ถูกหลอกไปรับ ขันธ์ ครอบครู รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อยครับ

คือเมื่อประมาน 8 ปีที่แล้ว ปี 2550

ผมเคยถูก เพื่อนฝูง (เพื่อนไม่ดี) ชักชวนไปดูดวงที่ตำหนักร่างทรงแห่งหนึ่ง ไปทีแรกก็เข้าไปดูดวง ปรกติด แต่ปรากฎว่า ซักพัก เขาก็ให้ครอบเศียร กินน้ำมนต์ แล้วก็ รับขันธ์ 5 มา (แต่ขันธ์ 5 นี้ลักษณะ ไม่ใช่เป็นพานใหญ่ ๆ นะครับ ของผมเป็นขันธ์ 5 ที่เป็นกรวย 5 อันวางอยู่บนพาน เสร็จแล้วร่างทรงก็ทำพิธีสวด ๆ ไรไม่รู้แล้วยื่นให้ผมถือพานเขา ) ผมก็ทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จริง ๆ ครับ เสียใจมาก ๆ ทุกข์ใจจริง ๆ แล้วหลังจากนั้นผมก็กลับบ้าน ไม่ได้กลับย้อนเข้าไปหาตำหนักดังกล่าวอีกเลย ทุกวันนี้ก็ปวดเนื้อปวดตัว ใช้ชีวิตไม่ค่อยเป็นปรกติสุขเลยครับ

ขอคำแนะนำ จากผู้รู้ ช่วย สงเคราะห์ เมตตาด้วยการ ชี้ช่องทาง ให้ไปพบไปเจอครูบาอาจารย์ที่เป็น พระภิกษุสงฆ์ เพราะไม่อยากไปหา หมอดู ร่างทรง ฆราวาสอีกครับ ใจอยากไปทางผ้าเหลืองมากกว่า
สามารถช่วยสงเคราะห์ แก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับผมได้

ขอแนวทางการแก้ไขนะครับ ส่วนเรื่องแนะนำโทษภัย อันตรายจากการรับขันธ์ ผมศึกษา มาจากในเว็บนี้ และหลายๆเว็บพอสมควรจน น้ำตาแทบตกในละครับ ว่าเราไม่น่าหลงเดินทางชีวิตผิด ๆ เลย ยังไง ขอผู้รู้ช่วยชี้แนะหน่อยนะครับ
ถ้าภายใน กทม ได้ยิ่งดี

ขอบคุณครับ

ยังไงรบกวนเมตตาด้วยนะครับ ท่านทั้งหลาย จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ

 

ผมไม่เคยโดนก็เลยไม่รู้แนะนำยังไงครับ
และก็ยังไม่เคยเห็นว่าพิธีกรรมถือขันธ์ รับขันธ์เป็นยังไง
และมันถูกหรือผิดยังไง

แต่ผมเชื่อว่า การไปถือศีล ปฏิบัติธรรมสักระยะ
น่าจะช่วยให้เรื่องร้ายกลายเป็นดีขึ้นครับ

และหมั่นสวดมนต์ภาวนานึกถึงพระพุทธเจ้าทุกวัน
ทำบุญปล่อยสัตว์ บริจาคทาน ฯลฯ
เพียงเท่านี้ก็ทำให้ใจของเราดีขึ้นแล้วละครับ

 

ที่ปวดเนื้อปวดตัว เป็นผลมาจากอาหารการกินทำให้เกิดโรคครับ ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็น สัตว์ปีกก็ควรงด เป็นไปได้ก็ทานมังสวิรัติ หรือทานเจไปเลย ถ้าดื่มสุรา สูบบุหรี่อยู่ ควรหักดิบ ก่อนจะหมดสิทธิ์แก้ตัวครับ

 

ผมลอง รักษา ทางวิทยาศาสตร์มาหมดแล้ว ตรวจไม่พบ หาไม่เจอ แล้วก็ไม่ได้บ้าคิดไปเองครับ อยากให้แนะนำครับ ว่าไปหาพระองค์ใหนที่ใหนดี

 

ทุกอย่างในโลกนี้มีทั้ง ด้านมืด ด้านสว่าง ไม่มีอะไรทำร้ายเราได้ นอกจากกรรม คือการกระทำของเราเองให้ผลแก่ตนเอง อดีตกรรม หนุนนำ ปัจจุบันกรรมหนุนส่ง

หากจะว่าไปเรื่องนี้คงต้องตรวจดูเป็นกรณีๆไปหรือเป็นรายๆไป ว่าเกี่ยวข้อง เกี่ยวพันธ์กับสิ่งใดบ้าง เมื่อเรายังไม่รู้ต้นเหตุที่แท้จริงก็อย่าเพิ่ง ปักใจว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ สิ่งหนึ่งคือ การยึดเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง อาศัยพระธรรม ศีล สมาธิภาวนาเป็นยากินยาทารักษาภายในภายนอกให้หายดี

ถ้าเป็นกรรมเก่า ก็ต้องแก้ไขกรรมเก่าให้ทุเลาลง ถ้าเป็นกรรมปัจจุบัน ก็แก้ไขให้ถูกทางถูกวิธี ก็แก้ไขได้ อยู่ที่ว่า เราเลือกแบบไหน เปิดใจมากน้อยแค่ไหน
ผมก็เป็นร่างทรง ร่างทรงหรือมนุษย์ทั่วๆไปก็มีทั้งดีและไม่ดี ร่างทรงมีหลากหลายประเภท ทั้งแบบเต็มตัวคือผ่านร่าง ทรง สื่อจิตแบบเต็มกำลังจิต หรือแค่ผ่านจิต หรือแค่การเคารพสักการะกราบไหว้ หรืออื่นๆ หลายคนก็มีเทพพรหมครูอาจารย์ ญาติ ผู้มีพระคุณที่เป็นจิตมีบุญบารมีมาเสริมบารมีสร้างความดีช่วยเหลือกัน ตรงนี้ต้องตรวจดูให้ดี และไม่ว่าเราจะทำอะไร หากอยู่บนความดีงาม มีประโยชน์ทั้งแก่ตนเองหรือผู้อื่น ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำร้ายใคร เมื่อคิดดีแล้วว่าดี จึงทำ ถ้าไม่ดีก็ถ่อยห้่างปล่อยวางก็เท่านั้นเองครับ สาธุ

 

ลองเล่าอาการนอกจากปวดเมื่อยตามตัว แล้วอาการทางจิตมีอาการอย่างไรบัาง​

 

เผื่อเราจะช่วยแก้ไขในสิ่งที่คุณกำลังเป็นอยู่ได้บ้าง

 

ถ้าไปตรวจมาหมดแล้วหาสาเหตุไม่พบ ให้เอาขันธ์ที่ว่าหากมีอยู่นะครับ ไปถวายพระเสีย แล้วอาบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ชำระล้างสิ่งไม่ดีในร่างกายออกไป ทำพิธีได้ที่วัดหงส์รัตนาราม กทม ครับ ทางวัดจัดเป็นประจำทุกเดือน ลองดูในกำหนดการของวัดครับ

พิธีอาบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ | wathong

 

เคยไปครอบแบบนี้มาหลายครั้ง..แปลกเรื่องแบบนี้ไม่สามารถทำร้ายตัว markdee ได้เลย ถ้าเราให้เรื่องแบบนี้ครอบงำใจเราได้มันก็จะเป็นทุกข์อย่างนี้ล่ะค่ะ ดิฉันเชื่อพระพุทธเจ้าเท่านั้นค่ะ

 

ร่วมงานเป่ายันต์เกราะเพชร วัดท่าขนุน ครับ

 

รับขันครูแล้วเดือดร้อน <hr style="color:#998049; background-color:#998049" size="1"> ถาม : มีเพื่อนที่รู้จักเจ้าค่ะ เขาไปทำพิธีครอบองค์ รับองค์ค่ะ มีผู้ที่หวังดีใช้มีดหมอช่วยแก้ให้เขา คิดว่าจะให้ที่ครอบนั้นหลุด แต่มันไม่หลุดเจ้าค่ะ แล้วทีนี้เราก็ต้องไปช่วย เหนื่อยมากเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าตรงจุดนี้เราจะช่วยแก้ไขอย่างไร ?
ตอบ : อันดับแรกถ้าขันครูอยู่นะ บอกกับเขาว่าที่ครอบมาขออนุญาตคืนจ้ะ แล้วก็ลอยน้ำไปเลย ถ้าขันครูยังอยู่แก้ไม่ได้นะจ๊ะ

พวกไปครอบครู รับขัน รับอะไรมาให้ระวังนิดหนึ่ง เพราะว่าระยะหลัง ๆ มีพวกหากินทางนี้โดยเฉพาะ พอเราไปรับของเขามา เท่ากับว่าเรายอมรับการเป็นบริวารของเขา เขาจะใช้ผีหรือใช้ไสยศาสตร์ควบคุมเราได้ง่ายขึ้น มีพวกหากินทางด้านนี้มากขึ้นไปเรื่อย ๆ

เพราะฉะนั้น..เวลาจะรับอะไร ต้องพิจารณาให้ดี ระวังตัวเอาไว้ด้วย เดี๋ยวจะเสียท่าเขาง่าย ๆ ถ้าไม่แน่ใจจริง ๆ ให้ถอยไว้ก่อน

ส่วนคนที่รับมาแล้ว ถ้าหากว่าระแวงหรือว่ากลัวขึ้นมา ก็อย่างที่ว่านั่้นแหละ บอกเขาว่าที่รับมานั้น ตอนรับไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้รับมาได้อย่างไร ขออนุญาตส่งคืน

ถาม : แล้วตอนขออนุญาตส่งคืนจะต้องทำอย่างไรบ้างเจ้าคะ ?
ตอบ : เอาลอยน้ำไปจ้ะ

ถาม : เอาอะไรลอยน้ำเจ้าคะ ?
ตอบ : ขันครู

ถาม : ที่เขาติดตัวอยู่หรือคะ ?
ตอบ : ที่เขาให้มา ส่วนใหญ่พวกนี้เขาจะให้ขันครูมา อาจจะเป็นขันห้า หรือขันแปด เขาจะให้มา แล้วให้เราบูชาด้วยการจัดดอกไม้ธูปเทียนบูชาเป็นประจำ อาจจะทุกวันพระ ทุกวันศุกร์ ทุกวันพฤหัสบดี อะไรอย่างนี้ ให้เอาไปลอยน้ำทิ้งเสีย ถ้าโกรธเขามากก็ลอยน้ำครำไปเลย..! ...(หัวเราะ)...

ถาม : แล้วเขาจะไปหรือเจ้าคะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าทำอย่างนี้แล้ววิธีแก้จะง่ายขึ้น แต่ถ้าหากขันครูเขายังอยู่แก้ยาก เดี๋ยวก็ฟัดกันทั้งวันจนกระทั่งเราเองหมดแรง แล้วเขายังไม่เป็นอะไรเลย

พวกนี้อันตรายเหมือนกัน ถ้าหากเราไปสู้รบปรบมือกับเขา จากประสบการณ์ที่เจอมา ถึงกำลังของเราจะสูงกว่าก็จริง แต่เราต้องกินต้องนอน เจ้าพวกนั้นไม่ต้องกินไม่ต้องนอน เขาก็ตามเล่นเราอยู่ตลอดเวลาเลย เผลอเมื่อไรเป็นโดน..!

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ เดือนสิงหาคม ๒๕๔๔

 

ไปรับขันธุ์ ไปรับแปลว่ายอมเขา ท้ายสุดกลายเป็นทาสเขา


ถาม : ที่บ้านไปรับขันครับ ?

ตอบ : ที่บ้านไม่มีขันใช้หรือถึงต้องไปรับขัน ? อาตมาเองเห็นพวกไปรับขันธ์มาเยอะ ท้ายสุดกลายเป็นทาสเขา ไปรับแปลว่ายอมเขา มีหลายแห่งโดนเขาใช้ผีคุมเลย กลายเป็นคนหาเงินให้เขา ไม่ไปก็ไม่ได้เขาให้ผีบังคับ ตัวเองก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมต้องไป ไปลองรับมาดูก็ได้จ้ะ จะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร แล้วไม่ต้องมาให้แก้นะ อาตมาแก้ไม่เป็น ยุให้รับจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

คนเราจะมีองค์หรือไม่มีองค์อยู่ที่ตัวเราจะรู้หรือไม่รู้ ไม่ใช่เขา ถ้าเรารู้สึกปกติดี ไม่มีอะไรผิดปกติสักอย่าง แล้วจะไปรับมาทำไม ?

ถาม : น้องเขาบอกว่า ในตัวเขามีอยู่สองคน อีกคนหนึ่งเขาอยากปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แต่ตัวเขาเองปฏิบัติไม่ดีเลยออกมาไม่ได้ เลยต้องไปรับนั่นรับนี่เข้าสำนักนี้ ?

ตอบ : ถ้าโง่ขนาดนั้นก็ปล่อยมัน..! อยากจะทำดีคืออะไร ? ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ทำได้ทุกคนฟังอะไรใช้เหตุผลด้วย เขามักจะชักให้เรา ถึงเวลาก็ไปขึ้นครู อย่างน้อยๆ ก็ได้ค่าครู ถ้าเคารพศรัทธาเป็นบริวาร ถึงเวลาเขามีงานอะไรก็ต้องไปช่วยเขา เป็นการประกันความเสี่ยงว่าอย่างน้อย ๆ ก็มีบริวารเพิ่มอีกคนหนึ่ง แล้วจะมีรายการบอกว่า ช่วงนี้มีเคราะห์ต้องไปสะเดาะเคราะห์ ต้องหมดอีกเยอะ

สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
ณ บ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

 

ถ้าไปตรวจมาหมดแล้วหาสาเหตุไม่พบ ให้เอาขันธ์ที่ว่าหากมีอยู่นะครับ ไปถวายพระเสีย แล้วอาบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ชำระล้างสิ่งไม่ดีในร่างกายออกไป ทำพิธีได้ที่วัดหงส์รัตนาราม กทม ครับ ทางวัดจัดเป็นประจำทุกเดือน ลองดูในกำหนดการของวัดครับ

( ตอนนี้ ขันธ์ ไม่ได้อยู่กับตัวอ่ะครับ เมื่อ 8 ปี ที่แล้ว ผมไปรับมาแล้ว ขณะทำพิธี แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยกลับไปที่ สำนักอีกเลย ปัจจุบันนี้ สำนักนั้น หายสาบสูญไปแล้วครับ) แต่ที่พ่วงมาอาการยังมียังเป็นอยู่ ครับ

 

ระวังเรื่องการไปหาพระด้วยนะครับ ไปไม่ถูกจะซวยซ้อน

คุณไปกังวลมากไป เปลี่ยนการใช้ชีวิตซะ กินอาหารให้ถูกหลักสุขภาพมากขึ้น ออกกำลังกายให้ถูกหลัก รู้จักทำจิตให้แจ่มใส ของพวกนี้มันคลายได้ง่ายๆ ถ้าเราใส่ใจกับร่างกายเรา ไปพึ่งมนต์ไปพึ่งคุณไสยเดี๋วมันจะยิ่งยุ่งกันเปล่าๆ

 

เราก็ทำขันธ์นะคะ พอดีมีพระติดชายแดนท่านแนะนำให้ทำขันธ์บูชา
แต่เราทำเพื่อบูชานาคี เราทำเองที่บ้านเรา ไม่ได้รับมาจากใคร
ทำทุกวันพระขึ้น15ค่ำของทุกเดือน

จขกท ไม่ลองติดต่อเพื่อนคนนั้นดูละคะ เผื่อจะรู้ว่าสำนักนั่นย้ายไปที่ไหน

 

ผมเป็นร่างทรง เป็นมาเกือบ20ปีตั้งแต่อายุ20กว่าๆ รับขันธ์ ท่านท้าวมหาพรหมปรเมศวร[ท้าวมหาพรหมเปิดโลก]
ท่านมาบอกและสอนแนะนำทุกอย่าง แต่ไม่ได้รับขันธ์จากใคร ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

ท่านบอกว่า ก็ในเมื่อฉันเลือกเธอเป็นคนแรกในการมาเพื่อร่วมสร้างบารมี แล้วจะให้เธอไปรับกับใครก็ไม่ได้ ฉันก็เลยต้องสอนให้เธอเข้าใจและทำพิธีได้เอง สอนให้เธอรู้ในสิ่งที่ควรรู้

จากคนที่เคร่งในการภาวนา และสามารถสื่อจิตได้ จึงรับรู้ ในขณะนั้นก็ใช้ปัญญาประกอบเสมอ โดยอาศัยพระรัตนตรัย อาศัยธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องกำกับ ฝ่ายเทพพรหม ทำให้ผมเชื่อถือในความจริงหลายอย่างที่สัมผัสไม่ได้ ทำให้ผมสัมผัสได้ รู้จริงในสิ่งที่ไม่สามารถรู้ได้ง่าย

แท้จริงแล้ว การรับขันธ์ ท่านกล่าวว่า มันเป็นเพียงแค่พิธีกรรม ที่เป็นการแสดงกตัญญุตากตเวทีต่อครูอาจารย์ แบบเราไหว้ครู แต่เราทำขันธ์ให้สวยงามในที่นี้ก็หมายถึงว่าเรามีความพร้อมในการ ทำบายศรี หรือเครื่องวสักการะบูชา ให้สวยงาม เพื่อเป็นเกียรติแก่ครูอาจารย์ เทพพรหม และเป็นการประกาศให้เหล่าเทพพรหมทุกชั้นภพรับรู้รับทราบร่วมอนุโมทนา

ครูอาจารย์ท่านกล่าวว่า ความจริงการไหว้ครูการทำขันธ์มันเป็นเรื่องจิตใจของพวกเธอ จะทำหรือไม่ทำ ไม่รับไม่ครอบ มันก็เป็นเรื่องของเธอ หากเธอเป็นคนดี ปฏิบัติบูชา ครูอาจารย์ท่านก็ดีใจปลื้มใจแล้วเป็นที่สุด เหมือนเรามีลูกหลานลูกศิษย์ กราบไหว้นอบน้อมสักการะ ไม่ต้องมีอะไรก็ปลื้มใจแล้ว อิ่มใจแล้ว เรื่องพิธีกรรมต่างๆในการไหว้ครู จะทำหรือไม่ทำมันขึ้นอยู่กับตัวเธอ ดีไม่ดีมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอ ไม่มีครูอาจารย์เทพพรหมที่ไหนไปบังคับหรือทำบาปกรรมกับพวกเธอหรอก

แต่ถ้าเธออยากรู้พิธีกรรม อยากทำเป็น อยากเข้าใจสิ่งที่เป็นประเพณีที่ดีงาม เราก็ยินดีจะแนะนำบอกกล่าวแก่เธอ หากเธอคิดว่าเธอคิดดี และเห็นประโยชน์แห่งพิธีการนี้ แต่ถ้าเธอไม่เห็นประโยชน์ก็ไม่สำคัญอะไร

ความเป็นครูอาจารย์นั้นอาศัยเหตุคือการ เป็นด้วยพฤติกรรม คือจิตที่ประสานร่วมกัน ถ่ายทอดปฏิบัติสืบกัน อบรมสั่งสอนแนะนำสิ่งดีงามต่อกัน ไม่ใช่เป็นด้วยการกราบไหว้เท่านั้น หรือการถวายเครื่องบูชาหรือการรับ ครอบขันธ์เท่านนั้น

ดังนั้น ใครจะเข้าใจอย่างไร ผมไม่ทราบได้ แต่ผมเจริญและเดินทางสายนี้มานานเกือบ20ปี เข้าใจอะไรมากมาย ในสิ่งที่ดีงาม อันเกิดประโยชน์มากมาย ต่อสรรพสัตว์และสรรพจิตทั้งหลาย หากเรามีหลักธรรม ของพระพุทธเจ้าอยู่ในจิตใจ มีศีลบริบูรณ์ ไม่ตั้งอยู่ในความโลภ โกรธ หลง ในเงินทองและกามราคะ มีความสำรวมระวัง ไม่ตกเป็นเครื่องมือของกิเลสมาร เราย่อมยังตนให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น ได้

ที่สุดแล้วก็ขอให้ท่านจงใช้ปัญญาพิจารณาตนพิจารณาธรรม ด้วยปัญญาเลือกทางเดินแห่งตน ให้ดีงามยิ่งๆขึ้นไป จงละบาป สร้างกรรมดี มีศีลสะอาด ชำระจิต สวดมนต์ภาวนาเป็นปกติ คิดดี ทำดี พูดี ให้เป็นปกติ ชีวิตย่อมพบแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ

 

ออครับ ถ้าอย่างนี้ก็ไม่เป็นไรครับ ถ้าสะดวกก็ไปที่วัดไปอาบน้ำมนต์สักหน่อย ตอนอาบก็อธิษฐานตามที่พระท่านบอกท่านแนะนำ อาจอธิษฐานเองในใจเพิ่มเข้าไปด้วย ขอให้คุณพระในน้ำมนต์นั้นล้างสิ่งไม่ดีที่ติดอยู่ไม่ว่าส่วนไหนของกาย หรือ จิตใจ ให้หลุดให้หาย ให้ออกไปกับน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์นั้น ต่อไปก็ขอให้มีแต่ความเป็นศิริมงคลติดตัวกลับมา เพื่อจะได้ทำความดีในครั้งต่อไป แล้วพออาบเสร็จก็อย่าไปสงสัย อย่าไปตามคิดอีกนะครับ ให้มันออกให้มันหลุดไปกับน้ำมนต์นั้น

เสร็จแล้วก็ทำบุญที่วัดซะ อาจเช่าพระมาไว้ติดตัวเพื่อความเป็นมงคลก็ได้ พระอาจารย์ที่วัดท่านเก่ง เมตตาสูงครับ พิธีอาบน้ำมนต์ก็ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไรเลย ทำให้ด้วยเมตตา เสร็จพิธีก็ทำความดี รักษาสุขภาพทั้งกายและใจนะครับ

 

เห็นด้วยกับท่าน ที่แสดงความเห็นด้านบนนะครับ

อะไรก็ไม่สู้แรงบุญครับ ทาน ศีล ภาวนา ครับ ไปถือศีลแปด ที่วัด ยิ่งวัดป่าได้ยิ่งดีครับ เพราะท่านเน้นปฎิบัติ

แต่หากจะพึ่ง บารมีครูบาอาจารย์ ก็เข้าไปกราบ หลวงพ่อที่เราเคารพ นับถือ กราบเรียนให้ท่านทราบ แล้วท่านจะช่วยหาวิธีให้ได้เองครับ

ถ้าอยู่ กทม แถวๆบางนา ผมแนะนำ หลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐี ครับ

 

มีคนนึงเค้าไปครอบและรับชันธ์ด้วยความจำใจ แต่ไม่ได้เอาขันธ์นั้นกลับมาบ้านด้วย
เวลากลับมาถึงบ้านก็รู้สึกว่ามีตัวอะไรเกาะคอขี่อยู่ที่หลังตลอดเวลา ยกเว้นเวลานอนกับเวลาอาบน้ำที่มันยอมลงจากหลัง
เวลาจะออกไปไหนเจ้าตัวนี้ก็จะกระโดดมาเกาะคอขี่หลังเขาไปด้วย
เขารำคาญมากไม่รู้จะแก้ไขยังงัย เขาก็เลยไปไหว้บอกกล่าวท่านท้าวมหาพรหมที่ศาลาท่านที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าบริษัททีโอที (เมื่อก่อนคือองค์การโทรศัพท์ฯ) เยื้องๆกับหลักสี่พลาซาร์ กทม. ให้ช่วยปัดเป่าเจ้าตัวนั้นที่เกาะหลังเขาอยู่ออกไป
พอไหว้เสร็จ ก็ไม่มีอะไรมาเกาะหลังเขาอีก ท่านท้าวมหาพรหมคงไล่มันไปให้

กรณีคุณที่เจ็บปวดตามเนื้อตัว น่าจะเกิดจากผีที่ไปรับมาสิงอยู่ในร่างกาย เขาอยู่ตรงไหนก็จะเจ็บปวดตรงนั้นแหละ
ไปไหว้ท่านท้าวมหาพรหมตรงโรมแรมเอราวัณ สี่แยกเพลินจิต กทม. ให้ท่านช่วยป้ดเป่าให้ ก็น่าจะได้เหมือนกัน

ถ้าไม่รีบแก้ไข ผีมันก็จะชวนพรรคพวกมาสิงสู่อยู่ในร่างคุณกันเยอะแยะ ตุณก็จะทรุดอาการที่เป็นอยู่จะเป็นหนักมากขึ้น นี่ก็ปล่อยละเลยมานาน

ลองดูนะคะ

 

อันนี้แก้ได้จริงนะครับ จะลองทำดูครับ