ประวัติความเป็นมาของพระพุทธสิหิงค์เมืองเชียงใหม่ โดยหลวงปู่จาม มหาปุญโญ

๒๔๒.) ตรุษสงกรานต์เมืองเชียงใหม่
เขา
จะอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์แห่ไปตามถนนรอบเมือง
เพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชา
รดสรงน้ำ ชาวเมืองเขา เรียกว่า “
พระสิงห์ ”
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
นั่งสมาธิเอาฝาพระบาทหงายขึ้นทั้ง ๒
ข้าง ผู้ข้าฯ ไปภาวนา
อยู่วันหนึ่งข้างวิหารลายดอก
เทวดามาบอกว่า
“ ท่านอาจารย์อยากรู้จักว่าพระสิงห์มา
จากไหนหรือครับ ผมจะเล่าให้ฟัง
พระปฎิมาเจ้าองค์นี้นะครับ
กษัตริย์เมืองลังกาให้หล่อสร้างเพื่อ
เป็นการตอบแทนที่พระร่วงเมืองสุโขทัยเอาพุทธศาสนาไปคืนเผยแพร่
ไว้ที่ลังกา แล้วเมืองลังกาก็
ให้พระปฏิมาเจ้าองค์นี้ตอบแทนมา
ล่องน้ำทะเลมาขึ้น
จากน้ำทะเลเมืองนครศรีธรรมราช
แล้วเอาขึ้นมาไว้สุโขทัย แล้วไป
อยู่พิษณุโลก ไปอยู่กรุงศรีอยุธยา
ขึ้นมาอยู่กำแพงเพชร
เจ้ามหาพรหมเอาไปไว้เมืองเชียงราย
เจ้าไชยเชษฐาเอาไปเวียงจันทร์
แล้วเอามาคืนไว้เมืองเชียงใหม่
พระนารายณ์เมืองกรุงศรีอยุธยาเอาลงไป
ไว้กรุงศรีอยุธยาอีก สุดท้ายทหารเชียง
ใหม่ไปกับกองทัพพม่าจึงขอ
กับพวกพม่าว่า
เป็นพระประจำเมืองเชียงใหม่
ขอเอากลับคืนเชียงใหม่ จึงเอาไว้
อยู่วัดนี้แต่ก่อนแท้ ”
ตามประวัติเขาว่า วัดพระสิงห์สร้าง
ในยุคสมัยของพญาผายูลูกชายของพญาคำฟู
ถามเจ้าวัดว่า พระสิงห์เป็นมาอย่าง
ใดก็ตอบไม่ได้ไปเสาะหาหนังสือมา
ให้อ่าน บอกแต่ว่า หน้าตัก ๓๑ นิ้ว สูง
๕๑ นิ้ว
ไปขอพักกับวัดเชียงมั่น รู้จักได้ว่า
เป็นบ้านพักชั่วคราวขณะที่กำลังก่อสร้างเมืองเชียง
ใหม่
พญามังรายย้ายมาแต่เวียงกุมกาม
แล้วมาตั้งปางพักอยู่วัดนี้
สร้างวัดนี้ขึ้นมาเป็นวัดแรก
จารึกอักษรเอาไว้
เอาพระแก้วขาว มา
จากเมืองลำพูนขึ้นมาไว้วัดนี้
เขาเรียกว่า “ พระเสตังคมณี ”
พระปางมารวิชัย ศิลปะเมืองละโว้
เจ้าแม่จามเทวีเป็น
ผู้เอาขึ้นมาเมื่อคราวขึ้นมาครองเมืองลำพูนหริภุญไชย
พญามังรายไปเอามา
แล้วมาตั้งประกาศ
เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของเมืองเชียง
ใหม่ “ พระแก้วขาว ” นี้มีอยู่ ๓ องค์
ขนาดต่างกันที่เจ้าแม่จามเทวีเป็น
ผู้เอาขึ้นมา องค์หนึ่งเอาไว้ลำพูน
องค์หนึ่งเอาไว้ลำปาง
องค์หนึ่งเจ้าแม่จามเทวีเพิ่นเอาไว้
เป็นพระกราบไหว้ประจำตัวเพิ่น
ตกมายุคสมัยนี้ อยู่ลำปาง ๒ องค์
ผู้ข้าฯ ไปเห็นมาอยู่วัดลำปางหลวง
คราวไปพักกับเขา พ.ศ. (๒)๕๐๑
***คัดจากธรรมประวัติหลวงปู่จาม
มหาปุญฺโญ :
กลับเมืองเหนือเครือคร่าววัยธรรม—
กับ พระธมฺมธโร ครูบาแจ๋ว และ 2 อื่นๆ