การจะใช้คาถาให้ขลังขึ้นอยู่กับ..........

ในห้อง 'รวมบทสวดมนต์และคาถา' ตั้งกระทู้โดย กาฝากรัก, 2 มกราคม 2012.

  1. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    จะใช้คาถาให้ขลังต้องมีฌานด้วยหร่าคับยังมีปัจจัยอืนอีกไม่ แล้วถ้ายังไม่ได้ครอบครู คาถาจะไม่ขลังจิงไม ผมยังไม่ครอบครู แต่ผมก็ใช้คาถาบูชาครู สรรเสริญครู ชุมนุมครู แล้วก็ ผูกมนต์ เข้าตัวแล้วแบบนี้ถือว่ามีครูหร่ายังคับ แล้วก็ขอคาถาขอขมาครู ด้วยครับ พอดีโมโหจัด พรั่งปาก ด่าแม่คนอื่น ไป อะครับ ขอความกรุณาด้วยนะครับ อนุโมทนา สาธุ
     
  2. Darkever

    Darkever เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +333
    ทำไมคุณไม่ลองละ.....
     
  3. คุแมน

    คุแมน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +34
  4. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    ลองไปผิดๆถูกเดี่ยวจะกลายเป็นการลบหลู่ครู ท่านเสีย เปล่า พูดง่ายๆก็ผิดครูอะละ ครับ อีกอยางนึ่งผมเคยได้ยินกันมาว่าคาถาเขามีไว้เพื่อใช่ป้องกันตัวเองละช่วยคนอื่นห้ามมิให้ใช่ลองเล่นเด็ดขาด พอถึงเวลาใช่ก็ใช่แล้วก็จะรู้ด้วยตัวเอง ที่ผมอยากทราบก็คือทำยังไงให้คาถามีความขลังขึ้น ก็ทำนั่นละครับ
     
  5. timezone

    timezone สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +3
    คาถาที่คุณกล่าวมานั้นครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิ์จะเป็นผู้กล่าวเวลาไปครอบครูบาอาจารย์จะต้องเป็นฝ่ายประสิทธิ์มอบให้คุณ
    ต้องจัดเครื่องบวงสรวงครูบาอาจารย์ ตามหลักคณาจารย์นั้นๆตามประเพณีไสยศาสตร์เขาถือว่าสำคัญเป็นอย่างมากต้องมีครูบาอาจารย์ประสิทธิ์ให้ไม่ใช่นั้น เขาเรียกว่าเรียนไม่ติด คือใช้ไม่ได้ผลนั่นเองเรียนคาถาอาคมอย่าทำเป็นเล่นโดนอาถรรพ์วิชาเล่นงานชีวิตตกลงย่ำแย่อย่าทำเป็นเล่นไปเลยครับทางที่ดีเข้าหาพระที่มีวิชาไปขอกราบเป็นศิษย์ท่านจะดีกว่าครับว่ากันตามหลักที่ถูกต้องอย่าไปคิดเองมั่วซั่ว
     
  6. timezone

    timezone สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +3
    หลักสำคัญของไสยศาสตร์คือ วิชา ครูบาอาจารย์ สมาธิกระแสจิตของตัวเรา
    ใครที่มันบอกไม่ต้องมีครู นั่งเอง ปฏิบัติเองจนได้ณาน แสดงว่าผู้นั้นไม่ได้มีความรู้ทางไสยศาสตร์หรอกครับ
    เป็นประเภทอ่านมาพูดซะมากกว่า เพราะแค่ประเพณีพิธีกรรมยังไม่รู้เรื่องโบราณจารย์เขาสืบทอดกันอย่างมีแบบแผนเหมือนกันหมดไม่ว่าหลวงพ่อเกจิองค์ใด ก็ต้องยึดถือหลักปฏิบัติเดียวกันทั้งสิ้น
     
  7. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    ขอบพระคุณเป็นอยางสูงครับ ไม่กี่วันนี้ผมก็จะไปครอบครู กับท่านอาจารณ์ ที่สำนักของท่าน แล้วละท่านบอกท่านขอดูวันก่อนผมตื่นเต้นมากๆเลย
     
  8. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    จิงๆผมก็สักยันต์ สักยันต์ครู พ่อแก่ หนุมารนำทัพ แล้วก็นิลพัท อะครับ ท่านอาจารณ์เคยสอนผมว่า( อย่าหาว่าตัวเองฟันแทงไม่เข้าแล้วอย่าไปอวดเก่ง ของก็ไม่ต้องไปปลุกถึงเวลาเขา จะช่วยเราเอง) คำสอนของท่านทุกคำผมจำได้เสมอ
     
  9. คุแมน

    คุแมน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +34
    ความเชื่อแบบเก่า วิทยาการคาถาถึงได้ ตกต่ำลงทุกวันๆ ของจริงต้องทดสอบทดลองได้จึงจะพัฒนา หลักไสย์ศาสตร์เวทย์มนต์คาถา ก็ไม่ต่างจากหลักวิทยาศาสตร์ตรงที่มีหลักการเหตุผลทดสอบทดลองพิสูตร์ได้ เพราะ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วเกิดมาอย่างมีเหตุผลและหลักการในตัวเอง เมื่อใดที่ทดสอบทดลอง ไม่ได้ หรือ ห้ามทดสอบทดลอง เมื่อนั้นวิทยาการคาถา ก็มีแต่ถอยหลังล้าหลังลงทุกวันๆ จนแทบจะหายสาปสูญจนถึงทุกวันนี้เพราะความเชื่อ เก่าๆ ของดีห้ามทดสอบทดลอง มีแต่ความเชื่ออย่างเดียว ขาดซึ่งการทำความเข้าใจอันถ่องแท้ เพื่อพัฒนาเหมือนดังวิทยาการวิทย์ศาสตร์ ที่ทดสอบทดลอง พัฒนาเพียงไม่กี่10ปีก็สามารถ แซง หน้า โลกไสย์ศาสตร์ได้อยางสบายๆ
     
  10. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    ไม่ได้จะเถียงความคิดพี่นะ แต่เรื่องของอย่างนี้นะมีจิงแน่นอนคับพี่ ผมเห็นมากับตาเลยตอนอาจาร์ยผเอามีดเฉียดบนร่างของเพื่อนผมแต่ไม่มีแม้แต่ถลอกทั่งที่มีดของอาจาร์ยคมกริบเลยนะพี่ การที่คนธรรดาอยางเราๆจะแสดงอิทริฤปฎิหารได้นั่นต้องมีฌานอยางน้อยที่สุดก็ต้องฌาน2ถึงจะกระทำได้แต่ก็ห้ามมิให้ใช้เพื่อโอ๋อวดโดยเด็ดขาดมีไว้เพื่อป้องกันตัวเท่านั่นนี่เป็นวิชาพุทธคุณ ถ้าพี่อยากเห็นผลก็ต้องใช้มนต์ดำแล้วละหรือที่เรียกอวิชาอะละวิชาจำพวกนี้ผู้ใช้จะต้องรับกำของตนเองในนรกเช่นวิชาทำเสน่ห์ วิชาเสกตะปูเข้าท้องใช้ผีไปทำร้อยคนหาคนใช้ยาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2012
  11. timezone

    timezone สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +3
    ทำไรได้บ้างล่ะสมเพียร
     
  12. คุแมน

    คุแมน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +34
    สิ่งเหล่านี้มันขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ไม่ว่าวิชาเทพ หรือ มาร ใช้ทางดีก็เป็นเทพ ใช้ทางชั่วก็เป็นมาร
    ถ้าใครดูคลิบอาจารย์หนู ก็จะเห็นว่า ก่อนทำการเฉือน จะทดสอบความคมโดยการโกนขนหน้าแข้งก่อน และ อาจารย์เกจิบางท่าน จะตัดผ้าตัดกระดาษ ซึ่งคนเล่นกลเทคนิคหลอกลวงก็ทำได้ อย่างอาจารย์หนู ใช้เทคนิคอะไรไม่ทราบแน่แต่ มีจุดหนึ่ง คือ การเลือกมีดคัดเตอร์ที่แกะจากกล่องนานมากพิเศษจนน่าสงสัย และท่านอาจารย์ท่านนึ่งที่เอามีดกีดหลังตะกุยหลายทีไม่เข้าแต่ เลือดซึม ถ้าเราพิจารณาเทคนิคความคมมีด ดีๆ ก็จะสามารถเข้าใจได้ว่า อย่างไร แต่ถ้าจะคิดว่าของอาจารย์ที่คุณบอกว่าเป็นจริง ผมไม่เถียงว่าเป็นของปลอม แต่สิ่งเหล่านี้มันสมควรที่จะทำได้ และ ควรจะทำได้ดีกว่านี้ ไม่ใช่100 ปี ผ่านไปก็ทำได้แค่นี้ แบบนี้เรียกว่า วิทยาการล้าหลัง เอามากๆ

    แต่ถ้าคุณหรือใครๆเถียงว่า แค่นี้ทำให้ได้ซะก่อนเหอะ แค่นี้ยังไม่มีปัญญาทำได้ ยังจะมีหน้ามาเพอเจอ อีกหรือ ถ้าพวกท่านคิดแบบนี้ วิทยาการแวดวงไสย์เวทย์คาถา ก็จะ ล้าหลังยิ่งๆขึ้นไป ส่วนวิทยาศาสตร์ก็จะก้าวไกลไม่หยุดยัง

    ส่วนการที่เราจะใช้คาถาได้ต้องให้ได้ฌาณขั้นนั้นขั้นนี้ ก่อน ผมไม่สนใจ เพราะ การฝึกฝนเทคนิควิธี แม้ไม่มีชื่อเรียกขั้นตามศาสนา แต่ก็สามารถเทียบเท่ากันได้ โดยที่คนใช้เองไม่ทราบว่าได้ฌาณชั้นสูงโดยไม่รู้ตัวด้วยซำ และการฌาณ ขั้นนั้น ขั้นนี้ แล้วจะสามารถใช้คาถาระดับนี้ระดับนั้นได้ จริง ป่านี้ก็ต้องมีข่าวขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์กันแล้ว รับรองนักข่าวไม่ปล่อย อย่างเด็กชายปลาบู่อย่างแน่นอน แต่นี่ไม่ใช่ไม่มีเพราะ พระอาจารย์เกจิแต่ละท่านไม่อยากแสดง หรือ ว่าไม่มีเกจิท่านใดทำได้กันแน่ มีทั้งท่านที่กลัวหน้าแตก ลูกศิทย์เสื่อมศัจธาซะมากกว่า
    สิ่งเหล่านี้ แสดง ถึง ความล้มเหลว ล้าหลังถดถอย ของ วิทยาการเวทย์มนต์คาถา ของวงการ นักเวทย์ ขนาดไหนแล้ว

    แล้วแบบนี้......

    เราท่านทั้งหลายควรจะคิดได้แล้วว่า ควรจะทำความเข้าใจพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นไปหรือ ปล่อยให้ คงสภาพ ล้าหลัง ล้มเหลวยิ่งๆขึ้น ยิ่งกว่านี้ต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2012
  13. คุแมน

    คุแมน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +34
    สี่คนหาม ตาสว่างได้แล้ว
    อย่าจองเวรจองกรรม ต่อ ผู้มีพระคุณ เลย
    เปิดหูเปิดตาได้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2015
  14. คุแมน

    คุแมน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +34
    เอาหละผมจะให้ความกระจ่างทางความคิดคุณ สี่คนหาม<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5526008", true); </SCRIPT> เผื่อท่านจะคิดในสิ่งที่ถูกที่ควรจะเป็นไปในทางที่ จะเป็น เพื่อพัฒนาต่อไป เป็นข้อๆไป
    ประสิทธิ์มอบให้คุณ
    ถ้าพูดถึงเรื่องมอบประสิทธิ์ ให้ศิทย์ แล้วจึงจะทำได้ตามอย่างอาจารย์ จิงหรือต้องการแค่นั้นเองหรือไม่หวังความก้าวหน้ามากกว่านี้หรือไร สิ่งที่คุณกล่าวมา ซึ่งผู้ที่เรียนส่วนใหญ่ ใครๆก็ต้องได้รับมอบทั้งสิ้น แต่มอบแล้วเป็นอย่างไร ทำได้เท่าที่อาจารย์ทำได้หรือด่อยกว่า ทำได้แค่นี้เองหรือ ท่านสังเกตให้ดีและทำความเข้าใจ เมือ 100 ปีก่อน ก็ทำได้แค่นี้ แถมน้อยคนด้วยซำ แล้วท่านคิดได้จะเอาแค่นี้หรือ


    ส่วนเรื่อง การโดนอาถรรพ์วิชาเล่นงานชีวิตตกลงย่ำแย่ นั้นขึ้นอยู่กับการกระทำ ด้วยจิตที่คิดคดการกระทำของตนซะมากกว่าจึงจะทำให้ตนเข้าสู่วิบัติ วิชาใดๆ ไม่อาจทำให้คนตกตำได้ ถ้าตนไม่กระทำซะเอง เขาเรียกว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว คิดดีย่อมได้ดี การจะมาโทษวิชาทำให้ตน วิบัติ จึงไม่ถูกต้องถ่องแท้ควรทำความเข้าใจซะใหม่ อย่าเอาแต่เเช่งตนเองอีกเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2012
  15. คุแมน

    คุแมน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +34
    ส่วนเรื่องหลักไสย์ศาสตร์
    หลักไสย์ศาสตร์ แท้จริง อย่างที่คุณว่า ถูกต้อง หรือ ไม่ ไม่อาจ พิสูจน์ได้ แต่ที่แน่นอน คือ ใครๆก็รู้แทบไม่แตกต่างของท่านใดๆเลยแถมไม่ครบ อีกตางหาก แต่ที่คุณบอก ไม่ต้องมีครู ทำเองจนได้ฌาณ ว่า ผู้นั้นไม่ได้เรื่อง อ่านมาพูดซะมากกว่า เพราะแค่ประเพณีพิธีกรรมยังไม่รู้เรื่องโบราณจารย์เขาสืบทอดกันอย่างมีแบบแผนเหมือนกันหมดไม่ว่าหลวงพ่อเกจิองค์ใด ก็ต้องยึดถือหลักปฏิบัติเดียวกันทั้งสิ้น<!-- google_ad_section_end --> ผมว่าที่คุณว่าไม่ได้เรื่อง อ่านเขามา คงไม่ใช่ เพราะ ที่ไม่ได้เรื่อง ก็คือ ขาดผู้ชี้แนะ ซะมากกว่า ส่วนการยึดประเพณี พิธีกรรม โบราณ อย่างมีแบบแผน หลวงพ่อเกจิองค์ใดๆก็ทำตามมา ท่านคงไม่เข้าใจ คำว่า ความเชื่อแบบผิด ต่อให้สืบทอดกันมา หลายอายุคนสืบทอดกันมามันทำอย่างไรก็ไม่มีถูกต้อง ถ้าไรซึ่งการไตร์ตรอง ด้วยสมองและการกระทำทดสอบทดลองที่ได้ผล เหมือนดังกรรมกร ที่สืบทอด สั่งสอนจากหัวหน้ากรรมกร สอนสั่งตามกันมาตามความเชื่อและหลงตน รู้ดีกว่าวิศวกร ที่เรียนรู้ จากสถาบันที่ทดสอบทดลอง ที่มีมาตรฐานใบประกอบวิชาชีพระดับประเทศ มาแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2012
  16. timezone

    timezone สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +3
    ดีครับดีเรียกได้ว่าเป็นศิษย์มีครูเหมือนงูมีพิษ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณแล้วว่าจะสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งของแบบนี้
    มันขึ้นอยู่กับความเพียร ทำจริง ก็ได้จริงครับที่สำคัญ พอทำได้แล้วก็อย่าทะนงตัว อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง ครูบาอาจารย์ท่านเก่ง เราไม่ได้เพียงเศษขี้ตีนของท่าน ทำอะไรให้นึกถึงครูบาอาจารย์สำเร็จได้เพราะคุณครูบาอาจารย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 มกราคม 2012
  17. timezone

    timezone สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +3
    แล้วแต่คุณเถอะสมเพียรคุณทำตามสิ่งที่คุณคิดว่าถูกต้องละกันนะ

    ผมทำให้สิ่งที่ผมได้รับสืบทอดมาจากครูบาอาจารย์ ถึงแม้คุณคิดว่ามันจะผิดมันจะล้าหลังไม่ทันสมัยผมก็จะขอทำตามนี้ขอเดินตามทางที่ครูอาจารย์ได้ชี้นำ

    ผมไม่ต้องการมาเถียงคุณเอาโล่กับคุณ แต่ผมมาชี้แนะคนที่เขาสนใจให้รู้จักพิธีกรรม รู้จักขั้นตอนประเพณีขั้นตอนทางไสยศาสตร์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 มกราคม 2012
  18. คุแมน

    คุแมน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +34
    ความเชื่อพิธีกรรมดังว่า พระเกจิดังๆสืบต่อกันมา ต้องผ่านมาหมด ซึ่งแต่ละท่านทำได้แค่ไหนไม่ทราบ แต่ที่ดังๆ ระดับประเทศ ครั้งเมื่อ จตุคราม พระเกจิกระทำการปลุกเสก โชว์ปฏิหารเก่งแค่ไหน ล้วนแล้วแต่ล้มเหลวไม่เป็นท่า ซึ่งแต่ละท่านก็ตั้งพิธีเหนือกว่าที่ท่านว่าด้วยซำ เป็นความเชื่อที่ คุณว่าทั้งสิ้น แล้วก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะมัวแต่หวังพลังเทพ พลังครูใดๆมา ช่วยแต่ไม่รู้จักพัฒนาพลังตน เรียนรู้ทำความเข้าใจอย่างจริงจัง
    ท่าน สี่คนหาม ท่านก็เห็นและรับรู้ข่าวมามากพอแล้ว ทำไมท่านยังมีความเชื่อเหมือนชาวบ้านผู้โง่เขลา เช่นนั้นอีกหรือ
     
  19. timezone

    timezone สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +3
    ผมเชื่อเพราะว่าแต่ละท่านเขาก็เก่งกว่าคุณนะ

    ผมได้บอกไปแล้วว่าผู้เรียนวิชาอาคม ต้องมีพื้นฐานจิต วิชา และ ครูบาอาจารย์ มัวแต่นั่งเป่าเป็นหมื่นจบ ลมหมดตูดกันพอดีนะท่านสมเพียร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 มกราคม 2012
  20. คุแมน

    คุแมน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +34
    คนไหนหละ หรือ เห็นใครดัง คุณก็อ้างเป็นอาจาน ซะหมด ผมจะไปรู้ได้ไง ว่าคนไหน จะเก่งกว่าผม คนเก่งจริงไม่จำเป็นต้องอ้างอาจารย์ให้ใครมาเคารพหลอก
    ไอ้พวกที่ชอบอ้างบารมีอาจารย์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกไม่เอาถ่าน ตั้งใจจะมาหากินมากกว่า


    55555 สอนเด็กเหอะ คนเรียนด้านนี้มาเป็นสิบๆปี จะไม่รู้เรื่องเลยเหรอ แกล้งโง่หรือเปล่า อย่าเอาวิชาหมาๆของอาจารย์ทนายมาใช้สิ ออลืมไปว่าไม่ใช่วิชาของอาจารย์
    ไอ้เราก็บอกย้ำแล้วย้ำอีกว่า ให้ทำความเข้าใจ มันก็ยังยำว่าท่องเป็นหมื่นรอบ
    ถ้าสมองเสือมนักจะเอามาให้อ่านอีกทีแล้วกัน
    นี่เป็นข้อความที่ผมพูด มีตรงไหนให้ท่องเป็น1000เป็น10000
    แค้นเขามากแล้วมาลงที่ผม แบบนี้เข้าขั้นโรคจิตแล้วนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...