ดวงจิตนี้เป็นของเราหรือไม่ครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เก็งจู, 31 มกราคม 2012.

  1. เก็งจู

    เก็งจู สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    ช่วยตอบให้ทีนะครับ

    (ตอนนี้ผมอยู่ม.๓ ครับ ผมมักมีความสงสัยในธรรมะอยู่เสมอ จนหลายครั้งคิดจนจิตตก เนื่องจากการปฏิบัติ ความรู้ของผมยังน้อยอยู่ ขอให้ท่านผู้รู้ช่วยชี้แจงอธิบายให้ฟังหน่อยนะครับ)
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    มันจะเป็นของเราหรือไม่ มันต้องดูอย่างนี้
    ให้เรารู้จักควบคุมจิตใจ ให้คิดดี พูดดี ทำดี ฝึกทำสมาธิ สวดมนต์
    รักษาจิตใจให้เบิกบานเป็นประจำ หมั่นทบทวนว่าจิตใจเราดีหรือไม่ดีอย่างไร
    ถ้าทำได้ ควบคุมได้ จิตใจนั้นเป็นของเรา

    แต่หากว่าเราไม่เคยทบทวนว่าใจเราดีหรือไม่ดีอย่างไร เราปล่อยไปตามอำเภอใจ มีแต่ความ โลภ โกรธ หลง แบบนี้ จิตใจไม่ใช่ของเรา เพราะเราต้องยอมทำตามกิเลสตัณหา ใช้งานมันก็ไม่ได้ พอสั่งให้มันตั้งใจเรียน มันก็ง่วงนอน สั่งให้มันเข้มแข็ง มันก็อ่อนไหว ร้องไห้ขี้แย

    นี่เราต้องฝึกใจนี้ให้เป็นของเรา เมื่อเราฝึกจิตนี้ให้เป็นของเรา อย่างสมบูรณ์ มันจะมีอำนาจเกินกว่าที่เราจะนึกเลยหละ จะให้ใจดวงนี้ ทำอะไรได้ดังใจนึกทั้งสิ้น
    ก็ศึกษา ฝึกจิต ฝึกใจ ฝึกสติ สมาธิ ให้ดี
     
  3. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ก่อนที่จะเห็นว่าไม่ใช่ของเรา ไม่ได้เป็นเรานั้น เราจะต้องเห็นว่าเป็นของเราอย่างชัดเจนก่อน

    ดั่งมีหนูเข้ามาทำความเดือดร้อนให้บ้านเรา เราจะต้องรู้ก่อนว่าหนูมาจากที่ไหน

    จึงจะหาวิธีที่จะทำให้หนูไม่มาทำความเดิอดร้อนให้เราได้ ไม่เช่นนั้นไม่มีทางเป็นไปได้

    "จิต" ก็เช่นกัน เราต้องเห็นจนเด่นชัดเสียก่อน ไม่เช่นนั้นเราจะรู้ จะเข้าใจ ได้อย่างไร

    มุ่งมั่นปฎิบัติไปเรื่อยๆ จนรู้ จนเห็น "จิต"ด้วยตนเอง แล้วจะเข้าใจในทุกสิ่ง

    หากยังไม่เห็น "จิต" ก็เร่งปฎิบัติไปเรื่อย ไม่ต้องไปนึกคิดถึงผลที่จะได้ตอบแทนกลับมา

    เพราะหากมีการนึกคิดแล้ว "ความลังเลสงสัย" ย่อมเกิดขึ้นกับเราแน่แท้

    การที่จะเห็น "จิต" ได้นั้น มีอยู่หลายทาง แต่ทางที่ง่ายที่สุด คือ การปฎิบัติจนเกิดความ "สงบ"

    หากคุณมัวแต่สงสัยลังเล ก็ย่อมเห็น "จิต" ได้ยากยิ่งขึ้น มุ่งมั่นกับการภาวนาให้มากๆครับ

    แล้วผลจะเกิดขึ้นเอง ผมนี้ปฎิบัติมานานมากแล้ว 16 ปีกว่าแล้วครับ จึงได้เข้าใจครับ

    คุณเพิ่งจะเริ่ม อย่าด้วนใจร้อนครับ เพราะต้องปฎิบัติกันทั้งชีวิตครับ สาธุครับ
     
  4. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ยกคำเทศน์จาก หลวงปู่หล้า เขมะปัตโต มาให้ฟัง


    ******************************************************
    ส่วนพระอรหันต์ ไม่สำคัญตัวในที่ใดใด เลย
    ใช่หรือไม่ ท่านมหาฯ นั่น นั่น นั่น นั่น นั่น นั่น ใช่หรือไม่ เอ่อ ถูกมั๊ย


    เออ ส่วนพระอรหันต์ เออ ไม่สำ ไม่สำคัญตัวในที่ใดใดเลย


    เอ้า.. มีปัญหาสอดเข้ามาว่า
    พระอรหันต์ รักษาจิตหรือไม่


    ท่านไม่รักษาจิตท่านเลย เพราะจิตของท่าน ไม่มีอุปาทาน
    ไม่สำคัญตัวว่าอยู่ในจิต
    ไม่สำคัญจิตว่า
    เป็นตัว
    เป็นตน
    เป็นเรา
    เป็นเขา
    เป็นสัตว์
    เป็นบุคคล


    ไม่สำคัญว่า
    ผู้รู้เป็นเรา
    เป็นเขา
    เป็นสัตว์
    เป็นบุคคล
    แต่เอามาพูดเฉยๆ เอ่อ พระบรมศาสดา
    ถ้าพระบรมศาสดารักษาจิตอยู่
    พระบรมศาสาดาก็ต้องเป็นคนคุมนักโทษ
    เพราะเกร็งว่านักโทษจะมาทำอันตรายแก่ตนด้วย
    เกร็งว่านักโทษจะ ลักหนีด้วย


    เหตุนั้น
    ท่านผู้พ้นไปแล้ว จึงไม่ได้รักษาใจ
    เพราะใจไม่มีโทษแล้วจะรักษาทำไม
    แต่พวกเราไม่รักษา มันก็ ผิดจริงจริ๊ง


    เพราะพวกเรายังไม่พ้นใช่มั๊ย ท่านมหาฯ ถูกมั๊ย
    ไอ้ขี้เกียจพูดด้วยก็ให้คะแนน ถูก สูงเลยตะพรึ๊ด ตะพรือ เลย..ใช่มั๊ย



    ของใหม่ไม่มี มีแต่ของเก่า


    มรรคผลนิพพาน ก็เป็นของเก่า
    บาปก็เป็นของเก่า
    บุญก็เป็นของเก่า
    มรรคผลนิพพานก็เป็นของเก่า
    ของใหม่ไม่มี แต่ของเก่า
    ของ ของเก่า ที่ควรเล่นก็มี
    ของเก่าที่ควรทำให้แจ้งก็มี


    เอกะ ธัมโม ธนัญ จ โน
    พระธรรมเป็นของเก่า ไม่ใช่ของใหม่ เป็นของเก่า


    โลภ โกรธ หลง ก็เป็นของเก่า
    ไตรสิกขา เพื่อจะ ชำระโลภ โกรธ หลง ก็เป็นของ ของเก่า
    ไม่ใช่ของใหม่


    ผู้ดื่มสุราก็เป็นของเก่า ผู้เว้นมาก็เป็นของเก่า
    ผู้เล่นเลขเล่นผา ก็เป็นของเก่า
    ผู้ที่เค้าเว้นก็เป็นของเก่าเหมือนกัน ไม่ใช่ของใหม่
    เกิดแก่เจ็บตายเป็นของเกา ไม่ใช่ของใหม่
    มรรคผล นิพพานก็เป็นของเก่า ไม่ใช่ของใหม่


    เอกะ ธัมโม ธนัญ จ โน พระธรรมเป็นของเก่านั้นเอง
    ไม่ใช่ของใหม่เลย


    แต่ของเก่าที่ควรเว้น ก็มี
    ของเก่าที่ควรปฏิบัติก็มี
    ก็แล้วแต่ผู้ใดจะเลือกถูก


    ถ้าไม่ถึงพระโสดาบันแล้ว มันก็ไปบานหน้าบุญพระโสดาบัน
    บานหน้าเข้าสู่พระนิพพาน ไปถึงพระอนาคามี บาปของพระโสดาบัน
    ก็ไปตกกันที่พระอนาคามี ส่วนพระอรหันต์เหนือบาป เหนือบุญไปซ๊ะ


    มรรค ...ธรรมชั้นสูง
    มาเถิดลูกหลาน เอ๋ย อย่าไปอยู่ที่นั้น พ่อข้ามมาแล้ว
    ที่นี่ไม่วุ่นวาย
    ที่นี่ไม่ขัดข้อง


    ที่ลูกที่หลานอยู่นั้นมันวุ่นวายมันขัดข้อง
    เพราะกิเลสยังมีอยู่กั๊บลูกหลาน


    ที่นี้ไม่มีกิเลสนี่ คล้ายๆกับพระบรมศาสดาร้องเรียกอยู่


    ไฟไหม้หัวท่วมพวกเธอทั้งหลายอยู่
    พรุ่งนี้พวกเธอ จึงจะดับมันจะถูกม๊าย
    ธรรมชั้น สูง


    ท่านมหาฯ ทำไม พระพาหิยะ ไม่ได้เรียงปฏิจจสมุปบาท
    ผมเข้าใจว่าที่พระบรมศาสาดา เรียงปฏิจจสมุปบาทนั้น
    เพราะให้สมบูรณ์พระองค์
    และเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจชัด


    สรรพพะทาหรณ์
    เส้นโซ่ มันคล้องคอ อยู่นี้ ตั๊ดปลอกไหนขาด
    มันก็ขาดไปเท่านั้นไม่จำเป็น จะไปทุ๊บ ทุ๊กปลอก
    ที่ไปทุ๊บทุ๊กปลอกก็เพื่อให้ อืม รู้จักความหมายให้สมบูรณ์พระองค์
    ใช่มั๊ย ..ใช่เน๊าะ


    ทีนี่ อุปาทานทั้งปวง อัตวาทุปาทาน ชนะ ถ้าชนะอัตวาทุปาทานแล้ว
    กามุปาทานถึงบันไดกาม ทิฏฐุปาทานถึงบันไดทิฏฐิ และความเห็น


    ศีลปตุปาทาน ถือมั่นในศีลพรต
    อัตวาทุปาทานถือมั่นวาทะ ว่าตนว่าตัว
    ถ้าชนะ อัตตาทุปาทานแล้ว อุปทานทั้งปวงก็แตกกระเจิง
    ใช่ ใช่หรือไม่ ท่านมหาฯ ใช่มั๊ย


    ..เออ..ไม่ต้อง เรียงแบบ
    อวิชาดับ สังขารดับ วิญญาญดับ นามรูป อายตนะ ตัณหา เวทนา
    ตัณหาอุปทาน ภพชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ
    ทุกขะโทมะนัส อุปายาส ...ไม่ต้อง อนุโลม ปฏิโลมก็ได้
    ใช่มั๊ย


    ที่นี้ ที่ว่า พระอรหันต์มีอยู่ในโลกเท่านั่นองค์เท่านี้องค์ นั้น
    พูดเป็นบุคคลาธิฐานเพื่อให้รู้จักความหมาย เออ..


    ไอ้ที่แท้พระอรหันต์ถือว่าอะไรจะมาอยู่ในโลก
    ถูกมั๊ยท่านมหาฯ


    เพราะ
    พูดเป็นบุคคลาธิฐานเพื่อให้รู้จักความหมายใช่มั๊ย
    ถูกมั๊ย เออ..


    ที่พระบรมศาสาดา เสวยวิมุตติสุขอยู่เท่านั้น ๗ วัน
    เท่านี้ ๗ วัน เป็น ๔๙ วัน นั้น
    ก็พูดตามสมมุติ
    ไอ้ที่แท้ พระศาสดาสำคัญตัวอยู่ในที่ใด
    ใครก็ไม่รู้ใช่มั๊ย ท่านมหาฯ


    ที่นี้ ที่ให้สรรเสริญว่า
    พระโมคคัลลา ฤทธิ์มาก เดชมาก เอ้า.. เก่งทาง ทางฤทธิ์เดช
    พระสารีบุตรเก่งทางปัญญา เออ ..
    พระอนุรุทธะ เข้าฌานเร็ว ทันพระองค์
    แต่ก็ไม่เทียบพระองค์ ใช่มั๊ย


    พระสีวลีมีลาภมากแต่ก็ไม่เทียบพระองค์ ..ใช่มั๊ย


    พระสารีบุตร มีปัญญามาก แต่ก็ไม่เทียบพระองค์
    พระอานนท์จำพระหูสูตรเก่งแต่ก็ไม่เทียบพระองค์.. ใช่มั๊ย


    ผมเข้าใจอย่างนั้น


    ผมว่าถ้าจะเสมอพระองค์หมด
    ที่ พระองค์ก็มีภูมิเท่าสาวก มันก็ไม่ถูก น่ะ ถูกมั๊ย
    เพราะมีปัญญาเก่งกว่า


    หายใจเข้าครั้งหนึ่งระลึกชาติหนหลังได้ตั้งล้านล้าน
    พระบรมศาสดา
    เว้นไว้แต่ไม่ต้องการ นั่น นั่น แผ๊บเดียวเท่านั้น
    ใครจะเสมอเหมือนไม่มีเลย
    จึงสมฐานะ ว่าเป็น สยัมภู อืม..
    จึงเป็นสมฐานะว่าโลกะวิทู รู้แจ้งโลก


    สาวะโกโลกะวิทู เห็นอนิจจังขณะจิตหนึ่งก็เห็นโลกรอบหนึ่ง
    ก็เรียกว่าโลกะวิทูได้เหมือนกันแต่ไม่เทียบพระบรมศาสดา
    เรียกว่า สาวะโกโลกะวิทู


    ไม่ใช่ สัมมาสัมพุทโธโลกะวิทู รู้แจ้งโลก
    เออ รู้หม๊ดทุ๊กอย่าง ไม่เสมอเหมือนพระองค์เลย
    <!-- google_ad_section_end -->
    *************************************************​


    ทีนี้ เราลองถามตัวเองว่า
    เราได้แต่ฟังพระท่านพูด และเมื่อไรเราจะเห็นได้จริงตามนั้นไหม

    ก็ต้องลองเดินตามท่านให้ถูกต้อง
    โดยการเข้ามาเรียนรู้วิธีการเดิน
    ถามตัวเองว่า เราเคยมาเรียนรู้วิธีการเดินหรือยัง
     
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
  6. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    สิ่งที่เป็นของเราหมายถึงไม่มีใครเอามันไปจากเราได้ถูกไหมครับ เราอยากที่จะ
    บังคับบัญชามันยังไงก็ได้ ต่อไปก็ต้องลองดูว่ามันเป็นอย่างนั้นไหม ต้องเห็นด้วย
    ตัวเอง
     
  7. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    "จิตตภาวนา" "อิจฉาวจร"
     
  8. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    อนุโมทนาครับ

    ต้องรู้เองเท่านั้น
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เนาะ ท่านทั้งหลายก็กล่าวไว้เช่นนั้น การที่เราจะยอมรับโดยดุษฏีนั้น
    มันคงไม่ใช่เรื่องที่จะเห็นเอาได้ตอนนี้แน่ๆ

    สิ่งที่เรายังไม่เห็นด้วย ยังไม่รู้และอีกทั้งก็ยังไม่เห็นด้วย เราจะรีบปฏิเสธ
    การฟัง การกระทำไว้ในใจ ให้แยบคาย คล้ายๆ สดับคำสั่งสอนนั้นอยู่ตลอด
    เวลาก็ไม่ง่ายนัก

    หากเราจับ คำสอนเรื่องจิตไม่ใช่เราตรงๆ ปั๊ป โอกาสที่เราจะ ชิ เชอะ อย่าง
    ไม่เชื่อนั้น มีสูงมาก

    แต่หากเรามีความ แยบคาย โยนิโสมนสิการ มีกัลยาณมิตรคอยบอกเกี่ยว
    กับวิธีปฏิบัติหรือมรรค อีกทั้งเราไม่ประมาท แม้ในธรรมทั้งหลาย ทั้งที่
    ได้สดับมาก่อน หรือ พึ่งสดับจากกัลยาณธรรม หรือ แม้กระทั่งสิ่งที่เราสดับ
    รับรู้ที่สัมผัสได้เพียงผู้เดียว โอกาสที่เราจะเผลอแสดง การปฏิเสธ ชิ เชอะ
    ก็จะน้อยลง แถมยังทำให้กระจ่างใจในคำสอนที่ว่า "จิตไม่ใช่เรา" โดยไม่
    ทอดธุระพิสูจน์ธรรมเสียก่อน

    ก็จะเห็นว่า การศึกษาธรรมะนั้น จะกระทำตรงๆไม่ได้ จะทำความเข้าใจตรงๆ
    ด้วยคำพูดไม่ได้ จะทำความเข้าใจตรงๆด้วยการปฏฺบัติเองก็ไม่ได้ เราจะต้อง
    แยบคาย ในอุบายนำออก

    นำอะไรออกหละ

    นำ "จิต" ออกจากการเห็นอย่าง ปุถุชนที่ขาดการสดับ ว่า เป็นเรา

    เพื่อ

    รู้แจ้งเห็นจริงตามที่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายเปรยให้พิสูจน์ว่า "จิตไม่ใช่เรา"

    ม.3 ไม่ใช่อุปสรรค ไม่ใช่เงื่อนไขขัดขวาง คนที่มุ่งมั่นในอธิษฐานกระทำ
    นิพพานให้แจ้ง

    สมัยพุทธกาล สามเณรวัยเพียง 7 ขวบ ก็ยังภาวนาได้สำเร็จ

    แล้วคิดดูสิ สมัยนี้ ใครต่อใครก็ ไม่ศรัทธาในคำสอนของพระพุทธองค์
    แล้ว พูดไม่กี่คำก็บอกว่าต้องเอาเป็นเอาตาย ต้องพากเพียรตรากตรำ
    ต้องอาศัยเวลานานร่วมกว่า 10ปีบ้าง 15ปีบ้าง 20ปีบ้าง จนกว่าจะตาย
    บ้าง

    นี่!!! เป็นโอกาสของเธอแล้ว ที่จะกระทำนิพพานให้แจ้ง ในวัยอันน้อย

    เพื่อแสดงให้โลกเขารู้ว่า ธรรมะของพระพุทธองค์ไม่จำกัดกาล อกาลิโก
    นั้นเป็นอย่างไร

    สู้หรือเปล่า!!! ถวายตนเพียรเผากิเลสเพื่อเป็นปฏิบัติบูชา ได้หรือเปล่า !?

    ;aa8 ;aa8;aa8
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2012
  10. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ถ้าไม่ใช่ของเรา แล้วจะเป็นของใครล่ะน่อ
     
  11. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    แล้วขันธ์ห้าอะครับ ไม่ใช่ของเรา ของใคร
     
  12. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    คำว่า ขันธ์ห้า หรือ ร่างกาย ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
    คำนี้เป็นธรรม ที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนให้เราละกิเลส
    แต่คนสมัยใหม่นี่มันฉลาด อวดรู้ อวดเก่งเกินครูบาอาจารย์ มันเอากิเลสมาคิด เอากิเลสมาพิจารณาธรรม มันก็ติดอยู่ในวังวนของกิเลสนั่นแหละ ไม่ต้องไปไหน

    ครูบาอาจารย์ท่านสอนให้รู้ว่า ร่างกายนี้ มันไม่เที่ยง เดี๋ยวมันก็แก่ เดี๋ยวมันก็พัง แล้วมันก็เน่า พอตายแล้วก็เอาไปไม่ได้ สิ่งที่จะเอาไปได้ก็มีแต่บุญแต่กรรมที่ทำเอาไว้เท่านั้นแหละ


    เจริญในธรรมครับ
     
  13. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,459
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ผมอยากฝากหนังสือ ชีวิตเป็นอย่างนี้ ที่อยู่ใต้ comment ของผมให้คุณ เก็งจู download ไปอ่านดูครับ อ่านเเล้วจะได้ความรู้ใหม่ๆอีกหลายอย่างเเน่นอนครับ ยังไงคุณ เก็งจู ก็หมั่นรักษาศีลห้า สวดมนต์ นั่งสมาธิ เเผ่เมตตา เเละศึกษาธรรมะในทุกๆวันต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะเข้าใจหลายๆอย่างขึ้นครับ ขอเ้ป็นกําลังใจให้ครับ ยังไงก็เข้าไป download มาอ่านดูนะครับ ใน link มีหนังสือ 2 เล่ม คือ หนังสือชีวิตเป็นอย่างนี้ เเละหนังสือทําบ้านให้เป็นสุข หนังสือ 2 เล่มนี้ดีหมดทั้ง 2 เล่มเลยครับ ลองอ่านให้จบดูเเล้วกันครับ ขอให้โชคดีครับ อนุโมทนาครับ
     
  14. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ของกลาง ใครไปยึดถือของกลาง ก็เลยทุกข์ระทมไปเรื่อย


    เคยไปเอาของกลางมาเป็นเข้าของไหมล่ะ
    มันจะอยู่ไม่สุข ไม่สะบายเพราะ สะดุ้งระแวงเป็นประจำ

    เอ..คนอื่นมันจะรู้ไหมน๊า ว่าเราเอาของกลางมาเป็นเจ้าของ
    เอ..เค้าจะรับได้ไหมน๊า ว่าเราเอามาถือไว้

    เอ..อีกหลาย เอ๊เลย :boo:
     
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456

    เนี่ยะๆ สังเกตนะ หากเราให้ ทิฏฐิมันนำ เอาทิฏฐิมาแสวงหานิพพาน

    มันจะไป เอ๊ อยู่สองนัย นัยแรกเลย หรือว่า จะมีเรื่องขาดสูญ
    กับ หรือว่าจะมีเรื่องเข้าถึงความบ้าวิกลวิกาล หรือนิ่งเป็นตอไม้

    ถ้าเราปล่อยให้ มารมันกระซิบหลอกเอา สองนัยนั้นได้นะ โอยยย

    คนเหล่านั้น จะด่าพวกที่บอกว่า "จิตไม่ใช่เรา" เนียะว่าทำลายศาสนา
    สอนผิด เหมือนจะมาบอกเรื่อง "ตายแล้วสูญ" หรือไม่ก็บอกว่า ให้
    ภาวนากลายเป็น "หิน"

    ตรงนี้เราต้อง แม่นๆ วางจิต เห็น "สมณะ" ที่เป็น สัปปายะบุคคลให้ได้
    อย่าไปเอา "สมณะ" ที่ยังเร่าร้อนเพราะความกระเดิด ความวิตกที่แล่น
    ไปเรื่อง "ตายแล้วสูญ ภาวนาแล้วเป็นหิน" มากระทำไว้ในใจ

    พอเราได้ เห็นสมณะ ที่ถูก ที่สัปปายะแท้จริงนะ เอ ท่านก็กล่าวว่า
    "จิตไม่ใช่เรา" ท่านสอนเราอย่างนี้ แต่ก็ไม่เห็นท่าน จะปรารภว่าตาย
    แล้วสูญอะไร แล้วท่านก็ไม่ได้ บ้าใบ้วิกลจริตด้วย อีกทั้งท่านก็ไม่ได้
    นิ่งกลายเป็นหินด้วย ดังนั้น มันต้องมีอะไรสักอย่างหละ ที่ท่านเห็นแต่
    เรายังไม่เห็น ท่านมีแต่ก็เหมือนไม่มี "มีไม่มี" นี่ก็เป็น คำสั้นๆที่ท่าน
    ทั้งหลายใช้แทนเวลาจะพูด จิตไม่ใช่เรา เพื่อลดความยุ่งยากในการ
    ถกเถียงก็เลย พูดเป็น "มีไม่มี" ให้เป็น ปริศนาธรรมไปตรงๆเสียเลย

    แต่ถ้าจะพูดธรรมะ สอนกันแบบ จัดเจน แล้วละก้อ ท่านเหล่านั้นก็จะ
    พูดว่า "จิตไม่ใช่เรา" หรือ "พบจิตให้ทำลายจิต พบ....ให้ฆ่าทิ้งเสีย"
    นู้นไปเลย
     
  16. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    คำว่า "เรา" เป็นสมมติบัญญัติ เพื่อให้เข้าใจกันได้ง่ายขึ้นเท่านั้น โดยปรมัตถ์ คือระดับพระอริยะนั้นแล้ว ไม่มีเรา ไม่มีของเรา แต่ท่านก็ยังใช้อยู่ เพื่อความเข้าใจกันในภาษาชาวบ้าน ชาวโลก เหมือนกัน
    ถ้าว่าตามปะระมัตถ์แล้ว จิตดวงนี้คือเรา

    แต่ไม่ใช่ของเรา เพราะยังมีการเปลี่ยนแปลง ตามเหตุปัจจัยอยู่ คือเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อยู่ และถ้าต้องการไม่ให้เปลี่ยนแปลงก็คือ รักษาจิตดวงนี้ให้ได้ นำดวงจิตนี้ไปนิพพาน ด้วยสติ-สัมปชัญญะ ให้ได้ เพราะนิพพานไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ นิพพานเป็นอัตตา เป็นพระเอกตัวจริง นี่เป็นภาษาธรรมชั้นสูง นะครับ ) ขึ้นอยู่กับว่า เราจะอยู่ในอารมณ์ใดมากที่สุด หรือนานที่สุด ฯ สิ่งต่าง ๆ ทั้งหลายที่มีอยู่ไม่ใช่ของเรา แม้แต่ร่างกายนี้ ก็ไม่ใช่ของเรา เป็นของที่ยืมเขามาใช้ประกอบการบุญ หรือบาปชั่วคราว แต่ถ้าเราไปยึดติดว่าเป็นของเรา เราเองคือจิตก็เป็นทุกข์ทรมาน รับไม่ได้ กระสับกระส่าย กลัวไปต่าง ๆ นานา
    สังเกตให้ดีว่า เรา กับ ของเรา นะครับ ฯ เราคือจิตดวงนี้ มาอาศัยร่างกายนี้อยู่
    ถ้ายึดว่าเป็นของเราเมื่อไร ก็เป็นทุกข์ ฯ คำว่าทุกข์ แปลว่า สิ่งทนอยู่ในสภาพนั้นไม่ได้ เช่นก้อนหินก็มีทุกข์ คือย่อมแตกสลายได้ ถ้ามีเหตุทำให้แตก ฯ เก้าอี้ก็เป็นทุกข์ เพราะตั้งกลางแดดนาน ๆ ก็เปลี่ยนสภาพไป เพราะแแดดเผา ผุไป ดังนี้ เป็นต้น ฯ
    ถ้าว่าตามพระอภิธรรมนั้น จิตมีหลายดวง ทั้งที่เป็นกุศล และเป็นอกุศล เป็นกลาง ๆ คือไม่เป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง คือเป็นตัวของจิตนั้นนั่นเอง ภาษาพระท่านเรียกว่า อัพยากฤต คือจิตเป็นกลาง ๆ ไม่ดำ ไม่ขาว จะว่าไม่มีก็ไม่ใช่ ฯ ทั้งหมดนั้นเป็นทุกข์ ฯ สิ่งที่ไม่มีทุกข์ หรือไม่เปลี่ยนแปลง คือนิพพาน เท่านั้น ฯ สิ่งใดที่เปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมดนั้น ไม่ใช่ของเรา ...
    ถ้าเราทิ้งสิ่งเหล่านั้นไป จะไปอยู่ที่ไหน ??
    ถ้ากำลังเพียงพอ ก็ไปอยู่นิพพาน ปลอดภัยที่สุด ที่นั่นไม่มีภัย ฯ อยู่ที่อื่น ไม่ปลอดภัย เพราะแม้แต่เทวดา อินทร์ พรหม มหาพรหม ก็ยังกลัวอยู่ คือกลัวการเปลี่ยนแปลง คือแตกสลายไป แม้นว่าจะอยู่นานเพียงใด ก็ถึงเวลาหมดอายุ หรือเกษียณได้ ฯ แต่ถ้าอยู่นิพพานแล้ว ไม่มีกลัว พระผู้รู้ท่านอธิบายว่าอย่างนี้ ครับผม .....
    จิตนั้นเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า ถ้าเปลี่ยนไป นั่นก็ไม่ใช่ของเรา ตนเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า ถ้าเปลี่ยนแปลงไป ก็ไม่ใช่ของเรา ฯ ดังนั้น ถ้าจะให้จิตเป็นเรา(ที่ผ่องใสตลอดไป) ต้องรักษาจิต บังคับจิตให้ได้ ถ้ารักษาไม่ได้ ก็ไม่ใช่ของเรา
    (ตามภาษาคน) ถ้าปล่อยให้กิเลสครอบงำได้ยิ่งมากเท่าใด ก็เท่ากับว่าจิตไม่ของเราอีกเท่านั้น ต้องรักษาไว้อย่าให้เสียความผ่องใสไป....นั่นหมายถึงว่า จิตก็จะอยู่กับเรา อย่างไม่เปลี่ยนแปลง (นิพพาน นั่นแหละครับ)
    ปะภัสสะระมิทัง ภิกขะเว จิตตัง......จิตดวงนี้ผ่องใส แต่มาถูกกิลสครอบงำ จึงเศร้าหมองไป เมื่อได้บำเพ็ญเพียรถูกต้องจริง ๆ ก็สามารถกำจัดกิเลส ทำให้จิตผ่องใสได้...(นี่ผมแปลเอาความหมายนะครับ) จิต(ที่เป็นภวังคจิตนั้น)เป็นของสะอาด แต่ยังไม่บริสุทธิ์ คือยังมีกิเลสที่ละเอียดในนั้น เหมือนน้ำที่ใสสะอาดใช้ดื่มได้ แต่ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ น้ำนั้นก็ย่อมเกิดเชื้อโรคได้ เป็นพิษเป็นภัย กลายเป็นไฟเย็นได้ เพราะฉะนั้นต้องกลั่นกรองน้ำคือจิตดวงนี้ ด้วยมรรคแปด มรรคแปดทำให้จิตบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ คือนิพพาน เท่านั้นที่บริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้น คือมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ เป็นสิ่งที่ดีควรกระทำ เปรียบเหมือนเพียงน้ำที่สะอาด ใช้ดื่มได้ดีเท่านั้น
    จงพยายามนำจิตดวงนี้ คือตัวเราไปรับนิพพานสมบัติที่บ้านที่แท้จริงคือนิพพาน ซึ่งสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีอะไรเจือปน) โดยเร็วเถิด...

    ค้นข้อมูลในเรื่อง จิตเป็นอมตะ ของคุณลุงหวีด บัวเผื่อน ฆราวาสผู้บรรลุธรรม นะครับ ดีมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 กุมภาพันธ์ 2012
  17. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ..............คำว่า "ของเรา เป็นความอยาก ตัณหา ทั้งพยัญชนะ และความรู้สึก อันนำไปสู่ ทุกข์ต่างหาก......".............เหมือนเห็นรถสปอร์ต จอดอยู่ในห้าง คุณก็ไม่รู้ว่าของใคร...และคุณก็ไม่คิดว่าเป็นของคุณด้วย...:cool:
     
  18. kongyai3

    kongyai3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +162
    ดวงจิตเป็นของเราตั้งแต่วันแรกที่ดวงจิตนี้ได้ถือกำเนิดมา ส่วนร่างกายเป็นของอยู่คู่โลกใบนี้ เราเปลี่ยนร่างกายมาแล้วไม่รู้เท่าไร แต่ดวงจิตก็ยังดวงเดิม

    ก็ลองคิดดูว่าตั้่งแต่เกิดมาจนอายุขนาดนี้ ร่างกายเปลี่ยนสภาพมาแล้วจากเด็กแบเบาะ มาคลาน มาเดิน มาวิ่ง โตขึ้น ดวงจิตยังเป็นของตัวเองเหมือนเดิมหรือเปล่า

    ดวงจิตก็ยังเป็นของเราเหมือนเดิมนะ แต่ที่เรารู้สึกว่าทำไมเราถึงมีความคิดที่แปลกแตกต่างไป เขาเรียกว่าเป็นอาการคิด เป็นความคิดคำนึงถึงของดวงจิต

    เพราะว่าดวงจิตทุกคนมีหน้าที่รับรู้ รับคิด รักที่จะเรียนรู้ต่อทุกสรรพสิ่งรอบตัว เพื่อการอยู่รอดบนโลกใบนี้

    เราเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งรอบตัวด้วยตา หู จมูก ลิ้น ร่างกาย และความคิดคำนึงถึงเพื่อที่จะหาคำตอบให้ดวงจิตให้หายสงสัย

    แต่แทนที่จะหมดความสงสัย และปล่อยวางหาทางกลับบ้านพระนิพพาน
    กับหลงรักในสิ่งที่ตนได้รับและยึดเอาไว้ว่าเป็นของตัว

    ทั้งที่ทุกสรรพสิ่งในโลกล้วนต้องแตกสลายหายไป
    จึงหลงอยู่ในโลกนี้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด​
     
  19. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +572
    -ดวงจิตทุกดวงเป็นของ พญาจิตราช คำว่า เรา (อุปทาน) เป็นทหารเอกของพญาจิตราช

    -เมื่อแยก จิต ออกจาก เรา จะเหลือแต่ รู้ เมื่อรู้แล้วให้ ว่าง เมื่อว่างแล้วจะ วาง เมื่อนั้นพญาจิตราช จะมองไม่เห็น
     
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ถ้ายังยึดมั่นอยู่มันก็เป็นของฉันและของเธอ มันก็จะคอยวนเวียนถามว่าของใคร?
     

แชร์หน้านี้

Loading...