ยายแนบอายุ 73 ปี ตายแล้วฟื้น เผยตอนสติดับพบพี่สาวชวนไปวัด

[FONT=&quot]ยายแนบวัย [/FONT][FONT=&quot]73 ปี ตายแล้วฟื้น เผยตอนสติดับพบพี่สาวชวนไปวัด พาไปชุมชนเห็นคนนุ่งขาวปฏิบัติธรรม แต่รอดเพราะขอกลับมางานบวชหลาน[/FONT]

​

[FONT=&quot]ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา [/FONT][FONT=&quot]17.00 น. (7 ก.ค.) ที่บ้านเลขที่ 89 บ้านชุมแสง หมู่ 1 ต.ชุมแสง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ พบญาติพี่น้องกำลังรุมล้อมให้กำลังใจ นางแนบ สายกระสุน วัย 73 ปี แน่นขนัดภายในบ้าน โดยก่อนหน้านี้นางแนบ ล้มป่วยด้วยโรคฝีพุพองตามร่างกายหรือโรคคุดทะราด ลักษณะลักษณะคล้ายโรคป้าวแสนปมมานานหลายปี แพทย์แผนปัจจุบันหมดทางรักษา จนต้องปล่อยให้สิ้นลมหายใจตามยถากรรมในบ้านด้วยสภาพบวมอืดตั้งแต่เวลา 09.00 น. วันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ลูกหลานและญาติได้เตรียมจัดงานศพ ตบแต่งสถานที่ กางเต็นท์ และนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีสวดมาติกาบังสุกุลตามประเพณี โดยทำการมัดตราสังข์เอาไว้[/FONT]
[FONT=&quot]จนกระทั่งเวลา [/FONT][FONT=&quot]04.00 น. ของวันเดียวกัน ลูกหลานและญาติได้เปิดผ้ามัดตราสังข์ออกเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมบรรจุในโลงศพ ปรากฏว่าศพกลับเคลื่อนไหวและขยับเขยื้อนสร้างความแตกตื่นให้ทุกคนที่เห็น เหตุการณ์ หลายรายถึงกับขวัญผวาคิดว่าผีหลอก จนนางแนบได้เปล่งเสียงแหบแห้งเรียกหาลูกหลานและลุกขึ้นนั่งได้ตามปกติ ลูกหลานจึงเปลี่ยนจากงานศพเป็นงานทำบุญต่ออายุบายศรีสู่ขวัญแทน[/FONT]


[FONT=&quot]ด้าน นางแนบ เปิดเผยว่า ในช่วงนอนป่วยในบ้าน ลูกหลานได้นิมนต์พระอธิการชมพู วิสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านชุมแสงและเจ้าคณะตำบลชุมแสง มาทำพิธีสวดต่ออายุ ตนถามหลวงพ่อว่า [/FONT][FONT=&quot]“จะรอดไหม” หลวงพ่อก็บอกว่า มนุษย์ทุกคนเกิดมาต้องตาย ให้นึกถึงแต่สิ่งดีๆ เป็นมงคล เช่น การทำบุญตักบาตร บุญกุศลจะได้ส่งให้ไปในภพภูมิที่ดี จากนั้นสติก็ดับวูบไป คล้ายไปยืนอยู่ในสถานที่บางอย่าง[/FONT]


[FONT=&quot]นางแนบ กล่าวต่อว่า ตอนนั้นไม่รู้ไปยืนอยู่ที่ไหน เจอพี่สาวชื่อ นางบึง ดาทอง ที่เสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว มาชวนให้ไปดูพระลูกชายที่กำลังผ่าตัดใน รพ.สงฆ์ ที่กรุงเทพฯ ยายไม่ไปเพราะไม่มีเงินค่ารถ นางบึง ก็เลยชวนไปดูวัด [/FONT][FONT=&quot]3 แห่ง ซึ่งเป็นสถานที่เก็บกระดูกของพี่สาวและญาติผู้ล่วงลับ จำได้ว่าคือ วัดอุดม วัดบ้านขาม ที่พักสงฆ์ป่าช้า เห็นคนนุ่งขาวห่มขาวนั่งปฏิบัติธรรมอย่างมีความสุข ยายไม่รู้จักใครสักคน แต่เห็นพี่สาวนุ่งขาวห่มขาวเดินเข้าไปปฏิบัติธรรมกับคนพวกนั้นด้วย[/FONT]


[FONT=&quot]"จากนั้นพี่สาวก็พาไปดูชุมชน หมู่บ้านไม่รู้ว่าที่ไหน แต่คนส่วนใหญ่จะนั่งสมาธิ นุ่งขาวห่มขาวกันทั้งนั้น นานพอสมควรแล้ว ยายจึงขอพี่สาวกลับมาที่บ้านเพื่อร่วมงานบวชหลานชายคนโตในวันที่ 8 ก.ค. ที่จะถึงนี้ ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าได้ตายไปแล้วกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมา เป็นเรื่องแปลกแต่จริงใครไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่" [/FONT][FONT=&quot]นางแนบ กล่าว[/FONT]

สนับสนุนเนื้อหา ​

​

 

อนุโมทนา สาธุ กับประสบการณ์ที่คุณป้าแนบได้มาเล่าให้ชาวพุทธฟัง เพราะ ณ เวลานี้ มีแต่คนห่างวัด ไม่เคยสนใจเรื่องบุญ สนใจแต่จะเอาชนะ ซึ่งกันและกัน แต่หารู้ไม่ว่านั้นพวกท่านกำลังสร้างกรรม ให้กันและกันไม่มีวันหมด และประเทศไม่มีความสงบสุข นา ๆ ประเทศก็หัวเราะว่า พวกเรากำลังถูกคนกลุ่มหนี่งให้พวกเราเกียจชังกันเอง ให้เราฆ่ากันเอง แล้วไปพิจรณาเอาว่าพวกนั้น เขาเป็นใคร ถ้าเขารักประเทศไทยจริง ทำไมไม่หันหน้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น สงสารพ่อหลวงของเรา มากครับ

 

ขอบคุณที่นำมาโพสให้อ่านกันค่ะ ว่าแต่ว่า...แล้วอย่างนี้หมอจะอธิบายว่ายังไงเนี่ย ไม่รู้โรงพยาบาลอะไร... ดีนะที่ยังไม่ได้ฉีดฟอมาลีน ไม่งั้นคงไปแล้วไปลับ ไม่ได้กลับมาแหงๆ อิอิ ดีใจกับคุณยายด้วยค่ะ สาธุๆๆ

 

อ่านแล้วขนลุกค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ ที่คุณยายได้กลับมาเล่าประสบการณ์ดี ๆ ให้ฟัง ทำให้รู้ว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วมีจริงค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญในงานบวช หลานชายด้วยน่ะครับ คุณยาย...
บุญยายยังไม่หมดครับ ยายยังได้อยู่ทำความดี ปฏิบัติธรรมอีก แต่ด้วยอายุ และสังขารยาย คงไม่เอื้อให้ปฏิบัติธรรมได้สะดวกนัก ใช้ใจเป็นหลักน่ะยายน่ะ ใช้กำหนดจิตเอา ก็ใช้ได้เหมือนกัน ...
ปล. กรณีแบบยายแนบนี้ เคยเกิดขึ้นมาหลายรายแล้ว ทำให้ผู้ที่ประสบแก่ตัวเอง เกิดความศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างมากมาย และเชื่อในเรื่อง บุญและบาปอย่างสนิทใจ สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย จะงดหมด หันมารักษาศีลปฏิบัติธรรม กันมากขึ้น ใครไม่เชื่อก็ลองหาอ่าน ในประวัติของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ก็ได้ เพราะหลวงพ่อก็เคยเจอมาเหมือนกัน...

 

จริงอย่างที่พระอาจารย์บอกเลยว่าเมื่อไรที่คุณตั้งใจที่จะทำบุญ ปฏิบัติธรรม บุญนั้ย่อมเกิดขึ้น และไปรอคุณที่สวรรค์แล้ว สิ่งหนึ่งทำให้เห็นว่าชาติภพมีอยู่จริง การทำดี ได้ดี การทำชั่วได้ชั่ว มีอยู่จริง

อีกอย่างช่วงนี้มักจะมีอะไร ๆ ให้เห็นกันอยู่เรื่อย ๆ สำหรับพุทธศาสนาของเรา เหมือนจะเป็นการเตือนให้ทุกคนเร่งปฎิบัติตนเป็นคนดี หมั่นทำทาน ศีล ภาวนากันให้มาก ๆ

เป็นกำลังให้ทุกคน

ขอบคุณคุณยายนะคะ
โมทนาสาธุค่ะ

 

คุณยายคิดตามที่พระท่านแนะนำ คือ ก่อนสิ้นลมให้มีมรณานุสติ และระลึกบุญกุศลที่ตนทำ
มีจิตคิดไปในทางกุศลธรรม ก่อนสิ้นลม ทำให้พบสุขคติภูมิ
อนุโมทนาสาธุค่ะ

 

ดีใจกับยายด้วยทีีได้ไปเที่ยวในที่ที่ไม่มีใครไปแล้วได้กลับมาเล่าให้ฟัง

 

อนุโมทนาสาธุ บุญที่ทำคงมากอยู่ขอให้ยายมีอายุยาวนานเพื่อเล่าประสบการณ์ให้เด็กรุ่นหลังฟังจะได้รู้บาปบุญคุณโทษมากขึ้น

 

ขออนุโมทนาสาธุ ด้วยค่ะ่ ขอให้คุณยายมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ

 

อนุโมทนา สาธุ
ในบุญกุศลทุกอย่างด้วยครับ
นิพพานัง ปัจจโย โหตุ

 

[FONT=&quot]"ยายแนบวัย [/FONT][FONT=&quot]73 ปี ตายแล้วฟื้น เผยตอนสติดับพบพี่สาวชวนไปวัด พาไปชุมชนเห็นคนนุ่งขาวปฏิบัติธรรม"

ยายอย่างนี้ตอนตายไปดีแน่ๆ เพราะจิตเห็นแต่สิ่งดีๆ [/FONT][FONT=&quot]พี่สาวชวนไปวัดเอย[/FONT] [FONT=&quot]เห็นคนนุ่งขาวปฏิบัติธรรมเอย [/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]

 

ขอบคุณที่นำมาเผยแพร่ เตือนสติตัวเราอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ละอายเกรงกลัวต่อบาป นี่เป็นเครื่องยืนยัน ว่าก่อนตายถ้าจิตจดจ่อคิดถึงบุญที่เคยทำ ก็จะไปคติดี สาธุ สาธุ

 

ขออนุโมทนาบุญกับการบวชหลานชายยาย และขอบคุณยายที่มาเล่าให้พวกเรารวมทั้งท่านที่นำมาโพสให้พวกเราดูด้วยค่ะ ทวดของดิฉันก็เคยตายแล้วฟื้น 2 ครั้ง ครั้งแรก 2 ชั่วโมง ครั้งที่2 4ชั่วโมงค่ะ

 

อนุโมทนาสาธุๆค่ะ ขอบพระคุณค่ะ

มาคนเดียว ไปคนเดียว
เอกะจะรังจิตตัง

 

อนุโมทนาบุญค่ะยาย อย่างนี้คนทั่วไปที่ไม่เชื่อก็ต้องมีสติได้กลับมาคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่
แล้วถึงแม้ทำบุญมากมายหาก ลมหายใจสุดท้ายคิดไม่ดีก็ยังมีโอกาสตกนรก แต่ยายคิดดีคิดถึงบุญกุศล แล้วการได้กลับมาบวชหลานชายอีก เป็นบุญใหญ่ :boo:

 

อ่านแล้วมีขอคิดที่ดี จากคำว่าให้นึกถึงแต่สิ่งดีๆ เป็นมงคล เช่น การทำบุญตักบาตร บุญกุศลจะได้ส่งให้ไปในภพภูมิที่ดี

 

อนุโมทนา สาะธุค่ะ ยินดีกับยายด้วยค่ะ ที่ยังมีโอกาศได้กลับมาทำบุญ

 

อนุโมทนากับหลานยายที่บวชด้วยนะครับ และขอให้ยายแข็งแรงและอยู่สร้างกุศลไปนานๆนะครับ