มีข้อสงสัยโลกแตกที่ทุกคนอยากรู้เกี่ยวกับพรเครื่อง

ถ้าเกิดเจ้าของคนนึง ได้ตั้งใจลบหลู่ พระเครื่องที่ตนเองสวมอยู่ แล้ว ต่อมากลับใจเป็นคนดียึดมั่นในศิลธรรม พระจะกลับมาขลังไหมครับ หรือถ้ามีเจ้าของใหม่เอาไปใช้จะกลับมาขลังไหมครับ

 

"พระของฉันขลังเท่าใจของโยม" (หลวงพ่อเอิบ วัดซุ้มกระต่าย ได้กล่าวไว้)

เคารพ ศรัทธา ตั้งมั่นคำสอน ประพฤติตนดี สิ่งดีๆ จะเข้ามาเองครับ
คิดดี ทำดี พูดดี และ เพิ่มเติมทำให้ครบ ทาน ศีล สมาธิ ภาวนา ยิ่งเร่งผลให้ดียิ่งๆขึ้นไปครับ

 

พุทธคุณไม่มีวันเสื่อมเท่าใจเราศรัทธา

 

ผมคนหนึ่งที่ชอบคาใจเรื่องพุทธคุณ ใช้ไปทำไมเงียบ คนอื่นได้วันเดียวเห็นผล ได้เงินก้อนบ้าง ได้สาวไปค้างบ้าง ถูกหวยติดต่อกันหลายงวด

ผมใช้เงียบหมด ทั้งที่ศรัทธา สวดมนต์บูชาตามใบฝอย ขอพรจากท่านทุกวัน ก็ยังเงียบ ไอ้เรื่องแคล้วคลาด นั่นมันน่าจะมีอยู่พระเครื่องเกือบทุกสำนัก ไม่นับเเล้วกัน ใครคงไม่อยากให้เกิด

เอาเรื่อง โชคลาภ เสน่ห์ สาวหลง นี่เเหละ บางคนเท่านั้นถึงจะใช้ได้ผล ผมลองเปลี่ยนบูชาเครื่องรางมหาเสน่ห์จากฆราวาสชื่อดัง น่าจะเก่งระดับต้นๆ น่าจะเเรงกว่าพระเสก โดยเฉพาะเรื่องเสน่ห์ ท่านทำให้เฉพาะผม ยังเงียบ ขอทั้งเเรงครู ขอทั้งเเรงตะกรุด ก็ไม่มีผล นี้ขนาดทำให้ผมเดี่ยวๆ ยังเงียบ หากเสกเยอะคงดับ

ถามท่าน ท่านบอกศรัทธาไว้ เมื่อไหร่ละครับ ปี สองปี สามปี ห้อยเหมือนไม่ได้ห้อย คนอื่น วันสองวัน ไอ้เราก็ข่อยเขาเหมือนกัน อยากมีบ้าง

ถึงเป็นที่มาพระถูกโฉลกกับคนห้อยมั้งครับ

เดี่ยวนี้ธุรกิจเชิงพุทธพาณิชย์เยอะ คนที่เอามาเล่าประสบการณ์ หน้าม้าป่าวไม่รู้ อะไรกันวันเดียวได้ผล จะไม่ให้บูชาก่อนหรอ อะไรจะพิสูจน์ว่าเป็นประสบการณ์จริง นอกจากตัวเราใช้เอง ยืนยันเองเท่านั้น

 

ช่วยบอกได้ไหมครับว่าฆาราวาสชื่อดังคนนั้นใคร
PM มาบอกผมก็ได้นะครับหากไม่สะดวก

 

ถูกใจผมจริงๆครับ เหมือนผมเลย ใช้พระมาเยอะ(คล้องคอ)ที่เขาว่าแน่ๆเงียบสนิทเหมือนกัน ต้องถอดออกเก็บขึ้นหิ้ง ซ้ำร้ายคล้องอยู่ในคอ ยังช่วยอะไรเราไม่ได้ ถูกจี้เอาพระไปจากคอเอาแหวนออกไปจากนิ้วซ๊ะงั้น มันหมายความว่าไง พระเครื่องวัตถุมงคลแต่ละเกจิอาจารย์ออกมา เป็นพันเป็นหมื่น ผมเห็นมีประสบการณ์แค่คนสองคน 55 ไม่อยากพูดมากเดี๋ยวเป็นการปรามาสไป ขอโทษครับผม

 

ไม่ปรามาสหรอกพี่ .........พูดเรื่องจริง............

 

ตัวผมเอง ห้อยพระมาก็หลายหลวงพ่อ ไม่ค่อยเจอแบบเด็ดๆ จนกระทั่งมาเริ่มหอยจริงจังคือหลวงปู่อ่อนสา จ.อุดร
ผมไม่เคยขออะไรที่เด่นๆ ซักครั้ง ชีวิตจะเรียบๆ ง่ายๆ ขอแทบทุกครั้งจะเป็นแบบขอให้สงบๆ (เวลาเข้าเวร) ซึ่งก็จะเป็นตามขอ
และนานๆจะมีเหตุเดือดร้อนใจ เช่นงานเข้า หรือของหายหาไม่เจอ อธิษฐานขอท่าน แทบจะพูดได้ว่า อภินิหารย์ เลยก็ว่าได้

จนกระทั่งลองหันมาห้อยพระของหลวงปู่พวง ซึ่งก็จะเหมือนๆกันคือ ผมเน้นอธิษฐานขอให้สงบๆ อย่างานเข้า
และก็จะสังเกตว่า ชีวิตผมเรียบๆ ทำงานแล้วงานไม่ค่อยเข้า (อยากอยู่สบายๆ) นานๆจะเจอเคสหนักใจทีนึง
ก็จะมีการขอท่าน แต่ไม่ได้ขอจากพระที่ห้อยโดยตรง ไปขอจากสีผึ้งของท่าน คือเอาสีผึ้งมาทาปาก แล้วอธิษฐานขอท่านให้สำเร็จตามขอ
ผมเคยทาสีผึ้งของท่าน 4 ครั้ง เจรจาได้ผลทั้ง 4 ครั้ง หลังจากนั้นยังไม่ได้ลองอีกแต่อย่างใด
ซึ่งจะว่าไป เรื่องที่ขอก็ไม่ได้ลึกล้ำหรือขอแบบเว่อร์ๆอะไร เพียงแต่มันเข้าตาจน เจรจาไม่รู้กี่รอบแล้วไม่จบ
ขอให้ผลการเจรจามันจบตามที่เราต้องการแค่นั้น ซึ่งมันก็จบตามที่ผมขอทุกครั้ง ก็เลยคิดว่าสีผึ้งของท่านน่าจะมีส่วนอยู่บ้าง

ส่วนพระของท่านที่ห้อยแล้วเคยขอจริงๆ จังๆ แบบถอดออกจากคอมาตั้งจิตอธิษฐานเลยนั้น เคยแค่ครั้งเดียว
ขอให้ฝนตก ผมขอว่า ขอให้ฝนตกซัก 10 นาทีด้วยเถิด เพราะผมหว่ายปุ๋ยต้นไม้แล้วกลัวมันไม่ละลาย แดดร้อนเปรี้ยงๆ
ปรากฏว่า หลังจากนั้นประมาณ 1 ชม. ฝนตกจริงๆ และก็ตกประมาณ 10 นาทีตามที่ผมอธิษฐาน
จะว่าฟลุค บังเอิญก็แล้วแต่ แต่ผมเชื่อลึกๆอยู่ในใจขอผม ว่าอะไรมันจะบังเอิญพอดีตามที่ขอปานนั้น
(ตอนนั้นผมห้อยพระกริ่งของท่าน)

ส่วนตอนนี้ผมหันมาห้อยพระของอีกหลวงพ่อครับ แต่ในพวงก็ยังมีพระของหลวงปู่พวง แจมด้วย 1 องค์
ผมเน้นขอให้สงบๆ เหมือนเดิม เข้างานแต่ละครั้ง ขอให้สงบๆ อย่ามีงานเข้า ซึ่งก็มักจะจริงตามขอ
เพราะสังเกตเวรคนอื่น ผมเห็นแล้วน่าหนักใจแทนจริงๆ คลาดจากเวรเราไปบางครั้งแค่ไม่กี่นาที
ซึ่งทุกวันนี้ ผมมั่นใจในพระที่แขวนคอ ไปไหนไม่เคยกลัวอะไร มั่นใจว่าคุ้มครองเราได้ ยิ่งสถานที่ที่น่ากลัว ยิ่งเฉยๆ
เดินทางไปไหนก็อุ่นใจ ไปนอนต่างถิ่นก็สบายๆ ไม่กลัว แค่นี้ครับ สำหรับผม

 

แต่งขันธ์๕ ขอขมาลาโทษท่าน ตั้งสัจจะใหม่ ให้มีศรัทธาเหมือนครั้งแรกที่ได้มา ขลัง...ตราบที่ยังเคารพท่านอยู่ ครูบาอาจารย์ก็เหมือนพ่อแม่ของเรา พร้อมที่จะให้อภัยลูกเมื่อผิดพลาดไไป

ส่วนประสบการณ์ หากหวังอยากได้...ดั่งใจ นี่ต้องทำใจว่า....จะผิดหวังบ่อยครั้ง หากตั้งไว้ที่เป็นกำลังใจในการทำความดี และเป็นกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต ประสบการณ์จะเกิดขึ้นบ่อย

เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ชีวิตโดนมรสุมรุมเร้า ครอบครัว การงาน เพื่อนหักหลัง ถูกใส่ความอย่างรุนแรงเพื่อให้หมดความชอบธรรม และให้ไม่มีที่ยืนในสังคม ได้แต่ตั้งใจทำหน้าที่อย่างดี ที่พึ่งคือ พระ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ พระเจ้าอยู่หัวฯ อดทนอดกลั้นอยู่ถึง 4 ปีรอดพ้นจากความขัดข้องและเรื่องยุ่งยากมาได้ ถึงวันนี้เหมือนเกิดใหม่.... มีหลักใจที่มั่นคง

...ได้มากว่าประสบการณ์ หรือปาฏิหารย์เป็นไหน..........เล่าสู่กันฟัง

 

สาธุครับพี่

เพิ่มเติมสำหรับท่านที่ห้อยแล้วเงียบนะครับ
บางอย่างมันก็สัมพันธ์กับบุญบาปด้วยนะครับ อีกอย่างพระที่จะเกิดประสบการณ์ได้จริงๆ ที่คนเค้าบูชากันแล้วเห็นผล อันนี้มันต้องตั้งมาจากคำว่า "ศรัทธา ที่ถึง" ไม่ใช่ "ค่านิยม" ครับ

บางอย่างท่านอาจจะเบรกเราไม่ให้ไปยุ่ง เพราะชีวิตเราอาจยุ่งเหยิงก็ได้คิดในแง่ดีไว้ครับ

โอเคประสบการณ์เป็นตัวนำให้เรานำองค์นั้นองค์นี้มาบูชา แต่ถามกันตรงๆว่า คำสอน ข้อห้ามของหลวงพ่อ เราได้ปฏิบัติอย่างดีหรือไม่

ลองดูครับ

 

ทำไมเล่นของไม่ขึ้น

ไปเจอมา ลองอ่านดูนะครับ


หากคุณเป็นคน ๆ หนึ่งที่เล่นของไม่ขึ้น หรือใช้เครื่องรางของขลังไม่ได้ผล ไม่ว่าจะบูชาอะไรไปที่เขาว่าแรงว่าดีเขาใช้ได้ผลกันแต่พอบูชาไปแล้วเฉย ๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นเพราะ

1. เคยลบหลู่พระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เคยลบหลู่บุญคุณบิดามารดา ผู้ที่ควรเคารพบูชา หรือเคยลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเทวดา หรือครูบาอาจารย์ หากไม่แน่ใจว่าเราเคยทำมาหรือไม่ ให้หาพวงมาลัยดอกไม้ ธูปเทียน หรือทำขันธ์ขอขมาต่อท่านทั้งหมดที่กล่าวมา

2. เป็นคนที่จิตมีความลังเลสงสัยมากเกินไป สงสัยไปหมดจนจิตลังเลไม่เชื่อถือในของที่บูชา อำนาจของเครื่องรางของขลังเป็นสิ่งที่เกิดจากอำนาจจิตของผู้ที่ปลุกเสก หากจิตคนที่นำไปบูชาไม่ยึดมั่นถือมั่นศรัทธาในของขลังนั้นจะได้ผลได้อย่างไร ตัวสงสัยนั่นแหละเป็นตัวกั้นให้ไม่ได้ผล

3. เป็นคนที่มีจิตใจด้านเกินไป จนจิตไม่สื่อกับอำนาจของเครื่องรางของขลัง เช่น ไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงอันนี้ปิดเลย

5. เป็นคนมีจิตใจชอบลองของลองดีแบบลบหลู่ด้วย อันนี้หนักไม่ได้ผลเลยอาจจะมีโทษอีกต่างหาก หรือไม่ก็เป็นแบบอยากใช้ของๆเขาอยากเอาผลจากของ ๆ เขาแต่ตัวเองไม่ศรัทธาอาจารย์ที่สร้างไม่เชื่อว่าของๆ เขาศักดิ์สิทธิ์จริง หรือมีลักษณะของจิตใจทื่อๆด้านๆเห็นเครื่องรางของขลังเหมือนกับคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือที่เอามาใช้ปุ๊บต้องได้ผลตามที่ต้องการปั๊บโดยที่ตัวเองยังไม่ศรัทธาแท้ ไม่ยึดมั่นถือมั่นศรัทธาแท้ในศาสตร์ของเขา ข้อนี้เท่าที่เห็นมาเป็นกันเยอะ

6. มีครูบาอาจารย์หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษาอยู่แล้ว แต่ใช้เครื่องรางของขลังที่เป็นสายที่ขัดแย้งกับครูบาอาจารย์หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาอยู่ ข้อนี้เกิดขึ้นกับเฉพาะบางคนมีไม่มาก

7. ของนั้นไม่แรงหรืออาจารย์ผู้เสกปลุกเสกไม่เป็นไปตามนั้นเช่นปลุกขุนแผนแทนที่จะเสกทางเสน่ห์เมตตา ก็เป็นแคล้วคลาดคงกระพันอย่างนี้เป็นต้น อาจารย์หรือพระบางองค์เก่งไม่เหมือนกันบางองค์เก่งทางเมตตา บางองค์เก่งทางคงกระพันแคล้วคลาด บางองค์เก่งหลายอย่างเป็นต้น บางทีอาจารย์บางองค์เก่งทางคงกระพัน แต่ทำของทางเสน่ห์เมตตาออกมาให้ลูกศิษย์บูชาพลังก็ไม่เป็นไปทางเสน่ห์ เมตตา แต่ออกไปทางคงกระพันตามที่ตัวเองถนัดอย่างนี้ใช้ยังไงก็ไม่ได้ผล ของแรงไม่แรง หรือของแต่ละอย่างดีอย่างไรอย่าไปดูคำโฆษณาตามที่เขาโปรโมทกันในหนังสือเพราะที่ศักดิ์สิทธิ์จริงก็มีที่ยกกันขึ้นมาก็มี ให้ดูจากผลที่ผู้บูชาไปแล้วว่าเป็นอย่างไร

8. ใช้ของผิดสาย เช่น ตัวเองเป็นคนบำเพ็ญบุญไปทางพระพุทธคุณไปทางมนต์ขาว แต่ดันไปใช้ของต่ำเกินไปเป็นมนต์ดำไสย์ดำ เช่น น้ำมันพราย หรือใช้พวกของสายผีสายพรายที่เป็นสายต่ำ (สายพรายมีทั้งสูงและต่ำ) ใช้ของที่ขัดแย้งกับบุญของตัวเองอย่างนี้ก็ไม่ได้ผล

9. ไม่มีวาสนามากับของพวกนี้ ไม่มีวาสนามากับเครื่องรางของขลัง ในอดีตชาติหรือชาตินี้ไม่เคยทำบุญร่วมมากับครูบาอาจารย์ไม่เคยนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่เคยทำบุญให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือครูบาอาจารย์เลย ให้แก้ไขโดยการทำบุญถวายสังฆทาน หรือตักบาตรให้ครูบาอาจารย์และเทพเทวดาที่รักษาเครื่องรางของขลังนั้นอยู่

10. มีกรรมกั้นขวางอยู่ ทำให้ใช้ของไม่ได้ผล ให้แก้โดยการอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร

หากคุณเป็นคน ๆ หนึ่งที่ใช้ของขลังไม่ได้ผล ลองสำรวจดูว่าตัวเองเป็นประเภทไหน แล้วก็แก้ไขไปตามที่แก้ไขได้ หากยังต้องการใช้เครื่องรางของต่อไป

 

ความเห็นของผมนะครับ มันก็มองได้หลายมุม ครับ เรื่องแบบนี้ สมัยวัยรุ่นปลายๆ ผมกับเพื่อนนับถือ หลวงปู่กาหลง มาก พยายามหาพระลักษณ์หน้าทองรุ่น 1 จนสุดท้าย ก็หามาจนได้ เป็นเนื้อผง เอาไปเลี่ยมร้านเดียวกัน ซื้อ สร้อยเชือกร่มแบบเดียวกัน คือเหมือนกันทุกอย่างถ้าวางคู่กันนี่แยกไม่ออก เลยว่าองค์ไหนของผมหรือของเพื่อน แต่สิ่งที่มันต่างกันคือ องค์ของผมนี่นิ่งมาก เงียบ ทั้งที่ท่องคาถาทุกวันวันละหลายๆรอบ ส่วนของเพื่อนนี่ใช้ขึ้นมาก มีแฟนสวยๆ น่ารักทั้งนั้น ไม่ขาดเลย ทั้งที่หลายๆคนบอกว่าผมรูปร่างหน้าตาดีกว่าเพื่อน วันนึงมานั่งสรรคสังด้วยกัน ผมก็บ่นว่า ทำไมกูใช้แล้วเงียบจัง ไม่เหมือนมืงเลย เพื่อนผมบอกว่า พึ่งตัวเอง 80 อาศัย เครื่องราง 20 ถ้าห้อยแล้วหวังว่า จะมีผู้หญิงยิ้มให้หรือเดินมาจีบ มืงเข้าใจผิดแล้ว เรื่องนั้นมันประปรายอาจจะมีบ้าง แต่มันเป็นแค่ 1 ในร้อย แล้วส่วนใหญ่สาวที่ยิ้มหรือมาขอเบอร์เราก่อน มักไม่ถูกใจเรา ถ้าไม่หล่อขั้นเทพ อย่าหวัง ให้ลองเปลี่ยนทัศนคติ ใหม่ พอผมลองเปลี่ยนตามที่เพื่อนสอนเป็นฝั่งเข้าหา เจรจาก่อนบ้าง ศรัทธาและคิดบวกเสมอ ก็รู้สึกว่ามัน ดีขึ้นกว่าเราห้อยแล้ว ทำตัวนิ่งๆเยอะเลยครับ และ ทุกครั้งที่ชีวิตผมมีปัญหา จะอกหัก หรือ เกิดอุบัติเหตุ หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมไม่เคยสงสัย หรือมีข้อกังขา กับพระที่ห้อยคอเลย ว่าทำไม ท่านไม่ช่วยเราเลย แต่จะพิจารณา ที่ฟฤติกรรมและ การกระทำของตัวเองก่อน​

 

ถูกต้องเลยครับ ตัวเราเป็นหลักผมให้ 70 พุทธคุณพระ 30

อยากได้อยากทำอะไรต้องลงมือก่อนครับ อยากได้เมตตา ต้องหัดยิ้ม พูดจาไพเราะครับ

 

ด้วยความเคารพนะครับ แสดงความคิดเห็นกัน แลกเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับพระเครื่องวัตถุมงคลกัน สนุกดี ผมว่านะถ้าพึ่งตัวเอง 70-80% ก็ไม่ต้องคล้องพระแล้ว ช่วยแค่ 20% จะมีความหมายอะไรแทบไม่ได้ช่วยเราตามที่เราต้องการเลย ตามความคิดของผมนะ อิทธิคุณของพระ องค์ผู้เสกต้องใส่เต็มที่ ตามที่เราผู้ใช้อธิษฐานเอา นะครับ ผมว่า

 

เห็นด้วยครับ 55+..เหมือนกันกับแบบพระสิวลี-สังกัจจายน์ที่เด่นทางค้าขาย ร่ำรวย ต่อให้หลวงพ่อผู้สร้างปลุกเสกดีแค่ไหนเก่งเท่าไหร่ระดับไหนก็ตาม หากลองเอามาห้อยแล้วนอนอยู่ในบ้านเฉยๆไม่ออกไปค้าขาย ทำงานทำการ ทำมาหาเงิน พระท่านจะมีโอกาสใด้ช่วยไหมมันจะรวยใด้ยังไง../SIZE]

 

ด้วยความเคารพครับ ยินดีที่ไ้ดแสดงความคิดเห็นเช่นกันครับ
ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ เราถูกสอนมาให้มีความเชื่อต่างกันครับ ครูบาอาจารย์ผมสอนให้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน วัตถุมงคล แค่ช่วยเร่งวันเร่งคืน ให้สำเร็จไวขึ้น ทำโอกาสให้สำเร็จได้มากขึ้น แต่สุดท้ายแล้ว อยากได้ ต้องทำเอง "30 ลิขิตฟ้า 70 ต้องฝ่าฟัน" บางทีถ้ากำลังและวาสนาเราทำได้ แค่ 70 หรือ 80 พระช่วยเราอีกในส่วนที่เหลือ นั่นก็ถือเป็นบุญหัวแล้วนะครับ เหมือนในสังคมปัจจุบัน ถ้าเราเป็นหัวหน้าจะรับลูกน้องสักคน ระหว่าง คนนึงไม่ค่อยทำอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราว เอาแต่โทษนู่นนี่ อ้างนี่นั่นตลอดเวลา
กับอีกคน ที่ พยายามทำให้ดี ขยันไม่ย่อท้อ ถึงผลลัพธ์มันจะออกมาไม่ดี
ถ้าคะะแนนเต็ม 10 ทั้ง 2 คนนี้ได้ 8 เหมือนกันทั้งคู่ ถ้าเราเป็นหัวหน้า 2 คะแนนที่เหลือควรจะมอบให้ใครดี ครูบาอาจารย์ ทำของให้เต็มที่เต็มกำลัง อยู่แล้ว ท่านจะช่วยมากช่วยน้อย ส่วนนึง มันอยูู่ที่เราเพียรทำให้เต็มที่เต็มกำลังเช่นกันครับ
ท่านคงไม่อยาก สร้างของขึ้นมา ให้ลูกศิษย์ ใช้ เปล่าๆโดยที่ไม่พึ่งพาตนเองเลย

 

วัดยากอยู่ครับ คงขึ้นอยู่กับบุญที่มี วาสนาที่มีมา แล้วก็กรรมที่คอยส่งผล บางเรื่องก็แทบจะ 100 บางเรื่องก็เป็น 0

 

ขอเสริมเรื่อง...พระหรือเครื่องรางที่ว่าแรงและชัด อันดับแรกคือ

ใส่แล้วพฤติกรรมหรือนิสัยเปลี่ยนครับ..

. พอนิสัยเปลี่ยน ดวงชะตาแต่ละวันก็เปลี่ยนครับ

อย่างตะกรุดมหาละลวยด้านโภคทรัพย์ของหลวงพ่อ วัดดงหัวชี ผมห้อยทีไรอยุ่เฉยไม่ได้ต้องขยันหางานหาเงินหาลุ่ทางทำมาหากินตลอด ขนาดจะพักผ่อนต้องขอถอดบนพานไว้เลยไม่งั้นไม่ไหวใจกับกายพยายามหาเงินหางานตลอด... ถามว่านิสัยเปลี่ยนไปแบบนี้มีผลต่ิฐานะการเงินโภคทรัพย์ไหมครับ

อย่างขุนแผนน้ำผึ้ง หลวงปุ่ชื่น ปสก. มากมาย เหตุเพราะเกือบทุกคนที่ได้ใส่จะสัมผัสถึงนิสัยหรือพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ใจร้ิอนง่ายจะกลายเป็นใจเย็นลงอย่่งไม่น่าเชื่อ จากคนพูดตรงๆห้วนๆก็กลายเป็นพุดช้านุ่มนวลแถมติดปลายนวม ชอบหยอด.... แล้วพฤติกรรมนิสัยเปลี่ยนไปแบบนี้ ถามว่าชีวิตต่อคนรอบตัว หรือเพศตรงข้ามจะเปลี่ยนแปลงต่อเราไหมครับ

อยากลองห้อยพระห้อยเครื่ิิองรางพลิกเปลี่ยนชีวิต คิดว่าดูตัวเราเองนี่หละครับว่าเปลี่ยนตัวเองไปขนาดไหน เรื่องภายนอกเป็นเรื่องรองครับ

 

ขอเสริมอีกหน่อยครับ เรื่องพุทธคุณพระนั้น ผมว่ามันแล้วแต่ผู้เสกนะว่าเก่งหรือเน้นด้านไหน
สมมุติท่านเก่งทางด้านมหาอุต หรือยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า แล้วท่านห้อยพระท่าน
วันๆก็ทำงานตามปกติ ไม่ได้ออกไปเต้นหน้าเวทีหมอลำซิ่ง หรือไปเดินเที่ยวกับพวกเทคนิค เทคโน ช่างกลฯ อะไรพวกนี้
แล้วจะบอกว่า ห้อยแล้วเงียบ มันก็คงเป็นเรื่องปกติ รึว่าท่านไม่อยากให้เงียบ

แต่ถ้าคิดว่าห้อยพระแล้วจะต้องชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นตลอด ผมว่า เป็นไปไม่ได้หรอกครับ
เพราะพระเกจิแต่ละองค์ คงหายากที่จะมีวิชาคาถาปลุกเสกพระได้แบบนั้น คงเน้นแต่ละด้านไปมากกว่า
บางองค์อาจจะเสกให้ แคล้วคลาดบ้าง เมตตาบ้าง หากเป็นเรื่องเมตตาผมว่ามันต้องมีการอธิษฐานขอให้ท่านช่วยประกอบ
เช่นเราไปสมัครงาน หรือมีการสอบแข่งขัน แบบนี้ถึงเวลาต้องหใ้ท่านออกงานแล้ว ก็ขอท่าน

เมื่อขอแล้ว ไม่ได้ หรือเงียบ นั่นค่อยว่าอีกทีว่า ห้อยแล้วเงียบ ไม่ได้ผล
ไม่ใช่ห้อยแล้วจะทำให้ชีวิตดีขึ้น หรือเปลี่ยนแบบเห็นๆเลย ผมว่า ยากครับที่จะมีพระแบบนั้น
ผมห้อยพระมาตลอด แทบจะเรียกว่า บางครั้งห้อยแม้กระทั่งเวลานอน ผมก็ไม่เคยเจอแบบน้นนะ
นอกจากผมอยากให้เป็นอะไร ผมจึงจะอธิษฐานขอ เช่นวันนี้ ขอให้เป็นยังงั้นยังงี้ด้วยเถิด
หรือวันนี้ ผมจะสอบเรื่องนี้ ขอให้ทำข้อสอบได้ ผ่านฉลุยไม่มีปัญหาด้วยเถิด อะไรแบบนี้ ซึ่งส่วนมาก็สำเร็จตามที่ขอ

 

แสดงความเห็นมาหลายที่ พี่โดนใจผมเลย ล้านไลค์ อีก20-30 เปอร์เซนต์ พระช่วยที่เหลือตัวเรา ยังงี้ผมก็ไม่ต้องห้อยดีกว่าไหม พึ่งตัวเองดีกว่า
ผมเน้น สายเสน่ห์ โชคลาภนะ ไอ้แคล้วคลาด พระท่านลงอยู่แล้ว เอาที่พิสูจน์เห็นกันได้
แน่นอน ครูบาอาจารย์เขาเนาะ เขาศรัทธา เรามือใหม่หัดขับ ก็ขับตามคู่มือ คู่มือเขาบอกให้ทำไรทำหมด สุดท้าย ผลคือเงียบ จนบางครั้งน้อยใจ ท่านทำไมไม่ช่วยเรา แล้วโฆษณาทำไม เอาซะเคลิบเคลิ้ม สู้ไม่โฆษณาแล้วไปลองเองดีกว่า ใครดีก็ดีไป
ประสบการณ์ผมขอได้แทบทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่อง เสน่ห์ มันคาใจผมจนถึงบัดนี้ คนเสกไม่เก่ง พระเสริม พิธีกรรมไม่ได้ ฯ

บางคนมาโม้ เราห้อยตั้งนานเงียบ มันได้พระจากหลวงพ่อวันเดียว วันแรกสาวนัดชวนกินข้าว วันที่สองอีกคน วันที่สามเชียร์ลีดเดอร์ หน้าตาเขาก็แสนธรรมดา เขาว่า อยู่ๆผู้หญิงมาเอง แบบ งงๆ ผมห้อยมาตั้งนาน ยังไม่เจอแบบงงๆ แบบนี้บ้าง ตอนนี้ พึ่งตัวเองครับ