เรื่องเด่น ความแค้นเกิดขึ้นเมื่อจิตสงัด

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 23 พฤษภาคม 2019.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,318
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,460
    ?temp_hash=e87cad34c281e765594595f9496abf31.jpg

    ความแค้นเกิดขึ้นเมื่อจิตสงัด


    ผู้ถาม : เวลาปฏิบัติพระกรรมฐาน พอจิตเริ่มสงบสงัดความแค้นก็เกิดขึ้นทันที แล้วก็แก้ไม่ตกสักที ขอหลวงพ่อแก้แค้นให้หน่อยเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : อ้อ...นี่ไปแค้นใคร เอาชื่อมาให้ฉัน ฉันจะฝังดินให้

    ผู้ถาม : (หัวเราะ) พอจิตไม่สงบก็ไม่แค้น พอสมาธิสงบ แหม...มันก็แค้น

    หลวงพ่อ : เรื่องนี้ดีมาก ที่ญาติโยมและที่ถาม ถามดีการเจริญพระกรรมฐานนี่ต้องพิจารณาถึง "มาร 4 อย่าง" ให้มาก

    ผู้ถาม : เป็นไงครับหลวงพ่อ มาร 4 อย่าง

    หลวงพ่อ : มาร แปลว่า ผู้ฆ่า ใช่ไหม มาร 4 อย่างคือ 1. กิเลสมาร 2. มัจจุมาร 3. เทวปุตตมาร 4. ขันธมาร

    มารแปลว่า ผู้ฆ่าความดี พระพุทธเจ้าท่านบอกมี 4 อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีความสำคัญๆก็คือ กิเลสมาร กับ ขันธมาร รบกวนเราเรื่อย

    ขันธมาร หมายความว่าเวลาจะทำความดี ปฏิบัติกรรมฐานทำสมาธิจิตหรือทำบุญทำทาน ไอ้ความป่วยไข้ไม่สบายมันเข้ามาขวาง อย่างนี้เรียกว่า "ขันธมาร"

    อย่างที่โยมถามมาเมื่อกี้นี้เป็น "กิเลสมาร" ตัวนี้สำคัญ ต้องถือว่าคนนี้เป็นคนที่น่าชมมาก คนดีนะคนนี้เพราะอะไร เพราะยามปรกติไม่โกรธใช่ไหม แสดงว่าอารมณ์หยาบหมดไป ไอ้กิเลสหยาบที่โกรธหมดไป

    ทีนี้เวลาที่จะทำจิตละเอียดเกิดความแค้นขึ้นมา กระตุ้นขึ้นมา ตัวนี้ไอ้กิเลสที่เป็น "อนุสัย" ตัวละเอียด อย่างนี้ถือว่าเขาชนะมากแล้วนะคนนี้นะ อย่างนี้ถือว่าชนะหยาบต่อสู้กันละเอียดแล้ว ถ้าต่อสู้กับละเอียดชนะก็จะชนะเด็ดขาดเลย วิธีทำแบบนี้ก็เคยมีมาด้วยกันทุกคนนะ ฉันก็เคยเจอมา

    ผู้ถาม : หลวงพ่อก็เคยมีเหมือนกันเหรอครับ

    หลวงพ่อ : มี ทุกอย่างที่ถามมามีทุกอย่าง

    ผู้ถาม : อ้อ มีครบเลยนะ

    หลวงพ่อ : มีครบถ้วน เพราะเลวมีครบถ้วน

    ผู้ถาม : เอ้อ...เป็นพระมีเลวเหมือนกันหรือครับ ?

    หลวงพ่อ : เลว...ถ้าพระไม่เลว บวชอยู่ไม่ได้

    ผู้ถาม : เอ๊ะ....เป็นยังไงครับหลวงพ่อ

    หลวงพ่อ : ถ้าพระดีเขาไม่ต้องบวช ไปนิพพานเลย

    ผู้ถาม : อ้อ !

    หลวงพ่อ : อรหันต์ใช่ไหม

    ผู้ถาม : ครับ

    หลวงพ่อ : ฉันมันเป็นกังหันนี่ หมุนดะ แต่ว่าเมื่อกี้ถามว่ายังไงนะ วิธีแก้ใช่ไหม ?

    ผู้ถาม : ครับวิธีแก้

    หลวงพ่อ : ถ้ารู้สึกตัวมา ถ้าอารมณ์ระงับ ก็ถอยหลังคิดว่า อารมณ์จิตอย่างนี้ไม่น่าจะมีกับเรา เพราะว่าตามปรกติเราก็ให้อภัยอยู่แล้ว ทำไมเวลาจิตสงบสงัดจะต้องมาคิดอย่างนี้ ให้คิดว่าอันนี้ไม่ควร อารมณ์อย่างนี้ ให้คิดแค่นี้ว่าอันนี้ไม่ควร อารมณ์อย่างนี้มันจะมีไม่นานนัก ถ้าเวลาเลิกจิตสบายแล้วก็คิดว่า อันนี้มันผิดไปแล้วไม่ควรจะทำให้เศร้าหมองแบบนี้ ความดีที่มีอยู่จะคุ้มครองไม่ได้เมื่อเวลาตาย ถ้าเวลาตายจิตเศร้าหมองแบบนี้เราต้องลงอบายภูมิ

    2-3 ครั้งมันจะหายค่อยๆเรื่อยๆ ไปไม่ช้ามันจะหาย

    อันนี้ดีมากต้องขอชม คนนี้กิเลสหยาบเฉพาะ โทสะ ผ่านไปแล้ว อันนี้ต้องน่าคิด

    ผู้ถาม : ควรแก่การอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง

    หลวงพ่อ : ใช่ ควรแก่การรับ "ทาน"

    ผู้ถาม : เอ๊ะ

    หลวงพ่อ : อ้าว....พระ "ให้" ไม่มี มีแต่ "ขอ" อย่างเดียว

    ผู้ถาม : อ๋อ.....

    (จากธัมมวิโมกข์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 45 หน้า 87-89)


    ****************************************************

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,318
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,460
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...