กิ๊ก มยุริญ แนะธรรมะ'พิมพ์'เผยทำคีโมครั้งสุดท้ายผ่านไปด้วยดี

ในห้อง 'บันเทิงและศิลปวัฒนธรรม' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 10 มีนาคม 2016.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    กิ๊ก มยุริญ แนะธรรมะ พิมพ์ เผยทำคีโมครั้งสุดท้ายผ่านไปด้วยดี


    [​IMG]


    ถือว่าผ่านไปด้วยดี สำหรับการทำคีโมครั้งสุดท้ายของสาว "พิมพ์ พิมพ์มาดา" เนื่องจากได้ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งรังไข่ระยะแรก งานนี้พอมีโอกาสได้เจอนักแสดงรุ่นพี่คนสนิท อย่าง "กิ๊ก มยุริญ" จึงไม่พลาดที่จะขออัพเดตอาการหลังจากได้ให้ยาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว โดย กิ๊ก ได้เผยว่า ตอนนี้อาการของพิมดีขึ้นมาก เป็นผู้ป่วยที่ไม่ดื้อยา แถมน้ำหนักยังเพิ่มขึ้นถึง 3 กิโลกรัม พร้อมบอกยาดีที่เธอได้แนะนำไปก็คือการนำธรรมะเข้ามาช่วยทำให้สภาพจิตใจดี ขึ้น ทั้งยังฝากขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งมาให้พิมอีกด้วย

    มีข่าวว่าจะบวชตลอดชีวิต?
    "ยังไม่ใช่นะคะ ขอแก้ข่าวนิดนึง ยังไม่บวชตลอดชีวิตแน่นอนค่ะ เพราะยังรู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลา"

    แต่ตั้งใจว่าจะบวช?
    "ตั้งใจค่ะ ตอนนี้มีความตั้งใจที่จะบวชมากๆ เลย มีความคิดมาตั้งแต่ปี 57 อยากจะลองซักครั้งหนึ่งในชีวิตของลูกผู้หญิง"

    โกนผมเลยไหม?
    "ใช่ค่ะ เป็นแม่ชีเลย"

    ได้ดูฤกษ์วันบวชหรือยัง?
    "ต้องเรียนว่ายังไม่ใช่ เร็วๆ นี้ 2 - 3 ปีนี้คิดว่ายังค่ะ เพราะว่ากิ๊กต้องปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน เพราะจะลาประมาณ 7 เดือนค่ะ มันค่อนข้างยาวนานนิดนึง ไม่อยากให้กระทบงานที่รับอยู่"

    รู้สถานที่หรือยัง?
    "มองเอาไว้แล้ว คิดว่าจะปฏิบัติที่ไทย 2 เดือน แล้วไปต่อที่พม่า พอดีข่าวออกไปแล้วเรายังไม่ทันตั้งตัว ยังไม่ได้คุยกับทางนั้นว่าจะไปบวชที่พม่าได้ไหม ต้องรอเวลาไปคุยก่อน"

    บวชนี้เพื่อคุณพ่อคุณแม่ด้วยใช่ไหม?
    "จริงๆ ตั้งใจอยากจะบวชเพื่อปฏิบัติธรรมยาวๆ แต่สำคัญสูงสุดคือ คุณพ่อคุณแม่กิ๊กไม่มีลูกผู้ชาย ก็อยากจะบวชให้คุณแม่ได้เกาะชายผ้าขาว ผ้าชมพูไป"

    คุณพ่อคุณแม่ว่ายังไงบ้าง?
    "ไม่ว่าอะไร ทุกวันนี้น้องสาวกิ๊กเขาบวชชีอยู่ บวชมาเกือบ 1 ปีแล้ว เขาก็กังวลนิดหน่อยว่าจะสึกเมื่อไหร่ ในกรณีกิ๊กเขาไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่เพราะไปแค่ 7 เดือน แต่ไม่ต่ำกว่านี้แน่นอน เพราะใช้ เลข 7 เป็นเลขมงคล แล้วยังมีกำหนดกลับแน่นอนด้วย แต่ยืนยันไม่อำลาวงการบันเทิงแน่นอนนะค่ะ"

    ถ้าไปบวช เราจะเป็นห่วงพ่อแม่หรือเปล่า?
    "ไม่ค่อยเป็นห่วงเท่าไหร่ เนื่องจากเขาดูแลตัวเองดีมาก และที่สำคัญกิ๊กแพลนอยากจะบวช เพราะไม่รู้ว่าเขาจะอยู่กับเราได้อีกนานแค่ไหน"

    ถามถึงเรื่อง พิมพ์ พิมพ์มาดา ให้กำลังใจเขาอย่างไรบ้าง?
    "ให้ กำลังใจพิมพ์ตลอดค่ะ พิมเป็นผู้ที่เคยป่วยที่สดใสร่าเริงมาก แม้ว่าก่อนหน้าที่จะไปปฏิบัติธรรม เขาอาจจะตกใจในช่วงแรกๆ แต่ว่าตอนหลังมีกัลยาณมิตรที่น่ารัก ค่อยเป็นกำลังใจ พิมพ์ก็ผ่านช่วงเวลานั้นไปได้อย่างเข้มแข็งและมีความสุขมากๆ หลายๆ ครั้งที่เราคุยกันพิมพ์ก็มีรอยยิ้มให้กิ๊กตลอด จะถ่ายรูปมาโชว์ตลอด"

    พิมทำคีโมครั้งสุดท้ายแล้วใช่ไหม?
    "ทำเรียบร้อยแล้ว ถามเขาก็บอกว่า เราสามารถอยู่กับเขาได้อย่างมีความสุข"

    มีแนะนำธรรมให้เขาไหม?
    "แนะนำอย่างแรง เพราะว่าตั้งแต่ทราบเลย เราก็มีโปรแกรมคอร์สปฏิบัติธรรมเลยชวนน้องไปเมื่อวันที่ 2 - 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นคอร์สที่เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นคอร์สอะไร พอไปถึงเขาก็ตกใจ ชื่อคอร์ส ''เผชิญความตายด้วยใจสงบ'' เราก็บอกเขาไปว่าพิมพ์มีความเจ็บป่วยทางร่างกาย พี่อยากให้ป่วยแต่กาย แต่ใจไม่ป่วยนะ ต้องบอกว่าพิมพ์มีพื้นฐานในด้านธรรมะที่ดีมากๆ แล้วเราก็อยากต่อยอดให้เขา เชื่อว่าทุกวันนี้น้องเข้มแข็งมาก เพราะมีธรรมะเป็นที่พึ่งค่ะ"

    หลังจากนี้จะมีชวนไปคอร์สอะไรอีกไหม?
    "มีค่ะ พอจบคอร์สที่ผ่านๆ มาแล้ว เขาก็บอกอยากไปปฏิบัติทำอีกนะ เป็นเสียงนางฟ้ามาก รู้สึกว่าสิ่งที่เราฝันไว้มันมาถึงแล้ว ตอนแรกที่เราทราบเรื่องว่าน้องไม่สบาย น้องก็ยังซึมๆ อยู่ เราก็บอกพี่ธงว่าธรรมะจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา ต้องค่อยๆ แล้วพอมาวันนี้ไอ้คำว่าค่อยๆ ก็ประสบความสำเร็จในขั้นต้นแล้ว น้องแฮปปี้กับธรรมะมาก จริงๆ แล้วความตายไม่ได้น่ากลัวนะ เพราะเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องเผชิญ"

    ตอนนี้สภาพร่างกายพิมพ์เป็นยังไงบ้าง?
    "น่าจะแข็ง แรงละค่ะ ล่าสุดที่ได้คุยกับน้องก็จะบอกว่า อาการก็มีแพ้บ้าง ที่ผ่านมาตอนที่เขาได้รับยา กิ๊กก็มีโอกาสได้ไปเยี่ยม เขาก็จะบอกเขาจะตัวร้อนๆ ต้องบอกว่าพิมพ์เก่งมากนะ เพราะหลายๆ คนให้ยาแล้วกินไม่ได้ แต่พิมพ์เป็นผู้ป่วยที่กินได้ ตอนนั้นที่คุยกันนำหนักขึ้นมา 3 กิโล น้องกำลังใจดีมาก ยิ่งตอนที่มาเป็นข่าว เขาบอกว่าขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชน และทุกๆ กำลังใจ มันเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีแรงสู้"

    ตอนนี้ผมขึ้นบ้างหรือยัง?
    "ต้องหลังจากให้ยาไปก่อนค่ะ เราก็บอกว่าสิ่งที่พิมพ์ทำเนี่ย กิ๊กอยากทำมากแต่เรายังไม่ได้ทำ (หัวเราะ) พิมพ์เป็นชีน้อยของพี่"

    เรียกว่าใจสู้?
    "ใช่ค่ะ ก่อนมีธรรมะน้องจะรู้สึกว่าทำไมต้องเป็นฉัน แต่เดี๋ยวนี้ น้องก็ให้สัมภาษณ์ว่าสามารถอยู่กับเขาได้อย่างมีความสุข อยู่เป็นเพื่อนกัน พอเราคิดได้อย่างนี้จะป่วยแต่กายแต่ใจไม่ป่วย ยอมรับ ธรรมชาติตามความเป็นจริง เพราะถ้าเรามีชีวิตอยู่แบบต่อต้านธรรมชาติเราก็จะไม่มีทางที่จะมีความสุขได้ เพราะเราไม่ยอมรับสิ่งที่เราเป็น การเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นเพราะธรรมดาของชีวิต"


    เครดิตภาพ IG: pimmada


    [​IMG]




    [​IMG]




    ที่มา ::
    news.sanook.com
     
  2. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    พี่กิ๊ก น่ารักอ่ะ


    <iframe width="853" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/AkeZxzq59cE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


    ช่วงชั่วโมงธรรมะปฎิบัติ ในเรื่อง "เรียนให้งามที่วาจา" สนุกกับธรรมในมาดนางร้ายแต่ใจดี "คุณกิ๊ก - มยุริญ ผ่องผุดพันธ์" ที่มาชี้แนะแนวทางความสำคัญของการใช้วาจาท­ี่งาม และในช่วงท้ายสนุกกับการทายภาพ เรียกว่า ชั่วโมงนี้ ต้ัองอมยิ้ม ไปพร้อม ๆ กับความรู้ด้านวาจากันทั้งชั่วโมงเลย
     
  3. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    <iframe width="960" height="720" src="https://www.youtube.com/embed/5GHBakIJtm0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


    เจาะลึกทุกเรื่องราวของ "กิ๊ก" มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ "สวยด้วยธรรมะ"
     
  4. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    <iframe width="853" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/Srcfa7CP-vM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    มูไนท์ 29 ธันวาคม 2558 (FULL) “กิ๊ก-มยุริญ” เผย พร้อมตายทุกเมื่อ
     
  5. ตารา

    ตารา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +23
    ขอบคุณนะค่ะชอบมากๆเลยค่ะ
    สาธุ.....อนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  6. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    <TABLE style="FONT-FAMILY: 'Times New Roman'; WORD-SPACING: 0px; TEXT-TRANSFORM: none; WIDOWS: 1; LETTER-SPACING: normal; TEXT-INDENT: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px" width=800 align=center> <TBODY> <TR> <TD width=793> กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ “ผู้หญิงสวยด้วยธรรมะ”

    เรื่องโดย สหัสวรรษ




    [​IMG]




    ที่ผ่านมาเราเห็น กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ สวมบทเป็นนางร้ายบ่อยครั้งจนพานคิดว่านอกจอเธออาจจะร้ายไม่แพ้กันแต่ผิดถนัด เพราะทันทีที่พบหน้า เธอก็ส่งยิ้มให้จนรับรู้ได้ถึงมิตรไมตรีอันอบอุ่น
    ที่สำคัญ รู้สึกว่าเธอสวยขึ้นทุกครั้งที่เจอ หรือจะจริงดังคำที่ว่า “ผู้หญิงสวยขึ้นได้ด้วยธรรมะ”
    “ความสนใจธรรมะเริ่มจากคุณพ่อแม่คุณแม่บังคับให้ไปปฏิบัติธรรมตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ท่านอยากให้ลูกหลานทุกคนมีธรรมะคุ้มครองจิตใจ จะได้ไม่ไปติดยาเสพติดหรืออยู่ในสังคมที่ไม่ดี ช่วงแรกยอมรับว่าไม่อินเลย ทำไมต้องมาบังคับให้ทำอะไรซ้ำๆ วิทยากรบรรยายว่า ที่ทำอยู่ดีมากเลย ได้บุญเยอะ แต่เราก็ไม่เข้าใจว่าแค่ทำอะไรช้าจะได้บุญได้อย่างไร
    “จนไปครั้งที่สองก็เริ่มรู้ว่าการทำอะไรช้าๆ เป็นอุบายอย่างหนึ่งที่จะทำให้เราเห็นสภาวะทุกอย่างตามความเป็นจริง ได้รู้ว่าที่เป็นทุกข์ก็เพราะจิตของเราวิ่งซนเหมือนลิงอยู่ตลอดเวลา มันชอบออกไปนอกตัว รับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างทางทวารทั้งหก คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ซึ่งเป็นรับทุกอย่างอยู่ตลอด เมื่อใดก็ตามที่เราเปิดประตูทั้งหกบานนี้โดยที่ไม่มีสติคุ้มครอง เราจะเป็นทุกข์เพราะสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาปรุงแต่งจิตใจเรา พอปฏิบัติช้า ๆ ตามที่ครูบาอาจารย์สอนก็ได้เห็นว่า จริงๆแล้วทุกอย่างที่เราเจอทุกวันนี้เป็นสภาวธรรมทำให้มองเห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ทำให้ปล่อยวาง ลด อัตตา และลดการยึดมั่นถือมั่นได้มากขึ้น
    ช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่น พอมาเจอธรรมะ หยุดชีวิตวุ่นวายทางโลกได้เลยหรือเปล่าครับ
    ก่อนมาปฏิบัติธรรม กิ๊กเป็นเด็กเรียบร้อยอยู่แล้ว แต่ดื้อเงียบ พ่อแม่สอนอะไรมา ก็ทำหูทวนลม จนไปปฏิบัติก็ลดตัวตนลง ฟังคนอื่นมากขึ้น ได้รู้ว่าที่ผ่านมาเราโง้ โง่ ที่เชื่อแต่ตัวเอง ทุกวันนี้ก็ยังโง่อยู่นะคะ แต่น้อยลง เรื่องหนึ่งที่รู้สึกว่าเราโง่ คือ สมัยเรียนเคยพยายามสูบบุหรี่ เพราะเห็นเพื่อนๆ ทำแล้วดูเท่ห์ เคยไปเที่ยวหัวราน้ำอยู่ 7 วัน แต่สุดท้ายต้องเลิกเพราะไม่สบาย จิตคนมันน่าสงสารนะคะ เพราะมักจะถูกครองงำด้วยความไม่รู้เสมอ โชคดีที่คิดได้ก่อน และไม่หลงมัวเมานาน
    ถึงตอนนี้ปฏิบัติไปถึงขั้นไหนแล้วครับ
    ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ในขั้นศึกษาอยู่ค่ะ มีอะไรเกิดขึ้น ที่จะทำให้โกรธหลง อิจฉา หงุดหงิด หรือไม่พอใจ ก็พยายามเรียนรู้ให้เท่าทันอาการของกายและใจที่เกิดขึ้น แต่ก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง
    ที่ทำประจำคือ ทำอะไรก็มีสติ เพราะการมีสติจะส่งผลให้จิตไม่ปรุงแต่งและไม่ฟุ้ง ก่อนสวดมนต์ กิ๊กจะกราบพระ 5 ครั้ง คือกราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มารดา และบิดาทุกภพทุกชาติ รวมถึงกราบครูบาอาจารย์ที่เคยสอนเราทุกภพทุกชาติด้วย วันที่มีเวลาหน่อย ตื่นขึ้นมาก็จะเดินจงกรมและนั่งสมาธิ ถ้าไม่มีเวลาก็ทำตอนเย็น หรือถ้าง่วงมากก็จะนั่งสมาธิอย่างเดียว พยายามที่จะเดินจงกรม นั่งสมาธิ และกำหนดอิริยาบถต่างๆ ทุกวัน ถ้าอยู่ในกองถ่ายก็จะหาที่ที่สงบนั่งสมาธิ บอกทีมงานว่าถ้าจะถ่ายให้มาเรียก

    คนในกองถ่ายมีแซวบ้างไหมคับที่เราสนใจธรรมะขนาดนี้
    ในกองถ่ายบางกองตอนรู้ว่ากิ๊กถือศีลห้า เขาก็ขำกันนะ หาว่าเชย ทำทำไม ไม่อินเทรนด์เลย แต่เรารู้ว่าเราทำไปทำไม ศีลแปลว่าปกติในระดับของฆราวาส พระพุทธองค์ให้ถือศีลแค่ห้าข้อ เราจึงถือว่าเราทำสิ่งปกติ แต่คนที่ไม่ทำกลับมองว่าเราผิดปกติ กิ๊กจะพิสูจน์ให้เห็นว่าแม้จะถือศีลห้า แต่ก็ยังใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันได้ ตอนปิดกล้องละคร เขาไปปาร์ตี้ กิ๊กก็ไป แต่ดื่มน้ำเปล่าและน้ำอัดลมแทนเหล้า กิ๊กสนุกกับเขาได้ แต่ก็รู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของเรา
    ตอนนี้คนที่ว่าเราเพี้ยนพอได้ปฏิบัติธรรม เขาก็รู้แล้วว่าธรรมะดีจริงๆ แต่ต้องใช้เวลานานมาก กว่าจะทำให้คนเห็นว่ากิ๊กไม่ได้เพี้ยน หรือถ้ายังมองวาเพี้ยนก็ยอม เพราะเป็นการเพี้ยนมาทำความดี ตอนนี้กิ๊กมีกัลยาณมิตรที่เป็นเครือข่ายธรรมะมากมาย เหมือนขาย MLM หรือไดเร็คท์เซลล์ ต่างกันแค่ของเราขายป็นบุญเท่านั้น
    การไปปฏิบัติธรรมก็ไม่มีการเรี่ยไรใดๆ ทั้งนั้น เพราะถ้าไปบอกเขาว่าต้องใช้เงิน ใครจะอยากไป งานก็ต้องลา เงินก็ไม่ได้ กิ๊กเลยออกเงินเอง ไม่ก็มีเพื่อนๆ ในกลุ่มกัลยาณมิตรช่วยกันออกค่าเดินทาง ค่ากินอยู่บางทีอยู่กันเจ็ดคืนแปดวันก็ต้องมีเจ้าภาพที่รับผิดชอบ แต่ทุกครั้งที่ต้องใช้เงิน ธรรมะจะจัดสรรให้ทุกครั้ง จะมีรายได้เข้ามาให้เราไปจัดคอร์สตรงนั้นได้เสมอ
    คอร์สที่จัดโดยมากเป็นของ คุณแม่ชีสิริ กรินชัย พาไปหลายที่แต่ช่วงนี้ไปที่ฉะเชิงเทราบ่อยหน่อย เป็นศูนย์ปฏิบัติธรมาชื่อ โพธิวัณณ ามีทุกอย่างและเปิดสอนกรรมฐานทั้งปี ถ้าโทรศัพท์ไปเช็คแล้วมีห้องว่างสามารถไปได้เลย ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

    มีรายไหนไหมครับที่เราแนะนำธรรมะให้แล้วเขาดีขึ้นจนรู้สึกประทับใจ
    บางคนมีปัญหากับพ่อแม่ พอไปปฏิบัติธรรมก็เข้าใจพ่อแม่มากขึ้น บางคนไปคอร์สปฏิบัติครั้งเดียว เลิกทั้งเหล้าและบุหรี่ ส่วนใหญ่จะมีความสุขในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น และเห็นคุณค่าของการเกิดเป็นคนมากขึ้น เคยมีสาวประเภทสองบางคน จากที่คิดจะแปลงเพศ พอมาปฏิบัติธรรมแล้วเปลี่ยนความคิดไปเลยก็มี เขาได้ข้อคิดว่า ที่เขาเกิดมาเป็นแบบนี้เป็นเพราะกรรมเก่าที่เคยเจ้าชู้ ผิดลูกเมียคนอื่น ชาตินี้แค่ตัวไม่ตรงกับใจก็ทุกข์ใจพอแล้ว ทำไมต้องไปทำให้ทุกข์กายอีก เมื่อคิดได้เขาก็ไม่ทำ เข้าใจว่าเกิดมาเป็นแบบนี้เป็นกฎแห่งกรรม

    ทุกวันนี้บาลานซ์ชีวิตทางโลกให้เข้ากับธรรมะอย่างไรครับ
    สีสันในชีวิตของกิ๊กหลังปฏิบัติธรรมก็ยังมีเหมือนเดิม เพียงแต่ไม่ได้ไปในที่อโคจรเท่านั้นเอง เรื่องอื่นๆ เช่น ไปเมืองนอก ไปทะเล ภูเขา หรืออยู่กับครอบครัว ก็ยังทำเป็นปกติ ยังทำหน้าที่ของการเป็นลูกที่ดี เพียงแต่การปฏิบัติช่วยทำให้เรามีสติมากขึ้น มีสุขก็ไม่หลงสุข มีทุกข์ก็ไม่หลงทุกข์ รู้ว่ามันคือธรรมชาติ เดี๋ยวก็หายไป

    หนุ่มๆ ที่เข้ามาจีบพิจารณาเรื่องธรรมะในตัวเขาประกอบด้วยหรือเปล่า
    คนมาจีบถ้าศีลห้าไม่ครบไม่ต้องมาคุยกัน ที่ผ่านมายังไม่มีเลยนะคะคนที่ถือศีลห้าครบเนี่ย คิดว่าถ้าไม่เจอคนที่ใช้ก็ไม่เดือดร้อน เคยสงสัยมาตั้งนานแล้วว่า ทำไมเราจะต้องทำตามสเต็ป ต้องเรียนหนังสือให้เก่งๆ ทำงานให้ได้เงินเยอะๆ แล้วแต่งงานมีครอบครัว มีลูก ชีวิตผู้หญิงมันแค่นี้เองเหรอ พอพบธรรมะก็รู้สึกว่าคนเราไม่จำเป็นต้องแต่งงานหรือมีลูก แค่มีธรรมะก็ถือว่าเป็นสิ่งสุดยอดในชีวิตแล้ว ไม่ได้บอกว่าชีวิตนี้จะไม่มีลูก ถ้าได้สามีที่ดีก็อาจจะมี แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เดือดร้อน คิดว่าบางครั้งการมีครอบครัวก็เป็นห่วง ที่ทำให้เราล่าช้าต่อการเดินไปสู่การสิ้นทุกข์ที่เป็นมรรคผลนิพพาน
    ที่คิดไว้ตอนนี้ก็คือ ขอให้ทุกภพทุกชาติเกิดมาแล้วได้เจอธรรมะ ให้ได้ไปถึงมรรคผลนิพพานเร็วที่สุด นิพพานคือสภาวะที่ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง เป็นสภาวะที่จิตหลุดจากกิเลสทั้งปวง เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่สภาวจิตที่ควรปฏิเสธ แต่เป็นสภาวจิตที่ควรเดินไปให้ถึง เพราะนี่คือความสุขที่แท้จริง
    ตราบใดที่ยังมีกิเลส มีโลภ โกรธ หลง ยึดมั่น ถือมั่น มีปัญหา มีอุปาททาน เราก็จะยังเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จักจบสิ้น ศัตรูที่ร้ายที่สุดของคนเราไม่ใช่ใครอื่น แต่คือกิเลส เวลาเห็นนักการเมืองบางคนทำอะไรไม่ดี กิ๊กถือว่าเขาเป็นครูอาจารย์ เพราะทำให้เราได้เห็นว่าผลของการทำไม่ดีมันทำให้ทุกข์อย่างไร อยากให้เขารู้ธรรมะ ถ้ามีเวลาก็จะแผ่เมตตาให้เขา ขอให้เขามีสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นที่ถูกต้อง และกลับตัวเป็นคนดี ใช้สิ่งที่ตัวเองมีก่อประโยชน์ให้สังคมหลายคนเวลาเห็นคนล้มแล้วชอบเหยียบ อยากให้คิดเสียใหม่ ให้มองว่าเป็นเพราะเขารู้ไม่เท่าทันกิเลสในใจเขา ซึ่งน่าสงสารมาก
    ถ้าสุดท้ายเลือกที่จะอยู่เป็นโสดจริงๆ ทางครอบครัวไม่ว่าหรือครับ
    พ่อนี่เฉยๆ แต่แม่จะพูดบ่อยๆ ว่าคนเราต้องมีครอบครัว เคยบอกแม่ว่าคนเราความตั้งใจมันต่างกัน การจะไปถึงนิพพานได้ถ้าไม่ได้ครอบครัวจะดีกว่า อย่างพระพุทธเจ้าก็ยังทรงทิ้งทุกอย่างเลย ตอนแรกเหมือนแม่จะไม่เข้าใจ แต่ล่าสุดหลังกลับจากอินเดียก็ดูมีศรัทธามากขึ้นตอนนี้กิ๊กพยายามพาท่านไปปฏิบัติมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ท่านเห็นว่ามรรคผลนิพพานมีจริง
    ธรรมะของกิ๊กส่วนใหญ่เน้นการปฏิบัติ เพราะพระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่ใต้ต้นโพธิ์ ท่านไม่ได้อ่านหนังสือแล้วบรรลุธรรม แต่เกิดจากการปฏิบัติแล้วบรรลุธรรม เพราะฉะนั้นทุกอย่างค้นพบได้ด้วยตัวเราเองไม่ต้องอ่านมากก็ได้ เพราะความรู้มาก ตัวตนอาจจะมาก แต่เรื่องนี้แล้วแต่คน จริตใครจริตมัน ท้ายที่สุดใครก็ตามที่สามารถน้อมนำธรรมะมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ถือว่าดีหมด

    ถ้าถามว่าอะไรคือเป้าหมายในชีวิต
    เป้าหมายสูงสุดไม่ใช่การบวชโกนหัว แต่คือการบวชใจ วันหนึ่งวันใดถ้าถึงเวลาก็ขอให้ได้ไปถึงนิพพาน เมื่อไรก็ตามนั้น ตอนนี้ยังใช้ชีวิตทางโลกอยู่ก็ใช้ไป แต่จะใช้ชีวิตทางธรรมควบคู่ไปด้วย วันใดหน้าที่ทางโลกอยู่ก็ใช้ไป อาจจะหันเหไปอยู่กับธรรมะมากขึ้น ช่วยเผยแผ่พุทธศาสนามากขึ้น แต่ก่อนที่จะเผยแผ่ ก็ขอให้ได้รู้ธรรมะจริงๆ เสียก่อน ตอนนี้รู้สึกว่าเรายังรู้แค่ส่วนหนึ่ง ยังไม่ถึงขั้นที่จะไปสอนใครให้รู้จริงได้ แค่สร้างศรัทธาให้คนมาปฏิบัติมากขึ้น แต่ถ้าเป็นการชี้ทางพ้นทุกข์ยังทำไม่ได้ แต่ถ้าเก่งแล้วก็อยากจะช่วยคน
    เวลาชวนใครไปปฏิบัติธรรม หลายคนมักจะบอกว่า รอให้กิเลสหมดก่อนค่อยไป แต่กิ๊กอยากบอกว่า อย่ารอเลยค่ะ กิเลสไม่มีวันหมดหรอก เพราะถ้าหมดกิเลส เราจะไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว ที่อยากให้ลองปฏิบัติธรรม เพราะช่วยให้มีความสุขทางใจ แค่ใจเปลี่ยน ทุกอย่างรอบตัวจะเปลี่ยนหมดเลย ใจที่มีความสุข จะมองทุกอย่างอย่างมีความสุข ส่วนใจที่มีความทุกข์จะมองทุกอย่างเป็นทุกข์หมด แล้วธรรมะนี่แปลกมาก กิ๊กเคยจัดคอร์ส คนที่ไปครั้งแรกหน้าดำมาก แต่พอปฏิบัติแล้วหน้าใสมาก เรียกว่าหน้าใสโดยไม่ต้องรองพื้นเลย ถ้าไม่เชื่อก็ต้องพิสูจน์บางคนเปลี่ยนทั้งสีหน้า แววตา และพฤติกรรม
    ใครอยากสวยหรืออยากหล่อแบบธรรมชาติ ให้ลองปฏิบัติธรรมผลของการปฏิบัติรับรองว่าดีกว่าครีมยี่ห้อดังยี่ห้อไหนๆ เสียอีก ที่สำคัญคือไม่เสียเงินค่ะ (ยิ้ม)

    จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ
    จิตที่ฝึกแล้วนำสุขมาให้

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา ::
    http://www.kanlayanatam.com/sara/sara239.htm
     

แชร์หน้านี้

Loading...