ร่วมเป็นเจ้าภาพถวายพระไตรปิฎก วัดเกาะพระฤาษี

ในห้อง 'ธรรมทาน - วิทยาทาน' ตั้งกระทู้โดย ชมพูอุษมัน, 30 สิงหาคม 2007.

  1. ชมพูอุษมัน

    ชมพูอุษมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +7,342
    ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพถวายพระไตรปิฎกเป็นบริวารกฐิน ที่วัดเกาะพระฤาษี
    กฐินจะมีวันที่ 28 ตุลาคม 2550 ค่ะ ท่านใดสนใจจะร่วมทำบุญสามารถโอนเข้าบัญชีตามรายละเอียดดังนี้ค่ะ

    ธนาคารไทยพาณิชย์
    สาขาทีมธนาคารเพื่อพนักงาน
    ชื่อบัญชี คนึงอร สวรรคทัต (บัญชีบุญ)
    เลขที่ 100-2-15474-6
    ออมทรัพย์
     
  2. suthamma

    suthamma ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,443
    ค่าพลัง:
    +36,665
    [​IMG] ขออนุโมทนากับคุณผีทะเลเป็นอย่างสูงครับ [​IMG]

    [​IMG] พระอาจารย์ท่านเพิ่งถวายพระไตรปิฎกชุดของท่านให้กับทางมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้องเรียนวัดไร่ขิง เพื่อให้พระนักศึกษาใช้ค้นคว้าข้อมูลร่วมกัน [​IMG]

    [​IMG] ท่านว่ากำลังจะหาใหม่อยู่พอดี [​IMG]
     
  3. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    ขออนุโมทนาในมหากุศลนี้ด้วยครับ

    ทราบว่าชุดที่จะถวายนี้ เป็นชุดที่อยู่ในความต้องการจริงๆ จึงเป็นการถวายที่ได้ประโยชน์โดยแท้ มิใช่ถวายไปตั้งโชว์
     
  4. suthamma

    suthamma ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,443
    ค่าพลัง:
    +36,665
    (b-cap) รับรองว่าทางวัดได้ใช้จริงแน่ ๆ เพราะวิชาที่พระอาจารย์ท่านเรียนอยู่ มีดังนี้ครับ

    ๑.พระไตรปิฎกศึกษา ๒. พระสุตตันตปิฎก ๑ ๓. พระสุตตันตปิฎก ๒

    ๔.พระวินัยปิฎก ๑ ๕. พระวินัยปิฎก ๒ ๖. พระอภิธรรมปิฎก ๑

    ๗. พระอภิธรรมปิฎก ๒ ๘. ธรรมนิเทศ ๙. งานวิจัยพระไตรปิฎก

    ๑๐. นิเทศศาสตร์ในพระไตรปิฎก ๑๑. การเผยแผ่ศาสนาในประเทศไทย

    ๑๒. ประวัติพระพุทธศาสนา ฯลฯ

    แค่เห็นก็ทราบครับ ว่าเปิดพระไตรปิฎกกันเปื่อยแน่ ๆ (good)
     
  5. พระมหากุลวัฒน์ธนะ

    พระมหากุลวัฒน์ธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    607
    ค่าพลัง:
    +3,589
    เจริญพร
    วันนี้ได้โอนเงินร่วมทำบุญไปแล้ว 500 บาท

    ***พระพุทธเจ้า ทรงตรัสว่า ดูกรท่านสารีบุตร ถ้าชนทั้งหลายมีจิตศรัทธาเลื่อมใสสร้างพระไตรปิฎกให้พระพุทธศาสนายืนยาวถึง ๕,๐๐๐ วัสสา
    เมื่อตายไปแล้วก็จักได้เสวยราชสมบัติเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชถึง ๘๔,๐๐๐ กัลป
    ใช่แต่เท่านั้น เมื่อเคลื่อนจากความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิแล้ว ก็จะได้เป็นพระราชามีอานุภาพอีก
    ๙ อสงไขย
    ต่อจากนั้นก็ได้เสวยสมบัติในตระกูลต่างๆเป็นลำดับไป คือ ตระกูลพราหมณ์ทรัพย์มหาศาล ตระกูลเศรษฐีคฤหบดี และเป็นภูมิเทวดา อากาศเทวดา อย่างละ ๙ อสงไขย
    ต่อแต่นั้นก็จะได้เสวยในสวรรค์ ทั้ง ๖ ชั้น เป็นลำดับไปชั้นละ ๘ อสงไขย
    เมื่อจุติจากชั้นเทวโลกแล้ว มาถือกำเนิดเกิด เป็นมนุษย์ ก็จะมีร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นที่รักใคร่แก่คนทั้งหลายที่ได้พบเห็น ทั้งน้ำใจก็บริสุทธิ์สุจริต ปราศจากบาปอกุศลทั้งปวง และเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาดทั้งทางโลกและทางธรรม ดังนี้เป็นต้น***
    อ่าน อานิสงส์ ที่ พระพุทธเจ้า ทรงตรัสจากพระโอษฐ์ เพิ่มเติมได้จาก
    http://www.84000.org/

    พระมหากุลวัฒน์ธนะ กตธมฺโม
    เจริญพร
     
  6. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    โอ๊ยโหย ผมคิดเหมือนพระเตมีย์ใบ้ครับ หลวงพี่มหา
    แค่เป็นพระมหากษัตริย์ชาติเดียว ก็เสี่ยงลงอบายไป
    อีกนานแสนนานแล้ว

    ไปพระนิพพานกันเลยดีกว่าครับ
     
  7. ชมพูอุษมัน

    ชมพูอุษมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +7,342
    ถวายพระไตรปิฎก วัดเกาะพระฤาษี

    ได้ update สมุดแล้ว กราบอนุโมทนาเป็นอย่างสูงค่ะ

    สรุปยอดเงินทำบุญ ณ วันที่ 12 กันยายน 2550
    = 10,007 บาท

    ขออนุโมทนาทุกท่านด้วยค่ะ

    [b-wai]​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2007
  8. Unique_Angel

    Unique_Angel ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +6,546
    ช่วยด้วยอีกคนค่ะ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • CIMG6455.jpg
      CIMG6455.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35 KB
      เปิดดู:
      60
  9. ชมพูอุษมัน

    ชมพูอุษมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +7,342
    ถวายพระไตรปิฎก วัดเกาะพระฤาษี

    โมทนาคุณ Unique Angel เป็นอย่างสูงค่ะ
    สรุปยอดเงินทำบุญวันที่ 14 กันยายน 2550 = 12,227 บาท

    จะไปรับพระไตรปิฎกและตู้ไม้สักที่มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย วันจันทร์ที่ 17 นี้ และจะนำไปถวายที่วัดเกาะพระฤาษีวันอาทิตย์ที่ 30 กันยายนนี้ค่ะ
    ขออนุโมทนาทุกท่านด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2007
  10. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    พระอาจารย์จะไม่อยู่นะจ๊ะ น้องผีทะเล
    วันที่ 30 กย. ท่านจะไปงานออกนิโรธกรรม ครูบาวิทูรย์ วัดวังมุย ที่ลำพูนจ้ะ
     
  11. ชมพูอุษมัน

    ชมพูอุษมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +7,342
    โทรไปกราบเรียนท่านแล้วค่ะ เนื่องจากพี่ตั้นมีธุระไปกาญจนบุรีวันนั้นพอดีค่ะ
     
  12. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    เสียดายเน้าะ ไม่ได้ถวายกับท่าน แต่ก็ดีที่ไม่รอช้า รีบถวายเลย พระท่านจะได้ใช้กัน
     
  13. ชมพูอุษมัน

    ชมพูอุษมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +7,342
    เสียดายเหมือนกันค่ะ
     
  14. s3057780

    s3057780 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +4,323
    จะให้ร่วมทำบุญ ถึงวันที่เท่าไหร่

    อนุโมทนาครับ
    <!-- / message -->
     
  15. พระมหากุลวัฒน์ธนะ

    พระมหากุลวัฒน์ธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    607
    ค่าพลัง:
    +3,589
    หลวงพ่อเล่าถึงอานิสงส์การถวายพระไตรปิฏก
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=578 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=3>
    <TABLE class=webbody cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=webbody width=749 height=33>
    อานิสงส์ของการถวายพระไตรปิฎก <!-- #EndEditable -->​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR><TR><TD height=206></TD><TD vAlign=top colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><!--DWLayoutTable--><TBODY><TR><TD vAlign=top><!-- #BeginEditable "detail" -->
    [​IMG]
    วันหนึ่งท่าน พระสารีบุตร เวลานั้นชื่อ อุปติสสะ อาศัยที่ถวายพระไตรปิฎกไว้ในพระพุทธศาสนา เป็นเหตุให้เป็น ผู้มีปัญญาเลิศ ทีนี้ความเป็นผู้มีปัญญาเลิศของพระสารีบุตร เมื่อเป็นพระอรหันต์แล้ว เราอาจจะคิดว่า เป็นของมหัศจรรย์ เราพบว่า แก้วนี่ถ้าปราศจากละอองธุลี เข้ามาเบียดบังทำให้แปดเปื้อนมันก็ใส จิตของพระอรหันต์ก็ใส ประกอบไปด้วยประกาย คือหาอะไรเปื้อนไม่ได้ จึงเป็นผู้ทรงปัญญาเลิศ ตอนนี้เราก็ว่าอัศจรรย์แล้วแต่คิดไปอีกทีไม่น่าอัศจรรย์ เพราะเป็นพระอรหันต์ ​
    นี่เราหลบกลับลงมา อีกครั้งหนึ่งตอนที่ พระโมคคัลลาน์ กับ พระสารีบุตร ยังเป็นลูกชาวบ้านอยู่เรา จะเห็นปัญญา พระสารีบุตร ที่ท่านทั้งสอง ไปดูมหรสพ แล้วเกิดอารมณ์เศร้าใจ วันอื่นนั้น สบายใจ ดีใจร่าเริง ให้รางวัล แก่ผู้แสดงมหรสพ แต่วันนั้น ทั้งสององค์ ต่างนั่งหน้าเศร้า หน้าสลด ไม่ร่าเริง ทั้งนี้เพราะดูๆ มหรสพก็นั่งคิดไปว่า
    "เฮ้อ คนดูมหรสพนี่ไม่ช้าก็ตายหมดพวกแสดงนี่ไม่ช้าก็ตายหมด แถมเราเองก็ต้องตายเสียด้วยถ้าอย่างนั้น เราเกิดมาเพื่อ ตายอยู่ทำไมกัน เกิดแล้วก็ตาย ตายแล้วก็เกิด"
    ท่านก็มาใคร่ครวญว่า "ธรรมที่ทำให้คนที่เกิดมาแล้วตายได้มันมี ก็ต้องมีอะไรสักอย่าง ที่เป็นธรรม ที่ทำให้คนเกิดไม่ตาย ได้"
    หมายความว่า เมื่อมีมืดแล้ว ก็มีสว่างคู่กัน หรือ ทางพ้นแห่งความตาย ที่เราเรียกว่า โมกขธรรม
    ท่านทั้งสองตกลงใจกันว่า เราเปิดเถอะไปหา โมกขธรรม ธรรมที่เป็นเครื่องพ้น แห่งความตายดีกว่า จึงลาพ่อลาแม่ มีบริวารคนละ 250 เพราะ เป็นลูกมหาเศรษฐี ออกจากสำนักพ่อแม่ไป บริวารของทั้งสองท่าน รวมกันเป็น 500 หัวหน้าอีกสอง คือ ตัวท่านเอง เป็น 502 ท่าน เข้าไปอยู่ในสำนักสัญชัยปริพาชก ท่านสัญชัยปริพาชก ก็สอนสุดกำลัง ท่านทั้งสอง ก็เรียนเต็มที่ เพราะความมีปัญญาด้วยกันทั้งคู่ ปรากฏว่า ไม่ช้าท่านก็เรียนจบ แล้วก็มีความฉลาดเก่งกาจมาก
    ท่านสัญชัยปริพาชก ก็ให้เป็นอาจารย์สอนแทน แต่ว่าท่านทั้งสองนี่อาศัยที่มีบุญญาบารมีเต็มแล้ว ควรที่จะเป็นพระอรหันต์ จึงมาคำนึงพิจารณาว่า ความรู้ที่ได้จากสำนักนี้ ยังไม่จบ ยังไม่พ้นจากความตาย ธรรมที่ดีกว่านี้ต้องมีอีก
    นี่เพราะดวงปัญญาของท่านเดิม ที่เคยถวายพระไตรปิฎกแก่พระ
    ท่านทั้งสองจึงตกลงกันว่า "นี่เราช่วยกันแสวงหาโมกขธรรม ถ้าใครเจอะอาจารย์ ดีกว่านี้ ก็มาบอกกัน หรือใครไปพบธรรมในการค้นคว้าดีกว่านี้ละก้อ กลับมาบอกกัน"
    ต่อมาเมื่อพระพุทธเจ้า บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เวลานั้น ก็มีลูกศิษย์ปัจจวัคคีย์อยู่ 5 องค์ เป็นพระบริวาร เมื่อท่าน 5 ท่านบรรลุอรหันต์แล้ว พระพุทธเจ้า ทรงสั่งให้ไปประกาศ พระศาสนา แต่มีเงื่อนไขว่า ไปแล้วอย่ารวมกัน ให้แยกกันไปคนละที่
    บังเอิญ พระอัสสชิ มาสายนั้นพอดี ท่านก็บิณฑบาต อยู่ใกล้ ๆ แถวนั้น ต่อมาวันหนึ่ง พระสารีบุตร เวลานั้น ชื่อว่า อุปติสสะ ท่านออกไปจากสำนัก ก็พอดีเห็นพระอัสสชิเดินออกบิณฑบาตผ่านไป เห็นลีลาของท่าน ไม่ว่าจะเป็นลีลาการเยื้องกาย ก้าวเท้าซ้าย แกว่งเท้าขวา อิริยาบถใด ดูแล้วงามจริง ๆ เป็นจริยานิ่มนวล ท่านจึงคิดในใจว่า
    "พระสมณะองค์นี้น่าเลื่อมใส เราอยากจะรู้จักนักว่าเป็นลูกศิษย์ใคร สำนักของเรานี่มีลูกศิษย์เป็นพันเป็นหมื่น แต่จริยานิ่มนวลในการสำรวมในการเดิน การทอดจักษุแบบนี้ไม่มีหากว่า เราจะถามเวลานี้ในขณะที่ท่านบิณฑบาต ก็ไม่ควร"
    นี่ดูความเป็นผู้มีปัญญาของพระสารีบุตรท่านก็นึกต่อไป
    "มันเป็นเวลาที่ไม่ควร เราควรจะถามในเวลาที่ท่านกลับ"
    เห็นท่านเดินไป พระสารีบุตรนั่ง ตอนนั้น ท่านยังเป็นปริพาชก ยังไม่เป็นพระสารีบุตร ชื่อเดิมว่า อุปติสสะ ที่เขาเรียก สารีบุตร ก็เพราะว่า เดิมแม่ชื่อ สารี เวลาพระอัสสชิกลับมา ท่านก็ย่องเข้าไปยกมือไหว้แล้วก็ถาม
    "พระคุณเจ้าเป็นลูกศิษย์ของใคร อยู่สำนักของใคร ชอบใจธรรมะของท่าน ครูของท่านสอนว่าอย่างไร"
    พระอัสสชิท่านเป็นอรหันต์รุ่นแรกซะด้วย นี่เขาว่าขลังนะ แต่ความจริง พระอัสสชินี่ เป็นพระอรหันต์ สุกขวิปัสสโก เราจะจับกันได้ ก็ตอนพระอัสสชินิพพาน ตอนนั้น เป็นโรคกระเพาะ ครางอ๋อย บ่นบอกให้พระไป ตามพระพุทธเจ้ามา เพราะโรคมัน เบียดเบียนมาก ท่านก็ยืนมอง พระสารีบุตร ปั๊บเดียวก็รู้ว่าเป็น พระอรหันต์ เพราะอรหันต์นี่จิตสะอาดมาก ท่านก็นึก
    "ปริพาชกคนนี้ฉลาดมาก หากเราขืนพูดมากเดี๋ยวถูกต้อนจนมุม"
    ท่านก็เลยบอก "ปริพาชก เราเป็นผู้ใหม่ในพระพุทธศาสนา เราเป็นลูกศิษย์ ของพระสมณโคดม ท่านถามปัญหาของท่าน เราตอบแบพิสดารไม่ไหว เพราะเรายังใหม่อยู่ มีความรู้ไม่มาก "
    แต่ความจริงพระอรหันต์น ี่ไปไล่ท่านไม่จนหรอก ตอนนั้นพระสารีบุตรยังไม่เป็นพระอรหันต์นี่ ไล่อย่างไรก็ไม่จน เพราะพระอรหันต์นี่ ปัญญาเกิดจากการปฏิบัติ ไม่ต้องอาศัยหนังสือ เดี๋ยวนี้ปัญญาจะเกิดได้ ต้องอาศัยหนังสือก่อน พระสารีบุตรได้ยิน เช่นนั้นก็เลยบอกว่า "ท่านจะพูดเรื่องพิสดารทำไมเอาแค่หัวข้อย่อๆ ก็พอแล้ว"
    พระอัสสชิจึงกล่าวว่า "ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระพุทธเจ้าตรัสเหตุของธรรมนั้น"
    เพียงเท่านี้พระสารีบุตรก็เข้าใจทันที แล้วก็สำเร็จพระโสดาบัน
    นี่เราจะเห็นว่า ปัญญาของท่าน แม้แต่ยังไม่เป็นอรหันต์ เพียงธรรมโดยย่อ ก็เข้าใจทันที และก็สำเร็จพระโสดาบันปัตติผล ต่อมากลับมาพบพระโมคคัลลาน์ก็บอกว่า
    "เวลานี้พบโมกขธรรมแล้ว เจออาจารย์ใหม่ด้วย"
    พระโมคคัลลาน์ก็ถาม "ธรรมนั้นได้มาอย่างไร"
    พระสารีบุตรก็บอกตามนั้น พระโมคคัลลาน์ ก็ได้พระโสดาปัตติผลเหมือนกัน นี่เราจะเห็นว่า ปัจจัยที่ได้ ถวายพระไตรปิฎก ไว้ในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้มีปัญญา ประเสริฐกว่าบุคคลอื่น เหมือนกันแต่ทว่าไป โดนคนที่เขาถวาย พระไตรปิฎกเหมือนกัน ก็เห็นจะไม่เหลื่อมล้ำกว่ากันแน่ เคยไปเทศน์ชนกัน เทศน์บางที เรื่องคืบเดียว 3 วันยังไม่จบ เพราะ มีข้อไล่ กันไป ไล่กันมาไม่จบอย่างนี้ ก็พิสูจน์ได้ว่า พวกนี้เขาฝึกฝนปัญญามาด้วยการถวายพระไตรปิฎกในพระศาสนา
    นี่เป็นอันว่า การที่ญาติโยมเอาพระไตรปิฎก กับเชิงเทียนมาถวายวัด เชิงเทียนนี่ก็เป็น ประทีปโคมไฟ พระไตรปิฎกก็เป็น ตัวปัญญา ฉะนั้นอานิสงส์ที่จะพึงได้ก็คือ

    1.ทิพจุกขุญาณ

    2. ปัญญาเลิศ

    สำหรับท่านที่เป็นผู้ร่วมรายการด้วยการโมทนาก็เป็น ปัตตานุโมทนามัย เราเป็นคนมีปัญญาไม่ถึงหัวแถวอยู่กลางๆแถว หรือท้าย ๆ แถวก็ได้ พวกที่จะได้ทิพจักขุญาณ ก็เหมือนกัน บุญใดที่เขาทำแล้วเรา ยินดีด้วย เรียกว่า ปัตตานุโมทนามัย ดูตัวอย่าง พระนางพิมพา ไม่เคยทำบุญเองเลย พระพุทธเจ้าทำคนเดียว แต่พระนางพิมพาโมทนาตลอดกาล เวลาพระพุทธเจ้าเป็นอรหันต์ พระนางก็เป็นอรหันต์ได้ เพราะปัตตานุโมทนาอันนี้เอง
    คัดมาจากหนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับพิเศษ โดยพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง อุทัยธานี
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา http://www.firstbuddha.com/Buddha/dharma4.html

    เจริญพร

    อาตมายังไม่อยากไปนิพพานคนเดียว อยากจะนำผู้อื่นข้ามพ้นวัฏฏะสังสารไปให้ได้มากที่สุด ถึงภพนี้จะทำไม่ได้แต่บารมีที่สะสมเอาไว้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และที่จะทำต่อไปในอนาคต ก็คงทำให้อาตมาทำได้แน่ในภพต่อๆ ไปข้างหน้า ส่วนคุณโยมอย่าได้ตำหนิ ทานที่ผู้อื่นชักชวนให้ทำ มันจะเป็นกิเลสในใจของโยมซะ ทำให้ไปนิพพานช้าออกไปอีก เร่งสร้างบารมีของตนให้เต็มเถิด จะได้ไปนิพพานตามที่คุณโยมตั้งความปราถนาเอาไว้

    เจริญพร
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  16. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    กราบโมทนาครับหลวงพี่มหา น้ำใจผู้ปรารถนาพุทธภูมินั้นย่อมยิ่งใหญ่นัก ปรามาสมิได้เลย เห็นชุมนุมกันมากก็อดที่จะรู้สึกร่วมและบันเทิงใจไปกับเหล่าพี่น้องพุทธวงศ์ด้วยมิได้ ปากพล่อยเผลอแหย่ผิดปฏิปทาไม่เป็นที่ไม่พึงใจ ก็กราบขอขมา ขออโหสิกรรมด้วยครับ

    รู้จักสนิทสนมกับพระโพธิสัตว์อยู่หลายท่านครับ หรือที่ตัดสินใจลาแล้วก็หลายท่าน พระโพธิสัตว์บางท่านก็น้ำใจเข้มแข็งน่ารักน่าชื่นชมยิ่ง ซึ่งก็ได้สนับสนุนมีส่วนร่วมในกิจกรรมของหลายๆท่านติดต่อมาหลายปีครับ มิได้ตำหนิ หรือขัดขวางกิจกรรมงานบุญของเหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย บางท่านผมก็ยังช่วยหางานให้เป็นเครื่องเพิ่มพูนบารมีด้วยซ้ำไป แหะๆ แต่ไม่ทราบว่าท่านนั้นๆ จะขอบคุณหรือทำปากมุบมิบเจริญพร แฮ่
     
  17. ชมพูอุษมัน

    ชมพูอุษมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +7,342
    ยังไม่ได้กำหนดเลยค่ะ ตอนนี้เก็บตังค์ไปเรื่อยๆก่อน ยังขาดปัจจัยอยู่อีกเยอะค่ะ
     
  18. s3057780

    s3057780 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +4,323
    ไม่ทราบมี บช ธนาคารกรุงเทพ

    อยู่ไกล ต้องฝากคนอื่นโอนให้
     
  19. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    ท่านโมฆบุรุษทำท่าสนใจจะช่วยปิดแน่ะ เห็นเลียบๆเคียงๆถามอาเจ้อยู่ในอินทราพงษ์
     
  20. ชมพูอุษมัน

    ชมพูอุษมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +7,342
    พี่คนเก่าขอยืมเบอร์บัญชีธนาคารกรุงเทพได้ปะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...