ1 ของล้านนา
    เป็นวัวธนูอันดับ1ของล้านนา พุทธคุณป้องกันภูตผีปีศาจ ป้องกันคุณไสย ลบล้างเสนียดจัญไร ปกปักรักษาทรัพย์สินเงินทอง ป้องกันเหล่าโจรกรรมต่างๆได้อีกด้วย หรือว่าจะเอาไปทางเมตตามหานิยมหรือทางโชคลาภก็ได้เหมือนกัน เช่น ในเวลากลางวันให้หันหน้าเข้าบ้าน…ให้อธิฐานจิตเอาในทางโชคลาภ ส่วนในเวลากลางคืนให้เอาวัวธนูหันหน้าออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจและพวกเหล่าโจรกรรม
    #กล่าวกันว่า เมื่อคราวที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้มรณภาพลง ในย่ามของหลวงพ่อจะมีเครื่องรางที่ท่านพกติดตัวไปตลอดด้วย นั่นก็คือ วัวธนูของหลวงปู่ครูบาคำแสน ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เป็นจึงเป็นเรื่องราวที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ของ วัวธนูหลวงปู่ครูบาคำแสนครับ

    #คาถาสำหรับปลุกเสกวัวธนู
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า 3หน)
    โอม...โคโน มหาโคโน, โอม โคโส มหาโคโส, โอมกูจักมนต์วัวธนู กูสูงได้เก้าพันศอก, ปล๋ายหนอกได้เก้าพันวา, กูโอ้ดังก้องฟ้า อ้าปากร้องผีกลัว, เห็นเสือด่าหนี เห็นผีด่าจม, โอมสวาหะ ขะจัดเถ็กฯ
    โอม...โคโน มหาโคโน, โอมกูจักมนต์วัวธนู, กูบินฆะฆะ ตัวมีราคะมัวมืดเศร้า ปะริเทหะ ชนไอ้ดอกชน สัพพะศัตรู วินาสันตุฯ
    #วิธีปฏิบัติต่อวัวธนู ของหลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโล วัดป่าดอนมูล
    ให้หาหญ้าและน้ำใส่ภาชนะเป็นอาหาร ครบ 7วันให้เปลี่ยนทั้งหญ้าและน้ำเสียครั้งหนึ่ง ห้ามเอาวัวธนูไว้ปะปนกับพระพุทธรูปและเครื่องรางของขลังต่าง ๆ และทั้งห้ามเอาไว้สูงกว่าพระพุทธรูป วัวธนูมีไว้สำหรับป้องกันภัย ภูตผีปีศาจอันจะมารบกวนเราทั้งที่อยู่อาศัย และยังป้องกันพวกมิจฉาชีพเหล่าโจรกรรมทั้งหลายได้อีกด้วย หรือว่าถ้าจะเอาใช้ไปในทางเมตตามหานิยมหรือทางโชคลาภ ในเวลากลางคืนให้หันหน้าวัวธนูออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจและพวกเหล่าโจรกรรมได้อีกด้วย ในเวลากลางวันให้หันหน้าวัวธนูเข้าบ้านให้อธิษฐานเอาในทางโชคลาภ ให้จุดธูป ๓ ดอก ทุกเช้าค่ำ
    วัวธนูมีใว้สำหรับป้องกันภูตผีปิศาจอันจะมารบกวนเราทั้งที่ อยู่อาศัย และทั้งยังป้องกันเหล่าโจรกรรมต่างๆได้อีกด้วย หรือว่าจะเอาไปทางเมตตามหานิยมหรือทางโชคลาภก็ได้เหมือนกัน เช่น ในเวลากลางวันให้หันหน้าเข้าบ้านให้อธิฐานจิตเอาในทางโชคลาภ ส่วนในเวลากลางคืนให้เอาวัวธนูหันหน้าออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจและพวกเหล่าโจรกรรมได้อีกด้วย นับวันจะกลายเเป็นตำนาน ไปเสียแล้วกับ วัวธนู ครูบาคำแสน หายากมากๆ นานๆจะเจอสักตัว แบบนี้หากยากแล้วครับ เวลานี้ วัวธนูหลวงปู่คำแสนทุกรุ่น เริ่มหายากขึ้นเรื่อยๆ ราคาขยับสูงขึ้นตามความต้องการที่มีเพิ่มมากขึ้นแรงด้วยประสบการณ์ดี ครับ เวลานี้ ของแท้ๆ หาอยากแล้วครับ ผู้ที่มีก็เก็บเงียบกันหมด
    สวย ๆ พร้อมรับประกันความแท้ครับ


    ราคา 25500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_15.jpg Clip_16.jpg Clip_18.jpg Clip_19.jpg Clip_21.jpg Clip_22.jpg Clip_23.jpg Clip_25.jpg Clip_26.jpg Clip_27.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2022
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10092

    พระกริ่งรุ่นแรกหลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ เนื้อทองทิพย ์ เลข 2072 สวยเดิม ๆ

    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง
    นำปัจจัยรายได้ทั้งหมดจากการทำบุญวัตถุมงคลชุดนี้บูรณะวิหารวัดศรีดอนชัย สำหรับท่านที่ร่วมทำบุญจองพระกริ่ง พระชัยวัฒน์นี้ถือว่าท่านได้ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพในการบูรณะวิหารของวัดศรีดอนชัย เพื่อให้สำเร็จลุล่วงสืบไป
    ชนวนสำคัญที่หล่อองค์พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ รุ่นแรก ไตรมาส อธิษฐานจิต ๑ พรรษา ถ้วนไตรมาสปี ๒๕๕๐
    -ชนวนเททองหล่อพระเจ้าทันใจวัดร้องขุ้ม ซึ่งทำพิธีหล่อโดยหลวงพ่อประสิทธิ์ เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๔๙
    -ชนวนเททองหล่อพระประธาน ทำพิธีเททองโดยหลวงตามหาบัว ที่วัดป่าศาลาปางสัก
    -ชนวนเททองหล่อพระเจ้าทันใจวัดเจดีย์หลวง ทำพิธีเททองโดยหลวงตามหาบัว เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๙
    -ชนวนพระกริ่งหลวงปู่ครูบาเจ้าบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม รุ่นเศรษฐีล้มลุก ปี ๒๕๔๓
    -ชนวนเททองหล่อพระมหาจักรพรรดิ, หลวงปู่ทวด, หลวงปู่ดู่, ของหลวงตาวรงคต วัดพุทธพรหมปัญโญ ปี ๒๕๔๒
    -ชนวนเททองหล่อพระเจ้าเพชรศีมุงเมือง วัดศรีมุงเมือง ซึ่งทำพิธีหล่อโดยหลวงพ่อเปลี่ยน เมื่อปี ๒๕๕๐
    -ชนวนพระกริ่งหลวงปู่ครูบาอิน อินโท วัดทุ่งปุย รุ่นไจยะเบ็งจร ปี ๒๕๔๕
    -ชนวนเททองหล่อพระเจ้าแสนล้าน วัดเจดีย์หลวง ทำพิธีเททองโดยหลวงปู่พระพุทธพจนวราภรณ์ เมื่อนวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๙
    -ชนวนเททองหล่อพระพุทธสิงหชัยวัฒน์ และรูปเหมือนหลวงปู่ครูบาหน้อย วัดบ้านปง ซึ่งทำพิธีหล่อโดยหลวงพ่อเปลี่ยน เมื่อปี ๒๕๕๐
    -ชนวนพระกริ่งวัดสุทัศนเทพวราราม หลายนุ่น หลายพิธี
    -เศษพระบูชาเนื้อโลหะสำริดเก่าจำนวนมาก
    -ทองจังโก๋พระธาตุแช่แห้ง
    -ทองจังโก๋พระธาตุดอยสุเทพ
    -ทองยอดฉัตรเจดีย์วัดร้องขุ้ม ๒ สมัย
    -ทองยอดฉัตรอุโบสถวัดร้องขุ้ม
    -แผ่นยันต์ ๑๐๘ นะปถมัง ๑๔
    -แผ่นยันต์มหาพิชัยสงครามดวงประสูติ ตรัสรู้ พระพุทธเจ้า
    -แผ่นทองคำ เงิน ทองแดง ตะกั่วจารหลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่
    -แผ่นยันต์จารหลวงปู่ครูบาน้อยวัดบ้านปง
    -หลวงปู่ครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม
    -หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง
    -หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    -หลวงปู่ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง
    -หลวงปู่ครูบามา วัดศิริชัยนิมิต
    -หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
    -หลวงพ่อตัด วัดชายนา
    -หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน
    -หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว วัดศรีสว่าง
    -หลวงปู่ครูบาอินตา วัดวังทอง
    -หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
    -หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    -หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ
    -หลวงปู่สวัสดิ์ วัดศาสาปูน
    -หลวงพ่อรวย วัดตะโก
    -หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
    -หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล่อม
    -หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
    -หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
    -หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม
    -หลวงพ่อคูณ สัดบ้านไร่
    -หลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส
    -หลวงตาวรงคต วัดพุทธพรหมปัญโญ
    -หลวงปู่สังข์ วัดป่าอาจารย์ตื้อ
    -หลวงพ่อบัวเกตุ วัดป่าแม่ปาง
    -หลวงปู่ครูบาคำ วัดธรรมชัย
    -หลวงปู่ครูบาสิทธิ วัดปางต้นเดื่อ
    -หลวงปู่ครูบาแก้วมา วัดร่องดู่
    -หลวงปู่สุภา ภูเก็ต
    -หลวงปู่ครูบาตั๋น วัดม่อนปู่อิ่น
    -หลวงปู่ครูบาก๋องคำ วัดดอนเปา
    -หลวงพ่อประเสริฐ วัดพระพุทธบาทเวียงเหนือ
    -หลวงปู่ครูบาเผือก วัดไชยสถาน
    -ครูบาเจ้าจันทรังษี วัดกู่เต้า
    -หลวงปู่ครูบาอ่อน วัดสันต้นหวีด
    -หลวงปู่ครูบาคำปัน วัดนาแส่ง
    -หลวงปู่ครูมาสุข วัดป่าซางน้อย
    -หลวงปู่ครูบาบุญมา วัดช่างคำน้อย
    -หลวงปู่ครูบาคำปัน วัดพระธาตุม่อนเปี้ย
    -หลวงปู่ครูบาผดุง วัดป่าแพ่ง
    -หลวงปู่พระราชเจติยาจารย์ วัดเจดีย์หลวง
    -หลวงปู่ครูบาพรรณ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    -หลวงปู่ครูบาข่าย วัดหมูเปิ้ง
    -หลวงปู่บุญหนา วัดป่าโสตถิผล
    -หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง
    -หลวงพ่อเมือง วัดป่ามัชฌิมาวาส
    พิธีกรรม 8 วาระ
    วาระที่ 1
    วันที่ 30 พ.ค. 2550 เวลา 21.19 น. พิธีเททองหลอมชนวนหลวงพ่อประสิทธิ์ เป็นองค์เททอง ณ มณฆลพิธี วัดศรีมุงเมือง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
    วาระที่ 2
    วันที่ 9 มิ.ย. 2550 พิธีปลุกเสกชนวน เข้าพิธี ณ. วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน หลวงพ่อประสิทธิ์ พร้อมพระมหาเถระเกจิอาจารย์สายครูบาศรีวิชัยจำนวนมากนั่งปรกอธิฐานจิต
    วาระที่ 3
    วันที่ 13 มิ.ย. 2550 พิธีปลุกเสกชนวน เข้าเข้าพิธี ณ วัดพญาวัด อ.เมือง จ.น่าน ะรัเกจิสายเขาอ้อ จำนวน 8 รูป นั่งปรกอธิฐานจิต
    วาระที่ 4
    วันที่ 12 ส.ค. 2550 พิธีปลุกเสกชนวน เข้าพิธี ณ วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลวงพ่อประสิทธิ์ พร้อมพระคณาจารย์สายวัดป่า จำนวน 9 รูป นั่งปรกอธิฐานจิต
    วาระที่ 5
    วันที่ 14 ส.ค. 2550 พิธีปลุกเสกชนวน เข้าพิธี ณ วัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ครูบาเจ้าดวงดี พร้อมพระคณาจารย์สายครูบาศรีวิชัยจำนวนมากนั่งปรกอธิฐานจิต
    วาระที่ 6
    วันที่ 28 ส.ค. 2550 เวลา 17.09 น. พิธีเททองหล่อพระกริ่งแบบโบราณ หลวงพ่อประสิทธิ์ เป็นองค์เททอง เฉพาะเนื้อนวะโลหะทั้งหมด ณ มณฑลพิธี วัดร้องขุ้ม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
    วาระที่ 7
    วันที่ 29 ก.ย. 2550 จนถึง วันที่ 23 พ.ย. 2550 หลวงพ่อประสิทธิ์อธิฐานจิตเดี่ยว ณ วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    วาระที่ 8
    วันที่ 24 พ.ย. 2550 พิธีสมโภชพุทธาภิเษฏพระกริ่ง-พระชัย หลวงพ่อประสิทธิ์อธิฐานจิตเดี่ยว พร้อมพระคณาจารย์สายวัดป่าเจริญพระพุทธมนต์พุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่


    บูชาแล้วครับ

    Clip_35.jpg Clip_36.jpg Clip_37.jpg Clip_38.jpg Clip_34.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2022
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10093

    เหรียญตานใช้ตานแทน ครูบาวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เนื้อทองแดง สวยเดิม ๆ

    จัดสร้างขึ้นเป็นที่ระลึกในพิธีสำคัญ เป็นพิธีชำระหนี้เจ้ากรรมนายเวร ขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร (ตานใช้ตานแทน) เน้นทางการต่ออายุ เสริมดวงชะตา จะช่วยให้กรรมนั้นๆ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ จากเบาจนไม่มีผล
    ปลุกเสกในพิธีชำระหนี้สงฆ์ตานใช้ตานแทน ปี 2535 มีเกจิคณาจารย์ ร่วมปลุกเสกดังนี้
    1 . หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข
    2 . หลวงปู่ดาบส สุมโณ สำนักสงฆ์ไผ่มรกต เชียงราย
    3 . ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ ลำพูน
    4 . หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
    5 . หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
    6 . ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง
    7 . ครูบาน้อย วัดบ้านปง
    8 . ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    อักขระยันต์ด้านหลังของเหรียญทำน้ำมนต์ตานใช้ตานแทนนี้ เป็นอักขระยันต์พระโมคคัลลานะ เป็นเหรียญที่อยู่คู่กับเหรียญทำน้ำมนต์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง มีอานุภาพ คลายกฏแห่งกรรมเช่นเดียวกับเหรียญทำน้ำมนต์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง


    ราคา 850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_39.jpg Clip_40.jpg Clip_12.jpg Clip_13.jpg Clip_14.jpg Clip_10.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2022
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10094

    รูปหล่อโบราณ หลวงพ่อทบ ปี 2516 รุ่นอายุ 94 ปีเนื้อทองผสม วัดชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ตอกโค๊ต ๙๔



    รูปหล่อหลวงพ่อทบ พิมพ์ 94 ปี สร้างปี 2516 พิธีเสาร์ห้า องค์นี้สภาพสวยๆเลยครับ องค์พระหล่อได้ มีหน้าตา จมูก ปาก ครบ ลูกประคำเต็ม เรียงเม็ดเลยครับ รุ่นนี้เป็นรุ่นมากประสบการณ์ครับ


    หลวงพ่อทบ วัดชนแดน รูปหล่อชุดเสาร์ห้า ปี 2516 ครั้งที่2 ของวัดชนแดนปี พ.ศ. 2516 รูปหล่อ 94 ปีรุ่นนี้ เป็นพระหล่อจากโรงงานโดยการฉีดหรือเทน้ำโลหะลงแม่พิมพ์พร้อมๆกันหลายๆองค์ มีนักเล่นบางกลุ่มเรียกพระรุ่นนี้ว่าเป็นหล่อโบราณแต่จริงๆสร้างแบบหล่อฉีด จากโรงงาน เพราะว่าพระที่หล่อโบราณจริงๆต้องเทกันที่วัดทำด้วยฝีมือช่างชาวบ้าน แท้ๆ....พระชุดนี้เมื่อเทเสร็จจากโรงงานก็จะมีการขัดด้วยผ้าขัดไฟฟ้าและยา ขัดเพื่อตกแตกผิวพระให้เรียบลบมุมลบคมตามส่วนต่างๆเวลารูปพระชุดนี้จะลื่น มือไม่สดุดคมและบางองค์จะมีคราบยาแดงจับตามองค์พระ...ยิ่งทำให้พระดูง่าย จากนั้นก็มีการเจาะรูที่ใต้ฐานเพื่อบรรจุเม็ดกริ่งแล้วก็อุดรูด้วยทองแดง แล้วขัดๆปัดๆให้เรียบอีกที พระชุดนี้จะมีกะไหล่ทองด้วย..และบางส่วนจะมีการ "บรรจุกล่องตราเพชร" ด้วยแต่หายากมาก บางส่วนก็ไม่ได้บรรจุกล่อง แล้วนำมาให้หลวงพ่อปลุกเสกที่วัดชนแดนเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2516
    พระชุด นี้สร้างจริงจากโรงงานจะนวน 5,000 องค์ นำเข้าพิธีจริงๆ 2,500 องค์และทุกองค์จะตอกเลข 94 ใต้ฐานทุกองค์ หลวงพ่อปลุกเสกนาน2วัน แล้วนำพระชุดนี้ให้ประชาชนได้บูชาในวันที่ 7 เมษายน 2516 พระชุดที่บรรจุกล่องจะบรรจุกล่องกำมะหยีสีแดงที่กล่องจะมีอักษรเขียนว่า พิธีเสาร์5 รูปหล่อกริ่งหลวงพ่อทบ วัดพระพุทธบาทชนแดน เพชรบูรณ์ 7 เมษายน 2516 ขนาดองค์พระฐานกว้าง 1.5 เซนติเมตร สูง 2.5 เซนติเมตร เนื้อทองผสม.....เป็นพระดี..มากด้วยประสบการณ์อีกหนึ่งรุ่นของหลวงพ่อฯครับ..

    สวยเดิมๆไม่ผ่านการใช้ครับ


    บูชาแล้วครับ

    fvfd.jpg np.jpg bvbfv.jpg fds.jpg
    Clip_41.jpg

    ประวัติของ หลวงพ่อทบ

    หลวงพ่อทบพระครูวิชิต พัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญเทพเจ้าแห่ง ความเมตตา เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2424 ที่บ้านยางหัวลม ปัจจุบัน คือ ต.วังชมภู ต.นายม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์บิดาชื่อนายเผือกมารดาชื่อนางอินทร์ เมื่ออายุ 16 ปีได้บรรพชา

    เป็นสามเณรที่วัดช้าง เผือกบ้านยางหัวลม โดยมี พระอาจารย์สี เป็นพระอุปัชฌาย์

    ศึกษาร่ำเรียนหนัง สือขอมและ ไสยเวทวิทยาคมกับพระอาจารย์สีจนแตกฉาน พออายุครบ 21 ปี จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเกาะแก้ว ต.นายม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โดยมี พระครูเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ปาน เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และ พระอาจารย์สี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ธัมมปัญโญ

    หลวงพ่อทบเทพเจ้าแห่งความเมตตา ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.2424 ณ บ้านหัวลม ตำบลนายม เพชรบูรณ์ โยมบิดาชื่อเผือก โยมมารดาชื่ออินทร์ หลวงพ่อทบ ท่านบวชเณรตั้งแต่ พ.ศ.2440 ที่วัดช้างเผือก และอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2445 ที่วัดเกาะแก้ว บ้านนายม เพชรบูรณ์ โดยมีพระครูเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ปานเป็น พระกรรมวาจาจารย์

    พระอาจารย์สีเป็น พระอนุสาวนาจารย์ อุปนิสัยของหลวงพ่อทบ วัดชนแดนท่านเป็นพระที่มีเมตตา สุขุมเยือกเย็น พออายุได้ 10 ขวบ คุณพ่อเผือกก็ได้นำไปฝาก ไว้ที่วัดช้างเผือก เพื่อให้เรียนหนังสือไทย หนังสือขอม พร้อมกับคณิตศาสตร์ ซึ่งเด็กชายทบนั้น ก็ไม่ทำให้คุณพ่อเผือกเสียชื่อ ทั้งเขียน

    ทั้งอ่านได้คล่องแคล่ว กว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน จนได้รับคำชมเชยจาก หลวงตากี ซึ่งเป็นครูสอน เด็กชาวบ้าน ในขณะนั้นว่า เป็นเด็กฉลาดว่านอนสอนง่าย เติบใหญ่ไปภายหน้า จะได้ดีกว่าคนอื่นๆ อุปนิสัย ของหลวงพ่อทบ ท่านเป็นคนมีเมตตา เยือกเย็น สุขุม ปรานีต่อสัตว์ทั้งปวง

    ดังจะเห็นได้จากเรื่องนี้ ก่อนที่หลวงพ่อทบ จะออกบวชนั้น แถวนายมเมื่อประมาณ หนึ่งร้อยปีที่ผ่านมายัง เรียกว่าเป็นป่าดงดิบ มีแต่ป่าไม้ สัตว์ป่าชนิดต่างๆ ชุกชุมมาก ในสมัยนั้นชาวนา ชนบทต้องดำรงชีวิต ด้วยอาหารจากป่าเป็นส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นหน่อไม้

    หัวเผือก หัวมัน ผลไม้ชนิดต่างๆ ป่าไม้ไม่ถูกทำลาย มนุษย์ก็ยังมีไม่มากเหมือนปัจจุบัน ทุกอย่าง อุดมสมบูรณ์ไปหมด ถ้าหากว่าออกไปหาอาหารเพียงชั่วครู่ก็จะได้อาหาร ติดมือมา ทำกับข้าวทันที คนในสมัยก่อนโน้นฝากปากฝากท้อง ไว้กับธรรมชาติ คือป่าเขาลำเนาไพร

    %E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%9A2.jpg
    ซึ่งผิดกับคนในสมัยนี้อย่างลิบลับ ที่ฝากปากฝากท้องไว้กับร้านอาหาร ดูมันง่ายและสะดวกดี ภายในครอบครัวของหลวงพ่อทบ ก็เช่นกัน นายทบ ม่วงดี อายุขณะนั้นได้ 16 ปี ก็บังเกิดความเบื่อหน่าย ชีวิตในการครองเรือนที่เห็นว่าไม่มี สาะแก่นสารอันใด หวังเอาพระนิพพานเป็นที่พึ่ง

    หลวงพ่อทบ จึงขออนุญาต จากคุณพ่อเผือก และคุณแม่อินทร์ ซึ่งท่านทั้งสองก็มองเห็นความตั้งใจอันดี ของลูกชายจึงออกปากอนุญาต และได้นำนายทบ ม่วงดี ลูกชายไปบรรพชาที่ วัดช้างเผือก โดยมี พระอาจารย์สี เจ้าอาวาสวัดช้างเผือกในขณะนั้น เป็นผู้บรรพชาให้

    เมื่อ เมื่อได้บรรพชา เป็นสามเณรแล้ว ก็ได้ศึกษาหาความรู้ต่างๆ ในสำนักของพระอาจารย์สี ไม่ว่าจะเป็น พระธรรม พระวินัย สวดมนต์เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน ตลอดจนหัดเทศน์ เรียกได้ว่าท่านไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไร้ประโยชน์อย่างแท้จริงจนถึงปี พ.ศ.2445

    สามเณรทบ มีอายุครบ 21 ปี ทางคุณพ่อเผือ และคุณแม่อินทร์ ก็ได้นำสามเณรทบไปทำการอุปสมบทที่ วัดศิลาโมง บ้านนายม ตำบลนายม อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี ท่านพระครูเมือง เป็นพระอุปัชณาย์ พระอาจารย์ปาน

    เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สีท่านนั้น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ธัมมปัญโญภิกขุหลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านก็ได้กลับไปจำพรรษาที่วัดช้างเผือก 2 พรรษา ในระหว่างนี้หลวงพ่อทบก็ได้ใช้เวลาทั้งหมดศึกษาวิปัสสนา

    เมื่อครั้งหนึ่ง ท่านได้เดินธุดง ค์ผ่านไปพบกองกระดูกอยู่กับกองผ้าเหลืองเปื่อยๆ ผุๆ พร้อมกับกลด และบาตรที่สิ้นสภาพ หลวงพ่อทบจึงรู้ในขณะนั้นว่าพระธุงดงค์รูปที่มานอนมรณภาพ อยู่ตรงหน้านี้ต้อง อาบัติในธุดงค์วัตร มีวัตรอันไม่บริสุทธิ์

    จึงต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้อย่างน่าอนาถ ท่านจึงได้รวบรวมผ้าเหลือง กระดูก กลด และบาตรเข้าด้วยกัน แล้วนำไปฝังอย่างเรียบร้อย พร้อมกับสวดมาติกาบังสุกุลให้เป็นที่เรียบร้อย จึงตกลงใจปักกลดค้างคืนอยู่ ที่ตรงนั้น พอตกดึกในคืนนั้นเอง ขณะที่ท่านกำลังทำสมาธิภาวนา พลันก็มีสิ่งแปลกปลอมเดินเข้ามาใกล้กลด

    กลิ่นสาบสางคละคลุ้งโชยเข้าจมูก แทบจะสำลัก หลวงพ่อทบยังคงนั่งสมาธิภาวนาอย่างแน่วแน่ ไม่ยอมขยับเขยื้อน เจ้าเสือพานกลอนขนาดใหญ่เห็นท่าน ไม่เกรงกลัวมัน มันจึงแยกเขี้ยวขู่คำรามอย่างดุร้ายหมายจะกัดกินท่านเป็นอาหาร ท่านจึงรวบรวมจิตแผ่เมตตาออกไปให้กับเสือ พร้อมปากก็พูดว่า

    %E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%9A4.jpg
    เอ็งหากินของเอ็ง ข้าก็ออกธุดงค์เพื่ออยู่ในทางธรรม เอ็งอาศัยสัตว์น้อยใหญ่ต่อชีวิต ข้าก็อาศัยภัตตาหารดำรงชีวิต เอ็งมาข้าก็ดีใจ ไม่มีอะไรก็นอนเสียเถิดหลังจากกล่าวจบแล้วหลวงพ่อทบก็น้อมชีวิตเป็นพุทธบูชา โดยอธิษฐานว่า

    หากเสือกับท่านมิได้เคยผูกพยาบาท อาฆาตจองเวรต่อกันในชาติปางก่อน ก็ขอให้เสือหลีกทางให้ ถ้าเคยผูกเวรกันมา ก็ขอให้เอาท่านไปกินเพื่อชดใช้กรรม เป็น ที่อัศจรรย์ปรากฏว่า เสือตัวนั้นหยุดคำราม และทำตามคำสั่งของท่านอย่างว่าง่าย เหมือนพูดกับนักเรียน

    มันลดความดุร้ายลง และค่อยๆ ล้มตัวลงนอนข้างๆ กลดของท่าน ส่วนท่านก็ได้เจริญสมาธิภาวนาจนรุ่งเช้า พอท่านลืมตาขึ้นมาดูอีกครั้ง ก็พบว่าเสือสมิงได้หายไปจากที่มันล้มตัวนอนเมื่อคืนนี้ คงเหลือแต่รอยเท้าของมันที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้

    หลังจากนั้นท่านก็ได้เดินธุดงค์ต่อไป จนกระทั่งได้พบกับพระธุดงค์อีกรูปหนึ่ง จึงได้ชักชวนกันเดินธุดงค์ ไปจนทะลุถึงเขตชายแดนพม่า ณที่นั้นเอง หลวงพ่อทบและพระธุดงค์รูปนั้นก็ได้แสดงอภินิหารซึ่งกันและกัน และได้แลกเปลี่ยนวิทยาคม

    จนเป็นที่พอใจแล้วต่างก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง หลวงพ่อทบได้เดินธุดงค์ต่อไปจนถึงประเทศลาว ท่านได้เคยรู้จักคุ้นเคยกับพระเณรที่เวียงจันทร์หลายรูปด้วยกัน เมื่ออยู่ที่นครเวียงจันทร์ ท่านได้ช่วยเหลือพระเณรที่นั่นก่อสร้างสิ่งต่างๆ จนสำเร็จหลายแห่ง

    จนเป็นที่ชื่นชอบอัธยาศัยของ พระเณรในเวียงจันทร์มาก ถึงกับนิมนต์ให้ท่านประจำวัด อยู่ด้วยกันตลอดไป แต่ท่านได้ปฏิเสธไป เพราะท่านยังมีภาระที่จะต้องทำอีกมาก เมื่อหลวงพ่อได้ปฏิเสธ ในการอยู่เวียงจันทร์แล้ว

    ช่วงเวลาก่อน มรณภาพ
    ท่านออกธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ มากมายหลังจากนั้นท่านก็มาจำพรรษาอยู่ที่วัดศิลาโมง วัดเสาธงทองเจริญธรรม วัดเกาะแก้ว วัดสว่างอรุณ วัดพระพุทธบาทเขาน้อย และวัดช้างเผือก เป็นต้น และทุกวัดที่หลวงพ่อทบท่านจำพรรษาอยู่ท่านจะบูรณปฏิสังขรณ์ จนวัดมีความเจริญรุ่งเรืองทุกวัด

    %E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%9A6.jpg
    หลวงพ่อทบ ท่านมรณภาพในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2519 ปัจจุบันสังขารของหลวงพ่อทบนั้นไม่เน่าไม่เปื่อยเป็น ที่ฮือฮาของคนเพชรบูรณ์ยิ่งนัก ยังเก็บรักษาไว้ในโลงแก้วภายในวัด ตามเจตนาของ ท่าน ตั้งแต่อดีตจวบถึงปัจุบัน มีประชาชนมามนัสการ เป็นประจำมิได้ขาดสายเลยแห่กันมาทั่วศ้าเมืองไทยมากราบท่านซึ่งร่างกายท่านไม่เน่าไม่เปื่อย ใส่อยู่ในโลงแก้วคาถาบูชาหลวงพ่อท่องก่อนออกจากบ้าน นะติตันโต นโมตันติ นะคือพ่อ โมคือแม่ มาอยู่หัว นี่คือประวัติคร่าวๆของเกจิแห่งเมืองเพชรบูรณ์เทพเจ้าแห่งความเมตตาหลวงพ่อทบ

    ขอขอบคุณบทความประวัติเกจิชื่อดังดีๆจาก ufabet.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2022
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10095

    พระปิดตารุ่นแรกครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืน พิมพ์กลาง เห็นเส้นเกศา
    สวยเดิม ๆ เลี่ยมเงิน พร้อมใช้


    พระปิดตาศิริคูณไชย ปี 2536 รุ่นแรก พิมพ์กลาง ครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืน พุทธคุณเมตตาสูงมาก โชคลาภมีมาไม่ขาดสาย ค้าขายเจิญงอกงาม จัดสร้างเมื่อ 11ตุลาคม 2536 ที่วัดหนองช้าคืน มวลสารในการจัดสร้าง - เม็ดพระธาตุ วัดดอยขม้อ - ผงตะไบหลวงปู่ทวด - ผงสมเด็จหลวงพ่อกวย - ผงขุนช้างครูบาอินสม - จีวร ก้นบุหรี่ หลวงพ่อคูน - ชนวนหล่อ พระโมคัลลา พระสารีบุตร - ผงพระเปิม - ผงพระคง - ผงพระสาม - กาฝากขนุน - กาฝากไม้รัก - เกศาครูบาจันต๊ะ - น้ำสรงพระพุทธสิหิงค์ วัดพระสิงห์ - น้ำสรงพระ วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ - ผงเกษรดอกไม้ ร้อยแปด - น้ำมันตั้งอิ๋ว พระอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก ได้แก่ - ครูบา จันต๊ะ วัดหนองช้างคืน - ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี - ครูบาอินสม วัดทุ่งน้อย เจ้าตำรับ ขุนช้าง - ครูบาน้อย วัดบ้านปง

    ราคา 4550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    พระปิดตารุ่นแรกครูบาจันต๊ะ 2.2 a.jpg พระปิดตารุ่นแรกครูบาจันต๊ะ 2.2 b.jpg พระปิดตารุ่นแรกครูบาจันต๊ะ 2.2 c.jpg พระปิดตารุ่นแรกครูบาจันต๊ะ 2.2 d.jpg

    1578289788b345f96c6ae6a5e3d981843d57fd81c6.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2022
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10096

    หรียญรุ่นแรกครูบาดวงดี ติโก วัดบ้านฟ่อน ปี 2540


    หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก ท่านเป็นมหาเถร พระอริยสงฆ์อีกองค์ของแดนล้านนา ที่มีอายุพรรษามากถึง 103 ปี ถึงพร้อมด้วยจิตที่เป็นวิสุทธิจิต
    ครูบาดวงดีท่านเป็นพระนักพัฒนาและยังเป็นหมอยาแผนโบราณอีกด้วย โดยสมัยก่อนท่านทำยาแผนโบราณได้หลายอย่าง โดยท่านทำเองทั้งหมด ตั่งแต่ไปเก็บว่านสมุนไพรต่างๆ ในป่า แล้วนำมาคั่วและบดทำเองทุกขั้นตอน รักษาชาวบ้านหายมานักต่อนักแล้ว หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรมอย่างเคร่งครัด และได้คอยอบรมสั่งสอนพระ เณรและศรัทธาญาติโยมของท่านอยู่มิขาด
    ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีจริยาวัตรอันงดงาม และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังรูปหนึ่ง ครูบาดวงดี ยติโก นับเป็นพระผู้มีอริยะคุณอันยอดเยี่ยมยิ่งที่หาได้ยากยิ่งแล้วในปัจจุบัน เป็นผู้มีความชำนาญในเรื่องยาวิเศษนานาประการ ที่ในสมัยก่อนหลวงปู่ท่านดั้นด้นค้นหายาวิเศษตามป่าเขาในทุกที่เพื่อนำมาปรุงยา อีกทั้งได้นำเอาผงยาวิเศษอันเลื่องลือคือ ว่านไก่แดง มาจัดสร้างเป็นวัตถุมงคลให้ลูกหลานญาติธรรม ได้มีไว้บูชาติดตัว จึงนับว่าหลวงปู่ท่านได้นำเอาผงยาวิเศษนี้ มาให้ชนรุ่นหลังได้รู้จัก จนมาถึงทุกวันนี้ วัตถุมงคล ครูบาดวงดี ยติโก ทุกรุ่นล้วนได้รับความนิยม มีคำร่ำลือเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย มีศรัทธาญาติโยมมาเคารพสักการบูชา อยู่มิขาดได้ทุกวันโดยมีศรัทธาญาติโยมจากต่างตำบล ต่างอำเภอ ต่างจังหวัดเดินทางมาขอพรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์มิได้ขาด หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก นับเป็นพระผู้มีอริยะคุณอันยอดเยี่ยมยิ่งที่หาได้ยากในปัจจุบัน
    #เหรียญรุ่นแรกของท่านครูบาดวงดี ยติโก จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2540
    โดยได้นำเหรียญไปขอเมตตาให้สุดยอดเกจิเมืองเหนือได้ร่วมอธิฐานจิตปลุกเสกอาธิเช่น
    ครูบาบุญปั๋น วัดร้องคุ้ม
    ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง
    ครูบาเผือก วัดไชยสถาน
    ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน
    #วัตถุมงคล ยอดนิยมของท่านหลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก ที่ได้รับความนิยม มีคำร่ำลือเรื่องแคล้วคลอดภัย


    ราคา 4250 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B5-1-7-a-jpg.jpg
    B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B5-1-7-b-jpg.jpg
    B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B5-1-7-c-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2022
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10097

    เหรียญลายมือลายเซ็นต์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ปี 46

    สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2546 ซึ่งนับเป็น รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้อัญเชิญ”ลายเซ็น” และ”ลายมือ”บันทึกธรรม ตลอดจน”อักขระยันต์หัวใจยูงทอง”แท้ๆ ที่หลวงปู่มั่น ได้เขียนไว้ด้วยองค์เอง มาบรรจุไว้ในเหรียญ”ภูริทัตโตอนุสรณ์”อย่างสมบูรณ์แบบและสวยงามที่สุด อย่างที่ไม่อาจจะหาเหรียญหลวงปู่มั่น รุ่นใดๆ มาเสมอเหมือนได้
    ด้านหน้า จะแกะเป็นรูปหลวงปู่มั่น ครึ่งองค์ แวดล้อมด้วยอักขระยันต์ “นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุติยา” พร้อมด้วยลายเซ็น”พระภูริทัตตเถร” ลายมือดั้งเดิมของท่านเองแท้ๆ
    ส่วนด้านหลัง ได้อัญเชิญลายมือ”บันทึกธรรม”ของหลวงปู่มั่น ที่ว่าด้วยเรื่อง”ขันธวิมุติสมังคีธรรม” มาประดิษฐานเป็นมหา”ธรรมมงคล”อันสูงสุดไว้จนเต็มเนื้อที่ อย่างสวยงามและได้อารมณ์แห่ง”ความหลุดพ้น”อย่างเต็มๆ ชนิดที่ไม่ต้องไปหาอะไรที่จะยิ่งกว่าได้อีกแล้ว
    แม้เหรียญ”ลายมือลายเซ็น”รุ่นนี้ จะมีเนื้อทองคำ,เนื้อเงินเป็นพิเศษก็จริง แต่ก็มีเฉพาะเหรียญเนื้อนวโลหะและเนื้อทองผสม ที่ได้ผสมชนวนเหรียญ”ป.มาลากุล”อย่างแท้จริง
    ส่วนพิธีการมังคลาภิเษกเหรียญลายมือลายเซ็น”ภูริทัตโตอนุสรณ์”รุ่นนี้ได้กระทำอย่างพิเศษและยิ่งใหญ่ที่สุดโดยได้อัญเชิญเหรียญทั้งสิ้นขึ้นประดิษฐานข้างมณฑป”ทันตธาตุ” ของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่วัดเจดีย์หลวง จ. เชียงใหม่ ในมหาพิธียกช่อฟ้าพระวิหารพระอาจารย์มั่น เมื่อปีพ.ศ.2546 โดยพระวิหารหลังนี้ ได้สร้างทับตรงบริเวณที่พระอาจารย์มั่นเคยมาพำนักปฏิบัติธรรมสมัยที่ตามท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) มาที่วัดเจดีย์หลวงเพื่อราวปีพ.ศ. 2484
    มหาพิธีในครั้งนั้น มีพระมหาเถรานุเถระอาวุโสที่เป็นศิษย์”สายตรง”ในท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต จำนวนมากอย่างเต็มรูปแบบไม่ต่ำกว่า 108 รูปด้วยกัน โดยได้รับความเมตตาจากท่านพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พระอริยเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐสุดและเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตมากและนานที่สุดองค์หนึ่งเป็นองค์ประธานอธิษฐานจิตและยกช่อฟ้าด้วยองค์ของท่านเอง
    เหรียญ”ภูริทัตโตอนุสรณ์” ได้อัญเชิญไปประดิษฐานโยงสายสิญจน์อยู่ประชิดติดกับบุษบกที่ประดิษฐาน”อัฐิธาตุ”และ”ทันตธาตุ”ฟันกราม ของหลวงปู่มั่น ในพระวิหารซึ่งสร้างทับบริเวณ”กุฏิเก่า”ที่ท่านพระอาจารย์มั่น ได้เคยมาพำนักบำเพ็ญภาวนา อันเป็น”จุดศูนย์กลาง”แห่ง”มหาพลัง”และ”มหาบารมี”แห่งบรมพิธีทั้งปวง อันจะหาใดอื่นมาเสมอเหมือนมิได้อย่างแน่แท้มีพระมหาเถระนุเถระทั้งสาย”กรรมฐาน”และ”เมืองเหนือ”ร่วมเจริญพระพุทธมนต์สมโภชโมทนาจำนวนมากถึง 350 รูปด้วยกัน แลดูอลังการละลานตาละลานใจไปทั่ว โดยมีท่านเจ้าคุณพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    แห่งวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
    พระอัครอรหันต์เจ้าแห่งสยามประเทศ ซึ่งเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดที่สุดและรับถ่ายทอดปฏิปทาจากองค์หลวงปู่มั่นมามากที่สุดเป็น”องค์ประธาน”ในการพิธีทั้งปวงอย่างดียิ่งและสมบูรณ์แบบที่สุด
    ทั้งนั้น เห็นจะเป็นทั้งในส่วนแห่งความ”กตัญญูผูกพัน”ส่วนตัวกับ”พ่อแม่ครูอาจารย์มั่น” ที่ลึกซึ้งยิ่งใหญ่อย่างไม่มีที่สิ้นสุดประการหนึ่ง
    และทั้งด้วยฐานะที่ท่านหลวงตามหาบัวนั้น มีความผูกพันในฐานที่เป็น”ตุ๊เจ้าหลวง”ซึ่งเป็น”ศิษย์เก่า”ของวัดเจดีย์หลวงนี้มาแต่เดิมอีกประการหนึ่ง.....
    เพราะท่านได้เล่าเรียนปริยัติธรรมจนสำเร็จเปรียญ 3 ประโยค จนได้ชื่อนำหน้าว่าเป็น”มหา” ก็บ่แม่นที่แผ่นดินอีสานบ้านเกิดของเพิ่นแต่อย่างใด
    แต่”ตุ๊เจ้าหลวงบัว”ได้กลายเป็น”พระมหาบัว” กลับเป็นที่สำนักเรียนของ “วัดเจดีย์หลวง” กลางเวียง

    ด้วยเหตุนี้ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกและอัศจรรย์อันใดเลย ที่หลวงตามหาบัวท่านจะได้อธิษฐานจิต ”ทำน้ำมนต์”ในมหาพิธีนี้ให้อย่างเนิ่นนานเป็นพิเศษยิ่งกว่าพิธีใดๆทั้งสิ้น
    ซ้ำท่านก็ยังได้”เป่า”ลมปราณสลับกับการเจริญพุทธคาถาลงในขันน้ำมนต์ศิลา ที่ผูกสายสิญจน์โยงไปถึงพระวิหารปู่มั่นและเหรียญ”ภูริทัตโตอนุสรณ์”นี้ถึง “3 ”ครั้ง 3 ครา สำทับให้อีกต่างหากด้วย

    ราคา 850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    bvy.jpg olk.jpg ccx[.jpg Clip_11.jpg
     
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10098

    เหรียญหลวงปู่มั่น ที่ระลึกสร้างวัดป่าอาจารย์มั่น บ้านแม่กอย อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ปี 2517

    อธิษฐานจิตโดยหลวงปู่สิม พุทธจาโร


    ราคา 1550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    ikl.jpg oj.jpg wsa.jpg Clip_11.jpg
     
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10099

    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อดาบส สุมโน ปี 2527 ตอกโค๊ต สวยเดิม ๆ

    ราคา 1250 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    หลวงพ่อดาบส ท่านเป็นพระอริยะเจ้า เป็นพระบุญฤทธิ์ และ อิทธิฤทธิ์ เป็นพระสุปฏิปันโนที่ควรแก่การสักการะ กราบไหว้ เมื่อท่านมรณภาพแล้วขนาดหัวใจของท่าน ยังเผาไม่ไหม้ แถมยังแปรสภาพเป็นพระธาตุ สีเขียวมรกต
    ครูบาอาจารย์หลายท่าน ให้ความยกย่อง บางท่านให้ศิษย์ไปกราบไว้ ไปทำบุญ ไปเรียนวิชากับท่าน
    “หลวงพ่อดาบส สุมโน
    ” เดิมชื่อ “สง่า” นามสกุล “เจริญจิตต์”
    เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ กัน ยายน ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ พ.ศ.๒๔๖๗ ปีชวด ตำบลบางกระไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
    เป็นลูกคนที่ ๖ ในจำนวนทั้งหมด ๘ คน
    บิดาชื่อ “นายเถียน” มารดาชื่อ “นางเวียง”
    ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๔ ขณะอายุได้ ๗ ปี มารดาก็ถึงแก่กรรมและต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๘ อายุได้ ๑๑ ปี “เด็กชายสง่า” ก็ต้องสูญเสียบิดาบังเกิดเกล้าไปอีกคน จึงอยู่ภายใต้การดูแลของ “คุณป้า” และเริ่มเรียนหนังสือชั้นประถมศึกษาที่ ๑ โรงเรียนวัดบางกระไชย จบชั้นประถมปีที่ ๔ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๘
    ครั้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕ อายุได้ ๑๘ ปี “คุณป้า” ได้นำ “เด็กชายสง่า” ไปบรรพชาที่ “วัดจันทนาราม จังหวัดจันทบุรี” เพื่อเรียนปริยัติธรรมซึ่งต่อมาสามารถ สอบได้ทั้ง “นักธรรมตรี” และ “นักธรรมโท”
    ในปี พ.ศ.๒๔๘๗ อายุครบ ๒๐ ปี “สามเณรสง่า” จึงอุปสมบทเป็น “พระภิกษุ” โดยมีท่าน “เจ้าคุณอมรโมลี” เป็นอุปัชฌาย์ได้ฉายาว่า “สุมโน” กระทั่งปี พ.ศ.๒๔๘๙ อันเป็นพรรษาที่ ๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” ได้กราบลา “พระอุปัชฌาย์” เพื่อเดินทางไปศึกษา “ภาษาบาลี” กับท่าน “เจ้าคุณรัชมงคลมุณี” วัดหนองบัว จังหวัดระยอง ต่อมาในปี
    พ.ศ.๒๔๙๐ ด้วยจิตที่มุ่งมั่นจะปฏิบัติธรรม แสวงหาธรรม จึงออกเดินธุดงค์ไป “จังหวัดเชียงใหม่” ตามเส้นทาง “อำเภอดอยสะเก็ด” สู่ “ถ้ำเชียงดาว” อำเภอเชียงดาวได้ธุดงค์พลัดเข้ามาสู่เขตพื้นที่ของ “อำเภอพร้าว” ในปี ๒๔๙๐ ถึง ๒๔๙๔ จึงพำนักและปฏิบัติธรรมใน “ป่าช้า” ของตำบลเวียง อำเภอพร้าว หรือ “วัดป่าเลไลย์” เป็นเวลาถึง ๔ ปี
    ปี พ.ศ.๒๔๙๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” เดินทางมาพำนักที่ “วัดเจดีย์หลวง” จัง หวัดเชียงใหม่ โดยปฏิบัติธรรมกับ “เจ้าคุณวินัยโกศล” (จันทร์ กุสโล) หรือ “พระพุทธพจนวราภรณ์” แล้วจึงออกจาก “วัดเจดีย์หลวง” ธุดงค์ไปตามเส้นทางสู่ “อำเภอดอยสะเก็ด” อีกครั้งพร้อมลัดเลาะไปตามป่าเขาถึง “ดอยพระเจ้าหล่าย” วันนั้นเป็น วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๔ ตรงกับแรม ๖ ค่ำ เดือนยี่เวลา ๑๗.๐๐ น. “พระภิกษุสง่า สุมโน” จึงตั้งสัจจะอธิษฐาน ณ ดอยพระเจ้าหล่าย ขอสละเพศบรรพชิตขอลาสิกขาบทจากการเป็น “พระภิกษุสงฆ์” โดยหันมาถือการครองเพศเป็น “ดาบส” ที่มีเพียง ผ้าอังสะและผ้าสบง เพียงสองผืนหุ้มห่อร่างกายไว ้จากนั้นจึงครองเพศเป็น “ดาบส” และปฏิบัติธรรมอยู่บน “ดอยพระเจ้าหล่าย” โดยมิได้ฉันทั้งอาหาร และน้ำถึง “๓ วัน ๓ คืน” จากนั้นจึงเดินทางลงจากดอยเพื่อธุดงค์ไปจังหวัด ต่างๆ ทั้ง แพร่ ลำปาง น่าน ยะลา ชุมพร และท้ายสุดปฏิบัติธรรมที่ “อาศรมไผ่มรกต” ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย จนมรณภาพ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๓๔ สิริอายุได้ ๗๖ ปี
    “หลวงพ่อดาบส สุมโน” นับเป็น “ผู้บำเพ็ญเพียร” ด้วยศีลาจารวัตร บริสุทธิ์ผุดผ่องจนได้พบแสงสว่างแห่งธรรมเจิดจ้า และธรรม ที่ท่านแสดงให้บรรดาศิษย์ได้ยังความสุข ความสงบ ความร่มเย็น ให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้ที่เคยฟังธรรมจากท่านจึงนับได้ว่าท่านเป็น “ประทีปธรรม” แห่งภาคเหนือที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ และในจิตใจ ของประชาชนตลอดไป

    เหรียญลพ.ดาบส 500 a.JPG เหรียญลพ.ดาบส 500 b.jpg Clip_3.jpg Clip_4.jpg



     
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10100

    เส้นเกศาครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง เส้นเกศาของพระผู้ปฎิบัติ

    เส้นเกศา และเศษขี้ไคล หนังศรีษะ เริ่มแปรสภาพเป็นพระธาตุเป็นก้อนเล็ก แล้ว ของมงคลสูงสุดครับ

    ราคา 950 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    IMG_2483.JPG
    IMG_2484.JPG

    ครูบาอิน9.jpg
    ครูบาอิน.jpg
     
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10101

    พระผงเกศารุ่นแรก ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง

    สร้างปลายปี ๒๕๓๓ ผู้สร้างคือคณะศิษย์และพระเณรในวัด ที่จดจำได้ก็มี พระไพบูลย์ อินทปัญโญ (พระอาจารย์พิณ) ผู้ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องวัตถุมงคลต่างๆ ของทางวัด พระอธิการปรีชา เปสโล ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นสามเณร ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดฟ้าหลั่ง พระอาจารย์วุฒิ ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดศิลามงคล (วัดครูบาบุญมี) อ.ดอยหล่อ ทางเดียวกับวัดใหม่หนองหอย และยังมีพระอาวุโสอีกรูปหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้ลาสิกขาบทไปแล้ว ชื่อพ่อหนานเรือง รวมทั้งพระเณรรูปอื่นๆ ที่อยู่ในวัดฟ้าหลั่งตอนสมัยนั้น
    สร้างจาก ผงเกศาเนื้อผงเถ้า จากการเผาดอกไม้ที่ญาติโยมนำมาบูชาพระ แล้วตักเอาแต่ผงเถ้า ผสมดินจอมปลวกด้านหลังวัด น้ำมันละหุ่ง ผงว่าน และเกศาของหลวงปู่ ใช้เวลารวบรวมมวลสารกว่า ๓ ปี เพราะดอกไม้ต้องนำมาตากแห้งแล้วเผา เก็บผงเถ้าครั้งหนึ่งก็ได้ไม่มาก ว่านยาต่างๆ ก็ต้องโขลกต้องตำกันเองภายในวัด หลังจากนั้นก็นำมากดพิมพ์ได้ประมาณหมื่นกว่าองค์ ขนาดองค์พระกว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร สูงประมาณ ๓ เซนติเมตร

    ของดีที่น่าใช้มาก ๆ เลี่ยมพลาสติกกันน้ำ พร้อมใช้ครับ


    ราคา 1850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    cczz.jpg ddsss.jpg vgo.jpg ครูบาอิน9.jpg
     
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10102

    พระฤาษีตาไฟ ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง
    เนื้อว่านผสมดินกากยายักษ์ ปี 2557

    ……………………………………………………………………

    พระฤาษีตาไฟ (พระเนตรมุนีศวร)
    ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์แรงกล้าในจักรวาล
    บรมครูแห่งญาณสัมผัส (ทิพยจักขุญาณ)
    เชื่อกันว่าท่านคือ พระศิวะ อวตารมา
    มี ๓ เนตร ตาที่3 จะพาดขวางอยู่กลางหน้าผาก
    ทรงอำนาจและมีอิทธิฤทธิ์มากมาย
    ท่านจะหลับสนิทอยู่ในณานตลอดเวลา
    ถ้าหากว่าเผยอเปลือกตาที่ 3 ขึ้นมาเมื่อไร
    จะมีเปลวไฟพุ่งออกมาจากดวงตา
    เผาไหม้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าท่านให้มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน ส่วนใหญ่ไฟนี้ท่านจะใช้ทำลายล้างพวกมารหรือคนไม่ดี
    นอกจากนี้ท่านยังมีพระเวททางด้านคงกระพัน แคล้วคลาด มหาอุด และมหาปราบ
    ท่านมีนิสัยดุ พูดเสียงดัง แต่จิตใจดี
    ชอบช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก
    ท่านสามารถดลบันดาลเรื่องที่สุดวิสัย
    ให้เป็นไปได้อย่างเหลือเชื่อเสมอ
    ท่านเป็น"บรมครูแห่งญาณสัมผัส"
    เป็นผู้มีญาณหยั่งรู้อันลึกซึ้ง เป็นที่เคารพ
    บูชาของเหล่าพราหมณ์ โหราจารย์
    ผู้ร่ำเรียนพระเวทย์
    และผู้สื่อจิตญาณขององค์เทพยิ่งนัก
    โดยให้ถือว่ารูปท่านเป็นแก้วสารพัดนึก
    อำนวยโชคลาภให้สำเร็จดังใจปราถนา
    โบราณจารย์ได้ผูกพระยันต์พระฤาษีตาไฟขึ้นไว้บูชา
    โดยมีอุปเทห์ว่า "ใครมีไว้ไม่อับจนเลย"


    บูชาแล้วครับ

    IMG_2396.JPG IMG_2397.JPG IMG_2399.JPG IMG_2400.JPG IMG_2401.JPG Clip_9.jpg




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2022
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10103

    ผ้ายันต์รอยฝ่าเท้า (ทางขาวก้าวหน้า)
    ครูบากฤษดา สุเมโธ

    ขนาด 24.5 x 29.5 ซ.ม.

    จัดสร้างในปี 2559 พุทธคุณครอบจักรวาล เพราะเป็นรอยเท้าของครูบาท่าน บูชาแล้วก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง เดินหน้าอย่างเดียว ด้วยเคล็ดมีครูบาอาจารย์นำทาง และก้าวไปข้าวหน้าตลอดเวลา ใส่กรอบไว้บูชาที่บ้าน ร้านค้า หรือตั้งไว้ที่โต๊ะทำงาน ถือว่าเป็นมงคลยิ่ง
    มีหมายเลข พร้อมปั๊มตราวัดไว้ชัดเจน
    บูชาติดบ้านไว้ ร่มเย็น ป้องกันอันตราย โชคลาภไหลมาเทมา เหมือนครูบาท่านไปเหยียบที่บ้าน

    ราคา 1550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    คุณsunmkจองแล้วครับ


    foMwuwNt7bvGlfhw0OiWxo7jPJqmILrnnmbS_KdkUtQO&_nc_ohc=Y2j6IPMEEsAAX9bjEX8&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg

    vle9im.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2022
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10104

    ผ้ายันต์บารมี 30 ทัศ ครูบาศรีวิชัย ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง
    ออกทำบุญงานกฐิน ปี 60 พิธีเดียวกับรูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก

    พุทธคุณ เมตตา ป้องกันภัย แคล้วคลาด ดีนักแล ผ้ายันต์บารมี ๓๐ ทัศ (สีแดง) ครูบาเจ้าศรีวิชัย โดย ครูบากฤษดา สุเมโธ เป็นผู้จัดสร้าง ท่านใดมีไว้สักการะบูชา จะปราศจากอันตรายทั้งปวง อยู่เย็นเป็นสุข และบันดาลให้เกิดโชคลาภ พระปรมัตถบารมี และพระสมติงสบารมี หรือ บารมี ๓๐ ทัศ หมายถึง พระบารมีสามสิบถ้วน ซึ่งเป็นธรรมพิเศษหมวดหนึ่ง มีชื่อว่า พุทธกรณธรรม เป็นธรรมพิเศษที่กระทำให้ได้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประกอบด้วย ทานบารมี ๓ ขั้น ศีลบารมี ๓ ขั้น เนกขัมมะบารมี ๓ ขั้น ปัญญาบารมี ๓ ขั้น วิริยะบารมี ๓ ขั้น ขันติบารมี ๓ ขั้น สัจจะบารมี ๓ ขั้น อธิษฐานบารมี ๓ ขั้น เมตตาบารมี ๓ ขั้น และอุเบกขาบารมี ๓ ขั้น รวมกันเป็นบารมี ๓๐ ทัศ ด้วยความสำคัญแห่งบารมี ๓๐ ทัศ นี้เอง เป็นปฐมเหตุในคติโบราณประเพณีถือว่า ยันต์บารมี ๓๐ ทัศ เป็น “สุดยอดมหายันต์” และมีอุปเท่ห์ที่ว่า ”พุทธคุณครอบจักรวาลใช้ดีทุกด้าน" คุณวิเศษบารมี ๓๐ ทัศ ในตำรากล่าวสรรเสริญคุณวิเศษ ของพระคาถานี้ไว้ว่า หากบุคคลใดท่องอาราธนา หรือนำวัตถุมงคลที่ลงพระเวท “พระคาถามหาบารมี ๓๐ ทัศ” นี้ จะบังเกิดความเป็นมหามงคล เป็นต้นว่า ๑.เป็นเลิศทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ เป็นที่รักแก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ติดต่อเจรจาด้านการค้าขายหรือธุรกิจราบรื่น การงานสะดวกสบาย ๒.เป็นมหาครอบจักรวาล ด้าน ปิด ปัด กัน แก้ ขับไล่เสนียดจัญไร อาถรรพณ์ทั้งปวง ศัตรูเห็นหน้าเราบังเกิดความครั่นคร้าม สรรพสัตว์ทั้งหลายตลอดจนภูตผีปีศาจ อยู่มิได้หลบหนีไปสิ้นแล ๓.แก้เคราะห์กรรม สะเดาะเคราะห์ ป้องกันเภทภัย-ภยันตรายที่เกิดจากดวงดาวราศีพระราหู หรือความเชื่อถือเรื่อง เบญจเพส หรือ แก้ปีชง เป็นต้น ๔.เป็นมหากำบังแคล้วคลาด กันภัยทั้งปวง จากศัตราวุธทั้งหลาย คงกระพันชาตรี รวมไปถึงป้องกันภัยอันตรายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จากหนักกลายเป็นเบา จากร้ายกลายเป็นดี โบราณเรียกว่า อาวุธกลับ ๕.เปิดทางหรือเบิกทาง การทำมาหากิน เร่งผลด้านเรียกโชค เรียกทรัพย์ให้ไหลมาเทมา ไม่ติดไม่ขัด การงานธุรกิจหรือประกอบอาชีพใดๆ ก็เจริญรุ่งเรือง ไม่มีตกอับ หรือขัดสน มั่งมีทรัพย์ ไม่อดไม่อยาก ๖.ส่งเสริมเพิ่มพูน ค้ำจุน หนุนดวง สืบชะตาชีวิต เป็นอำนาจวาสนาบารมี เพิ่ม ตบะเดชะ มีผิวพรรณวรรณะที่ผ่องใส ปราศจากเครื่องมลทินเศร้าหมอง ดีนักแล

    ราคา 1950 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
    คุณsunmkจองแล้วครับ

    T5TZyfstIZfqwqxM2tFbDeod&_nc_ohc=qcLeA-mut2cAX-h5MWA&tn=D7kl4Ah8v8ldYcG8&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg

    vle9im-jpg.jpg



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2022
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10105

    รูปหล่อจิ๊กโก๋หลวงพ่อทบ ปี 2517


    รูปหล่อหลวงพ่อทบรุ่นจิ๊กโก๋ ออกเช่าบูชาที่วัดช้างเผือกเพื่อหาทุนสร้างพระอุโบสถหลังปัจจุบันในปี พ.ศ.2517 พระรุ่นนี้มีการสร้างกัน 2 เนื้อคือ เนื้อทองผสม และเนื้อทองแดง และมีการเอาพระชุดนี้มารมดำและลงรักด้วยครับ จำนวนการสร้าง ประมาณ 3000 องค์ เพระชุดนี้มองดูคล้ายพิมพ์หน้าฝรั่งฐานสูงแต่องค์พระพิมพ์จิกโก๋จะเล็กกว่าเล้กน้อย โดยมีขนาดสูง 2.7 ซม.ฐานกว้างประมาณ 1.5 ซม.พระชุดนี้จะมีการอุดกริ่งด้วยพระชุดนี้หลังจากหล่อเสร็จจะมีการขัดแต่งส่วนใหญ่จะไม่พบรอยตะไบตามองค์พระในพระแท้ พระชุดนี้เป็นพระที่มีประสบการณ์มากอีกรุ่นหนึ่ง...สมัยก่อนวัยรุ่นชาวบ้านจะเรียกว่าพวกจิ๊กโก๋...

    ยกพวกตะรุมบอนกันในสมัยนั้นจะใช้คมแฝกและสนับมือเท่านั้น ตีกันขนไม้หักสนับมือแตกคามือ ปรากฏว่าวัยรุ่นที่แขวนพระรุ่นนี้ไม่มีบาดแผลใดๆเลยแม้น้อย....จึงเป็นที่มาของชื่อรุ่นจิ๊กโก๋ตั้งแต่นั้นมาครับ...

    ราคา 5950 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    . hh.jpg bcbg.jpg vccc.jpg cf.jpg


    clip_41-jpg.jpg

    ประวัติของ หลวงพ่อทบ

    หลวงพ่อทบพระครูวิชิต พัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญเทพเจ้าแห่ง ความเมตตา เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2424 ที่บ้านยางหัวลม ปัจจุบัน คือ ต.วังชมภู ต.นายม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์บิดาชื่อนายเผือกมารดาชื่อนางอินทร์ เมื่ออายุ 16 ปีได้บรรพชา

    เป็นสามเณรที่วัดช้าง เผือกบ้านยางหัวลม โดยมี พระอาจารย์สี เป็นพระอุปัชฌาย์

    ศึกษาร่ำเรียนหนัง สือขอมและ ไสยเวทวิทยาคมกับพระอาจารย์สีจนแตกฉาน พออายุครบ 21 ปี จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเกาะแก้ว ต.นายม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โดยมี พระครูเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ปาน เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และ พระอาจารย์สี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ธัมมปัญโญ

    หลวงพ่อทบเทพเจ้าแห่งความเมตตา ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.2424 ณ บ้านหัวลม ตำบลนายม เพชรบูรณ์ โยมบิดาชื่อเผือก โยมมารดาชื่ออินทร์ หลวงพ่อทบ ท่านบวชเณรตั้งแต่ พ.ศ.2440 ที่วัดช้างเผือก และอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2445 ที่วัดเกาะแก้ว บ้านนายม เพชรบูรณ์ โดยมีพระครูเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ปานเป็น พระกรรมวาจาจารย์

    พระอาจารย์สีเป็น พระอนุสาวนาจารย์ อุปนิสัยของหลวงพ่อทบ วัดชนแดนท่านเป็นพระที่มีเมตตา สุขุมเยือกเย็น พออายุได้ 10 ขวบ คุณพ่อเผือกก็ได้นำไปฝาก ไว้ที่วัดช้างเผือก เพื่อให้เรียนหนังสือไทย หนังสือขอม พร้อมกับคณิตศาสตร์ ซึ่งเด็กชายทบนั้น ก็ไม่ทำให้คุณพ่อเผือกเสียชื่อ ทั้งเขียน

    ทั้งอ่านได้คล่องแคล่ว กว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน จนได้รับคำชมเชยจาก หลวงตากี ซึ่งเป็นครูสอน เด็กชาวบ้าน ในขณะนั้นว่า เป็นเด็กฉลาดว่านอนสอนง่าย เติบใหญ่ไปภายหน้า จะได้ดีกว่าคนอื่นๆ อุปนิสัย ของหลวงพ่อทบ ท่านเป็นคนมีเมตตา เยือกเย็น สุขุม ปรานีต่อสัตว์ทั้งปวง

    ดังจะเห็นได้จากเรื่องนี้ ก่อนที่หลวงพ่อทบ จะออกบวชนั้น แถวนายมเมื่อประมาณ หนึ่งร้อยปีที่ผ่านมายัง เรียกว่าเป็นป่าดงดิบ มีแต่ป่าไม้ สัตว์ป่าชนิดต่างๆ ชุกชุมมาก ในสมัยนั้นชาวนา ชนบทต้องดำรงชีวิต ด้วยอาหารจากป่าเป็นส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นหน่อไม้

    หัวเผือก หัวมัน ผลไม้ชนิดต่างๆ ป่าไม้ไม่ถูกทำลาย มนุษย์ก็ยังมีไม่มากเหมือนปัจจุบัน ทุกอย่าง อุดมสมบูรณ์ไปหมด ถ้าหากว่าออกไปหาอาหารเพียงชั่วครู่ก็จะได้อาหาร ติดมือมา ทำกับข้าวทันที คนในสมัยก่อนโน้นฝากปากฝากท้อง ไว้กับธรรมชาติ คือป่าเขาลำเนาไพร

    e0-b8-ab-e0-b8-a5-e0-b8-a7-e0-b8-87-e0-b8-9e-e0-b9-88-e0-b8-ad-e0-b8-97-e0-b8-9a2-jpg.jpg
    ซึ่งผิดกับคนในสมัยนี้อย่างลิบลับ ที่ฝากปากฝากท้องไว้กับร้านอาหาร ดูมันง่ายและสะดวกดี ภายในครอบครัวของหลวงพ่อทบ ก็เช่นกัน นายทบ ม่วงดี อายุขณะนั้นได้ 16 ปี ก็บังเกิดความเบื่อหน่าย ชีวิตในการครองเรือนที่เห็นว่าไม่มี สาะแก่นสารอันใด หวังเอาพระนิพพานเป็นที่พึ่ง

    หลวงพ่อทบ จึงขออนุญาต จากคุณพ่อเผือก และคุณแม่อินทร์ ซึ่งท่านทั้งสองก็มองเห็นความตั้งใจอันดี ของลูกชายจึงออกปากอนุญาต และได้นำนายทบ ม่วงดี ลูกชายไปบรรพชาที่ วัดช้างเผือก โดยมี พระอาจารย์สี เจ้าอาวาสวัดช้างเผือกในขณะนั้น เป็นผู้บรรพชาให้

    เมื่อ เมื่อได้บรรพชา เป็นสามเณรแล้ว ก็ได้ศึกษาหาความรู้ต่างๆ ในสำนักของพระอาจารย์สี ไม่ว่าจะเป็น พระธรรม พระวินัย สวดมนต์เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน ตลอดจนหัดเทศน์ เรียกได้ว่าท่านไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไร้ประโยชน์อย่างแท้จริงจนถึงปี พ.ศ.2445

    สามเณรทบ มีอายุครบ 21 ปี ทางคุณพ่อเผือ และคุณแม่อินทร์ ก็ได้นำสามเณรทบไปทำการอุปสมบทที่ วัดศิลาโมง บ้านนายม ตำบลนายม อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี ท่านพระครูเมือง เป็นพระอุปัชณาย์ พระอาจารย์ปาน

    เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สีท่านนั้น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ธัมมปัญโญภิกขุหลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านก็ได้กลับไปจำพรรษาที่วัดช้างเผือก 2 พรรษา ในระหว่างนี้หลวงพ่อทบก็ได้ใช้เวลาทั้งหมดศึกษาวิปัสสนา

    เมื่อครั้งหนึ่ง ท่านได้เดินธุดง ค์ผ่านไปพบกองกระดูกอยู่กับกองผ้าเหลืองเปื่อยๆ ผุๆ พร้อมกับกลด และบาตรที่สิ้นสภาพ หลวงพ่อทบจึงรู้ในขณะนั้นว่าพระธุงดงค์รูปที่มานอนมรณภาพ อยู่ตรงหน้านี้ต้อง อาบัติในธุดงค์วัตร มีวัตรอันไม่บริสุทธิ์

    จึงต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้อย่างน่าอนาถ ท่านจึงได้รวบรวมผ้าเหลือง กระดูก กลด และบาตรเข้าด้วยกัน แล้วนำไปฝังอย่างเรียบร้อย พร้อมกับสวดมาติกาบังสุกุลให้เป็นที่เรียบร้อย จึงตกลงใจปักกลดค้างคืนอยู่ ที่ตรงนั้น พอตกดึกในคืนนั้นเอง ขณะที่ท่านกำลังทำสมาธิภาวนา พลันก็มีสิ่งแปลกปลอมเดินเข้ามาใกล้กลด

    กลิ่นสาบสางคละคลุ้งโชยเข้าจมูก แทบจะสำลัก หลวงพ่อทบยังคงนั่งสมาธิภาวนาอย่างแน่วแน่ ไม่ยอมขยับเขยื้อน เจ้าเสือพานกลอนขนาดใหญ่เห็นท่าน ไม่เกรงกลัวมัน มันจึงแยกเขี้ยวขู่คำรามอย่างดุร้ายหมายจะกัดกินท่านเป็นอาหาร ท่านจึงรวบรวมจิตแผ่เมตตาออกไปให้กับเสือ พร้อมปากก็พูดว่า

    e0-b8-ab-e0-b8-a5-e0-b8-a7-e0-b8-87-e0-b8-9e-e0-b9-88-e0-b8-ad-e0-b8-97-e0-b8-9a4-jpg.jpg
    เอ็งหากินของเอ็ง ข้าก็ออกธุดงค์เพื่ออยู่ในทางธรรม เอ็งอาศัยสัตว์น้อยใหญ่ต่อชีวิต ข้าก็อาศัยภัตตาหารดำรงชีวิต เอ็งมาข้าก็ดีใจ ไม่มีอะไรก็นอนเสียเถิดหลังจากกล่าวจบแล้วหลวงพ่อทบก็น้อมชีวิตเป็นพุทธบูชา โดยอธิษฐานว่า

    หากเสือกับท่านมิได้เคยผูกพยาบาท อาฆาตจองเวรต่อกันในชาติปางก่อน ก็ขอให้เสือหลีกทางให้ ถ้าเคยผูกเวรกันมา ก็ขอให้เอาท่านไปกินเพื่อชดใช้กรรม เป็น ที่อัศจรรย์ปรากฏว่า เสือตัวนั้นหยุดคำราม และทำตามคำสั่งของท่านอย่างว่าง่าย เหมือนพูดกับนักเรียน

    มันลดความดุร้ายลง และค่อยๆ ล้มตัวลงนอนข้างๆ กลดของท่าน ส่วนท่านก็ได้เจริญสมาธิภาวนาจนรุ่งเช้า พอท่านลืมตาขึ้นมาดูอีกครั้ง ก็พบว่าเสือสมิงได้หายไปจากที่มันล้มตัวนอนเมื่อคืนนี้ คงเหลือแต่รอยเท้าของมันที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้

    หลังจากนั้นท่านก็ได้เดินธุดงค์ต่อไป จนกระทั่งได้พบกับพระธุดงค์อีกรูปหนึ่ง จึงได้ชักชวนกันเดินธุดงค์ ไปจนทะลุถึงเขตชายแดนพม่า ณที่นั้นเอง หลวงพ่อทบและพระธุดงค์รูปนั้นก็ได้แสดงอภินิหารซึ่งกันและกัน และได้แลกเปลี่ยนวิทยาคม

    จนเป็นที่พอใจแล้วต่างก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง หลวงพ่อทบได้เดินธุดงค์ต่อไปจนถึงประเทศลาว ท่านได้เคยรู้จักคุ้นเคยกับพระเณรที่เวียงจันทร์หลายรูปด้วยกัน เมื่ออยู่ที่นครเวียงจันทร์ ท่านได้ช่วยเหลือพระเณรที่นั่นก่อสร้างสิ่งต่างๆ จนสำเร็จหลายแห่ง

    จนเป็นที่ชื่นชอบอัธยาศัยของ พระเณรในเวียงจันทร์มาก ถึงกับนิมนต์ให้ท่านประจำวัด อยู่ด้วยกันตลอดไป แต่ท่านได้ปฏิเสธไป เพราะท่านยังมีภาระที่จะต้องทำอีกมาก เมื่อหลวงพ่อได้ปฏิเสธ ในการอยู่เวียงจันทร์แล้ว

    ช่วงเวลาก่อน มรณภาพ
    ท่านออกธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ มากมายหลังจากนั้นท่านก็มาจำพรรษาอยู่ที่วัดศิลาโมง วัดเสาธงทองเจริญธรรม วัดเกาะแก้ว วัดสว่างอรุณ วัดพระพุทธบาทเขาน้อย และวัดช้างเผือก เป็นต้น และทุกวัดที่หลวงพ่อทบท่านจำพรรษาอยู่ท่านจะบูรณปฏิสังขรณ์ จนวัดมีความเจริญรุ่งเรืองทุกวัด

    e0-b8-ab-e0-b8-a5-e0-b8-a7-e0-b8-87-e0-b8-9e-e0-b9-88-e0-b8-ad-e0-b8-97-e0-b8-9a6-jpg.jpg
    หลวงพ่อทบ ท่านมรณภาพในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2519 ปัจจุบันสังขารของหลวงพ่อทบนั้นไม่เน่าไม่เปื่อยเป็น ที่ฮือฮาของคนเพชรบูรณ์ยิ่งนัก ยังเก็บรักษาไว้ในโลงแก้วภายในวัด ตามเจตนาของ ท่าน ตั้งแต่อดีตจวบถึงปัจุบัน มีประชาชนมามนัสการ เป็นประจำมิได้ขาดสายเลยแห่กันมาทั่วศ้าเมืองไทยมากราบท่านซึ่งร่างกายท่านไม่เน่าไม่เปื่อย ใส่อยู่ในโลงแก้วคาถาบูชาหลวงพ่อท่องก่อนออกจากบ้าน นะติตันโต นโมตันติ นะคือพ่อ โมคือแม่ มาอยู่หัว นี่คือประวัติคร่าวๆของเกจิแห่งเมืองเพชรบูรณ์เทพเจ้าแห่งความเมตตาหลวงพ่อทบ

    ขอขอบคุณบทความประวัติเกจิชื่อดังดีๆจาก ufabet.com
     
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,918
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10106

    ล็อคเก็ตรุ่นแรกหลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูลฉากฟ้า รันนัมเบอร์70สร้างปี ๒๕๑๗ ด้านหลังอุดผงพุทธคุณ เกศาและจีวร

    หลวงปู่ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล เชียงใหม่ ต้นตำหรับ วัวธนู อันลือลั่นแห่งดินแดนล้านนา สมัยก่อนบางคนจะเรียกท่านว่าคำแสนเล็ก เพราะครูบาคำแสน วัดสวนดอก จะมีอายุมากกว่าชาวบ้านจะเรียกว่าคำแสนใหญ่ ครูบาคำแสน วัดป่าดอนมูล ท่านนี้เป็นพระนักปฏิบัติวิปัสสนา ท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่แหวนและหลวงปู่สิม มีเหรียญหลวงปู่แหวนหลายรุ่นที่ได้ครูบาคำแสนปลุกเสกให้ ครูบาคำแสนเป็นพระใจดีใครมาขอให้ทำอะไรท่านก็จะช่วย แม้แต่หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ยังยกย่องว่าท่านเป็นระดับพระอรหันต์แล้วเมื่อคราวที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้มรณภาพลง ในย่ามของหลวงพ่อจะมีเครื่องรางที่ท่านพกติดตัวไปตลอดด้วย นั่นก็คือ วัวธนูของหลวงปู่ครูบาคำแสน ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เป็นจึงเป็นเรื่องราวที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ของ วัวธนูหลวงปู่ครูบาคำแสนครับ
    วัตถุมงคลอีกรุ่นที่หายากมากจนแทบไม่มีของหมุนเวียนให้เห็นนานแล้วครับ

    ราคา 7550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900


    vcx.jpg bv.jpg v-xvx.jpg bnhp.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...