พระเครื่องดูดพลังกันยังไง

ในวงการพระเครื่อง
เป้นที่รู้กันอยู่ว่า พระเครื่องที่สร้างขึ้นมา
บางชุด มีอำนาจกฤติยาพิเศษ
สามารถดูดพลังพระเครื่อง องค์อื่นที่แขวนร่ามคอกันได้
เหมือนไวรัส คอมพิวเตอร์ ในระบบอินเตอเนท

ผมก็สนใจ และอยากจะรู้ว่าดูดกันได้อย่างไร
จึงได้ทำการทดลองดูเมื่อหลายวันก่อน
ทำซ้ำๆๆกัน หลายครั้ง กับพระเครื่องหลายๆๆองค์
เอาที่ลือลั่นกันว่า ดูดแน่ๆๆ
คือ พระเครื่องของครูบาคำเป็ง แห่ง กำแพงเพชร

เอาพระของครูบาเป็นตัวยืน วางไว้บนแท่นเปรียบมวย
เลือกพระเครื่องที่ เชื่อกันว่า ปกติมีพลังปานกลาง
และพระเครื่องที่แรงมากๆๆ แรงสุดๆๆ ขึ้นมาเปรียบ

เมื่อเอาพระเครื่องที่มีพลังปานกลางมาวางห่างพระเครื่องครูบาฯ
ให้ห่างกันประมาณ 1 นิ้ว
แล้วมองดูพลังด้วยตาที่สาม
พระเครื่องทั้งสององค์มีแสงพลังออกมาเป็นกลุ่มเหมือนกลุ่มหมอก
หุ้มล้อมรอบ ขนาด เท่าลูกเทนนิส หรือลูกบิลเลียด

พอกลุ่มแสงแตะกัน
ในเวลาประมาณ 3 นาที
จะเห็นคล้ายๆ กับว่า กลุ่มหมอกพลังของ ครูบา
มาแตะ แล้วฉุดลาก แสงของพระเครื่องที่เอามาเทียบ
ในลักษณะ ที่เรียกว่า อุ้ม หรือ ฉุดลากไป ดื้อๆๆ
จนหมด พระเครื่องที่มาเทียบ ไม่มีแสงเหลืออยู่ ถูกดูดไปหมด
แต่แปลกที่ ขนาด และแสงของพระเครื่องครูบาฯ ไม่ได้โต ขึ้น
ไม่ได้ใหญ่ขึ้น หรือเปลี่ยนสี แรงขึ้น เช่นการบวกเลข หนึ่ง บวก หนึ่ง
ต้องเป้นสอง..อะไรอย่างนั้น

 

พอเปลี่ยนคู่เทียบ
เป็นพระเครื่องที่แรงและดังมากๆๆ
แล้วมองดูขบวนการเหมือนคู่แรก

แสงของกลุ่มพลังของแต่ละข้างมาชนกัน
พระเครื่องที่แรงกว่า จะดัน จนกลุ่มแสงของครูบา หุบย่นเข้ามาที่ศูนย์กลาง
ทะลวงเข้ามา เหมือนหัวหอกทะลวงเข้ามาลึก
พลังของชุดครูบาฯ จะแยกออก เหมือนเป็นคีม
พอพลังของคู่เทียบเข้ามาลึกมาก กลุ่มพลังของครูบาก้จะหุบลง ตลบหลัง เหมือนพลังคู่เทียบอยู่ในวงล้อม
เหมือนเอากำปั้นยัดเข้าไปในปาก
แล้วปากก็หุบอมไว้ จนหมด

ทำเหมือนมียุทธศาสตรืในการรบ
ใช้กลยุทธ หลอกให้ อีกฝ่ายหลงกลเข้ามาใน คิลลิ่งฟิลด์ ติกกับและถูกทำลาย

แปลกที่ว่า ทำไม พลังพระเครื่อง ทำการดูดกันเหมือนมันมีสมองในการสัปยุทธ์
และก็แปลกมาก เมื่อ มีคนที่มีพลังจิต ก็จะสามารถบังคับให้ พลังที่ถูกดูดไป คืนกลับมาได้
เอาพระเครื่องของครูบาแขวนคอ ก็จะดูดพลังของพระเครื่ององค์อื่นๆๆจนหมดสิ้น

เอาขึ้นหิ้งพระก็ดูดของคนอื่นจนหมดสิ้น
ไว้ในห้องเดียวกัน คนละมุมห่างกัน มากกว่า 7 เมตรก็ไม่เหลือ
กำลังมีคนทดลองว่า ถ้าไว้คนละห้องจะดูดไหม??
คิดว่า อีก สองสามวันจะรู้

เคยเรียนถามครูบาคำเป็งเรื่อง พระเครื่องของท่านดูดพลังพระเครื่อง คนอื่นหมด
ครูบาตอบว่า
ท่านนั่ง สวดให้พระเครื่องมีพลังอยู่นานถึง 7 ปี พระเครื่องจึงแรง
การสวดก็เพื่อให้มีพลังดูดทรัพย์ ดูดคนเข้าร้าน
ทำให้เจ้าของร้านที่บูชา ขายดี
ท่านเสกให้ ดูดๆๆๆ โดยไม่ได้กำหนดขอบเขต
พระเครื่องของท่าน จึงดูดทุกอย่างสารพัด
ถ้าใครแขวนคอไว้ ก็จะดูดโรคออกจากตัวทำให้หายป่วยได้ เช่นกัน

ในการแก้ปัญหาเรื่องดูดพลังพระเครื่องคนอื่นนี้
ครูบาคำเง คิดหาวิธีแก้ และเจอวิธีแก้แล้ว
โดยทำเป้นสีผึ้ง แล้วแต้มที่พระเครื่ององค์อื่นไว้ก่อน
เหมือนจะบอกว่า
เป็นพวกเดียวกันนะ
อย่าดูดกันนะ

ใครที่บูชาพระเครื่องของครูบาคำเป็งไป
ท่านให้มาเอาสีผึ้งที่ท่านคิดออก
มาเอาไว้แก้ ก่อนที่จะมีการโกลาหลไปมากกว่านี้

 

โมทนาโมทนาโมทนาค่ะ

 

ขอบคุณค่ะที่นำสาระดีๆมาให้อ่าน ^__^

 

เปรียบให้ฟังนะครับ

ทำไมเวลาเรา อัญเชิญพระ ไว้บนหิ้ง ทำไมเราต้อง เรียงจาก พระที่สูงสุด มาจนถึง พระระดับเล็ก เพราะระดับ บารมี ไม่เท่ากัน เมื่อเราเอา พระระดับสูง มาวางรวมกันกับ พระระดับเล็ก พระระดับเล็ก ท่านก็ไม่สบายใจ ที่เอาไปวางชั้นเดียวกัน หรือ ที่เดียวกัน ทำให้แสงที่คุณเห็นนะ ค่อยๆๆหายไป นั้นละ จริงๆๆไม่ได้ ดูด อะไรหรอกครับ ถ้าจะเปรียบง่ายๆๆ เทวดา บนสวรรค์ ทำไมแต่ละชั้น เทวดา มี ระดับแสง บารมี ไม่เท่ากัน ทำไม ชั้น พรหม มีแสงสวยมาก แต่ พอมาเจอ แสง พระอรหันต์ กับมีแสง สวยยิ่งกว่า ก็ เปรียบคล้ายๆๆแบนี้ละครับ

 

งง พระท่าน จะดูด พุทธคุณไปเพื่ออะไร ยังมีสีผึ้งทา ให้เป้น พวกเดียวกันอีก

ตกลง พระท่านมีการแบ่งพวกด้วยหรอครับ

 

ความรู้ใหม่แฮะ พึ่งรู้....แล้วอย่างเราจับพระเครื่อง แล้วมือมันสั่นไปเองหละ...แค่คิดว่าพระท่านคนทำมาดีไหม....

 

การตรวจสอบพระเครื่อง หรือ ตรวจพุทธคุณ วิชานี้มีมานานแล้ว ครับ
ส่วนมากใช่มือ ขวาจับ เอานิ้วโป้งกด ไปที่ พระเครื่อง แล้ว ถามท่านว่า พระเครื่องที่ ข้าพเจ้าจับนี้ เด่น ทางด้านใด ขอให้ พุทธคุณ จงสำแดง ฤทธิ์ ให้ข้าพเจ้าได้ รับรู้ด้วยเถิด ( ต้องผู้ที่ฝึกจิต วิชานี้ มาโดยเฉพาะเท่านั้นถึงทำได้)
ถ้า พระเครื่อง ที่เรานำมาจับ มีพลังมาก จากการปรุกเสก ของ เกจิ ท่านใดก็ตาม สมมติว่า ตอนที่เกจิ องค์นี้ ทำพิธีปลุกเสก แผ่เมตตา พระเครื่องนี้ ถ้าตอนนั้น ท่านสวด ทางด้าน ค้าขายดี เวลาเราจับ พุทธคุณ มือเราจะ ยกขึ้นไปเอง โดยอัตโนมัติ ตามพลังพระเครื่องไป จะไป วนๆๆที่ ปาก ก็ หมายถึง ห้อยองค์นี้แล้ว จะทำให้เรา พูดเก่ง ค้าขายเก่ง แบบนี้เป็นต้น ถ้าไป วนๆๆ ที่ ศรีษะ กับ ลำตัว ก็ หมายถึง ปกป้องคุ้มครองภัยอันตราย

ส่วนที่บอกว่า พระเครื่องดูดพลังกัน จริงๆๆแล้ว ไม่ได้ดูด ครับแต่ อย่างที่ผมบอก พระระดับใหญ่กว่า บารมีท่านเยอะแสงมากๆๆๆ ทำให้เวลาเอาพระระดับเล็กๆๆ ไปวางใกล้ๆๆ แสงค่อยๆๆหายไป จริงๆๆไม่ได้หายหรอก แต่ท่านให้ความเครารพ พระที่ระดับสูงกว่า อีกอย่าง สู้แสง พระที่สูงกว่าไม่ได้เลย

ขอเล่าเพิ่มเติมอีกนิด
ในสมัยก่อนตอนที่ผมฝึกวิชา จับพุทธคุณดูนะ มีอยู่ท่านหนึ่ง เอาพระ สมเด็จ ราคา 30 ล้าน
บาทมาให้ผมดู เขาบอก หายากมากๆๆ ผมก็ได้แต่มอง เพราะเขาหวงมากๆๆ ผมก็เลย ขอลองจับเล่นๆๆดู พอจับ ปรากฎว่า ไม่ยักกระดิก เลยแม่แต่นิดเดียว ผมคิดในใจ เลย คนนี้ไปเช่ามา คงถูกเขาหลอกไป 30 ล้านบาทฟรีๆๆๆ แต่ผมก็ไม่ได้บอกอะไรเขา ไม่งันถ้าเขารู้ อาจจะหาว่าผม ดูหมิน หรือ เขาอาจไปจัดการ กับคนที่ขายได้ ผมเลย เฉยๆๆๆ แต่เชื่อไหมครับ ผมมาจับ
พระเกจิอาจารย์ ไม่ว่าจะ หลวงพ่อคูณ หลวงพ่อฤาษี แรงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เครื่อนที่แรงๆๆมากๆๆ
แบบนี้ สิ ที่ ปรุกเสก เข้าของจริงๆๆๆ ไม่ต้องไปหาที่ไหนเลย

 

จ่างแจกพระเครื่อง พระอาจารย์ครูบาคำเป็งครับ
http://www.pimonrach.com/forums/showthread.php?t=78

 

แล้วมีพระแจกไหมครับ

 

คุณ 12punna
เท่าที่อ่านดู เข้าใจว่ามีประสบการณ์ในการจับพลังพระเครื่องเป็นอบ่างดี
ว่างๆๆน่าจะมาคุยกับชมรมคนตาทิพย์ ครับ
จะได้พบกันคนอื่นๆๆที่รู้เรื่อง พลังพระถูกดูด พลังหาย
ที่ชมรมมีสมาชิกมาชุมนุมกันมาก
วันเสาร์และอาทิตย์ 10.00-17.30 น
ชมรมอยู่ที่ หน้าร้านภูฟ้า บนสถานี รถไฟฟ้าใต้ดิน กำแพงเพชร ออกประตู1
จะเห็นเอง เพราะสมาชิกมามุงกันเต็ม
คุยกันเรื่องพระเครื่องและตรวจพลังพระเครื่อง
มาแล้วจะเห็นเอง
ตรงที่คนแยะๆๆ หาง่าย
ครับ

ใต้เพช

 

ว่าจะไม่เข้ามายุ่งกับกระทู้การดูดพลังอีกแล้ว แต่ก็หลวมตัวเข้ามาอีกจนได้

ท่านใดที่สันนิษฐานเอาเองว่า การดูดพลังของพระเครื่อง เป็นสิ่งเหลวไหล ก็ขอเชิญที่บู๊ท 053 ของท่านอาจารย์ the third eyes ได้ครับ โดยมีเงื่อนไขเล็กๆ น้อยๆ

1. ท่านต้องสามารถสัมผัสพลังได้จริง หรือ
2. ท่านต้องสามารถเห็นออร่าได้จริง และ
3. ท่านต้องไม่เป็นบุคคลประเภท "ชาล้นถ้วย" เปิดใจให้กว้างเอาไว้ ถ้วยที่ว่างเปล่าเท่านั้น จึงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง

การนั่งดูหนังแล้วมาวิพากษ์วิจารณ์นะ ไม่สนุกเท่าแสดงเองหรอก ครับ

 

อนุโมทนาสาธุ

 

ปัญญา เป็นหนทางไปสู่ การหลุดพ้นจากความทุกข์ และเข้าไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง
เมือวันหนึ่ง วิปัสนาญาน จนปัญญาเกิด สิ่งที่รู้จากปัญญา จะทำให้เรา หมดข้อ สงสัยในสิ่งที่ยัง ติด

 

ไม่รู้สึกว่า เจ็บนิดๆ แสบหน่อยๆ ที่สีข้างหรือ ครับ 555+1

 

-------------------------------------------------------------------
ข้อความที่เขียนขึ้น อาจไม่ถูกใจบรรดาสาวก ของท่าน ผมจึงลบ เพราะขี้เกียจมานั่งทะเลาะกัน
ในบอร์ดนี้
--------------------------------------------------------------------
แต่อย่างไรก็ตาม
พระเครื่องที่อฐิษฐานจิต โดยพระอรหันต์หรือพระโพธิสัตว์ผู้มีปัญญาและเมตตาสูง
ไม่มีวันเสื่อม ดูดเท่าไหร่ก็ไม่หมด ครับ

 

ขออภัย ผมรับคำถามของคุณไม่ได้ แสดงว่าของคุณเป็นพวกลวงโลกหรือเปล่า ครับ (ล้อเล่น ครับ ล้อเล่น 555+1)

อีกเรื่องนะครับ ถึงคุณจะมีปัญหากับท่าน the third eyes ตั้งแต่ พันทิพ ก็ไม่เกี่ยวกับผม อย่าเอาผมไปพัวพันกับท่านเลย (ผมไม่ใช่สาวกของท่าน นะครับ) ประสบการณ์ของใครก็ของมัน เพราะคนที่พิสูจน์เรื่องนี้ให้ผมเห็นเป็นพระสงฆ์ ครับ ไม่ใช่ฆาราวาส

ผมเห็นด้วยครับ เอากล้องถ่ายออร่ามาพิสูจน์เลย แต่ว่า ใครจะเป็นคนเอามาละ (ผมขอเป็นคนดู ก็แล้วกัน งานนี้ผมไม่อยากแสดงเองครับ เปลืองตัว)

ไปละ เราคงไม่ได้ผมกันอีกในกระทู้นี้

 

สวัสดี คุณ ศุกร์
เมื่อก่อนตอนยังเด็กๆๆๆ จะห้อยพระครับ แต่ตอนนี้ ไม่ได้ห้อยแล้ว
แต่ใช่วิธีสร้าง พระ ให้เกิดขึ้นในใจของเรา มากกว่า แล้วก็ สวดมนต์คถา
ต่างๆๆ ถ้าสังเกตุด้วยจิตให้ดีๆ จะมี เทพเทวา มาอนุโมทนา แล้วมาอยู่ใกล้ๆ
เราตลอดเลย คอยคุ้มครอง ไม่ให้มีสิ่งชั่วร้าย มาทำอะไรเราได้ พระคถาทุก คถา มีคุณวิเศษหมด ไม่ว่าจะเป็น คถาอะไรก็ตาม ผมขอยกตัวอย่าง พระคถาเงินล้านให้ฟังนะ เพื่อคุณ ศุกร์ หรือ ท่านใดจะเอา วิธีนี้ไปใช้ มีร้านขายของ
อยู่ ร้านหนึ่ง ขายของไม่ดีทุกวันเลย ผมก็สงสาร ไม่รู้จะช่วยยังไง ผมไม่มีเงินทอง อะไรที่จะไปช่วยเขาได้ แต่ตัวผมมี สิ่งหนึ่งที่จะช่วยเขาได้ นั้นคือ ความเชื่อ ในสิ่งที่เราตั้งใจว่าจะต้องทำให้ได้

ผมก็เลย กลับไปที่บ้าน นั้งสมาธิแล้ว ก็ใช่จิต ไปที่บ้านของ คนที่ค้าขายไม่ดี เมื่อจิตเห็นภาพ แต่รางๆๆๆมากๆๆ แต่ก็พอสัมผัสได้ ก็เลยเริ่ม อัญเชิญหลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี และ พระอาจารย์ครูผึ้ง ให้ไปที่บ้านหลังนั้น แล้วผมก็ เริ่มบริกรรม คถาเงินล้าน ไปที่บ้านหลังนั้น บ้านหลังที่ค้าขายไม่ดี จะไม่มีแสงเลย
บางที ก็ มึดๆๆ ผมจะต้อง อาศัยพระบารมี หลวงปู่ปาน หลวงพ่อ ครูผึ่ง มาช่วยก็ บริกรรม คถาเงินล้านไปเรื่อยๆๆ จนกว่า จะมีแสงสีทอง คุ้มทั่วร้านของเขา
จากที่สังเกตุนะ พระครูที่อัญเชิญมา ท่านก็มาช่วย แผ่ด้วย

เมื่อผม บริกรรมจนเห็นเป็นแสงสีทองคุมทั้วบ้านหมดแล้ว ก็จะพูดให้ พรนิดหน่อย เป็นอัน จบพิธี หลังจากวันที่ ทำวิธีแบบนี้เสร็จ ผมก็ไป สอบถามว่า เป็นไง ช่วงนี้ร้านเป็นไง (ผมไม่ได้บอกเขานะว่าผมทำอะไรแบบนี้) เขาบอกไม่รู้เป็นอะไร ช่วงนี้ จากที่ขายไม่ได้ ช่วงนี้ ขายดีมากๆๆ คนเข้ามาซื้อของ ทีเยอะมาก ผมก็ มีความสุขในใจ วิธีแบบนี้ ผมไม่ได้ให้เชื่อนะ แต่ อยากจะให้ลองทำแบบนี้ดู แล้วคอยดูผล

ทุกวันนี้ เคยบอก จะเลิกมาโพสในเวปนี้หลายครั้งแล้ว เพราะผม ทราบว่า มีหลายท่าน ที่หาว่า ผมโกหกบ้าง หลอกลวงบ้าง ถึงแม้นเขาจะไม่ได้โพส ว่าผม แต่ผมก็รู้ ไม่รู้รู้ได้ไง ทุกวันนี้เหมือนมี พลังอะไรไม่รู้ให้ ยังเลิกตอบ ไม่ได้ มีหลายท่าน เมลล์ มาสอบถาม ปัญหา ผมเยอะมาก ผมก็ช่วยไปตามที่รู้ บางสื่งบางอย่าง เรารู้มาก พูดมาก คนที่เขาไม่เชื่อ เขาก็โจมตี แต่ผม เฉยๆๆ นะไม่เคยเก็บมาใส่ใจ สวรรค์เท่านั้นที รู้ว่าเราเป็นไง ไม่มีบุคคล บนโลกนี้ที ไม่เคยถุกนินทา

ส่วนที่ คุณศุกร์ ถามว่า ผมรู้ได้โดย อัตโนมัติ หรอ ?
ออ อันนี้ตอบยาก บางที่ ก็รู้ด้วยตัวเอง บางทีก็ได้ ยินเสียงทิพย์ มาบอก
แต่ส่วนมาก จะได้ยินเสียงมากกว่า ผมไม่ค่อย อยากจะรู้ด้วยตนเอง เพราะการที่ เรารู้ด้วยต้นเอง ส่วนมากจะ ผิดเกือบหมด เพราะเรายังเป็น มนุษย์ ที่ยังมีกิเลส อยู่ ส่วนมากปัจจุบัน จะขอแบบได้ ยินเสียงจะดีกว่า เพราะ แม่นมาก 100% เวลาเสียง จะมาบอกอะไร ในอนาคต ผมก็จะ จำไว้ แล้วดู ผล ทุกวันนี้ ได้ยิน ไม่ต่ำกว่า เป็น 100 เรื่องๆ เลย ทุกเรื่อง เกิดจริง หมด เคยสังเกตุ เสียงที่มาบอกนะ บางทีก็ เป็นร่างใส่ๆๆ บางที่ก็ไม่มีร่าง คือ ละเอียดมาก บางทีก็ วิญญาน มาบอก โอ้ยเยอะแยะไปหมด ผมก็เคย ถามเสียงนะว่า ชาตินี้ เราก็ไม่ได้ฝึก สมาธิอะไร เป็นจริงเป็นจัง แต่ทำไมถึงรับรู้เรื่องพวกนี้ได้ เสียงนั้นก็ตอบว่า บุญเก่า ที่มากมาย ทำให้ชาตินี้ สามารถรู้เรื่องแบบนี้ได้ (อวดอีกและ นี้ไม่ได้พูดอวดนะ ผมแค่เล่าตรงๆๆ ก็คิดว่า คนบ้าพูดเล่นละกัน) เอ้อ ทุกวันนี้ ก็เบื่อจริงๆๆ ไม่อยากจะโพสอีกจริงๆๆ แต่ก็อด อยากช่วย คนที่ที่ ทุกข์ไม่ได้ ดูอย่าสงในเวปนี้สิ ผมไม่เข้าใจกันเลย เวลาใครพูดอะไร ไม่เข้า หู กัน ก็ต้องมา พูด จาเหน็บแนม กันตลอด ทำลายน้ำใจกันตลอด เอาแต่จะ ชนะ กันไม่หยุด TT

เมื่อวันเวลามาถึง ผมก็คง จะหายไปจากเวปนี้ ถาวร แน่นอนครับ เพราะเบื่อยังไง ก็ไม่รู้

 

เป็นเหมือนกันเลยครับ
เริ่มรู้สึกอย่างนี้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
คิดว่าคงมีอีกหลายคนที่รู้สึกแบบนี้ได้เหมือนกัน

 

กระบี่อยู่ที่ใจ แล้วใยต้องถือกระบี่ ปล่อยวางแล้วพิจารณาดูให้ดีเถิด ทุกสิ่งขึ้นอยู่ที่ใจ แยกแยะโลภะ โมหะ กับ ศรัทธา ให้ดี เอิ้กกก