ข้อความจากต่างมิติ - การท่องกาลเวลา, การเปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีต และธรรมชาติของกาลเวลา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 10 พฤศจิกายน 2010.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    บทนำ

    ขอออกตัวก่อนนะครับว่า เนื้อหาในกระทู้นี้ เข้าใจยากมากๆ

    แต่ที่ผมตัดสินใจนำมาโพสต์ให้ท่านได้อ่านด้วยนี้ ก็เพราะว่า
    ถึงอย่างไรเสีย เนื้อหาส่วนอื่นๆที่เราพอจะเข้าใจได้ มันก็มีประโยชน์อยู่มาก

    อ่านแล้วผมอยากแนะนำว่าให้กลับไปดูหนังเรื่อง Inception อีกรอบนะครับ
    มันจะเป็นอะไรที่เข้ากั๊น..เข้ากัน..เหมือนข้าวเหนียวกับส้มตำยังไงยังงั้นแหละ

    ว่าแล้วก็..น้ำลายไหล..

    แล้วก็เนื้อหาของกระทู้นี้ ผมรวมเอาข้อความสื่อสารจากมหาเทพเมตาตรอน
    ที่สื่อสารมาถึงนาย Tyberonn รวม 2 ครั้ง มาไว้ในโพสต์เดียวกันนี้
    เพราะว่าเห็นว่าเนื้อหาต่อเนื่องกันอยู่หนะนะครับ คือ

    1). ข้อความของวันที่ 6 เมษายน 2009
    2). ข้อความของวันที่ 18 ตุลาคม 2010


    ช่วงแรกๆของเนื้อหาในกระทู้นี้ มันอาจจะอ่านแล้วไม่ซาบไม่ซึ้งมากนักนะครับ
    แต่พอปูพื้นฐานเสร็จแล้ว ก็จะลงไปถึง "การกลับไปเปลี่ยนอดีตใหม่"
    และอื่นๆอะไรแบบนั้น มันจะน่าทึ่งมากเลยทีเดียวครับ..


    และก็ตามเคยครับ..อ่านแล้วก็ใช้วิจารณญานกันเอาเองนะครับ
    เพราะผมก็ทำหน้าที่นำสาส์นมาส่งให้เท่านั้นเอง..

    ...จะได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์ หรือไม่? อย่างไร?
    ก็อยู่ที่ตัวท่านจะ "เลือก" เอาเอง? แบบไหน? แล้วนะครับ...


    .........................................


    ปล1. เรื่องเกี่ยวกับระบบ "กายแห่งแสงสว่าง" ของมนุษย์
    หรือ Light body ที่กำลังพัฒนาจากระบบ Mer-Ka-Ba
    ไปเป็นระบบ Mer-Ki-Va และ Mer-Ka-Na ตามลำดับนั้น
    หาอ่านได้จากกระทู้นี้นะครับ

    "ข้อความจากต่างมิติ-ระบบคริสตัลลีนเมอร์คิวา-ออร่า-จักระ-สสารพลาสมา-ปฏิสสาร"

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...13-20-33-สสารมืด-ปฏิสสาร-สถานะพลาสม่า.269689/


    ปล2. กระทู้อื่นๆที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับกระทู้นี้ ได้แก่

    1). เรื่องเกี่ยวกับ มิติคู่ขนาน, โลกทั้งมวล (Omni-Earth)

    "ข้อความจากต่างมิติ-มิติคู่ขนาน-โลกใต้พิภพ-ufo-yeti"

    http://palungjit.org/threads/ข้อความจากต่างมิติ-มิติคู่ขนาน-โลกใต้พิภพ-ufo-yeti.246724/

    2). เรื่องเกี่ยวกับภพชาติต่างๆของเรา ที่มีอยู่-เป็นอยู่ และดำเนินไปพร้อมเพียงกันหมด ในเวลาเดียวกัน

    "ข้อความจากต่างมิติ-จักรวาลที่กำลังกระพริบ-และความเป็นจริงหลากมิติ"

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...่กำลังกระพริบ-และความเป็นจริงหลากมิติ.261510/

    3). เรื่องเกี่ยวกับจุดประสานมิติ

    "ข้อความจากต่างมิติ-ปิระมิด-and-12th-wave-of-ascension-โลกคู่ขนาน-จุดประสานมิติ"

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ve-ascension-โลกคู่ขนาน-จุดประสานมิติ.308874/


    "จุดประสานมิติ"

    http://palungjit.org/threads/จุดประสานมิติ.90702/

    ...........................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2014
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่: 6 เมษายน 2009
    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn

    ที่มา:

    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_30pdf.pdf


    ตอนที่ 1:
    ประตูเวลา และถ้ำวิญญาณ (Time Gates and Spirit Cave)


    สวัสดีท่านคุรุทั้งหลาย เราคือเมตาตรอน ราชาแห่งแสงสว่าง ขอส่งคำทักทายมายังพวกคุณทุกคน
    จากห้วงอวกาศที่ไร้กาลเวลาแห่งนี้ และเราขอโอบกอดพวกคุณด้วยความรักแบบไม่มีเงื่อนไข
    ซึ่งมันเป็นความรักที่เป็นเรขาคณิต เป็นความรักที่เป็นวิทยาศาสตร์
    และเป็นความรักที่ศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าจะประเมินค่าได้

    ความรักคือแหล่งกำเนิดของทุกสิ่งทุกอย่าง
    ความรักไม่ใช่เป็นเพียงแค่อารมณ์ความรู้สึกอย่างหนึ่งเท่านั้น
    แต่มันเป็นความสั่นสะเทือนอย่างหนึ่งที่มีพลังอำนาจไม่มีที่สิ้นสุด


    แหล่งกำเนิดของพลังงานที่ทำให้พวกคุณมีความตระหนักรู้อยู่ในขณะนี้
    ไม่ได้มาจากโลกทางกายภาพแต่อย่างใดเลย

    และในที่ๆเราอยู่ ก็ยังมีรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์อยู่อีกมากมาย
    พวกเขาไม่เพียงแต่จะรู้จักระบบของโลกทางกายภาพอย่างที่พวกคุณกำลังอยู่นี้เท่านั้น
    แต่พวกเขายังเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่ทรงภูมิปัญญา และเป็นจิตสำนึกที่มีความรู้สึก
    ที่ดำรงอยู่ก่อนที่โลกของพวกคุณจะกำเนิดขึ้นมาเสียอีกด้วย พวกคุณแปลกใจไหม๊?


    จิตสำนึกหรือความตระหนักรู้ (Consciousness) คือเครื่องยนต์ของทุกสรรพสิ่ง ทั้งที่เป็นสสารและปฏิสสาร
    และมันก็คือตัวที่ทำให้เกิดโลกแห่งความเป็นจริง หรือภพภูมิต่างๆบนโลกของพวกคุณ


    เราอยากจะบอกพวกคุณอีกครั้งหนึ่งว่า
    มันเป็นมุมมองที่จำกัดของพวกคุณเองในตอนนี้ต่างหากหละ
    ที่ทำให้พวกคุณเข้าใจว่า โลกทางกายภาพคือสิ่งที่เป็นบรรทัดฐาน
    และเป็นรูปแบบมาตรฐานของทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่เป็นอยู่


    เหล่านักวิชาการของพวกคุณ พากันค้นหาสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ที่อยู่ในระบบสุริยะของพวกคุณ
    แต่ก็ไม่เคยพบเลย นั่นก็เพราะว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น มีรูปแบบที่แตกต่างไปจากรูปแบบที่มีอยู่บนโลกของพวกคุณหนะสิ

    ดังนั้น พวกเขาจึงเข้าใจผิดไปเองว่า บนดาวเคราะห์เหล่านั้นไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆอยู่เลย

    แต่พวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่า ไม่เพียงแต่บนดาวเคราะห์เหล่านั้น
    จะคับคั่งไปด้วยสิ่งมีชีวิตเท่านั้นนะ แต่ตัวดาวเคราะห์เอง
    และดวงดาวอื่นๆทั้งหมด รวมถึงอนุภาคทั้งหมดที่อยู่ในอวกาศ
    ก็คือสิ่งมีชีวิตที่มีความตระหนักรู้หรือมีจิตสำนึกเองด้วย
    และแม้แต่ “ความว่างเปล่า” เอง ก็คือสิ่งมีชีวิตด้วย


    ดังนั้นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในระบบทางกายภาพ ก็คือสิ่งมีชีวิตที่กำลังอยู่ในรูปแบบพิเศษเท่านั้น
    ไม่ใช่รูปแบบมาตรฐานแต่อย่างใด


    ระบบทางกายภาพในความเป็นทวิภาวะ คือ “มายาการ” อย่างหนึ่ง ที่ถูกออกแบบมาอย่างมีเป้าประสงค์

    ตอนนี้พวกคุณกำลัง “ฝัน” อยู่ พวกคุณกำลังฝันว่าได้เป็นมนุษย์อยู่
    แต่ความจริงแล้ว พวกคุณคือจิตวิญญาณที่ทรงพลังอำนาจ
    ที่กำลังสวมใส่เครื่องกรองอยู่

    พวกคุณคือประกายอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้สร้าง
    ที่กำลังเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งโลกใบนี้อยู่

    [​IMG]
    (inception)


    ดังนั้น พวกคุณจึงจำเป็นต้องยอมรับกฎระเบียบทั่วๆไปของทางมหาวิทยาลัยด้วย

    และสิ่งที่พวกคุณจะต้องมาเรียนรู้ก็คือ พวกคุณจะต้องพยายามทำความเข้าใจเรื่องของมิติที่สูงกว่าทั้งหลาย
    ที่อยู่นอกเหนือการรับรู้ทางกายภาพของพวกคุณ

    ซึ่งพวกมันก็มีอยู่มากมายซะด้วย ด้วยมุมมองของพวกคุณเองนั่นแหละ
    และพลังงานความรักคือองค์ประกอบพื้นฐานหลัก (building block)
    หรือเป็น DNA หลักของทุกสิ่งทุกอย่าง

    ...............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2014
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่: 6 เมษายน 2009
    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn

    ที่มา:

    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_30pdf.pdf


    ตอนที่ 2:
    การบิดงอของกาลเวลา

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
    คำถาม: ปีที่แล้วผมได้ไปในที่ๆเป็น “ขั้วพลัง” (power node) ที่พิเศษมากๆแห่งหนึ่ง ที่เรียกว่า Grimes Point
    ใกล้ๆกับทะเลสาบ Tahoe อยู่นอกเมือง Reno, เขตแดนของรัฐ Nevada ด้านที่ติดกับรัฐ California

    ที่นั่นเต็มไปด้วยภาพขีดเขียนบนหิน (petroglyph) ที่น่าสนใจมากมาย

    [​IMG]
    (Petroglyph)

    และชนเผ่าพื้นเมือง ก็เชื่อว่ามันเป็นประตูไปสู่ชาวดาว (Doorway to Star Nation)

    มีถ้ำๆหนึ่งที่มีพลังงานที่น่าสนใจมากๆ ผมได้ใช้เวลาอยู่กับหินเหล่านักพักหนึ่ง
    จากนั้นก็เข้าไปทำสมาธิในถ้ำ ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนกับตอนที่ดื่มอะยาฮวสก้า
    (ayahuasca – เป็นสมุนไพรของชาวเปรู ที่ดื่มแล้วจะทำให้เกิดภาพหลอน - ผู้แปล) เข้าไปเลย

    คือผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมได้ผ่านเข้าไปในจุดที่ไร้กาลเวลา ซึ่งอยู่นอกเหนือจากกาลเวลาแบบเป็นเส้นตรงนี้
    และทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆที่ผมมองเห็นด้วยตาเนื้อ จะมีคลื่นคล้ายๆกับเมฆหมอกปกคลุมอยู่
    และผมรู้สึกได้ถึงกระแสไฟฟ้าที่อยู่ในบริเวณนั้น

    ท่านจะกล่าวถึงบริเวณนี้สักหน่อยได้ไหมครับ มันเป็นพื้นที่ที่มีการบิดงอของกาลเวลาหรือเปล่าครับ?



    Matatron: Grimes Points คือพื้นที่ๆมีการบิดเบี้ยวของการเวลาอยู่จริงๆ
    การบิดเบี้ยวดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นในหลายระดับ อันดับแรกเกิดขึ้นจากความผิดปกติของแรงโน้มถ่วง
    ซึ่งจะเกิดขึ้นเป็นระยะๆในบางพื้นที่ และความผิดปกติอย่างมากของแรงโน้มถ่วงนี้
    ก็จะส่งผลให้เกิดการบิดเบี้ยวของ “ห้วงกาล-อวกาศ” (space-time continuum) ในพื้นที่นั้นๆตามไปด้วย
    และก็จะทำให้เกิด “สนามพลังงานที่เป็นประตูมิติ” เกิดขึ้นตามมาด้วย เหมือนกับที่เกิดขึ้นในบริเวณขั้วโลกทั้งสอง



    ………………………….

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • petroglyph.jpg
      petroglyph.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.8 KB
      เปิดดู:
      4,915
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2014
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่: 6 เมษายน 2009
    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn

    ที่มา:

    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_30pdf.pdf


    ตอนที่ 3:

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> คำถาม:

    มีเรื่องเล่าของชนพื้นเมืองชาวอเมริกันโบราณ เผ่า Paiute และมีรายงานจากจิตแพทย์ท่านหนึ่ง
    ในปี 1940 กว่าๆ เกี่ยวกับเมืองที่อยู่ใต้ดิน ที่อยู่ใต้พื้นโลกแถบนี้ ท่านจะบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ไหมครับ ?


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)



    Metatron:

    พวกเราเคยพูดถึงอารยธรรมและชุมชนที่อาศัยอยู่ใต้พื้นโลกมาก่อนแล้ว
    แล้วยังเคยพูดถึงเครือข่ายขนาดใหญ่ของอุโมงค์ใต้ดินที่กระจายอยู่ใต้พื้นโลกของพวกคุณมาก่อนแล้วด้วย


    อุโมงค์เหล่านี้ ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดยชาวกลุ่มดาวซีรีอุส และชาวกลุ่มดาวลูกไก่
    แล้วพวกมันก็ถูกใช้งานต่อๆมา โดยชาวแอตแลนติส และชนเผ่าที่พวกคุณคิดว่าเป็นชาวเลมูเรียนั้น
    ตอนนี้ก็กำลังอาศัยอยู่ในโพรงใต้ดินเหล่านี้ ที่อยู่ใต้ภูเขาแชสต้า, Grand Tetons, Arkansas
    และกระจายมาจนถึงใต้บริเวณ Grimes Point แห่งนี้ และรวมถึงใต้ทะเลทราย Mohave
    และใต้ Death Valley ของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

    เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเพียงความเชื่อของชาวบ้านเท่านั้น แต่มันเป็นบริเวณที่มีการเหลื่อมซ้อนกันของมิติต่างๆ
    ในสนามรวม (Unified field) อยู่จริงๆ รวมทั้งจริงๆแล้วมันเคยมีหลักฐานการค้นพบโดยบังเอิญอยู่เป็นระยะๆ
    ว่าถ้ำเหล่านี้ ประกอบไปด้วยเครือข่ายของอุโมงค์ใต้ดินจำนวนมากมาย

    และยังค้นพบหลักฐานที่ชี้บ่งถึงการมีอยู่ของอารยธรรมโบราณ และถิ่นที่อยู่ของคนโบราณมากมาย

    แต่ว่าการค้นพบเหล่านี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน แถมยังถูกปิดเงียบ
    และผู้ค้นพบทั้งหลายก็ถูกทำให้เสียชื่อเสียงอีกด้วย


    จริงๆแล้วถ้ำใน Grimes Point เหล่านั้นเป็นทางเข้าไปสู่ระบบอุโมงค์ของชาวแอตแลนติส
    มันมีทางเข้าขนาดใหญ่อยู่ภายใต้บริเวณนี้ เพราะว่ามันมีคลื่นความถี่ที่พิเศษเฉพาะของมันเอง
    มันจึงถูกใช้เป็นทางเข้าไปสู่ฐานปฏิบัติการที่อยู่ภายในลูกโลก (inner earth)
    โดยชาวกลุ่มดาวลูกไก่มาตั้งแต่แรก

    เรื่องนี้สำหรับหลายๆคนแล้ว มันอาจจะฟังดูแปลกประหลาด และเหลือเชื่ออยู่สักหน่อย แต่มันคือความจริง


    ในความเป็นจริงแล้ว พวกคุณมีเชื้อสายมาจาก
    ชาวกลุ่มดาวลูกไก่และชาวกลุ่มดาวซีรีอุส


    แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ามันจะหลักฐานอยู่มากมายแค่ไหนก็ตาม
    ความจริงนี้ก็ยังถูกมนุษย์เพิกเฉยเพราะความเข้าใจผิดอยู่ดี


    พวกคุณมีเชื้อสายมาจากชาวกาแล็กซี่อย่างแท้จริง
    และพวกคุณก็กำลังดำรงอยู่ในหลายๆมิติพร้อมๆกัน
    และในเวลาเดียวกันอีกด้วย


    แต่พวกคุณก็ปฏิเสธการมีตัวตนอยู่ในมิติอื่นๆของตัวเองไปเสีย
    เช่นเดียวกับที่ปฏิเสธการมีตัวตนอยู่ของเผ่าพันธุ์อื่นๆนั่นเอง


    คุณพูดถึงตำนานของชาว Paiute อันที่จริงแล้วชนเผ่าพื้นเมืองส่วนใหญ่จะรู้จักสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า
    “ชาวดาว” (Star Nation) ดี ดังนั้นในภาษาของพวกเขาจึงมีชื่อของกลุ่มดาวลูกไก่อยู่ด้วย
    เช่น The Lakota, Hava Supai และ Navajo ซึ่งคำทั้งหมดนี้หมายถึงกลุ่มดาวลูกไก่ และดาวซีรีอุส


    คำว่า The Hava Supai ที่ถูกกล่าวถึงในตำนานต่างๆนั้น หมายถึง “มนุษย์มด” (Ant people)
    ที่มีรูปร่างผอมๆสูงๆตัวสีฟ้า-เทา ที่เป็นคนพาพวกเขาหนีลงไปหลบภัยอยู่ในเมืองใต้ดิน
    ในระหว่างที่เกิดการล่มสลายของอาณาจักรแอตแลนติสครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง

    ซึ่งอันที่จริงแล้ว มนุษย์มดที่พวกเขากล่าวถึงนี้ ก็คือชาวเลมูเรีย และชาวกลุ่มดาวซีรีอุสนั่นเอง
    และนักธรณีวิทยาของพวกคุณ ก็รู้แล้วว่าอาณาจักรแอตแลนติสนี้ ได้จมอยู่ใต้น้ำมานานกว่า 12,000 ปีแล้ว


    ส่วนมนุษย์ที่พวกคุณเรียกกันว่า “มนุษย์แห่งถ้ำวิญญาณ” (Spirit Cave Man)
    ที่เคยถูกพบใน Grimes Point นั้น ยังคงเป็นเรื่องราวปริศนาสำหรับนักมานุษยวิทยาของพวกคุณอยู่

    เทคโนโลยีของพวกคุณในยุคปัจจุบันนี้ คำนวณอายุของมนุษย์แห่งถ้ำวิญญาณนี้ว่ามีอายุอยู่ในราวๆ 8,400 BC
    แต่ว่าความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ มนุษย์เหล่านี้ไม่ใช่ชนชาวพื้นเมืองแต่อย่างใดเลย
    แต่พวกเขาเป็นมนุษย์ต่างดาวตัวเล็กๆที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนพวกคอเคเชี่ยน (Caucasion) ต่างหาก


    …………………….

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2014
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่: 6 เมษายน 2009
    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn

    ที่มา:

    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_30pdf.pdf


    ตอนที่ 4:

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> คำถาม: ถ้าอย่างนั้น Grimes Point นี้ก็คือทางเข้าของอาณาจักรใต้พิภพ (the Inner Earth) ใช่ไหมครับ?


    Metatron:

    แน่นอนที่สุด มันคือหนึ่งในจำนวนทางเข้าหลายๆทาง มันเชื่อมต่อไปยังเมืองอการ์ธา (Agartha City)
    ที่อยู่ใต้เทือกเขาแชสต้าโดยตรงเลย และรวมถึงเชื่อมต่อไปยังโพรงต่างๆที่อยู่ใต้รัฐแคลิฟอร์เนีย, เนวาด้า,
    อริโซน่า, อาแคนซอส์ และ Wyoming ได้อีกด้วย


    คำถาม:

    แล้วถ้ำที่ถูกค้นพบโดย Dr.F.Bruce Russell นั้น เป็นการค้นพบจริงๆหรือไม่ครับ
    เพราะเขาบอกว่าเขาได้ค้นพบมัมมี่หลายตัว ที่มีความสูงถึง 9 ฟุต ผมสีแดง
    และยังพบสัญลักษณ์รูปเรขาคณิตหลายอย่างด้วย



    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    Metatron:

    ถ้ำที่ว่านั้นมีอยู่จริงๆ และก็ถูกค้นพบจริงๆ มันมีการค้นพบสิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “ยักษ์” อยู่มากมายหลายครั้ง
    และก็อยู่ทั่วโลกนั่นแหละ

    เช่น ยักษ์หลายตนที่ถูกค้นพบที่รัฐเนวาด้า และแคลิฟอร์เนีย ก็คือชนเผ่าหนึ่งของอาณาจักรแอตแลนติส
    ที่มีความสูงมาก ผิวสีทอง และมักจะมีผมสีบลอนด์หรือสีแดง ชนเผ่านี้ปกติแล้วจะมีความสูงประมาณ 9 – 12 ฟุต

    ในขณะที่ชนเผ่าอาริยัน (Ayrians) แห่งอาณาจักรแอตแลนติสเช่นเดียวกัน จะมีรูปร่างหน้าตาแบบชาวคอเคเซี่ยน
    และมีความสูงปกติแค่ 5 – 6 ฟุตเท่านั้นเอง เช่นเดียวกันกับชนเผ่าอ๊อก (Og) ที่ปัจจุบันนี้
    กลายมาเป็นชนพื้นเมืองของทวีปอเมริกาหลายเผ่า เช่น ชนเผ่ามายัน, ชนเผ่า Iroquois และชนเผ่าอื่นๆ
    ซึ่งก็ล้วนมีรากเหง้ามาจากยุคแอตแลนติสด้วยกันทั้งสิ้น


    แม้ว่าพวกเราจะไม่อยากกล่าวถึงสิ่งที่พวกคุณเรียกว่า แผนการลับ หรือนโยบายลับ
    ของรัฐบาลของพวกคุณสักเท่าไหร่ แต่พวกเราก็รู้ว่าบางส่วนของรัฐบาลของพวกคุณ
    ได้ติดต่อกับรูปธรรมชีวิตจากนอกโลกบางกลุ่ม รวมถึงกับชาวเลมูเรียที่อยู่ใต้พื้นโลกมานานร่วมศตวรรษแล้ว

    ซึ่งการติดต่อบางอย่างก็เป็นไปในทางกุศล แต่บางอย่างก็เป็นไปเพื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เป็นความลับ

    มันไม่ใช่ภารกิจของพวกเราที่จะเจาะลึกลงไปในรายละเอียดของเรื่องนี้ในตอนนี้

    พวกเราบอกพวกคุณได้แต่เพียงว่า ในอนาคตอันใกล้นี้
    การติดต่อกับรูปธรรมชีวิตจากนอกโลกของพวกคุณจะเปิดเผยและมีมากกว่านี้


    แต่เราจะบอกพวกคุณอีกครั้งหนึ่งว่า การติดต่อเหล่านี้ได้เคยเกิดขึ้นแล้วเป็นปกติวิสัย
    ระหว่างชนเผ่าพื้นเมืองต่างๆกับพวกเขา โดยปราศจากความกลัวใดๆ

    ชนเผ่าพื้นเมืองอพยพของพวกคุณหลายเผ่า ได้มีการติดต่อกับ “ชาวดาว” อย่างเปิดเผยมาแล้ว
    และแน่นอนว่า พวกเขาก็มีการติดต่อกับชาวเลมูเรียที่อยู่ใต้พื้นโลกด้วย
    แต่ว่าการติดต่อเหล่านี้เป็นไปเพื่อสอนอะไรบางอย่างให้ และเพื่อให้ความช่วยเหลือ

    ส่วนการติดต่อกับรัฐบาลของพวกคุณนั้นก็กำลังมีอยู่เหมือนกัน แต่ว่าชาวเลมูเรียเอง
    ยังไม่อยากมาสุงสิงกับชาวโลกในตอนนี้นัก เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ที่รักความสงบ
    พวกเขามีพัฒนาการด้านจิตวิญญาณที่สูงมากแล้ว พวกเขาไม่มีศาสนาอื่น นอกจากการตระหนักรู้ถึง
    “สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด” เท่านั้น

    พวกเขากำลังอยู่บนเส้นทางแห่งวิวัฒนาการที่ใกล้จะมาถึงจุดสิ้นสุดของวัฏจักรของพวกเขามากแล้ว



    เมื่อใดที่พวกคุณพัฒนาความสามารถภายในของตนเอง
    ให้ก้าวหน้ามากขึ้น จนถึงขั้นที่สามารถยกระดับความสั่นสะเทือนของตนเอง
    ให้สูงขึ้นได้แล้ว เมื่อนั้นพวกคุณก็จะสามารถติดต่อกับ
    รูปธรรมชีวิตชั้นสูงทรงภูมิปัญญาที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดได้

    และเมื่อนั้นพวกคุณก็จะค้นพบชาติกำเนิดที่แท้จริงของตัวคุณเอง
    และค้นพบภารกิจที่แท้จริงของตัวคุณเอง
    รวมถึงค้นพบธรรมชาติแห่งความเป็นรูปธรรมหลากมิติของตัวคุณเองได้


    พวกคุณจะค้นพบว่าพวกคุณคือ “รูปธรรมชีวิตจากนอกโลก” พวกคุณคือ “ชาวดาว”
    พวกคุณคือปลาโลมา พวกคุณคือชาวแอตแลนติส และพวกคุณก็คือชาวเลมูเรียด้วย



    ..........................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2014
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่: 6 เมษายน 2009
    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn

    ที่มา:

    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_30pdf.pdf


    ตอนที่ 5:

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> คำถาม:

    ขอบคุณมากครับ ตอนนี้ผมขอย้อนกลับไปที่ Grimes Point อีกสักครั้งนะครับ
    รูปภาพขีดเขียนที่อยู่บนหินเหล่านั้น ค่อนข้างน่าสนใจมาก มีหลายภาพที่แสดงถึงการสั่นสะเทือนของคลื่น
    และรูปซิกแซก รูปภาพเหล่านี้ มันมีความหมายพิเศษอะไรหรือเปล่าครับ?



    Metatron:

    รูปภาพเหล่านี้ถูกขีดเขียนขึ้นจากหลายยุคหลายสมัย บางภาพก็เป็นแค่ภาพวาดธรรมดาๆ
    ส่วนบางภาพที่เป็นรูปความสั่นสะเทือนของคลื่นและรูปซิกแซกนั้น ก็เป็นสัญญลักษณ์
    ของการบิดเบี้ยวของช่องว่างและกาลเวลา ที่ชนพื้นเมืองชาวแอตแลนติสยุคก่อน
    ที่อยู่ในพื้นที่นั้นเขียนขึ้นจากความรู้สึกของพวกเขา


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    เพราะว่าในพื้นที่นั้น มันเป็นพื้นที่ที่มีความผิดปกติของแรงโน้มถ่วงรุนแรงมากที่สุดจุดหนึ่งจริงๆ
    เพราะเหตุนี้จึงทำให้มิติของช่องว่างและกาลเวลามาผสานเข้าด้วยกัน


    คุณเองก็ได้พบด้วยตัวเองแล้วนี่ เมื่อตอนที่คุณทำสมาธิในถ้ำ คุณก็เห็นแล้วว่า
    มันมีสนามพลังงานของคลื่นจางๆไหลซึมออกมาจากพื้นที่แถบนั้น คล้ายๆกับภาพลวงตาที่เกิดจากพยับแดด
    ที่คุณเห็นลอยขึ้นมาจากพื้นถนนลาดยาง ในตอนหน้าร้อน


    คุณเห็นไหมว่าม่านที่ใช้กั้นแยกโลกแห่งความเป็นจริง หรือภพภูมิแต่ละภพภูมิ
    ที่อยู่ในบริเวณนั้นออกจากกันมันบางเฉียบมากๆ จนในบางครั้ง บางฉากบางตอน
    ของเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในโลกๆอื่น และในกาลเวลาอื่นๆ ก็สามารถมองเห็นได้
    และรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทางกายได้ค่อนข้างง่าย

    ในบริเวณนี้ แสงแปลบปลาบจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ถูกแสดงด้วยรูปภาพซิกแซก
    และรูปความสั่นสะเทือนของคลื่น ซึ่งนี่แหละคือสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่นี้ได้อย่างชัดเจน



    รูปภาพวงกลมที่ซ้อนๆกันอยู่ และรูปเกลียวหมุนวนนั้น หมายถึง ประตูมิติ
    ที่เป็นพลังงานหมุนวนที่เกิดขึ้นในบริเวณนั้น ซึ่งเป็นทางผ่านเข้าไปสู่ดินแดนที่ชนพื้นเมืองเรียกกันว่า
    “โลกแห่งวิญญาณ”

    ทั้งหมดนี้ค่อนข้างที่จะชัดเจนที่ Grimes Point แห่งนี้ และความผิดปกติของแรงโน้มถ่วง
    และการบิดเบี้ยวของกาลเวลา ก็ค่อนข้างที่จะมองเห็นได้และสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทางกายภาพ


    ถ้ำที่อยู่ในบริเวณนั้นเคยถูกใช้ และก็ยังถูกใช้เป็นทางเข้าสู่อาณาจักรใต้พิภพของชาวดาวลูกไก่อยู่
    และพลังงานในบริเวณนี้ก็มีค่อนข้างมากซะด้วย

    ในช่วงเวลาที่เหมาะสม พวกคุณสามารถที่จะใช้จุดประสานมิติที่มีพลังงานสูงๆเช่นที่ Grimes Point แห่งนี้
    เพื่อผ่านเข้าไปสู่มิติอื่นๆได้จริงๆ

    ชนชาวพื้นเมืองรู้จักพลังงานนี้ดีว่า มันเป็น “ประตูมิติที่ใช้ผ่านเข้าออกระหว่างมิติ”
    เพราะว่ามันมีสนามพลังงานที่พิเศษเฉพาะของมันเอง และมันก็มีผลกระทบต่อมนุษย์ผู้มาเยือนด้วย

    ผลกระทบของมันมีมากมาย ผู้ที่เก่งๆจะสามารถใช้ประโยชน์จากพลังงานนี้เพื่อเข้าไปสู่ตัวตนรวมของตัวเองได้
    เพื่อไปบำบัดรักษาและเปลี่ยนอดีตและอนาคตของตนเอง



    โลกแห่งความเป็นจริงทั้งหมดที่มีจำนวนมากมายของแต่ละคน
    จะประสานมิติรวมกันเป็นตัวตนรวมขึ้นมา โดยมี “จิตใต้สำนึก” เพียงหนึ่งเดียว
    ที่คอยทำหน้าที่เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างชั้นต่างๆ
    ของความเป็นตัวตนรวมเหล่านี้

    และนี่คือกระบวนการที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง


    แต่มันก็เป็นกระบวนการที่ค่อนข้างง่ายกว่า ที่จะทำการบำบัดรักษาแบบรวบยอด
    ภายในพื้นที่ๆมีการเหลื่อมซ้อนกันของมิติแบบที่ Grimes Point แห่งนี้

    และแน่นอนว่า พลังงานนี้ก็ค่อนข้างมีพร้อมอยู่แล้ว สำหรับผู้ที่แสวงหา เพื่อใช้งานในรูปแบบดังกล่าว



    .............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2014
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่: 6 เมษายน 2009
    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn

    ที่มา:

    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_30pdf.pdf


    ตอนที่ 6:
    กาลเวลาหลากมิติ

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> พลังงานของ Grimes Point ทำให้เกิดความผิดปกติของกาลเวลา เช่นเดียวกันกับที่เกิดขึ้น
    ในจุดพิเศษอื่นๆบนโลกใบนี้ ซึ่งบางจุดผู้คนก็รู้จักกันแล้ว แต่บางจุดก็ไม่



    กาลเวลาคือมายาการที่ถูกสร้างขึ้น และแรงโน้มถ่วง, อัตราการหมุนรอบตัวเองของโลก, พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า
    และการเรียงตัวกันของเทหะวัตถุบนท้องฟ้า คือส่วนประกอบของการแสดงตัวตนของมัน


    กาลเวลาที่พวกคุณกำลังรับรู้อยู่นี้ มันเป็นเพียงแค่
    การรับรู้อย่างหนึ่งของพวกคุณเท่านั้นเอง


    พวกเราขอยืนยันกับพวกคุณว่า เมื่ออยู่ภายนอกขอบเขตของความเป็นทวิภาวะแล้ว
    กาลเวลาไม่ได้เป็นเส้นตรงอย่างที่พวกคุณเชื่อแต่อย่างใดเลย


    แต่ถึงแม้ว่าจะอยู่ภายใต้เลนส์กรองแสงแห่งทวิภาวะเองก็ตาม มันก็ยังมีจุดบางจุดบนโลกของพวกคุณ
    ที่มีการเหลื่อมซ้อนกันของมิติต่างๆเกิดขึ้น จนทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของกาลเวลาเกิดขึ้นได้ และก็กำลังเกิดขึ้นอยู่



    พวกคุณรู้ไหมว่า บนดาวเคราะห์โลกทางกายภาพดวงนี้
    ที่พวกคุณเข้าใจว่าพวกคุณเป็นเจ้าของมันอยู่นี้
    มันยังมีโลกในมิติอื่นๆอีกมากมายที่ซ้อนทับกันอยู่
    โดยมีจุดศูนย์กลางเดียวกัน

    และมันก็มีกลไกทางคลื่นความถี่บางอย่าง ที่จะทำหน้าที่เชื่อมต่อมิติคู่ขนานต่างๆ
    ที่ซ้อนทับกันอยู่เหล่านี้เข้าด้วยกัน

    และกลไกเหล่านี้ก็จะสร้างประตูเชื่อมต่อไปยังกาลเวลาอื่นๆ และโลกแห่งความเป็นจริงโลกอื่นๆ
    ที่ดำรงอยู่ร่วมกันในพื้นที่เดียวกัน แต่ต่างมิติกัน ให้เข้าด้วยกันด้วย


    ดังนั้น ในมุมมองที่สูงกว่าแล้ว กาลเวลาในแบบที่พวกคุณรู้จัก จึงไม่มีอยู่จริง


    ช่องว่างและกาลเวลามีความสัมพันธ์กันแบบซับซ้อน และทั้งคู่ก็เป็นผลลัพธ์อย่างหนึ่งของกลไกเดียวกัน


    “ช่องว่าง หรือ อวกาศ” (Space) ตามภาษาพูดแล้ว ก็คือแสงสว่างที่ถูกทำให้เข้มข้นขึ้น
    และถูกเก็บอยู่ในรูปแบบของเมตริกซ์ (matrixial format) ซึ่งอยู่ภายในความเป็นทวิภาวะ
    เพื่อทำให้เกิดการแบ่งแยกขึ้น และเพื่อทำให้มายาการของเมตริกซ์แห่งกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรง
    สามารถทำงานได้


    ถ้าจะอธิบายโดยเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันของพวกคุณหละก็
    ช่องว่างและกาลเวลา ก็จะเปรียบเสมือนกับโปรแกรมย่อยๆของ Digital-dimensional Light

    ดังนั้น Space-time จึงเป็นเหมือน Server แห่งภาพลวงตา ที่สามารถเก็บ file และ sub-file ต่างๆ
    เอาไว้มากมายในเวลาเดียวกัน

    และก็เหมือนกับในเครื่องคอมพิวเตอร์ของพวกคุณ ที่พวกคุณจะสามารถเข้าไปยังพื้นที่ๆเก็บไฟล์ต่างๆเหล่านั้นได้
    เพื่อเข้าไปดู เข้าไปค้นหาไฟล์ไหนก็ได้ ดังนั้น มันจึงต้องมี “โปรแกรมเวกเตอร์นำทางบนโลก”
    ที่ถูกติดตั้งเอาไว้เพื่อใช้เป็น “ประตูมิติแห่งมายาการ” เพื่อนำเราไปสู่ “ไฟล์เมตริกซ์” ต่างๆ
    ของโลกแห่งความเป็นจริงอื่นๆ และกาลเวลาอื่นๆได้


    ดังนั้น แม้ว่ากาลเวลาตามแบบที่พวกคุณรับรู้อยู่ในขณะนี้ พวกคุณจะรับรู้แต่เพียงว่ากำลังมีชีวิตอยู่
    ใน “ภพชาตินี้” เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกคุณกำลังมีชีวิตอยู่ในทุกๆภพชาติพร้อมๆกันหมด
    ในเวลาเดียวกัน


    “โปรแกรมกาลเวลา” คือโปรแกรมมายา และโปรแกรมเหล่านี้ก็พ่วงอยู่กับและเข้ารหัสไว้กับเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ตรงขั้วโลกทั้งสอง ดังนั้น ประตูทางเข้าออก หรือทางเข้าไปสู่โปรแกรมต่างๆจึงมีอยู่ที่นั่น

    ซึ่งพื้นที่ๆพวกคุณเรียกว่า Grimes Point ที่อยู่ใกล้ทะเลสาบ Tohoe ในรัฐเนวาด้านั้น ก็คือหนึ่งในนั้นด้วย

    ภายในพื้นที่นี้จะมีการเหลื่อมซ้อนกันของกระแสพลังงานอยู่ มันคือทางเข้าออกระหว่างมิติ

    แต่พวกเราอยากจะบอกว่ามันเป็น “ทางเข้าออกปลายเปิด” ที่ไม่เพียงแต่จะเป็น “ช่องรูหนอน” รูหนึ่ง
    ที่สามารถใช้เดินทางไปยังที่อื่นๆในเอกภพได้เท่านั้น แต่จริงๆแล้ว (และพิเศษ) มันเป็นประตูพิเศษ
    ที่สามารถใช้เดินทางไปยังด้านอื่นๆของมิติต่างๆได้ด้วย ที่พวกเราอาจจะเรียกมันว่า
    ”โปรแกรมมายาแห่งโลกทั้งมวล” (Hologramic Omni-Earth Program) ก็ได้
    หรืออาจจะเรียกมันว่า “เวกเตอร์แห่งประตูเวลา” (time-Gate Vector) ก็ได้

    มันคือจุดพิกัดจุดหนึ่ง ที่ถูกเข้ารหัสด้านกาลเวลาเอาไว้ ในบรรดาหลายๆจุดที่มีอยู่บนโลกใบนี้


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    จุกพิกัดเหล่านี้ จะทำหน้าที่ตรึงโลกแห่งความเป็นจริงแต่ละโลกให้ติดอยู่กับ
    โลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพนี้ ของโลกทั้งมวล (Omni-Earth) ใบนี้


    เพราะฉะนั้น เราจึงสามารถใช้พื้นที่ ที่มีการเหลื่อมซ้อนกันแบบมีจุดศูนย์กลางเดียวกันนี้
    เพื่อเปลี่ยนผ่านย่านความถี่เข้าไปสู่โปรแกรมกาลเวลาอื่นๆ ซึ่งหมายถึงโลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่ในมิติอื่นๆ
    ได้ง่ายกว่า

    คนโบราณที่เก่งๆรู้เรื่องนี้กันดี และชนพื้นเมืองหลายคน ก็เคยมีประสบการณ์กันมาแล้ว


    การผ่านเข้าไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงโลกอื่นๆ หรือภพภูมิอื่นๆ ไม่ได้มีเพียงวิธีการเดียว
    โดยใช้ “เวกเตอร์แห่งประตูเวลา” เท่านั้น เพราะว่าจริงๆแล้ว มันยังมีวิธีการอื่นๆอีกมากมาย
    เช่น การใช้พลังงานคริสตัลที่มีความสั่นสะเทือนระดับฟี (Phi resonance),
    และโดยการเข้าสมาธิระดับลึก เป็นต้น

    แต่สิ่งที่ทำให้ “เวกเตอร์แห่งประตูเวลา” นี้แตกต่างจากเพื่อนก็คือ ตรงจุดนี้มันคือจุดที่มี
    “โปรแกรมกาลเวลาของโลกทั้งมวล” (Omni-Earth time Program) ถูกติดตั้งอยู่

    ซึ่งสามารถอธิบายแบบง่ายๆได้ว่า มันคือจุดพิเศษที่ถูกจัดวางไว้เอาไว้บนโลกของพวกคุณ
    และอยู่ภายในเมตริกซ์แห่งคลื่นความถี่จำเพาะบางอย่าง

    มันถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ และมันก็แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ เช่น ที่ทะเลสาบติติกาก้า, รัฐอาแคนซอส์,
    Grand Tetons, ภูเขาแชสต้า และ Roslyn เพราะว่าสถานที่เหล่านี้เป็น “สตาร์เกต” (Star Gate) แต่แรกอยู่แล้ว



    “เวกเตอร์แห่งประตูเวลา” สามารถใช้เพื่อผ่านเข้าออกโลกแห่งความเป็นจริงโลกอื่นๆ หรือภพภูมิอื่นๆ,
    ยุคสมัยอื่นๆของโลก, และโปรแกรมกาลเวลาอื่นๆของโลกได้


    ส่วน “สตาร์เกต” สามารถใช้เพื่อท่องไปในมิติอื่นๆในห้วงอวกาศได้ พวกคุณเห็นความแตกต่างหรือยัง?


    …………………….

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2014
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่: 6 เมษายน 2009
    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn

    ที่มา:

    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_30pdf.pdf


    ตอนที่ 7:

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> คำถาม:

    ท่านกำลังบอกว่า Grimes Point และ Time-Gate Vector อื่นๆสามารถทำให้ หรือช่วยให้
    เราสามารถเดินทางข้ามกาลเวลาได้อย่างนั้นหรือครับ?



    Metatron
    :

    ถูกต้องแล้ว แต่เราขออธิบายเพิ่มเติมให้ชัดเจนก่อนนะว่า มันจะเป็นการดีกว่า ถ้าจะพูดว่า
    โปรแกรมมายาการแห่งกาลเวลาทุกโปรแกรม ที่ดำรงอยู่พร้อมๆกันหมด ณ.จุดนั้นๆ
    มันชัดเจนกว่าและสัมผัสได้มากกว่าที่จุดอื่นๆ

    แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ใครก็ตามที่เดินเข้าไปใน Grimes Point ก็จะหายตัวไปจากกาลเวลาปัจจุบัน
    แล้วไปโผล่อีกทีในอดีตหรืออนาคตอะไรแบบนั้นหรอกนะ

    แต่มันหมายความว่าเราสามารถใช้จุดนี้เป็นประตูทางเข้าสู่ช่วงของกาลเวลาอื่นๆได้ง่ายกว่าเท่านั้นเอง



    แต่เราก็อยากบอกพวกคุณจริงๆว่า การปรากฏตัวให้เห็นทางกายภาพ สามารถเกิดขึ้นได้
    และก็มีเกิดขึ้นให้เห็นอยู่จริงๆที่นี่ ทั้งโดยความตั้งใจ และโดยความบังเอิญ



    พวกเราจะบอกพวกคุณว่า อารยธรรมที่มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงกว่าพวกคุณ
    ทั้งจากอดีตและจากอนาคต ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเข้าใจศาสตร์แห่งการท่องกาลเวลาอย่างแท้จริง

    พวกเขาได้เลือก “เวกเตอร์แห่งประตูเวลา” ดังกล่าวนี้เพื่อผ่านเข้าออกไปยังช่วงกาลเวลาอื่นๆ
    เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆกัน และแน่นอนว่าพวกเขาสามารถทำได้ และก็ได้ทำแล้วด้วย



    ..........................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2014
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เดี๋ยวค่อยมาต่อคราวหน้านะครับ
    ยังเหลืออีกเยอะครับ

    ............................
     
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความต่อไปจะเป็นข้อความของวันที่ 18 ตุลาคม 2010 นะครับ

    เนื้อหาหลัก เป็นเรื่องของ "กาลเวลา" เหมือนกันครับ

    น่าสนใจมากๆ..

    ....................
     
  11. talien

    talien สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +7
    กำลังรออ่านนะครับ คุณชยุต
     
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่: 18 ตุลาคม 2010
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
    เรื่อง: จิตสำนึกแห่งควอนตัม – ธรรมชาติของกาลเวลา (Quantum Consciousness: The Nature of Time)

    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_30pdf.pdf

    ตอนที่ 8: Quantum Consciousness: The Nature of Time


    สวัสดีท่านคุรุทั้งหลาย เราคือมหาเทพเมตาตรอน ราชาแห่งแสงสว่าง เราขอส่งคำทักทายมายังพวกคุณทุกคน
    จากห้วงอวกาศที่ไร้กาลเวลาแห่งนี้ และขอโอบกอดพวกคุณด้วยความรักแบบไม่มีเงื่อนไข


    ระบบทางกายภาพในความเป็นทวิภาวะ คือ “มายาการ” อย่างหนึ่งที่ถูกออกแบบมาอย่างมีเป้าประสงค์

    ตอนนี้พวกคุณกำลัง “ฝัน” อยู่ พวกคุณกำลังฝันว่าได้เป็นมนุษย์อยู่ แต่ความจริงแล้ว
    พวกคุณคือจิตวิญญาณที่ทรงพลังอำนาจที่กำลังสวมใส่เครื่องกรองอยู่ พวกคุณคือประกายอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้สร้าง
    ที่กำลังเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งโลกใบนี้อยู่

    ดังนั้น พวกคุณจึงจำเป็นต้องยอมรับกฎระเบียบทั่วๆไปของทางมหาวิทยาลัยด้วย
    และสิ่งที่พวกคุณจะต้องมาเรียนรู้ก็คือ พวกคุณจะต้องพยายามทำความเข้าใจเรื่องของมิติที่สูงกว่าทั้งหลาย
    ที่อยู่นอกเหนือการรับรู้ทางกายภาพของพวกคุณ ซึ่งพวกมันก็มีอยู่มากมายซะด้วย
    ด้วยมุมมองของพวกคุณเองนั่นแหละ และพลังงานความรักคือองค์ประกอบพื้นฐานหลัก (building block)
    หรือเป็น DNA หลักของทุกสิ่งทุกอย่าง



    ธรรมชาติของกาลเวลา (The Nature of Time)

    และตอนนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของกาลเวลากัน ช่องว่างและกาลเวลา (Time and Space)
    คือผลลัพธ์2 อย่างที่แตกต่างกัน ของกลไกเดียวกัน



    “ช่องว่าง หรือ อวกาศ” (Space) ตามภาษาพูดแล้ว ก็คือจุดที่กาลเวลาถูกทำให้เข้มข้นขึ้น
    และถูกเก็บอยู่ในรูปแบบของพลังงานจลน์ของเมตริกซ์ (matrixial kinetic format)
    ซึ่งอยู่ภายในความเป็นทวิภาวะ เพื่อทำให้เกิดการแบ่งแยกขึ้น และเพื่อทำให้มายาการของกาลเวลา
    แบบที่เป็นเส้นตรงที่ถูกโปรแกรมขึ้นด้วยความตั้งใจ สามารถทำงานได้

    เพราะเหตุนี้ “กาลเวลา” จึงเป็นส่วนกลับของ “ช่องว่าง” ที่อยู่ในรูปแบบของกระแสที่ไหลอย่างอิสระและต่อเนื่อง


    ทั้งช่องว่างและกาลเวลา จะเกิดขึ้นกับหน่วยของจิตสำนึกที่กระพริบเป็นจังหวะอยู่ตลอดเวลา
    ผ่านทางกลไกการสั่นสะเทือนของสสารและปฏิสสาร ที่สั่นสะเทือนเข้า-ออกหลุมดำและหลุมขาวอยู่ตลอดเวลา

    การกระพริบเข้าและออกอย่างเป็นจังหวะนี้ คือจุดที่ช่องว่างและกาลเวลาผสานเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว
    และเป็นอัตราเร็วของการรับรู้ของหน่วยของจิตสำนึก ที่จะไปตระหนักรู้ถึงความเป็นไปในแต่ละ ”ชาติภพ”
    ซึ่งมีอยู่พร้อมกันหมดด้วย ในเวลาเดียวกัน



    การกระพริบนี้เกิดขึ้นในอัตราเร็วที่ไม่น่าเชื่อ ที่เรียกกันว่าค่าคงตัวของพลังค์ (Planck Number)
    ซึ่งมีค่าเท่ากับ 10 ยกกำลัง -34 ต่อวินาที

    (ค่าคงตัวของพลังค์จากวิกิพีเดี่ย ; h = 6.6260693 x 10 ยกกำลัง -34 J.s - ผู้แปล)

    ซึ่ง ณ.จุดนี้ช่องว่าง และกาลเวลา จะผสานเข้าด้วยกันและกลายเป็นเส้นไม่ตรง
    เพราะว่ามันจะมีสภาพเป็นเกลียวหมุนวนแทน


    ณ.จุดนี้ช่องว่าจะถูกพลิกกลับด้าน และหน่วยของกาลเวลาจะลอยแบบไม่เป็นเส้นตรงอยู่ในห้วงเวลาที่ไม่ต่อเนื่อง
    ที่พวกคุณเรียกกันว่าอดีต ปัจจุบัน และอนาคต


    ณ.จุดนี้ถ้าเรียกตามภาษาพูดแล้ว ก็อาจจะเรียกได้ว่า “ห้วงของกาล-อวกาศจะละลายเข้าด้วยกัน”
    และกลายเป็น “หน่วยของพลังงานที่มีความตระหนักรู้” (conscious energy units)
    ซึ่งจะถูกเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นสสารและปฏิสสาร เมื่อพวกมันถูกดึงดูดเข้าไปและถูกผลักออก
    มาจากหลุมดำและหลุมขาวตามลำดับ ตามจังหวะของการกระพริบ

    .................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2014
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่: 18 ตุลาคม 2010
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
    เรื่อง: จิตสำนึกแห่งควอนตัม – ธรรมชาติของกาลเวลา (Quantum Consciousness: The Nature of Time)

    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_30pdf.pdf

    ตอนที่ 9: โลกทั้งมวล (The Omni-Earth)


    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> การแบ่งแยกของสิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “ชาติภพ” นั้น ถูกผูกติดไว้กับ Omni-Earth
    ในตัวแทรกสอดของมายาการ หรือ “โปรแกรมแบ่งแยกกาลเวลา” ด้วยกลไกต่างๆมากมาย
    ซึ่งมนุษย์ผู้วิวัฒน์แล้วจะสามารถเข้าไปในโปรแกรมเหล่านี้ ผ่านทางเมอร์ขะน่า (Mer-Ka-Na) ได้
    เพื่อเข้าไปยังจุดศูนย์กลางของ “จิตวิญญาณต้นธาตุ” ของตัวเอง ซึ่งเป็นที่ๆทุกๆชาติภพไปรวมกันอยู่

    คล้ายๆกับซี่ล้อรถจักรยานที่ทำด้วยเส้นใยของแสงสว่าง และตรงจุดศูนย์กลางนี้เองที่จะเป็นเสมือน “Control Panel”
    ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ที่คุณจะสามารถสำรวจ และเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้ ในชาติภพทุกๆชาติภพของคุณ
    ที่อยู่ภายในความไม่เป็นเส้นตรงแห่ง “ปัจจุบันขณะนี้”

    ในขณะที่ “โปรแกรมกาลเวลา” เหล่านี้ผูกติดไว้กับ Omni-Earth ในจุดเฉพาะเจาะจงบางจุด
    ที่ทำให้เกิดความผิดปกติของหลากมิติบ่อยๆ

    แต่พวกคุณก็ไม่จำเป็นต้องไปยังจุดนั้นๆ เพื่อที่จะเข้าไปในมันก็ได้ เพราะว่าพวกคุณสามารถเข้าถึงมันได้ผ่านทาง
    “ความตระหนักรู้ระดับควอนตัม” ซึ่งกระบวนการนี้ถูกสอนไว้แล้วในกุญแจแห่งเมตาตรอนิก (Metatronic Keys)

    (ปล. จากนี้ไป ถ้าท่านเห็นคำว่า Mer-Ka-Na หรือ Mer-ka-ba หรือ Mer-ki-vic หรืออะไรทำนองนี้
    กรุณาเข้าใจไว้เลยนะครับว่า มันหมายถึงเรื่องของ "ระดับจิต" หรือ "ระดับความตระหนักรู้ของมนุษย์เอง"
    ซึ่งผมเอง ก็ยังไม่อยากอธิบายอย่างละเอียดไว้ ณ.ที่นี้หนะนะครับ - ผู้แปล"



    .......................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2014
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่: 18 ตุลาคม 2010
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
    เรื่อง: จิตสำนึกแห่งควอนตัม – ธรรมชาติของกาลเวลา (Quantum Consciousness: The Nature of Time)

    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_30pdf.pdf

    ตอนที่ 10:


    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> คำถาม: มีสถานที่ไหนในโลกไหม๊ ที่มีการบิดเบี้ยวของกาลเวลาโดยธรรมชาติ?



    Metatron
    :

    มีแน่นอน และพวกเราก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ไปแล้วด้วย กาลเวลาก็เหมือนกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั่นแหละ
    เพราะว่าโปรแกรม Windows ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของพวกคุณ ก็ยังสามารถเกิดอาการเพี้ยนๆขึ้นมาได้บ่อยๆเลย
    รวมถึงโปรแกรมย่อยๆทั้งหลายของมัน ก็ยังสามารถเกิดอาการทำงานขัดกันเองขึ้นมาได้เลย

    ในทำนองเดียวกันพวกเราสามารถพูดได้เลยว่า ทั้งช่องว่างและกาลเวลา ที่พวกคุณเข้าใจว่ามันเป็นแบบเส้นตรงนั้น
    คือโปรแกรมย่อยของโครงข่ายพลังงานของดาวเคราะห์โลก ซึ่งถูกฉายขึ้นมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงนี้นั่นเอง

    เราอาจจะเรียกทั้งช่องว่างและกาลเวลาว่าเป็น “โปรแกรมภาพลวงตา” ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำให้พวกคุณรู้สึกว่า
    ควอนตัมของ Omni-Earth แยกขาดจากความเป็น “นิรันดรแห่งปัจจุบันขณะ” อย่างสิ้นเชิง
    เพื่อทำให้พวกคุณรู้สึกว่า พวกคุณกำลังมีชีวิตอยู่ในชาติภพของใครของมันอยู่


    ดังนั้นพวกเราจึงอยากบอกพวกคุณว่า โปรแกรมภาพลวงตาของเมตริกซ์ของโลก
    มันก็เหมือนกับโปรแกรม Windows ของพวกคุณนั่นแหละ ที่สามารถเกิดอาการเพี้ยนขึ้นมาได้ ในบางครั้ง

    คือแทนที่มันจะทำงานแยกจากกันและเป็นเส้นตรงตามปกติ มันกลับเกิดความผิดปกติขึ้น
    จนทำให้กาลเวลาเกิดการผสานรวมกันและบิดเบี้ยวไป ซึ่งการบิดเบี้ยวดังกล่าวนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในหลายระดับ


    ระดับแรก เกิดขึ้นจากความผิดปกติของแรงโน้มถ่วงที่จะเกิดขึ้นเป็นจังหวะๆ ในบางพื้นที่
    หรือเกิดจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของแรงโน้มถ่วง ที่ถาโถมเข้ามาเหมือนกับคลื่นกระหน่ำ เป็นต้น

    ซึ่งความผิดปกติดังกล่าวนี้ ก็จะไปทำให้สภาพความโน้มถ่วงในพื้นที่นั้นๆถูกบิดเบี้ยวไปด้วย
    และก็จะไปกระทบกับ “กระแสกาล-อวกาศ” (space-time continumm) ในพื้นที่นั้นๆอีกต่อหนึ่งด้วย

    ด้วยเหตุนี้เอง “สนามพลังทะลุมิติ” จึงเกิดขึ้น เช่นเดียวกันกับที่เกิดขึ้นบริเวณขั้วโลกทั้งสอง



    .............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2014
  15. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    สมมุติว่าเรามีแผ่น Disc วิเศษอยู่แผ่นหนึ่ง มันทำหน้าที่เก็บข้อมูลตั้งแต่ เริ่ม Matrix
    จนถึงปี คศ 300,000 และ เราเอามันมาอ่านข้อมูลในปัจจุบันปี คศ 2010 นั่นหมายความว่า
    เวลาทุกเวลา เหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ ตั้งแต่เริ่ม Matrix จนถึงปี คศ 300,000 กำลังแสดงตัว
    ให้เราได้รับรู้อยู่ในปัจจุบันขณะครับ ^ ^


    ปล.แถมคลิ๊ป อย่างฮา ฮ่าๆ (อ่านกระทู้นี้แล้วอดนึกถึงคลิ๊ปนี้ไม่ได้จริงๆ นะ 55)

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=yX8yrOAjfKM]YouTube - Matrix Runs on Windows XP[/ame]
     
  16. walkmann

    walkmann เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +115
    ขอบคุณมากครับผม อ่านแล้วสนุกดีและพยายามนึกภาพตามไปครับ รอติดตามตอนต่อไปครับ
     
  17. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    อันนี้เป็นตำนานโบราณเรื่องกำเนิด Matrix ( Matrix จริงๆ แบบในหนังเลย)

    พระอินทร์ - วิกิพีเดีย

    อหลยา
    <SUP class=reference id=cite_ref-6>[7]</SUP> <SUP class=reference id=cite_ref-7>[8]</SUP>อหลยา (สันสกฤต: अहल्या, Ahalyā; แปล: ผู้หญิงสมบูรณ์แบบ<SUP class=reference id=cite_ref-8>[9]</SUP>) เป็นเด็กสาวที่พระพรหมสร้างขึ้นด้วยเวทมนตร์ มีความน่ารักเป็นเลิศ บรรดาเทวดาชายทั้งปวงต่างใคร่ได้มาครอง พระพรหมตั้งเงื่อนไขไว้ว่าจะมอบอหลยาให้แก่บุคคลใดก็ตามที่สามารถท่องทั้งสามโลกได้ทั่วถึงเป็นบุคคลแรก พระอินทร์จึงเร่งเดินทางไปทั่วสามโลกเพื่อการนี้
    ด้วยพลังอำนาจแห่งเทพระดับพระอินทร์จึงใช้เวลาพริบตาเดียวในการดังกล่าว ในขณะที่มาขอรับอหลยาไปนั้น ฤๅษีนารทซึ่งนั่งอยู่ในที่ประชุมของพระพรหมด้วยท้วงว่า ความจริงแล้วยังมีมหาฤๅษีชื่อโคตมะ (เคาตม มหาฤษิ) เคยเดินทางไปตลอดสามโลกก่อนพระอินทร์เสียอีก สมควรมอบอหลยาให้แก่มหาฤๅษีโคตมะ พระพรหมเห็นชอบด้วยก็ดำเนินการตามนั้น
    อหลยาซึ่งหลงใหลในความงามของพระอินทร์จึงผิดหวัง และลักลอบร่วมรักกับพระอินทร์อยู่สม่ำเสมอ กระทั่งครั้งหนึ่งมหาฤๅษีจับได้คาหนังคาเขา จึงสาปให้มีอวัยวะเพศหญิงผุดขึ้นเต็มร่างกายพระอินทร์ พระอินทร์จึงได้ชื่อว่า สหัสโยนี
    ต่อมามหาฤๅษีโคตมะบรรเทาคำสาปให้อวัยวะเพศหญิงกลายเป็นดวงตาเสีย พระอินทร์จึงได้ชื่อว่า สหัสนัยน์ อันแปลว่า ผู้มีดวงตานับพัน<SUP class=reference id=cite_ref-9>[10]</SUP>
    <SUP></SUP>
    <SUP>---------------------------------------------------------------------------------</SUP>
    <SUP></SUP>
    <SUP>ตามเรื่องราวของพระอินทร์ ที่ดูแล้วเหมือนนิทานจักรๆ วงศ์ๆ มีชิงรักหักสวาท</SUP>
    <SUP>เหมือนละครหลังข่าว ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้เรื่องราวอ่านแล้วสนุกสนาน จึงทำให้</SUP>
    <SUP>มันอยู่มาถึงทุกวันนี้ </SUP>
    <SUP></SUP>
    <SUP>เมื่อวิทยาการพัฒนาไปทำให้ผมได้รู้ว่า จริงๆ แล้วมันคือเรื่องราวของชายคนแรก</SUP>
    <SUP>ที่ได้เข้ามาอยู่ใน Matrix นี้ครับ</SUP>
    <SUP></SUP>
    <SUP>- สหัสโยนี : คือปลั๊กลิ้งค์ รุ่นแรกที่เป็นระบบ Coaxial </SUP>
    <SUP>(เหมือนที่เห็นในหนัง The Matrix)</SUP>
    <SUP>- สหัสนัยน์ : คือปลั๊กลิ้งค์ รุ่นที่ 2 ระบบ Optical</SUP>
    <SUP>(รุ่นนี้ในหนังไม่ได้พูดถึงเลย)</SUP>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2010
  18. seberton

    seberton เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2006
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +655
    ขอบคุณครับ น่าสนใจมากๆเลยครับ
     
  19. cosmiccell

    cosmiccell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +253
    ขอบคุณครับ คุณชยุต

    เมื่อคืนฝันว่า ได้เดินทางผ่านประตูเวลา เข้า ออก เข้า ออก หลายรอบ
    ไปแก้ไขเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์

    ในฝัน มีสัญลักษณ์เป็นชายชรา นั่งเฝ้าประตูอยู่
    จะเข้าไปได้ ต้องยื่นบัตรให้
    แต่จะเข้าไปได้ไม่นานนัก ต้องรีบเข้า รีบออก

    ตื่นมา ทบทวนความฝัน ว่าหมายความว่ายังไง
    มาอ่านเรื่องราวนี้ พอจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง
    อาจจะเป็นเหมือน window ทำงานรวนๆ เลยเข้าๆออกๆ ผ่านสัญลักษณ์ประตู อิอิ

    ไว้จะรอติดตามอ่านตอนต่อไปครับ
     
  20. worrior

    worrior เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +316
    ตอนนี้พวกคุณกำลัง “ฝัน” อยู่ พวกคุณกำลังฝันว่าได้เป็นมนุษย์อยู่
    แต่ความจริงแล้ว พวกคุณคือจิตวิญญาณที่ทรงพลังอำนาจ
    ที่กำลังสวมใส่เครื่องกรองอยู่

    ...............................
    [/B]
    [/QUOTE]ขอบคุณสำหรับบทความทรงคุณค่าอีกครั้งครับคุณชยุต เป็นอะไรที่ตรงเป๊ะเลยกับที่ผมคิดอยู่ตั้งแต่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องThe Matrix

    เชื่อมั้ย ก่อนจะมาอ่านกระทู้นี้ เมื่อกี้ผมพึ่งเข้าไปโพสต์ในกระทู้ของน้องคนนึงที่เค้า "ฝัน" เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว มีคนไม่เห็นด้วยและมองเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระ ซึ่งผมก็พึ่งจะโพสต์ไปว่า จริงๆแล้วเรากำลัง "ฝัน" อยู่รึเปล่า? เพียงแต่ความฝันนี่...มันเหมือนจริงมากเกินไปก็เท่านั้น ส่วนไอ้เรื่องที่เราคิดว่ามันไร้สาระอย่าง "ความฝัน" บางทีมันอาจเป็นเรื่อง "จริง" คุณเคยคิดเหมือนผมมั้ย?

    ความบังเอิญ(ไม่)มีอยู่จริง(f)
     

แชร์หน้านี้

Loading...