วิสัยของพระอริยบุคคล กับ ปุถุชน จะต่างกันมากหรือน้อย อย่างไร?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นิพพิชฌน์55, 18 เมษายน 2016.

  1. phodej

    phodej เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +300
    ...ต่างหรือไม่ต่างขึ้นอยู่กับการบำเพ็ญบารมีมาของแต่ละท่าน...

    ******************

    (ไม่แน่ใจว่าเข้าใจเจตนาการตั้งคำถามของ จขท. ถูกหรือไม่) เมื่อเจ้าของกระทู้ถามแบบอ้างปริยัติ จึงขอพูดแบบอ้างปริยัติเหมือนกันนะครับ (ให้คนอ่านใช้สติปัญญาของตนพิจารณาใคร่ครวญเอาเอง)...

    1. พระสารีบุตร เป็นพระอรหันต์หมดกิเลส (เก่งด้านปฏิบัติ) ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่ามีสติปัญญาเป็นเลิศเหนือสาวกทั้งหมด (เก่งด้านทฤษฎี) เป็นรองแค่พระพุทธองค์ เช่น สาวกองค์อื่นคิดเรื่องเดียวกันได้เพียงแง่มุมเดียวหรือ 2-3 แง่มุมเท่านั้น ท่านสามารถมองเห็นตั้งพันความหมาย พันแง่มุม

    2. พระมหากัจจายนะ (ไม่แน่ใจว่าจำชื่อท่านถูกหรือเปล่า ?) เป็นพระอรหันต์หมดกิเลส ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่า สามารถแสดงธรรมที่ย่นย่อให้มีความละเอียดพิสดารได้

    3. พระโปฐิลเถระ (สมัยยังเป็นเจ้าสำนักใหญ่) เป็นเพียงพระปุถุชน (จนถูกพระพุทธเจ้าเรียกว่า "ท่านคัมภีร์/ใบลานเปล่า") สอนลูกศิษย์ลูกหาจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์หมดกิเลสมากมายจนนับไม่ถ้วน (แต่อาจารย์ผู้สอนยังเป็นปุถุชน)

    4. พระยามิลินท์ หรือ Menander (กษัตริย์เชื้อสายกรีก มีชีวิตอยู่ในสมัยหลังพุทธปรินิพพานประมาณ 3-4 ร้อยปี) แตกฉานด้านหลักธรรมคำสอนและทฤษฎีต่าง ๆ ทางศาสนา ชอบไปสนทนาและซักถามปัญหาเกี่ยวกับหลักธรรมคำสอนกับนักบวชต่าง ๆ จนบ้านเมืองของพระองค์ไม่มีพระสงฆ์องค์เจ้ากล้าสนทนาด้วย ต้องหลบหนีไปหมด (กลัวจะถูกพระองค์ไปพูดคุยสนทนาด้วย)... พระยามิลินท์ เป็นปุถุชนเต็มตัวแถมยังเป็นคฤหัสถ์ที่อยู่ครองเรือนนอนกอดลูกกอดเมียอยู่ในวัง แต่สติปัญญาแตกฉานในหลักธรรมคำสอนทางศาสนาต่าง ๆ เหนือกว่านักบวชสมัยนั้น มีเพียงพระนาคเสนองค์เดียวที่สามารถมาหยุดความซ่า (เขียนเอาฮาครับ) ของพระองค์ได้...

    *********

    ...ยกตัวอย่างให้ดูพอสังเขปเท่านี้นะครับ ที่เหลือขอให้ใช้สติปัญญาของแต่ละท่านพิจารณากันเอาเอง...
     
  2. นิพพิชฌน์55

    นิพพิชฌน์55 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2016
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +31
    ขอบคุณมากครับผม เป็นประโยชน์มากมายทีเดียวครับ แทบจะทุกตัวอย่างก็ว่าได้ในประเด็นคำถามที่ผมตั้งคำถามไป ชัดเจนมากครับ ...

    แต่ขอขัดแย้งบางความเข้าใจให้ท่านทั้งหลายพิจารณาช่วยด้วยละกันครับ ซึ่งผมไม่เห็นด้วยอย่างแรงกับความเข้าใจตรงนี้ คือ พระโปฐิลเถระเป็นเพียงพระปุถุชน (จนถูกพระพุทธเจ้าเรียกว่า "ท่านคัมภีร์/ใบลานเปล่า") สอนลูกศิษย์ลูกหาจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์หมดกิเลสมากมายจนนับไม่ถ้วน (แต่อาจารย์ผู้สอนยังเป็นปุถุชน) แย้งเฉพาะตรงสีนี้นะครับ เนื่องจากมันขัดกันกับที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า "ต้องไปอยู่ในสำนักกับอาจารย์ที่รู้มรรคผลนิพพานจริงเท่านั้น จึงจะสอนถูก" นั่นเอง ... ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่อาจารย์ไม่บรรลุอะไรจะทำให้ลูกศิษย์เป็นพระอรหันต์ได้ หรือท่านเห็นว่าไงครับ
     
  3. phodej

    phodej เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +300
    ...แต่ขอขัดแย้งบางความเข้าใจให้ท่านทั้งหลายพิจารณาช่วยด้วยละกันครับ ซึ่งผมไม่เห็นด้วยอย่างแรงกับความเข้าใจตรงนี้ คือ พระโปฐิลเถระเป็นเพียงพระปุถุชน (จนถูกพระพุทธเจ้าเรียกว่า "ท่านคัมภีร์/ใบลานเปล่า") สอนลูกศิษย์ลูกหาจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์หมดกิเลสมากมายจนนับไม่ถ้วน (แต่อาจารย์ผู้สอนยังเป็นปุถุชน) แย้งเฉพาะตรงสีนี้นะครับ เนื่องจากมันขัดกันกับที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า "ต้องไปอยู่ในสำนักกับอาจารย์ที่รู้มรรคผลนิพพานจริงเท่านั้น จึงจะสอนถูก" นั่นเอง ... ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่อาจารย์ไม่บรรลุอะไรจะทำให้ลูกศิษย์เป็นพระอรหันต์ได้ หรือท่านเห็นว่าไงครับ[/QUOTE]....

    ***********

    ....(พูดให้ลองนำไปพิจารณาเฉย ๆ นะครับ ไม่ใช่ตอบคำถามข้างต้นนั้นแต่อย่างใด)... คนตาบอดถือตะเกียง หรือโคมไฟ คนตาดีย่อมมองเห็นหนทางได้... สัตว์เดรัจฉาน (ส่วนใหญ่) ไม่เคยเห็นค่าหรือประโยชน์ของเพชรนิลจินดา และทรัพย์สมบัติต่าง ๆ แต่พวกมนุษย์ฆ่ากันตายเพราะแย่งเพชรนิล จินดา และทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ฯลฯ (บุคคลที่บรรลุมรรค-ผลต่าง ๆ บางท่านก็ไม่ได้แตกฉาน (ปฏิสัมภิทา) ท่านไม่มามัวเถียงอะไรกับปุถุชนให้มากความหรอกครับ... พอแค่นี้นะครับ ไม่อยากอธิบายไปมากกว่านี้ - ผมยังเป็นปุถุชนนะ เดี๋ยวมีคนเข้าใจผิด)...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2016
  4. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ....

    ***********

    ....(พูดให้ลองนำไปพิจารณาเฉย ๆ นะครับ ไม่ใช่ตอบคำถามข้างต้นนั้นแต่อย่างใด)... คนตาบอดถือตะเกียง หรือโคมไฟ คนตาดีย่อมมองเห็นหนทางได้... สัตว์เดรัจฉาน (ส่วนใหญ่) ไม่เคยเห็นค่าหรือประโยชน์ของเพชรนิลจินดา และทรัพย์สมบัติต่าง ๆ แต่พวกมนุษย์ฆ่ากันตายเพราะแย่งเพชรนิล จินดา และทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ฯลฯ (บุคคลที่บรรลุมรรค-ผลต่าง ๆ บางท่านก็ไม่ได้แตกฉาน (ปฏิสัมภิทา) ท่านไม่มามัวเถียงอะไรกับปุถุชนให้มากความหรอกครับ... พอแค่นี้นะครับ ไม่อยากอธิบายไปมากกว่านี้ - ผมยังเป็นปุถุชนนะ เดี๋ยวมีคนเข้าใจผิด)...[/QUOTE]




    ........
    คุณโพเด็ด.....ท่านพระอาจารย์สมภพ กับคาราวานธรรม ตอนนี้ไปถึงไหนแล้วครับ
    ผมแวะไปที่วัดบ้านฝาง...ไม่ค่อยได้กราบท่านเลยครับ

    ขอรับทราบข่าวสารข้อมูล..ปัจจุบันด้วยครับ
     
  5. phodej

    phodej เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +300
    คุณโพเด็ด.....ท่านพระอาจารย์สมภพ กับคาราวานธรรม ตอนนี้ไปถึงไหนแล้วครับ
    ผมแวะไปที่วัดบ้านฝาง...ไม่ค่อยได้กราบท่านเลยครับ

    ขอรับทราบข่าวสารข้อมูล..ปัจจุบันด้วยครับ[/QUOTE]

    ***************

    ติดตามข่าว update ได้ที่ Facebook : ปัจฉา สมณะ ของพระอาจารย์สมภพ โชติปัญโญ และ อุทยานธรรมดงยาง จังหวัดศรีสะเกษ จะสะดวกกว่าครับ...

    แต่ถ้าอยากไปกราบท่านจริง ๆ เทศกาลวันวิสาขะบูชาที่จะถึงนี้ (20 พฤษภาคม) มีจัดปฏิบัติธรรมนุ่งขาว ห่มขาว หลายวันครับ ถ้าไปร่วมงานได้เจอท่านทุกวัน เพียงแต่อาจจะไม่สะดวกหลายอย่างเพราะคนเยอะครับ...
     
  6. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014








    ขอเสริมตรงนี้นิดนึงว่า

    พระโปฏิละเถระ เป็น พระคัมภีร์เปล่า
    ซึ่งคำว่า พระคัมภีร์ ก็แสดงว่า ต้องยิ่งใหญ่มาก
    ชำนาญการมาก รอบรู้มาก
    เหมือน มหาเปรียญเก้าประโยค
    แต่ยังยิ่งใหญ่กว่านั้น อีกพันเท่า
    ซึ่งจะมีองค์เดียว ที่ทำอย่างนั้นได้
    จะเหมือนกันการเป็น ต้นบัญญัติ
    ที่คนที่สอง จะทำตามไม่ได้
    ท่านทำของท่านได้คนเดียว
    เพราะท่านมี พระพุทธเจ้า อยู่ด้วย
    พอท่านสอนลูกศิษย์ ติดที่ตรงไหน
    ท่านก็ถาม พระพุทธเจ้า
    แล้วกล่าวสอน ตามคำของพระพุทธองค์
    ซื่งต่อมา เรียกวิธีนี้ว่า
    อาศัยกำลังของพระพุทธองค์ นั่นเอง

    วิธีนี้ จะมีพระอานนท์ อีกองค์ที่ีคล้ายๆกัน
    ไม่ได้บรรลุอรหันต์ แต่สอนให้คนบรรลุได้
    เพราะว่าท่านสามารถ จำกิริยาท่าทาง
    น้ำเสียง วรรคตอน
    จนสามารถ แสดงธรรมแก่บุคคลทั่วไป
    ได้เทียบเท่าพระพทธองค์
    แต่ท่านก็ไม่ได้บรรลุธรรม
    เพราะตัวท่าน ไม่ได้ ตรึกตรองธรรม
    หรือ วิเคราะห์ หรือ สังเคราะห์ธรรม
    หรือ ใคร่ครวญอย่างละเอียด
    อีกทั้งยังมีหน้าที่การงานมากมาย
    ทำให้ไม่มีเวลา ตรึกตรองในธรรม
    จนกระทั่ง พระพุทธเจ้า ไม่อยู่แล้ว
    ท่านจึงเวลาของตัวเอง
    ท่านจึงลอง วิเคราะห์ธรรมดู
    เพียงแค่หัวถึงหมอน ท่านก็บรรลุธรรมแล้ว

    สรุปก็คือ ใครจะเป็นใบลานเปล่าได้
    คนนั้นต้องเต็มแล้ว
    คือ อยู่ในโครตภูแล้ว
    เห็นทางสว่างมาด้วยตัวเองแล้ว
    สามารถชี้ทางสว่างที่ตนเห็นนั้น
    ให้ผู้อื่นดูได้ แม้คนอาจจะไม่เชื่อ
    ท่านก็จะไปถามพระพุทธเจ้า
    แล้วบอกว่า เรากล่าวตามพระพุทธองค์
    เชื่อหรือไม่ ก็แล้วแต่วาสนาของคนนั้น



     
  7. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
    น่าเสียดาย
    พระพุทธองค์ ไม่อยู่แล้ว
    คนที่จะไปถาม ก็มีไม่มาก
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    ที่ไปถามท่านเป็นประจำ ก็ไม่อยู่แล้ว
    ก็รอแต่ ลูกศิษย์ของท่านเท่านั้น
    ที่ท่านบอกไว้ แต่ปัญหาก็คือ
    ใคร คือ ศิษย์เหล่านั้น
    ที่ท่านกล่าวถึง
    หากเวลานั้นมาถึง
    ก็คงถึงเวลา ชำระพระไตร แล้ว
     
  8. นิพพิชฌน์55

    นิพพิชฌน์55 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2016
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +31
    ขอบคุณมากครับ คุณ nilakarn ที่อธิบายให้ฟัง พระอานนท์เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจเอาเหลือเกิน เมื่อก่อนผมก็แปลกใจอยู่เพราะท่านอยู่กับพระพุทธเจ้าแท้ ๆ แต่ใช้เวลานานเหลือเกิน อีกอย่างผมไม่ค่อยได้อ่านพระสูตรมากนักจึงไม่รู้ว่า พระอานนท์ท่านสอนใครบรรลุธรรมบ้าง พอจะจำได้มั้ยครับ (อันนี้ไม่รู้จริง ๆ นะครับ ไม่รู้เลยว่ามากหรือน้อย เพราะเห็นแต่คุณบอกไว้ข้างบนเท่านั้นเอง แต่เท่าที่ผมเคยฟังมาก็รู้เพียงคนเดียวแต่ไม่รู้ชื่อครับผม)
     
  9. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014



    ถ้าตัดสินตามหลัก พระไตรปิฏก
    ก็จะไม่พบอะไรเลย
    แต่ถ้าตัดสินด้วยอภิญญา
    ก็จะค้นพบเอง

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 เมษายน 2016
  10. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ฝากไว้อีกนิดหนึ่ง นะครับ ว่า
    มีหลักในสังเกต พระอริยะ อีกอย่างนึง ก็คือ
    ท่านจะแยก สติปัฏฐาน คือ
    กาย เวทนา จิต ธรรม
    เป็นคนละส่วนกันชัดเจน
    แต่เมื่อถึงพระอรหันต์
    ท่านจะไม่เรียกว่า
    เป็นคนละส่วนกัน อีก
    เพราะท่านเข้าใจดีแล้วว่า
    ทุกสรรพสิ่ง คือ สิ่งเดียวกัน
    เป็นแค่ธาตุ เป็นแค่ธรรม หรือ ธรรมดา
     
  11. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014










    บุคคลเข้าถึงความเป็น ธรรมดาของโลก ได้มากเท่าไหร่
    บุคคลนั้น ใกล้บรรลุมรรคผลแล้ว
    ความรอบรู้ เป็นวิสัยของ พุทธภูมิ เท่านั้น
    ผู้ที่ลาพุทธภูมิ คือ ผู้ที่เต็มแล้ว
    พร้อมแล้ว ดังนั้น เมื่อบรรลุธรรม
    ย่อมมีความรอบรู้ ใกล้เคียง พระพุทธเจ้า

    ผู้ใดชอบศึกษาพระธรรม เมื่อบรรลุธรรม ก็ย่อมแตกฉานในพระธรรม ด้วย
    ผู้ใดขี้เกียจศึกษาพระธรรม เมื่อบรรลุธรรม ก็อย่าหวังว่า จะแตกฉานในธรรมได้
    ยกเว้น พวกพุทธภูมิ
     
  12. นิพพิชฌน์55

    นิพพิชฌน์55 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2016
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +31
    คงแตกฉานต่างกันดังคุณว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...