ทำบุญอย่างไรจึงได้ไปสวรรค์ ในแต่ละชั้น

ในห้อง 'ภพภูมิ-สวรรค์ นรก' ตั้งกระทู้โดย 100ลีลา, 6 มกราคม 2008.

  1. 100ลีลา

    100ลีลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2008
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +1,855
    (deejai) <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=black3 vAlign=top>

    ทำบุญอะไรจึงได้ไปสวรรค์ในแต่ละชั้น?


    *สวรรค์

    คือ ภูมิอันเป็นที่อยู่ของเทวดา เป็นโลกที่อยู่อาศัยของกายละเอียดอันเป็นทิพย์ ที่มีรัศมีสว่างไสวรอบกายตลอดเวลา มีทั้งหมด 6 ชั้น

    เหตุที่ทำให้มาเกิดเป็นเทวดาเพราะได้ สร้างบุญกุศลไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ เมื่ออุบัติขึ้นก็ตั้งอยู่ในวัยหนุ่มสาวทันที งดงามตลอดเวลา จนกว่าจะถึงเวลาจุติ ไม่มีความแก่บังเกิดขึ้นเหมือนในเมืองมนุษย์

    วิมานปราสาทคือที่อยู่อาศัยของเทวดา ล้วนมีความวิจิตรงดงาม มีขนาดแตกต่างกัน มี ความเป็นอยู่สะดวกสบาย มีอาหารทิพย์บังเกิด ขึ้น มีบริวารคอยรับใช้ใกล้ชิด เสื้อผ้าเป็นทิพย์ วิจิตรงดงาม บังเกิดขึ้นให้สวมใส่ กิจกรรมแต่ละวันก็มีการเที่ยวเพลิดเพลินบันเทิงอยู่กับการชมสวน

    การสังสรรค์กันระหว่างทวยเทพทั้งหลาย ส่วนจะอุบัติขึ้น ณ สวรรค์ชั้นไหน เป็น เทวดาประเภทใด และอยู่ในฐานะอะไรนั้น ก็ ขึ้นอยู่กับบุญที่ตัวเองสั่งสมมาเมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ ซึ่งได้มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 37 เรื่อง ทานสูตร สรุปย่อได้ดังนี้ ---------------------------------------------------
    * มก. อุโปสถสูตร เล่ม 34 หน้า 382



    </TD><TD class=black3 vAlign=top> heaven_s.jpg







    </TD><TD class=black3 width=15> </TD></TR><TR><TD class=black3 vAlign=top>


    เกิดบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

    มีจาก หลายสาเหตุ คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ทำบุญไม่ ค่อยเป็นไม่รู้หลักการทำบุญ และไม่ค่อยได้สั่งสม บุญ นานๆ ทำครั้งหนึ่ง เมื่อทำก็ทำน้อย หรือ ทำบุญเอาคุณ บุญที่ได้ก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่สมบูรณ์ บาปในตัวก็มีอยู่ แต่ว่าบุญมากกว่า เมื่อละโลกใจนึกถึงบุญก่อนก็ไปสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่ ณ เชิงเขาสิเนรุ สวรรค์ชั้นนี้จะมีความหลากหลายมากที่สุด เพราะอยู่ใกล้ชิดกับพื้นมนุษย์มากกว่าสวรรค์ชั้นอื่นๆ และมีบางส่วนที่มีที่อยู่ซ้อนกับภูมิมนุษย์ ที่ได้ชื่อสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เพราะมีเทพผู้เป็นใหญ่ครองสวรรค์ชั้นนี้อยู่ 4 ท่าน คือ ท้าวธตรฐ ปกครองเทวดา 3 พวก ได้แก่ คนธรรพ์ วิทยาธร กุมภัณฑ์ ท้าววิรุฬหก ปกครองพวกครุฑ ท้าววิรูปักษ์ ปกครองพวกนาค ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองพวกยักษ์

    </TD><TD class=black3 vAlign=center> heaven1_s.jpg </TD><TD class=black3> </TD></TR><TR><TD class=black3 vAlign=top>


    เกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    คือเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งดีงาม เป็นสิ่งที่ควรทำ กระทำแล้วก็สั่งสมบุญ สั่งสมเทวธรรม มีหิริ โอตตัปปะด้วย เมื่อละโลกก็จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าตัดของเขาสิเนรุ ที่ชื่อว่า ดาวดึงส์ เพราะเป็นที่อยู่ของเทพผู้ปกครองภพถึง 33 องค์ โดยมีท้าวสักกเทวราช หรือพระอินทร์ เป็นประธาน และที่สำคัญมีพระธาตุจุฬามณี ซึ่งทุกวันพระเทวดาจะมาประชุมกันที่สุธรรมาเทวสภา เพื่อรับฟังโอวาทจากท้าวสักกะ

    </TD><TD class=black3 vAlign=center></TD><TD class=black3> </TD></TR><TR><TD class=black3 vAlign=top>


    เกิดบนสวรรค์ชั้นยามา

    คือเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ทำบุญเพราะอยากจะสืบทอดและรักษาประเพณีแห่งความดีงามนั้นไว้ ทำนองว่าวงศ์ตระกูลสร้างสมความดีมาอย่างไรก็อยากจะรักษาประเพณีไว้ หรือผู้หลักผู้ใหญ่สอนอย่างไร บรรพบุรุษทำมาอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ทำกันไปตามธรรมเนียม เช่น เห็น ปู่ย่าสร้างโบสถ์ บำรุงวัด สร้างพระประธาน ก็ทำตามนั้นด้วย หรือพระภิกษุที่รักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ที่พระต้องมีหน้าที่รักษาพระพุทธศาสนา เมื่อละโลกแล้ว ส่วนใหญ่จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ขึ้นไป

    </TD><TD class=black3 vAlign=center> heaven3_s.jpg </TD><TD class=black3> </TD></TR><TR><TD class=black3 vAlign=top>


    เกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิต

    หรือในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันเรียกกันว่า ดุสิตบุรี คือ เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ ทำบุญเพื่อปรารถนาสงเคราะห์โลก ปรารถนาให้ชาวโลกมีความสุข มีความคิดที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เพื่อตนเองอย่างเดียว แต่เพื่อสงเคราะห์โลก เพื่อนมนุษย์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วย เมื่อละโลกแล้วก็จะไปสวรรค์ ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงถัดจากสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไป

    </TD><TD class=black3 vAlign=center> heaven4_s.jpg </TD><TD class=black3> </TD></TR><TR><TD class=black3 vAlign=top>


    เกิดบนสวรรค์ชั้นนิมมานรดี

    คือ เมื่อ ครั้งเป็นมนุษย์ เห็นผู้อื่นทำบุญแล้วได้รับ การยกย่อง ส่งเสริม จึงอยากจะทำบุญนั้นบ้าง อยากจะเป็นอย่างนั้นบ้าง เมื่อละโลกแล้ว จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดุสิตขึ้นไป

    </TD><TD class=black3 vAlign=center> heaven5_s.jpg </TD><TD class=black3> </TD></TR><TR><TD class=black3 vAlign=top>


    เกิดบนสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี

    คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญด้วยความเลื่อมใส เคารพในทาน ทำแล้วมีความรู้สึกปลื้มใจ ในบุญที่ทำนั้น เมื่อละโลกแล้วจะบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นนิมมานรดีขึ้นไป

    </TD><TD class=black3 vAlign=center> heaven6_s.jpg </TD><TD class=black3> </TD></TR><TR><TD class=black3 vAlign=top>

    ความเป็นอยู่ของชาวสวรรค์แต่ละชั้น จะมีความประณีตยิ่งๆ ขึ้นไปตามลำดับชั้น ถ้าใครทำบุญมามาก จนครบทุกอย่างดังที่กล่าวมาแล้วนั้น ปรารถนาจะไปอยู่ ณ ที่ใด ก็สามารถจะไปสวรรค์ชั้นที่ต้องการได้ เหตุแห่งการกระทำที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นสาเหตุหลักๆ เป็นภาพรวมของการทำบุญที่ทำให้ไปเกิดในสวรรค์ในแต่ละชั้นแต่อาจ จะมีองค์ประกอบและปัจจัยอย่างอื่นเสริมอีกด้วย

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ขออนุโมทนาสำหรับบทความนะครับ

    ผมแขวนเป็นกระทู้แนะนำให้สักพักนะครับ
     
  3. เกสรช์

    เกสรช์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +1,401
    อนุโมทนาสาธุ

    ดิฉันได้อ่านแล้วก็อดนึกถึงเพื่อนๆไม่ได้ จึงcopyให้เพื่อนๆเพื่อส่งต่อๆกันไปด้วย ซึ่งจัดว่าเป็นธรรมทาน

    ร่วมโมทนา สาธุ(kiss)
     
  4. mook_me

    mook_me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +241
  5. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    สาาาาา...ธุ

    จะไปให้ถึง ดุสิตบุรี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2008
  6. โสภา จาเรือน

    โสภา จาเรือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,013
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,332
    อนุโมทนาสาธุ


    พึงบำเพ็ญ ตบะ ละกิเลสอันเป็นเหตุ หักห้าม กามฉันท์
    มุ่งทำลาย ถ่ายบาป สาบสูญพันธุ์
    เข้าสู่ขั้น สุโข ฌาณโกลีย์
     
  7. wannop karakate

    wannop karakate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    340
    ค่าพลัง:
    +589
    สาธุ สาธุ อยากไปชั้นดาวดึงส์ อะครับ อยากไปไหว้พระเจดีย์จุฬามณี
     
  8. tippavan

    tippavan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +1,583
    จุดมุ่งหมายเดียวคือพระนิพพาน ไม่ปรารถนาการเวียนว่ายในวัฏสงสารอีกแล้วแม้แต่ชาติเดียว นิพพานะปัจโยโหตุ
     
  9. นายจั๊บ

    นายจั๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +1,110
    ไปนิพพานๆๆๆๆ ไม่แวะที่อื่นครับ
     
  10. ป.น้อยทิงนองนอย

    ป.น้อยทิงนองนอย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +29
    อยากไปนิพพานที่เดียว
     
  11. แก้วเจียระไน

    แก้วเจียระไน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +57
    ไม่อยากวนเวียนในวัฏจักรอีกแล้วค่ะ
     
  12. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,739
    เคยมีท่านอื่นเอามาลงเกี่ยวกับการที่จะเกิดในสวรรค์ชั้นต่าง ๆ โดยมีปัจจัยของ ระดับสมาธิและฌานเกี่ยวข้องด้วย ใครเจอช่วยเอามาโพสในกระทู้นี้ทีนะครับ จะได้ทราบเหตุของการเกิดในสวรค์ชั้นต่าง ๆ อย่างครบถ้วน

    คือ พอจำได้เคร่า ๆ ครับว่า
    สวรรค์ชั้น 1 ทำบุญเล็กน้อย ชั้น 2 ทำด้วยความศรัทธา ชั้น 3 ทำบุญและมีการเจริญสามาธิภาวนาแต่แบบว่าได้ผลบ้างไม่ได้บ้าง ชั้น 4 พวกพระโพธิสัตว์ที่สร้างบุญบารมีใหญ่คือทำคุณเพื่อคนอื่นและท่านเหล่านี้มีภูมิธรรมสูงและระดับสมาธิสูงด้วย ชั้น5 และ 6 นอกจากทำบุญแล้วเจริญสมาธิภาวนาด้วยจนได้ถึงญาน 4 แต่เวลาตายนั้นไม่ได้ตายในฌาน ส่วนที่เกิดของพรหมยังไม่กล่าวถึงนะครับ

    ใครมีรายละเอียดช่วยเพิ่มเติมด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2008
  13. atomdekst

    atomdekst Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    405
    ค่าพลัง:
    +79
    ชั้นจาตุมหาราชิกา ก็พอครับ

    แล้วค่อยปฎิบัติธรรมต่อในสวรรค์

    อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่นรก

    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  14. sorracha

    sorracha สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +19
    อนุโมทนาค่ะ
    ได้อ่านแล้วก็จะตั้งใจเจริญในธรรมต่อไปค่ะ
     
  15. vnss

    vnss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,557
    การใช้คำว่า "เทพ หรือ เทวดา" ครอบคลุมถึงพรหมทั้งหลายในพรหมโลกด้วย โดยแบ่งเป็น<O:p</O:p
    • เทวดาชั้นกามาวจร (ผู้ที่ยังเกี่ยวข้องกับกาม) อยู่บนสวรรค์ชั้นฉกามาพจร หรือสวรรค์ที่ยังเกี่ยวข้องกับกามซึ่งมี 6 ชั้น คือ จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี และปรนิมมิตสวัตดี <O:p</O:p
    • เทวดาชั้นรูปจร หรือ รูปพรหม 16 ชั้น เป็นเทวดาที่ยังมีกายทิพย์อยู่ <O:p</O:p
    • เทวดาชั้นอรูปจร หรือ อรูปพรหม เป็นเทวดาซึ่งไม่มีกายทิพย์ <O:p</O:p
    การเกิดเป็นเทวดา<O:p</O:p
    การเกิดเป็นเทวดาไม่ต้องผ่านครรภ์มารดา แต่จะเกิดกายเป็นเทวดาเลย เรียกว่าโอปาติกะ มนุษย์จะเกิดเป็นเทวดาได้ก็ต่อเมื่อจิตก่อนตายระลึกถึงความดีเล็กน้อยที่เคยทำไว้ ในโลกมนุษย์ เกิดเป็นมหากุศลจิต 8 ดวง อันประกอบด้วย หิริ และโอตตัปปะ การบริจาคทาน การฟังธรรม หรือการสร้างสิ่งที่เป็นสาธารณประโยชน์ เป็นต้น


    <O:p</O:p
    อายุของเทวดา<O:p</O:p
    อายุของเทวดามีหน่วยเป็นปีทิพย์ ประมาณอายุของผู้ที่เกิดเป็นเทวดาในสวรรค์ชั้นต่าง ๆ ไม่เท่ากัน<SUP></SUP>กล่าวคือ
    <O:p</O:p
    • 500 ปีทิพย์ เป็นประมาณอายุของเทวดาสวรรค์ชั้นจาตุมมหาราชิกา ประมาณ 9,000,000 ปี ด้วยการคำนวณแห่งปีมนุษย์ <O:p</O:p
    • 1,000 ปีทิพย์ เป็นประมาณอายุของเทวดาสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ประมาณ 4 เท่า จาก 9,000,000 ปี ด้วยการคำนวณแห่งปีมนุษย์ จึงเท่ากับ 36,000,000 ปี <O:p</O:p
    • 2,000 ปีทิพย์ เป็นประมาณอายุของเทวดาสวรรค์ชั้นยามา ประมาณ 4 เท่า จาก 36,000,000 ปี ด้วยการคำนวณแห่งปีมนุษย์ จึงเท่ากับ 144,000,000 ปี <O:p</O:p
    • 4,000 ปีทิพย์ เป็นประมาณอายุของเทวดาสวรรค์ชั้นดุสิต ประมาณ 4 เท่า จาก 144,000,000 ปี ด้วยการคำนวณแห่งปีมนุษย์ จึงเท่ากับ 576,000,000 ปี <O:p</O:p
    • 8,000 ปีทิพย์ เป็นประมาณอายุของเทวดาสวรรค์ชั้นนิมมานรดี ประมาณ 4 เท่า จาก 576,000,000 ปี ด้วยการคำนวณแห่งปีมนุษย์ จึงเท่ากับ 2,304,000,000 ปี <O:p</O:p
    • 16,000 ปีทิพย์ เป็นประมาณอายุของเทวดาสวรรค์ชั้น ปรนิมมิตวสวัสตี ประมาณ 4 เท่า จาก 2,304,000,000 ปี ด้วยการคำนวณแห่งปีมนุษย์ จึงเท่ากับ 9,216,000,000 ปี <O:p</O:p
    เครื่องแต่งกายของเทวดา<O:p</O:p
    ชาวไทยที่นับถือพระพุทธศาสนาเชื่อว่าเทวดาแต่งตัวด้วยเครื่องทรง บ้างก็เสื้อคลุมสีขาว สวมหมวดยอดแหลม เืหมือนพระยาแรกนาขวัญ ในพิธีพืชมงคล จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ บ้างก็ใส่เครื่องทรงประดับประดาไปด้วยเพชรนิลจินดา มงกุฎยอดแหลม และสร้อยสังวาลย์


    <O:p</O:p
    ความเป็นทิพย์ของเทวดา
    เทวดาไม่ีมีกายเนื้อ จึงไม่เจ็บไม่ไข้ มีรูปโฉมงดงามจนดูเหมือนกันไปหมด สามารถคงความหนุ่มสาวอยู่เช่นนั้นตลอดอายุขัย อยากได้อะไรก็เพียงนึกเอาเท่านั้น เช่้นว่าอยากให้อิ่มก็ไม่ต้องทานอาหาร เพียงแต่นึกเอาก็อิ่มแล้ว เรียกว่า อิ่มทิพย์

    <O:p</O:p
    การทำความดีของเทวดา<O:p</O:p
    ชาวพุทธถือว่า เทวดาบนสรวงสวรรค์เป็นภพภูมิที่เสวยสุขอย่างเดียว ไ่ม่สามารถทำความดีได้มาก เนื่องจากไม่มีกายเนื้อ แต่สามารถติดตามผู้ที่ำทำความดีอย่างสม่ำเสมอได้ เพื่ออนุโมทนาบุญ สามารถสวดมนต์และฟังธรรมได้<O:p</O:p
    เมื่อเทวดาหมดบุญแล้วก็ต้องไปจุติในภพภูมิอื่นๆต่อไป ผู้ที่เป็นเทวดาถือว่าการเกิดในโลกมนุษย์เป็นสุขคติภูมิของตน เพราะมนุษย์มีกายเนื้อ สามารถทำความดีได้มาก

    ที่มา : http://my.dek-d.com/ilin/story/viewlongc.php?id=210631&chapter=28
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p><O:p></O:p>

    คนเราทุกคนล้วนเคยเกิดเป็นสัตว์ เป็นมนุษย์ และเทวดา ด้วยกันทั้งสิ้น แล้วอย่างนี้จะหวังไปเกิดเป็นเทวดาอีกทำไมคะ เดี๋ยวก็ต้องลงมาเวียนว่ายตายเกิด หลงทำชั่วอีก หวังนิพพานไว้ให้เป็นที่สุด ชาตินี้ไม่ได้ ชาติหน้าก็ต้องได้ อธิษฐานนิพพานไว้ให้มั่น เร่งสร้างบารมีให้เต็มกำลังใจให้พร้อม ขาดนิดหน่อยไปต่อบนสวรรค์ก็ไปได้แล้วค่ะ
    </O:p><SCRIPT type=text/javascript><!--playSound();//--></SCRIPT>
     
  16. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,739
    มาช่วยเพิ่มเติมนะครับว่า นักปฏิบัติทุกท่านพึงอย่ามีเป้าหมายเพื่อที่จะไปสวรรค์ เป้าหมายที่ควรระลึกเสมอคือ นิพพาน

    แต่ถ้ายังไม่ถึงก็ขอให้ไปเกิดในภพภูมิดี ๆ โดยที่ถ้ายังไม่ถึงฝั่งและต้องเป็นเทวดา ต้องไม่ใช่เทวดาที่ไปจากทาน ครูบาอาจารย์ท่านว่า ต้องเป็นเทวดาพระอะริยะ คือเทวดาพระโสดาบันหรือเทวดาพระสกิทาคามี ถ้าเป็นพรหมก็ต้องเป็นพรหมพระอนาคามี
     
  17. popeyees

    popeyees สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +18
    ขอ อนุโมทนา สาธุ ขอให้ข้าพเจ้าได้ขึ้นสวรรค์ แล้วปฎิบัติธรรมครับ
     
  18. chanthawat_k

    chanthawat_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +413
    เป็นแนวทางในการปฎิบัติ ใครอยากไปชั้นไหนก็เลือปฎิบัติตามแนวของจริตได้นะคับ....อนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลคับ
     
  19. ไม่รู้สิ

    ไม่รู้สิ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +4
    อ่านเพิ่มเติมกันได้ที่นี่ครับ http://suknirun.buddhi.sm/tripoom/saraban1.html
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านอธิบายไว้อย่างละเอียด ตั้งแต่นรก ขุมต่างๆทำกรรมอย่างไรไปนรกขุมไหน สวรรค์ชั้นต่างๆ และทำอย่างไรถึงจะได้ไปสวรรค์ชั้นต่างๆ พรหม ชั้นต่างๆ และทำบุญแบบไหนถึงจะได้ไปพรหมโลก
    สุดท้ายพระนิพพาน มีสภาพเป็นอย่างไร ทำอย่างไรถึงจะได้มานิพพาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2008
  20. ก.แก้วคำ

    ก.แก้วคำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +71
    อนุโมทนาสาธุครับ ชั้นไหนก็ได้ครับสำหรับผม ก็จะทำบุญไปตามกำลังของตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อลดระดับความเลวของตัวเองที่มีอยู่
     

แชร์หน้านี้

Loading...