เสียงธรรม ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร (สวดสันสกฤต)

prajñāpāramitāhṛdayasūtram|
ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร

|| namaḥ sarvajñāya||

āryāvalokiteśvarabodhisattvo gambhīrāyāṁ prajñāpāramitāyāṁ caryāṁ caramāṇo vyavalokayati sma| pañca skandhāḥ, tāṁśca svabhāvaśūnyān paśyati sma||
อริยาอวโลกิเตศวารา โพธิสัตตโว คัมภีรํ ปรัชญาปารมิต จารยํ จารมโน วยาวโลกยาติ สมา
ปัญจะ สกันธัส ตัมสจะ สว ภว ศุนยํ ปัศยาติ สมา
พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เมื่อปฏิบัติซึ้งในปรัชญาปารามิตา
เพ่งเห็นขันธ์ห้า เป็นความว่าง จึงข้ามพ้นทุกข์

iha śāriputra rūpaṁ śūnyatā, śūnyataiva rūpam|
อิหา ศารีปุตระ รูปํ ศุนยํ ศุนยะตา วะ รูปํ
โอ สารีบุตร รูปคือความว่าง ความว่างคือรูป

rūpānna pṛthak śūnyatā, śūnyatāyā na pṛthag rūpam|
รูปํ นะ ปฤถัก ศุนยตา ศุนยตายะ นะ ปฤทัก รูปํ
รูปไม่อื่นไปจากความว่าง ความว่างไม่อื่นไปจากรูป

yadrūpaṁ sā śūnyatā, yā śūnyatā tadrūpam||
ยัท รูปํ สะ ศุนยตา ยะ ศูนยตา ตัท รูปํ
รูปอันใด ความว่างก็อันนั้น ความว่างอันใด รูปก็อันนั้น

evameva vedanāsaṁjñāsaṁskāravijñānāni||
เอวัม เอวะ เวทานา สังชญา สังสการา วิชญานา
เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็เป็นดังนี้ด้วย

ihaṁ śāriputra sarvadharmāḥ śūnyatālakṣaṇā anutpannā aniruddhā amalā na vimalā nonā na paripūrṇāḥ|
อิหา ศารีปุตระ สารวะ ธารมะ ศุนยตา ลักษณะ
อนุตปัณณะ อนิรุทธะ อมาละ นะ วิมาละ นูนะ นะ ปาฤปูฤณะ
โอ สารีบุตร ธรรมทั้งปวงว่างเปล่า
ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว ไม่เพิ่ม ไม่ลด

tasmācchāriputra śūnyatāyāṁ na rūpam, na vedanā, na saṁjñā, na saṁskārāḥ, na vijñānāni|
ตัสมา ศารีปุตร ศุนยตายํ นะ รูปํ นะ เวทานา นะ สังชญา นะ สังสการ นะ วิญญาณ
ในความว่างไม่มีรูป ไม่มีเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

na cakṣuḥśrotraghrāṇajihvākāyamanāṁsi, na rūpaśabdagandharasaspraṣṭavyadharmāḥ|
นะ จักษุ โสรตัม ฆราน ชิว กาย มน
นะ รูป ศัพท คันธ รส ศปิสตาวยา ธารมา
ไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ไม่มีรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์

na cakṣurdhāturyāvanna manodhātuḥ||
นะ จักษุ ธาตุ ยะ วัน นะ มโน ธาตุ
ไม่มีจักษุธาตุ ไปจนถึง ไม่มีมโนธาตุ

na vidyā nāvidyā na vidyākṣayo nāvidyākṣayo yāvanna jarāmaraṇaṁ na jarāmaraṇakṣayo na duḥkhasamudayanirodhamārgā na jñānaṁ na prāptitvam||
นะ วิทยา นะ วิทยา กศโย
ยะ วัน นะ ชรามรณัม นะ ชรามรณัม กศโย
นะ ทุกข สมุทย นิโรธ มฤคาชณ
นะ ชญานัม นะ ปราปติ ตวัท
ไม่มีอวิชชา ไม่มีความสิ้นไปแห่งอวิชชา
ไปจนถึง ไม่มีชรามรณะ ไม่มีความดับลงซึ่งชรามรณะ
ไม่มีทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
ไม่มีการประจักษ์แจ้ง ไม่มีการบรรลุ เพราะไม่มีอะไรให้บรรลุ

bodhisattvasya prajñāpāramitāmāśritya viharati cittāvaraṇaḥ|
โพธิสัตตวะ ปรัชญาปารมิตา อศฤตยา วิหาระติ จิตตา วรโน
พระโพธิสัตว์ ด้วยเหตุดำเนินตาม ปรัชญาปารามิตา จิตย่อมไม่สับสนมืดมัว

cittāvaraṇanāstitvādatrasto viparyāsātikrānto niṣṭhanirvāṇaḥ|
จิตตา วรโน นะ สิทธิตวัท อตรัสโต วิปา ฤยส ติ กรานโต นิ สถา นิรวานะ
เพราะจิตไม่สับสนมืดมัว จึงไม่มีความกลัว อยู่เหนือสิ่งลวงหลอก มีพระนิพพานเป็นที่สุด

tryadhvavyavasthitāḥ sarvabuddhāḥ prajñāpāramitāmāśritya anuttarāṁ samyaksaṁbodhimabhisaṁbuddhāḥ||
ตยา ธยา วยาว สถิตา สาระ พุทธา ปรัชญาปารมิตัม อศฤตยา อนุตตรํ สัมยักสัมโพธิง อภิสัมพุทธา
พระพุทธเจ้าทั้งสามกาล ด้วยเหตุดำเนินตาม ปรัชญาปารามิตา จึงได้บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาน

tasmājjñātavyaḥ prajñāpāramitāmahāmantro mahāvidyāmantro'nuttaramantro'samasamamantraḥ sarvaduḥkhapraśamanaḥ satyamamithyatvāt prajñāpāramitāyāmukto mantraḥ|
ตัสมา ชญตา วยัม ปรัชญาปารมิตา มหามันตรัม มหาวิทยามันตรัม อนุตตรมันตรัม อสมสมามันตรัม
สารว ทุกขา ปรสามานัม สัตยํ อมิตยัทวัท
ปรัชญาปารมิตายัม อุทโท มันตรา
จึงควรทราบว่า ปรัชญาปารามิตา เป็นมหาศักดาธารณี เป็นมหาวิทยาธารณี เป็นอนุตรธารณี เป็นอสมธารณี
สามารถดับสรรพทุกข์ สัจจะธรรมไม่ผิดพลาด
ฉะนั้นจึงประกาศ ปรัชญาปารามิตาธารณีดังนี้

tadyathā- gate gate pāragate pārasaṁgate bodhi svāhā||
ตัทยาถา คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสังคะเต โพธิ สวาหา
ไป ไป ไปสู่ฝั่งโน้น ฝั่งแห่งพุทธะ สวาหา

iti prajñāpāramitāhṛdayasūtraṁ samāptam||

 

สาธุ สาธุ สาธุ