ท่านมีความเห็นอย่างไรกับ"เมืองลับแล"และเชื่อหรือไม่ว่ามีจริง

เคยได้ยินพระท่านเล่าให้ฟังเรื่อง "เมืองลับแล"



"ชาวเมืองนี้จะอยู่ซ้อนมิติกับโลกมนุษย์ อยู่เป็นหมู่บ้าน มีทั้งผู้ชาย ผู้ห_ิง แต่งตัวเป็นชาวบ้านธรรมดา ชาวเมืองนี้เป็นผู้มีจิตเป็นกุศลอยู่เสมอ มีคุณธรรมมากกว่ามนุษย์มาตรฐานทั่วไป แต่มีคุณความดีน้อยกว่าเทวดา มักปรากฏกายมาใส่บาตรพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ หรือพระธุดงค์ตามป่า ตามเขาเป็นประจำ"

 

อันนี้ย่าพี่เคยเล่าว่ามี ไว้เดี๋ยวจะมาพิมพ์ให้อ่านว่าเป็นยังไง แถวๆบ้านย่าเขาบอกว่ามีน่ะ

 

ห_ิง

ห_ิง

 

มนุษย์ 4 ทวีป ทวีปน้อยใหย่ อีกเป็นพัน

ชมพูทวีป คือ โลกมนุษย์ เมืองลับแล คิดว่าเป็น มนุษย์ หรือ สิ่งมีชีวิต
ทวีป หรือ อาณาจักรอื่น

น้อยคนที่จะเดิน ด้วยเท้าเข้าไป ถ้าไม่มีกรรมผูกพันธ์ แต่ก็มีนะครับ ผมก็ไม่รู้ นะว่า พลัง หรือ วิธีอะไร เทคนิค อะไร เป็นตัวเชื่อม จุด 2 จุด ให้เดินทางถึงกันได้

ถ้าเดินทางโดยใช้ กำลังสมาธิ อภินยา หรือ ตาทิพย์ กายทิพย์ ก็ได้

 

เมืองลับแลที่ไม่กลจากรุงเทพก็ที่ดงละครที่นครนายก ลองไปเที่ยวดูสิ วันดีคืนดีก็จะได้ยินเสียงปี่พาทย์อันนี้ลุงมัคคุเทศที่อาศัยอยู่ที่ดงละครเป็นคนเล่ามา เราเคยไปเที่ยวที่นี่มาแล้วชอบใจมากอยากไปอีกแต่ก็ไม่ได้ไป มีกำแพงเมืองดินเก่าให้เห็น หลังกำแพงดินเป็นหมู่บ้านคน นี่ละเท่าที่จำได้จากที่เคยไปเที่ยว ดงละคร

 

ผมพอรู้เรื่องพวกนี้น่ะครับ ถ้าบอกว่าเคยเจอไม่รู้พวกคุณจะเชื่อไหม

ก็เคยเจอทั้งในสมาธิ และ นอกสมาธิ

มีคนบอกหลายคนแล้ว ว่า ตัวผมเองในอดีต เคยผูกพันกับกลุ่มคนพวกนี้มา

ลองไปที่นี่ดู!!

สำนักสงฆ์ สังกะสี ที่ พนัสนิคม จ.ชลบุรี
ชาวเมืองลับแล เป็นผู้สร้างที่นี่นะคับ
ทั้งออกเงิน ทั้งลงแรงสร้าง


แถมทอดผ้าป่าทุกที ชาวเมืองลับแลตัวเป็นๆครับ จะมาทอดผ้าป่า
ทอดเสร็จ ก็เดินหายตัวไปเลยครับ พอถึงเวลานี้ ทางสำนักสงฆ์ จะปิดประตูทุกทิศเลยครับ เอาตำรวจมายืนเฝ้ารอบนอกด้วย เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเข้ามาดู
คนที่อยู่ข้างนอก จะได้ยินเสียง ชาวบ้านเต็มเลยครับอยู่ข้างใน
พอเปิดประตุให้เข้าไปได้ หาชาวบ้านลับแล ไม่เจอเลยสักคน

จริงๆเรื่อง เมืองลับแล มีอยู่ทั่วประเทศน่ะครับ มีเป็นจุดๆทั่วประเทศ
แหล่งให_่สุดในไทย เห็นเค้าบอกว่าอยู่แถวอีสาน แต่ที่ผมเจออยู่ในถ้ำในภูเขาที่ระยองน่ะครับ

 

คุณป้าของพรายแสงก็เคยเล่าให้ฟังเหมือนกันว่า บนเขาหน้าบ้านของป้าที่จังหวัดสระบุรีนั้น มีชาวบังบด(ชาวลับแล) อาศัยอยู่ เวลากลางคืนจะลงมาจากเขาและผ่านที่หน้าบ้านของป้าเสมอ เพื่อเดินไปตักน้ำที่บ่อใกล้ ๆ บ้านของป้า.. ซึ่งคุณแม่ของพรายแสงก็เคยบอกว่า ตอนนั้นท่านอยากพิสูจน์โดยเมื่อได้ยินเสียงคนคุย เดินมาเป็นกลุ่ม ๆ นั้น ท่านก็จะรีบออกไปพาหาว่าเป็นใคร แต่ไม่เจอ เสียงเงียบมาก ไม่เหมือนตอนที่แอบฟังจะได้ยินเสียงดังมาก และเดินเป็นขบวนเลย..

ส่วนเรื่องนี้ไม่รู้เกี่ยวกันหรือเปล่า มีอยู่ว่า ทางหน้าบ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้เป็นทางที่เดินลัดจากป่าห_้าเข้ามาในหมู่บ้าน แต่ก่อนยังไม่มีอะไรมาสร้างปิด ต่อมามีคนแอบมาสร้างบ้านแบบขอใช้พื้นที่ชั่วคราว ได้สร้างปิดทางเดินนั้น เรื่องมีอยู่ว่า..เจ้าของบ้านหลังนั้นว่าฝันแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นว่า มีคนเดินทางมาอยู่ที่หลังบ้านนั้นและถามว่า ทำไมมาสร้างบ้านปิดทางเดินของเขาแบบนี้ เขาใช้ทางนี้สั_จรไปมานานแล้ว และคนเหล่านั้นก็เดินเข้ามาในบ้านและตัดออกนอกถนนไปเลย ลักษณะของคนเหล่านั้นจะแต่งกายแบบโบราณ ใส่เสื้อแขนกระบอก นุ่งห่มผ้าจูงกระเบน ถือห่อผ้าคล้องแขนเดินมาเป็นแถวเลย.. เหมือนกำลังจะเดินทาง เพื่ออพยพไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งตอนนี้บ้านหลังนั้นได้ถูกรื้อไปนานแล้ว ก็หลังจากที่ฝันได้ประมาณเดือนกว่า ๆ เพราะเจ้าของที่มาบอกให้รื้อออกไป เพราะกลัวว่าจะถูกยึดปรปักษ์..

 

ที่เชียงใหม่

"ที่เชียงใหม่ ยิ่งถนนซูเปอร์ไฮเวย์ ที่ตัดผ่านหุบเขา บางทีขับๆอยู่ก็โผล่ไปถนนที่ไหนไม่รู้ แล้วไปเจอบ้านเมืองรูปทรงแปลกๆ บางทีก็ว่ากันว่า ผีหลอก แต่ไม่ใช่ มันมีชีวิต มันคือการอยู่อาศัย ไม่ใช่หมู่บ้านวิณยาน

จะหลุดออกมาได้ ต้องขอบารมีพระพุทธเจ้า เพราะเป็นการข้ามมิติต้องห้าม เนื่องจากมีกรรมพัวพัน หรือมีมารมาแกล้งให้หลงมิติ

ยิ่งชายแดนภาคอีสานและแถบชายแดนไทยเขมร ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เดินๆอยู่จะหลงไปเวลาปัจจุบันที่เมืองลับแลหรือย้อนไปสมัยประวัติศาสตร์ก็ยังได้

ย้อนกลับมาที่เชียงใหม่ แถวตัวเมืองนี่แหละ บางทีเดินๆอยู่ตอนกลางคืน เห็นชาวเมืองเดินกันมาเป็นแถว ผ่านเข้าออกประตูเมืองที่งดงามของเมืองเชียงใหม่ วันดีคืนดีก็เห็นเป็นขบวนร่ายรำรอบคูเมือง ยิ่งตอนดึกๆ คนที่เผอิ_จิตสัมผัสได้จะเห็นเป็นบุ_ตา พวกนี้ไม่ใช่อดีต ไม่ใช่อนาคต แต่เป็นคนเมืองลับแล"

 

พี่ฉิม มาเล่าบ้างดิ

 

คงจะมีแต่คงเป็นประเภทเทวดา ชั้นต่ำสุด

 

เห็นเรื่องคนอื่นน่าสนุกกว่าเลยเงียบซะ หุหุ

 

เป็นเทวดาครับ แต่ไม่ถึงระดับ จตุมหาราช หรอก

แค่เทวดาเบื้องต้นน่ะครับ

แต่ถึงยังไงเป็นแค่เทวดาระดับไหนก็ตาม ก็ย่อมดีกว่ามนุษย์น่ะครับ

 

อามิตตพุทธ

ชาวเมืองลับแลเป็นเทวดาระดับต้น ประเภทภุมมเทวา ใกล้ๆระดับกับรุกขเทวา แต่จะมีถิ่นที่อยุ่อาศัยเป็นหลักแหล่งแน่นอนตายตัว ชอบอยู่ร่วมกันเป็นตำบล หมู่บ้าน มีที่พักอาศัยแบบคนธรรมดาๆเรานี่แหละครับ บางแห่งจะเป็นบ้านไม้ บางแห่งจะเป็นกระท่อมแบบกระท่อมปลายนา บางแห่งจะเป็นบ้านก่ออิฐถือปูน แล้วแต่กำลังบุญบารมีครับ

ชาวลับแลหรือพวกบังบดจะเจริญในเรื่องศีลและสมาธิ แต่เรื่องทานจะอ่อนหน่อย จึงไปไม่ถึงระดับสวรรค์ครับ ต้องลงมาอยุ่ในมิติกั้นแดนระหว่างโลกมนุษย์และภพวิญญาณ อาศัยผลบุญที่ตนเองเจริญไว้ค่อนข้างดีแล้วในอดีตชาติ ทำให้มีอายุยืนยาวกว่ามนุษย์โลกโดยทั่วๆไป บางแห่งอายุ 200 ปี บางแห่ง อายุ400-500 ปี บางแห่ง 700-800 ปี บางแห่งอายุยืนนานถึง 1000-1500 ปีทีเดียว ซึ่งเป็นผลแห่งการทรงศีลในอดีต และยังมาอยุ่ในศีลในธรรมกันอีกในภพนี้

แต่เนื่องจากเรื่องทานค่อนข้างอ่อน บ้านช่องจึงไม่งามเท่าวิมานของเทวดา
อีกอย่างชาวลับแลชอบความเรียบง่าย ไม่วุ่นวาย จึงพึงพอใจกับบ้านช่องที่ดูธรรมดาๆ อันเป็นไปตามกำลังบุญที่มีอยู่ครับ

ชาวลับแลเหล่านี้สังกัดเทวโลกชั้นหนึ่งหรือสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาครับ พวกหัวหน้าหมู่บ้านจะได้รับเทวโองการจากท้าวจตุมหาราชให้ลงมาก่อสร้างบ้านเมืองเพื่อเฝ้าธรรมชาติ เฝ้าสมบัติที่ยังไม่ควรขุด อีกทั้งทำหน้าที่อนุเคราะห์แก่ผู้มีบุญบารมีหากกำลังตกที่นั่งลำบาก ส่วนชาวลับแลระดับลูกบ้านนั้น จะจุติเกิดขึ้นเองเลยในหมู่บ้านลับแลนั้นๆครับ เป็นไปตามกรรม ซึ่งผู้รู้ทั้งหลายๆท่านมักกล่าวว่า มีหมู่บ้านภุมมเทวาอยู่มากมายบนพื้นโลกนี้

ส่วนที่มีคนชอบเห็นว่าชาวลับแลยกโขยงกันออกมาทำบุญนั่นน่ะครับ เป็นเพราะพวกเขาทราบดีว่าตัวเองอ่อนในเรื่องทาน ขาดบารมีด้านนี้ จึงพยายามขนขวายหาทางเสริมต่อบารมีทานให้เข้มข้นยิ่งขึ้นนั่นเองครับ จิตประเภทนี้จะคล้ายๆนาคบริษัทที่ชอบออกมาอนุเคราะห์ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายบนโลกนี้เอง

 

โอ้ .......ขอบพระคุณข้อมูลของคุณไจ่ไจ๋มาก ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน

เยี่ยมมาากค่ะ

 

อยากทราบว่าคนเราถ้าำไปเกิดในเมืองลับแล ต้องทำกรรมอะไรไว้บ้างคะ

 

ตอบน้องกระเจียวครับ

อยากทราบว่าคนเราถ้าำไปเกิดในเมืองลับแล ต้องทำกรรมอะไรไว้บ้างคะ


ญญญญญญญญญญญญญญญญญญ
ข่าวทำบุณสำคัณห้ามพลาด

http://www.guardinguk.co.uk/palungj...tid=126#post126

ผู้ที่จะไปเกิดในเมืองบังบดหรือเมืองลับแลได้นี้ ส่วนให_่ต้องทรงศีลห้าค่อนข้างบริบูรณ์ มีการภาวนาทำสมาธิประกอบร่วมด้วย แต่ยังไม่บรรลุคุณวิเศษใดๆมากนัก ส่วนการทำบุ_ให้ทานนั้น อาจเป็นเพราะมีฐานะยากจน หรือค่อนข้างตระหนี่ ไม่ขนขวายในเรื่องทานหรือมหาทานมากนัก จึงพร่องเรื่องทานบารมีไป

เมื่อถึงกาลแห่งการละสังขารหรือหมดอายุขัย จะได้ไปเกิดในหมู่บ้านภุมมเทวาใกล้บริเวณที่อยุ่อาศัยเดิม หรือบริเวณที่เคยมีกรรมร่วมกันมาแต่อดีต

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น จะต้องประกอบบาปกรรมแต่น้อยหรือเบาบาง หรือจะไปเกิดยังเมืองบังบดหรือเมืองลับแลนี้ได้ครับ

 

ป้าของผมบอกว่าเห็นเมืองลับแลตอนไปเขาคิชฌกูฏ (พิมพ์ถูกเป่าหว่า) เขาเล่าว่าตอนที่ไป เขาตั้งจิตขอชม แล้วเขาก็เห็นเป็นชาวบ้านเดินไปมา แต่เป็นเหมือนอีกโลกนึงที่ซ้อนกับโลกที่เราอยู่ ส่วนแม่ผมก็เห็นอะไรบางอย่างพันอยู่รอบภูเขา แต่เห็นแค่แวบเดียว เป็นเงาดำๆ คล้ายพ_านาค