นั่งสมาธิแล้ว เปลือกตาจะเปิดเผยอขึ้นมาเอง??

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย keekimaru, 15 กรกฎาคม 2017.

  1. keekimaru

    keekimaru สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +3
    นั่งสมาธิแล้ว เปลือกตาจะเปิดเผยอขึ้นมาเอง??

    สวัสดีครับ ผมรบกวนขอความรู้ ในเรื่องการฝึกสมาธิหน่อยครับ ผมเคยอ่านบทความตอบกระทู้เกี่ยวกับสมาธิของคุณธรรม-ชาติ มาตั้งแต่ปีที่แล้วครับ

    และ 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ผมนั่งสมาธิปิดไฟ แล้วเห็นแสงสว่างครับ แต่ระหว่างนั้นก็เห็นขาตัวเองด้วยในท่านั่งขัดสมาธิ แรกๆก็ไม่คิดอะไร หลังๆก็เป็นอีกเมื่อมีแสงสว่าง

    จำได้ว่า รอบแรกที่เข้าถึงภาวะนี้แสงสว่างจ้ามากๆ แต่หลังๆมักจะเกิดความสงสัยว่า เปลือกตาจะเปิดเผยอขึ้นมาเองหรือเปล่า

    มีอยู่วันนึงผมนั่งสมาธิแล้วแมวมานั่งตรงหัวเข่าที่ผมนั่งขัดสมาธิ พอสงบได้ที่เข้าภาวะที่เห็นแสงสว่าง ผมรู้สึกว่าเหมือนตาจะเผยอขึ้นมาและเห็นตัวแมวกับหางแมวด้วย ทั้งๆที่อยู่ในภาวะจิตรู้แสงสว่าง

    หลังๆพยายามฝืนปิดเปลือกตา แต่พอเข้าภาวะจิตเห็นแสงสว่างตามันก็เปิดเองตลอดๆครับ จนรู้สึกกังวล เลยทำให้เกิดความไม่สงบและสงสัยครับ จิตเลยไม่ตั้งมั่น สมาธิไม่ก้าวหน้าเลย

    และด้วยความกังวลที่กลัวว่า นั่งๆแล้วจะลืมตามาเองแบบเต็มตาโดยไม่ได้ตั้งใจ

    ผมจึงค้นหาและย้อนกลับมาดูที่คุณธรรม-ชาติตอบกระทู้ไว้ ความว่า
    +++ ขณะที่จิตสงบถึงจุดหนึ่ง (อุปจาระสมาธิ = ใกล้เป็นสมาธิ หรือ ใกล้ฌานสมาบัติ) เปลือกตาจะเปิดเผยอขึ้นมาเอง ให้ดูพระพุทธรูปเป็นตัวอย่าง หากเป็นนักฝึกแบบธรรมดาเปลือกตาก็จะเปิดขึ้นมาเฉย ๆ แต่ถ้าหากเป็นอริยะชนแล้ว ก็จะมีอาการยิ้มน้อย ๆ ประกอบไปด้วยทั้ง ๆ ที่ไร้เจตนาในการยิ้ม ท่านเรียกอาการนี้ว่า จิตยิ้ม ซึ่งเป็นข้อแตกต่างกัน

    อ้างอิงค์จาก : http://palungjit.org/threads/ประสบการณ์ทำสมาธิของผม.493616/

    คำถาม : คนอื่นๆที่นั่งสมาธิ แล้วเข้าภาวะเห็นแสงสว่างต้องเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าครับ

    คำถาม : แก้ไขด้วยการรู้ตามจริง และดูมันเฉยๆหรือเปล่าครับ

    ขอขอบคุณสำหรับการตอบคำถามมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
     
  2. keekimaru

    keekimaru สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +3
    จะมีใครเป็นเหมือนเรามั้ยหนอ ยังรอคอยผู้รู้มาตอบอยู่นะครับ ^^
     
  3. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ อยู่ใน PM นะครับ
     
  4. keekimaru

    keekimaru สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +3
    คุณธรรม-ชาติ ขอบคุณมากๆนะครับ ^^
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    เจอครับ เป็นเรื่องปกติเลยครับ
    แบบนี้สามารถเจอได้ ทั้งการฝึกแบบหลับตา
    และลืมตาครับ เด่ว
    ขออนุญาติช่วยเสริมคุณธรรมชาติ
    ในอีกมุมหนึ่งนะครับ
    คือสภาวะนั้น แสงสว่างจร้ามากๆ เหมือนสปอรต์ไลท์
    แต่สังเกตุได้ว่าแสงมันจะไม่เย็น และเราจะเหมือนว่า
    เราคล้ายๆคิดได้ แต่ว่าก็ไม่หลุดสภาวะตรงนั้น
    คือคิดโน้นนี่นั่นได้ แต่แสงก็ยังสว่างอยู่

    คือส่วนตัวเรียกคนที่จะเจอกิริยาอย่างนี้ว่า
    จิตทำงานได้เมื่อมีแสงนำครับ
    เป็นกำลังสมาธิอยู่ในระดับฌานที่ ๑ ครับ
    ส่วนมองเห็นร่างกายตัวเองได้ ก็เป็นกิริยาปกติ
    นะครับ ซึ่งเราสามารถใช้ตรวจสอบการยึดติด
    ร่างกายเราได้ครับ คือจะมองเห็นได้ใสแต่ออกเขียว
    ก็ต้องดูว่า เห็นได้ทั้งตัวหรือไม่ เห็นใสเขียวได้แค่ไหน
    แสดงว่าจิตตัดร่างกายได้ประมาณนั้น เอาไว้เป็นหลักสังเกตุครับ


    ตรงนี้ถ้าสมมุติว่า จะพัฒนาต่อไปนะครับ
    ให้ไม่ต้องสนใจอะไรครับ เด่วแสงที่สว่างมากๆนั้น
    มันจะค่อยๆมืดลง มืดลงของมันเองครับ
    และเราก็นั่งต่อไป เด่วแสงสว่างจร้านี่
    มันก็จะค่อยๆสว่างขึ้น สว่างขึ้นของมันเอง
    แต่ว่ามันจะเป็นในโหมดอรูปฌานนะครับ

    หลักสังเกตุนะครับ แสงสว่างจร้าที่เราเจอตอนแรกนั้น
    คือมันจะสว่างขึ้นมามากๆเลย
    แต่แสงสว่างจร้าในระดับกำลังสมาธิที่สูงขึ้นนั้น
    มันจะค่อยๆสว่าง ค่อยๆสว่างครับ
    ปล.ขอบคุณครับ
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เรียนธรรมะ อย่าใช้ ตรรกศาตร์

    แสงสว่าง จาก มโนอินทรีย์ หรือ มนิทรีย์
    มันจะคนละ ทวาร กับ จักขุ

    อย่าเอา ตรรกแบบปุถุชน เข้าไปทับ นัยยะ
    ปฏิบัติขณะภาวนา

    ถ้า จิตเปนสมาธิ สัมมาสมาธิ จะแยกออก
    แสงทึ่มาทาง มนิทรีย์ กับ สมันจักษุ(ตาเนื้อ)

    จะลืมตาเนื้อ หรือ หลับตาเนื้อ ไม่ได้ไปเกี่ยว
    ทับ หรือ ห้าม ความเข้ม ความจาง ความมี
    หรือไม่มี แสงสว่างอันเกิดทาง มโนทวาร ได้

    พระที่รู้จริง ท่านจึงเรียกว่า อินทรีย

    คือ เปนใหญ่ ไม่มีทาง อินทรียอย่างนึง
    ไปข่ม ไปขี่ ไปทับ อินทรียอีกอย่างนึง

    เสียงทางหู ไม่ทับสายตา
    ภาพทางสายตา ไม่ทับการเอามือคลำ
    ภูมิจิตภูมิธรรม คนละเรื่องกับสิ่งที่รู้

    ถ้าป่านนี้ อินทรีย์ใครยังสอนว่า เปนตรรกกะ
    หลี่ตาน้อยๆ ยิ้มนานๆ แล้ว รู้เหนซึ่งธรรม
    ว่าไปโน้น คุณ!!! ควรพิจารณาให้ดีๆ

    ถ้าจิตมีสมาธิ ลืมตาโพลงอยู่ หาก มนิทรีย
    เปนใหญ่ได้ ภาพจะซ้อนและเหนได้พร้อมกัน

    แต่ทางไหนเปนใหญ่ อีกทางจะรับรู้แล้วอุเบกขา

    ไม่ใช่เหนทางหนึ่ง อีกทางหนึ่งไม่เหน

    ถ้ามีอาการรู้อีกทางหนึ่ง แล้วอีกทางหนึ่งไม่รับรู้

    นั่นเขาเรียก สัญญาวิปลาส สัตวสัญญาเสีย

    เช่น อลากดาบส ที่เข้าฌาณ กลายเปนสัตว
    สัญญาเสีย พระพุทธองค์ไม่สามารโปรดสัตว์ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2017
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ในพระสูตร พระพุทธองค์ จะแนะวิธีแก้
    ในการ งง งวย ต่อ ลักษณะตาม อินทรีย์

    ถ้าวันใด เกิด ทิฏฐิสงสัย ตาเนื้อสว่าง
    หรือว่า ตาในสว่าง แยกไม่ออก

    ใหใข้กรรมฐาน ที่นั่งอยู่ แต่ใหทำสัญญารู้ว่า
    ยืนอยู่ ถ้ายืนอยู่ให้วางจิตทับลงไปเลยว่านอนอยู่
    ถ้าเดินอยู่ใหทับสัญญาไปเลยว่านั่งอยู่

    ถ้านักภาวนาแยกอินทรียไม่ออก จะ ตะกุกตะกัก

    เดินอยู่ ทำสัญญาว่านั่งอยู่ จะหยุดเดิน หัวขมำ
    เอาดื้อๆ ถ้านอนอยู่ทำสัญญาว่ายืนอยู่ จะ
    กระเด้งเสียให้ได้

    ถ้ามีอาการ รู้ชัดๆ ตามกรรมฐานไม่ได้ ให้รู้
    ลงไปว่า ไม่เข้าใจความเปนอินทรีย์ ความเปน
    ขันธ์ ....รู้แล้วไม่ต้องแก้ แค่ใหรู้ว่า จิตยัง
    มีตรรกเปนใหญ่กว่า ธรรม รู้ฌาณ8 ก้ยัง
    เปนแค่สัตวสัญญาเสีย ธรรมดาๆ ไร้สามัญผล
     
  8. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ไม่ควรยึดมั่นกับอาการนั้น มันมีมันเป็นสารพัด ลืมตาเอง หลับตาเอง เห็นเอง ปวดเอง เมื่อยเอง ฯลฯ เป็นธรรมดาของมัน การฝึกตน ตนเองควรฝึกได้ดูได้ทำได้ ทั้งลืมตา หลับตา ทั้งยืน เดิน นั่งนอน
     
  9. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    มจด.พูดแล้วต้องมี ตย.ประกอบคำพูด นี่ก็เห็นเอง

    เวลานั่งสมาธิแล้วเห็นภาพหัวกะโหลกบ้าง โครงกระดูกบ้าง ทำให้รู้สึกกลัว ทำไมถึงมีภาพเหล่านี้มาปรากฏ
     
  10. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    อีกสักตย. แต่เข้มขึ้นอีกหน่อย นี่มันก็เป็นของมันเอง ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขาทำให้ มันเป็นไปตามธรรมชาติธรรมดาของชีวิตด้านปรมัตถ์ (รูปนาม) ดู

    ผมไปบวชได้แปดเดือน บวชวันแรกเกิดกำหนัดแอบสองอาทิตย์ผ่านไป เอาวินัยมาอ่าน อ่าวนี่มันผิดศีลนี่หว่าอายไม่กล้า ใครก็เดินจงกรมนั่งสมาธิ ตอนนั่งสมาธิ ก็หลับตา ไม่คิดอะไรท่องพุท-โธ ตามลมหายใจ จนเข้าเดือนที่สี่ออกพรรษาคิดว่าจะสึก แต่เห็นแสงเทียนในกระจกหน้าต่าง ก็วิ่งไปบอกเจ้าอาวาสๆก็ได้แต่ยิ้ม เข้าเดือนที่แปดนั่งสมาธิแบบเดิม ตอนนั้นเครียดเรื่องท่องหนังสือไม่ได้ ในขณะที่นั่ง มีเสียงผู้ชายมาถามว่าบรรลุรึยัง ผมเลยบอกว่า "ยัง" พูดในใจ อยู่ดีๆก็มีเสียงสวดมนต์เพราะมาก ตามด้วยบทธรรมจักร อยู่ดีๆก็มีภาพผมมีน้ำอสุจิไหลออกมา เห็นภาพที่เคยมีอะไรกับแฟน และมีเรื่องไม่ดีมากมาย ก็เลยพิจารณาการเกิดดับแก้ เรื่องหนึ่งมันก็มาอีก เรื่องหนึ่งเสียงก็ด่าว่าไอ้เลวตลอด อวัยวะเพศแข็งอยากมีเซ็กตลอดเวลา เลยตัดสินใจสึก คิดอะไรเหมือนมีคนรู้ เสียงด่าก็ด่าตลอด เลยไปพบจิตแพทย์ หมอบอกว่าเป็นโรคจิตเภทและโรคไทรอยด์
     
  11. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ขอนำธรรมจักรตอนว่าด้วย ทุกข์ อริยสัจจ์ วางเทียบให้เห็น ว่าทำไมมนุษย์จึงเป็นทุกข์ ทุกข์เพราะอะไร? หนังสือสวดมนต์แปลมีคำแปลให้ แต่ตรงนี้ลงแต่หลัก


    อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว ทุกขัง อะริยสัจจัง ฯ ชาติปิ ทุกขา ชะราปิ ทุกขา มะระณัมปิ ทุกขัง โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง สังขิตเตน ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา

     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ส่วน กรณี ลืมตาเอง เค้าไม่ได้ตั้งใจ โดยที่
    ปัจจัยนั้นมี มีหมา แมว สัตว์ คน สิ่งของ
    การงานมา กระตุ้น ให้ลืมตาเอง เค้าไม่ได้ตั้งใจ

    อันนี้ นักภาวนา เวลาปฏิบัติ ตั้งใจปฏิบัติ
    อย่าพึงกระทำไว้ในใจในการ เปนภพ

    ตั้งใจจะปฏิบัติ แล้วไป สร้างภพ ค้างอยู่
    พออะไรมาทำให้ ความตั้งใจมันไม่ใช่เลย
    สิ่งนั้น สิ่งนี้ เกิดเอง ไม่ใช่ความตั้งใจจะทำ
    หรือเปนอย่างนั้นๆ

    อันนี้ แก้นิดนึง

    เวลาลงมือปฏิยัติ ให้เพิ่มการวางจิตว่า จะออก
    จะเลิก ตามไว้ด้วยเสมอ

    เช่น จะนั่งปฏิบัติสิบนาที พอพ้นสิบนาทีขอให้ออก

    จะนั่งปฏิบัติชั่วโมงนึง หากมีใครมาตามขอให้
    ออกได้

    จะนั่งปฏิบัติสองชั่วโมงสามสิบนาทีสี่สิบวินาที
    แต่ถ้าจะมีใครตาม ขอให้ออกได้โดยไม่ต้องมาตาม

    จะเข้าออก ทุกขณะจิต มีความสว่างไสว
    ตลอดทุกลมหายใจเข้า หายใจออก แยก
    ขันธ์ได้ จึงชื่อว่า สว่างจ้า แจ้งสัจจธรรม
    ตามเหนความเกิดดับเนืองๆ กิจอื่นเพื่อ
    ความตื่น รู้ ไม่มี กิจที่ควรทำได้เหนร่องรอย
    แล้ว กิจอื่นเพ่อความพ้นเฉพาะ ไม่มีอีก
    ลมหายใจสุดท้ายของชีวิตนี้ มีชาติจบ
    แล้ว ....



    ปล. กรณีที่ จขกท เข้าใจ สภาพธรรม ที่เรียกว่า ภพ

    อาการเพื่ออยู่ เพื่อเปน

    แล้วหากมี แมว แมลง นก หนู คน ตรงนี้
    ฝากวิจัย กามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก
    เพิ่ม ....ถ้าเข้าใจ เพิ่มกรรมฐาน กลางวัน
    ทำสัญญาเหนเปนกลางคืน กลางยคืนทำสัญญา
    เหนเปนกลางวัน ความรู้อันใดไม่ข่ม ขบ กัน
    ให้รู้ว่า นั่นสว่าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2017
  13. keekimaru

    keekimaru สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +3
    ขอบคุณมากๆครับ คำแนะนำเข้าใจง่ายดี ผมจะลองนำไปปฏิบัตดูนะครับ ^^
     
  14. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    ภาคปฏิบัติทางจิต (สมาธิ,(จิต) ปัญญา อธิจิตตสิกขา อธิปัญญาสิกขา) สู้กับตัวเองครับ คิกๆๆ ไม่ได้ต่อสู้ตีรันฟันแทงกับใครที่ไหน มันจะสงบโล่งโปร่งเบาขึ้นมาบ้างก็เมื่อตนเองเข้าใจตนเองโน่นแหละครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...