"ดับทุกข์ด้วยการสวดมนต์วันละ ๕ เล่ม"

ในห้อง 'ประสบการณ์ ผลของการสวด' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 1 มิถุนายน 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    [​IMG]

    อติพร สุนทรสนาน ทายาทครูเอื้
    "ดับทุกข์ด้วยการสวดมนต์วันละ ๕ เล่ม"

    "ชีวิตไม่เคยเกิดเหตุการณ์แคล้วคลาด เพราะชีวิตนี้ยังไม่เคยเฉียดตายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ รวมทั้งเหตุการณ์รุนแรงใดๆ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยพบพานสิ่งเหล่านี้เลย"

    นี่คือคำยืนยันของ นางอติพร (สุนทรสนาน) เสนะวงศ์ ทายาท ครูเอื้อ สุนทรสนาน ทั้งนี้เธอมองว่า "ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการสวดมนต์คาถาชินบัญชรที่พ่อสอนให้สวดมาตั้งแต่เด็ก สวดมนต์แล้วจะได้เป็นสิริมงคลกับชีวิต ไม่ทำอะไรที่ประมาท"

    นางอติพร บอกว่า พระเครื่องที่กลัดติดตัวประจำ คือ พระสมเด็จ วัดระฆัง โดยพ่อให้แขวนติดตัวเป็นเวลาประมาณ ๔๐ ปีมาแล้ว ท่านบอกว่าพระเครื่ององค์นี้เอาไว้ติดตัวเพื่อคุ้มครองชีวิตในยามที่อยู่ในช่วงเวลาอันตราย พร้อมสอนให้สวดมนต์ภาวนากับคาถาชินบัญชรคู่กัน ก่อนที่จะอาราธนาองค์พระมากลัดติดที่เสื้อ โดยทุกเช้าไม่ว่าจะเดินทางไปไหนมาไหนทุกวันก็จะมีพระองค์นี้ติดตัวตลอด และหากเสร็จภารกิจนอกบ้านแล้วก็จะนำองค์พระนี้บูชาไว้ในพานบนหัวนอนทุกคืน และย้ำให้ลูกๆ ทุกคนทำบุญ

    ทั้งนี้ยังได้ยกคำสอนของพ่อที่ยึดปฏิบัติมาตลอดให้ฟังว่า ชีวิตของคนเรามีกรรมที่เราทุกคนไม่ทราบว่า กรรมดังกล่าวได้สร้างเอาไว้ตั้งแต่ชาติปางก่อนอย่างไร หรือเป็นกรรมที่ติดตัวเรามาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ซึ่งเป็นกรรมที่เรามองไม่เห็น เพราะฉะนั้นถ้าเราต้องการแคล้วคลาดจากกรรมนั้น ก็ต้องทำบุญให้มากๆ เช่น ทำบุญใส่บาตร แล้วจะต้องสวดมนต์หลายสิบรอบ รวมทั้งต้องทำให้เป็นกิจวัตรอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าเกิดความทุกข์ครั้งใดก็จะสวดมนต์ทำบุญ

    "คนส่วนใหญ่มักจะเลือกทำบุญและสวดมนต์ในช่วงชีวิตมีความทุกข์เท่านั้น อยากให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่า ทั้งการทำบุญและสวดมนต์ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ในช่วงมีความสุขการทำบุญสวดมนต์ก็จะเป็นการเสริมบุญสร้างบารมีให้ตนเอง" นางอติพร กล่าวแนะนำพร้อมกับบอกด้วยว่า

    ได้นำคำสอนของพ่อไปสอนลูกและหลานด้วย สังเกตลูกสาว ๒ คน (วราภรณ์-อรอนงค์ เสนะวงศ์) เริ่มนั่งเป็นอายุขวบกว่าๆ พอพูดได้ก็จับเข้าห้องพระ สอนให้สวดมนต์นะโมตะสะไปก่อนจนกระทั่งสามารถสวดมนต์ได้เป็นเล่มๆ เหมือนกัน ทุกเช้าจะใส่บาตรหน้าบ้าน และช่วงเสาร์-อาทิตย์ก็จะพาครอบครัวไปทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า ถวายสังฆทานที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน เป็นประจำ

    [​IMG]
    อติพร สุนทรสนาน เสนะวงศ์ เลขานุการมูลนิธิสุนทราภรณ์ และ อรอนงค์ เสนะวงศ์ ผู้ช่วย นำคลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์ เข้าพบ ผาณิต พูนศิริวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป นสพ.แนวหน้า เพื่อแนะนำอัลบั้ม “สืบสานตำนานเพลง” ชุดที่ 4


    [​IMG]
    ต๊ะ-พิเชษฐ์, มีน-ณัฎฐ์นรี, ยุ้ย-ปิยวรรณ, ไข่หวาน-อรอนงค์, แนน-พรวลี และ ดุ๊ก-ณัฐวุฒิ


    ส่วนเหตุผลของการชอบทำบุญเป็นปกตินิสัยนั้น นางอติพร บอกว่า เพราะคำสอนของพ่อที่เคยสอนไว้ว่า มนุษย์เราทุกคน ในชีวิตคนเราที่ทำอยู่ทุกสิ่งในเวลานี้เราทำเพื่อคนอื่นหมด ไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเองเลย แต่สิ่งเดียวที่เราสามารถทำเพื่อตัวเองได้ก็คือการทำบุญ เพราะไม่มีใครจะได้บุญที่เราทำ ขณะเดียวกันพ่อยังให้ข้อคิดว่า แปลกไหมลูกสิ่งอะไรที่มนุษย์ทำเพื่อตัวเราเอง ทำแล้วได้ติดตัวอยู่ตลอดเวลา และสามารถจะติดไปถึงชาติต่อไปกลับไม่ค่อยมีคนทำ หลายคนต่างลุกขึ้นตะเกียกตะกายทำอะไรกันก็ไม่รู้เพื่อคนอื่นหมดเลย

    ท่านจึงย้ำเสมอว่า ไม่ว่าจะไปงานเลี้ยงกลับบ้านดึกแค่ไหน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือต้องตื่นเช้ามาใส่บาตร อย่ามาอ้างว่าวันนี้กลับดึกแล้วผลัดวันขอไม่ใส่บาตรแบบนี้ใช้ไม่ได้ ซึ่งตั้งแต่เป็นเด็กจะเห็นพ่อลุกขึ้นมาใส่บาตรทุกเช้า ไม่ว่าท่านจะกลับมาถึงบ้านดึกเพียงใด หรือถ้ากลับบ้านดึกในเวลาตีสาม สิ่งที่ท่านต้องทำก่อนก็คือ การเดินเข้าห้องพระเพื่อสวดมนต์ก่อนนอนทุกวัน จนกระทั่งฟ้าสางได้เวลาพระเดินผ่านหน้าบ้านก็ลงไปใส่บาตร สิ่งที่พ่อทำถือเป็นแบบอย่างที่ดีได้ติดตัวมาจนถึงวันนี้ และวันไหนถ้าไม่ได้ทำบุญก็จะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ

    ขณะเดียวกัน ถ้าเดินทางไปต่างประเทศก็จะต้องสวดมนต์ตลอดเวลา ยิ่งถ้าไปนอนโรงแรมที่ไหนก็ไม่เคยลืมการสวดมนต์เลย เพราะเป็นคนกลัวผี แม้ว่าที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นผี หนึ่งเล่มของหนังสือสวดมนต์ที่นำติดตัวไปสวด แต่ถ้าอยู่บ้านก็จะสวดมนต์คาถาต่างๆ ทั้งหมด ๕ เล่มต่อวัน เพราะวันนี้มีความเชื่อว่านรกสวรรค์มีจริง และเราไม่ต้องไปหานรก สวรรค์ที่ไหน แต่มันอยู่ในจิตใจของเรานั่นเอง

    นางอติพร บอกด้วยว่า วันนี้ถ้าเรามั่นคงในพระพุทธศาสนา ถ้าทำอะไรไม่ดีไว้มันเหมือนว่ามีนรกอยู่ในใจ เราก็จะเกิดความอึดอัดในใจ แต่ถ้าได้สร้างบุญสร้างกุศลเราก็จะมีความสุข เพราะบาปกรรมมีจริง จะเห็นได้ว่ากรรมสมัยนี้ใครทำอะไรไม่ดีไว้ก็จะตามอย่างรวดเร็ว เมื่อตนคิดได้แบบนี้แล้วก็พยายามที่จะสร้างบุญเอาไว้ให้มากเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าชาตินี้เราไม่ได้สร้างกรรม แต่ชาติที่แล้วเราไม่รู้ว่าเคยเกิดเป็นใคร ทำอะไรไว้ที่ไหน กรรมตรงนั้นก็จะตามทัน ฉะนั้นอยากให้ทุกคนสร้างบุญกันเอาไว้ให้มากๆ กรรมจะได้ตามไม่ทัน

    "ถ้าเป็นไปได้ชาติหน้าไม่ขอเกิดได้ก็ดีเหมือนกัน เพราะพระท่านบอกว่า คนเราเกิดมาเพื่อจะใช้กรรม แต่คนที่หมดกรรมคือเสียชีวิตหรือตายไปในชาตินี้ เมื่อเราเกิดมาอยู่ชาตินี้ก็พยายามที่จะไม่สร้างกรรมให้เกิดความพัวพันกันต่อไปในชาติหน้า วันนี้จึงต้องกระทำแต่ความดี ทำบุญให้ติดตัวไปในภพภูมิหน้า" ทายาทครูเอื้อ กล่าวทิ้งท้าย




    เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง

    http://www.oknation.net/blog/print.php?id=380812
     
  2. ฮุโต๋

    ฮุโต๋ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +44,568
    บางครั้งการสวดมนต์อย่างเดียวยังไม่พอ ต้องปฏิบัติทางใจด้วย แล้วเราเปรียบเทียบได้ว่าดับทุกข์จริงหรือ ความสุข ความทุกข์ บนโลกใบนี้เป็นของชั่วคราว ไม่จีรัง สลับกันเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ ลองสังเกตุดูว่าจริงหรือเปล่า เพราะสัจธรรมไม่เคยโกหก
     
  3. simking

    simking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +436
    โมทนาบุญกับครอบครัวคุณอติพร (สุนทรสนาน) เสนะวงศ์ ทายาท ครูเอื้อ สุนทรสนาน ทุกท่านเลยค่ะ
     
  4. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,614
    ขอร่วมอนุโมทนาบุญสิ่งดี ๆ ที่นำมาบอกกล่าวค่ะ
     
  5. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    อ่านแล้วก็เกิดความยินดีกับคุณอติพร (สุนทรสนาน) เสนะวงศ์ ค่ะ อนุโมทนาบุญนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...