ข่าวด่วน วันโลกดับ 12มิถุนาจะมีแผ่นดินไหวใหญ่ ดาวโหลดไฟล์เสียงไปฟังดูครับอัดจากทีวี

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ๙๙๙๙๙๙๙๙๙, 12 พฤษภาคม 2010.

  1. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +2,808
    http://tv.thaifreetv.tv/replay.php

    ดูทีวี ย้อนหลังนะ เห็นบอกว่า วันที่ 12 มิถุนาจะมีแผ่นดินไหวใหญ่
    ให้ไปดู ที่ช่อง 3 วันที่ 11 พ.ค. เวลา 17.00 นาทีที่ 42 เป็นต้นไป


    เสียงจากรายการ เรื่องเด่นเย็นนี้.rar <<<< กดโหลด

    หรือกดดูที่นีึ่


    <embed src="http://vdo.palungjit.org/nuevo/player/nvplayer.swf?config=http://vdo.palungjit.org/nuevo/econfig.php?key=cd516125cae7b33a1fb4" width="500" height="400" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" type="application/x-shockwave-flash" /></embed>







    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ตอนนี้ เพื่อนโทรมาบอกว่าที่ระนอง น้ำทะเลใต้เดือดปลาขึ้นมาตายเต็มเลย

    ที่มา มีคนส่งเลมาบอกครับ

    [​IMG]

    ใครที่เคยดูหนัง ตอนนี้ดาวเริ่มเรียงตัวแบบในหนังแล้วนะครับ หนังไม่ใช้แค่หนัง มันเป็นการแอบบอกอะไรกับเราบางอย่าง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    http://palungjit.org/threads/2012-illuminati-กับดวงอาทิตย์-แกนโลก-และเครื่อง-cern.230087/ <<


    http://palungjit.org/threads/***พายุสุริยะ-ยอมแพ้-ufo***.237399/ <<


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=wABxmXTuylI&feature=player_embedded"]YouTube- 2012 solar flare animation[/ame]


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=5j8nuUVByrU&feature=player_embedded"]YouTube- knowing destruction scene[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=NrIx6BKO6IE"]YouTube- Attack of the Sun[/ame]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 พฤษภาคม 2010
  2. worrior

    worrior เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +316
    ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ
     
  3. NCK2046

    NCK2046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +3,793
    โลกนี้เป็นกระจกสะท้อนความจริงภายในใจมนุษย์

    เพราะคนส่วนมากบนโลก เต็มไปด้วยความเร่าร้อน มีไฟโทสะ โลภะ โมหะ เป็นต้นเพลิง จึงทำให้สภาพอากาศภายนอกเป็นไปตามจิต คือ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ร้อนจัด แล้งจัด หนาวจัด เป็นตัวสะท้อนว่าผู้อยู่อาศัยมีภาพจิตเช่นไร วิปริตผิดเพี้ยนกันมากเพียงไร

    โลกจะเย็นลงได้ด้วยเมตตายิ่ง ไม่ใช่การวิ่งไปแก้อะไรๆภายนอกซึ่งเป็นปลายเหตุ

    เลิกโลภมาก เลิกใช้อารมณ์ เลิกหลงวัตถุ ก็จะช่วยให้โลกเย็นลงได้ค่ะ
     
  4. sron2006

    sron2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,202
    เริ่มแล้วสินะ ! อิอิ
     
  5. tar2199

    tar2199 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +565

    เริ่มตั้งนานแล้วอะ (ping-love

    เอามั่ง :cool:
     
  6. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    มีรายงานว่า แคนาดาแผ่นดินยุบขนาด4เท่าของสนามฟุตบอล
    เครื่องบินโดยสารตกที่ลิเบีย เด็ก8ขวบชีวิต
     
  7. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    ไม่รู้เป็นเพราะผมหมกมุ่นอยู่กับเรื่องพวกนี้มากไปหรือป่าว

    รู้สึกใจคอไม่ดีเลยเวลามีข่าวอะรัยแบบนี้ ต้องตั้งสติให้ดี

    เป็นเพราะผมเองก็เชื่อว่ามันคงจะเกิดขึ้นแน่ๆ เลยออกอาการมากไปหน่อย

    มีใครเชื่อและเป็นเหมือนผมไหมเนีย
     
  8. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    tar2199<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3292168", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sron2006 [​IMG]
    เริ่มแล้วสินะ ! อิอิ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เริ่มตั้งนานแล้วอะ (ping-love

    เอามั่ง :cool:<!-- google_ad_section_end -->



    จ๊ากกกกก...โดนขโมย Scene อ่ะ...







    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->< ๙ ตาล ๙ ><!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3291730", true); </SCRIPT>
    ทีมพลังจิตวีดีโอ


    ดูทีวี ย้อนหลังนะ เห็นบอกว่า วันที่ 12 มิถุนาจะมีแผ่นดินไหวใหญ่
    ให้ไปดู ที่ช่อง 3 วันที่ 11 พค เวลา 17.00 นาทีที่ 42 เป็นต้นไป

    [​IMG]


    นั่นมันวันเกิดเราอ่ะ... แจ็คพ็อตเรยฮะ


    แต่แผ่นดินไหวมันคำนวณและทำนายวันเวลาไม่ได้นี่นา...
    แบบว่า... มีใครอยากดังหรือเปล่าอ่ะ???
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • r_u_kidding.gif
      r_u_kidding.gif
      ขนาดไฟล์:
      10.1 KB
      เปิดดู:
      3,086
  9. pk010209

    pk010209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    973
    ค่าพลัง:
    +2,634
    บระเจ้า!!!!ฟังแล้วเครียดเลย ขออย่าให้รุนแรงแบบที่ ดร.ก้องภพ และดร.สมิทธบอกเลย ขอให้ลมสุริยะอ่อนกำลังก่อนที่จะถึงโลกเรา
     
  10. wanakonth

    wanakonth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,153
    ค่าพลัง:
    +5,775
    ไม่ต้องเครียด เตรียมตัวเตรียมใจอย่างมีสติและสมาธิก็พอครับ ฮิๆ
     
  11. crossmetica

    crossmetica เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +136
    ถ้าแผนดินไหว ก็คงตามมาด้วย tsunami มั้งนะ 55+

    ไกล้ละๆ :cool:
     
  12. gatsuja

    gatsuja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    837
    ค่าพลัง:
    +876
    ขอบคุณครับ
     
  13. sron2006

    sron2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,202
    มันเริ่มอีกแหละ ! อิอิ
     
  14. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +2,808
    เพื่อนที่ระนองฝากมาบอกว่า (ตอนเช้า) ตอนนี้น้ำทะเลที่ระนองเดือดปุดๆ ตรงบ้านหินช้าง ติดกับพม่า แล้วปลาหลากหลายชนิดตายเต็มไปหมด ชาวบ้านดำลงไปดูเห็นฟองอากาศขึ้นมาปุดๆ ด้วย

    ตอนนี้กองทัพเรือ กำลังดูอยู่
    แจ้งไปทางข่าวช่อง 3 และ ช่อง 7 แล้ว


    คนที่ลงไปดู ดำน้ำไปปกติที่เคยดำ แต่น้ำร้อนมาก เข้าไปใกล้ไม่ได้ ตรงนั้นเป็นรอยเล่นระนองพอดีด้วย

     
  15. crossmetica

    crossmetica เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +136
    เร็วเกินกว่าที่คิด เลย

    รักกันๆครับประชาชน:cool:
     
  16. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=5 width="98%" align=center><TBODY><TR><TD>พบรอยแยกใต้ทะเลที่ระนอง ผลจากแผ่นดินไหวปลายปี 47


    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>



    <TR><TD bgColor=#eeeeee>นักธรณีวิทยาชี้ชัดรอยแยกใต้ทะเลที่ จ.ระนอง เกิดจากผลกระทบของแรงแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้รอยเลื่อนระนองเกิดการขยับตัว และส่งผลให้เกิดน้ำพุร้อนใต้ทะเล โดยจะเฝ้าระวังรอยเลื่อนที่อาจได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

    นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนธรณีวิทยา 2 สำนักธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี กล่าวถึงกรณีที่ชาวบ้าน ต.ราชกรูด จ.ระนอง ได้ดำน้ำลงไปสำรวจใต้ทะเลบริเวณอ่าวแหลมสน ห่างจากชายฝั่งประมาณ 500 เมตร

    และพบรอยแยกกว้างประมาณ 3-4 นิ้วยาว เป็นระยะทางกว่า 1 กม.และแจ้งขอให้กรมทรัพยากรธรณีส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบแล้วนั้น

    ผลการตรวจสอบปรากฎว่า เบื้องต้นที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีฟองน้ำผุดขึ้นมาจำนวนมากและแรงกว่าน้ำเดือดนั้น สามารถสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นผลต่อเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.47 และทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ

    เนื่องจากในบริเวณ จ.ระนอง นั้นมีรอยเลื่อนระนอง ซึ่งพาดผ่านแม่น้ำกระบุรี และกั้นชายแดนไทย-พม่า ซึ่งจากการศึกษาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

    พบว่า เป็นรอยเลื่อนที่ไม่มีพลัง แต่เมื่อมีแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงเกิดขึ้นก็สามารถส่งผลให้รอยเลื่อนที่ไม่มีพลังสามารถขยับตัวได้

    นายเลิศสิน กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรธรณี ได้เคลื่อนย้ายทีมพร้อมอุปกรณ์จาก จ.สงขลา มาที่ จ.ระนอง อย่างเร่งด่วนแล้ว โดยอย่างช้าวันที่ 20 ม.ค.จะเริ่มสำรวจพื้นทะเลในบริเวณนั้น

    พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจวัดอุณหภูมิ และแร่ธาตุในน้ำมาตรวจวิเคราะห์ทันที

    อย่างไรก็ตาม สำหรับรอยเลื่อนระนองนี้พาดผ่านในทะเล ผ่านแม่น้ำกระบุรีเป็นรอยยาวต่อเนื่อง ที่เคยศึกษาเอาไว้ รอยเลื่อนดังกล่าวไม่มีพลังแล้ว แต่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวน่าจะส่งผลให้เกิดการขยับตัวได้

    "ทางวิชาการเรียกว่า การฟื้นคืนตัว โดยมีสัญญาณบ่งบอกได้จากการที่ที่มีน้ำเป็นฟองอากาศขึ้นมาจำนวนมาก ซึ่งในทางกฤษฎีรอยแยกดังกล่าวจะทำให้เกิดน้ำพุร้อนขึ้น เพราะแผ่นดินได้ปลดปล่อยพลังงานที่สะสมเอาไว้ออกมา แต่ทั้งนี้จะไม่รุนแรงมาก" นายเลิศสินกล่าว

    อย่างไรก็ตาม หากเป็นน้ำพุร้อนที่เกิดจากขยับตัวของรอยเลื่อนจริง ก็จะทำให้น้ำทะเลบริเวณนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้น และอาจทำให้สิ่งมีชีวิตระบบนิเวศน์ต้องมีการปรับตัว แต่จะขอดูรายละเอียดจากการสำรวจทั้งหมดก่อน

    นอกจากนี้กรมทรัพยากรธรณี ได้ติดตามรอยเลื่อนบริเวณใกล้เคียงที่อาจได้รับผลกระทบ ได้แก่ รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย

    ซึ่งได้ติดตั้งสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวไว้แล้ว ส่วนรอยเลื่อนระนอง ยังไม่ได้ติดตั้งสถานี เนื่องจากมีข้อจำกัดในอุปกรณ์เครื่องมือ และบุคลากร แต่ทุกคนก็ทุ่มทำงานอย่างเต็มที่


    http://www.nicaonline.com/webboard/index.php?topic=2041.0
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=5 width="98%" align=center>

    พื้นใต้ทะเลระนองแยก คาดผลซึนามิ

    รายงานข่าว จ.ระนอง ระบุว่า เกิดปรากฎการณ์ผิดปกติขึ้นในทะเลอันดามัน บริเวณอ่าวแหลมสน ม.8 ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง โดยชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า มีฟองอากาศผุดขึ้นมาจากใต้ทะเลคล้ายน้ำเดือดเป็นแนวยาวจากตะวันออกไปยังตะวันตก ตามแนวคลองช้างแหกระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร

    นายชนรรถ แก้วบำรุง ปลัดอำเภอเมืองระนองกล่าวว่า ได้ให้ชาวบ้านดำน้ำลงไปสำรวจพบว่า ใต้ท้องทะเลลึกประมาณ 7 เมตร พบรอยแยกที่พื้นกว้างประมาณ 3 นิ้ว ยาวนับกิโลเมตร ทั้งมีฟองอากาศผุดขึ้นมาจำนวนมาก

    อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่และชาวบ้านไม่ทราบว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไร แต่ได้เตือนให้ชาวบ้านที่ออกไปหาปลาในแถบนั้น ใช้ความระมัดระวัง แต่สันนิษฐานเบื้องต้นว่า น่าจะเป็นผลมาจากคลื่นยักษ์ซึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ปีที่แล้ว ทั้งทางอำเภอได้รายงานให้จังหวัดทราบแล้ว เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านธรณีวิทยาตรวจสอบต่อไป

    นายประพาส พัฒน์ชูชีพ กำนัน ต.ราชกรูด กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านมาประมาณ 10 วันแล้ว และคอยสังเกตอยู่พบว่าฟองอากาศผุดขึ้นมาเช่นนี้ตลอด ทั้ง ๆ ที่ก่อนเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ไม่เคยเกิดฟองอากาศมาก่อน




    http://www.prachatai.net/journal/2005/01/2320






    <TBODY></TBODY></TABLE>



    พื้นใต้ทะเลระนองแยก คาดผลซึนามิ

    รายงานข่าว จ.ระนอง ระบุว่า เกิดปรากฎการณ์ผิดปกติขึ้นในทะเลอันดามัน บริเวณอ่าวแหลมสน ม.8 ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง โดยชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า มีฟองอากาศผุดขึ้นมาจากใต้ทะเลคล้ายน้ำเดือดเป็นแนวยาวจากตะวันออกไปยังตะวันตก ตามแนวคลองช้างแหกระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร

    นายชนรรถ แก้วบำรุง ปลัดอำเภอเมืองระนองกล่าวว่า ได้ให้ชาวบ้านดำน้ำลงไปสำรวจพบว่า ใต้ท้องทะเลลึกประมาณ 7 เมตร พบรอยแยกที่พื้นกว้างประมาณ 3 นิ้ว ยาวนับกิโลเมตร ทั้งมีฟองอากาศผุดขึ้นมาจำนวนมาก

    อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่และชาวบ้านไม่ทราบว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไร แต่ได้เตือนให้ชาวบ้านที่ออกไปหาปลาในแถบนั้น ใช้ความระมัดระวัง

    แต่สันนิษฐานเบื้องต้นว่า น่าจะเป็นผลมาจากคลื่นยักษ์ซึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ปีที่แล้ว ทั้งทางอำเภอได้รายงานให้จังหวัดทราบแล้ว เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านธรณีวิทยาตรวจสอบต่อไป

    นายประพาส พัฒน์ชูชีพ กำนัน ต.ราชกรูด กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านมาประมาณ 10 วันแล้ว และคอยสังเกตอยู่พบว่าฟองอากาศผุดขึ้นมาเช่นนี้ตลอด ทั้ง ๆ ที่ก่อนเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ไม่เคยเกิดฟองอากาศมาก่อน

    http://www.prachatai.net/journal/2005/01/2320


    <TABLE border=0 cellPadding=0 width="90%" align=center><TBODY><TR><TD colSpan=2>เจาะพื้นธรณีวิทยา หาที่มาแห่ง “พสุธากัมปนาท”

    </TD></TR><TR><TD width=20>

    </TD><TD vAlign=top width=430>
    [​IMG]

    แผ่นดินไหว ถ้าไม่ได้เกิดจากการกระทำของภูเขาไฟ
    ไม่มีใครสามารถคาดเดาหรือพยากรณ์ได้ล่วงหน้า​


    สสวท./กรมอุตุนิยมวิทยา/บีบีซี

    ปรากฎการณ์แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติชนิดหนึ่งที่พื้นดินมีการสั่นไหวด้วยอิทธิพลบางอย่างที่อยู่ใต้ผิวโลก ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ คลื่นใต้แผ่นดินจะพุ่งไปสู่บริเวณทุกส่วนของโลก

    และถ้าการสั่นไหวของแผ่นดินรุนแรง อุปกรณ์ตรวจจับคลื่นที่อยู่ห่างไกลออกไปนับหมื่นกิโลเมตรก็ยังสามารถรับคลื่นแผ่นดินไหวได้


    จากธรณีพิโรธสู่ความรู้คลื่นใต้แผ่นดิน

    ผู้คนในสมัยโบราณมีความกลัวเหตุการณ์แผ่นดินไหวมาก กวีโฮเมอร์ของกรีกเชื่อว่าแผ่นดินไหวเกิดจากการที่เทพเจ้า "โพเซดอน” แห่งท้องทะเลลึกทรงพิโรธ

    ขณะที่คนจีนโบราณคิดว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อพญามังกรที่อาศัยอยู่ใต้พื้นดินขยับและเคลื่อนไหวลำตัว พร้อมกันนั้นก็ได้ส่งเสียงคำรามด้วย

    ส่วนคนญี่ปุ่นนั้นเชื่อว่า เวลาเทพเจ้าแห่งปลาชื่อ "นามาซึ” สะบัดหางไปมาจะทำให้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่ เธลิส (Thales) ผู้เป็นปราชญ์กรีกในสมัยพุทธกาลได้กล่าวโจมตีความเชื่อที่ว่า

    อะไรก็ตามที่เกิดจะต้องมีเทพเจ้าสิงสถิตอยู่ภายใน โดยเขาคิดว่า การไหลของคลื่นในมหาสมุทรอย่างรุนแรงต่างหากที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว

    มนุษย์เริ่มเข้าใจปรากฏการณ์ใต้ดินนี้ "ดี" ขึ้นเมื่อประมาณ 20 ปีมานี้เอง โดยได้พบว่าเวลาเกิดแผ่นดินไหว คลื่นแผ่นดินไหวทุกคลื่นจะดูเสมือนเคลื่อนที่ออกมาจากตำแหน่งหนึ่งใต้ดิน

    ซึ่งนักธรณีวิทยาเรียกตำแหน่งดังกล่าวนี้ว่า “จุดโฟกัส” และตำแหน่งบนผิวโลกที่อยู่เหนือจุดโฟกัสเรียกว่า “อีพิเซ็นเตอร์” (epicenter)

    และตามปกตินั้นจุดโฟกัสของคลื่นแผ่นดินไหวมักจะอยู่ลึกใต้โลกลงประมาณ 15 กิโลเมตร แต่ในบางกรณีระยะลึกของจุดโฟกัสอาจจะมากถึง 400 กิโลเมตรก็มี

    อะไรคือสาเหตุแห่ง “แผ่นดินไหว”
    โลกเรานั้นมีโครงสร้างเป็นขั้นๆ คล้ายหัวหอม คือมีเปลือกนอกสุดห่อหุ้ม ซึ่งเปลือกนี้มีความหนาที่ไม่สม่ำเสมอ เช่น กรณีเปลือกโลกที่เป็นทวีปจะหนาประมาณ 70 กิโลเมตร และเปลือกโลกส่วนที่อยู่ท้องมหาสมุทรจะหนาประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งคิดเป็น 0.6% ของรัศมีโลกเท่านั้นเอง

    ลึกลงไปจากเปลือกโลกก็ถึงชั้นของโลกอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า “เนื้อโลก” (mantle) ตามปกติคลื่นแผ่นดินไหวในเปลือกโลกจะมีความเร็วประมาณ 7.2 กิโลเมตร/วินาที แต่ความเร็วของคลื่นในชั้นเนื้อโลก จะสูงกว่าคือ 8.2 กิโลเมตร/วินาที

    นอกจากนี้คลื่นแผ่นดินไหวยังแบ่งออกเป็น 2 ชนิดได้แก่ คลื่นปฐมภูมิ (พี : P – primary) และ คลื่นทุติยภูมิ (เอส : S - secondary) ซึ่งเวลาคลื่นทั้งสองชนิดเคลื่อนที่ผ่านไป

    ในชั้นหินใต้ผิวโลก อนุภาคต่างๆ ในชั้นหินที่ถูกคลื่นพีกระทบจะสั่นไปมาในแนวที่คลื่นพุ่งไป ดังนั้น ชั้นหินจึงตกอยู่ในสภาพถูกอัดและขยายตัว

    ส่วนในกรณีของคลื่นเอสนั้น อนุภาคต่างๆ ในชั้นหินจะเคลื่อนที่ในแนวขึ้นลงที่ตั้งฉากกับทิศการพุ่งไปของคลื่น คลื่นพีนั้นตามปกติจะมีความเร็วมากกว่าคลื่นเอส

    ดังนั้น การวัดเวลาที่คลื่นทั้งพีและเอสเดินทางถึงเครื่องรับสัญญาณ ซึ่งอยู่ที่ตำแหน่งต่างๆ บนผิวโลกจะทำให้นักธรณีวิทยารู้ทันทีว่าจุดโฟกัสของการระเบิดอยู่ที่ใด

    อย่างไรก็ดี คลื่นพีสามารถเดินทางจากซีกโลกหนึ่งไปยังอีกซีกโลกหนึ่ง ในเวลาประมาณ 20 นาที ผ่านส่วนต่างๆ ภายในโลกได้ทุกส่วน ขณะที่คลื่นเอสเดินทางผ่านส่วนที่เป็นของเหลวไม่ได้ สำหรับคลื่นพื้นผิวต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะเดินทางได้รอบโลก

    นักแผ่นดินไหวใช้หลักการนี้ในการคำนวณระยะทางจากจุดตรวจ หรือสถานีตรวจแผ่นดินไหวไปยังศูนย์กลางแผ่นดินไหว หลักการคือ ใช้ผลต่างระหว่างเวลาของคลื่นพี กับคลื่นเอส ที่เดินทางถึงสถานีในการคำนวณระยะทางดังกล่าว

    ระยะเวลาต่างของคลื่นทั้งสองยิ่งมากเพียงใด ระยะทางก็ยิ่งไกลออกไปเพียงนั้น ถ้าสามารถหาระยะทางดังกล่าวได้อย่างน้อยสามสถานี เราย่อมกำหนดตำแหน่งของศูนย์กลางแผ่นดินไหวได้จากจุดตัดของวงกลม


    "รอยเลื่อน” เหตุหลักรุนแรงและไม่ทันตั้งตัว

    เปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอทั้งการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ และรวดเร็ว ซึ่งแรงที่ทำให้เปลือกโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้นเรียกว่า “แรงเทคโทนิก” (Tectonic Force) หรือ “แรงแปรสัณฐาน” อันเกิดจากความร้อนภายในโลก การขยายตัวและหดตัว

    รวมถึงการเคลื่อนไหวของแมกมา (Magma) จากที่แห่งหนึ่งไปยังที่อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งแรงเทคโทนิกแบ่งออกเป็น 2 พวก คือ “กระบวนการไดแอสโตรฟิซึม" (Diastrophism) คือ รอยเลื่อนของผืนโลก ได้แก่ การโค้งงอ โก่งตัวและการแตกหักของผืนโลก และ “กระบวนการโวลคานีซึม” (Volcanism) หรือการระเบิดของภูเขาไฟนั่นเอง

    ทั้งนี้ สาเหตุใหญ่ที่สุดในการเกิดแผ่นดินไหวก็คือ “รอยเลื่อน” ที่กระทำต่อผิวโลกอาจทำให้เกิดเป็นที่ราบสูงหรือภูเขาไล้ และยังทำให้เกิดน้ำตก หรืออ่างน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งแผ่นดินไหวบางครั้งทำให้เปลือกโลกยุบตัวลง เกิดเป็นทะเลสาบที่เรียกว่า “ทะเลสาบอ่าง” (Basin Lake) และยังจะทำให้แผ่นดินเลื่อนได้อีกด้วย

    ถ้ารอยเลื่อนเกิดภายใต้ท้องทะเล หรือมหาสมุทรแล้ว จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวใต้ท้องทะเล ซึ่งทำให้เกิดคลื่นใหญ่เรียกว่า “สึนามิ” (Tsunamis) หรือคลื่นที่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้ทะเล (Tidal Wave) ซึ่งสึนามิเป็นชื่อเรียกคลื่นชนิดนี้ในภาษาญี่ปุ่น อันเป็นถิ่นที่มีลูกคลื่นแบบนี้บ่อยครั้ง

    รอยต่อของเพลตอันทำให้เกิด “พสุธากัมปนาท”

    ประมาณ 95% ของแผ่นดินไหวเกิดจากบริเวณที่มีภูเขาไฟที่ยังคุอยู่ และมักเป็นพวกเทือกเขาเกิดใหม่ (Young Mountain) และเป็นบริเวณที่มีความไม่สมดุลในเรื่องแรงที่กระทำต่อผิวโลก จึงมีพวกไดแอสโตรฟิซึมและโวลคานีซึมอยู่มากมาย และมักจะเกิดรอยเลื่อน จัดเป็นแนวความอ่อนแอของเปลือกโลก (Lines of waekness)

    โดยผ่าน “ทฤษฎีเพลตเทคโทนิกส์” กล่าวว่า ชั้นนอกของโลก หรือชั้นธรณีภาค ประกอบด้วยเพลตขนาดใหญ่ประมาณ 12 เพลต และเพลตเล็กๆ อีกเป็นจำนวนมาก เพลตเหล่านี้มีรูปทรงรับกันตามรอยต่อของเพลต รอยต่อของเพลตเหล่านี้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

    1. สันเขาในมหาสมุทร (oceanic ridges) เป็นรอยต่อที่เพลตเคลื่อนที่แยกกัน โดยมีหินละลายปะทุขึ้นมาตามรอยแยก ก่อเกิดเป็นเปลือกโลกรุ่นใหม่

    2.รอยเลื่อนแปรสภาพ (transform faults) เป็นรอยต่อที่เพลตเคลื่อนที่เฉียดกัน

    3.เขตมุดตัวของเปลือกโลก (subduction zones) เป็นรอยต่อที่เพลตเคลื่อนที่ปะทะกัน แล้วเพลตหนึ่งมุดตัวลงข้างใต้อีกเพลตหนึ่ง ทำให้เปลือกโลกส่วนที่มุดนั้น หายลงไปในชั้นแมนเทิล

    ทั้งนี้ รอยต่อของเพลตที่ซับซ้อนที่สุด เป็นรอยต่อที่เพลตสามเพลตปะทะกัน เรียกว่า “รอยต่อสามผสาน” (triple junction) รอยต่อลักษณะนี้อาจประกอบด้วยรอยต่อต่างๆ ทั้งสามประเภทผสมผสานกัน

    และแผ่นดินไหวส่วนใหญ่เกิดขึ้นตามแนวรอยต่อระหว่างเพลต แม้รอยต่อระหว่างเพลตมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทก็ตาม แต่เราแบ่งแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นตามแนวรอยต่อเหล่านี้ออกเป็น 4 ประเภท คือ

    1.แผ่นดินไหวตื้น ที่เกิดขึ้นบริเวณสันเขาในมหาสมุทร

    2.แผ่นดินไหวตื้น ที่เกิดขึ้นตามรอยเลื่อนแปรสภาพ เช่น รอยเลื่อนซานอันเดรียส ทางด้านตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ

    3.แผ่นดินไหวตื้น แผ่นดินไหวลึกปานกลาง และแผ่นดินไหวลึก ที่เกิดขึ้นตามแนวมุดตัวของเปลือกโลก บริเวณแนวโค้งภูเขาไฟ

    4.แผ่นดินไหวตื้น แผ่นดินไหวลึกปานกลาง และแผ่นดินไหวลึก ที่เกิดขึ้นตามแนวเทือกเขาสำคัญ ๆ เช่น เทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาฮินดูกูฏ แนวแผ่นดินไหวนี้เริ่มจากบริเวณเมดิเตอเรเนียน จนเกือบถึงประเทศจีน

    เมื่อ “เพลตเทคโทนิกส์” แยกออกจากกันตามแนวแกนของสันเขากลางมหาสมุทร ขณะที่เพลตแยกออกจากกัน มีรอยเลื่อนและการปะทุของลาวา ปรากฏขึ้นตรงรอยแยก ก่อให้เกิดภูเขาและผาชันตามแนวดังกล่าว บริเวณนี้เป็นแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว

    แนวภูเขาไฟ แถบแม่เหล็กสลับขั้วในหิน 2 ด้านของรอยแยก มีการไหลถ่ายความร้อนปริมาณสูงกว่าบริเวณอื่นบนเปลือกโลกหลายเท่า และการยกตัวของภูมิประเทศ

    พบว่าภูเขาไฟกว่า 200 แห่ง เรียงรายอยู่ตามแนวยกตัวของพื้นทะเล ภูเขาไฟหลายแห่งยังมีพลัง การไหลถ่ายความร้อนมีปริมาณสูงมาก

    นอกจากนี้ยังปรากฏรอยแยกขนาดใหญ่อันเกิดจากแรงดึงนี้ ตามแนวยกตัวบริเวณเกาะไอซ์แลนด์เป็นจำนวนมาก สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เมื่อมีการเคลื่อนที่ขึ้นลงตรงรอยแยกเหล่านี้ ก่อให้เกิดสันเขาบล็อกรอยเลื่อน (fault block ridges) เรียงรายคล้ายขั้นบันไดยักษ์ไปตามร่องหุบเขา แม้ลาวามีการปะทุขึ้นมาในระยะเวลาอันสั้น แต่ปรากฏการณ์นี้ก็เกิดขึ้น บ่อยๆ ตลอดห้วงเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา

    ทวีปส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนเพลต ที่มีรอยต่อระหว่างเพลต อันเป็นศูนย์กลางการเคลื่อนที่อยู่ในมหาสมุทร รอยแยกของเพลตแอฟริกากับเพลตยูเรเชียทำให้เกิดทะเลแดง และรอยแยกของเพลตแปซิฟิกกับเพลตอเมริกาเหนือ

    ทำให้เกิดอ่าวแคลิฟอร์เนีย เป็นที่น่าประหลาดใจว่า ทั้งที่ทวีปเคลื่อนที่แยกกันไปเป็นเวลานานแล้ว กลับสามารถนำมาปะติดปะต่อกันตามแนวชายฝั่งทวีปได้อีก เหมือนเมื่อทวีปเพิ่งเริ่มเคลื่อนที่ครั้งแรก

    มาตราวัดขนาดและความรุนแรงของแผ่นดินไหว

    นักธรณีวิทยาประมาณว่า ทุกวันจะมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นบนโลกนับ 1,000 ครั้ง แต่คนส่วนมากจะไม่รู้สึก เพราะมันสั่นและแผ่วเบาจนเกินไป เมื่อเหตุผลเป็นเช่นนี้นั่นก็หมายความว่า 50% ของคลื่นแผ่นดินไหวอาจจะมีคนตรวจรับได้ แต่อีก 50% ที่เหลือที่เกิดในบริเวณที่ไม่มีคนอาศัยก็จะไม่มีใครรู้สึกอะไรเลย

    ขนาด (Magnitude) เป็นปริมาณที่มีความสัมพันธ์กับพลังงานที่พื้นโลก ปลดปล่อยออกมาในรูปของการสั่นสะเทือน คำนวณได้จากการตรวจวัดค่าความสูงของคลื่นแผ่นดินไหวที่ตรวจวัด ได้ด้วยเครื่องมือตรวจแผ่นดินไหว โดยเป็นค่าปริมาณที่บ่งชี้ขนาด ณ บริเวณศูนย์กลางแผ่นดินไหว มีหน่วยเป็น " ริกเตอร์"

    ในปี พ.ศ. 2178 ริกเตอร์ (C.F. Richter) ได้เสนอมาตรการระบุความรุนแรงของภัยแผ่นดินไหวที่ผู้คนทั่วไปรู้จักกันจนทุกวันนี้ โดยริกเตอร์ได้แบ่งสเกลความรุนแรงออกหลายระดับ เช่น ระดับ 2 แสดงว่า ดังและเป็นภัยได้มากเท่าๆ กับเหตุการณ์ฟ้าผ่า

    ระดับ 4 แสดงว่า มีความเสียหายเล็กน้อย เกิดขึ้น ระดับ 6 คือรุนแรงเทียบเท่าการระเบิดของลูกระเบิดปรมาณูที่สหรัฐฯ ทิ้งลงฮิโรชิมา และระดับ 8.5 คือระดับโลกแตก ซึ่งแยกเป็นตารางได้ดังนี้

    มาตราริกเตอร์

    <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm><TBODY><TR bgColor=#bec8d3><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm width="25%">
    ขนาด
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm width="75%">
    ความสัมพันธ์ของขนาดโดยประมาณกับความสั่นสะเทือนใกล้ศูนย์กลาง
    </TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    1-2.9
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>เกิดการสั่นไหวเล็กน้อย ผู้คนเริ่มมีความรู้สึกถึงการสั่นไหว บางครั้ง รู้สึกเวียน ศีรษะ</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    3-3.9
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>เกิดการสั่นไหวเล็กน้อย ผู้คนที่อยู่ในอาคารรู้สึกเหมือนรถไฟวิ่งผ่าน</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    4-4.9
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>เกิดการสั่นไหวปานกลาง ผู้ที่อาศัยอยู่ทั้งภายในอาคาร และนอกอาคาร รู้สึกถึงการ สั่นสะเทือน วัตถุห้อยแขวนแกว่งไกว</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    5-5.9
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>เกิดการสั่นไหวรุนแรงเป็นบริเวณกว้าง เครื่องเรือน และวัตถุมีการเคลื่อนที่</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    6-6.9
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>เกิดการสั่นไหวรุนแรงมาก อาคารเริ่มเสียหาย พังทลาย</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    7.0 ขึ้นไป
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>เกิดการสั่นไหวร้ายแรง อาคาร สิ่งก่อสร้างมีความเสียหายอย่างมาก แผ่นดินแยก วัตถุที่อยู่บนพื้นถูกเหวี่ยงกระเด็น</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ส่วนความรุนแรงแผ่นดินไหว (Intensity) แสดงถึงความรุนแรงของเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น วัด ได้จากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเกิด และหลังเกิดแผ่นดินไหว เช่น ความรู้สึกของผู้คน ลักษณะที่วัตถุหรือ อาคารเสียหายหรือสภาพภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลง เป็นต้น

    ในกรณีของประเทศไทยใช้ มาตราเมอร์แคลลี สำหรับเปรียบเทียบอันดับ ซึ่งมีทั้งหมด 12 อันดับ เรียงลำดับความรุนแรงแผ่นดินไหวจากน้อยไปมาก ดังนี้


    มาตราเมอร์แคลลี่

    <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm><TBODY><TR bgColor=#bec8d3><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm width="25%">
    อันดับที่
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm width="75%">
    ลักษณะความรุนแรงโดยเปรียบเทียบ
    </TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    I
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>เป็นอันดับที่อ่อนมาก ตรวจวัดโดยเครื่องมือ</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    II
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>พอรู้สึกได้สำหรับผู้ที่อยู่นิ่ง ๆ ในอาคารสูง ๆ</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    III
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>พอรู้สึกได้สำหรับผู้อยู่ในบ้าน แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้สึก</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    IV
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>ผู้อยู่ในบ้านรู้สึกว่าของในบ้านสั่นไหว</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    V
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>รู้สึกเกือบทุกคน ของในบ้านเริ่มแกว่งไกว</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    VI
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>รู้สึกได้กับทุกคนของหนักในบ้านเริ่มเคลื่อนไหว</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    VII
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>ทุกคนต่างตกใจ สิ่งก่อสร้างเริ่มปรากฎความเสียหาย</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    VIII
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>เสียหายค่อนข้างมากในอาคารธรรมดา</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    IX
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>สิ่งก่อสร้างที่ออกแบบไว้อย่างดี เสียหายมาก</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    X
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>อาคารพัง รางรถไฟบิดงอ</TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    XI
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>อาคารสิ่งก่อสร้างพังทลายเกือบทั้งหมด ผิวโลกปูดนูนและเลื่อนเป็นคลื่นบน พื้นดินอ่อน </TD></TR><TR bgColor=#e6eaea><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>
    XII
    </TD><TD background=http://พสุธากัมปนาท_files/Science.htm>ทำลายหมดทุกอย่าง มองเห็นเป็นคลื่นบนแผ่นดิน</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ทั้งนี้ เครื่องมือสำหรับวัดการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว เรียกว่า “ไซสโมกราฟ” (Seimograph) แต่ในปัจจุบันใช้ทั้งระบบเครือข่ายสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวในระดับแต่ละประเทศ และเครือข่ายในระดับโลก เพื่อการวิเคราะห์ตำแหน่ง ขนาดและเวลาเกิดของเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้อย่างรวดเร็ว

    ประเทศไทยเริ่มมีการตรวจแผ่นดินไหว เมื่อปี พ.ศ. 2506 สถานีตรวจแผ่นดินไหวแห่งแรกของกรมอุตุนิยมวิทยา ติดตั้ง ณ จังหวัดเชียงใหม่

    โดยเข้าร่วมอยู่ในเครือข่ายระบบมาตรฐานโลก Worldwide Standardized Seismograph Network : WWSSN และต่อมาปรับเปลี่ยนเป็นระบบเครือข่าย Incorporated Research Institution of Seismology : IRIS

    ซึ่งเป็นเครือข่ายโดยความร่วมมือของสถาบันการศึกษาหลายแห่ง ในสหรัฐอเมริกา และบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

    ย้อนดูแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอดีต

    เพราะประวัติการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในระยะเวลา 25 ปี ที่ผ่านมานี้ แสดงให้เห็นว่า ในกรณีแผ่นดินไหวที่เมืองโกเบ (Kobe) ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อยามเช้าตรู่ของวันที่ 17 ม.ค. 38 ได้ทำลายบ้านเมือง 200,000 หลัง มีคนเสียชีวิต 6,000 คน และบาดเจ็บ 34,000 คน

    นอกจากนี้ ที่เมืองสไปตัก (Spitak) ประเทศอาร์เมเนีย (Armenia) เมื่อวันที 7 ธ.ค. 31 ได้เกิดแผ่นดินไหวในยามเช้า ทำให้ผู้คนไม่ทันตั้งตัวจึงล้มตายถึง 25,000 คน และที่ประเทศเม็กซิโก ณ สถานที่ที่อยู่ห่างจากเม็กซิโกซิตี้ 400 กิโลเมตร วันที่ 19 ก.ย.28 ก็มีแผ่นดินไหว กรณีนี้มีคนตาย 7,500 คน และค่าเสียหาย 20,000 ล้านบาท

    และรายที่รุนแรงที่สุด ได้แก่ เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ต่งซาน (Tangshan) ประเทศจีน ในตอนดึกของวันที่ 28 ก.ค. 19 ทำให้มีคนเสียชีวิตกว่า 250,000 คน และบาดเจ็บร่วม 800,000 คน ความเสียหายครั้งนั้นได้ทำให้จีนต้องใช้เวลานานกว่า 10 ปี จึงสร้างต่งซานให้มีชีวิตขึ้นมาได้อีกครั้งหนึ่ง

    ณ วันนี้ นักธรณีวิทยายังไม่ประสบความสำเร็จในการทำนายว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวจะอุบัติเมื่อไร และ ณ ที่ใด ถึงระดับดีมากเลย ดังนั้นในบางโอกาสเขาก็จะพบว่ามันได้เกิดในบางสถานที่ที่ไม่มีใครคิดถึงและเมื่อสภาพแวดล้อมของสถานที่แต่ละแห่งบนโลกไม่เหมือนกัน ดังนั้น ความเสียหายหรือความหายนะต่างๆ จึงไม่เหมือนกัน

    ถึงแม้เราจะขาดความสามารถระดับสูงในการพยากรณ์ภัยแผ่นดินไหวก็ตาม แต่นักธรณีวิทยาก็พอมีความรู้ว่า ก่อนที่จะมีเหตุการณ์ แผ่นดินไหวอย่างรุนแรงนั้น แผ่นดินไหวอย่างนุ่มนวลก่อน และโดยอาศัยการติดตั้งอุปกรณ์ดักฟังคลื่นแผ่นดินไหว ณ ตำแหน่งต่างๆ สัญญาณที่อุปกรณ์เหล่านี้ได้รับจะถูกนำมาสังเคราะห์เพื่อให้รู้ตำแหน่งเวลาและความเป็นไปได้ที่จะมีเหตุการณ์แผ่นดินไหว


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE border=0 cellPadding=0 width="90%" align=center><TBODY><TR><TD colSpan=2>แบบจำลองการเกิดแผ่นดินไหว


    </TD></TR><TR><TD width=20>
    </TD><TD vAlign=top width=430>

    t[​IMG]

    โลกอายุ 4.5 พันล้านปี มีโครงสร้างทรงกลมเป็นชั้นๆ ชั้นนอกสุดคือ "เปลือกโลก" (Crust) ชั้นต่อมาคือ "เนื้อโลก" (Mantle) แก่นโลกชั้นนอก (Outer Core) และแก่นโลกชั้นใน (Inner core) เปลือกโลกด้านนอกเย็นแล้ว ส่วนข้างในเป็นหินหลอมเหลว ใจกลางเป็นเหล็กหลอม


    [​IMG]
    บริเวณเปลือกโลกมีลักษณะเป็นแผ่นๆ (plates) เรียกว่า "แผ่นเทคโทนิก" (Tectonic Plate) แต่ละแผ่นเคลื่อนตัวเฉลี่ย 10 เซ็นติเมตรต่อปี แผ่นเหล่านี้เคลื่อนตามหินหลอมเหลวในเนื้อโล​
    [​IMG]
    แผ่นดินไหวส่วนใหญ่จะเกิดที่บริเวณรอยต่อของแผ่นต่างๆ ซึ่งทั่วโลกมีทั้งหมด 12 แผ่น แผ่นที่ใหญ่สุดคือ "ยูเรเซียน" (Eurasian) ซึ่งไทยก็อยู่ในแผ่นนี้ และใกล้กับแผ่น "ออสเตรเลียน" (Australian) แผ่น "ฟิลิปปิน" (Philippine) ส่วนแผ่นอื่นๆ ไล่จากทะเลแปซิกฟิกไปทางตะวันออก คือ "แปซิฟิก" (Pacific) ยวน เดอ ฟูกา (Juan de Fuca) นอร์ธ อเมริกา (North America) "แคริบเบียน" (Caribbean) "เซาธ์ อเมริกัน" (South American) "สก็อตเทีย" (Scotia) "แอฟริกา" (Africa) "อราเบียน" (Arbian) และอินเดียน (Indian)


    [​IMG]


    แผ่นดินสะเทือนเกิดขึ้น เมื่อแผ่นเทคโทนิกที่ต่อกัน 2 แผ่นเลื่อนเบียดกันอย่างกระทันหัน

    [​IMG]

    แนวหินที่แตกระหว่างรอยต่อของ 2 แผ่นเคลื่อนเบียดกัน ซึ่งจุดที่เกิดการเบียดหรือชนเรียกว่า "จุดโฟกัส" (focus) หรือจุดไฮโปเซ็นเตอร์ (hypocenter) ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่าเกิดการเบียดของ 2 รอยต่อ และตรงจุดนี้จะส่งผลให้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงบนผืนโลก หรือผืนน้ำเหนือขึ้นไป

    [​IMG]


    คลื่นแห่งแผ่นดินไหวสามารถจับได้ด้วยประเภทคลื่นที่แตกต่างกัน 2 ชนิด คือคลื่นปฐมภูมิ (หรือพี) และคลื่นทุติยภูมิ (หรือเอส) ซึ่งคลื่นพีจะเดินทางอย่างรวดเร็ว ขณะที่คลื่นเอสเดินทางช้ากว่ามาก ชั้นหินที่ถูกคลื่นพีกระทบจะสั่นไปมาในแนวที่คลื่นพุ่งไปตามแนวนอน จึงตกอยู่ในสภาพถูกอัดและขยายตัว

    ส่วนคลื่นเอสนั้น อนุภาคต่างๆ ในชั้นหินจะเคลื่อนที่ในแนวขึ้นลงที่ตั้งฉากกับทิศการพุ่งไปของคลื่น คลื่นพีนั้นตามปกติจะมีความเร็วมากกว่าคลื่นเอส

    ดังนั้น การวัดเวลาที่คลื่นทั้งพีและเอสเดินทางถึงเครื่องรับสัญญาณ ซึ่งอยู่ที่ตำแหน่งต่างๆ บนผิวโลกจะทำให้นักธรณีวิทยารู้ทันทีว่าจุดโฟกัสของการระเบิดอยู่ที่ใด

    [​IMG]


    จุดบนพื้นผิวหรือผืนน้ำ เหนือจุดโฟกัสเรียกว่า "อิพิเซ็นเตอร์" (epicenter) ซึ่งจะเป็นจุดหลักบนเปลือกโลกในการรับแรงสะเทือนจากเนื้อโลก และตรงจุดนี้นี่เองหากเกิดในทะเลก็จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์ หรือ สึนามิ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE border=0 cellPadding=0 width="90%" align=center><TBODY><TR><TD colSpan=2>จุดก่อและแนวขยายของคลื่นยักษ์

    </TD></TR><TR><TD width=20>
    </TD><TD vAlign=top width=430>
    บีบีซีนิวส์ – ผู้คนนับพันเสียชีวิตหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงทั่วแถบเอเชียใต้และชายฝั่งอันดามัน เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. โดยจุดเกิดเหตุคือใต้ทะเลบริเวณเกาะสุมาตราส่งกระแสคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่ ผ่านไปตามแถบชายฝั่งทางตอนใต้และตะวันออกของเอเชีย


    [​IMG]


    แนวแดงๆ คือแถบวงแหวนภูเขาไฟรุ่นใหม่ที่กำลังคุ จุด "Earthquake epicenter" คือศูนย์กลางของการสั่นสะเทือน ซึ่งอยู่บริเวณทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุมาตรา ซึ่งใกล้กับประเทศไทยมาก อันทำให้เกิดแรงสะเทือนต่อเนื่องไปจนถึงทะเลอินเดีย

    จุดที่เกิดเหตุเนื่องมาจากแนว “วงแหวนภูเขาไฟ” (Ring of Fire) ในแอ่งทะเลแปซิฟิก ซึ่งเป็นแนวเพลตเทคโทนิก (Tectonic Plates) และเขตภูเขาไฟคุกรุ่น (ในโลกมีแผ่นเทคโทนิกทั้งสิ้น 12 แผ่น เป็นแนวที่จะเกิดการเคลื่อนไหว อันเกิดจากความร้อนภายในโลก ทั้งการขยายตัวและหดตัว รวมถึงการเคลื่อนไหวของแมกมาอย่างฉับพลัน)

    [​IMG]


    แผ่นเทคโทนิกยูเรเชีย และแผ่นเทคโทนิกออสเตรเลียมีรอยเชื่อมกันอยู่ที่บริเวณอินโดนีเซียไปจนถึงทะเลอันดามัน ซึ่งเกิดการเลื่อนเบียดกัน ณ บริเวณเส้นวงกลม ใต้ท้องทะเล จึงเกิดเหตุคลื่นยักษ์

    แผ่นดินไหวเริ่มที่เกาะสุมาตรา เนื่องแผ่นเทคโทนิก 2 แผ่นคือแผ่นออสเตรเลียและยูเรเซียเคลื่อนจนทำให้เกิดการเบียดและมุดเข้าหากับอีกแผ่นที่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตรา ทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำขนาดใหญ่เข้าสู่ชายฝั่ง

    เมื่อเวลา 06.59 น.รอยแยกดังกล่าวได้สร้างความสั่นสะเทือนให้ท้องทะเลแถบสุมาตรายาวถึง 1,000 กิโลเมตร

    [​IMG]

    เมื่อเกิดรอยแยกใต้ทะเล น้ำใต้ทะเลก็จะพยายามเข้าแทนที่รอยแยกดังกล่าว ส่งผลให้พื้นน้ำเกิดพื้นที่ น้ำจากบริเวณอื่นจึงไหลเข้ามาแทนอันทำให้เกิดคลื่นยักษ์พัดเข้าฝั่ง

    รอยแยกใต้ท้องทะเลนี้ลึกถึง 10 เมตร เมื่อเกิดรอยจึงทำให้น้ำทะเลลดฮวบแทรกตัวลงไปแทนที่รอยแยกดังกล่าวหลายร้อยลูกบาศก์กิโลเมตร

    และน้ำทะเลจากส่วนอื่นก็เทตัวเข้ามาแทนที่บริเวณผืนผิวจึงทำให้เกิดคลื่นยักษ์หรือซึนามิ ดังนั้นคลื่นที่เกิดขึ้นจึงพัดไปสู่ทะเลอินเดียอย่างรวดเร็วและรุนแรง

    [​IMG]

    จุดเกิดรอยแยกแบบชัด อันทำให้สะเทือนไกลไปถึงโซมาเลีย แอฟริกา

    แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้มีขนาด 8.9 ริกเตอร์นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี และได้สะท้อนไกลไปถึงทางตะวันออกของแอฟริกา



    ข้อมูลจาก
    สถาบันการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
    กรมอุตุนิยมวิทยา
    บีบีซี

    http://www.klangsmong.com/page.php?news_ID=21
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. ปรานต์

    ปรานต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +668
    ยุคอุตสาหกรรมทำลายทรัพยากร ทำร้ายโลกมามากพอแล้ว

    ได้เวลาเจ้าของเขาเอาคืนบ้าง
     
  18. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    In GOD's hand.


    อย่างมากก็แค่คาดคะเนช่วงเวลาได้ใกล้เคียงมากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถระบุพิกัดสถานที่ได้
    อย่างไรก็ตาม... คำว่า "วันโลกดับ" มองดู ฟังดูแล้วมันหนักไปหน่อย
    ยังไงๆเราก็ยืนยันว่าโลกยังไม่ถึงกาลเวลานั้นแน่นอน

    สิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้น ไม่ได้โต้แย้งว่าจะไม่เกิด เพราะมันต้องเกิดขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว
    เพียงแต่ในแนวทางธรรมชาติ ไม่เห็นว่าเป็นการทำลาย แต่มองเห็นเป็นกระบวนการปรับตัวเพื่อสร้างสรรค์สมดุลย์ที่เหมาะสมของดาวโลก
    ที่ว่า"ทำลาย"เราไม่เห็นธรรมชาติทำลายมนุษย์เลย มีแต่ให้ ไม่มีเงื่อนไข... เห็นก็แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ทำลายธรรมชาติ

    ผลกระทบจากภัยธรรมชาติจากดิน น้ำ ลม และไฟ ปั่นป่วนไปทั่วโลกในช่วงเวลาการปรับตัวเข้าสู่สมดุลย์ใหม่ เนื่องจากสมดุลย์เก่าได้สูญเสียเสถียรภาพ เพราะการเผาผลาญที่ไม่สำนึกถึงสมดุลย์โลกของเผ่าพันธุ์มนุษย์

    เตรียมตัวหลบหลีกหนี... เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่รู้ วัน เวลาและสถานที่แน่ชัด
    เตรียมใจพร้อม... เป็นไปได้และง่ายกว่า "มรณสติ" เหมาะสมอย่างยิ่ง
    ทำสิ่งที่คิดเห็นว่าควรทำเสียก่อนที่จะตายทีละอย่างๆจนเบาใจไม่ห่วงตาย นั่นแหละการเตรียมตัวพร้อม
    สำหรับความตาย ความฉิบหาย ความสูญเสีย ความจากพราก ฯ ... เป็นเรื่องปกติของชีวิต
    12 มิ.ย. ยังช้าเกินไปที่จะเตรียมตัวสำหรับความตายหรือมรณสติ ต้องเห็นว่ามันจะเกิดมะรืนนี้ พรุ่งนี้ หรือวันนี้โมงนี้ ถึงจะเรียกว่าเตรียมใจพร้อมได้มากจริง

    ทำสิ่งที่เหมาะสมและหรือปรารถนา ต่อคน สัตว์ สิ่งของ และสรรพสิ่งที่ท่านรัก เสียให้เร็วไวที่สุด
    ปฏิบัติหน้าที่ของผู้ที่มาเรียนรู้ขัดเกลาในโรงเรียนโลกให้พอเหมาะสมแก่ตนเอง
    เมื่อสิ่งที่ควรกระทำ ได้กระทำไปมากแล้ว... ความเบาใจก็จะเกิดขึ้นมากด้วย แล้วความพร้อมต่อความตายและความฉิบหายสูญเสียต่างๆก็จะพร้อมและหนักแน่นขึ้นด้วย


    ความตายของมนุษย์... มีเงื่อนไขมาจากการเกิด
    อะไรก็ตามที่ได้กำเนิดอุบัติขึ้น ย่อมมีกาละแห่งความเสื่อมสลายฉิบหายตายจากทั้งสิ้น

    จงอย่ากลัวความตายมากไปกว่าความโง่เขลาเลวทรามคับแคบในใจตน
    ร่างกายท่านทั้งหลายไม่สามารถหนีอำนาจแห่งความตายไปได้แน่แท้
    แต่ใจของท่านสามารถอยู่เหนือความตายได้ด้วยสติปัญญาที่รู้เท่าทันถึงความเป็นจริงของชีวิตและสรรพสิ่ง

    "มรณสติ" จะทำให้ท่านได้ตายก่อนตาย... ผู้ที่ได้ลิ้มรสความตายจาก"มรณสติ"อยู่เนืองๆ เสมือนได้รับดื่มน้ำทิพย์แห่งสติทุกวัน ความสดชื่นที่แท้จริงของชีวิตที่ตื่นด้วยสติ ย่อมสดชื่นแตกต่างจากชีวิตที่ว่ายวนอยู่ในความประมาทและความกลัว

    Do not be afraid... my friends.
    Dare to die like you dare to borned.
     
  19. huten

    huten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,808
    ค่าพลัง:
    +15,229
    ขอบคุณ ทุกๆท่านที่นำข่าวเตือนภัยพิบัติมาฝากค่ะ จะได้เตรียมตัวรับ
    ภัยที่จะมาถึง
     
  20. a-pin-ya

    a-pin-ya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +672
    <object width="640" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/DyAujPosS70&color1=0xb1b1b1&color2=0xd0d0d0&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/DyAujPosS70&color1=0xb1b1b1&color2=0xd0d0d0&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="385"></embed></object>
     

แชร์หน้านี้

Loading...