ถ้ากำลังจะตายแล้วใจเป็นทุกข์จะทำให้เกิดเป็นเปรตจริงไหมคะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย belinda007, 10 พฤษภาคม 2011.

  1. belinda007

    belinda007 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +35
    เคยอ่านบทความหนึ่งเขาบอกประมาณว่า มีคนๆหนึ่งในชีวิตก็ทำบุญบ่อยๆ แต่ตอนที่กำลังจะตายเกิดนึกห่วงสมบัติ หรือบางคนแค่นึกห่วงลูกหลาน แค่นี้ก็ทำให้ถึงกับไปเกิดเป็นเปรตได้เชียวหรือคะ ขอผู้รู้ช่วยตอบให้หายข้องใจหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
     
  2. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    ไม่หรอก แค่นึกห่วง ไม่ได้อยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง

    อธิบายเพิ่มเติมก็คือ ในเมื่อจิตมันมีสภาพจำว่าเมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ สมบัติเหล่านั้นเป็นของเราโดยชอบธรรม หรือลูกหลานเป็นผู้ที่เราผูกพันธ์มาด้วยการเลี้ยงดูเป็นต้น เมื่อตอนลมหายใจสุดท้ายจิตกำลังออกจากร่างเกิดนึกห่วงหาอาทรมา ก็เป็นได้หลายๆอย่าง แล้วแต่กรณีเช่น เกิดนึกห่วงลูกหลานด้วยจิตที่เป็นเมตตา อาจจะต้องไปเป็นเทวดาหรือพรหมณ์ที่คอยปกปักษ์รักษาลูกหลานต่อไป หรือเกิดห่วงสมบัติว่าอุตส่าสะสมหามาด้วยแรงกายทำงานมาทั้งชีวิตกลัวว่าจะมีคนเอาไปใช้ทิ้งๆขว้างๆ(หวง) ก็อาจจะเกิดเป็นจิ้งจก เหลือบ ไร หรือมดแมลงอยู่ใกล้ๆสมบัตินั้น หนักหน่อยก็เป็นสัมภเวสีเฝ้าสมบัติไป

    แต่ถ้าได้ยินข่าวมาว่ามีการค้นพบแหล่งขุมทรัพย์ที่ไม่ปรากฎเจ้าของที่ดิน คือตามกฎหมายถือว่าเป็นสมบัติของแผ่นดินนั้่นแหละ หรือเกิดนึกอิจฉาเด็กข้างบ้านที่เขามีรถคันหรูแล้วอยากได้มาเป็นของตัวเอง นั่นแหละจบเห่ เปรตแน่นอน(แต่ก่อนจะมาเป็นเปรตต้องไปชำระความอยากกันในนรกหลายๆขุมก่อนล่ะ)
     
  3. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +572
    -ได้100%.ในสมัยพุทธกาลมีพระรูปหนึ่งเกิดหึงห่วง จีวร ก่อนตาย เมื่อจิตออกจากร่างท่านเกิดเป็น เลน อาศัยอยู่ที่จีวรมีอายุ 7 วัน หลังครบ7วันท่านไปเกิดบนสวรรค์ เหตุจากพระทั้งหลายจะบังสกุลจีวรท่าน แต่พระพุทธเจ้าทรงห้ามบอกว่าให้ครบ7วันก่อน ย่อๆนะครับ
     
  4. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    เปรตมีหลายประเภท หลายจําพวกน่ะค่ะ
    ต้องทําความเข้าใจในเรื่องของเปรตกันก่อน ว่า เปรตนั้น มิได้มีรูปที่เป็นเหมือนในหนังเพียงอย่างเดียว
    บางตนก็น่ากลัว บางตนก็น่ารัก บางตนก็น่าสงสาร
    เราเลือกเองได้ค่ะว่าอยากเป็น เเบบไหน
     
  5. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ได้นะครับเพราะเวลาใกล้ตายเป็นเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตก็ว่าได้
    เพราะเป็นตัวกำหนดภพภูมิที่จะไปเกิด กรรมใกล้ตายหรืออาสัณกรรม
    จึงมีผลก่อนกรรมที่ทำมาทั้งชีวิต ถึงแม้ทำบาปทั้งชีวิตแต่ใจนึกถึงพระ
    ก่อนตายก็ไปสวรรค์ได้ กลับกันถ้าคนที่ใกล้ตายมีห่วงกังวลนึกถึง
    สมบัติก้กลับมาเกิดเฝ้าสมบัติเกิดเป็นจรเข้แบบเนี้ยครับ หรือถ้าก่อน
    ตายบ้ากินก้เกิดเป็นหมูเลย หรือถ้าคิดเรื่องกามก็เกิดทันทีเลย ดังนั้น
    เวลาใกล้ตายเป็นเวลาที่เราควรทำจิตใจสงบนึกถึงพระรัตนตรัย บ่อย
    ครั้งคนใกล้ตายเขาจะเลือกตายเวลาที่เขาอยู่คนเดียวไม่มีญาติอยู่ด้วย
    เพื่อที่เขาจะได้ไม่เป็นกังวล คือกรรมใกล้ตายให้ผลก่อนกรรมที่ทำมา
    ทั้งชีวิต กรรมที่ทำทั้งชีวิตจะมาในรูปนิมิตหรือภาพที่เราเคยทำกรรม
    ไว้เช่น เราไปตีหัวเขาไว้คราวนี้เราจะรู้สึกด้วยว่าถูกตีหัว และจะเห็น
    เครื่องมือที่ทำกรรมทำไว้ ถ้าไม่มีสติพอจะออกจากนิมิตนี้จิตจะเศ้รา
    หมองและเริ่มเชื่อเรื่องนรกแล้วส่งตัวเองไปนรกเลย ส่วนคนที่เชื่อใน
    ความดีงามจะได้ไปสวรรค์ พวกที่อยู่ในนรกจะถูกทรมาณให้มีสติคือ
    นึกถึงบุญให้ได้ หรือเราอุทิศบุญให้เขาในวันพระเขาก็นึกถึงบุญได้ก็
    ไม่ต้องทนทรมาณ เปรตก็เหมือนกันคือพวกนึกถึงบุญไม่ได้
     
  6. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    อันนี้คนรู้จักเล่าให้ฟัง (อย่าเชื่อผม100%) เค้าเล่าให้ฟังว่ามีผู้ใหญ่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม แกเป็นคนขยัน ต่อมาแกมีเงินมากขึ้น จากการไล่ซื้อที่ชาวบ้านแต่ขณะที่แกกำลังรวยเลยนะ มีเงินแบบกำลังพีคสุดสุดเลยนะแกพบว่าแกเป็นมะเร็งตับ แล้วแกก็ป่วยไปเรื่อยเรื่อยแต่แกทรุดเร็วมาก แล้วแกก็ตายไปกับความรู้สึกที่ว่า ฉันไม่อยากตาย เงินฉันละแกยังหวงอยู่ ต่อมาหลังจากแกตายไปไม่นานมีคนเจอ เปรตหัวใหญ่เบ้อเริ่มเลยแต่ยังมีเค้าหน้าแกอยู่ ชาวบ้านก็จำได้ว่าเป็นแกนี่แหละ อันนี้คนรู้จักเล่าให้ฟังจริงจริง แต่คนอ่านต้องพิจารณาเอาเองเพราะผมก็ฟังเค้ามาอีกที ตามหลักกาลามสูตรนะ แต่ผมว่าไม่เสมอไปนะแล้วแต่ บุญกรรม ของใครของมัน ไม่มีใครพยากรณ์กรรมได้ปุถุชนอย่างเรานะ
     
  7. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
  8. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    โอเค เปรตก็เปรต ประชาธิปไตย เสียงข้างมากถูกเสมอ
     
  9. belinda007

    belinda007 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +35
    ถ้าไม่สบายแล้วตายก็อาจจะทันนึกถึงพระหรือบุญที่ทำมาได้ แต่ถ้าเกิดตายกระทันหันจากอุบัติเหตุหรือจากภัยพิบัติพวกนี้คงนึกถึงไม่ทันแน่ และตอนนั้นคงมีแต่ความตกใจหรือไม่ก็กลัว อย่างนี้ยังคงเป็นเปรตอยู่ไหมอ่ะคะ

    อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ คือคนที่ทำดีมาตลอดแต่ก่อนตายนึกไม่ดีเลยได้ไปที่ไม่ดี กับคนที่ทำบาปมาตลอดก่อนตายนึกถึงพระแล้วได้ไปดีเนี่ย ดูมันไม่ยุติธรรมเลยอ่ะค่ะ แล้วอย่างนี้บุญที่ทำมาตอนมีชีวิตก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยน่ะสิคะ
     
  10. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    เป็นเปรตได้ เปรตในที่นี้หมายถึงผู้ห่วง หรือหวง พี่น้อง แฟน หรือใครก็ตามหากห่วงอะไรจะไม่ยอมไปไหน เค้าก็เรียกกันเปรต ไม่ใช่ที่อยู่ตามวัดนะ เค้าถึงให้ฝีกนึกถึงความดี ภาวนาไปเรื่อยๆจิตจะได้ติดใน ความดี แค่นั้นแหละ
     
  11. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    พวกตายกระทันหันไม่ใช่เปรต เค้าเรียกพวกตายโหง พวกนี้จะวนเวียนไปเรื่อยๆไม่ได้ยึดติดอะไร บางตัวกลายเป็นผีเร่ร่อนไม่รู้จะไปไหน เค้าก็เรียกสัมภเวสี รอจนกว่าอายุขัยจริงๆของตัวเองหมด แต่อายุไม่ใช่ตามอายุมนุษย์ มันคูณทวีไปนานเลย หากได้บุญ อายุก็จะสั้นลง ไปเกิดเร็วขึ้น บางตัวเห็นคนที่กำลังจะท้องและเป็นพวกมีบุญน้อยก็กะโดดเข้าไปเกิดเพราะจิตมันเกี่ยวกัน เกิดมาได้สักพักอายุไม่เท่าไหร่ตายอีกล่ะ เพราะไม่ถึงเวลาเกิดที่แท้จริง เพราะฉะนั้นไอ้พวกเด็กหัวจุก ยายแก่เคี้ยวหมาก ทหารโบราณ ยังอยู่นั่นไม่แปลก เพราะเวลาเค้าไม่ถึงที่ ยิ่งพวกที่อยู่ห่างไกลไร้บุญกุศลจากมนุษย์พวกนี้จึงอยู่นาน เช่นพวกบ้านหมู่บ้านสมัยสุโขทัย ถูกฆ่าตายทั้งหมูบ้าน เมื่อถูกฆ่าตายมาก คนเห็นก้ไม่กล้าเข้าไป บุญเค้าก็ไม่ได้ เค้าก็คอยออกมาให้ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาเห็นแต่กลับถูกปฎิเสธและวิ่งหนีกัน จนเวลาผ่านไปผ่านไปบริเวณนั้นก็กลายเป็นป่า เป็นป่าดิบ รก ไม่มีวี่แววของหมู่บ้าน แต่พวกนี้ก็ยังอยู่ยังอยู่กันเป็นหมู่บ้านเลยแหละ เพราะห่างไกลคนจึงหาบุญได้อยาก จนเวลานานมาก ลืม คิดว่าอย่าไปขอคนเลยคนมันไม่ให้อะไรหลอก จึงเกิดการลืม และอยู่กันด้วยตัวเอง จนกลายเป็นเจ้าที่ ใครมาก็หลอกก็แกล้งก็ไล่ไปหมด มาเจอพวกใจแข็งใจดีหน่อย แรกๆก็ไม่พอใจ แต่พอเจอคนทำดีให้มากๆก็ใจอ่อน รับบุญไปก็เริ่มไปกันทีละคน พอผีตัวอื่นเห็น ก็มาขอกันใหญ่ นี่คือเหตุผลที่ว่าพระธุดงค์ไปโปรดสัตว์อย่างไร อย่าว่าแต่พระธุดงค์เลยครับ ผมก็เจอ นี่ถ้าผมไม่รู้เหตุผลจากผู้มีประสบการณ์ว่าเค้าคิดอย่างไร ผมแผ่นเหมือนคนๆทั่วๆไปแน่นอน

    ส่วนเรื่องจิตก่อนตายผมว่ามันยุติธรรมแล้ว เพราะมันส่งผลก่อน เช่นคนทำชั่วนึกมาทั้งชีวิต นึกถึงความดีก่อนตาย ตายปุ๊บไปสวรรค์ปั๊บแล้วก็ตกนรกอีกไม่กี่นาที ยังไม่ทันทำอะไรเลย เทวดาจึงมีการต่อบุญจากมนุษย์เพราะเหตุนี้แหละ ยิ่งเป็นญาติๆเราแล้วด้วยนะ เค้าจะมาและโมทนาบุญกับเราหากเราทำกุศล

    (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยครับ)
     
  12. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    วาระจิต ตอนจิตดับ คือตอนตาย ต้องดูว่าจิตนั้นไปจับอะไร ถ้าจิตไปจับบุญก็ไป
    สุคติภูมิ เช่นไปสวรรค์ชั้นต่างๆ แต่ถ้าวาระจิตตอนดับไปจับอกุศล เช่นเป็นห่วงญาติ
    ห่วงสมบัติ แบบนี้ก็ต้องไปเกิดเป็นเปรตได้ครับ ถ้ามีความโกรธก็ไปลงนรก ถ้ามีความหลงก็ไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน ถ้าจิตไปจับกุศลต่างๆก็ไปสุขติภูมิสวรรค์ชั้นต่างๆ...

    คนที่ทำบุญมากๆ จิตตอนตายมีโอกาสที่จะระลึกบุญได้มากกว่าคนที่ไม่ได้ทำบุญหรือคนที่
    ทำแต่บาป แต่ว่าถ้าเกิดพลาดพลั้งไปเป็นเปรต เพราะวาระจิตสุดท้ายไปห่วง ลูก ห่วงบ้าน
    ห่วงสมบัติ ก็ต้องไปเป็นเปรต แต่ก็คงไม่อดอยาก ไม่ลำบากเพราะทำบุญสะสมไว้เย๊อะ
    แต่ก็ต้องรอให้หมดกรรมจากการเป็นเปรต ก็เปลี่ยนภพไปเกิดในภพภูมิที่ดีได้ไม่นาน

    คนที่ทำบาปมากๆ ถ้าตอนตายมีโอกาสได้ทำบุญ จิตไปจับกุศลตอนจิตดับ ก็ได้
    ไปเสวยผลบุญก่อน แต่ส่วนใหญ่คนที่ทำบาปหนักๆมาก จะระลึกบุญไม่ออก เพราะตอน
    ใกล้จะตาย อกุศลต่างๆที่เคยทำมาจะมารุมกันหมด บางคนนิมิตเห็นคนที่เคยทำร้าย
    เค้ามาเอาชีวิต มีแต่ความกลัวหวาดผวาจิตตก อันเป็นเหตุให้ไปเกิดในทุกขติภูมิ เช่น
    นรก เปรต อสูรกายได้ง่ายกว่าคนที่ทำบุญมาตลอดครับ


    อีกเรื่องนึง ที่คนเข้าใจผิดบ่อยๆเรื่อง การโดนรถชนตายแล้วเรียกว่าตายโหง จะเกิดเป็น
    ผีที่เรียกว่าสัมภเวสี ที่จริงแล้วการเป็นสัมภเวสีก็จัดอยู่ในภพ เปรต หรือ อสูรกาย นั่นแหละ

    ฉนั้นตอนมีชีวิตอยู่ไม่ควรประมาทควรฝึก ศิล สมาธิ และปฎิบัติภาวนาสติปัฎฐานสี่
    เพื่อเป็นการฝึกให้เท่าทันสติ เมื่อถึงคราวต้องประสพวิบากกรรมที่มาตัดรอน ก็อาจ
    จะมีสติระลึกรู้ตัวได้เร็วกว่าผู้ไม่ได้ฝึก อันทำให้มีโอกาสไปสุคติภูมิได้มากกว่าครับ^^
     
  13. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    บุญที่ทำมาตลอดชีวิตก็ช่วยสิครับ ก็มาเป็นนิมิตให้เราเห็นไงครับ ถ้า
    ทำความดีมาอย่างร่วมสร้างพระ นิมิตจะมาเป็นร้อยๆ องค์ทำให้จิตใจ
    เบิกบานคนที่ไม่เชื่อเรื่องสรรค์ ใจเขาก็เบิกบานขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุด
    หนึ่งเขาเริ่มเชื่อเรื่องสวรรค์ก็ส่งตัวเองไปสวรรค์เลย ส่วนคนที่ทำความ
    ชั่วมานิมิตมันก็ทำให้ใจเศร้าหมองถ้าไม่มีสติออกจากนิมิตถึงแม้ไม่
    เชื่อเรื่องนรกใจก็เศร้าหมองลงเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งเขาจะเริ่มเชื่อเรื่อง
    นรกแล้วส่งตัวเองไปนรกเลย มันอยู่ที่มีสติหรือเปล่า คนที่ทำความดีก็
    ไปสวรรค์มากมายแล้ว ส่วนคนที่ทำความชั่วหรือจิตใจเศร้าหมองก็ลง
    นรกมามากต่อมาก น้อยคนจะมีสติ เขาถึงให้ฝึกนึกภาพพระไงครับให้
    เป็นอาจิณกรรมคือทำบ่อยๆ มันจะนึกออก เรื่องตอนตายมันไม่ได้ต่าง
    กับตอนมีชีวิตเลยนะครับ มันก็มีอยู่ 3 อย่าง พูด 2 อย่างละกัน อย่าง
    แรกก็คือเลือกที่จะทำอะไรอย่างไม่มีสติ ก็ตามเหตุการณ์ภายนอกไป
    ใครมาด่าเราก็โกรธ โดนนินทาเราก็ทุกข์ หรือบางทีทำผิดอะไรก็โทษ
    ตัวเองไม่อภัยตัวเองอย่างนี้จิตลงอบายแล้วในปัจจุบันเลย ส่วนอีกแบบ
    หนึ่งคือเขาเลือกอะไรอย่างมีสติ คนมาด่าก็เลือกไม่โกรธ คนทำร้ายก็
    เลือกไม่อาฆาต ทำงานลำบากก็ไม่บ่นทำอย่างมีความสุขนี่เรียกว่ามี
    สวรรค์ในปัจจุบันจิตท่องอยู่บนสวรรค์ มีสวรรค์ในปัจจุบันแม้ตายไปก็
    ไปสวรรค์ที่เป็นสถานที่อยู่ดี ทุกขณะของชีวิตเป็นการเลือกนะครับแต่
    เวลาที่มันมีผลมากที่สุดคือเวลาใกล้ตายเพราะเปลี่ยนภพภูมิกรรมที่ทำ
    ตอนใกล้ตายให้ผลเร็วมากๆ คือทันทีเลยแต่ก็เป็นการเลือกเหมือน
    ตอนมีชีวิต ถ้ามีสติภายนอกแย่เราก็เบิกบานได้อย่างนี้ก้ไปสวรรค์แน่
    นอน แต่ถ้าไม่มีสติภายนอกไม่ดีก็ลงนรกเลย กลับกันถ้าภายนอกดี
    แล้วเราไม่มีสติก็ตามไปที่ดีอยู่ดี แต่คนที่ทำบาปมาแม้เกิดในสวรรค์จุติ
    ลงมาก็ต้องรับกรรม บางคนลงมาเกิดเป็นคนรับกรรมหนัก เกิดเป็นสัตว์
    นรกต่อก็มีดังนั้นกรรมมันก็ยุติธรรมแล้วกรรมปัจจุบันนี่แหละ คนที่ตาย
    ในภัยพิบัติแล้วนึกถึงบุญไม่ทันก็เหมือนกับคนธรรมดานี่ถูกทำร้ายก็
    เคียดแค้นจิตลงอบายดังนั้นต้องฝึกจิตปัจจุบันให้ดี
     
  14. belinda007

    belinda007 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +35
    เข้าใจแล้วค่ะ ต่อไปนี้จะพยายามฝึกจิตให้คิดถึงพระหรือบุญที่ทำมาตลอด ขอบคุณทุกๆท่านมากนะคะที่มาช่วยไขข้อสงสัยให้ค่ะ ^_^
     

แชร์หน้านี้

Loading...