ชะตา....ฟ้าลิขิต...วัดท่าซุง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย sujjaporn, 9 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. sujjaporn

    sujjaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +1,134
    "ไอ้เย้า ถ้าหลวงพ่อจะขอเอ็ง พ่อ-แม่ เอ็งจะคิดเท่าไร" เสียงกล่าวของพระราชพรหมยานดังขึ้น พร้อมด้วยเสียงหัวเราะ
    เด็กน้อยชาวเขาเผ่าเย้านั่งพนมมือ
    "แล้วแต่หลวงพ่อซิเจ้าคะ" พระราชพรหมยาน "งั้นหลวงพ่อให้สลึงหนึ่งเอาไหม"(เสียงหัวเราะดังขึ้น)


    (เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนชาวเขาเผ่าเย้า ที่ได้มีโอกาสได้รับใช้และได้รับพระคุณจากพระราชพรหมยานส่งเรียนจนจบมหาวิทยาลัย)
     
  2. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,320
    ค่าพลัง:
    +13,241
    มาเล่าเร็วๆเลยครับ อยากฟังอ่ะ:cool:
     
  3. ถิรวุษิ

    ถิรวุษิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,685
    ค่าพลัง:
    +7,520
    ขอยกมือ อยากฟังต่ออีก1เสียงครับ(y)
     
  4. sujjaporn

    sujjaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +1,134
    เส้นทางเดินมุ่งหน้าสู่วัดท่าซุง
    ชาวเขาเผ่าเย้ามีขนบธรรมเนียมประเพณีที่คล้ายคลึงกับขนบธรรมเนียมประเพณีของจีน โดยเฉพาะผู้หญิงของเผ่าเย้าถ้าแต่งงานกับคนเผ่าเดียวกันต้องออกจากครอบครัวตัวเองเนื่องจากถือว่านับถือผีบรรพบุรุษต่างกันไป ต้องไปนับถือบรรพบุรุษของฝ่ายผู้ชาย(สามี )ถึงแม้ว่าพ่อ-แม่จะเจ็บป่วยถ้าไม่ได้รับอนุญาติจากฝ่ายสามีจะไม่มีสิทธิที่จะมาดูแลปรนนิบัติได้ การแต่งงานของผู้หญิงชาวเขาเผ่าเย้าคล้ายกับการคลุมถุงชน ก่อนการแต่งงานฝ่ายหญิงต้องไปอยู่กับครอบครัวฝ่ายชายเพื่อดูแลปรนนิบัติพ่อ-แม่ฝ่ายสามี
    จากขนบธรรมเนียมประเพณีบางอย่างที่เด็กน้อยได้รับรู้และได้เห็นสภาพในวิถีชีวิตของครอบครัวตัวเอง โดยเฉพาะพี่สาวที่แต่งงานกับคนเผ่าเดียวกันทำให้รู้สึกว่า ทำอย่างไรถึงจะพ้นสภาพที่เป็นอยู่ได้ ทำอย่างไรถึงจะมีโอกาสได้ดูแลพ่อ-แม่เมื่อยามแก่เฒ่าได้โดยไม่ยึดติดกับประเพณี
    เนื่องด้วยสภาพฐานะและความเป็นอยู่ที่ลำบาก อาชีพหลักคือการปลูกข้าวโพด รายได้แทบไม่พอกับรายจ่าย การที่จะได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนในเรียนปกติทั่วๆ ไปแทบจะไม่มี พ่อ-แม่ ไม่มีความรู้อ่านหนังสือไม่ออก แม้แต่วันเกิดของลูกยังไม่รู้ (รู้แต่เป็นเดือนของเผ่าเย้า) เด็กน้อยชาวเขาเผ่าเย้ารู้ซึ้งถึงปัญหาดังกล่าว สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดสำหรับการศึกษาก็คือ การศึกษานอกโรงเรียน ความตั้งมั่นบวกความตั้งใจ ทำให้เด็กน้อยได้มีโอกาสศึกษาต่อจนจบ ม.3 เมื่อเรียนจบพ่อ-แม่ต้องการให้แต่งงานเนื่องจากมีชาวเขาเผ่าเดียวกันมาดูตัวและต้องการสู่ขอ ความรู้สึกตอนนั้นของเด็กน้อยคิดอย่างเดียวอยากจะเรียนต่อและไปให้สภาพที่เป็นอยู่ แต่จะทำอย่างไร ที่พึ่งสุดท้ายของเด็กน้อยก็คือ ไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ กศน. สิ่งเดียวที่รับจากอาจารย์ก็คือ "ถ้าต้องการที่จะเรียน แต่ไม่มีเงิน ให้ลองเขียนจดหมายไปหาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จังหวัดอุทัยธานี ท่านรับอุปการะเด็กเพื่อให้การศึกษาและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ"
     
  5. sujjaporn

    sujjaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +1,134
    คำว่า"วัด" คำว่า"พระ" ความรู้สึกของเด็กน้อยแทบจะไม่รู้เลยถึงความหมายที่แท้จริง มีเพียงประการเดียวต้องการเรียนต่อและต้องไปให้พ้นจากสภาพที่เป็นอยู่ เมื่อกลับถึงบ้านสิ่งแรกที่ต้องทำ "เขียนจดหมายถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเนื้อความของจดหมาย ได้บรรยายถึงสภาพความเป็นอยู่ ความตั้งมั่นและตั้งใจที่จะเรียนหนังสือต่อ ขอให้หลวงพ่อได้กรุณาช่วยด้วย" นับจากวันที่ส่งจดหมายถึงวันที่รอคอยช่วงระยะเวลาประมาณ 1 เดือน สิ่งที่มุ่งหวังได้สมหวังเมื่อได้รับจดหมายจากวัดท่าซุงพร้อมทั้งเงินค่าเดินทางจำนวน 500 บาทที่ทางหลวงพ่อได้ส่งมาให้ใช้เป็นค่าเดินทางและให้เดินทางไปที่วัด วันที่เดินทาง อาอง(พ่อ) ได้เดินทางมาส่งด้วยที่วัดและได้พบกับหลวงพ่อ
    คำถาม : รู้สึกอย่างไรเมื่อได้พบกับหลวงพ่อครั้งแรก
    เด็กน้อย : ความเมตตาของท่าน ความรู้สึกว่าคุ้นเคยกับท่าน ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล เหมือนหลวงพ่อเป็นพ่อของเราเองพร้อมที่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่าง
    คำถาม : หลังจากที่พบหลวงพ่อเคยสงสัยไหมว่าทำไมถึงได้รู้สึกอย่างนั้น
    เด็กน้อย : ตอนแรกเคยสงสัย แต่เมื่อได้อยู่ที่วัดสักพักหนึ่ง ความสงสัยต่าง ๆ
    ไม่มีแล้ว
     
  6. MONGKHOLYUT

    MONGKHOLYUT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2006
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +585
    :cool:รออ่านต่อนะครับ
     
  7. ถิรวุษิ

    ถิรวุษิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,685
    ค่าพลัง:
    +7,520
    คั่วป็อปคอนนอนรออ่านต่อครับ สงสัยเรื่องนี้ยาวแน่ๆ หุๆๆ
     
  8. punpraya

    punpraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2006
    โพสต์:
    1,256
    ค่าพลัง:
    +2,228
    มาเร็วๆนะ ร้อ รอ..........
     
  9. PeacE123

    PeacE123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,179
    ค่าพลัง:
    +2,485
    รออยู่นะครับ(deejai)
     
  10. sujjaporn

    sujjaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +1,134
    "ไอ้เย้า แกจำไว้นะถ้าฉันตายหรือแกตายไป ให้บอกลูก-บอกหลาน ให้นำกระดูกมาบรรจุที่วัดท่าซุงข้างพระจุฬามณี ที่ช่องบรรจุฉันได้จองไว้ 2 ช่อง สำหรับฉันและแก หลวงพ่อท่านสั่งฉันไว้ให้ดูแลแก ฉันจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด" เสียงของเพื่อนรักยังคงดังก้องอยู่ตลอดเวลา เวลาช่างผ่านไปไวเหลือเกิน 25 ปีแล้วสินะ
    หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
    เด็กน้อยชาวเขาเผาเย้า ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ทีวัดท่าซุงโดยได้รับมอบหมายช่วยทำกับข้าว เลี้ยงสุนัข และซักจีวรของหลวงพ่อ โดยมีเด็กที่หลวงพ่อได้อุปการะไว้จำนวน 11 คน ผัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่ โดยที่เด็กน้อยมีเพื่อนสนิทที่ปรนนิบัติและเรียนอยู่ทีวัดมานานแล้วซึ่งเพื่อนดังกล่าว มีความรัก ความเคารพ ต่อหลวงพ่ออย่างมากที่สุด แม้แต่กระทั่งเรียนจบก็ไม่ยอมเรียนต่อขอรับใช้หลวงพ่อจนกว่าจะถึงวาระสุดท้าย
    เด็กน้อย: ทำไมแกไม่ยอมเรียนต่อ (ปี พ.ศ.2532)
    เพื่อนสนิท : แกรู้ไหมเวลาที่หลวงพ่อจะอยู่กับเรานั้นสั้นลงแล้ว"
    เด็กน้อย : ฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าหลวงพ่อสั่งให้ฉันเรียนให้จบและกลับมาเป็นครู
    สอนที่โรงเรียนเรา ฉันจะต้องทำตามที่หลวงพ่อท่านสั่ง"
    เพื่อนสนิท : ฉันไม่ยอม ถึงหลวงพ่อจะไล่ฉันให้ไปฉันก็ไม่ไป ฉันจะไปก็ต่อ
    เมื่อไม่มีหลวงพ่อแล้วเท่านั้น
     
  11. sujjaporn

    sujjaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +1,134
    ช่วงค่ำของวันหนึ่ง หลังหลวงพ่อรับแขกเสร็จ หลวงพี่.....อาจารย์....ป้า และเด็กนักเรียนที่เป็นเวรคอยรับใช้ นั่งฟังหลวงพ่อท่านเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง หลวงพ่อท่านเล่าให้ด้วยเสียงที่หัวเราะบ้าง สลับกับการฉันฑ์หมากพลู เด็กน้อยชาวเขานั่งพนมมือก้มหน้าด้วยความตั้งใจ
    หลวงพ่อ : เย้าเอ๋ย หลวงพ่อให้
    เด็กน้อย : เงยหน้าขึ้น เห็นหลวงพ่อกำลังฉันฑ์หมากและพลูที่ม้วนอยู่ ค่อยๆคลานเข้าไปกราบหลวงพ่อยื่นหมากและพลูที่เหลือให้ ความรู้สึกปิติ ปลาบปลื้มพร้อมทั้งน้ำตาไหลหลั่งมาโดยไม่รู้ตัว ยื่นมือขึ้นรับ และนำใส่ปากทันที
    หลวงพ่อ : ไอ้ขึ้หมา กินเลยเหรอะ (เสียงหลวงพ่อพูดพร้อมด้วยเสียงหัวเราะ)
    เด็กน้อย : ค๊ะ
    หลวงพ่อ: ดีดีลูก
     
  12. pradet66728541

    pradet66728541 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +1,221
    รอ............ตั้งใจอ่านไปและยิ้มไป
     
  13. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ผมก็รอ ปูเสื่อมานอนฟังอยู่ครับ เอายาวๆนะอะไรที่เกี่ยวกับท่านพ่อนี่ชอบฟังมากๆขอบอก
     
  14. sujjaporn

    sujjaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +1,134
    น้อง(สุนัข) แกล้งเพื่อนสนิท
    หน้าที่ที่สำคัญอีกอย่างสำหรับเด็กน้อยและเพื่อนสนิทคือการเลี้ยงน้อง(สุนัข) ที่คลอดออกมาใหม่เนื่องจากว่าแม่บางตัวนมไม่พอ หลวงพ่อท่านชอบให้คำนิยามแก่เด็กๆที่เลี้ยงสุนัขว่า "สุนัขการ" ซึ่งถ้าแปลตามความหมายหมายถึงผู้ซึ่งดูแลสุนัข แต่อาจารย์และหลวงพี่ ป้า ชอบ เย้าเล่นว่า สุนัขเลี้ยงผู้ดูแล เพราะถ้าไม่มีพี่ๆ(สุนัข)หรือน้องๆ(สุนัข) พวกเด็ก ๆคงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดหลวงพ่อ วันหนึ่งเวลาประมาณ5 โมงเย็นหลังหลวงพ่อท่านเลิกรับแขกกิจวัตรที่ท่านทำทุกวันก็คือ มาดูแลน้องสุนัขที่คลอดใหม่ซึ่งมีหลายแม่ มีอยู่แม่หนึ่งคลอดลูกมาจำนวน 6 ตัว เจ้าน้องสุนัขอายุประมาณได้ 1 เดือน มีอยู่ 1 ตัวที่นิสัยชอบออเซาะ เวลาหลวงพ่อมาจะดีใจมากชอบส่งเสียงและคลอเคลียหลวงพ่อตลอดเวลา วันนั้นเองเจ้าน้องตัวดีเมื่อเห็นหลวงพ่อเข้ามาปรี่เข้าหาทันที หลวงพ่อท่านยื่นมือไปให้เจ้าน้องตัวน้อยรีบดูดมือทันที่
    หลวงพ่อ : (ชื่อเพื่อนสนิท) น้องเค้าบอกว่าพี่ป้อนนมไม่อิ่ม
    เพื่อนสนิท: ตกใจและหน้าเสีย (คิดอยู่ในใจว่าเมื่อกี้เจ้าน้องตัวนี้ตอนป้อนก็กินไปตั้งครึ่งขวดเวลาจะป้อนซ้ำกลับไม่ยอมอ้าปากแล้วกลับมาบอกหลวงพ่อว่ากินไม่อิ่ม)
    หลวงพ่อ: เสียงหัวเราะดังลั่นของหลวงพ่อ "น้องเขาหยอกเล่นนะลูก"
     
  15. sujjaporn

    sujjaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +1,134
    ทอดกฐินวัดโขงขาว-นั่งเครื่องบิน

    ทุกๆ ปี สิ่งที่หลวงพ่อต้องทำก็คือการเดินทางไปทอดกฐินที่ วัดโขงขาว จังหวัดเชียงใหม่ ในตอนเย็นหลังหลวงพ่อท่านเลิกรับแขก และกลับมายังกุฏิที่พัก
    หลวงพ่อ : ปีนี้หลังจากทอดกฐินแล้วหลวงพ่อจะพาเด็ก ๆนั่งเครื่องบินจากเชียงใหม่ไปจังหวัดเชียงรายแล้วค่อยนั่งรถไปพระธาตุจอมกิตติ "เย้าเอ๋ย บอกให้พ่อ-แม่มาคอยที่สนามบินจังหวัดเชียงรายด้วยนะลูก"
    เด็กน้อย : เจ้าค๊ะ หลวงพ่อ (ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนมีอะไรมาจุกคอ ตื้นตันจนน้ำตาซึม)
    เมื่อถึงวันเดินทางมาทอดกฐินวัดโขงขาว (เด็กน้อยได้โทรเลขมาบอกแก่พ่อ-แม่ ให้มาหาที่สนามบินจังหวัดเชียงราย) หลังจากทอดกฐินเสร็จเรียบร้อยทางคณะหลวงพ่อและลูกศิษย์พร้อมทั้งเด็ก ๆ ส่วนหนึ่งได้เดินทางมายังสนามบินจังหวัดเชียงใหม่และนั่งเครื่องบินมายังจังหวัดเชียงราย(ความรู้ตอนนั้นของเด็กน้อยเหมือนความฝันนึกไม่ถึงว่าตัวเองจะมีโอกาสได้นั่งเครื่องบินซึ่งไปสิ่งที่ไกลเกินฝัน) ถึงสนามบินจังหวัดเชียงราย คณะของหลวงพ่อและลูกศิษย์พร้อมเด็ก ๆ ได้เดินออกมาเพื่อจะนั่งรถที่คณะศิษย์ได้เตรียมไว้เดินทางต่อไปยังวัดพระธาตุจอมกิตติ เด็กน้อยชาวเขาได้เห็นพ่อ-แม่มายืนรออยู่ ด้วยความดีใจวิ่งหาพ่อ-แม่พร้อมทั้งจูงมือมาหาหลวงพ่อทันที่ ภาพที่เห็นชาย-หญิง สูงวัยแต่งตัวชาวเขาพร้อมเด็กผู้หญิงชุดนักเรียน ก้มลงกราบหลวงพ่อ หญิงชาวเขาได้เอาธนบัตรใบละ 100 บาท ใส่ย่ามหลวงพ่อ เสียงของหลวงที่เอ่ยขึ้น "ขอให้มีความสุขนะโยม ไม่ต้องห่วงลูกหรอกอาตมาจะดูแลให้ดี"
     
  16. sujjaporn

    sujjaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +1,134
    เรียนไม่เก่งไม่เป็นไรนะลูก ขอให้เป็นคนดีก็พอแล้ว (โอวาทของหลวงพ่อที่ท่านจะบอกแก่เด็กทุกคน)
    หลวงพ่อถ่ายรูป
    เช้าวันหนึ่งหลังหลวงพ่อฉันอาหารเช้าเสร็จ ท่านจะเดินลงจากที่พักเพื่อตรวจงานและรับแขก อาจารย์ ป้า และเด็ก ๆ ก็เดินตามหลังหลวงพ่อเพื่อส่งหลวงพ่อ วันนั้นหลวงพ่อท่านได้หยิบกล้องถ่ายรูปโพราลอยด์ ที่ลูกศิษย์ได้ซื้อถวายท่านติดมือมาด้วย
    หลวงพ่อ : อาจารย์ ...ไอ้ขี้หมามายืนแรงแถวให้ดีหลวงพ่อจะลองถ่ายรูปดู
    ทั้งอาจารย์ ป้า และเด็กนักเรียน ต่างก็ยืนเรียงแถวหน้ากระดานเพื่อให้หลวงพ่อท่านถ่ายรูปและทุกคนต่างก็ทำหน้าเคร่งขึม สงบเสงี่ยมทุกคน หลวงพ่อท่านได้หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเตรียมที่จะถ่าย ได้ยินเสียงท่านคล้ายบ่นพึมพำจับใจความไม่ได้แต่ที่ทุกคนได้ยินเสียงท่านเหมือนกันทุกคน
    หลวงพ่อ : "เฮ้ย ตดแตก"
    ทั้งป้า อาจารย์ และ เด็ก ๆทุกคนต่างหัวเราะและอมยิ้ม พร้อมกับได้ยินเสียงกล้องที่ถ่ายโดยหลวงพ่อปริ้นรูปออกมาทันที ภาพที่เห็นทุกคนต่างอมยิ้มอย่างมีความสุข เสียดายภาพดังกล่าวภาพค่อยเลือนหายไปเมื่อกาลเวลาผ่านไป แต่เด็ก ๆทุกคนที่ปรนบัติหลวงพ่อก็จะมีรูปที่หลวงพ่อท่านได้เมตตาถ่ายรูปกับหลวงพ่อเก็บไว้คนละ1รูป "เก็บไว้ให้ดีนะลูก พ่อรักลูกทุก ๆคน" เสียงหลวงพ่อท่านบอกกับเด็ก

    สาวจันทร์กั้งโกบ
    ก่อนถึงงานเป่ายันต์เกราะเพชร หลวงพ่อท่านจะให้หลวงพี่ ป้า อาจารย์ ลูกศิษย์ และเด็กๆ ช่วยกันทำความสะอาดวัด โดยเฉพาะศาลา 12 ไร่ที่ใช้ในการประกอบพิธีช่วงบ่ายท่านก็จะเดินมาตรวจงานและดูความเรียบร้อย
    ภายในศาลา 12 ไร่ ทุกคนกำลังช่วยกันทำความสะอาดและเตรียมเครื่องเสียง หลวงพ่อท่านได้เดินเข้ามาดู ทุกคนนั่งพับเพียบลงพร้อมทั้งก้มลงกราบหลวงพ่อ
    หลวงพ่อ : เดี๋ยวจะต้องลองเครื่องเสียงสักหน่อยถ้ามีปัญหาจะได้แก้ไขได้ทันไอ้เย้าเอ๋ย ร้องเพลงให้หลวงพ่อฟังสักหน่อยนะลูกจะได้เช็กดูเครื่องเสียงด้วยแต่หลวงพ่ออยากให้ลูกร้องเป็นภาษาเย้านะ เสียงหลวงพ่อเอ่ยขึ้น
    เด็กน้อย : ได้ค๊ะหลวงพ่อแต่หนูร้องเป็นแต่เพลงสาวจันทร์กั้งโกบค๊ะ
    หลวงพ่อ : เพลงอะไรก็ได้ลูกแต่ให้ใช้เป็นภาษาของตัวเองนะลูก
    เด็กน้อย : กราบหลวงพ่อและลุกขึ้นเดินตรงดิ่งไปยังไมค์นั่งพับเพียบตรงหน้าไมค์ก้มลงกราบหลวงพ่ออีกครั้งหนึ่ง และเริ่มต้นร้องเพลง เป็นภาษาเย้าแต่ทำนองเป็นสาวจันทร์กั้งโกบ ของพรศักดิ์ ส่องแสง เสียงหลวงพี่ อาจารย์ ป้า และลูกศิษย์หลวงพ่อยิ้มและหัวเราะกันทุกคน
    หลวงพ่อ : เสียงหัวเราะท่านดูอย่างมีความสุขพร้อมกับกล่าวขึ้นว่า ร้องได้เพราะมากลูก อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าเป็นลูกหลวงพ่อ เราต้องกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องนะลูกดีดีลูก
     
  17. bear17

    bear17 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +90
    สุขใจที่ได้อ่าน..น้ำตาซึมเลยครับ...หลวงพ่อท่านมีเมตตาสูงมาก..กราบนมัสการหลวงพ่อครับ
     
  18. sujjaporn

    sujjaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +1,134
    นางฟ้าขี้หมา
    กิจวัตรที่ต้องทำเป็นประจำก็คือ การกวาดเก็บอุจจาระปัสสาวะของพี่ ๆ น้อง ๆ (สุนัข) ที่ต้องทำทุกวันเย็นวันหนึ่งหลังจากหลวงพ่อเลิกรับแขก
    หลวงพ่อ : ว่าไง "นางฟ้าขี้หมา" ท่านเอ่ยทักเด็ก ๆ รวมทั้งเด็กน้อยชาวเขาที่นั่งพนมมืออยู่
    หลวงพ่อ : งานทุกอย่างที่อยู่ในเขตของวัด ถือว่าเป็นวิหารทานทั้งหมด แค่กวาดขี้หมา ตายจากความเป็นคน ไปเป็นเทวดา-นางฟ้า เชียวนะลูก ไม่ใช่ก้อย ๆ นะ
    เด็กน้อยชาวเขาและเพื่อน ๆ ก้มลงกราบหลวงพ่อด้วยความปลิ้มปิติ

    พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล
    เมื่อใกล้ถึงวันที่จะทำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล
    หลวงพ่อ : ใครที่จะนำสิ่งของ พระ เข้าพิธีพุทธาภิเษกให้นำมาให้(ชื่อหลวงพี่)รวบรวมเพื่อนำไปเข้าพิธี หลวงพ่ออนุญาต
    เพื่อนสนิท : หลวงพ่อเจ้าคะ หนูขอนำพระหยก แหวนและสร้อยคอ เข้าพุทธาภิเษก ได้มั้ยคะ
    หลวงพ่อ : ได้ลูกพ่ออนุญาต
    หลวงพ่อ : เย้าเอ๋ย จะเอาอะไรเข้าพิธีละลูก
    เด็กน้อยชาวเขาซึ่งนั่งก้มหน้าพนมมืออยู่ เงยหน้าขึ้นมองหลวงพ่อด้วยความเคารพรักศรัทธา
    เด็กน้อย : หนูขอเอา " ปากกา สมุด ดินสอ และหนังสือที่เรียนอยู่
    เข้าพิธีได้มั้ยคะ"
    หลวงพ่อ : ได้สิลูก ทำไมถึงอยากเอาของพวกนี้เข้าพิธีละลูก
    เด็กน้อย : หนูอยากเรียนให้เก่งคะหลวงพ่อ
    หลวงพ่อ : (หัวเราะเสียงดัง)..ฉลาดมากลูก ให้มันได้อย่างนี้สิลูก
    (ทุกครั้งที่มีพิธีพุทธาภิเษก สิ่งที่เด็กน้อยชาวเขาจะนำเข้าพิธีทุกครั้ง ก็คือ ปากกา สมุด ดินสอ และหนังสือที่เรียนอยู่)
    ปากกา สมุด ดินสอ และหนังสือ ที่เข้าพิธีพุทธาภิเษก(ความเชื่อส่วนบุคคล)

    เพื่อนสนิท : ไอ้เย้า แกเอาปากกา สมุด ดินสอ และหนังสือที่เข้าพิธีพุ
    ทธาภิเษก หลังจากนั้นแกเรียนเป็นไงมั่ง
    เด็กน้อย : ไม่รู้ซิ "รู้แต่ว่าคำว่าไม่ได้ ไม่มีปรากฏ" ในการเรียนหนังสือ ไม่ว่าจะอ่าน จะเขียน ความเข้าใจ หรือแม้กระทั่งการทำข้อสอบ ไม่เคยเกิดความรู้สึกเลยว่าทำไม่ได้ ทั้งที่บางทีดูแล้วยากแสนยาก แต่กลับเป็นว่า ทั้งปัญญาและสัญญา ของตัวเองสว่างไสวทั้งหมด
     
  19. sujjaporn

    sujjaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +1,134
    ภาพติดใจ
    เช้าของวันหนึ่ง เพื่อนสนิทและเด็กน้อยชาวเขาหลังจากเสร็จภารกิจการนำอาหารถวายหลวงพ่อ และหลวงพี่ กิจวัตรที่ทำเป็นประจำก็คือ การนำอาหารไปเลี้ยงพี่ ๆ น้อง ๆ(สุนัข) ตามจุดต่าง ๆ เพื่อนสนิทนั่งปั่นรถซาเล้ง เด็กน้อยนั่งอยู่ด้านหน้าซาเล้งซึ่งมีอาหารอยู่ด้วย
    เพื่อนสนิท : ไอ้เย้า ฉันชอบกริยาหลวงพ่อตอนที่ "หลวงพ่อท่านนั่งขัดตะหมาด มือถือยานัตถ์ และหัวเราะโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาท่านเล่านิทานให้เราฟังและส่งเสียงหัวเราะ" ฉันติดตาติดใจแต่ภาพนี้ตลอด แล้วแกละติดใจภาพไหน
    เด็กน้อย : สำหรับฉันนะเหรอ ทุกกริยาของหลวงพ่อของเรา แต่ที่ฉันติดตาติดใจตลอดเวลาก็คือ"ภาพที่หลวงพ่อท่านกราบพระ(พระพุทธเจ้า) ท่านอ่อนช้อย งดงามอย่างมากฉันไม่เคยเห็นพระองค์ไหนกราบพระ(พระพุทธเจ้า)งามเท่าหลวงพ่อของเรา และทุกครั้งที่ฉันกราบพระ(พระพุทธเจ้า) ฉันจะเห็นหลวงพ่อกราบอยู่ข้างหน้าตลอดเวลา"
    เจ้าเพื่อนสนิทถีบรถซาเล้งมาถึงบริเวณที่โบสถ์ เสียงพี่ ๆ น้อง ๆ(สุนัข) เริ่มทักทายตามประสา บางตัวเข้ามาคลอเคลีย บางตัวก็ส่งเสียงคล้ายจะตำหนิว่าทำไมถึงมาช้าจัง
    เพื่อนสนิท : ขอโทษ...ขอโทษ...นะ วันนี้มาช้าไปหน่อย
    เด็กน้อยพร้อมทั้งเพื่อนสนิทช่วยกันตักอาหารให้แก่พี่ ๆ น้อง ๆ (สุนัข) จนครบหมดทุกตัว
    เพื่อนสนิท : ไอ้เย้าเอ๋ย แกสังเกตุไหมว่า พี่ ๆ น้อง ๆ (สุนัข) ของเรารอคอยการมาของเรา หิวเป็นส่วนหนึ่ง แต่การต้องการพบและได้เห็นสัมผัสกับเราเขาจะอบอุ่นและสบายใจ เปรียบสเหมือนกับพวกเด็ก ๆอย่างเราที่นั่งรอคอยหลวงพ่อของเราว่าท่านจะกลับมาเมื่อไรหลังจากที่ท่านรับแขก พวกเราก็จะรอพบท่านจนกว่าท่านจะกลับมาถ้าท่านยังไม่มาเราก็ไม่ไปไหน
    เด็กน้อย : จริงของแก
     
  20. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    เอ้อออ...กำลังเพลิน จบชะงั้น ไม่เป็นไรรอต่อไป รอได้เสมอครับ ขอแค่จะได้ฟังเรื่องของหลวงพ่อเรารอได้ และขอแอบฟังห่างๆไว้ก่อน เพราะเรามันศิษย์ไม่เอาไหน .....
     

แชร์หน้านี้

Loading...