ต้องการแนวทางดำเนินชีวิตต่อไปค่ะ

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย ทุกข์ที่ใจ, 26 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. ทุกข์ที่ใจ

    ทุกข์ที่ใจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +4
    สวัสดีคะทุกท่าน ดิฉันมีปัญหาชีวิตครั้งใหญ่ที่สุด(ในตอนนี้)คะ เพราะเข้าใจว่าทุกสิ่งในโลกเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แต่แค่ตอนนี้มันยังตั้งอยู่ และดิฉันต้องรับมือให้ได้ ซึ่งยากเหลือเกิน ทรมาณเหลือเกิน เสียใจจนอยากตายแต่ก็ห่วงา๊ใครจะดูแลพ่อแม่ ไหนจะหนี้สินอีก ไหนจะคนที่รักเราและเป็นกำลังใจให้เราอีกจึงอยากขอคำชี้แนะแนวทางสว่างให้กับดิฉันด้วยนะคะ >>>ดิฉันคบกับแฟนมา4ปีเต็ม และตั้งใจที่จะสร้างครอบครัวกับเค้า เราอยู่กันก่อนแต่งคะ ฉันเข้าไปอยึ่ในบ้านเขาช่วงแรกครอบครัวดิฉันไม่ชอบเค้าไหร่ เนื่องจากดิเรียนทุนิยมอันดับสอง นกองกองทัพ จบเกรดนิยิมอันดับสอง พร้อมติดยศเป็นนายทหารสัญญาบัตรเป็นผึ้หมวดเลย ในขตะที่แฟนตกงาน เพิ่งสมัครงานเป็นคนขายเฟอร์นิเจอร์ที่มาบุขครอง เค้าดีกับฉัน จนฉันรักเขาโดยไม่แคร์เรื่องความเหมาใดๆเพราคิดว่าคนรักกันย่อมผ่านอุปสรรคใดได้หมดทุกอย่าง เราเริ่มสร้างความมั่นคงในชีวิตคึ่ของเรา ประกอบกับบ้านเขาก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร เราทั้งคู่จึงต้องช่วยกันเก็บเงินเอง เพื่อใช้เป็นค่าสินสอด ตามความคิดของฉัน เพื่อให้พ่อแม่ได้ค่าน้มบ้าง ะ เมื่อเวลาผ่านไป แฟนก็ลาออกจากงานมาเป็นช่างวีดีโอเต็มตัว เพราะเคยทำมาบ้าง ดิฉันตัดสินใจเอาเงินเก็บก้อนแรกซื้อกล้องให้เขาก่อน แลว่าค่อยทยอยผ่อน ส่งบ้างไม่ส่งบ้างเราก็ไม่กัน พองานเริ่มมาก ที่บ้านของ้ราเห็นา๊เราจริงจังที่คบกัน ท่านเริ่มใจอ่อน และยอมรับแฟนในที่สุด ไม่ทสบว่าเพราะฉันรักเค่ามาก หรือเพราะความดีของเขาเอง ดิฉันตัดสินใจกู้เงินก้อนใหญ่ทำธุรกิจร่วมกัน แร่นอนว่าเป็นชื่อฉันรับผิดชอบ แต่ความเสียใจในเรื่องหนี้สินไหนเลยจะเท่าการสูญเสียคนรัก วันนี้วินาทีนี้ฉันไม่มีเขาแล้ว งานแต่งานปลายปีนี้ก็ไม่เกิดขั้น ผู้ใหญ่2ฝ่ายคุยกัน ก็ตกลงกันไม่ได้เนื่องจากฝั่งแฟนไม่ช่วยรับผิดชอบหนี้สินใดๆ เลยกลายเป็นต้องแบกรับภาระคนเดียว ทั้งเรื่องธุรกิจและหนี้สินนั้น คำตอบที่ได้จากเขาคือ เขาไม่ได้รักเราแล้ว ตอนนี้งานเค้ากำลังรุ่ง ถึงรักกันก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ถึงจะเป็นอธิบายก็ฉันไม่ค่อยเข้าใจนัก ก็ช่างเถอะ ตอนนี้ก็เหลือฉันไม่มีคำว่าเราแล้ว ฉันแก้ปัญหาด้วยการทำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อจะได้เหนื่อยจนหลับไป อาศัยไม่ต้องนอนร้องไห้ ฟุ้งซ่านที่ห้องคนเดียว อีกยังสามารถหาเงินพิ้เศษมาจ่ายภาระทั้งหมด ไม่ต้องเดือดร้อนพ่อแม่ ประกอบกับการสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ และทำบุณสม่ำเสมอไม่ได้ขาดตามที่ได้อ่านจาเวบพลังจิตนี้ ฉันบอกตามตรงเลยว่าที่ยังพอมีสติอยู่บ้างก็เพราะได้เข้ามาอ่านเรื่องราวดีๆต่างๆในเวบนี้คะ บางครั้งคิดอยากทำเสน่ห์ให้เขากลับมา หรือแม้กระทั่งเคยคิดจ้างคนไปทำร้ายเพื่อให้พิการ เพื่อจะไม่ไปอยู่กับคนอื่นเพราะฉันมั่นใจว่ารักเขามากจนยอมเลี้ยงดูเขา หากเขาพิการจริงๆ แต่ก้ทำได้แค่คิด ไม่กล้าทำเรื่องแบบนั้นทำได้แค่แผ่เมตตาบุญที่ทำแล้วอุทิศไปให้ครอบครัวเขา คงทำให้อะไรๆดีขึ้นบ้าง ทุกวันนี้ยังทำใจไม่ได้ เปิดใจรักใครไม่ได้จริงๆ ขอผู้ใจบุญชี้ทางสว่างด้วยนะคะ ขอบคุณคะ
     
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    คุณกำลังเข้าใจผิด คุณไม่ได้รักผู้ชายคนนั้นจริงๆ หรอก ถ้าเรารักใครเรามักจะให้
    สิ่งที่ดีที่สุดกับเขา และสิ่งที่ดีที่สุดที่จะให้ใครได้ก็คืออิสรภาพ คุณบอกว่าเคยคิด
    ให้คนไปทำร้ายเขาจนพิการเพื่อที่เขาจะได้กลับมาหาคุณ ในทัศนคติของคุณเห็น
    เขาเป็นเพียงนกตัวหนึ่งที่จะจับเขาขังกรงก็ได้ หรือตุ๊กตาตัวหนึ่งที่อยากจะหัก
    แขนหักขามันยังไงก็ได้
    บางครั้งมันก็ยากที่จะแยกระหว่างความต้องการเป็นเจ้า
    ของคนอื่นกับการรักคนอื่น ถ้าคุณสามารถแยกได้คุณจะรู้ว่าความรักมันไม่เหลือ
    แล้ว มันหมดไปตั้งแต่ช่วงแรกที่คุณคบกัน นอกเหนือจากนั้นมันเป็นการพยายาม
    ครอบครองอีกฝ่าย ถ้าคุณแยกไม่ออกคุณก็จะเชื่อว่าคุณกำลังเป็นทุกข์เพราะ
    ความรัก เพราะสิ่งที่สวยงาม แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันเป็นเพราะ
    ความคาดหวัง ความเข้าใจผืดต่างที่ทำให้คุณทุกข์ การพยายามทำให้อีกฝ่ายอยู่
    ใต้อำนาจของเรา ในเรื่องนี้คุณก็ต้องปล่อยวางบ้าง ไม่มีอะไรหรือใครที่จะเป็น
    ของของเราได้หรอกครับ
     
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    น่าเห็นใจนะ รักกันมา 4 ปี อยู่ดีๆ ก็ต้องมีอันต้องเลิกรา
    เราต้องถามตัวเองด้วยนะว่าเราเคยไปทำอะไรให้เขาช้ำใจหรือเปล่า
    แต่ถ้าหากเป็นเพราะผู้ชายเห็นแก่ตัว ก็ปล่อยมันไปเถอะ
    เพราะนิสัยผู้ชายไทย สันดานต่ำๆมีเยอะ ประเภทไม่รู้จักโต เที่ยว เอาเปรียบผู้หญิง
    มีเยอะนะ

    ขอแนะนำอย่างเดียวนะ ทำใจให้สงบเบิกบานให้ได้ ทำแต่บุญ บุญนั้นจะน้อมนำสิ่งที่ดีมาหาเราเร็ววัน ถ้าจิตเราตก ทุกข์ใจแล้ว สิ่งไม่ดีก็กรูกันเข้ามาได้ง่าย

    ตั้งสติ ว่าทำใจให้สงบก่อน ใจเราดีแล้วทุกอย่างจะลงตัวของมันเอง
    หากไม่ได้เขาคืนมา ก็ถือเสียว่า เราก็ถือว่า ทำเวรทำกรรมกับเขาไว้ เราก็อโหสิให้เขาทุกวัน ความทุกข์มันจะคลายไปเอง
     
  4. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134

    รบกวน เช็คข้อความส่วนตัวด้วยครับ
     
  5. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .....ผมยกตัวอย่างง่ายง่ายละกัน...เมื่อคืนดูรายการวู้ดดี้...ที่ไปคุยกับอนันดาที่เชียงใหม่.....ในรายการมีตอนหนึ่งที่ มีการกินขันโตกมื้อละห้าหมื่นบาท ของก็ดูน่ากินทั้งนั้น...บังเอิญผมนั่งกินมาม่าอยู่..แว่บหนึ่งผมก็อิจฉาวูดดี้กับอนันดานะ........แต่เวลาผ่านไปถึงตอนนี้..ขณะที่พิมพ์อยู่นี้ ผมลืมอารมณ์นั้นไปแล้ว เพราะมันผ่านไปแล้ว....ผมก็มาคิดดู...อะไร อะไร มันก็ผ่านไปทั้งนั้น..ที่เห็นอยู่ปัจจุบันก็คือกายกับใจ เราเอง.......................ในที่สุดอะไรอะไร ทุกอย่างมันก็ผ่านไป แล้วมาอยู่ที่ปัจจุบันทั้งนั้น...............ลองดูความไม่เที่ยง....... กับปัจจุบันขณะของกายใจดูนะครับ(ส่วนปัญหาทางโลกเงินทองก็ทำไปครับ):cool:
     
  6. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    สิ่งไม่ดีต่าง ๆ เกิดขึ้นเพราะขาดสติสัมปชัญญะ ฯ
    ตั้งสติเอาไว้นะครับ ฯ
    สิ่งเหล่านี้ เกิดขึ้นได้ ผ่านมาแว็บเดียว เดี๋ยวก็ไป
    ไม่ว่าสุข หรือทุกข์ เป็นอย่างนั้น เดี๋ยวมา เดี๋ยวไป ไม่แน่นอน ฯ
    ผมเคยผ่านมาแล้ว จึงรู้ทีหลังว่านั่นของปลอม มาทดลองกำลังสติสัมปชัญญะของเราเท่านั้นเอง ฯ
    อย่าหลงกลของพยามาร ต้องใช้สติแก้ปัญหา นะครับ
    อย่าใช้อารมณ์ คืออย่าให้จิตวนไปหาสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต อย่าไปสอดรู้เรื่องในอนาคต คือคิดไปเอง เราต้องรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ปัจจุบันนี้ ว่าจิตเราสนใจอะไร ถ้าดีก็มีสติช่วยรับรู้ ถ้าไม่ดีก็มีสติช่วยรับรู้ เพราะจิตอ่อนย่อมถูกรังแก จากเรื่องต่าง ๆ ได้ ฯ

    หาเพื่อนทางผู้เข้าใจธรรม หรือมีประสพการณ์ช่วยแนะนำ เป็นเพื่อนคุย ปรับทุกข์ นะครับ ท่านเหล่านั้นจะช่วยได้เยอะเลย กลุ่มแรกคือพระที่ท่านศึกษาธรรมจริงๆ (อย่าไปหาหมอดูนะ
    เดี๋ยวไปกันใหญ่ ผลเสียอย่างแรกต้องจ่ายเงิน อย่างสองสติปัญญาไม่เกิด อย่างที่สามกำลังดูหมิ่นความสามรถของตนเอง )

    เรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม
    ผมขอเป็นกำลังใจให้ ขอให้คุณและผู้มีปัญหาเช่นนี้ จงชนะปัญหาเช่นนี้ด้วยสติเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 กุมภาพันธ์ 2012

แชร์หน้านี้

Loading...