ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jarujun, 21 มกราคม 2015.

  1. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เวลาเคลื่อนคล้อย จนเกือบรุ่งสาง
    เมื่อแสงแรกแห่งพระอาทิตย์ขึ้น

    ขรัวอินทร์กล่าวว่า ลูกเอย ยามนี้ได้ฤกษ์ยามอันเป็นมงคล
    เมื่อแสงแรกขึ้น เป็นยามที่ฟ้ามือจักผ่านพ้น
    ดวงอาทิตย์จะให้แสง จากนี้พ่อจะสักยันตร์ สิงห์
    ให้ลูก เมื่อในกาลถัดไปลูกนั้นย่างตราทัพ ไปที่ใด
    ราวกับสิงห์ออกทัพ ไม่ว่าภูติผี ปีศาจ แลคนทั้งหลาย
    พียงได้ยินเสียงทัพลูก จักเกรงกลัว จนไม่กล้าต่อสู้

    จงหันหน้ามาหาพ่อ พ่อจักสักยันต์สิงห์ที่หน้าอกด้านซ้ายของลูก

    แล้วท่านก็ได้ กล่าวพระคาถา นะ โม พุท ธา ยะ

    แล้วว่า

    พุทธะเสฏโฐ มหานาถัง วัณณะโก สิงหะ นาทะกังพุทธะสิระสา เตเชนะ มาระเสนา ปะราเชยยัง ชัยยะ ชัยยะ ชัยยะ ภะวันตุเม



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • yan_R005.JPG
      yan_R005.JPG
      ขนาดไฟล์:
      34.3 KB
      เปิดดู:
      453
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2015
  2. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เมื่อคราที่โดนสักสิงห์ หัวใจแลเลือดลมในกาย
    กับร้อนวูบวาบ ราวกลับร่างกายตื่นตัวเอง
    บังเกิดราชสีห์ในจิต ประทับจนเป็นแสงสีทอง

    พ่อจะสักยันต์นี้กำกับให้ลูกบนหน้าผาก แต่จารด้วยน้ำมันมิใช่หมึก

    ชายหญิงใด แม้นเพียงเห็นหน้าลูก จักยอมสยบ

    มองหน้าลูกคราใด ให้ครั่นคร้ามในตบะเดชะ บารมี

    (ยันต์ที่สักที่หน้า คือยันต์เล็กในวงกลมสีแดง
    ส่วนยันต์สิงห์สักที่หน้าอกซ้าย ไม่ใหญ่ขนาดนั้น
    และเมื่อยืนหน้าต่อสู้กัน จะเห็นยันต์สิงห์อยู่ด้านขวา )

    ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

    (ที่ไปหาหลวงพ่อวันนี้ เพื่อถามถึงยันต์นี้ นึกว่ายันต์อุนาโลม แต่ไม่ใช่)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2015
  3. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    หนุมานคลุกฝุ่น

    ขรัวอินทร์สักยันต์รูปสิงห์จนเสร็จ ท่านทอดถอนใจอย่างอ่อนล้า

    สิงห์เอ๋ย พ่อเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน แลฟ้าก็สางแล้ว

    บัดนี้ พระอาทิตย์ขึ้น ฉายแสงทั่วฟ้าอำไพ

    วันนี้ ลายสักสุดท้ายที่พ่อจะสักให้ลูกในเวลานี้ คือ หนุมานคลุกฝุ่น

    พ่อจักสักด้านอกขวาลูก คาถานี้มีพระคาถากำกับ

    หากคราใดที่ลูกไปออกศึกสงคราม ลูกจงนำดิน

    แล้วขอฝากพระแม่ธรณี จงว่าพระคาถากำกับ

    แล้วนำดินป้ายหน้า ป้ายแขน ป้ายหน้าอก ป้ายขา

    หากลูกว่าพระคาถา แลรอยสักนี้ จักทำให้ลูกต่อสู้

    แคล่วคล่องว่องไว แม้โดนตะลุมบอน แลอาวุธในกายลูก

    ทั้งศอก ทั้งหมัด และศาสตราวุธ จะคล่องแคล่วว่องไว

    แม้ถูกตีต่อย ให้ล้มลง ลูกจะกลับคืนยืนได้ดังเดิม

    โอมผงเผ่าเถ้าธุลี คงกระพันชาตรี สวาหะ หณุมานะ คลุกคลีตีมะอะ ฯ

    (สักที่อกด้านขวา คู่สิงห์)

    สิงห์นั้นรู้สึกคึกคัก แลตื่นเต้น

    เลือดลมไปหล่อเลี้ยงทั้งร่าง

    ราวกับมือไม้ แขนขากระตุกเองทั้งตัว

    และบังเกิดหนุมานที่สัก ประทับในจิต

    และเป็นสีทอง อร่ามเรือง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _.jpg
      _.jpg
      ขนาดไฟล์:
      457.6 KB
      เปิดดู:
      1,748
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2015
  4. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เมื่อสักเสร็จ ทั้ง 5 ลาย

    ขรัวอินทร์ดูเหนื่อยล้ามาก

    สิงห์เอ๋ย เสียงขรัวอินทร์ดูสั่นและอ่อนล้า

    บัดนี้พ่อเหนื่อยเวลาก็เคลื่อนคล้อย จนเช้า

    เมื่อสิงห์มองไปโดยรอบถ้ำ แสงที่ส่องลงมาจากกลางถ้ำ

    แลดูงดงาม ได้กลิ่นป่า หอมมา กลิ่นสดชื่น

    และเริ่มเห็นถ้ำเหล็กไหล ชัดเจน มันดูราวกับมีชีวิต

    แสงแดดที่ส่องประกายผนังถ้ำในมุมมืด เป็นสีรุ้งระยิบระยับ

    ดูงดงาม และน่าพิศวงมาก แต่กลับไม่ได้ยิน เสียงนก แลสัตว์ใด

    สิงห์เอ๋ย เจ้าจงนำมาท่อนใหญ่ที่สุดสามท่อน แล้วจงหุงข้าวในห่อ

    เจ้าจงนำน้ำที่อยู่ในแอ่งด้านหลังพ่อ น้ำนี้ คือ น้ำค้างกลางหาว

    ที่หล่นลงมา บริสุทธิ์ เหมาะแก่การทำพิธี คงกระพันชาตรีอันเข้มขลังนี้

    สิงห์แกะห่อข้าว เมื่อแกะแล้วห่อข้าวนั้นมีข้าวแค่ สองกำมือ และเป็นสีดำ!!!

    สิงห์จึงนำไม้ไผ่ตัดท่อน ที่มีมาหุงข้าว และไปค้นในย่ามสมุนไพร

    พบไม้ขนาดไม่ใหญ่นัก สามท่อน เท่าๆกัน รวมอยู่กับสมุนไพรมากมายในย่าม

    ก็เริ่มหุงข้าว ขณะที่สิงห์กำลังจะก่อไฟ เมื่อวางไม้ทั้งสามเตรียมจุดไฟ

    ยังไม่ทันจะคิดว่าจะจุดไฟอย่างไร ไม้นั้นก็ติดไฟเอง

    ขรัวอินทร์ในท่านั่งขัดสมาธิ แลตาทั้งสองยังปิดอยู่

    สิงห์เอ๋ยพ่อจะบริกรรมคาถากำกับ เมื่อข้าวสุกแล้ว

    เจ้าจงนำมาให้พ่อ

    สิงห์นั้นสุดสงสัย ข้าวเพียงสองกำมือ จักอิ่มได้อย่างไร

    ข้าเคยเห็นแม่นำข้าวดำมาทำขนม

    สิงห์คิดว่าอย่างไรเสีย แม้หิวจนตาย

    ข้าจักให้ขรัวอินทร์กิน ข้าจะไม่แตะข้าวนี้แม้เพียงเมล็ด

    (กตัญญู กตเวทิตา คุณสมบัติอันทำให้เจริญ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2015
  5. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    พักแป๊บนะจ๊ะ
     
  6. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ฟังเพลงคั่นเวลากันไปก่อน เหตุผลที่ยังอยู่คนเดียวต่อไป

    อยู่เหงา เหงา อย่างคนที่ปล่อยวาง
    ก็ อยู่อย่างนี้จนเคยชิน " อยู่คนเดียว "

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2015
  7. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ข้าวนั้นเพียงไม่นาน ก็สุก ส่งไอหอมไปทั่วถ้ำ
    แต่กลิ่นที่รุนแรงกว่าคือ กลิ่นไม้ที่หุง มันฉุนเฉียวเหมือนกลิ่นเหล็กไหม้

    สิงห์รีบโกยฝุ่นดิน ดับไฟ แล้วประคองข้าวในกระบอกไม้ไผ่นั้น
    โดยใช้ผ้าคาดเอว ประคองไปรองวางไว้หน้าขรัวอินทร์

    ขรัวอินทร์กล่าวว่า ข้าวที่เจ้ากินนั้น เมื่อกินแล้วเจ้าจัก
    หนังเหนียว

    กาลก่อนนั้นเมืองเวียงจันทน์เกิดเดือดฮ้อน มีช้างป่ามาบุกรุกทำลายไฮ่นาฮั้วสวน เครืองปลูกของฝังตลอดบ้านเฮือนของไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน
    เจ้าเมืองเวียงจันท์จึงประกาศหาคนดีมาผาบช้างใผผาบได้จะได้ฮับพระราชทานพระราชธิดาแห่งเวียงจันทน์เป็นคู่ครอง

    ท้าวศรีโคตรผู้มีอาวุธวิเศษเป็นพระตะบองเพชร ผู้มีวิชาเก่งกล้าหาใผเปลียบเทียบบ่ได้ ก็รับอาสาผาบช้างและก็ผาบช้างได้สำเร็จอี่หลี
    พระเจ้าแผ่นดินจึงพระราชทาน “เจ้านางเขียวข่อมเทวี”
    พระราชธิดาให้แก่ท้าวศรีโคตร แล้วสร้างเรือนหิน (ปราสาท) ให้อยู่ )

    ต่อมาพระเจ้าเวียงจันท์อย้านว่าท้าวศรีโคตรจะแย่งราชบัลลังก์ จึงใช้อุบายต่างๆ
    เพื่อที่จะกำจัดท้าวศรีโคตร แต่บ่สำเร็จ เพราะท้าวศรีโคตร ฟัน แทงบ่เข้า จึ่งฆ่าบ่ตาย
    พระเจ้าเวียงจันทน์จึงคิดอุบายขึ้นโดยหลอกถามจากธิดาของตนว่า “ด้วยเหตุใดหนอท้าวศรีโคตรจึงเป็นคนเก่งและฆ่าบ่ตาย”
    พระธิดาบ่ฮู้เล่กลของพระราชบิดา ในวันหนึ่งจึงถามท้าวศรีโคตรว่า “เจ้าอ้ายเป็นคนเก่ง
    ใผฆ่าก็บ่ตาย น้องอยากฮู้ว่าเจ้าอ้ายมีดีอันใดหนอ?”

    ท้าวศรีศรีโคตรบ่ฮู้ถึงภัยจะเกิดกับตนเพราะความฮักเมีย จึงเล่าเรื่องสมัยบวชเป็นสามเณรให้เมียฟังว่าที่ตนมีพลังสามารถผาบช้างได้นั้น
    ก็เพราะครั้งหนึ่งได้หุงข้าวถวายหลวงตาได้หักเอาไม้ดิบมาคนหม้อพาให้ข้าวนั้นกลับกลายเป็นสีดำ
    หลวงตาใจฮ้ายจึงสั่งให้เณรศรีโคตรฉันข้าวหม้อนั้นเพียงผู้เดียว ภายลุนมาจึงทำให้เณรศรีโครตมีพลังช้างศาล
    อีกทั้งแทงบ่เข้าจึงฆ่าบ่ตายด้วยหอก ดาบ

    เมียก็ถามต่อไปว่ามีทางใดบ่ที่คนอื่นจะฆ่าเจ้าอ้ายให้ตายได้
    ท้าวศรีโคตรบ่คิดว่าเมียจะสามารถฆ่าตนได้ลงคอจึงตอบไปว่า “เข้าทางฮูเก่า(ทวาร)เท่านั้นก็ตายดอก”

    พระธิดาจึงนำความไปเล่าให้พระบิดาฟัง พระบิดาทราบจึงหาอุบายที่
    จะฆ่าท้าวศรีโคตร
    โดยเชิญท้าวศรีศรีโคตรไปรฮ่วมเสวยอาหารที่ท้องพระโรง และใกล้ ๆ
    บริเวณท้องพระโรงได้ทำห้องบังคลหนัก(ส้วมถ่าย)
    โดยได้วางยนต์หอกในส้วมถ่ายนั้น

    พอเสวยเสร็จและท้าวศรีโคตรเข้าห้องบังคลหนัก ยนต์หอกก็ทำงาน
    คือหอกก็แล่นขึ้นทางฮูเก่าเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ แต่ท้าวศรีโคตรบ่ตายทันที และท้าวศรีโคตรได้ทราบว่าเสียฮู้ผู้หญิงแล้ว
    จึงเหาะกลับเมือตายที่เมืองศรีโคตรพระตะบอง

    ก่อนตายได้สาบแช่งเมืองเวียงจันทน์ว่า "ให้ฮุ่งเพียงช้างพับหู เพียงงูแลบลิ้น"
    เพราะคนเวียงจันทน์เป็นคนบ่มีสัจจธรรม ขนาดว่าท้าวศรีโคตรผาบช้างให้แล้ว ยังหาวิธีกำจัดให้ตายได้ลงคอ

    ข้าวที่พ่อให้เจ้าหุง จักมีฤทธิ์เช่นนั้นแล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • jpg.jpg
      jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      446.7 KB
      เปิดดู:
      258
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2015
  8. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    กรรมที่ทำให้เกิดเป็นหญิงหม้าย นั้นมีมากมาย เช่น ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
    ทำให้ครอบครัวผู้อื่นแตกแยก ในกาลถัดๆไป จะเล่าถึงความเจ้าชู้ของสิงห์

    ระดับเลวมาก ชอบเหยียบน้ำใจชายอื่น
    คือไม่ได้ขโมยเมียใครเขามา แต่เป็นพวก ผัวเขาเผลอ ก็ไปแทะโลม
    หรือมากกว่านั้น ถ้าผู้หญิงยินยอม ก็ตกเป็นทางผ่านให้สิงห์
    สิงห์นั้นหากมีเรื่องกับใคร มักแกล้งทั้งทางการเมือง
    แกล้งส่งสิ่งต่างๆไปทำให้กลัว และสุดท้าย
    เหยียบใจมัน โดยการหลอกเมียมัน หลอกลูกสาวมัน

    ก็สมควรตายจริงๆ

    หากมีหญิงใด หลงคารม หลงรูปลักษณ์ ก็ไม่เคยยับยั้งชั่งใจ

    ไม่รับใครเป็นเมียออกหน้าออกตา ไม่ให้เกียรติความเป็นหญิง
    ที่สำคัญ คิดว่า มีลูกของสิงห์ที่เกิดในครรภ์หญิงบางคน
    และให้ผัวเค้าเลี้ยงลูกตน..สุดบรรยายความเลวนะ

    และที่สำคัญ ไม่ได้บวชแม้เพียงเณรน้อย

    และอีกหลายๆชาติ ก็เกิดเป็นหญิง
    ไม่ได้บวช ไม่ได้ห่มผ้าเหลือง ไม่มีลูกชายที่เป็นมนุษย์

    เลยต้องรับกรรมศีลข้อกาเม หลายต่อหลายชาติ

    แม้ชาตินี้ เหลือเพียงกรรมบางส่วน แต่ก็ถือว่า
    ชาตินี้ต้องรับกรรม แต่ชนะใจตนเอง
    ไม่ใช่หนีกรรมได้ ต้องรับเต็มๆ แต่ทุกข์นั้นเศร้าแต่สั้นกว่าที่ควรจะได้รับ
    และจิตในชาติหน้า แม้ได้เกิดอีก ก็จักได้ไปในที่ดีกว่าชาตินี้

    การมีบุตรชาย โบราณว่า เหมือนพระมาโปรด

    เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ กรรมเป็นแดนเกิด เช่นนี้แล

    เกิดเป็นคนนั้นแสนยาก จงรีบเร่งศึกษา และทำความเพียรเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2015
  9. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    หลังจากเขียนเรื่องสิงห์จนเสร็จ

    แล้วรู้ทุกพฤติกรรมทุกเรื่องที่สิงห์ทำ

    มันทำให้เข้าใจ และปลงได้กับหลายเรื่อง

    หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า กิน กาม เกียรติ

    ทุกเรื่องที่สิงห์ทำกับผู้หญิง

    มันมาสนองในชาตินั้น ชาติที่เป็นพระธิดานาคี รุนแรงมาก

    ไม่ว่าจะสูงส่ง มีฤทธิ์แค่ไหน ก็หนีกฏแห่งหรรมไม่พ้น

    มีแต่ทะเลน้ำตา

    มันค่อนข้างน่ากลัว

    โดยเฉพาะคำสาบแช่ง...ที่ได้รับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2015
  10. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    หากใครมีข้อคิดเห็นใด ก็บอกได้นะจ๊ะ

    ยังไม่ง่วงหรอก แต่จะพักการเขียนแล้ววันนี้
     
  11. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ณ เวลานั้น พระอาทิตย์ ขึ้นตรงศรีษะ

    ขรัวอินทร์นำข้าวในกระบอกไม้ไผ่ นั้นขึ้นมาเป่า
    ข้าวนั้นยังร้อนมาก ควันพวยพุ่ง
    ท่านเป่าลงไป เพียงครั้งเดียว
    แล้วหันกระบอกในแนวตั้ง กระแทกพื้นลงไปอย่างแรง
    กระบอกไม้ไผ่ก็แตกออกจากกัน เป็นแฉกๆ

    จากนั้นท่านว่า สิงห์เอ๋ย เจ้าจงอ้าปากลูก
    หลับตาลง

    สิงห์อ้าปาก ท่านนำข้าวนั้นยัดใส่มือตน
    แล้วนำมายัดเข้าปากสิงห์ และเอามืออุดไว้เช่นนั้น

    สิงห์นั้นจุกข้าวที่ท่านยัด และเหม็นข้าวไหม้
    แลข้าวนั้นกึ่งสุกกึ่งดิบ
    ลวกร้อนในลำคอ แต่คายออกมาไม่ได้
    เพราะติดมือของขรัวอินทร์ที่ปิดปากอยู่
    จึงฝืนกลืนข้าวนั้นลงในลำคอ

    พิธีกรรมนี้ ทำ 2 ครา กินข้าว สองกำปั้น ก็เป็นอันเสร็จ
    คงกระพันชาตรี ทางการกิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2015
  12. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขรัวอินทร์ กล่าวว่า
    บัดนี้ร่างกายเราทั้งสองอ่อนล้ามาก
    ข้าจักนั่งสมาธิ ลงสู่ภวังค์นิทรา

    ลูกจง นำฟืนที่หุงข้าว ใส่ลงไปในแอ่งน้ำใหญ่ตรงหน้า
    แล้วจงลงไปแช่ในน้ำนั้น จงนั่งแช่น้ำในท่าขัดสมาธิ

    เมื่อราตรีเคลื่อนมาอีกครา พ่อจักสอนกสิณไฟ ให้เจ้า
    เพื่อให้พิธีอาบว่านยา ในอีก เจ็ดราตรี เจ้าจึงสำเร็จวิชา
     
  13. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ค้างจากเมื่อวาน วาเลนไทน์

     
  14. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    การเขียนเรื่อง เตโชกสิณ มันเขียนยากแฮะ
    แบบว่าเรื่องมันร้อนน่ะนะ พวกภพภูมิจะไม่พอใจมั้ย
    แล้วท่านฤาษีทั้งหลาย
    จะรอดมั้ย สงสัยกว่าจะเขียนจบ เละก่อน

    รอเป็นช่วงหัวค่ำดีกว่าเนอะ
     
  15. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    นอนกลางวันฝันไป ฝันว่าขับรถไป เหมือนจะไปวัด
    จารุขับรถสีแดง แล้วก็แหงนมองดวงอาทิตย์
    อยู่ดีๆ พระอาทิตย์ ก็แผดแสงจ้ามาก
    เหมือนที่เราเห็นเวลาขับรถสวนกับพวกติดฟิล์มปรอท
    แล้วตาข้างซ้ายก็ดับไปเลย

    แล้วก็หักรถลงไหล่ถนน
    ดันเป็นไหล่ถนนสูง แต่ไม่ยักเป็นอะไร

    ขับไปตามถนนด้านล่างที่เป็นดิน ที่ตกไป
    มองไปข้างหน้า เห็นเหมือนโรงงาน รั้วสีขาวยาว
    มียาม มีประดับตกแต่งผ้ารอบรั้ว เหมือนจัดงาน
    แล้วมีลานจอดรถด้านหน้า เลยขับปีนขึ้นไปจอด
    พอขึ้นไป ก็วาจะไม่ไปวัดแล้ว จะกลับรถกลับบ้าน
    ทีนี้ต้องข้ามเลน เหลือตาข้างเดียว
    เลยข้ามไม่ได้ หันซ้ายหันขวา กำลัังจะขับข้ามเลน
    โดยบีบแตรเสียงดัง มองเป็นเห็นผญ มาเต็มรถเลย
    เป็นแขกโฟกผ้า บอกขับรถบ้าอะไร จะข้ามก็ไม่ข้าม

    ไม่มีมารยาท เลยบอกว่าขอโทษตามันดับไปข้างนึง

    ผญพวกนั้น ก็ไม่หายโกรธ ก็เลยตื่น ด้วยความตกใจ

    ว่าจะไปเรียกยามมาโบกรถให้ ดันตื่นซะก่อน
     
  16. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    สาวๆเขายังแค้นคุณอยู่มั่ง
    ช่วงนี้ติดงานเลยไม่ได้พิมพ์ตอบ เชื่อไหมทหารองค์ดำเกิดเป็นผู้หญิงตั้งเยอะแถมเรื่องความรักแย่อีก กิน กาม เกียรติ อย่างคุณว่านั่นแหละ บางอย่างแรงเกินก็ไม่อยากพิมพ์ คนเราเปลี่ยนแปลงได้เพราะคำว่าเห็นแก่ตัว อัตตาที่มาก จมไม่ลง ยอมทำผิดทั้งที่รู้ว่าไม่ดี จิตนั่นเองที่จะเป็นตัวบอกเรา เมื่อกรรมจะให้ผลคงไม่มีอะไรมาขวางได้ เพียงแต่ประคองจิตของตนไว้ให้ได้ก็ถือว่าแน่มากแล้ว ต้องดีกว่าเดิมไปให้พ้นจากอบายภูมิ(ข้าพเจ้าก็ไม่รู้จะรอดหรือเปล่า) เป็นกำลังใจให้นะ
     
  17. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เล่าต่ออีกนิด
    เคยฝันว่านอนอยู่ แล้วมีคนมานวดขา
    เลยลืมตาตื่นมา แต่ตัวเองกลายเป็นท่านสิงห์
    มีสาวผมยาว หน้าตางดงาม สี่คน
    วัยประมาณ 18-25 ใส่กำไลทอง
    ผ้าสไบแพร งดงาม พอเราจะลุกขึ้น
    กลายร่างเลยทีเดียว ค่อยๆเปื่อย
    ค่อยๆเน่า บางคนก็เหมือนไฟไหม้ผิว

    ท่านพี่ พวกเราคิดถึงท่านเหลือเกิน
    เมื่อไหร่จะกลับมารับเจ้าคะ

    ในฝันออกญาสิงห์ ไม่กลัว สะบัดขา เตะกระเด็นเลย

    อีพวกนี้ กูรำคาญเหลือทน
    กูจักหลับจักนอน ไปให้พ้นหน้ากู
    ถ้ากูลงหวาย พวกมึงอย่ามาร้อง

    แล้วนางๆทั้งสี่ ก็ก้มกราบ ร้องไห้คร่ำครวญ

    ไม่รู้รักลงได้ไงท่านออกญา โหดจริงๆ

    ผู้หญิงสมัยก่อน จงรักภักดีมาก
    ขอติดตามรับใช้ท่านพี่ทุกชาติไป

    เฮ้อ
     
  18. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    อย่าหลง สิครับ หญิงพวกนี้ เขาไม่ได้จงรักภักดีอะไรหรอก...ก็ลงเมตตา มหา(อย่ากลับ ห นำหน้า ม) นิยมขนาดนั้น มันเป็นเพราะ อวิชชาต่างหากครับ.....

    ความรักแท้ มันไม่อยู่ที่หน้าตา อำนาจ เกีรยติ หรือวิชาอาคม...แต่มันอยู่ที่ใจ เท่านั้นครับ



    อือิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กุมภาพันธ์ 2015
  19. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ความรักที่ยั่งยืน มิตรภาพที่ยั่งยืน มิตรภาพที่แท้จริง ความรักที่แท้จริง มันไม่ก่อศัตรู กับใครหรอกครับ
     
  20. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ก็เหมือนคนทุกวันนี้ ที่พูดกันว่า....คนดีไม่มีในโลก รักแท้ไม่มีในโลก

    ก็ในเมื่อ สนตะพายกันมาว่า เงินคือพระเจ้า...สุดท้าย รักแท้ก็แพ้เงิน เพราะคนเรากลัวความลำบากที่จะมีแก่ตัวเอง เลยเลือกเงินคนมีเงิน ไม่เลือกรักษาน้ำใจต่อกัน

    มันก็เป็นมาช้านาน ทุกยุคสมัย นั่นแหล่ะครับ...กรำ
     

แชร์หน้านี้

Loading...